ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Who? เมื่อผมรักลูกชายของแม่ (โน่ริท)

    ลำดับตอนที่ #3 : คอนโด

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ค. 57










    ผมอาสามาส่งพี่โตโน่ที่บ้าน เพราะคนขับรถที่บ้านเค้าโทรมาบอกว่ารถเสีย จะปล่อยให้กลับแท็กซี่ก็ยังไงอยู่ตอนแรกพี่เค้าก็ไม่ยอมจะให้ไปส่งบอกว่าบ้านเราอยู่คนละทาง ซึ่งผมสงสัยมากตั้งแต่มื้อกลางวันแล้ว พี่เค้ารู้ได้ยังไงกันว่าเราชอบไม่ชอบอะไร แล้วรู้ได้ยังไงว่าบ้านเราอยู่คนละทาง พอผมถามพี่เค้าก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอก ผู้ชายคนนี้ชักจะน่าสงสัยแล้วนะเนี่ย


    ช่วงเวลาหลังเลิกงาน บนท้องถนนเนืองแน่นไปด้วยรถรามากมาย ติดกันยาวเยียด แทบจะไม่ขยับด้วยซ้ำ ตลอดทางพี่โตโน่ ก็ชวนผลคุยสัพเพเหระไปเรื่อยๆ กว่าจะถึงบ้านพี่โตโน่ ท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีเสียแล้ว จริงอย่างที่พี่โตโน่บอกบ้านเราอยู่คนละทาง แถมไกล แล้วรถก็ติดอีกต่างหาก กว่าจะมาถึงก็มืดค่ำเสียแล้ว

    "พี่โตโน่ ทำไมบ้านพี่กับบริษัทไกลกันมากเลยหละคับ" เรืองริทถามไปด้วยความอยากรู้

    "ก็พี่บอกแลัวไง ว่าไม่ต้องมาส่งก็ไม่เชื่อ ถามอย่างนี้จะทวงค่าน้ำมันหรอห๊ะตัวเล็ก" ภาคินแกล้งถามร่างเล็ก

    "ป่ะ ป่าวซะหน่อย"

    "จริงๆแล้วพี่ก็อยากจะหาซื้อคอนโดใกล้ๆกับบริษัทนะ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้เลย ก็กะว่าจะหาเวลาว่างๆไปหาดูอยู่เหมือนกัน" ร่างสูงกล่าว

    "ริทมีรุ่นพี่คนหนึ่ง เค้ามีคอนโดอยู่แถวๆ บริษัทของพี่โตโน่อ่ะ ถ้าพี่สนใจลองไปดูก่อนก็ได้นะคับ" ร่างเล็กแนะนำกับภาคิน

    สุกฤษเจ้าของคอนโดหรู เขาเป็นรุ่นพี่ที่สนิทกับเรืองริทตั้งแต่เด็ก บ้านของสุกฤษทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เปิดขายและให้เช่าอาคารชุดหรือที่เรียกว่าคอนโดมิเนียม เป็นคอนโดหรูระดับ 6 ดาว ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกคนมีสตางค์ที่พักอาศัยอยู่ หากเจ้านายใจดีของเค้าสนใจเขาก็พอจะแนะนำให้ได้


    "อืมมมม ดีเหมือนกันนะ งั้นวันเสาร์นี้ริทว่างรึเปล่า เราไปดูด้วยกันนะ” ร่างสูงเอ่ยชวน

     

    “วันเสาร์นี้หรอคับ ริทน่าจะไม่ติดอะไรนะคับ งั้นวันเสาร์นี้เดี๋ยวริทพาพี่โตโน่ไปดูแล้วกันนะ” ร่างเล็กตอบตกลงเจ้านายของตน

    .

    .

    .

    .

    ผับ xxxxx

    อาร์ มึงอยู่ไหนแล้วว่ะ กูมารอมึงนานแล้วนะเว้ย” ภาคินโทรหาเพื่อนสนิทที่นัดกันไว้แต่นี่เลยเวลานัดมาครึ่งชั่วโมงแล้วเพื่อนชายตัวดีของเขายังไม่มีวี่แววว่าจะโผล่มา

     

    “ใจเย็นดิว่ะไอ้เสือ กูก็รีบที่สุดแล้ว มึงมีธุระอะไรด่วนนักหนาว่ะ กูอยู่ร้านหน้ากำลังหาที่จดรถอยู่ แค่นี้แหละเดี๋ยวกูเข้าไปหา” อาณัฐพลตอบเพื่อนแล้วรีบตามเข้ามาในร้าน

     

    “ทำไมมาช้า มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบรอใครนานๆ” ภาคินถามอย่างหงุดหงิด เพราะเขารอเพื่อนรักนานพอสมควร

     

    “ไอ้โน่ กุก็มีเด็กกูที่จะต้องดูแลแทคแคร์นะเว้ย น้องเค้าต้องการคนดูแลเอาใจใส่” เพื่อนคนสนิทของร่างสูงอธิบาย

    “เด็กมึงเป็นทารกหรอ ถึงต้องดูแลตลอดเวลา”

     

    “พอเลย!!! มึงมีอะไรว่ามา ไม่ต้องมาบ่นกูเสียเวลา รีบมากหนิ สำคัญมากไม่ใช่ธุระอ่ะ” อาณัฐพลประชดเพื่อนรักของตน

     

    “มึงจำเรื่องลูกเลี้ยงของแม่กู ที่กูเคยเล่าให้ฟังได้ไหม” ภาคินเริ่มเปิดประเด็น

    “เอออ จำได้ แล้วยังไงว่ะ” อาร์ถามอย่างสงสัย

     

    “ตอนนี้กูเจอเค้าแล้วเว้ย เค้ามาเป็นเด็กฝึกงานที่บริษัทของกูเอง”

     

    “จริงดิ!!! โลกกลมไปป่าวว่ะมึง ไม่น่าเชื่อ” ชายหนุ่มถามอย่างไม่เชื่อ

     

    “กูก็ไม่คิดว่าเหยื่อจะมาหากูถึงที่ มันคงถูกกำหนดไว้แล้วหละ” ร่างสูงบอกกับอาณัฐพล

     

    “แล้วมึงจะทำยังไง มึงจะทำอะไรเค้าว่ะ จะฆ่าเค้ารึเปล่า” ชายหนุ่มรีบถามด้วยความอยากรู้

     

    “กูไม่ทำอะไรโง่ๆอย่างนั้นหรอก กูจะทำให้ไอ้เด็กนั้นรักกูจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยหละ กูอยากรู้ว่าถ้าแม่เลี้ยงของมันรู้ว่าลูกผัวใหม่กับลูกผัวเก่ารักกันมันจะเป็นยัง คงจะสะใจน่าดู” สายตาคู่คมของภาคินช่างดูน่ากลัว ผิดกับตอนที่เขาอยู่กับร่างบางแสร้งแสดงละครเป็นเจ้านายใจดีตบตาผู้คนอย่างแนบเนียน

     

    “เอาจริงหรอว่ะโตโน่ มึงแน่ใจนะเว้ย” เพื่อนชายคนสนิทถามอย่างชั่งใจ เขารู้ดีว่าจริงๆแล้วภาคินไม่ได้โกธรหรือเกลียดพิกุลผู้เป็นแม่เลย เพียงแต่เขาขาดความอบอุ่น อยากเรียกร้องความสนใจจากผู้เป็นแม่ก็แค่นั้น

    “จริงดิว่ะ เพื่อความสะใจ หึหึ” ร่างสูงบอกพลางหัวเราะในลำคอเบาๆ

     

    “เออออ แล้วแต่มึงเถอะ กูก็ขอภาวะนาให้มึงไม่แพ้ใจตัวเองก็แล้วกัน” สองหนุ่มนั่งปรึกษากันสักพักก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ถึงแม้ว่าอาณัฐพลจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับสิ่งที่ภาคินผู้เป็นเพื่อนกำลังจะทำ แต่หากว่าภาคินต้องการความช่วยเหลือเขาก็พร้อมที่จะช่วยเพื่อนของเขาเสมอ

     

     

     

     

     

    วันเสาร์ ....

    -                   คงเป็นคุณเท่านั้นที่ทำให้ใจผมหยุดเหงา และคงเป็นคุณเท่านั้นที่ทำให้ใจผมคลายเศร้า –

    โทรศัพท์ของเรืองริทดังขึ้นในเวลาเที่ยงๆ วันนี้ร่างเล็กมีนัดกับเจ้าของสายที่โทรเข้ามาเพื่อที่จะพาเขาไปดูคอนโดของเพื่อนสนิทรุ่นพี่ที่เขารู้จัก

    “สวัสดีคับเจ้านาย ....”

    (ริท แต่งตัวเสร็จรึยังคับ พอดีพี่ออกมาทำธุระแถวๆบ้านริท พี่เลยว่าจะแวะไปรับริทซะเลย ริทจะได้ไม่ต้องขับรถมาเอง)

    “พี่โตโน่ไม่ต้องมารับริทหรอกคับ เดี๋ยวริทไปเองดีกว่า ริทเกรงใจ”

    (แต่พี่ถึงหน้าปากซอยบ้านริทแล้ว อีกห้านาที ออกมารอที่หน้าบ้านนะคับ แล้วเจอกัน) ยังไม่ทันที่ร่างเล็กจะพูดอะไรปลายสายก็ตัดไปเสียแล้ว เรืองริทแต่งตัวด้วยชุดสบายๆกางเกงยีนเข้ารูปสีดำกับเสื้อเชิตลายขวางสีชมพูที่พับแขนขึ้นถึงศอก ร่างเล็กตรวจเช็คความเรียบร้อยของตัวเอง หยิบกระเป๋าแล้วเตรียมตัวไปรอ คนที่บอกว่าจะมารอรับที่หน้าบ้าน

     

    รถเบนซ์สีดำสนิท จอดเทียบหน้าบ้านศิริพาณิชย์ ร่างสูงซึ่งแต่ตัวแบบชิลๆ ไม่เหลือมาดนักธุรกิจหนุ่มเหลืออยู่เลย ภาคินสวมกางเกงยีนสีซีดกับเสื้อยืดสีขาว ที่หน้าอกปักด้วยตัวอักษร pk ถึงแม้จะเป็นเสื้อยืดกางเกงธรรมดาแต่ชายหนุ่มกับดูดีไม่แพ้ตอนใส่สูทผูกไทด์เลย

     

    “พี่โตโน่รอริทนานไหมคับ” เรืองริทยิ้มแห้งๆให้กับเจ้านายของตน

     

    “ไม่นานหรอกคับ แต่สำหรับตัวเล็ก ให้รอนานแค่ไหนพี่ก็รอได้” ภาคินยิ้มให้กับคนตัวเล็กพร้อมกับมองตาไม่กระพริบ

    “บ้า!!! ไปกับเถอะคับ ริทนัดทางนั้นไว้ บ่ายสามโมง” ร่างเล็กมองค้อนเจ้านายด้วยความเขินอาย แล้วรีบบอกให้คนรับรถรีบไปให้ทันเวลานัด

     

    บ้านของริทเองก็อยู่ไกลจาบริษัทเช่นกัน เขาเคยขอพ่อกับน้าพิกุลไปอยู่คอนโดกับเพื่อนที่มหาลัยแต่ทุกคนไม่ยอม ร่างเล็กก็ไม่ได้ขอร้องเรื่องนี้อีกเพราะถามทุกคนได้ออกปากปฎิเสธแล้วจะขอยังไงก็คงยาก ใช้เวลาชั่วโมงเศษกว่าจะมาถึงคอนโดของสุกฤษทั้งระยะทางอาจจะไม่ไกลมาก แต่ด้วยจำนวนรถบนท้องถนน ทำให้การเดินทางต้องใช้เวลานานกว่าปกติ

     

    “นี่แหละคับพี่โตโน่ คอนโดที่ริทบอก” ร่างเล็กรีบบอกเมื่อรถยนต์คันหรูจอดสนิท

     

    “สวยมากนะริท พี่ชอบที่นี่จังเลย” ภาคินรีบตอบ

     

    “อย่าพึ่งบอกว่าชอบสิคับ เราเข้าไปดูข้างในกันก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีก็ได้คับ”

    “ก็ได้ๆ เราเข้าไปดูกันเถอะ” ไม่ว่าเปล่าภาคินยังแอบเนียนจูงมือร่างเล็กไปด้วย

     

    “สวัดดีค่ะ สุกฤษคอนโดมิเนียมยินดีต้อนรับค่ะ” พนักงานตอนรับภายในกล่าวต้อนรับลูกค้าทั้งสองคน

     

    “คือที่นัดกับพี่บี้ เอ้ยย!! คุณสุกฤษไว้นะคับ” เรืองริทรีบแจ้งกับพนังงานทันที

     

    “คุณริทกับคุณโตโน่ใช่ไหมค่ะ เชิญทางนี้เลยค่ะ ทางเราได้เตรียมห้องไว้ให้คุณชมเรียบร้อยแล้วค่ะ” พนังงานคนเดิมบอกและเดินนำทั้งสองคนไปยังห้องดังกล่าว

     

    ห้องที่ทางคอนโดจัดไว้ให้ภาคินได้ชมอยู่ที่ชั้นหก เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งภายในคอนโดแห่งนี้มีห้องพักสามขนาดให้ลูกค้าได้เลือก คือห้องขนาดเล็ก 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น พักได้สองคน ห้องขนาดกลาง ไว้พักสำหรับครบครัวเล็กๆ พ่อแม่ลูก และขนาดใหญ่ซึ่งมีฟรอนิเจอร์ครบวงจร มีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ถึงแม่ว่าคอนโดแห่งนี้จะจะมีห้องให้เลือกหลายรูปแบบแต่ด้วยความที่ได้รับมาตราฐาน 6 ดาว ต้องแพงแล้วก็หรูมากเป็นธรรมดา

    “ห้องสวยดีนะตัวเล็ก ชอบไหม? ” ร่างสูงถามคนที่มาด้วยกัน

     

    “อ้าว แล้วพี่มาถามริททำไมหละ ริทไม่ได้เป็นคนอยู่ด้วยสักหน่อยนะ” ร่างเล็กตอบผู้เป็นเจ้านายยิ้มๆ

    “แล้วอยากมาอยู่ด้วยรึเปล่าหละ หึ! ว่าไง” ร่างสูงว่าพร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์

     

    ไม่ชอบสายตาแบบนี้เลยให้ตายสิ “บ้าหรอพี่โน่ ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อยเลยนะ” เรืองริทรีบค้อน

     

    “พี่จริงจังนะริท”

     

    >///////< “แล้วตกลงว่าไงคับพี่โตโน่ ชอบมั๊ย?” เรืองริทรีบเปลี่ยนเรื่อง

     

    “ชอบสิคับ ชอบมาก ชอบทั้งคน ชอบทั้งห้อง ตกลงผมซื้อห้องนี้นะคับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมให้เลขาผมมาจัดให้เรียบร้อย” ร่างสูงบอกคนตัวเล็กและหัวไปพูดกับพนักงานที่พามาชมห้อง พนักงานให้ภาคินเซ็นเอกสารการซื้อขายก่อนที่พนักงานจะขอตัวออกมา ทำให้ภายในห้องเหลือแค่ทั้งสองคน

     

    “บ้า!!!! พี่โตโน่อ่ะ” ร่างเล็กเกิดอาการหน้าแดงทั้งเขินอายเจ้านายของตัวเอง

     

    “ตัวเล็กกก เขินอะไรพี่หรอ พี่พูดจริงๆนะ พี่อยากให้ริทมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน”

    “....”

    “ห้องนี้ออกจะกว้าง พี่อยู่คนเดียวเหงาแย่เลย ที่นี่มีสองห้องนอนเราแบ่งกันนอนคนละห้องก็ได้นะ”

    “เอออ ... คือ”

    “ริทไม่ต้องตอบตกลงพี่ตอนนี้ก็ได้ ริทลองเก็บไปคิดดู พี่ว่าบ้านริทกับที่ทำงานไกลกันมากนะ กว่าจะถึงก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง แต่ถ้าริทมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องเหนื่อยตื่นเช้า ไม่ต้องไปแข่งกับรถติด ริทลองกลับไปคิดดูนะ” ร่างสูงร่ายยาวเพื่อเกลี้ยกล่อมอีกคน สายตาคู่คมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย ทั้งคู่สบตากันเนินนาน ร่างสูงค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าหาร่างเล็กอย่างช้า ใบหน้าทั้งสองห่างกันเพียงลมหายใจกลั้น แต่ร่างเล็กที่เรียกสติตัวเองได้เรียบผลักออกร่างสูงนั้น

     

    “พะ พี่โน่ ริทว่าเรากลับกันเถอะคับ” ร่างเล็กที่เรียกสติตัวเองให้หลุดจากภวังค์รีบอกกับภาคิน

     

    “ไปคับ แต่พี่ไม่ลืมนะที่พี่พูดเมื่อกี้ พี่จะรอคำตอบนะ”

     

    “พี่โตโน่ไม่ต้องรอหรอกคับ ริทว่ามันคงไม่เหมาะ เราไม่ได้เป็นอะไรกับสักหน่อย ” เรืองริทรีบอธิบาย

    “งั้นก็เป็นเลยสิ!” ร่างสูงยิ้มเจ้าเล่ห์

    “เพ้อน๊าพี่โตโน่ อย่าชอบพูดเล่นได้ไหม หล่อๆอย่างท่านประธาน สาวๆสวยๆ ในสต็อกคงมีให้เลือกเยอะ 555 ” ร่างเล็กหัวเราะชอบใจ

     

    “พี่ไม่เพ้อนะริท พี่ไม่มีใคร และพี่ก็จริงจัง” ภาคินบอกด้วยสายตาจิงจัง จนเรืองริทไม่กล้าสบตา

     

    “ริทหิวแล้ว ไปทานข้าวกันดีกว่าเนอะ” เรืองริทเดินนำออกมาจากห้องทันที

    เปลี่ยนเรื่องเก่งจังนะตัวแสบ อย่าทำตัวน่ารักได้ไหมเนี่ยภาคินบ่นกับตัวเอง

     

     

    พี่โตโน่ พี่คิดอะไรกับริทรึเปล่าเนี่ย จะจีบก็จีบดิ หยอดอยู่ได้ ก๊ากกกก

     

    _________________________________________________________________

     

    แก้ขัดไปก่อนนะคะหายไปหายวัน เรื่องนี้เหมือนจะดราม่า อาจจะม่าหรืออาจไม่ม่า 5555 แต่เราไม่อยากให้ดราม่าหรอก ชีวิตจริงก็ยิ่งกว่านิยายอยู่แล้วอย่าให้นิยายเหมือนชีวิตจริงเลยเนอะ อาจจะเศร้าบ้างปะปาย แต่พี่โน่ไม่ร้ายหรอกจริงๆ และบอกเลยริทเองก็ใช่คนที่จะรักใครง่ายๆ ลุ้นกันต่อไป อย่าว่าแต่คนอ่านเลยคนแต่งก็ลุ้น ก๊ากกกก ช่วงนี้มีเรื่องวุ่นวายอ่านแล้วงงๆ ก็เก็บไว้ในใจ ตอนหน้าว่ากันใหม่ โอเชนะคะ J

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×