ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Who? เมื่อผมรักลูกชายของแม่ (โน่ริท)

    ลำดับตอนที่ #2 : เมื่อสองเราได้พบกัน ....

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 57


     

     

    ตอน  เมื่อสองเราได้พบกัน




    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
    ร่างบางตื่นมาด้วยความง่วง ปกติเขาไม่ได้ตื่นสายอะไรมากมายแต่วันนี้เขาต้องไปรายงานฝึกงานวันแรก ต้องไปเช้าเป็นพิเศษเพราะต้องเผื่อเวลารถติดด้วย

    ฮาววว ฮ่ะ 6:08 สายแล้ว สายแล้ว สายแล้ว ริทเอ๊ยยย วันนี้ขอให้รถไม่ติดทีเถอะ เพี้ยงงง!!ร่างบางต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะได้รีบไปให้ทันเวลานัด 8:30 น. แน่นอนว่าข้าวเช้าคงเป็นแค่ขนนปังกับนมแค่นั้น จะให้นั่งทานข้าวกันที่บ้านคงไม่ทันแน่ๆ

    ณ คฤหาสน์คำวิลัยศักดิ์

    คุณชายค่ะ อาหารเช้าพร้อมแล้วค่ะร่างสูงเดินนำคำบอกกล่าวของสาวใช้เพื่อไปยังโต๊ะอาหาร
    ภาคินนั่งใจลอยไปไกลไม่ได้สนใจอาหารบนโต๊ะเลยแม้แต่น้อย ในใจร่างสูงคิดแต่เพียงว่าวันนี้เขาจะได้เจอกับคนที่เขาอยากเจอมาตลอดตั้งแต่วันที่แม่ทิ้งเขาไป เขาบอกกับตัวเองไว้ว่าจะไม่มีวันปล่อยให้ครอบครัวนั้นมีความสุข พวกเค้าจะต้องทุกข์ทรมานมากกว่าที่เค้าทุกข์ ทรมานมากกว่าที่เขาทรมาน และครอบครัวมันจะต้องไม่มีความสุข

    คุณชายค่ะ คุณชายลออผู้เป็นหัวหน้าแม่บ้านเรียกสติของบุคคลตรงหน้า ที่ตอนนี้ใจลอยไปไกล

    คะ ค่ะนม เออสายมากแล้วงั้นโน่ไปก่อนนะคะ วันนี้มีเรื่องสนุกๆให้ทำเยอะเลย” เอ่ยเพียงเท่านั้นร่างสูงก็ตรงไปยังรถยนต์คันหรูของตนทันที ทิ้งไว้เพียงความสงสัยให้กับหญิงสูงวัยกับคำพูดของเจ้าของประโยคเมื่อสักครู่

    เรื่องสนุกๆ อะไรของเค้านะลออบ่นพรึมพรำกับตัวเอง

    เรืองริทจอดรถมาสด้าสีขาวคู่ใจของเขาไว้ที่ลานจอดรถของบริษัท เข้ามาถึงในเวลา 8:06 น. มาก่อนเวลานัดหลายนาทีจึงมีเวลาที่จะจัดแจงความเรียบร้อยของตัวเองในรถเพื่อสำรวจตัวเองอีกครั้งก่อนที่จะก้าวเข้าไปสู่สถานที่ฝึกงานของเค้า

    สวัสดีรับ ผมเป็นนักศึกษาฝึกงานที่มารายงานตัววันนี้ครับ นี่ครับใบส่งตัว” ร่างเล็กเดินยิ้มแย้มเขามาภายในบริษัท พร้อมกับมาติดต่อยื่นเอกสารที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ‘สมกับเป็นบริษัทนำเข้าอันดับหนึ่งว่ะ ใหญ่โตมาก เจ้าของเค้าต้องรวยมากแน่ๆ’

    สวัสดีค่ะ อ๋อออน้องที่จะมาฝึกงานใช่ไหมค่ะ เดี๋ยวน้องขึ้นไปที่ชั้นหกนะจร๊ แล้วถามพี่ รปภ. ที่เค้าอยู่หน้าลิฟ เดี๋ยวเค้าจะบอกทางไปห้องทำงานท่านประธาน แล้วน้องเอาซองนี้ยื่นให้กับพี่เรขาสวยๆที่อยู่หน้าห้องนะจร๊” คุณพี่แกตอบมาซะยาว คิดว่าผมจะจำได้ไหมเนี่ย สมกับเป็นประชาสัมพันธ์จริงๆ




    ติ๊งง
    สวัสดีครับ คุณ รปภ. คือพอดีว่าริทจะไปเอ่อ ห้องท่านประธานบริษัทอ่ะครับ ไม่ทราบว่าไปทางไหนหลังจากที่ถามทางจากคุณลุงรปภ. ใจดี เรืองริทก็มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องผู้บริหารของที่นี่ เรขาหน้าห้องสวยซะด้วย ว่าแต่พี่แกหน้าคุ้นๆนะครับ เหมือนผมเคยเห็นที่ไหน

    อ้าวว พี่ฟ้า พี่ฟ้าทำงานที่นี่หรอครับ ริทไม่ยักรู้เลยอ่ะเรืองริททักทายพี่สาวของเพื่อนสนิทเขา ริทเจอกับอิงฟ้าบ่อย ๆ เวลาที่เขาไปติวหนังสือที่บ้านของนภัทร อิงฟ้าเป็นพี่สาวของนภัทรเพื่อนสนิทที่มหาลัย แต่นภัทรไม่เห็นบอกเลยว่าพี่ของเขาทำงานที่นี่

    อ้าวน้องริทเองหรอจร๊ที่จะมาฝึกงานที่นีจังเลยจร๊ ดีใจจังเลย มาๆบอสรอสัมภาษณ์เราอยู่ ” อิงฟ้ายิ้มทักทายให้ผู้มาเยือนใหม่พร้อมกับเดินนำเข้าไปในห้องของผู้บริหารหนุ่ม
    สวัสดีค่ะบอส น้องนักศึกษาที่จะมาฝึกงานที่นี่มาแล้วค่ะ” หลังจากเดินนำเรืองริทเขามาภายในห้อง เรขาสาวสวยก็ออกมาทำงานตามหน้าที่ของตน ทิ้งให้สองคนอยู่ภายในห้องเพียงลำพัง หารู้ไม่ว่าลับหลังหญิงสาวที่เปิดประตูออกไป ซาตานที่สิงอยู่ในมาดนักธุรกิจใจดีกำลังยิ้มย่องในใจหาทางแกล้งร่างเล็กที่พึ่งย่างกรายเข้ามา



    อืมม นั่งลงสิ!! ชื่ออะไรหละเราว่ามาสิเขาก็ถามไปอย่างนั้น เขารู้จักคนตรงหน้าดีกว่าใคร รู้ทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ

    คับ สวัสดีคับ ผมชื่อเรืองริท ศิริพาณิชย์ ชื่อเล่นชื่อริทคับ อายุ 23 ปี เป็นลูกชายคนเดียว ...ร่างเล็กสาธยายสรรพคุณยาวเยียด ร่างสูงนึกแปลกใจในความร่าเริงสดใสของเด็กคนนี้ เขาดูซื่อๆไม่มีพิษสงอะไร ผิดกับที่เขาคิดไว้ว่าเด็กน้องน่าจะถูกเลี้ยงดูมาอย่างเอาแต่ใจ เพราะมีแต่คนคอยตามใจเขา ร่างสูงมองร่างเล็กพูดเป็นหมีกินผึ้งก็อดยิ้มกับความโก๊ะของไอ้เจ้าตัวเล็กนี้ไม่ได้



    พอ พอ พอ ตัวเล็ก เอาละพอแล้ว ถ้าวันหลังอยากเล่าเรื่องเล่าประวัติเราค่อยนัดกันไปเล่าวันหลังเนอะ วันนี้เรามาเข้าเรื่องงานของเราดีกว่า” หลังจากที่ฟังมานานร่างสูงต้องรีบห้ามก่อนที่จะยาวไปมากกว่านี้

    อ๋ออ คะ ครับ งั้นท่านประธานจะให้ผมเริ่มศึกษาจากตรงไหนบอกผมได้เลยครับ” ทั้งพูดทั้งยิ้มจะน่ารักไปไหนนั้น (เฮ้อโน่  ไม่นะไม่ นี่พึ่งตอนแรกอย่าพึ่งใจอ่อนดิ)

    อันดับแรกนะ ไม่ต้องเรียกว่าท่านประธานหรอก ฟังแล้วฉันดูแก่ยังไม่รู้ งั้นนายเรียกฉันว่าพี่แล้วกัน ดูท่าเราคงห่างกันไม่กี่ปีหรอกจริงไหม” ร่างสูงพูดพร้อมกับยิ้มจริงใจส่งให้ร่างเล็ก

    เอ่อ จะดีหรอครับ คือว่าผมเป็นแค่เด็กฝึกงานนะครับ จะให้เรียกท่านประธานว่าพี่คนอื่นเค้าจะว่าเอาได้นะครับ” เสียงเล็กพูดอย่างเกรงใจบุคคลตรงหน้า

    ไม่เป็นไรหรอกน่า พี่ไม่ถือหรอกก็เราไม่ใช่พนักงานที่นี่หนิ ไม่ต้องเคร่งคัดเท่าพนักงานหรอก อีกอย่างเรียกพี่ดีแล้วค่อยดูไม่ห่างเหิน ฮ่าๆ ” ไม่ใช่แค่พูดแต่ร่างสูงกลับส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาด้วย

    งั้นก็ได้คับพี่ .. เออ

    โตโน่ เรียนพี่ว่าพี่โตโน่นะริท

    ครับพี่โตโน่ร่างบางเรียกสรรพนามคนตรงหน้าพลางรู้สึกเขินๆกับคำพูดของตัวเอง ‘เป็นอะไรไปนะริท’ >////<

    นั้นโต๊ะทำงานของริทนะ ตลอดการฝึกงานที่นี่พี่จะเป็นคนดูแล สอนงานริทเอง มีอะไรสงสัยถามพี่ได้ตลอดเลยนะ” ผู้เป็นเจ้านายบอกกล่าวและสรุปทุกอย่างให้กับร่างเล็กฟังเรียบร้อยก็ปล่อยให้ตัวเล็กจัดแจงโต๊ะทำงานของตนก่อนเริ่มฝึกงานจริงจัง


    สายตาแบบนี้คืออะไรกัน เจ้านายเราทำไมใจดีขนาดนี้ เค้าใจดีอย่างนี้กับทุกคนสินะ เค้าคงไม่ได้ใจดีแค่กับเราหรอกเรืองริทบ่นกับตัวเองเพราะรู้สึกแปลกๆกับสายตาคู่นั้น ดวงตาคู่คมนั้น

    ​‘เรืองริท ฉันจะทำให้นายหลงรักฉันให้ได้ร่างสูงคิดในใจ เรื่องสนุกมันกำลังจะเริ่มต่างหากหละ เรามีเวลาทำความรู้จักกันอีกนานแน่ๆ

    หลังจากจัดแจงโต๊ะทำงานตัวเองเสร็จเรียบร้อย เรขาสาวสวยของประธานบริษัทก็หอบแฟ้มเอกสารเกี่ยวกับบริษัทมาให้ร่างเล็กได้ศึกษากับระบบต่างๆ ทั้งเรื่องการนำเข้า การตลาด เรืองริทก็นั่งอ่านอย่างตั้งใจ โดยไม่ได้เห็นสายคู่หนึ่งที่แอบมองเขาอยู่เรื่อยๆ จนเวลาล่วงเลยมาถึงเวลาพักเที่ยง

    บอสค่ะ บอสจะทานอาหารที่นี่เลยไหมค่ะ ฟ้าจะให้แม่บ้านจัดเตรียมไว้ให้

    ไม่เป็นไรนะ วันนี้ผมจะออกไปหาอะไรทานข้างนอกคุณมีอะไรก็ไปทำเถอะไป” ร่างสูงแจงให้เรขาของเขาทราบวันนี้เค้าตั้งใจจะพาเด็กฝึกงานไปเลี้ยงข้าวกลางวันสักหน่อย เป็นโอกาสดีของเขาที่ได้หลอกเยื่อให้ติดกับดัก หึหึ

    ริท กลางวันนี้ออกไปทานข้าวกับพี่นะ”  เสียงเจ้านายใจดีเอ่ยเรียกคนตัวเล็กที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้า ทำให้บุคคลที่ถูกเรียกต้องเงยหน้าขึ้นมารับสบตากับเจ้าของเสียงนั้น

    คือผม เอ้ยย ริทว่ามันคงไม่ดีมั่งคับท่าน เอ้ยย พี่โตโน่ร่างเล็กพูดกุกัก ไม่รู้เพราะว่ายังไม่ชินหรือว่าเขินเจ้านายของเขากันแน่

    อะไรคือไม่ดี ไปเถอะน่า เราจะได้ทำความรู้จักกัน เอ่อออ พี่หมายถึงเผื่อริทมีไรสงสัย หรือมีอะไรไม่เข้าใจจะถามพี่หนะ ป่ะไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกไปทานข้าวกันเถอะ” ไม่ใช่แค่พูดแต่ร่างสูงเดินมาหยุดตรงโต๊ะทำงานของร่างเล็ก พร้อมหยิบเอกสารในมือของร่างเล็กวางลงบนโต๊ะ แล้วถือโอกาสคว้าข้อมือเรียวสวยของร่างเล็กเดินออกมาจากห้องทำงานทันที ‘ผู้ชายอะไรตัวก็เล็ก หน้าก็หวาน แถมมือยังนุ่มอีก คิดอะไรอยู่ว่ะโตโน่


         รถเบนซ์สีดำสนิทเลี้ยวมาจอดในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เป็นร้านอาหารไทยเล็กๆไม่หรูหราอะไร แต่ตกแต่งอย่างสวยงาม ร่างสูงเดินนำคนตัวเล็กเข้ามาในร้านเค้าเลือกนั่งโต๊ะอยู่ฝั่งด้านนอกของร้าน เพื่อนั่งรับลม รับบรรยากาศ ซึ่งที่นี่ตกแต่งเหมือนเรานั่งทานข้าวอยู่ในสวน ภาคินจัดการสั่งอาหารเสร็จสัพ เค้ารู้ดีว่าเรืองริทชอบหรือไม่ชอบอะไร เรื่องแค่นี่คงไม่อยากเกินไปหากภาคินอยากทราบ

    เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันครับหลังจากสั่งอาหารเสร็จ ภาคินก็ยื่นมนูคืนพนักงาน แล้วแอบสบตาร่างเล็กที่นั่งนิ่งไม่พูดอะไร เพียงแต่ส่งยิ้มให้เท่านั้น รอประมาณยี่สิบนาทีอาหารก็มาเสิร์ฟ

    อ่ะ ทานเยอะๆนะตัวเล็ก ของโปรดเราทั้งนั้นเลยไม่ใช่หรอ” ภาคินจงใจพูดให้ร่างเล็กรู้สึกแปลกใจ ว่าเขารู้ได้ยังไงว่าเรืองริท ชอบหรือ ไม่ชอบอะไร

    พะ พี่โตโน่รู้ได้ยังไงว่าของโปรดริท ริทจำได้ว่าริทไม่เคยบอกนะ แล้ว เออเมื่อสักครู่พี่โตโน่เรียกริทว่าอะไรนะคับ” ร่างเล็กสบตาคนตัวโตกว่า เขาแปลกใจมากๆที่ภาคินทราบเรื่องของเขาทั้งที่ไม่เคยบอก ทั้งสรพพนามที่เขาเรียกเมื่อสักครู่ เขาจำได้ว่าเมื่อเช้าภาคินก็เรียกเขาอย่างนี้

    ความลับบบ ... แล้วเมื่อกี้พี่เรียกว่าตัวเล็ก ทำไมไม่ชอบหรอ งั้นพี่ไม่เรียกก็ได้นะ ขอโทษด้วยแล้วกันสิ้นประโยคภาคินก็ก้มหน้าทานอาหารในจานตรงหน้าทันที

    ไม่ใช่อย่างนั้นนะพี่โตโน่ คือว่าริทแค่แปลกใจที่พี่เรียกริทแบบนี้เฉยๆ เรียกได้คับริทไม่ได้ว่าอะไร” ร่างเล็กบอกเจ้านายใจดีของเขาอย่างยิ้มแย้ม เค้ารู้สึกดีด้วยซ้ำที่ภาคินเรียกเขาเช่นนั้น เขาดูเป็นผู้ชายอบอุ่นมากๆ ทำไมทั้งที่รูจักกันวันแรก เขาจึงรู้สึกดีกับผู้ชายตรงหน้าขนาดนี้นะ

    ตัวเล็กทานนี่หน่อยนะ ตัวเล็กๆแบบนี้กินผักเยอะๆจะได้โตไวๆ” 55555

    ไม่เอาอ่ะพี่โตโน่มันขม ริทไม่ชอบบเรืองริทพูดพลางทำหน้ายี๋ๆ ใสบุคคลต้องหน้า

    ลองดูหน่อยนะ นะ เชื่อพี่ไม่ข่มหรอกกภาคินปอนผักให้ร่างเล็กทาน แต่พอเรืองริทเคี้ยวยังไม่ทันจะได้กลืนก็ต้องคายทิ้งเพราะกินไม่ได้จริงๆ
    บรรยากาศการทานอาหารเที่ยง อบอวนไปด้วยเสียงหัวเราะต่างคนต่างหาเรื่องเล่ามาพูดคุยกัน ภาคินคอยตักอาหารให้ร่างเล็ก แอบสบตากันบ่อยๆ ภาคินเองยอมรับว่าเด็กคนนี้น่ารัก เขาใสๆ ไม่มองโลกในแง่ร้าย แต่เค้าคงโชคร้ายเองที่เกิดมาเป็นลูกเลี้ยงของพิกุล แม่ใจร้ายของภาคิน

    ริท ทำไมนะ ทำไมต้องเกี่ยวข้องกับผู้หญิงใจร้ายคนนั้นด้วย ทำไม’


      'แกๆ ฉันเห็นเด็กฝึกงานใหม่ออกไปกับท่านประธาน มาวันแรกก็ออกรายซะแล้ว ..... ' ตลอดทางเดินเข้ามาในบริษัทเสียงพนังงานจับกลุ่มเม้าท์กันเป็นกิจวัติ หัวข้อหลักวันนี้คือ บุคคลที่พึ่งกลับเข้ามาพร้อมกันเมื่อสักครู่

    "พี่โตโน่ เมื่อกี้ริทได้ยินพี่พนักงานข้างล่างเค้า ..." ยังไม่ทันที่ร่างเล็กจะเอ่ยจบผู้เป็นเจ้านายก็พูดแทรกมาแบบไม่รู้สึกอะไรเลย

    "ช่างเค้าเถอะริท พี่ว่าพวกเค้าทำเรื่องพวกนี้ได้ดีกว่าทำงานนะ อย่างไปสนใจเลย" ร่างสูงพูดติดตลกทำให้คนที่ฟังยิ้งออกมาได้ แต่ในใจก็แอบคิดน้อยใจที่คนมองตนไม่ดีนัก 'เฮ้ออออ ทำงานเถอะริท คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง อย่าพึ่งคิดมากเลย' เรืองริทบ่นกับตัวเองเพื่อเป็นการปลอบใจ

    "ตัวเล็ก!!" ร่างสูงเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

    "คะ คับ ท่าน! เอ้ยพี่โตโน่ มีอะไรรึเปล่าคับ" ร่างเล็กตกใจเล็กน้อย ที่อยู่ๆภาคินก็เรียกชื่อตนขึ้นมา ซึ่งเขากำลังอ่านเอกสารอย่างตั้งใจ

    "ไม่มีอะไร แค่นี้ทำเป็นขวัญอ่อนไปได้ พี่แค่จะบอกว่าถึงเวลาเลิกงานแล้ว เก็บกระเป๋ากลับบ้านกันเถอะ" ภาคินบอกกับร่างเล็ก

    "อ๋อครับบ สงสารริทจะเพลินกับการอ่านเอกสารพวกนี้ไปหน่อย ลืมดูนาฬิกาเลย แฮ่ๆ" เรืองริทบอกพร้อมทำหน้าอายยย (จะอายทำไมหละ55)

    "แล้วนี้ริทกลับบ้านยังไง ให้พี่ไปส่งไหม?"

    "ริทขับรถมาเองคับพี่โตโน่ ขอบคุณท่านประธานมากนะคับที่มีน้ำใจจะไปส่งเด็กฝึกงานอย่างผม"

    "ป่ะ!! งั้นเรากลับบ้านกันเถอะ สงสัยคนขับรถที่บ้านพี่คงมารอนานแล้ว" ร่างสูงว่าพร้อมกับถือกระเป๋าคนตัวเล็กติดมือไปด้วย ก่อนจะเดินนำออกไป

    "อิงฟ้า ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับบ้านได้เลยนะ" เจ้านายใจดีบอกกับเรขาคนสวยของตน

    "พี่ฟ้ากลับด้วยกันไหมฮะ เดี๋ยวริทไปส่งที่บ้าน" เรืองริทชวนพี่สาวของเพื่อนสนิทตน เพราะเขาก็อยากจะแวะไปหานภัทรเหมือนกัน ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ได้เจอด้วยสิ!

    "อ๋ออ ไม่เป็นไรหรอจ๊ะริท พอดีพี่มีนัดทานกับเพื่อนเย็นนี้ ขอบคุณมากนะ" อิงฟ้าบอกกับร่างเล็ก

    "คับ งั้นริทกลับแล้วนะคับ ฝากความคิดถึงไปหากันด้วย พักนี้หายเงียบไปเลย ติดสาวที่ไหนก็ไม่รู้ ฮาาา"

    "ได้จ๊ะ เดี๋ยวพี่บอกกันให้นะ" สนทนากันเพียงเท่านั้นทั้งสองก็แยกย้ายกันกลับ เรืองริทเดินไปหาเจ้านายใจดีที่ยืนรออยู่ซึ่งอาสาจะไปส่งเขาที่ลานจดรถ (เจ้านายใจดีไปนะ)


    ณ ลานจอดรถ


    ~ แปลกแต่จริง สิ่งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับฉัน มันเป็นรักที่กระทันหันไป แต่จะมองยังไงเธอก็ใช่ ~ เสียงโทรศัพท์ภาคินดังขึ้น

    "ฮัลโล ว่าไงนะ!! รถเสีย แล้วแกจะให้ฉันกลับบ้านยังไงว่ะไอ้แจ๊ส ไม่ได้เรื่อง!! บริษัทฉันขายรถแต่ฉันไม่มีรถกลับบ้านเนี่ยนะ ไปตายซะ!!" ร่างสูงกระแทกเสียงในปลายสาย ก่อนที่จะวางสายไป ร่างสูงดูหงุดหงิดจนน่ากลัว

    "มีปัญหาอะไรรึเปล่าคับพี่โตโน่" ร่างเล็กถามอย่างกล้าๆกลัว เพราะตอนนี้เขาดูน่ากลัวมาก

    "อ๋อ เอออ!! ไม่มีอะไรหรอกริท คนขับรถที่บ้านโทรมาบอกว่ารถเสียกลางทางหนะ สงสัยวันนี้พีคงต้องใช้บริการแท็กซี่แล้วหละ ฮาๆๆ" ร่างสูงแหล่ตามองเหยื่อด้วยสายตาเจ้าเหล่

    "งั้นให้ริทไปส่งพี่โตโน่ไหมคับ ดีว่านั่งแท็กซี่นะ 555" ร่างเล็กรีบอาสา

    "นั้นแหละที่ฉันต้องการ!" ภาคินบ่นเบาๆ พร้อมทั้งยิ้มร้ายกาจ

    "พี่โตโน่ว่าอะไรนะครับ" เรืองริทได้ยินไม่ถนัดจึงถามขึ้นอีกครั้ง

    "พี่แค่บอกว่าเกรงใจ ไม่พี่อยากรบกวนริท อีกอย่างบ้านเราอยู่คนละทางกันเลยนะ" ร่างสูงบอก

    "ไม่ต้องเกรงใจหรอกคับเจ้านาย แต่เดี๋ยวนะ! พี่โตโน่รู้ได้ไงว่าบ้านอยู่คนละทาง ริทว่าริทไม่เคยบอกนะ" เรืองริทจำได้ว่าไม่เคยบอกผู้เป็นเจ้านายแน่นอน

    ร่างสูงยิ้มให้กับคนที่อาสาจะไปส่งเมื่อสักครู่ "งั้นเอากุญแจมาเดี๋ยวพี่ขับเอง เชิญคุณชายนั่งตายสบายเลยนะขอรับ"

    หึหึ 'นายนี่มันอ่อนต่อโลกกว่าที่ฉันคิดนะ ยังหรอกริทพี่ว่าเกมส์นี้มันยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ'




    -ย้อนไปก่อนเลิกงาน ....

    "ฮัลโหล ไอ้อาร์คือฉันมีเรื่องจะรบกวนแกหน่อยว่ะ"

    (แหม๋!! ไอ้เสือ ถ้าไม่มีเรื่องให้ช่วยแกคงไม่คิดจะโทรหาฉันสินะ)

    "พูดมากน๊า ตกลงจะช่วยไม่ช่วย"

    (ได้ๆ จะให้ช่วยอะไรก็ว่ามา)

    "เดี๋ยวหลังเลิกงานสัก 20 นาทีแกช่วยโทรกลับมาที่เบอร์ฉันด้วยนะ"

    (โทรไปเพื่อ!!)

    "เถอะน่า ฉันรบกวนแก่แค่นี้แหละ หวังว่าแกจะช่วยฉันได้นะ"

    (แค่นี้หรอที่แกจะให้ฉันช่วย)

    "ไม่หรอก แกต้องช่วยฉันอีกเยอะ แต่วันนี้เอาแค่นี้ก่อน แค่โทรมาตามที่ฉันบอกก็แค่นั้นแหละ"

    (โอเคๆ หลังเลิกงานยี่สิบนาทีนะ เดี๋ยวฉันจัดการให้)


    ร่างสูงกล่าวเสร็จก็วางสายไป ทิ้งให้อาร์เพื่อนสนิทที่เขาโทรไปขอให้ช่วยงงกับการขอความช่วยเหลือของเพื่อนรั



    ----------------------------------------


    ถ้าบังเอิญมีคนแวะผ่านมาอ่าน ติชมกันได้ พูดเลยว่าเขียนเรื่องนี้เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง 55555


    หมายถึงว่า ไม่อยากให้ใครลืม หัวใจทั้งสองของพวกเรา ถึงแม้อะไรๆมันจะเหมือนเดิม แต่พวกเค้าก็คือพี่น้องอ่ะเนอะ **รักเหมือนเดิมแหละ อยากให้มิตรภาพที่สวยงามของพวกเค้าอยู่กับเราตลอดไป :)


    ป.ล เหมือนจะมีคำผิด แอบแต่งเวลางาน 555 อาจจะมีบางช่วงแปลกไปบ้าง ขออภัยไว้ก่อนนะครัชชช



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×