คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ เบาๆ แบบว่าแนะนำตัวละครก่อน 100%
บทนำ
เบาๆ แบบว่าแนะนำตัวละครก่อน
04.30 P.M
สายการบิน เท็กซัส-โซล ร่อนลงจอดที่รันเวย์ของสนามบินอินชอน ร่างสูงเดินเข้ามายังอาคารเพื่อไปรับกระเป๋า และเมื่อเสร็จภารกิจทุกอย่าง เขาก็เดินออกมายังอาคารพักผู้โดยสาร เมื่อเขาปรากฏตัวเท่านั้นแหละ พวกคลั่งเกาหลี ดารา นักร้องทั้งหลาย ก็เกือบจะขย้ำเขา ให้ตายสิ เขาไม่ใช่ ดาราหรือนักร้องสักหน่อยนะ จะกรี๊ดอะไรกันนักกันหนาวะ (เขามารับนักร้องที่กำลังกลับเข้าประเทศ)
ยุนโฮสบถอย่างหงุดหงิด ก็เขาแค่มาคุมกิจกรรมที่ คลับ Z ตามที่คำขอของ ‘เฮนรี่’ น้องชายของเขาเท่านั้นนะ ไม่ได้เตรียมรับมือกับคนพวกนี้ อุตส่าห์แต่งตัวโคตรธรรมดามาแล้วนะ ยังจะกรี๊ดอยู่ได้
ยุนโฮมองสำรวจตัวเองว่ามันมีอะไรพิเศษมั้ย แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่นา วันนี้แต่งได้แบบเชยสุดแล้วนะ เสื้อโค้ดหนังสีดำของอามานี่ (เพราะอากาศหนาวมากกก~~ -10°C) ใส่แว่นกันแดดสีชา (กลัวไม่เท่) รองเท้าหนังแบรนด์เดียวกันก็เท่านั้น แต่งแบบปกติ๊~~ ปกตินะเนี่ย!
กว่าจะฝ่าวงล้อมของสาวๆ มาได้ก็เล่นเอายุนโฮเกือบจะระเบิดออกมา ถ้าไม่มีบอดี้การ์ดที่มารับเขานะป่านนี้ได้ฉะกับสาวๆ ในสนามบินแล้ว อ๊ะๆ เขาไม่ได้ไม่ชอบสาวๆ นะ เขาแค่รำคาญเท่านั้นแหละ ผู้หญิงเป็นเพศที่โคตรน่ารำคาญเลยล่ะในสายตาของเขา
“วันนี้เข้าเลยมั้ยครับ” เซียมือขวาของยุนโฮกล่าว เมื่อยุนโฮขึ้นรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เซียนับว่าเป็นคนที่ไว้ใจได้คนนึง เพราะเป็นเพื่อนกันกับยุนโฮมาตั้งแต่เด็กๆ และเขาก็ทำงานกับครอบครัวยุนโฮด้วย ไม่กี่ปีมานี่เองที่เขาขอให้เซียมาเป็นมือขวาของเขา
“ไม่ล่ะ ฉันขอนอนก่อน ยังปรับตัวไม่ค่อยได้”
“ครับ”
ข้อดีของเซียคือเขาไม่จุกจิก จู้จี้ขี้บ่น เพราะอย่างนี้แหละเขาถึงทำงานกับยุนโฮด้าน ก็ยุนโฮเป็นขี้หงุดหงิดจะตาย เกิดขัดใจนิดหน่อยมีหวังโดนเชือดแน่ๆ ข้อนั้นเซียรู้ดีที่สุด
[Jaejoong’s Part]
วันนี้ผมค่อนข้างรับลูกค้าเยอะไปหน่อยเลยทำให้เหนื่อยไม่อยากทำอะไรเลย อาชีพโฮสต์เนี่ยมันหนักจริงๆ นะ เฮ้อ~~ ถ้าผมไม่ทำก็ไม่ได้อีกล่ะ เพราะต้องหาเลี้ยงยูชอนกับแม่ แม่ผมป่วยเป็นลูคีเมียแม่นะแม่โรคอื่นมีให้เป็นตั้งเยอะแยะทำไมถึงเลือกเป็นลูคีเมียก็ไม่รู้ ผมเปล่าแช่งแม่นะ แค่คิดว่าถ้าจะเป็นโรคจริงๆ ขออย่าเป็นโรคคนรวยได้มั้ย บ้านผมก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ส่วนยูชอนน่ะก็เลือกเรียนสถาปัตย์ ค่าใช้จ่ายก็เยอะเป็นบ้าเลยอ่ะนะ ผมก็เลยเสียสละให้ยูชอนเรียนจบก่อน ส่วนตัวเองค่อยกลับไปเรียนทีหลัง คงไม่สายเกินไปหรอก
พอมานั่งคิดๆ ดูแล้ว ชีวิตผมมันช่างบัดซบสิ้นดีจริงๆ เลย!
03.15 P.M
นี่มันก็ตีสามกว่าแล้วสินะ ผมยังไม่ได้นอนเลยนะเนี่ยให้ตายสิ หวังว่าพรุ่งนี้คงไม่แฮงค์เหล้านะ ไม่อย่างนั้นคงไปทำงานไม่ได้แน่ๆ ผมทำงานพิเศษตอนกลางวันด้วยนะ สองโมงถึงสี่โมงเย็น แล้วจากนั้นก็นอนเอาแรงเพื่อไปทำงานที่โฮสต์คลับต่อ แล้วพรุ่งนี้ ผู้จัดการร้านคนใหม่จะเข้ามาคุม ถ้าเกิดทำอะไรไม่งามในวันแรกมีหวังอนาคตดับแน่ๆ อ้อ! ลืมบอกไปว่าผมน่ะเป็นโฮสต์ระดับวีไอพีนะ เพราะในแต่ละเดือนผมจะทำรายได้สูงสุดดังนั้นเวลางานของผมจึงเริ่มตั้งแต่ สี่ทุ่มถึงตีสอง และถ้าใครอยากนั่งดริ๊งกับผมต้องจองคิวเอาไว้หนึ่งอาทิตย์ไม่งั้นก็อด!
ลูกค้าสาวๆ น่ะผมยังพอรับได้อยู่นะ แต่บางครั้งลูกค้าผู้ชายก็ไม่ค่อยมีวินัยเท่าไหร่นัก มันเลยทำให้ผมไม่ค่อยอยากรับลูกค้าผู้ชายเท่าไร คิดแล้วนึกถึงวันนั้น ผมนั่งดริ๊งเป็นเพื่อนมันอยู่ดีๆ ไอ้บ้านั่นมันก็เอามือมาลูบขาอ่อนผม ตอนแรกผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะคิดวาเขาคงไม่ได้ตั้งใจ แต่ผมคิดผิด เมื่อมือนั่นไม่จู่โจมแค่ขาอ่อน แต่มันยังลูบลึกเข้าไปกว่านั้น เท่านั้นแหละความอดทนขาดผึง เลยถีบยอดอกมันไปที หลังจากนั้นผมก็ไม่รับแขกผู้ชายอีกเลย
ถึงผมจะชอบผู้ชายก็เถอะนะ แต่ผมก็หวงเนื้อหวงตัวนะจะบอกให้~~
“เฮ้ กลับมาแล้วเหรอพี่” ยูชอนเอ่ยทักเบาๆ
ยูชอนมักจะนอนเช้าแบบนี้เสมอ เพราะต้องทำวิจัยก่อนจบเลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลานอนเท่าที่ควร ยูชอนจะจบปีนี้แล้วสินะ เร็วมากเลยจริงมั้ย
“อืม แล้วแม่ล่ะ”
“หลับตั้งแต่พี่ออกไปแล้ว มาถามอะไรตอนตีสาม” ยูชอนตอบกวนๆ สายตายังคงจับจ้องที่โมเดลบ้านของตัวเอง
“เออ ฉันไม่นอนก่อนนะ เมาเป็นบ้าเลยวันนี้” ผมโบกมือให้ยูชอน ก่อนจะปิดปากหาว เดินขึ้นไปชั้นสองของบ้านก่อนจะสะดุดเพราะเสียงของยูชอน
“พี่พักบ้างก็ได้นะ อย่าโหมงานหนักมาก ผมไม่ได้รีบใช้เงินขนาดนั้นหรอกนะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกยูชอน ฉันเต็มใจ” ผมเดินเข้าไปโยกหัวยูชอน ไอ้น้องชายผมทำหน้ายุ่งๆ ก่อนเราสองคนจะหัวเราะออกมาดังลั่นบ้าน
นี้ราสองคนไม่ได้หัวเราะเต็มเลียงอย่างนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ…
“จุนซู”
“กรุณาเรียกผมว่า ‘เซีย’ ด้วยครับ” เซียในชุดสูทเอ่ยขึ้นเมื่อเจ้านายของตนเรียกชื่อเกาหลีที่เขาสุดแสนที่จะเกลียดออกมา
“จุนซู จะเรียกจุนซูจะทำไม” ยุนโฮเชิดหน้าใส่และทำหน้าดุ แต่หาทำให้ลูกน้องตนกลัวไม่
“เซีย” แถมตอนนี้คนถูกเรียกก็ทำเหมือนกำลังโกรธด้วย ยุนโฮจึงเรียกใหม่
“เออ เซียก็เซีย เอาเหล้ามาหน่อยดิ๊” เขาเปลี่ยนอิริยาบถโดยการเอาเท้าทั้งสองข้างเกยบนโต๊ะ แล้วเอ่ยต่อ “เน็คไทนายเนี่ยมันโคตรเกะกะลูกตาเลยว่ะ ช่วยถอดออกได้มั้ย” เซียเหลือบมองเน็คไทเส้นสวยของตัวเอง แล้วก็อดขำไม่ได้
อันที่จริงแล้วเน็คไทเส้นนี้มันค่อนข้างที่จะไม่เข้ากับเขาเท่าไรนัก เน็คไทเส้นโตลายขวาง ทอง ดำ แล้วก็แดง แซมกันอยู่ดูไปดูมาอาจทำให้ลายตา หน้ามืดเลยก็ได้ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะคนรักซื้อให้ เขาคงไม่ยอมใส่แน่ๆ
“ผมว่ามันก็สวยดีออก”
“สวยกับผีแกสิ ถอดทิ้งเดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าให้ดีทิ้งมันไปเลย ฉันไม่ชอบ!”
“ไม่ได้ครับ เส้นนี้ยูชอนเป็นคนซื้อให้ผม”
ยูชอนคือคนรักของเซียที่คบกันมาสองปีแล้ว ทั้งสองเจอกันที่มหาวิทยาลัยโดยบังเอิญที่คณะสถาปัตย์ แล้วก็สานความสำพันธ์กันมาตลอด แม้ยุนโฮจะไม่เคยเห็นหน้าสักครั้ง แต่ฟังจากคำบอกเล่าของเซียแล้ว เขาคิดว่าผู้ชายที่ชื่อยูชอนเนี่ยคงจะน่ารักน่าดู ไม่อย่างนั้นเซียคงไม่หลงหัวปักหัวปำขนาดขัดคำสั่งเขาหรอกนะ
“เออ! งั้นไปเอาเหล้ามา”
“ไม่ได้ครับ ตอนสี่ทุ่มคุณต้องเข้าไปในคลับนะครับ” เซียเตือน
“อ้อ ลืมไป งั้นฉันนอนก่อนแล้วกัน ถึงเวลาก็ปลุกด้วย”
“ครับ” รับคำเบาๆ แล้วก้าวออกจากห้องไป แต่ยังไปไม่ถึงไหนเสียงยุนโฮก็ดังขึ้น
“จุนซู”
“เซีย”
“เออ ยังไงก็ช่างเหอะน่า…คืนนี้ฉันจะแบบลูกค้านะ นายไม่ต้องไปด้วย ไม่ต้องแจ้งให้ใครรู้ ยกเว้นชีวอน เดี๋ยวว่าฉันเอาว่ากลับมาไม่บอก ฉันอยากไปดูการทำงานของโฮสต์ในคลับน่ะ”
“แต่ว่า…”
“ฉันได้ยินข่าวว่า มีโฮสต์คนหนึ่งชื่อ คิม แจจุง ได้เงินเดือนละแสนฉันเลยอยากจะเจอหน้าหน่อยน่ะ ว่าจะฮอตสักแค่ไหน” แววตาพราวระยับของเจ้านายทำให้เซียถอนหายใจเฮือกใหญ่ พอจะได้ของเล่นชิ้นใหม่ทำเป็นเนื้อเต้นเชียวนะยุนโฮ
“แต่คิวของคุณแจจุงต้องจองล่วงหน้าเป็นอาทิตย์นะครับ แล้วคืนนี้ก็เป็นคิวของลูกค้ามือหนักซะด้วยสิ คงลัดคิวให้คุณไม่ได้หรอกนะ”
“เซีย” จากดวงตาที่มีประกายระยับ ตอนนี้กลับวาวโรจน์ขึ้น ทำเอาเซียเสียวสันหลังวาบ เอาแล้วไง จิตคุกคามเวลาไม่ได้ดั่งใจ
“ครับ” รับคำเหงื่อแตกพลั่ก
“ฉันเป็นเจ้าของ จบป่ะ!”
“ครับ”
“นายคงรู้นะว่าต้องจัดการยังไงกับไอ้ลูกค้านั่น”
“ครับ”
ณ ที่นี้เซียสามารถที่จะเอ่ยคำพูดใดๆ ออกมาได้นอกครับ ให้ตายสิ เอาจนได้เวลายุนโฮอารมณ์ไม่ปกติ รังสีคุกคามอ่อนๆ ก็จะแผ่ออกมา และแม้มันจะอ่อนแค่ไหน มันก็ทำเอาคนที่กำลังสนทนาด้วยทุกคน เตลิดไปหมด ดีนะที่เซียฝึกมาหลายครั้งแล้วไม่อย่างนั้นต้องหลบไปร้องไห้แน่ๆ (เวอร์) ยุนโฮคนนี้ช่างน่ากลับจริงๆ
[Jaejoong’s Part]
หลังจากที่กลับมาจากทำงาน ผมก็กะว่าจะงีบสักหน่อย แต่พอตื่นขึ้นอีกทีมองดูนาฬิกาก็สามทุ่มกว่าแล้ว ผมเลยรีบอาบน้ำแต่งตัวบึ่งรถเวสป้าคู่ใจของยูชอนไปที่คลับ Z กว่าจะถึงก็ปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่ม ไอ้รถเวสป้าเนี่ยก็ช๊าช้า ผมว่าน่าจะเอาไปโมดิฟายใหม่ได้แล้วนะ เอาสักพลังขับเคลื่อน 180 km/h ไปเลย แบบนี้ไม่ไหว
โอ๊ย!! ตายแล้ววันนี้สายอีกแล้วสิน่า ผมรีบแต่งตัวเซตผม แต่งหน้าเล็กน้อยก่อนจะหยิบคิวงานมาดู
‘ชิม ชางมิน’
ผู้ชาย! ผมเคยบอกทางร้านไปแล้วนะว่าไม่รับแขกผู้ชาย แล้วทำไมวันี้สิสต์รายชื่อถึงเป็นผู้ไปได้ อย่างนี้ต้องมีโวยกันสักหน่อยแล้ว
“อ๋อ…คุณชางมินวันนี้มาไม่ได้นะ แต่จะมีลูกค้าคนใหม่มาแทน ต้อนรับให้ดีล่ะ เพราเขาค่อนข้างกระเป๋าหนัก” คุณชีวอนรองผู้จัดการร้านบอก อันที่จริงเขาหล่อมากเลยนะน่าจะมาเป็นโฮสต์เหมือนผม แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงเลือกเป็นรองผู้จัดการก็ไม่รู้
“เมื่อกี้คุณว่าไงนะครับ เขาเหรอ” ผมถามอย่างหวาดๆ ถ้าเรียกว่าเขา แสดงว่าลูกค้าคนนี้ต้องเป็น…
“ใช่ครับ เขาเป็นผู้ชาย”
“ผมบอกคุณแล้วไงว่าไม่รับผู้ชาย คุณก็รูว่าตอนนั้นลูกค้าคนนั้นเป็นยังไง”
“ขอโทษจริงๆ นะแจจุง แต่คนนี้น่ะ เขาเจาะจงเป็นนายเลยนะ คงขัดใจไม่ได้หรอก ถือซะว่าทำเพื่อผมสักครั้งนะ” เจอสายตาแบบนี้เข้าไปใครก็ใจอ่อนกันทั้งนั้น ให้ตายสิ คุณชีวอนนี่ตัวอันตรายจริงๆ
“ก็ได้ครับ งั้นผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน ถ้าลูกค้ามาก็บอกเขาไปรอที่ห้องเลยนะครับ”
ผมต้องรับปากอย่างไม่มีทางปฏิเสธ อาจจะเป็นเพราะคุณชีวอนมีพระคุณชีวอนมีพระคุณกับผมมากก็ได้ทำให้ผมค่อนข้างเกรงใจเขา แต่ก็ช่างเถอะ ต้อนรับๆ ไป ถ้าไอ้หมอนั่นไม่มาลวนลามผม ผมคงไม่ต้องลงมือลงเท้าเท่าไหร่หรอกมั้ง
แต่สิบนาทีต่อมา ผมก็คิดว่า ผมคิดผิด!
“มานั่งใกล้ๆ ฉันเดี๋ยวนี้ ชงเหล้าให้ด้วย”
ให้ตายสิ ผมไม่อาจปฏิเสธสายตาที่ราวจะกินเลือดกินเนื้อนั่นได้เลย ผู้ชายคนนี้น่ากลัวชะมัด ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ดวงตาเล็กเรียว ริมฝีปากอิ่มสวย ตัวสูงโย่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่กอปรขึ้นบนตัวเขาช่างลงตัว และน่าหลงใหล ถ้าเขาไม่อ้าปากขึ้นอ่ะนะ
ผมเดินไปนั่งข้างเขาก่อนจะจัดการชงเหล้า แล้วยื่นให้
“ป้อน”
ฮะ?
“ชงเสร็จแล้วก็ป้อนฉันด้วย คิม แจจุง”
“มีมือก็กินเองสิ มาใช้ผมทำไม ผมแค่มาเป็นเพื่อนนั่งดริ๊งเฉยๆ นะ” ผมเอ่ยอย่างหงุดหงิด แค่อดทนมานั่งด้วยมันก็ดีเท่าไหร่แล้วยังจะให้มาป้อนเหล้าอีก อย่างหวัง
“ฉันอยากให้นายป้อนนายก็ต้องป้อนฉัน!” เขายันตัวขึ้นมาประจันหน้ากับผม พลางจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง
“ไม่ คุณอยากกินก็กินเองสิ คุณยุนโฮ”
“ก็ได้ งั้นฉันจะป้อนนายแทนก็แล้วกัน”
เขาเอือมมือมากอดเอวผมก่อนจะเกี่ยวมันขึ้นไปนั่งบนตัก ผมร้องโวยวายเท่าไร เขาก็ไม่มีที่ท่าว่าจะปล่อยให้ผมเป็นอิสระ อ๊ากกกกกกกก!!! อยากจะบ้าตายกับผู้คนนี้
“นี่มันจะมากไปแล้วนะ!”
“กินซะ”
แก้วเหล้าถูกยกขึ้นจ่อริมฝีปากของผม แต่ผมก็เม้มปากไว้แน่น ของเหลวจึงไหลลงไปตามคอและเปรอะไปทั่วเสื้อของผม โอ๊ย! นี่มันอะไรกันเนี่ย!
“นี่คุณ!”
ฟุ่บ!
ยุนโฮวางผมลงแล้วกดผมเข้ากับพนักโซฟา นี่เขาจะทำอะไรน่ะ ผมใช้ทั้งเท้าทั้งมือปัดป่ายไปทั่ว แต่เขากลับเหมือนรู้ว่าผมจะทำอะไร เพราะทั้งมือทั้งเท้าผมถูกล็อคไว้หมด
“ชอบให้ใช้ความรุนแรงใช่มั้ย ได้!”
พูดจบเขาก็ดื่มเหล้าเข้าไปจนหมดแก้วแล้วจรดริมฝีปากมาที่ผม เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผมจะร้องห้ามเลยทำให้เปิดช่องทางให้เขาเข้ามาง่ายขึ้น รสขมปร่าของเหล้ากระจายไปทั่วปากผมพร้อมกับจูบที่ดุดันจนทำให้ผมกลืนเหล้าลงไปจนหมด แต่ริมฝีปากร้อนก็ไม่มีที่ท่าว่าจะขยับออกไป ผมจึงดันแผงอกเขาออกแรงๆ แต่ไม่มีที่ท่าว่ามันจะได้ผลสักนิด
เขาเอื้อมมือมาจับใบหน้าผมไว้ก่อนจะประกบริมฝีปากลงมาอีกหนักกว่าเดิม บดขยี้ลงมาอย่างรุนแรง ปลายจมูกของเราสองคนถูไถกันไปมาจนแทบจะไม่มีช่องว่างให้หายใจ จนสุดท้ายผมก็โอนอ่อนกับจูบของเขา รสจูบที่รุนแรงกลับเริ่มอ่อนหวานลงลงแล้วเปลี่ยนเร่าร้อน ยุนโฮขยับตัวเข้ามาแนบชิดผมมากว่าเดิม มือที่ไม่รู้ว่าจะเอาไปไว้ไหน เลยขยุ้มผมนุ่มของเขาเอาไว้ ก่อนที่เขาจะผละออกมา
“ฮ้า…จูบแบบนี้ก็ได้รสชาติดีไปอีกแบบนะเนี่ย” เขาพูดพร้อมกับเช็ดปากตัวเอง
“นายมันทุเรศที่สุด!” ผมชี้หน้าด่าเขา เปลี่ยนสรรพนามจากคุณเป็นนายทันที
“ไม่เห็นจะขัดขืนเลยนี่นา ชอบล่ะสิ” เขาพูดด้วยแววตาเย้ยหยัน เท้านั้นแหละสติของผมเลยขาดผึง
ผมจับแก้วเหล้าขึ้นมา สาดใส่หน้าเขา กล้าดียังไงมาดูถูกผม!
“นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะแจจุง!” ยุนโฮลูบน้ำออกจากหน้าลวกๆ แล้วชี้หน้าด่าผม “กล้าดียังไงมาทำกับฉันอย่างนี้ รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร!”
“รู้สิ! คุณมันไอ้ทุเรศยังไงล่ะ”
“ฉันไล่นายออก ออกไปจากคลับของฉันเดี๋ยวนี้!” ยุนโฮชี้มือไล่ผม อย่าบอกนะว่าเขาคือเจ้าของคลับคนใหม่ที่มาแทนเฮนรี่ชั่วคราวน่ะ
“ชอง ยุนโฮ” ผมพึมพำเบาๆ
“ใช่! ฉันนี่ล่ะ ชอง ยุนโฮ และตอนนี้ฉันก็ไล่นายออก ออกไปจากคลับฉันเดี๋ยวนี้”
ผมคิดหนัก ใจหนึ่งผมอยากจะไปอยู่หรอกนะ แต่ตอนนี้ผมต้องการเงินเป็นอย่างมาก ถ้าโดนไล่ออกผมก็ต้องหางานใหม่อีก ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วสิ นี่ผมต้องขอร้องเขาเหรอเนี่ย
“ได้โปรดเถอะนะ อย่าไล่ผมออกเลยคุณน่าจะรู้นะว่าผมเป็นคนที่รายได้มากที่สุดน่ะ ถ้าคุณไล่ผมออกคลับคุณจะเสียลูกค้าไปเยอะนะ” ผมหว่านล้อมให้เขาเชื่อ
“ฉันไล่นายออก!” แต่ดูเหมือนจะไม่เข้าสมองไอ้บ้านี่เลยสักนิด!
“ให้ผมทำอะไรก็ได้ แต่อย่าไล่ผมออกเลยนะ”
“ทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ” เอ๊ะ! ข้อเสนอนี้ผมพูดออกไปได้ไงล่ะเนี่ย ตายๆๆๆ อย่างเดียว แต่ถ้าผมถูกไล่ออกจริงๆ มันก็ตายเหมือนกันแหละนะ
“ใช่!”
“ถ้าฉันสั่งนายต้องทำใช่มั้ย โอเค”
เขาทำท่าคิดอยู่พักนึง ก่อนจะดีดนิ้วอย่างอารมณ์ดี ผิดกับไอ้บ้าเมื่อกี้เหมือนคนละคน
“เอางี้ พรุ่งนี้นายไม่ต้องมาทำงานที่นี่อีกแล้ว”
“เฮ้ยได้ไงอ่ะ ไหนคุณบอกจะไม่ไล่ผมออกไง” ว่าแต่เขาไปพูดตอนไหนวะ
“ฉันยังไม่ได้พูดว่าจะไล่นายออกสักหน่อยแต่นายต้องเข้าไปอยู่กับฉัน ในฐานะ ‘เมีย’ นายจะว่ายังไงล่ะ”
“ฮะ! จะบ้าเรอะ” จะให้ผมไปอยู่ด้วยได้ยังไง แถมเข้าไปอยู่ในฐานะเมียอีกต่างหาก
“งั้นฉันไล่นายออก ไปเก็บกระเป๋าขนของออกไปได้แล้ว”
“ตกลง!” ยังไงผมก็ไม่มีทางเลือกอยู่แล้วนี่นา
“ว่าไงนะ”
“ตกลง…แต่คุณต้องให้เงินเดือนผมตามปกตินะ แล้วคุณก็ห้ามทำมิดีมิร้ายผมด้วย”
“ได้ แต่ข้อหลังฉันขอคิดดูก่อนแล้วกัน ก่อนอื่นนายต้องทำหน้าที่ ‘เมีย’ ที่ดีโดยการหาผ้ามาเช็ดคราบเหล้านี่ออกไปจากใบหน้าฉันก่อน ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”
เขาเน้นคำว่าเมียให้ผมได้ยินชัดๆ นี่เขาคิดอะไรของเขาอยู่เนี่ย! รู้ทั้งรู้ว่าผมเป็นผู้ชายแล้วทำไม… โอย ผมอยากจะบ้าตายจริงๆ เลย ถ้าไม่ได้ร้อนเงินคงไม่มีวันทำเรื่องแบบนี้แน่ๆ ยูชอนต้องใช้เงิน ห้าหมื่น แถมค่าทำคีโมของแม่อีกเป็นแสน ถ้าผมลาออกไปก็ไม่รู้จะหาเงินมาจากไหนเยอะแยะขนาดนั้น
สุดท้ายต้องก้มหน้ารับชะตากรรมตัวเองสินะ….
น่าสงสารแจจริงๆ เลย T^T\
ปล. งามๆ อยากรู้ว่าตัวหนังสือแค่นี้พออ่านมั้ยคะ หรือว่ามันเล็กไป
แถมรูปเซียกับมิคกี้พอหอมปากหอมคอ ><
ความคิดเห็น