คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Am@zon!!! I : 6 >>> ป้อมอัศวิน 100%
แถวยาวของนักเรียนใหม่ยังคงต่อคิวยาวเหยียด โต๊ะยาวตัวใหญ่คุลมด้วยผ้ากำมะหยี่สีม่วงตั้งอยู่หน้าประตู มหาปราชญ์แห่งเอดินเบิร์กยืนต้อนรับนักเรียนใหม่ที่รายงานตัวอยู่ตรงนั้น หากมองเข้าไปในประตูที่เปิดกว้างอยู่ก็จะเห็นแถวกองทัพตั้งเรียงกันสี่กอง
หน้ากองทัพซ้ายสุดถือธงสีน้ำเงินลายมงกุฎ สัตว์พาหนะของผู้ถือธงเป็นกริฟฟินสีทอง แถวถัดมาคือธงสีแดงลายดาบ ผู้ถือธงนั่งอยู่บนหลังมังกรเพลิง ถัดจากนั้นเป็นกองทัพของผู้ถือธงสีขาวลายคทา ผู้ถือธงอยู่บนหลังสฟิงซ์สัญลักษณ์แห่งความรอบรู้ สุดท้ายคือกองทัพของผู้ถือธงสีดำลายแหวนผู้นั่งอยู่บนหลังฟีนิกซ์ ทั้งสี่กองทัพเด่นสง่า ชวนให้ตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก
เสียงแตรดังลั่นไปทั่วทั้งบริเวณ เป็นสัญญาณบอกให้รู้ถึงการเริ่มรายงานตัวของเหล่านักเรียนใหม่แห่งเอดินเบิร์ก
“เอฟิน่า กริซโดริส เดอะปรินเซส ออฟ เอเธนส์... ปราสาทขุนนาง” ธงหน้ากำแพงแปรเปลี่ยนจากสีม่วงเป็นสีน้ำเงินลายมงกุฎ แล้วเสียงเฮก็ดังจากกองทัพกริฟฟินทอง
นัยน์ตาสีเขียวมองร่างของเพื่อนสาวที่ก้าวเดินอย่างสง่างามมาดนางพญาไปยังเบื้องหน้ามหาปราชญ์เลโมธีอย่างยินดี
ปราสาทขุนนางสินะ...
แน่นอนอยู่แล้วว่านางพญาอย่างเอฟิน่าต้องได้อยู่ปราสาทขุนนาง แล้วเธอล่ะ?
จากแถวที่เคยยาวเหยียดก็หดสั้นลงมากขึ้นเรื่อยๆ ในมือด้านหนึ่งของเจ้าหญิงแห่งอเมซอนหอบหนังสือเล่มโต มืออีกข้าวหิ้วกระเป๋าเดินทาง ส่วนด้านหลังสะพายดาบใหญ่ที่หนักเอาการ จนคนแบกต้องนึกก่นด่าตาแก่คนนั้นอยู่ในใจ
กะอีแค่ประกาศหอพัก ต้องทำอะไรให้มันเรื่องมากนักหนา
“เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟ ออฟ บารามอส” เสียงประกาศดังขึ้น ก่อนที่เด็กหนุ่มร่างบางที่เคยเจอในร้านขายของในตลาด เจ้าของผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีเดียวกันที่มีแววขี้เล่นสนุกสนานและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาทำให้เธอนึกถูกชะตาขึ้นมา
“ที่อยู่ของเธอคือ ป้อมอัศวิน”
ธงเปลี่ยนเป็นสีแดงลายดาบ ก่อนเสียงร้องที่ชวนให้ฮึกเหิมจะดังมาจากกองทัพของชาวป้อมอัศวินที่ยืนต้อนรับอยู่ด้านหน้า
“มาทิลด้า ซิลเวอร์ เดอะปรินเซส ออฟ อเมซอน”
มาทิลด้าก้าวออกไปเบื้องหน้าด้วยท่วงท่าที่สง่างามและมั่นใจ ท่าทางเยี่ยงชายชาตรีและนักรบที่แกร่งกล้าไม่ต้องบอกก็พอจะเดาออกว่าเจ้าหญิงแห่งอเมซอนจะได้อยู่ป้อมปราการใด
“ป้อมอัศวิน”
เสียงเฮดังลั่นมาจากเหล่านักเรียนชาวป้อมอัศวินที่ยืนต้อนรับทำให้หัวใจของเธออบอุ่นและฮึกเหิมขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เสียงนุ่มที่เอ่ยต้อนรับดังมาจากชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีม่วง นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มชวนมองดูแล้วเป็นมิตรและอ่อนโยน อย่างที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาคือ เมจิคปรินซ์ ออฟ เจมิไน เสนาธิการฝ่ายซ้ายคนสำคัญของป้อมอัศวิน
มาทิลด้ากล่าวขอบคุณในขณะที่ยื่นมือออกไปรับเสื้อคลุมสีแดง ก่อนจะเดินตามรุ่นพี่อีกคนไป หากแต่นัยน์ตาสีเขียวก็ต้องไปสะดุดกับบางสิ่งจนต้องหันไปมองตรงๆ
บุรุษหน้าเข้มคม ผมสีดำหยักศก จมูกโด่งปลายงุ้มอย่างเหยี่ยว นัยน์ตาสีดำคมกริบจ้องมองมาทางเธอ แววพึงพอใจฉายประกายขึ้นบนนัยน์ตาคู่นั้น หากแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นแววตาดุๆจากดวงตาสีเขียวของสาวน้อยใจแกร่งที่ส่งมาให้ ก่อนที่เธอจะเดินออกไปในทันที
โดยหารู้ไม่ว่าท่าทางเข้มแข็งและทระนงของเธอได้เป็นที่ถูกใจของใครเข้าให้แล้ว!?
“สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อแองเจลีน่า เรียกว่าแองจี้ก็ได้นะ” เสียงสดใสพร้อมรอยยิ้มน่ารักจากสาวน้อยผมทองคนที่เธอรู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็นคนนั้น ไม่น่าเชื่อว่าเธอคนนี้จะได้มาอยู่ร่วมห้องเดียวกันกับเธอ
“ส่วนฉัน เรนอน ธีน็อต ค่ะ คุณมาทิลด้า”
อีกหนึ่งสาวที่เห็นแล้วทำให้มาทิลด้าต้องบอกกับตัวเองว่าถ้าเป็นผู้ชายป่านนี้ขอจีบไปนานแล้ว เจ้าหล่อนรูปร่างบอบบาง น่าทะนุถนอม เส้นผมและนัยน์ตาสีม่วงอมชมพูดูแล้วหวานไปทั้งตัว
“ดีจ้ะ แองจี้ เรนอน เรียกฉันว่ามาทิลเหอะ ง่ายดี” มาทิลด้าพูดพลางหิ้วสัมภาระของตัวเองไปยัดไว้ในตู้ไม้มะฮอกกานีมุมห้อง
“โห ทำไมของเธอน้อยอย่างนี้เนี่ย” นัยน์ตาสีฟ้าใสแจ๋วของเพื่อนใหม่เบิกกว้างอย่างประหลาดใจ เมื่อมองกระเป๋าที่บรรจุเสื้อผ้าใบขนาดพกพาใบเดียวที่เธอเอาติดตัวมาจากอเมซอน ที่เหลือก็เป็นดาบเล่มโตหนึ่งเล่ม กับกองหนังสือต่างหากอีกหนึ่งกอง
“ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นยังไงนะ ดูพวกเธอสิ อย่างกับจะย้ายบ้านแน่ะ” มาทิลด้ายิ้มนิดๆเมื่อมองเห็นกระเป๋าของเพื่อนสาวทั้งสองที่มากมายเสียเหลือเกิน
“ปีนี้ป้อมอัศวินมีผู้หญิงคือพวกเราแค่สามคน แย่จังนะคะ” เรนอนเอ่ยขึ้นขณะจัดของใส่ตู้
“นั่นสิ อีกอย่างไม่น่าเชื่อนะว่าเรียบร้อยๆอย่างเรนอนจะได้มาอยู่ป้อมอัศวินนี่” มาทิลด้าออกความเห็น ก็พวกป้อมอัศวินเธอได้ยินมาว่าส่วนใหญ่เป็นพวกเถื่อนๆไม่ใช่หรือไง ถ้าเป็นผู้หญิงก็ออกแนวถึกๆหน่อยอย่างเธอนี่เข้าขั้น แต่ถ้าอย่างเจ้าหญิงตรงหน้านี่ ปราสาทขุนนางดูจะเหมาะกว่า
“ไม่รู้สิคะ สงสัยจะฟลุค แต่ก็ดีนะคะได้อยู่กับลูกพี่ลูกน้องด้วยกัน” เจ้าหญิงคนงามเอ่ยถึงเจ้าชายแห่งคาโนวาลรูปหล่อที่อยู่ห้องหัวหน้าชั้นปี
“แต่ฉันรู้สึกไม่ถูกชะตากับนายหัวขโมยผมน้ำตาลนั่นยังไงไม่รู้ รู้สึกกวนประสาทชอบกล” แองเจลีน่าพูดพลางใช้ผ้าสะอาดเช็ดคทาคู่ใจของเธออย่างทะนุถนอม พอมาทิลด้าได้ยินดังนั้นก็ยักไหล่ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“แต่ฉันว่าฉันกังวลกับอนาคตของพวกเรามากกว่า...” เสียงเอือมๆของเจ้าหญิงแห่งอเมซอนทำให้เพื่อนสาวอีกสองคนละความสนใจจากการจัดของ ก่อนถามขึ้นพร้อมๆกัน
“ทำไมล่ะ/คะ”
“ขืนให้สามคนนั้นเป็นหัวหน้าชั้นปีป้อมอัศวินมีหวังดับคาที่แหงๆ”
“ยินดีต้อนรับทุกคนสู่ป้อมอัศวินนะจ้ะ หวังว่าพวกเธอคงจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่ในป้อมอย่างเต็มที่ พวกเธอก็มาจากต่างครอบครัวต่างสถานที่กัน เมื่อมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก็ต้องรู้จักที่จะปรับตัวเข้าหากัน ดังนั้นความสามัคคีคือสิ่งที่สำคัญ หวังว่าป้อมอัศวินจะทำให้เธอได้รับมิตรภาพใหม่ๆจากทุกคนที่นี่จ้ะ” หญิงร่างท้วมท่าทางใจดีที่เคยสอบสัมภาษณ์นักเรียนใหม่บัดนี้ยืนอยู่ด้านหน้าห้องประชุมของชั้นปี
“ระหว่างอยู่ที่นี่ ขอให้พวกเธอพยายามอย่าทำผิดกฎระเบียบให้มากนัก เพราะอย่าลืมว่าธงป้อมอัศวินจะถูกลดหรือเพิ่มขึ้นอยู่กับการกระทำของพวกเธอทุกคน ครูเองก็ไม่มีอะไรจะพูดมาก พวกเธอเดินทางมาก็เหนื่อยกันแล้ว เดี๋ยวแยกย้ายกันเข้าห้องพักที่ได้แบ่งกันไปเมื่อเช้าเลยก็แล้วกัน”
สายตาสีเขียวของมาทิลด้ามองไปรอบๆห้องประชุมใหญ่ โต๊ะยาวเรียงกันมีเหล่านักเรียนใหม่ที่หลายคนเธอคุ้นหน้าและรู้จักชื่อมาบ้างนั่งอยู่นับๆดูแล้วรวมเธอเข้าไปอีกหนึ่งก็เป็นสิบแปดคนพอดี
นั่น เจ้าชายคาโล วาเนบลี คนนี้เธอรู้จักเพราะเคยเห็นอยู่บ่อยๆในงานรวมตัวกษัตริย์ทีไร เธอก็มักจะได้เห็นเจ้าชายเย็นชาผู้นี้อยู่กับคิงบาโรทุกที
แล้วก็เด็กหนุ่มหน้าสวยคนต่อมา ที่เคยเห็นตอนอยู่ในตลาดเอดินเบิร์ก ท่าทางเป็นคนอารมณ์ดีที่น่าคบคนหนึ่ง นัยน์ตาสีน้ำตาลนั่นดูร่าเริงและแจ่มใสอยู่ตลอดราวกับเกิดมาไม่เคยเผชิญหน้ากับความทุกข์มาก่อน
ถัดมาเป็นหนุ่มน้อยเจ้าของผมสีดำสนิท และดวงตาสีม่วง ที่ฉายแววตื่นเต้นเป็นประกาบระยิบระยับยามที่เอ่ยปากคุยกับเพื่อนคนผมน้ำตาลเสมอ ท่าทางและแววตาแบบนี้ ไม่ต้องบอกเธอก็รู้ว่าเขาคือนักฆ่า
และอีกคนถัดมาคือนายขอทานนั่น...
นัยน์ตาสีเขียวของเจ้าหญิงแห่งอเมซอนรีบเบือนไปมองอีกทางอย่างรวดเร็ว ขณะที่ในใจนึกต่อว่าตัวเองที่อยู่ๆก็บ้าจี้ให้อีตาขอทานข้างถนนไม่มีหัวนอนปลายเท้า(โห เจ๊อย่าดูถูกโรสิ nutto)มาเล่นงานหัวสมองเธอเอาซะได้
มาทิลด้ากวาดตามองสมาชิกใหม่ของป้อมอัศวินคนต่อมาเรื่อยๆก่อนจะชะงักกึกลงที่บุรุษดวงหน้าเคร่งขรึม เรือนผมสีเงินที่ถูกถักเป็นเปียไว้อย่างเคย ดวงตาสีฟ้าใสคู่นั้นจับจ้องมาที่เธอราวกับจะสื่ออะไรบางอย่าง เป็นผลให้เธอเข่าอ่อนแทบจะอุทานออกมา
มาได้ยังไง?
ทั้งที่อุตส่าห์หนีมาถึงนี่แล้ว...
กัส โทนีย่า!!!
สงสัยมั้ยเอ่ย... ว่ากัสมาเกี่ยวได้ยังไง ตอนนี้อุบไว้ก่อน ไว้เดี๋ยวก็รู้ค่ะ
ความคิดเห็น