ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิคบารามอส (Ro&Mathilda) : The Princess of Amazon

    ลำดับตอนที่ #2 : Am@zon!!! I : 2 >>> การพบกันครั้งแรก 100%

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 51


            ฉับ! ตุ๊บ!

     

             แรงดาบสีเงินยาวเรียวคมกริบวาดตวัดฉับอย่างรวดเร็วว่องไวอย่างที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นจนท่อนไม้ใหญ่ที่ถูกโยนมาร่วงผล็อยลงกับพื้นในสภาพเดิมทุกประการ

     

             มือแข็งแกร่งของหญิงสาวร่างใหญ่ราวนักรบยกท่อนไม้ขึ้นมาก่อนจะยิ้มอย่างยินดีเมื่อเห็นท่อนไม้ที่คิดว่ามีสภาพเดิมนั้นถูกผ่าออกเป็นสองซีกอย่างที่มองแทบไม่เห็นรอยฟันด้วยที่คนวาดดาบมีฝีมือระดับเซียน

     

             ยอดมากเพคะ องค์หญิง ฝีมือดาบของพระองค์เฉียบขาดจริงๆ พระอาจารย์ขององค์หญิงแห่งอเมซอนเอ่ยชมเชยร่างเล็กที่ยืนถือดาบเล่มโตอยู่ในมือ

     

             ท่านพูดเกินไปแล้วค่ะ ท่านอาจารย์ มาทิลด้าถ่อมตัวพลางก้มหัวคำนับคนเป็นครูอย่างนอบน้อมดูน่ารักเรียบร้อยจนคนที่มองดูอยู่ห่างๆต้องลอบยิ้ม

     

             องค์หญิงของนางน่ารักเสมอ...     

     

             น่าปลื้มใจแทนท่านเฮลด้าเสียจริง

     

             นม เสียงหวานเอ่ยเรียก ก่อนที่ร่างของเจ้าหญิงแห่งอเมซอนจะตรงเข้าหาคนที่ยืนอยู่อีกด้าน

     

             องค์หญิงมีพรสวรรค์จริงๆ สามารถใช้วิถีดาบแห่งจิตได้ตั้งแต่อายุเพียงเท่านี้ แม่นมเชอร์ริลเอ่ยชมอย่างภาคภูมิใจ

     

             เดี๋ยวเราจะไปขี่ม้าเล่นซักหน่อย ถ้าท่านแม่ถามนมบอกด้วยว่าเราไปขี่ม้า เดี๋ยวซักพักก็จะกลับมา องค์หญิงน้อยรีบบอกเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกว่ากล่าวได้อีก

     

             เพคะ แต่องค์หญิงต้องระมัดระวังพระองค์มากๆนะเพคะ ทางที่ดีให้ทหารติดตามไปด้วยดีกว่า เชอร์ริลเตือนด้วยความเป็นห่วงสาวน้อยตรงหน้า แม้มาทิลด้าจะมีความสามารถมากมายเกินวัยเพียงน้อยนิดของเธอ แต่นางก็อดห่วงไม่ได้

     

             ไม่เป็นไร นมไม่ต้องห่วงหรอก เราไปแค่แป๊บเดียวไม่นานก็กลับแล้ว องค์หญิงน้อยแย้มรอยยิ้มหวังให้คนตรงหน้าใจอ่อนตามเคย

     

             นะคะ... นัยน์ตาสีเขียวใสแจ๋วกระพริบปริบๆสองสามทีก่อนที่ร่างน้อยจะหายไปในบัดดล

     

             แม่นมถอนหายใจอย่างเอือมระอาในเจ้าหญิงตัวน้อยแห่งอเมซอน นางเป็นคนเลี้ยงเธอมาตั้งแต่ยังเล็กจนบัดนี้ และนางก็รู้สึกสงสารองค์หญิงน้อยจับใจ

     

             หลายครั้งที่นางเห็นเธอน้ำตาคลอ ยามฟังนิทานกล่อมเด็กก่อนนอนเรื่องเกี่ยวกับแม่...

     

             หรือเมื่อวันนั้นที่ท่านเฮลด้าทรงตบหน้าองค์หญิง นางก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

     

             หวังเพียงแต่องค์หญิงน้อยของนางจะเข้าใจความรู้สึกของ ท่าน ได้ในซักวัน...

             อเมซอนนั้นก็ไม่ได้เป็นประเทศที่ใหญ่โตอะไรมากมายนัก เที่ยวเล่นได้ไม่นานก็ทำให้คนอย่างเธอเบื่อเสียแล้ว ตั้งแต่เด็กมาก็ได้แต่ขี่ม้าเล่นในที่เดิมๆ ความจริงถือโอกาสเปลี่ยนบรรยากาศซักหน่อยก็ไม่เลว

     

             หัวสมองคิดในขณะที่สายตาทอดมองไปยังเบื้องหน้า ตอนนี้เจ้าหญิงน้อยกับอาชาคู่ใจหยุดอยู่บริเวณชายแดนเชื่อมต่อระหว่างอเมซอน-ทริสทอร์

     

             ทริสทอร์หรือ...

     

             รอยยิ้มบางผุดขึ้นที่ริมฝีปากน้อยอย่างนึกสนุก จนกระทั่งลืมไปสนิทว่าเธอจะเที่ยวเถลไถลออกนอกเขตแดนอเมซอนไม่ได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากท่านแม่

     

             มาทิลด้ากระตุกบังเหียนน้อยๆม้าสีน้ำตาลตัวโปรดก็พาเธอตรงไปยังจุดหมายเบื้องหน้าทันที


             นครเกรดสองแห่งเอเดนอย่างทริสทอร์เป็นสถานที่ที่คึกคักและพลุกพล่านไปด้วยประชาชนมากมายอย่างที่หาได้ยากในอเมซอนที่มักจะมีแต่ผู้หญิงเป็นส่วนมาก

     

             นัยน์ตาสีเขียวกวาดมองไปรอบๆอย่างตื่นเต้น อย่างที่ไม่ได้กังวลว่าจะมีใครรู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน ด้วยเสื้อผ้าที่มอมแมมและใบหน้าที่เปื้อนเขม่าเช่นทุกครั้ง อย่างน้อยก็ไม่แคล้วมีแต่คนคิดว่าเธอเป็นขอทาน

     

             ทริสทอร์เป็นประเทศเล็กๆที่มีความสัมพันธ์อันดีต่ออเมซอนมาตั้งแต่สมัยก่อนกาลนาน จำได้ว่าตอนยังเล็กเธอก็เคยมาที่นี่กับท่านแม่ มาในฐานะเจ้าหญิงแห่งอเมซอน ท่านวีเมย์ คาราคัส กษัตริย์แห่งทริสทอร์ทรงมีพระทัยดีมาก

     

             เด็กน้อยมองข้าวของที่วางขายอยู่ในตลาดด้วยความอยากรู้อยากเห็นจนไม่ทันสังเกตว่าได้ไปชนเข้ากลับใครเข้าให้แล้ว

     

             โอ้ย!” มาทิลด้าร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บจากแรงกระแทกเมื่อครู่ มือน้อยยกขึ้นจับศีรษะบริเวณที่มีผ้าพันแผลพันไว้ เพราะทำเอารอยแผลที่ได้จากการเล่นซนปีนต้นไม้เมื่อวานเริ่มปริขึ้นมาอีกแล้ว

     

             ไอ้หนูหน้าสวยนี่ มาเล่นซนอะไรแถวนี้ บ้านช่องมีไม่รู้จักกลับ หรือจะกลับกับพวกพี่ไหม เสียงห้าวของบุรุษร่างใหญ่ผู้หนึ่งทำให้นัยน์ตาสีเขียวรีบตวัดขึ้นไปมองทันที

     

             ไม่ เสียงหวานร้องตอบทันควัน ก่อนที่เธอจะรีบผละออกไปอย่างไม่อยากจะยุ่งกับพวกนักเลงแถวนี้

     

             เฮ้ เดี๋ยวสิ คิดว่าชนพี่แล้วจะหนีไปได้ง่ายๆอย่างนั้นหรือ มือกร้านคว้าหมับที่ต้นแขนเล็กจนเด็กหญิงทำท่าเซจะล้ม

     

             ปล่อยฉัน มาทิลด้ากัดฟันแน่นอย่างเริ่มโมโห อย่าคิดว่าตัวโตแล้วจะมารังแกเด็กอย่างเธอได้

     

             มากับพี่เลยมา ชายผู้นี้ฉุดลากร่างบางให้ตามเขาไป จนเจ้าหญิงแห่งอเมซอนชักทนไม่ได้ คว้าดาบขึ้นมาหมายจะต่อสู้

     

             โป๊ก!

     

             ก้อนหินก้อนหนึ่งถูกปาใส่หัวบุรุษอันธพาลอย่างแม่นยำ ทำให้คนที่กำลังเงื้อดาบชะงักกึก นัยน์ตาสีเขียวหันไปมองผู้ช่วยเหลือทันที

     

             กะ... แก... ไอ้หน้าอ่อน เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คิดลองดีกับฉันรึ ใบหน้าหยาบกร้านแดงจัดขึ้นมาด้วยความโกรธ ก่อนที่จะพุ่งตรงไปที่ร่างของผู้มาใหม่

     

             นัยน์ตาสีเขียวของเจ้าหญิงแห่งอเมซอนเบิกกว้างเมื่อเห็นร่างนั้นเพียงแค่ขยับมือไปมา ก่อนจะดีดนิ้วเปาะ เพียงเท่านั้นร่างของบุรุษผู้เป็นนักเลงก็ดิ้นพล่านไปมาอย่างเจ็บปวด ใบหน้าบิดเบี้ยวเหมือนกับโดนอะไรบางอย่าง และเพียงแค่คนผู้นั้นกระพริบตาเพียงครั้งเดียว ทุกอย่างก็กลับเป็นเหมือนเดิม แล้วนายนักเลงนั่นก็รีบหนีไป

     

             สวัสดี เสียงทักทายดังขึ้นเบาๆ

     

             เอ่อ... ขอบใจ มาทิลด้าเอ่ยอย่างงุนงง พลางมองคนตรงหน้าที่กำลังเดินเข้ามาใกล้

     

             เด็กชายวัยไล่เลี่ยกับเธอ มีผมสีชา ดวงตาสีเขียวมรกตเช่นเดียวกับเธอ รูปร่างผอมบางอยู่ในชุดดูดีมีราคาอย่างคนมีฐานะ หากแต่ฝีมือที่ร้ายกาจเมื่อครู่ทำเอาเธอตกใจ

     

             ดูท่าเธอจะไม่ใช่คนที่นี่สินะ เด็กชายถามขึ้น

     

             ฉันเป็นคนอเมซอนเจ้าหญิงแห่งอเมซอนเอ่ยตอบ ก่อนที่ดวงตาสีเขียวสองคู่จะสบประสานกัน แล้วเด็กชายก็ขยับยิ้มบางๆ

     

             มาเที่ยวหรือ

     

             อืม... ฉันแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศนิดหน่อย อยู่ที่นั่นนานๆมันน่าเบื่อ มาทิลด้าตอบ ก่อนจะเก็บดาบที่ถือไว้นานจนคนตรงหน้าเริ่มมองอย่างสนใจ

     

             ฉันเองก็ไม่ใช่คนที่นี่เหมือนกัน เด็กชายตอบบ้าง ในขณะที่ทั้งสองเดินไปตามทางเดินด้วยกัน

             อ้าวหรอ แล้วงั้นนายมาจากไหนล่ะ คิ้วเรียวเล็กเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ จนคนมองแย้มรอยยิ้มอีกรอบ

     

             ฉันมาจากเวนอล

     

             นายนี่เก่งมากเลยนะ เมื่อกี้นายทำได้ไงหรอ ฉันไม่เห็นนายจะใช้อะไรเลยนี่ เจ้าหญิงน้อยถามอย่างใสซื่อ คนถูกถามเพียงแต่ยิ้มตอบเท่านั้น

     

             เธอแอบหนีมาเที่ยวแบบนี้พ่อแม่ไม่ว่าหรือ คำถามที่ถูกส่งกลับจากเด็กชายทำเอานัยน์ตาสีเขียวเริ่มหม่นแสงเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

     

             ไม่หรอกมั้ง ท่านไม่เคยสนใจอยู่แล้วนี่ ว่าแต่ว่า... นายขี่ม้าเป็นไหม มาทิลด้ารีบเปลี่ยนเรื่องใหม่ พลางแย้มรอยยิ้มสดใสน่ารัก

     

             เด็กชายผมสีชาอ่อนส่ายหน้าเบาๆ แต่เท่านั้น มือบางก็คว้าข้อมือของเขาไว้ทันที ก่อนที่จะลากให้ตามเธอไป

     

             งั้นตามมา

     

       

             สองร่างเล็กอยู่บนหลังอาชาไนยสีน้ำตาลอ่อนที่กำลังควบไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เด็กหญิงคนผมสีดำที่นั่งอยู่ด้านหน้าท่าทางทะมัดทะแมงกระตุกบังเหียนม้าอย่างชำนาญ ในขณะที่เด็กชายคนข้างหลังนั่งซ้อนท้ายใช้สองมือเกาะคนข้างหน้าไว้แน่น นัยน์ตาสีเขียวหลับปี๋อย่างตื่นกลัว

     

             ช้าๆหน่อยสิเสียงสั่นๆดังจากเพื่อนคนใหม่ของเธอที่ทำเอาเจ้าหญิงแห่งอเมซอนหลุดหัวเราะคิก

     

             ฮ่าๆ เพิ่งจะรู้ว่าว่านายก็กลัวเป็นเหมือนกันนะเนี่ยคนขี้แกล้งยังไม่ยอมหยุด มือน้อยกระตุกบังเหียนให้ม้าควบเร็วขึ้นหวังแกล้งอีกคน

     

             นี่ฉันกลัวจริงๆนะ เด็กชายบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้มาทิลด้ายอมชะลอความเร็วลงเพราะกลัวเจ้าคนข้างหลังมันจะหัวใจวายเสียก่อน 

             เธอขี่ม้าเก่งนี่ เด็กชายเอ่ยขึ้นหลังจากลงจากหลังม้าแล้ว

     

             ก็ฉันหัดตั้งแต่เล็กแล้วนี่ นายเองก็น่าจะลองขี่ดูบ้างนะ เจ้าหญิงจอมซนเอ่ยกลั้วหัวเราะ พลางกระโดดจากหลังม้าลงมานั่งเคียงข้างกันบนพื้นหญ้าสีเขียวชอุ่ม

     

             ถึงฉันจะขี่ไม่ได้ แต่ฉันก็ทำให้ม้าควบเองได้แล้วกัน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเด็กชายก่อนที่ม้าตัวน้อยจะควบวนไปมารอบๆได้ และเพียงเขากระพริบตาสีเขียวคู่นั้นม้าของเธอก็กลับมาที่เดิมโดยไม่มีใครต้องบังคับ

     

             นี่นาย... มาทิลด้าอ้าปากค้าง ไอ้หมอนี่มีเวทมนตร์สูงไม่หยอก แค่พูดหรือแค่กระพริบตานิดเดียวก็สามารถสั่งอะไรได้หมด

     

             นัยน์ตาสีเขียวเหลือบไปเห็นสิ่งบางอย่างในมือของคนข้างตัว จึงเอ่ยถามขึ้น

     

             นั่นอะไรน่ะ

     

             เด็กชายหันมาก่อนที่จะแบมือให้ดู คริสตัลสีเขียวใสอันเล็กปรากฏอยู่ในมือน้อยเป็นประกายสะท้อนแสงเข้าตาสีเขียวของคนมอง

     

             มันคือคริสตัลที่จะช่วยรักษาบาดแผลได้ เพียงเธอทาบมันลงไปบนบาดแผลอย่างนี้ ว่าแล้วคนพูดก็นำคริสตัลสีเขียวไปวางทาบบนหัวของมาทิลด้าบริเวณที่มีบาดแผลแตกที่ได้รับเมื่อวาน เพียงเท่านั้น แสงสว่างวาบปรากฏขึ้นแล้วรอยแผลก็หายสนิท ราวกับไม่เคยเกิดขึ้น

     

             สุดยอด นัยน์ตาสีเขียวเบิกกว้างกับความประหลาดของเพื่อนใหม่คนนี้

     

             ฉันให้เธอ เด็กชายแย้มรอยยิ้มก่อนนำคริสตัลใสวางลงบนมือของอีกคน จนเจ้าหญิงองค์น้อยร้องอย่างประหลาดใจ

     

             แล้วนายไม่เก็บมันไว้หรอ

     

             ไม่เป็นไร ฉันให้ เท่านั้นรอยยิ้มแฉ่งก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหวานอย่างยินดี เมื่อเห็นเช่นนี้คนให้ก็แย้มรอยยิ้มกว้างมากขึ้นไปอีก 

             นายมาทำอะไรที่ทริสทอร์มาทิลด้าถามในขณะที่เก็บคริสตัลลงกระเป๋าเสื้อ

     

             ฉันมาเยี่ยมท่านทวดที่นี่เป็นประจำทุกปีน่ะ พอดีวันนี้เบื่อๆก็เลยขอท่านทวดออกมาเดินเล่นที่ตลาดเด็กชายพูดขึ้น ทำให้เจ้าหญิงอเมซอนเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ ทะลึ่งตัวลุกพรวดขึ้นมาทันทีอย่างร้อนรน

     

             ตายแล้ว ลืมเวลาไปสนิท ฉันต้องกลับแล้วล่ะ เธอเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าบอกจะออกมาแป๊บเดียว แต่นี่ก็เย็นมากแล้ว

     

             อืม ฉันเองก็ต้องกลับเหมือนกัน เด็กชายพูดขึ้นในขณะที่เด็กหญิงรีบขึ้นไปบนหลังม้าอย่างรวดเร็ว

     

             เดี๋ยวสิฉันยังไม่รู้จักชื่อเธอเลย เด็กชายร้องถาม

     

             ฉันชื่อ มาทิลด้า แล้วนาย... เจ้าหญิงแห่งอเมซอนรีบตอบกลับไป ทำให้คนฟังแย้มรอยยิ้มประหลาดแต่ดูอบอุ่น ก่อนที่จะพูดขึ้น

     

             ชาเบรียน โบแด็ง  



     


             

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×