คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Am@zon!!! I : 1 >>> มาทิลด้า ซิลเวอร์ แห่งอเมซอน 100%
ธงสีเขียวเข้มลายผู้หญิงสาวที่กำลังเริงระบำโลดแล่นพลิ้วไสวยามต้องสายลมอ่อนๆที่พัดมา ดูสง่างามสมชื่อเมืองแห่งผู้หญิง ณ อเมซอนแห่งนี้
ด้วยความที่เป็นประเทศที่มีประชากรหญิงเป็นจำนวนมาก ทำให้อเมซอนค่อนข้างเป็นเป็นประเทศที่มีระเบียบ ถนนหนทางหรือบ้านเรือนที่ปลูกขึ้นเป็นหย่อมๆดูแล้วสะอาดตา แต่ก็เป็นประเทศคึกคักและมีคนพลุกพล่านเช่นเดียวกัน
ร่างเล็กของเด็กหญิงเดินปะปนอยู่ในกลุ่มฝูงชนที่สาละวนอยู่กับการจับจ่ายข้าวของในตลาดอเมซอนยามสายแก่ๆ ดวงอาทิตย์ใกล้จะตรงศีรษะพอดี เสียงพ่อค้าแม่ขายยังคงดังมาเป็นระยะๆเรียกลูกค้าเข้าร้านของตนเอง
นัยน์ตาสีเขียวมรกตเป็นประกายสะท้อนกับแสงแดด รอยยิ้มอ่อนๆผุดบนใบหน้าเนียนใสหากแต่กลับเป็นรอยยิ้มที่บอกไม่ได้ว่าสุขหรือเศร้ากันแน่
“แม่ฮะ แม่” เสียงเล็กๆของเด็กชายคนหนึ่งทำให้นัยน์ตาคู่นี้หันไปมองทันที
“ผมอยากได้ไอ้นี่” เด็กน้อยชูถุงขนมขึ้นมาให้หญิงสาวนางหนึ่งดู นางเพียงแค่พยักหน้าและยิ้มน้อยๆเท่านั้น เด็กชายก็ยิ้มแก้มแทบปริ กระโดดกอดทันที
“ไชโย ขอบคุณฮะแม่ ผมรักแม่ที่สุดเลย”
ใบหน้าน้อยรีบเบือนหนีจากภาพของสองแม่ลูก ก่อนจะสาวเท้าเดินต่อไปอย่างไม่คิดจะสนใจ แม้จะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆอยู่ในอกจนน้ำตาคลอเบ้าตาทั้งสองข้าง
เธอจะได้มีโอกาสสัมผัสอ้อมกอดอบอุ่นแบบนั้นบ้างหรือ...
อ้อมกอดอย่างที่คนที่มีค่าที่สุดในชีวิตยังไม่เคยให้ได้
น้ำใสที่คลออยู่เต็มหน่วยหลั่งรินอย่างเกินหักห้าม มือบางรีบยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ ก่อนจะพยายามกลั้นเสียงสะอื้น
ใครกันบอกว่าคนที่รักเรามากที่สุดในชีวิตคือผู้หญิงคนนั้น...
ใครกันบอกว่าเธอคือคนที่จะยืนเคียงข้างเสมอไม่ว่าในยามไหน...
ใครกันบอกว่าเธอคือแสงสว่างที่ทำให้ชีวิตไม่มืดมน...
เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้กับผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงคนที่ชื่อว่า เฮลด้า ซิลเวอร์ เดอะคิง ออฟ อเมซอน
“องค์หญิง! ลงมาเพคะ เดี๋ยวก็ตกลงมาหรอกเพคะ” เสียงหวานร้องเรียกอย่างพยายามให้ใครอีกคนได้ยิน หากว่าร่างน้อยเพียงแค่หันใบหน้ากลับมามองก็ส่งยิ้มให้ ก่อนที่เท้าเล็กจะปีนป่ายตามกิ่งต้นไม้ต่อไปอย่างคล่องแคล่วนัก
“โธ่เอ๋ย... ถ้าองค์หญิงไม่ฟังนม เดี๋ยวนมจะไปตามท่านเฮลด้าเดี๋ยวนี้นะเพคะ” นัยน์ตาสีน้ำเงินของแม่นมคนสวยนาม เชอร์ริล ที่เลี้ยงดูเจ้าหญิงแห่งอเมซอนมากับมือจับจ้องไปยังร่างบางที่กำลังไต่ต้นไม้ใหญ่อย่างรวดเร็วราวกับลิง
“อย่านะนม เราแค่อยากปีนต้นไม้เล่นก็เท่านั้นเอง” เสียงใสของเจ้าหญิงองค์น้อยรีบตอบกลับมาทันทีอย่างที่กลัวคำขู่นี้จริงๆ ทำให้คนที่อยู่ข้างล่างหัวเราะเบาๆและส่ายหน้าอย่างนึกเอ็นดู
ร่างบอบบางของเจ้าหญิงแห่งอเมซอนปีนป่ายไปตามกิ่งไม้น้อยใหญ่ต่อไป ก่อนจะไปถึงยอดไม้โดยใช้เวลาเพียงไม่นานนัก
“ว้าว บนนี้สวยมากเลยล่ะ นมขึ้นมาดูสิจ้ะ” พูดพร้อมกับที่นัยน์ตาสีเขียวจับจ้องไปยังทัศนียภาพเบื้องหน้า อเมซอนเมื่อมองจากที่สูงเป็นประเทศที่ดูแล้วสวยงามตายิ่งนัก
“เพคะ... นมรู้แล้วว่าสวยมาก แต่องค์หญิงรีบลงมาสิเพคะ ก่อนที่จะ...”
แม่นมเชอร์ริลยังพูดไม่ทันจบประโยค ร่างของเจ้าหญิงมาทิลด้าก็หล่นผล็อยลงมาจากยอดไม้ทันที
“องค์หญิง!” เชอร์ริลร้องเสียงหลง
ร่างบางหล่นลงมาที่พื้นและศีรษะก็กระแทกกับพื้นอย่างแรงจนเลือดอาบ เจ้าหญิงน้อยตกใจมากจึงรีบลุกขึ้นมาทันทีโดยไม่ทันที่แม่นมจะได้ทันเข้ามาประคอง
“โอย... เจ็บเป็นบ้า” มาทิลด้ายกมือลูบหัวที่มีโลหิตซึมออกมา ก่อนจะจ้องมองนัยน์ตาที่เคยอ่อนโยนของแม่นมที่ตอนนี้ฉายแววดุ
“หม่อมฉันบอกแล้วไม่ฟัง ดูสิ ต้องให้เลือดตกยางออกจนได้” เชอร์ริลบ่นพลางเข้ามาดูบาดแผลของเจ้าหญิงที่แสนรักดังบุตรในอุทร
“แหะๆ นมก็... เราแค่ก้าวพลาดนิดเดียวเอง ไม่เป็นไร คราวหน้าลองใหม่” เจ้าหญิงจอมซนแห่งอเมซอนส่งยิ้มแห้งๆ จนอีกคนต้องระบายลมหายใจอย่างแสนระอา
“ลองใหม่... ดีสิเพคะองค์หญิง คราวนี้จะไม่ได้แค่เลือดหัวออกอย่างเดียว” เชอร์ริลพูดประชดเล็กๆ แต่ร่างน้อยข้างตัวรีบยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มทันควัน ทำเอานัยน์ตาสีน้ำเงินเบิกโพลงอย่างตกใจ
“อย่าโกรธกันเลยน้า... นมนะ ต่อไปเราจะระวังตัวมากๆ” เพราะรอยยิ้มน่ารักแทบใจละลายกับดวงตาสีเขียวใสแจ๋วที่จ้องมองมาอย่างใสซื่อบริสุทธิ์ ทำให้แม่นมเชอร์ริลใจอ่อนยวบ ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆอย่างอ่อนใจกับเจ้าหญิงแห่งอเมซอน
“ก็ได้เพคะ แต่องค์หญิงไปทำแผลเถอะ ไปรอที่ห้องนะเพคะ เดี๋ยวนมจะตามไป ขอไปเอาอุปกรณ์ทำแผลก่อน”
“ตกลงจ้ะ” มาทิลด้าพยักหน้าก่อนที่ร่างเล็กจะรีบวิ่งปร๋อออกไปโดยไม่สนใจกับบาดแผลที่เพิ่งได้รับมาสดๆร้อนๆบนหัวของตัวเองเลยสักนิด
พระราชวังอเมซอนที่นี้คือบ้านของเธอมาตั้งแต่ยังจำความได้ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใดก็ไม่ได้เปลี่ยนไปสักเท่าใด เนื่องด้วยกษัตริย์ผู้ปกครองไม่ได้มีเวลาว่างมากพอที่จะเอาเวลามานั่งปรับปรุงพระราชวังที่เริ่มจะทรุดโทรม
ใช่สิ... เพราะแม้จะเจียดเวลามาอยู่กับเธอยังไม่เคยมี
คิดมาถึงตรงนี้ขอบตาก็เริ่มร้อนผะผ่าว จนต้องสะบัดหน้าไปมาหลายๆครั้ง ด้วยรู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนี้แม้จะอดน้อยใจไม่ได้
ไม่สมควรเลยที่นี่จะเป็นความคิดของเด็กวัยเพียงหกปีที่น่าจะใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานและร่าเริงไปวันๆ หากแต่จะให้เธอห้ามความคิดนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้
ตั้งแต่จำความได้ ชีวิตของเด็กหญิงผู้เป็นรัชทายาทแห่งอเมซอนคนนี้ไม่เคยมีสักครั้งที่จะได้รับความรักจากคนเป็นแม่
หากไม่ได้ความรักจากแม่ แล้วจะหวังไปหาความรักได้จากใครที่ไหน...
พ่อหรือ... ตั้งแต่เกิดมา รู้แต่ว่ามีพ่อก็เหมือนไม่มี
มีเพียงแม่นมเชอร์ริลเท่านั้นจริงๆที่จะปลอบใจเธอ ดูแลเธอ และมอบความรักให้ยิ่งกว่าแม่จริงๆเสียอีก
ร่างบางที่เดินไปตามโถงทางเดินใหญ่ที่ทอดยาว บรรยากาศที่เงียบสงบทำให้ความคิดยังคงแล่นต่อไปโดยไม่ทันสังเกตบางสิ่ง
“โอ้ย!” มาทิลด้าล้มลงกับพื้นด้วยที่ชนเข้ากับสิ่งนั้นจังๆ
นัยน์ตาช้อนขึ้นมองแล้วก็ต้องตกใจอย่างสุดขีด เมื่อรู้ถึงการมาของใครบางคน
สตรีร่างสูงผิวเข้มสีน้ำผึ้งสง่าอย่างนักรบ ใบหน้างดงามเรียบเฉยไม่ปรากฏถึงอารมณ์ภายในเลยสักนิด ดวงตาดุและเฉยชาที่ไม่เคยเปลี่ยน
เฮลด้า ซิลเวอร์ แห่งอเมซอน!
“ท่านแม่...” เสียงหวานอุทานแผ่วเบาอย่างตกใจ ก่อนจะรีบยันกายขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วโน้มตัวคำนับอย่างเรียบร้อย
นัยน์ตาคมกริบกวาดมองร่างของเจ้าหญิงน้อย ตั้งแต่เท้าเล็กที่เปลือยเปล่า ไม่มีอะไรสวมใส่ เสื้อผ้าการแต่งกายที่สกปรกมอมแมมอย่างเด็กผู้ชายที่มีรอยเลอะเทอะ ใบหน้าสวยที่ขะมุกขะมอมมีรอยเลือดไหลลงมาข้างแก้ม
“หัวไปโดนอะไร” เสียงเข้มเอ่ยถามขึ้น
“เอ่อ...” เจ้าหญิงแห่งอเมซอนอึกอัก เพราะกลัวเหลือเกินที่จะถูกว่า
“ข้าถามไม่ได้ยินหรือไง” คราวนี้จากเสียงเข้มเปลี่ยนเป็นตวาดจนร่างน้อยสะดุ้งวาบ ก่อนจะรีบละล่ำละลักตอบออกไปทันที
“คือหม่อมฉันปีนต้นไม้เล่นแล้วตกลงมาหัวเลยแตกเพคะ”
คราวนี้ดวงตาของคิงแห่งอเมซอนดุจัดขึ้นมาทำเอามาทิลด้าใจสั่นด้วยกลัวจะถูกต่อว่าอีกครา ไม่หวังเลยสักนิดว่าท่านแม่จะปลอบใจหรือเป็นห่วงใยอะไรกับบาดแผลของเธอ
เพี๊ยะ!
ใบหน้าเล็กหันไปตามแรงฝ่ามือที่ฟาดมาอย่างแรงจนทรงกายไม่อยู่และล้มคะมำลงกับพื้น
“ผู้ที่ทำตัวไม่เหมาะสมกับรัชทายาทเช่นนี้หาใช่สายเลือดแห่งข้าไม่” คำพูดที่ดังเข้ามากระทบโสตประสาทของเจ้าหญิงน้อยก่อนที่ร่างของกษัตริย์แห่งอเมซอนจะจากไปโดยทันที
ใบหน้าที่เปื้อนเลือดค่อยๆเงยขึ้นอย่างช้าๆ แววอาดูรฉายบนนัยน์ตาที่พร่างพรายไปด้วยหยาดน้ำตาพร่ามัวจนมองเห็นเพียงแผ่นหลังรางๆของคนที่เธอรักและเคารพเทิดทูนอย่างที่สุดที่ทำให้หัวใจดวงน้อยดวงนี้แตกสลายยับเยิน
“ท่านแม่...” ปากบางที่มีเลือดซึมเอื้อนเอ่ยขึ้นอย่างยากลำบาก น้ำตาแห่งเจ้าหญิงอเมซอนไหลจากดวงตาคู่สวยลงมาปะปนกับโลหิตที่ไหลซึมก่อนจะหยดลงมาบนพื้น
ไม่เป็นห่วงเธอไม่ว่า
แต่นี่ถึงขนาดตบหน้า...
ผิดมากหรือกับแค่เล่นซนตามประสาเด็ก
ผู้ที่ทำตัวไม่เหมาะสมกับรัชทายาทเช่นนี้หาใช่สายเลือดแห่งข้าไม่ ... เพิ่งจะพูดเอาตอนนี้หรือท่านแม่ เธอไม่มีสิทธิ์เสียตั้งแต่ตอนที่ลืมตาขึ้นมาดูโลกนี้แล้วต่างหาก
ตั้งแต่จำความได้ เธอไม่เคยเลยสักครั้งที่จะสัมผัสถึงคำว่า ‘แม่’ จากคนเป็นแม่ ไม่เคยเลยจริงๆ
ความคิดเห็น