คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : กังวล
ฉันเอาหน้าซุกกับโต๊ะที่ห้องตัวเองอย่างหมดความหวัง ฉันไปถามครูแต่ละคนเกี่ยวกับคะแนนของฉันครูไม่ตอบเพียงแค่ส่ายหน้าแล้วส่งสายตาอย่างสงสารมาให้แค่นั้น แฟรงกี้ต้องผิดหวังในตัวฉันมากแน่ๆเลย เฮ้อ.. แถมยังยังอุตส่าห์หาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตบลาๆเขาบอกว่าการนอนจะทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น ฉันเลยเอาวิธีนี้ไปใช้ แล้วเกือบถูกครูไล่ตะเพิดออกมาจากห้องอีกด้วยT^T ก็ฉันเล่นนอนกินเวลาสอบไปจนเหลือสิบนาทีสุดท้าย ฉันก็รีบกุลีกุจอทำจนมือแทบจะพันกัน แถมเรื่องที่แฟรงกี้สอนมามันออกสอบเกือบทุกข้อแต่ว่าฉันดันจำคำตอบมันไม่ได้ ฉันแค่นหัวเราะให้กับสมองของตัวเองแล้วปาหนังสือใส่ผนังสุดแรง
ปั้กก !
“เฮ้ยย ! ปามาได้” ฉันตกใจรีบเงยหน้ามองต้นเสียงเห็นแฟรงกี้ลูบแขนเขาป้อยๆ แล้วมองมาทางฉันอย่างไม่พอใจ งั้นที่แขนเขาแดงๆนั่นเป็นเพราะฉันใช่มั้ยเนี่ย จำได้ว่าโยนใส่ผนังห้องนี่หว่าTOT
“แฟรงกี้ฉันขอโทษ เป็นอะไรรึป่าวฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะT^T”
“ไม่ต้องลุก นั่งตรงนั้นแหละ” แฟรงกี้รีบห้ามเมื่อเห็นฉันจะลุกขึ้นไปดูเขาสักหน่อย ฉันนั่งลงทันทีที่เขาบอก เขานั่งลงข้างๆฉันซึ่งเป็นที่ของผัดไทยแต่ว่า ผัดไทยไปส่งงานอยู่ ส่วนเฮนรี่ก็นั่งหมุนปากกาไปมาอย่างไม่พอใจอยู่ข้างหลัง ออสตินแอบกินแอปเปิ้ลในห้องเรียน เลโอฟุบหลับ และสุดท้ายลีโอนั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์อย่างเมามันส์ แต่ในขณะเดียวกันสาวๆในห้องบางกลุ่มก็ส่งสายตารักอย่างสุดซึ้งมาให้บอดี้การ์ดแต่ละคนของฉัน ฉันชินกับภาพนี้ดี
“สอบเป็นไงบ้างทำได้มั้ย” ฉันซึ้งจนน้ำตาแทบไหล เสียงเขาไม่ใช่ด่าหรือตำหนิ แต่มันอ่อนโยนและให้กำลังใจมากกว่า ฉันสบตาเขานิ่งๆแล้วหลบตาเขาอย่างอายๆ ฉันไม่กล้าสู้หน้าเขาหรอก นอกจากจะทำข้อสอบไม่ได้แล้ว ยังหลับในห้องสอบอีกด้วย..
“ฉันคิดว่า..”
“คิดว่า? เฮ้..หันหน้ามาสิ มองตาฉันแล้วก็บอกตรงๆเลยดีกว่าอย่ากลัวเลยเธอพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว ฉันเชื่ออย่างนั้น”
“แฟรงกี้ ฉัน ฉัน.. ทำไม่ได้ ฮึกกT_T” ฉันกะจะไม่ร้องแล้วเชียวแต่พอหันมาสบตากับเขา น้ำตาก็ไหลออกมาโดยอัตโนมัติอย่างเขื่อนแตก ยิ่งเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความหวังลึกๆของเขา ฉันก็ละอายกว่าอะไรทุกอย่าง ฉันมันโง่แก้ไม่หายจริงๆ !
เขามองหน้าฉันนิ่งแล้วดึงฉันเข้าไปกอดปลอบเบาๆก่อนที่จะลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยนแล้วพูดคำเดิมซ้ำไปซ้ำมา อย่างให้กำลังใจ ฉันตัวสั่นและเอามือปิดปากตัวเองแน่นกลัวเสียงร้องจะดัง เพราะแค่นี้ก็อับอายคนในห้องมากพอแล้ว
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรนะ...”
หลังอาหารเย็น ฉันก็ขึ้นห้องไปอย่างกับร่างไร้วิญญาณ ตลอดเวลาอาหารฉันไม่พูดอะไรเลยและดูเหมือนว่าทุกคนจะเข้าใจว่าฉันอยู่ในอารมณ์ไหน แม้ว่าจะไม่มีใครกล้าถาม ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมาแล้วพร้อมใจกันเงียบ.. ขอบคุณนะทุกคน..
ทั้งๆที่แฟรงกี้เหนื่อยกับฉันมามาก พร่ำบอกพร่ำสอนแต่มันก็ไม่เข้าหัวฉันเลย ฉันไม่คู่ควรกับเขาจริงๆนั่นแหละ สมแล้วที่เขาไม่ได้ชอบฉันมาแม้แต่นิดเดียว ฉันรู้ว่าตลอดเวลาที่เขาอยู่ที่นี่เขาคงคิดถึงบ้านตัวเองมาก แม้ว่าเขาจะสนิทกับพ่อแม่ฉันขนาดไหนก็ตาม แต่ทุกคนก็ล้วนแต่อยากอยู่บ้านตัวเองทั้งนั้นแหละ ถ้าฉันยังทำเกรดให้ดีขึ้นไม่ได้ แฟรงกี้คงต้องอยู่ที่นี่ต่อตามคำสั่งของพ่อเขาแน่ ฉันไม่อยากให้เขาเดือดร้อนเพราะความโง่ของตัวเองเลย
ก้อก ก้อก ก้อก..
เอ๋? คนกำลังดราม่าอยู่ใครมาเคาะประตูเนี่ย =_=^
ขอดราม่าแบบนางเอกในซีรีย์แป๊ปดิ -o-
แอ้ดดดดดดดด~
ฉันเดินไปเปิดประตูอย่างเซ็งๆ เห็นแฟรงกี้ยืนเก๊กหล่ออยู่หน้าห้อง พร้อมกับยิ้มกว้าง ยิงฟันขาวอย่างทะเล้นแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ฉันมองเขาอย่างแปลกใจจนเขาหุบยิ้ม
“ฉันเข้าไปได้มะ”
“อ้อ..ได้” ฉันยักไหล่แบบสบายๆแค่นั้นแล้วเดินนำเขาเข้ามาในห้อง แฟรงกี้เดินตรงไปโต๊ะเขียนหนังสือของฉันแล้วลากเก้าอี้มาอยู่ข้างเตียงฉัน จากนั้นก็ชี้ไปบนเตียงแล้วหันมามองฉัน เขาพยักเพยิดหน้าไปตรงเตียงฉันเลยเดินไปนั่งลงบนเตียงตัวเองอย่าง งงๆ เขามีธุระอะไรกับฉันเนี่ย หรือว่าเขาจะมาปลอบใจฉันนะ? เฮ้ยย! เป็นไปบ่ได้ เขาไม่เคยเป็นเยี่ยงนี้นะ
“แม้แต่ตอนนี้เธอยังทำหน้าโง่ๆอยู่ได้”
ว่างั้นแหละ -^-
“นายจะมาต่อว่าฉันเรื่องสอบใช่มั้ยล่ะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ผลยังไม่ออกมาทำไมเธอต้องรีบเศร้าเป็นหมาหงอยแบบนี้ด้วยล่ะ”
ไม่ออกแล้วไงฟะ แอบหลับในห้องสอบแถมยังจำเนื้อหาไม่ได้ ผ่านนี่ก็มหัศจรรย์แล้วโว้ย
“แน้~ ยังมาแอบด่าทางสายตาอีก”
“ไม่ได้ด่าซะหน่อย นายจะมาปลอบใจฉันใช่มั้ย ฉันว่าไม่จำเป็นหรอกนะ แต่ในเมื่อนายอุตส่าห์ดั้นด้นมาถึงที่นี่ ก็ช่วยไม่ได้ ฉันจะยอมรับคำปลอบใจแล้วกันนะ” แน้~ ทำเป็นเข้ม แอบหมั่นไส้ตัวเองเบาๆ
“ไม่ใช่เรื่องนั้นซะหน่อย ฉันแค่จะมาบอกว่าพ่อฉันให้กลับบ้านได้แล้ว พรุ่งนี้พ่อจะส่งคนมารับน่ะ ต้องขอบคุณพ่อเธอนะเนี่ยที่อุตส่าห์ช่วยพูดให้พ่อฉันยอมรับ^^”
อะไรนะ? กลับบ้าน? พรุ่งนี้? งั้นเหรอ?
ทั้งๆที่เมื่อกี้ฉันยังเศร้าและเสียใจที่กลัวว่าเขาจะไม่ได้กลับบ้านเพราะความโง่ของฉัน แต่ว่าตอนนี้ทำไมฉันกลับหายเศร้าแล้วใจหายแทนล่ะ.. เขาจะกลับบ้านแล้ว ดีใจสิโว้ยยย ดีใจสิมินิ เฮ้ ! ฉันควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ ใช่แล้วมินิ บอกกับเขาไปสิว่า ยินดีด้วยนะ แล้วยิ้มให้เขาซะ...
“ไม่ต้องกังวลหรอกนะ ว่าเธอจะทำให้ฉันไม่ได้กลับบ้าน ตอนนี้พ่อฉันเข้าใจดีแล้วล่ะ แล้วที่ฉันไปหาเธอที่ห้องวันนี้ไม่ใช่เพราะว่าฉันเป็นห่วงเรื่องที่เธอจะทำเกรดไม่ดีแล้วส่งผลต่อฉันหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่าฉันเป็นห่วงน่ะ^_^” ขะ..เข้าใจดี เข้าใจอะไรวะ เข้าใจว่าฉันโง่น่ะหรอเย้ยยย ! -_-^
“ขอบใจนะ แต่ว่านายจะไปพรุ่งนี้แล้วเหรอ”
“อืม ประมาณนั้นแหละ ทำไมจะรั้งฉันไว้เหรอ^^” เขายิ้มทะเล้น
“ป่าว จะเก็บของช่วย”
ฉันว่าฉันไม่น่าพูดไปอย่างนั้นเลย เพราะพอฉันพูดอย่างนั้นแฟรงกี้ก็ใช้ฉันอย่างกับทาสชี้ให้พับโน่นพับนี่ใส่กระเป๋าอย่างไม่มีความเกรงใจเอาซะเลย ฉันเกลียดเขาอ่ะ แงๆๆๆT^T
“พับช้าจังเร็วหน่อย เอ้ากางเกงตัวนี้ด้วย” แล้วเขาก็โยนกางเกงมาให้ฉันพับ=_= จากนั้นก็สั่งให้ฉันเอาของในตู้ไปพับใส่กระเป๋าให้หมด แล้วเขาก็ขอตัวไปอาบน้ำอาบท่า ส่วนฉันก็ลื้อๆค้นๆ ตามประสาขี้ขา(มั้ง) อืมม..แล้วอันนี้ต้องพับด้วยมั้ยนะ เป็นจังหวะเดียวกันที่แฟรงกี้ออกมาจากห้องน้ำพอดี ฉันเลยชูขึ้นแล้วถามเขาว่า
“แฟรงกี้อันนี้ต้องพับด้วยมั้ย” เขาหันมามองตาเหลือก แล้วรีบมาแย่ง กกน. ออกจากมือฉันอย่างรวดเร็ว แล้วเอาไปซ่อนไว้ข้างหลัง หน้าเริ่มแดงระเรื่อ พอตั้งสติได้เขาก็หันมาต่อว่าฉัน อย่างตะกุกตะกัก
“ธ..เธอ โง่ ร..หรือซื่อกันแน่นะ ไม่ต้องทงไม่ต้องทำมันแล้ว ไปๆ ฉันจะพับที่เหลือเอง ปะ..ไปเด้!” เขาตะคอกเบาๆ จนฉันเริ่มงุนงง
“เราก็เล่นด้วยกันตั้งแต่เล็กแต่น้อยไม่เห็นเป็นไรเลยนี่”
“มะ..หมายความว่าไงตั้งแต่เล็กแต่น้อย-/-” แฟรงกี้หน้าแดงก่ำ แล้วรีบดึงผ้าห่มมาคุมตัวเองไว้จนมิดชิด
ฉันเกาหัวแกรกๆแล้วขอโทษขอโพยในสิ่งที่ตัวเองทำไม่รู้ว่าผิดหรือถูก
“ขอโทษนะ แหะๆ ไปนะ” ฉันโบกมือแล้วก้มหน้าเดินออกไปอย่างงุนงง แฟรงกี้หน้าเปลี่ยนสีแล้วโบกมือไล่ฉันไวๆ ฉันกำลังเปิดประตูออกจากห้องแต่ว่าต้องชะงักเมื่อเขาเรียกฉันไว้ ฉันเลยหันไปมองเขาอีกครั้ง อย่าง งงๆ
“มะ..มินิ”
“หือ?”
“เก็บเป็นความลับด้วยนะ ระ..เรื่องนี้-//-“
“เอ่อ..? อื้มๆเข้าใจแล้วจ้ะ^^”
ฟู่ววว!! สาบานเลยว่าแฟรงกี้ไม่เคยเห็นใครซื่อเท่านี้มาก่อน เขารู้สึกขาอ่อนแรงกะทันหันแล้วทรุดลงกับพื้นอย่างตกใจ มือยังกำ กกน. ของตัวเองแน่น ใจเต้นระรัวจนแทบระเบิดออกมาจากอก ผู้หญิงคนนั้น ทำไมยังไม่รู้สึกอะไรเลยนะ เขาอายจะบ้าตายแล้ว =_=^
“อ้ากกกกกกก ! เจ็บปวดดดดดด T_T”
รุ่งเช้า
“วันนี้แฟรงกี้ไม่มาด้วยเหรอ?” ผัดไทยถามฉันอย่าง งงๆ โดยมีบรรดาบอดี้การ์ดสุดฮอตเดินตามอยู่ข้างหลัง ฉันเห็นอัคคีเดินผ่านด้วยแหละ เขาแค่ขยิบตาให้แล้วเดินผ่านไปแค่นั้น
“อืม.. มาสิ พอถึงปุ๊บเขาก็รีบกระโดดลงรถแล้ววิ่งๆเลยอ่ะ เขาหลบหน้าฉันด้วยนะไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม”
“เฮ้ย ! หรือว่า!!”
“ระ..หรือว่าอะไรวะ! ฉันต๊กกะใจหมดเลย” ฉันตกใจ อยู่ๆยัยบ้าผัดลาวก็ตะโกนออกมาอย่างกับรู้เรื่อง
“เขาคงจะเกลียดหน้าแกแล้ว”
“ไม่มั้ง”
“แกคงจะทำข้อสอบไม่ได้เขาเลยโมโห แล้วเกลียดแกเข้าไส้เข้ากระดูกดำ เข้าปอด เข้าหัวใจ เข้าตับ เข้าไต เข้า..”
“เฮ้ยยย! พอ”
“แกคงจะยังรับความจริงไม่ได้ โฮๆๆๆไม่ต้องเสียจายยยยย” ยังผัดไทยดึงฉันเข้าไปกอดปลอบอย่างเวอร์ ฉันเลยดันตัวออกแล้วบีบจมูกมันอย่างหมั่นไส้
“โอ๊ยยยๆๆ ปล่อยช้านนน ยัยสูงงงง”
“เออๆ อยากเวอร์เองทำไม อันที่จริงวันนี้แฟรงกี้จะได้กลับบ้านแล้ว”
“เฮ้ยย! จริงดิ”
“เออไง”
“ถ้างั้นเขาหลบหน้าแกทำไมอ่ะ” เอาอีกแล้ว ยัยบ้านี่สงสายตาคมกริบอย่างจับผิดมาให้ฉันอย่างสอดรู้สอดเห็นจนฉันรำคาญ
“สงสัยคงเป็นเพราะว่าฉันถามเขาว่าพับกะ..”
ฉันรีบเอามือปิดปากตัวเองอย่างตกใจ เกือบหลุดปากออกไปแล้วมั้ยล่ะเนี่ย แฟรงกี้บอกฉันว่าเป็นความลับนี่นา งั้นมันคงต้องสำคัญมากแน่ๆ เอาล่ะฉันทำเพื่อแฟรงกี้นะเนี่ย
“อะไรแก บอกมาสิแก๊T^T” ยัยผัดไทยเริ่มร้อนรน แล้วครวญครางแบบจะชักตาย
“ไม่รู้นะ เข้าห้องเถอะๆ”
“โฮ๊ยยยยยแกT_T”
“มอนิ่ง มินิ^^”
“อ้าวแซมนี่เอง” ฉันทักกลับ แซมยืนอมยิ้มอยู่ ทันใดนั้นเอง ไอ้บ้าเดรตัวป่วนก็เดินเข้าไปสำรวจแซมอย่างจับผิด ไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วทำหน้าครุ่นคิดจนน่าหมั่นไส้จนฉันอยากกระโดดถีบสักที คนถูกมอง มองหน้าเดรโกอย่าง งงๆ
“ฉันว่าฉันสัมผัสได้ถึงบางอย่าง” เดรโกว่าพลางดีดนิ้วดังเป้าะ แล้วพยักหน้าช้าๆจากนั้นก็หรี่ตาข้างเดียวอย่างผู้รู้ นับวันยิ่งน่าหมั่นไส้ เขานึกว่าเขาเป็นใครเนี่ย เพี้ยนได้โล่จริงๆ
“อะไรของนาย” แซมพูดแล้วมองเดรโกอย่างไม่วางใจ แล้วเขยิบหนีอย่างกลัวๆเหมือนกับหนีโรคจิต
“นายชอบมินิ!”
“มะ..ไม่ใช่นะ” แซมปฏิเสธเสียงแข็ง “เราแค่เพื่อนกัน”
“ยัยเตี้ยนี่ไม่มีเพื่อนมากมายหรอก อย่ามาโกหก”
“กู้ดดดดดดด มอนิ้งงงงงง อ๊าอียา ฮี่ๆๆๆๆ” ยัยเซย่าเดินร้องเพลงอย่างสบายใจแล้วยิ้มทักทายพวกเราทุกคน แซมเลยรีบโบกมือลาฉันแล้วหนีเดรโกอย่างกลัวๆทันที
“เธออีกแล้ว”ลีโอเบ้ปาก ยัยเซย่าเลยหันไปมองเขาตาขวาง
“ฉันมาหาแฟน” ยัยเซย่าตาเป็นประกายด้วยไอแห่งความรัก เช้านี้ดูน่าเบื่อไปเลย
“ออสตินจ้ะ อยากกินแอปเปิ้ลมั้ย ถ้านายไปเดทกับฉันนะ ฉอดๆๆ แฉดๆๆๆ” ยัยเซย่ารีบบรรยายโน้มน้าวใจออสตินอย่างสุดฤทธิ์ เฮนรี่หน้ามุ่ยแล้วชวนเราเข้าห้องเพราะบรรยากาศเริ่มไร้สาระ ออสตินปาแอปเปิ้ลลงถังขยะเกือบจะโดนหน้าเซย่าอยู่แล้ว ถ้ายัยนั่นมันก้มหลบ แต่ยัยนั่นก็ยังตื๊อไม่เลิกจนออสตินต้องหันไปชี้หน้าแล้วสั่งให้หยุด ยัยนั่นเลยพยักหน้าหงึกหงักแล้วส่งยิ้มหวานให้เขาก่อนที่จะทำมือเป็นรูปหัวใจ แล้วกระโดดไปตามทางเหมือนคนบ้า หมุนตัวไปรอบๆเหมือนเจ้าหญิงจนเสียหลักล้มลง เซย่ารีบลุกขึ้นปัดๆๆ อย่างเสียหน้า แล้วส่งยิ้มให้ออสตินอีกครั้งแล้วบอกว่า “ฉันไม่เป็นไร” จากนั้นก็รีบเผ่นไปเลย ฉันรู้นะว่าลีโอแอบหัวเราะสะใจอยู่ ก็แหงล่ะ เขาเกลียดยัยเซย่าเหมือนที่ฉันเกลียดเลย
ช่วงเวลาเรียนที่น่าเบื่อผ่านไปอย่างเชื่องช้ายิ่งกว่าเต่าคลาน ฉันหายใจอย่างโล่งอกเมื่อ ออดหมดเวลาดังขึ้น วันนี้แล้วสินะที่แฟรงกี้จะกลับบ้าน ผัดไทยจะไปทำรายงานกับฉันที่บ้านด้วยวันนี้ เราเลยนั่งอยู่บนรถตู้รอแฟรงกี้กันหมด
“มาช้าจังเลย” ลีโอบ่นแล้วแอบหยิบแอปเปิ้ลในกระเป๋าของออสตินมากัดดังกร้อบ! เพราะเขานอนหลับ
“นั่นไงแฟรงกี้มาแล้ว”ผัดไทยชี้ ทันทีที่แฟรงกี้เห็นหน้าฉัน เขาก็ตาโตเท่าไข่ห่านแล้วกระโดดนั่งข้างหน้ารถกับคนขับ
“แปลกจริงๆด้วย” ยัยผัดไทยขมวดคิ้วแล้วคิดอย่างหนักจนฉันดีดหน้าผากมันดัง ป้อก ! อย่างหมั่นไส้ มันเลยยู่หน้าใส่แล้วหันไปอีกทางแล้วหลับตาอย่างเซ็งๆ
แฟรงกี้เป็นอะไรของเขานะ
พอกลับมาถึงบ้าน คนของพ่อแฟรงกี้ก็มารอรับเขาซะแล้ว ฉันอดทำหน้าเซ็งไม่ได้จริงๆ คุณแม่ขอร้องให้แฟรงกี้อยู่ทานเข้าเย็นด้วยกัน แต่เขาปฏิเสธอย่างสุภาพ แล้วขอตัวกลับ คุณแม่เลยพยักหน้าอย่างเศร้าๆ
“ผมลานะครับคุณน้า”
“จ้ะT_T อย่าลืมมาเที่ยวที่นี่นะ”
“ฉะ..ฉันไปนะ”แฟรงกี้หันมาทางฉันบ้าง ฉันเลยยิ้มให้เขา เขารีบก้มหน้าแล้วเดินออกจากบ้านไปเลย เขารีบไปไหนเนี่ยกลัวบ้านหายรึไงยังไม่ได้เอ่ยลาเลยเนี่ย-*- ฉันแค่อยากจะบอกว่า..
โชคดีนะแฟรงกี้ แม้ว่านายจะไม่ได้อยู่ติวหนังสือให้ฉันแล้ว แต่เทอมหน้าฉันต้องทำเกรดดีๆด้วยตัวเองให้ได้ ถึงเวลานั้นแล้ว นายต้องรับฉันเป็นแฟนนะ !
ความคิดเห็น