คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 ยัยโชคร้าย
-O-* หา~ว ว ว ว จับ จับ
เสียงคนที่เพิ่งตื่นนอน กำลังตื่นจากภวังค์ เธอลืมตาขึ้น มองซ้ายที ขวาที บรรยากาศรอบๆมันน่าจะ
เป็นห้องนอนนะ แต่มันกลับเป็นห้องเรียน คาบที่5วิชาสังคมศึกษานี่สิ
“เพิ่งตื่นหรอจ๊ะ ปาริชาต” เสียงของอาจารย์ประจำวิชา ที่เลื่อนหน้าเข้ามาเต็มๆจอรับภาพของเด็ก
สาว พูดขึ้น
“แหะๆ ค่ะ” เด็กสาว ตอบแล้วยิ้มเจื่อนๆ
“งั้นครูอนุญาตให้ไปล้างหน้าทั้งชั่วโมงเลยนะจ๊ะ” เด็กสาวกำลังจะพูดแย้ง แต่ก็ต้องกลับไปอยู่ใน
อิริยาบถเดิม เมื่อเห็นสีหน้าของอาจารย์เป็นคำตอบ
“ค่ะ” แล้วเธอก็เดินออกไปนอกห้องแต่โดยดี
“ทำไงได้อ่ะ เราก็อุตส่าห์อ่านหนังสือเตรียมสอบคณิตทั้งคืนนี่นา ช่วยไม่ได้ นั่งเรียนมันข้างนอกนี่
แหละ” เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง ขณะที่มือก็ควานหาสมุดเตรียมจดโน้ต โดยใช้การฟังเสียงอาจารย์
เอา
“ไงจ๊ะ ล้างหน้าเสร็จแล้วเหรอ” อาจารย์เพิ่งสอนเสร็จ แล้วกำลังเดินออกจากห้องมา
“ค่ะ” เด็กสาวตอบแล้วยิ้มอย่างสดใส
“ห้ามหลับในห้องเรียนอีก ถ้าเจออีกครั้ง รู้ใช่มั้ยจ๊ะว่าต้องโดนอะไร” อาจารย์ทำหน้าขู่
“ทราบค่ะ ไม่มีอีกครั้งแน่ๆค่ะ” เธอหลับตาปี๋ แล้วรีบวิ่งไปนั่งที่ของตัวเองเพื่อเตรียมเรียนวิชาสุด
ท้าย
“สนุกมั้ยนีม เรียนข้างนอก” แบงค์ เพื่อนสนิทในห้องรีบเข้ามาทักเด็กสาวเมื่อเห็นว่าอาจารย์เดินไป
ไกลแล้ว ทุกคนในห้องฮือฮา เมื่อเคยเห็นยัยนีม โดนทำโทษเป็นครั้งแรก
“ว๊าย ไดโนเสาร์โดนทำโทษ” เบทเพื่อนสนิทอีกคนแซวขึ้น พร้อมกับเรียกฉายาที่เพื่อนในห้องรวม
ใจกันตั้งขึ้นให้
นานมาแล้ว นีมแค่ใช้หางตาหันไปมองแล้วมาเข้าเรื่องแบงค์ต่อ
“เป็นไงล่ะ ก็เบื่ออ่ะดิ่ ไม่รู้ไปทำอะไรมา รู้สึกว่าช่วงนี้จะโชคร้ายบ่อยจริงๆ” เธอพูดในสิ่งที่อยากจะ
พูดมานาน แล้วพาลทำร้ายโต๊ะเรียนซะงั้น
“อืม เราก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน นีมซวยบ่อยๆ” ฝ้ายเพื่อนสนิทนีมหันมาพูดเสริม
“ฝ้าย ใช้คำที่มันดีกว่า ซวย ได้มั้ยอ่ะ” เธอเน้นคำว่าซวยให้ชัดๆ
“แหะๆ โทษที” ฝ้ายยิ้มอย่างสำนึกผิด
“อาจารย์มาแล้ว เรียนเหอะ” สายตาของนีมมองไปเห็นอาจารย์เข้า ทั้งหมดก็เลยต้องนั่งเรียนกัน
ตามระเบียบ
“กลับบ้านดีๆล่ะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ที่เรียนพิเศษ” แบงค์ล่ำลาฉันกับฝ้ายเสร็จก็กลับกับแจนแฟนมัน
“ไดโนเสาร์กลับบ้านดีๆนะจ๊ะ ด้วยความปรารถนาดีจากกรมอนุรักษ์พันธุ์ไดโนเสาร์ เหลืออยู่ตัวเดียว
แล้วนะ
รักษาตัวดีๆล่ะ” เดี่ยว ขากวนในห้องพูดแซวก่อนที่จะรีบชิ่งไปทันที คงกลัวไดโนเสาร์จับกินล่ะมั้ง
“ดูเหมือนวันนี้ นีมจะมีเพื่อนๆสนใจเยอะนะ” ยัยปิศาจโม เพื่อนที่ฉันเลิกคบไปแล้ว เดินมาพูดข้าง
หน้าฉัน โดยมีเพื่อนอีก2คนยืนอยู่ทั้งสองด้าน
“.....”
“อะไรยะ เพื่อนเก่าเข้ามาทัก ทำเป็นไม่พูดด้วย”
แล้วใครอยากจะพูดกับแกกันล่ะ ยัยปิศาจ ฉันคิดในใจ
“ฝ้าย กลับบ้านกัน” ฉันหันไปชวนฝ้าย ก่อนที่จะรีบเดินออกมาอย่างไม่สนใจยัยโม ที่พูดจาถากถาง
ฉันสารพัดอยู่ข้างหลัง
“เก่งจังเนอะ ถ้าเป็นนีมเมื่อก่อนนี้ คงจะกลับบ้านยากอ่ะ” ฝ้ายที่เพิ่งเดินตามมาทัน พููดขึ้นมา
“ก็เค้าอยากไปห้างฯนี่ ไปร้อง’เกะกัน วันนี้เซ็ง ไม่มีอารมณ์ทะเลาะ”
“จบ ไม่ต้องพูด รำคาญ” ฉันพูดแทรกขึ้นอีก เมื่อเห็นฝ้ายกำลังจะพูดบ้าง
ที่ห้างสรรพสินค้า
“ว้าว วันนี้เค้ามีงานอะไรกันอ่ะ คนเยอะจังแฮะ” นีมพูดพร้อมกับชะเง้อคอมองดูทางกลุ่ม
คนพวกนั้น
“สงสัยครบรอบมั้ง งานวันเกิดห้างฯอ่ะ” ฝ้ายพูดพรางจิ้มให้นีมดูกระดาษแผ่นหนึ่งในมือ
“งานอะไรก็ช่างเหอะ ไปร้อง’เกะกัน คันปากจะแย่อยู่แล้ว” นีมพูดแล้วเร่งฝีเท้าไปยังจุดหมาย แต่ก็
ต้องชะงักเพราะว่าเห็นหนุ่มหล่อคนนึงเข้าน่ะสิ
“ว้าว ฝ้ายดูดิ่ น่ารักอ่ะ” เธออยากให้ฝ้ายหันมาดู เลยใช้มือข้างหนึ่งสะกิด แต่ก็ต้องพบกับความ
ว่างเปล่า ก็เพราะว่าฝ้ายไปยืนต่อคิวซื้อไอศกรีมอยู่นั่นเอง นีมเลยละสายตาจากหนุ่มหล่อรีบเดินไป
หาฝ้ายทันที
“ฝ้ายยยย” เธอพูดเสียงดัง
“เบาๆก็ได้นีม เราได้ยิน” ฝ้ายทำสีหน้าอับอายขณะที่นีมไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“หิวเหมือน กินด้วยดีกว่า” นีมรู้สึกหิวขึ้นมา จึงจัดแจงสั่งไอศกรีมโดยที่ตัวเองไม่รู้หรอกว่ากำลัง
แทรกคิวอยู่
“ทั้งหมด59บาทค่ะ” เสียงหวานจากพี่แคชเชียร์ทำให้นีมควานหากระเป๋าตังค์ที่ใส่ไว้ในกระโปรงที่มี
กระเป๋า
OoO นีมมองหน้าฝ้ายอย่างตะลึง
“กระเป๋าตังค์หาย” ประโยคนี้ทำให้ฝ้ายรู้ว่าต้องทำหน้าที่เพื่อนที่ดี ออกตังค์ให้ก่อน
“ถ้ากระเป๋าตังค์หายอย่างงี้ ก็อดร้อง’เกะอ่ะดิ่” นีมพูดน้ำเสียงเหงาๆ
“เดี๋ยวก็คงมีคนใจดีเอาไปให้ประชาสัมพันธ์ประกาศหาเจ้าของเองแหละน่า” ฝ้ายพูดปลอบใจ ใน
ฐานะเพื่อนที่ดี
“ไม่สนแล้ว ในเมื่อห้างฯนี้ มันทำของเค้าหาย เค้าจะเอาคืน”
“ด้วยการ” ฝ้ายถามต่อ
“ลงไปร่วมงาน กินเค้กวันเกิดให้มันอิ่มไปเลยไง”
“แล้วไม่กลัวอ้วนหรอนีม”
“ไม่กลัว” นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่นีมพูดกับฝ้ายก่อนที่จะวิ่งเข้ามาในงานรอแก้แค้น”
“เสร็จฉันแน่ เจ้าเค้กเอ๋ย” เธอยิ้มเยาะให้เค้กก้อนมหึมาที่อยู่ตรงหน้า แล้วเสียงสัญญาณที่บ่งบอกว่า
ได้ฤกษ์กินเค้กแล้ว ก็ดังขึ้น เสียงโวยวายก็เริ่มดังขึ้นเช่นกัน
“โอ๊ย จะมาเบียดทำไมเนี่ย” นีมออกเเรงเบียดกลับ แต่มันกลับทำให้
“กรี๊ด” เสียงนี้ทำให้ทุกคนหยุด แล้วหันมามองที่ต้นเสียง ทุกคนพากันหัวเราะให้กับสภาพเด็กสาวใน
ชุดนักเรียน ที่หน้าถูกโป่ะไปด้วยครีมเค้ก
“ตายแล้ว นีม” ฝ้าอุทานแค่ให้ตัวเองได้ยิน แล้วก็เดินเข้าไปลากตัวนีมออกมาจากที่นั่น
“ให้ตายดิ่ ไอ้คนบ้าพวกนั้น ทำเหมือนกับไม่ได้กินเค้กมาเป็นชาติ เบียดอยู่ได้ ดูซิเนี่ยเลยต้องมา
เป็นแบบนี้เลย”นีม บ่น บ่น บ่น แล้วก็บ่น
“เอาเถอะน่า คิดซะว่าถึงคราวเราแล้วกัน
“เออ เพื่อนรัก” นีมพูดประชดฝ้ายออกไป
“กลับบ้านดีๆนะนีม” ฝ้ายทำเสียงน่ารัก แต่สำหรับฉันน่าสยดสยองมากกว่า
“อือ เข้าบ้านไปเลยไป จะโรคจิตแอบดูเค้าเดินไปถึงไหน” นีมพูดอย่างรู้ทัน
“ไปก็ได้” เอาอีกและ ทำท่าทางคิกขุชะมัด แต่ว่า ฉันจะอ้วก
ฉันเดินไปตามถนนสายเดิมคนเดียว ปล่าวเปลี่ยวจริงๆเลย แต่คำถามหนึ่งก็ทำให้นีมฉุกคิดขึ้นมาได้
“นั่นสิ ทำไมฉันถึงโชคร้ายจังนะ รู้สึกแปลกๆไปยังไงไม่รู้ตั้งแต่ฉันได้เจ้าหินนี่มา” เธอพรางยกข้อ
มือที่สั่งทำ
พิเศษขึ้น จะใครที่ไหนล่ะ ก็ฝ้ายนั่นแหละเป็นคนทำให้ สร้อยข้อมือนั้น มีจี้หินสีเขียวอ่อนเล็กพอ
ประมาณอยู่ตรงกลาง แล้วก็ประดับด้วยลูกปัดสีเขียวเข้มที่ห้อยเป็นสายลงมารอบๆ
“หรือว่าจะเป็นเพราะแก” นีมพูดแล้วจ้องไปที่หินสีเขียวนั่น แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอจึงเลิกคิด
เรื่องนี้แล้วเดินเข้าบ้านไปอย่างคนหมดเรี่ยวหมดแรง
“ทำไมวันนี้กลับช้าจังลูก” แม่ฉันทักขึ้น เพราะเห็นว่าวันนี้กลับบ้านเย็นกว่าปกติ ไม่อยากจะโม้ แต่
เวลาฉันเห็นหน้าแม่ขึ้นมาทีไรก็อดยิ้มอย่างภูมิใจไม่ได้ ก็แม่ฉันน่ะเป็นผู้หญิงที่สวยคนนึงเลยล่ะ แม่
สวยลูกก็ต้องสวยตามเป็นธรรมดา เอิ๊กๆ บ้าไปแล้วเรา
“ค่าา แล้ววันนี้ทำไมแม่ต้องแต่งตัวอ่ะ มีงานเลี้ยงหรอ” ฉันแปลกใจ ที่วันนี้เห็นแม่ใส่ชุดราตรี
เตรียมตัวจะออกจากบ้าน
“จ่ะ แม่ต้องไปแล้ว ฝันดีนะนีม” แม่ฉันก็รีบไปยังรถที่ถูกพ่อถอยออกมาจากโรงรถรออยู่แล้ว
“ขอให้สนุกนะคะ” ฉันตะโกนไล่หลังแม่ไป แต่ก็คงไม่ได้ยินหรอก แต่ทำไมพวกเขาต้องรีบร้อนด้วย
นะ งานสำคัญขนาดนั้นเชียวเหรอ แล้วฉันก็ปิดประตูบ้านลง กำลังจะเดินไปในห้องครัวแต่ก็
โครม ร่างของฉันกระทบกับพื้นอย่างจัง ฉันหันไปหาสาเหตุที่ทำให้ฉันลื่น
“สบู่ มาอยู่หน้าห้องครัวได้ไง อ๋อ” ฉันคิดอะไรได้บางอย่างก็แอบเดินย่องๆไปที่มุมที่น้องฉันชอบ
แอบ
“คิกๆ 555 สมน้ำหน้า” ฉันเจอตัวการแล้วล่ะ
“ไอ้จั๊ม เล่นงี้อีกแล้วเหรอ คอยดูแม่กลับมาจะฟ้องให้หมดเลย
“ว๊าย ไม่กลัวหรอก ไอ้พี่ขี้ฟ้อง” มันทำท่าล้อเลียนฉันแล้วก็วิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นเปิดทีวีดูอย่างสบาย
ใจเฉิบ
“ดูแล้ว มาเก็บสบู่ไปไว้ที่เดิมด้วยนะเฟ้ย” ฉันตะโกนให้มันได้ยิน แล้วก็หันไปหาของกินในห้องครัว
ต่อ
ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว พ่อกับแม่ยังไม่กลับเลย หา ว ว พรุ่งนี้ถึงจะเป็นวันเสาร์แต่ก็ต้องไปเรียน
พิเศษอีก ฉันเลยตัดสินใจเข้านอน โดยถอดสร้อยข้อมือกับนาฬิกาออก วางบนโต๊ะที่อยู่หัวเตียง
แล้วเธอสะดุดตาหันไปมองที่หินนั้น
มันเรืองแสงได้
“สวยจัง” แล้วเธอก็ละสายตาจากหินนั่น แล้วก็ทรุดตัวลงนอน ผมยาวหยิกเป็นลอนสีธรรมชาติของ
เธอถูกวางรองศีรษะอีกชั้นหนึ่ง ดวงตากลมโตก็ถูกปิดลง ขนตายาวจนเห็นได้ชัด แสงจันทร์ลอด
ผ่านหน้าต่าง ทำให้กระทบกับหน้าเรียวได้รูปของเธอ เหมือนกับว่ามันกำลังชมความงามของเด็ก
สาวคนนี้อยู่ แล้วเด็กสาวก็ผล็อยหลับไปโดยที่ไม่รู้
หรอกว่ามือถือของเธอกำลังมี สายเรียกเข้าอยู่
...ฝ้าย...
ความคิดเห็น