ตอนที่ 5 : หลั่งฮอร์โมนครั้งที่...5
แก้ไขครั้งที่หนึ่ง : 15 กันยายน 2561
หลั่งฮอร์โมนครั้งที่...5
แสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านเรือนไม้ส่องกระทบผืนดินราวกับจะทำให้ส่องประกายระยิบระยับ เสียงนกร้องขับขานราวเสียงบทเพลงอันไพเราะ แมกไม้สีเขียวปลิวไสวตามแรงลมอ่อนๆ ดอกไม้นานาพันธุ์ชูช่ออย่างงดงามและยิ่งเริงร่ามากขึ้นเมื่อได้ละอองน้ำจากใครบางคนที่ตื่นเช้ามาดูแลเช่นนี้เสมอ... มือขาวเปื้อนดินฉีดน้ำจากสายยางอย่างไม่รีบร้อน ในลำคอฮัมเพลงเป็นทำนองช้าๆ
กล่อมเกลาให้เป็นยามเช้าที่น่ามอง...
“ตื่นมาทำไมแต่เช้า...” เสียงทุ้มเจือแววเอ็นดูทำให้ผมหันกลับไปมอง เห็นร่างสูงกำยำที่สวมกางเกงนอนตัวเดียว อวดกล้ามเนื้อเรียงตัวสวยอย่างคนชอบออกกำลังกาย นี่หากเปลี่ยนจากผมเป็นคนอื่นคงหลงเสน่ห์ผู้ชายตรงหน้าแน่ๆ
“อัณณ์ก็ตื่นเวลานี้ทุกที พี่เพลิงนั่นล่ะทำไมตื่นเช้าล่ะครับ?” พี่ชายยกมือปิดปากหาวเสยผมที่ปรกหน้าออก ยกยิ้มมุมปาก
“เสียงเพลงอัณณ์รบกวนพี่น่ะสิ” ผมหัวเราะ...
ใช่แล้วชายหนุ่มหน้าตาดีอย่างทำให้ผู้ชายอิจฉาคนนี้คือพี่ชายของผมเอง พี่เพลิง...อายุห่างจากผมห้าปี ปัจจุบันเป็นช่างภาพให้กับ MG องค์กร NGO ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก พี่เพลิงถนัดในการถ่ายด้านวิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมของผู้คน ส่วนมากจะลงงานในแถบยุโรปและเอเชียบางประเทศ ทำให้พี่เขาต้องเดินทางไปทั่ว และน้อยครั้งที่จะได้กลับมาประเทศไทย
“วันนี้ไม่ไปเรียนเหรอ?”
“วันเสาร์นะครับ” ผมปิดวาล์วน้ำ
“เอ้า! พี่เห็นไม่ว่าจะเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดไม่วันหยุดอัณณ์ก็มีเรียนแทบจะตลอด”
นั่นก็เรื่องจริงเหมือนกันครับ สาขาของผมค่อนข้างจะเรียนหนัก และบางทีก็มีเรียนเสาร์ อาทิตย์ด้วย ยิ่งตอนปีสาม...ตารางเรียนของผมแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย เพราะนอกจากเรียนบรรยายแล้วเรายังต้องเรียนแล็บควบคู่กันไปด้วย เท่านั้นไม่พอยังต้องไปออกพื้นที่สำรวจอีก มีวันหยุดก็เหมือนไม่มี...
“พี่เพลิงกลับมาคราวนี้จะอยู่กี่วันครับ?”
“ไม่เกินอาทิตย์หนึ่งนะ...พี่ได้วันลา เพราะไม่ได้ลามานานแล้ว” พี่ชายหัวเราะในลำคอ...เขาเป็นคนทุ่มเทกับงานและมีความรับผิดชอบอย่างไม่น่าเชื่อ อาจเพราะถือว่าต้องรับผิดชอบผมที่เป็นน้องชายด้วยล่ะมั้ง ทำให้พี่เขาทำงานหนัก
เป็นพี่ชาย...ที่ผมภูมิใจ
“รดน้ำต้นไม้เสร็จก็ไปทำอาหารไป พี่หิวจะแย่!”
“ครับๆ ได้ตามที่บัญชาครับองค์ชาย” ทั้งๆ ที่พี่เพลิงก็ทำอาหารเป็นและทำอร่อยกว่าผมด้วย แต่สงสัยว่าพี่เพลิงคิดถึงฝีมือผม
“ดีมากทำดีเดี๋ยวองค์ชายจะเพิ่มเบี้ยหวัดรายเดือนให้” พี่เพลิงหัวเราะก่อนจะขยี้หัวผมจนยุ่งเท่านั้นไม่พอยังจับแขนผมแล้วอุ้มพาดบ่าอีก!
“พี่เพลิง!!”
“อัณณ์เดินช้า! พี่หิว”
แรงเยอะชะมัดเลย! ทำผมที่ตัวสูงร้อยเจ็ดสิบกว่าๆ เป็นเด็กไปเลย
“ตัวเปื้อนขนาดนี้ทำพี่เปื้อนไปด้วยแล้ว...ไปอาบน้ำก่อนเลยไป” ร่างสูงเปลี่ยนเส้นทางเป็นชั้นสองที่ห้องนอนผมก่อนจะโยนผมเข้าห้องน้ำและเอาผ้าขนหนูโยนตามเข้ามา
“เร็วๆ ล่ะ” เอ่ยย้ำและปิดประตูเสียงดังจนผมส่ายหน้า
บางทีก็เอาแต่ใจและไม่มีใครคาดเดาอารมณ์ได้จริงๆ พี่ชายผม...
“จะไปมหาลัยเหรอ?”
“ครับ...อัณณ์จะไปดูแปลงผักที่เกาะเชจู พี่เพลิงล่ะ?”
“ว่างๆ...ว่าจะไปถ่ายภาพสักหน่อยไม่ได้กลับไทยมานาน”
“ไปกับอัณณ์ไหมครับ?”
“หืม?” พี่เพลิงเลิกคิ้วนิดๆ ก่อนจะพยักหน้า “รอเดี๋ยวพี่ไปเอากล้องก่อน” ใช้เวลาไม่นานร่างสูงในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดาพร้อมกล้องไลก้าตัวโปรดก็เดินลงมา
“อัณณ์ขับแล้วกัน พี่ชำนาญแต่พวงมาลัยซ้าย” ผมเหลือบตามองตัวเองนิดๆ
ทำไมพี่เพลิงแต่งตัวธรรมดาแต่ดูเหมือนมีออร่าจับกันนะ...เฮ้อ!
“รถที่นี่แคบจริงๆ” เสียงทุ้มบ่นงึมงำ “ดูเหมือนพี่จะใช้ชีวิตแถบยุโรปมากกว่าเอเชียจนไม่ชินกับที่นี่เสียแล้ว...”
“อาทิตย์หนึ่งที่หยุดคงไม่หลงไปไหนนะครับ” ผมเอ่ยขำๆ
“ไม่ต้องห่วง...พี่หลงก็หาทางกลับได้” ไอ้รอยยิ้มมุมปากแบบมีปริศนาน่ะไม่ต้องยิ้มก็ได้นะพี่ชาย ขนาดผมที่เป็นน้องยังหวั่นๆ
“มหาลัยอัณณ์นี่ก็ดีนะ” บ้านของผมไม่ได้ห่างจากมหาลัยมากเท่าไหร่ ตอนผมแอดมิชชั่นที่นี่ได้ พี่เพลิงก็เคยจะซื้อคอนโดให้ แต่มันไม่สะดวกในหลายๆ อย่าง อีกอย่างผมเป็นพวกชอบต้นไม้ หากให้อยู่ในห้องแคบๆ ล่ะก็เครียดแน่ๆ เลยซื้อเป็นบ้านหลังเล็กๆ แทน เวลาพี่เพลิงกลับจากทำงานก็สามารถแวะมาหาผมที่นี่ได้ เพราะบ้านอีกหลังของพวกเราพี่น้อง...ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว
“ร่มรื่นดี...”
“เมื่อก่อนยังร่มรื่นกว่านี้อีกครับ เพราะต้นไม้บางต้นอายุเยอะแล้วทำให้ต้องตัดทิ้งเพราะหากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายได้” ผมถอนหายใจเบาๆ หักพวงมาลัยไปตามเส้นทางตอนนี้เพราะยังเช้าอยู่ มีนักศึกษาบางเบา ส่วนมากก็เป็นคนที่ตื่นมาวิ่งออกกำลังกาย หรือซ้อมกีฬา ยิ่งเป็นวันเสาร์...คลาสเรียนก็มีไม่มากด้วย
เกาะเชจูอยู่ข้างตึกเศรษฐศาสตร์ ระหว่างทางจึงผ่านแทบจะทุกตึกในมหาลัย สนามบาสฯ วันนี้มีผู้คนจับจองค่อนข้างเยอะ สงสัยคงมีการซ้อมใหญ่ เห็นขบวนเสื้อสีเทาที่วิ่งอย่างเป็นระเบียบหัวเกรียนๆ และสภาพเปื้อนโคลนจากการฝึกแบบนั้น
พาณิชยนาวี...
คณะนี้ต้องตื่นมาวิ่ง มาฝึกทุกเช้าโดยเฉพาะปีหนึ่งและปีสอง ผมยังจำได้ตอนตำลึงอยู่ปีหนึ่งและพักหอใน คุณเธอเล่าให้ฟังว่าเสียงร้องเพลงคณะจนตำลึงจำได้ แต่ที่สาวๆ ไม่โวยวาย เพราะพอวิ่งรอบมหาลัยไปสักรอบสองรอบๆ หนุ่มๆคณะนี้จะตะโกนเบอร์โทรศัพท์ตัวเองให้ได้ยิน สาวๆ ที่จดทันก็จด
ก็ขำดีนะครับ...
“ดูมีระเบียบ” พี่เพลิงเปรย
“พาณิชยนาวีนี่ครับ...ต้องฝึกหนักอยู่แล้ว น้องๆ ที่จะมาเรียนก็ต้องยอมรับกฎนี้ได้”
“เกี่ยวกับเรือใช่ไหม? พี่เคยเข้าไปถ่ายภาพนาวิกฯ ของอเมริกา หนักมากเหมือนกัน แต่ที่โน่นเน้นแบบทหารมากกว่า”
“โหดล่ะสิครับ”
“อืม...เพราะหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเขาเกี่ยวพันกับคนหลายคน ต้องเตรียมความพร้อมทุกทางจริงไหมล่ะ” พี่เพลิงว่า “แต่พอเวลาพักพวกเขาก็เฮฮากันดี ยังใจดีสอนศิลปะป้องกันตัวให้พี่ตั้งหลายอย่าง”
“เท่าที่เป็นทุกวันนี้ยังไม่พออีกเหรอครับ?” ผมยิ้มขำ เพราะพี่เพลิงเก่งเรื่องศิลปะป้องกันตัวแทบจะเรียกไดว่าทุกแขนง บางทีก็เอามาสอนผมด้วย ผมดับเครื่องยนต์ จอดรถไว้ที่ด้านบน ก่อนจะเดินลงมา พี่เพลิงกวาดตามองรอบๆ
“สมกับฉายาเกาะเชจูจริงๆ พี่มากี่ครั้งก็คิดแบบนั้น ไว้คุมขังนักโทษ หึๆ” ผมส่ายหน้า มือแกร่งพาดเข้าที่คอของผมก่อนจะลากให้เดินไปด้วยกัน
“นี่พัฒนาขึ้นมากแล้วครับ...ตอนแรกๆ ยังเป็นป่าหญ้ารกร้างอยู่เลย” ได้อาจารย์ในสาขาช่วยกันริเริ่ม และพวกเราช่วยดูแล ทุกวันนี้จึงเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจไปเลย
“ก็ดีแล้วไง...” ผมเดินลงมาเรื่อยๆ เห็นมีน้องๆ มาดูแลแปลงผักของตัวเองกัน ยกมือสวัสดีผมกันระนาวจนรับไหว้แทบไม่ทัน และสายตาทุกคนก็พุ่งตรงมายังร่างสูงที่กอดคอผมไม่ปล่อยพี่เพลิงไม่สนใจใคร เดินนิ่งๆ ไปเรื่อยๆ
“พี่อัณณ์! มาดูแปลงผักหรือคะ?” เสียงสดใสที่ทำให้ผมยิ้มตาม
“ปาย?”
“ค่า! ปายมาเก็บชะอมไปทอดไข่ให้มิรา แล้วก็มาดูแปลงผักลอยน้ำกลุ่มปายด้วย พี่อัณณ์ดู! ตอนแรกปายจะทำคอนโดสามชั้น แต่เดี๋ยวชั้นล่างไม่ได้แสง จึงทำแพสามอันแทน ตั้งใจมาก ให้คะแนนน้องเยอะๆ นะคะ” ผมเหลือบตาไปมองตามปลายนิ้วเรียวที่ชี้ เห็นท่อ PVC สีฟ้าเป็นแพเชื่อมกันและมีต้นไม้สีเขียวๆ อยู่จริงๆ
“ปลูกอะไรบ้างครับ?”
“เตยเหอม พลับพลึงธาร แล้วก็ดีปลีน้ำค่ะ เดี๋ยวว่างๆ ปายจะทำสังขยาฟักทองไปฝาก”
“ให้จริง...” ผมหัวเราะเบาๆ ด้วยความเอ็นดู แปลงผักบนเกาะเชจู ใครอยากมาเก็บก็ได้ เพียงแต่มีกฎคือต้องช่วยกันดูแลรักษา
“อ๊ะ! จริงสิคนนี้ใครกันคะ? พี่อัณณ์นอกใจเพชรแล้ว?” น้ำเสียงหยอกๆ ที่ทำให้ผมส่ายหน้าและแทบจะกลอกตาเมื่อพี่เพลิงเหลือบมอง
“เพชร?” เสียงทุ้มเอ่ยราวทวน
“ใช่แล้วค่ะ พี่เขยของชาว ENVI! ทำแบบนี้ไม่ดีนะคะ พี่อัณณ์! ทำไมงี้อ่ะ!” ยายตัวเล็กดึงมือผมออกห่างจากพี่เพลิงและดันผมไปด้านหลังตัวเอง ส่วนเจ้าตัวก็ยืนด้านหน้า ขวางไว้ราวกับจะปกป้อง
สงสัยปายคงสัมผัสได้ถึงรังสีจอมมารของพี่เพลิงแน่ๆ เลย จึงออกอาการหวงผมเสียขนาดนี้
เฮ้อ...น้องรหัสผมสูงเพียงร้อยห้าสิบเซนติเมตร ส่วนพี่เพลิงสูงร้อยแปดสิบกว่าๆ มันจึงดูเหมือน...
หมีโคอ่าล่าที่กำลังปีนต้นยูคาลิปตัสชัดๆเลย!!
“หึๆ...นี่ใครน่ะอัณณ์?” นั่นพี่เพลิงตาพราวระยับแล้ว... พอทำสีหน้าอย่างนี้ต้องมีใครสักคน...เดือดร้อน
"น้องรหัสอัณณ์เอง ปาย...นี่คือ...”
“เป็นคนสำคัญมากๆ ของอัณณ์ล่ะ” พี่เพลิงเอ่ยแทรก จนผมหันไปมอง เห็นดวงตาคมห้ามปรามและยักไหล่ขึ้นราวสนุกสนานสุดๆ
เอาเข้าไป...
“สวัสดีค่ะ” ยายตัวเล็กยกมือไหว้เพราะอายุน้อยกว่า แล้วก็หันมาหาผม กระซิบเบาๆ “พี่อัณณ์! ปายไม่ยอมรับคนนี้นะ ท่าทางเจ้าเล่ห์น่ากลัว! และที่สำคัญดูร้ายกาจมากเพชรดูน่าเข้าหากว่าอีกเลยค่ะ” ถึงจะนินทาเขาแต่มือก็ไหว้...ที่สำคัญพี่เพลิงหูดีจะตาย ต้องไห้ยินแล้วแน่ๆ ไม่รู้ว่ายายตัวเล็กมีมารยาทหรือต้องการกวนประสาทพี่เพลิงกันแน่
“เรื่องนั้นน้องปายต้องให้อัณณ์เขาตัดสินใจนะ ว่าแต่...เพชรนี่ใครเหรอ?” ผมส่ายหน้า...ทำไมรู้สึกเหมือนเรื่องมันจะวุ่นวายนะ
“ว่าที่พี่เขยของสาขาค่ะ! หน้าตาดีสุดๆ นิสัยดีมาก” แล้วพึมพำเบาๆ ให้ผมได้ยิน “ปายไม่ถูกชะตากับเขาเลยอ่ะพี่อัณณ์ ฮือ!” ผมลูบหัวน้องรหัสเบาๆ
“แสนดีขนาดนั้น...ชักอยากเจอแล้ว” น้ำเสียงพี่เพลิงทำให้ผมอยากได้ยาแก้ปวดหัว
“พี่บอกอัณณ์ว่าจะมาถ่ายรูปไม่ใช่เหรอครับ?” ผมปราม
“ก็...ตอนนี้มีเรื่องสนุก”
นั่นไงล่ะ!
“ถ่ายรูป? อ้ะ...ไลก้า!” ยายตัวเล็กตาโตเมื่อเห็นกล้องที่พี่เพลิงห้อยคออยู่ ปายก็ชอบถ่ายรูปที่สำคัญฝีมือดีด้วย
“น้องรหัสอัณณ์ถ่ายรูปเก่ง” ผมบอกพี่ชาย
พี่เพลิงเหลือบตามองไปที่ด้านหลังยายตัวเล็ก กล้องถ่ายรูปที่ถูกวางอยู่บนกระเป๋าสะพายข้างสระ “อืม...ใช้ของฟูจิ?”
“ใช่ค่ะ ก็ปายชอบสีของฟูจิ..อ้ะ แล้วจะไปตอบทำไมเนี่ย!” พี่เพลิงหัวเราะในลำคอ ดวงตาระยับ
“พี่อัณณ์วันนี้นาวีมีซ้อมบาสฯ ตอนปายปั่นจักรยานมาเห็นเพชรด้วย พี่อัณณ์ลองแวะไปดูสิคะ”
“เจ้าแมว?” ผมเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ สงสัยเพราะจะแข่งรอบชิงแล้วแน่ๆ พวกเจ้าแมวจึงได้เอาจริงเอาจังกัน อีกอย่างได้ยินแว่วว่าคู่แข่งรอบชิงของนาวีคราวนี้คือโลจิสติกส์...กัปตันชมรมบาสฯ ของมหาวิทยาลัยก็อยู่คณะนี้
“ไปสิอัณณ์...พี่ก็อยากเห็นเพชรที่ว่าเหมือนกัน”
ผมส่ายหน้า “อัณณ์ต้องเช็คแปลงผักน้องๆ อีกอย่าง...”
“อัณณ์?” เสียงทุ้มๆ ปนง่วงที่ดังขึ้นมาทำให้ผมถอนหายใจเบาๆ
เอาเข้าไป...จะให้ผมปวดหัวให้ได้ใช่ไหม...เฮ้อ
“เพชร?”
พี่เพลิงเหยียดยิ้มบางทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “นี่น่ะเหรอ...เพชร?”
ถ้าพี่เพลิงกับน้องเพชรเจอกันจะทำยังไง?? แมวหน้ามึนจะขู่สู้เจ้ามนุษย์วายร้ายไหวไหมคะเนี่ย 555
ฝนตกมาแบบอลังการเลยคะ แบบ...ต้องระวังสุขภาพกันให้ดีนะคะ ระวังอย่าให้ป่วย คนเขียนเริ่มมีอาการเป็นหวัดอีกแล้ว ฮืออออ
สำหรับวันนี้...ฝันดีนะคะ ^_^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่เพลิงตะแกล้งอะไรน้องงง
ควรคู่กับเลา!!