"คุณขวัญ"
"ไม่เจอกันตั้งนานเลย ลูกชายแม่ดูดีขึ้นนะจ๊ะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงยินดี ท่าทางราวกับคุณแม่ผู้แสนดีที่ไม่ได้เจอลูกชายมานาน
แต่ผมรู้ดี..ว่านี่แค่แสดงละครเท่านั้น
"แล้วนี่เพลิงไปไหนล่ะ แม่คิดถึงเพลิงเหมือนกันนะ คิดถึงลูกๆ มากเลยล่ะ" คุณขวัญนั่งลงฝั่งตรงข้าม แต่ประโยคที่เธอเอ่ยทำให้ผมยิ้มเย็น
คิดถึง...ลูกชายที่เธออยากให้ตายๆ ไปน่ะเหรอ?
ยังไง...ผมก็ไม่เชื่อ!
"ทำไมไม่พูดกับแม่ล่ะจ๊ะลูกรัก? หรือว่ายังโกรธที่แม่ไม่ติดต่อมา โธ่! แม่ทำงานหนักมากเลยจ้ะ หาเวลาว่าไม่ได้เลย แต่แม่ส่งน้องชายของลูกอีกคนมาแล้วไงลูก เกรย์น่ะ...ทีนี้เราจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา"
ผมยังคงเงียบไม่พูด ปล่อยให้ผู้หญิงตรงหน้าพูดไปเรื่อยๆ เห็นผมเงียบเจ้าแมวก็เงียบ แต่เพชรเหมือนเตรียมพร้อมวอร์ตลอดเวลา คุณขวัญเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ แน่สิ...เธอเป็นคนอารมณ์ร้ายอยู่แล้วการมาพูดจาดี แทนตัวเองว่า 'แม่' เรียกผมว่า 'ลูก' อย่างที่ไม่เคยเรียกเนี่ย ไม่รู้ว่าต้องการอะไร
"แม่เสียใจนะจ๊ะลูกรัก" มือเรียวขาวยื่นมาจะจับแก้มผมแต่ถูกเพชรปัดออกอย่างสุภาพ ทำให้เป้าสายตาของคุณขวัญหันไปมองเพชรแทน
"นี่เพื่อนลูกเหรอจ๊ะอัณณ์ ทำไมไร้มารยาทแบบนี้ แม่กับลูกจะคุยกัน ออกไปก่อนสิ!"
เพชรไม่ตอบ น้องทำราวคุณขวัญไม่อยู่ในสายตา ผมสังเกตเห็นว่านอกร้านมีกลุ่มบอดีการ์ดของบ้านเพชรสองสามคนอยู่
แมวเตรียมพร้อมวอร์จริงๆ ด้วย
ผมส่ายหน้าขำๆ แม้ในใจจะอุ่นวาบกับการปกป้องของเพชร เพราะมีน้องนั่งอยูตรงนี้ ผมเลยไม่กลัวการเผชิญหน้ากับเธอ
"เพชรเป็นแฟนผม"
"ต๊าย! อัณณ์! ทำไมลูกถึงไปชอบผู้ชายได้! น่าเกลียดจริงๆ เลย ทั้งพี่ทั้งน้อง วิปริต!!" คุณขวัญขยับตัวออกจากโต๊ะ ก่อนจะมองผมกับเพชรอย่างรังเกียจ
นี่สิ...ถึงจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ
"ผมจะชอบใครก็เรื่องของผม คุณมีธุระอะไร?" ผมเอ่ยเสียงเรียบ
"ทำไมพูดกับแม่แบบนั้นล่ะลูก" น้ำเสียงอ่อนหวาน ราวกับเมื่อครู่ไม่เคยก่นด่าผมมาก่อน แถมดวงตาคู่สวยนั้นยังฉ่ำน้ำตา ราวกับผมเป็นลูกที่แย่มาก
"ควรได้ตุ๊กตาทอง" เจ้าแมวบ่นเบาๆ ทำหน้ายุ่งๆ แต่ดวงตาฉายแววอันตรายสุดๆ
"แม่แค่เตือนอัณณ์ด้วยความหวังดีเองนะจ๊ะ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ที่แม่หายไปก็เพื่ออัณณ์กับเพลิงนะลูก คุณโลคัสเขาดีมาก เขายินดีรับพวกเราไปดูแลด้วยกัน...แต่ว่าแค่อัณณ์เซ็นต์ยินยอมขายที่ดินให้เขา พวกเราก็จะย้ายไปอยู่เช็กกันอย่างมีความสุขไงจ๊ะ"
นี่เองจุดประสงค์ของเธอ
เอาเรื่องครอบครัวมาอ้าง เอาเรื่องความเป็นแม่ที่แสนดีมาพูด เธอก็แค่...ต้องการที่ดินของพ่อเท่านั้นล่ะ!
"นิสัยไม่ดีจริงๆ" เพชรบอก "เราจะไปแล้ว" น้องลุกขึ้นก่อนยื่นมือให้ผม เมินคุณขวัญ...โดยสิ้นเชิง
"นี่!! เสียมารยาทนะ แม่กับลูกเขาจะคุยกัน!!"
"อัณณ์ไม่คุย คุณถอยไปด้วย"
"กล้าไล่ฉันเหรอ! หยุดทำสายตาน่ารังเกียจแบบนั้นใส่ฉันนะ! กรี๊ดดดดด!! คุณขวัญกรีดร้องปัดของบนโต๊ะลงจนแตกกระจาย พนักงานและแขกในร้านต่างหันมามองพวกเราทันที
"ไอ้บ้า! ไอ้วิปริต!" เธอก่นด่า ชี้หน้าผมกับเพชรแววตารังเกียจชัดเจน
"เกิดอะไรขึ้นคะ!" ดูเหมือนว่าผู้จัดการร้านจะรีบมาเคลียร์
"ไม่มีอะไรครับ...พาเธอไปที เอาไปปล่อยไกลๆ" เพชรบอกกับคนของน้องที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์
"ครับคุณชาย"
"ไม่น่ามองเลย เสียสายตามาก" ทำตาเหยียดๆ ด้วยนะเจ้าแมว...ดูกวนประสาทมาก
"กรี๊ดดดด! ปล่อยฉันนะ! พวกแกไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร!" คนของเพชรพาคุณขวัญออกไปอย่างสุภาพ ก่อนเจ้าแมวจะยกมือไหว้ขอโทษแขกในร้านรวมถึงคุณผู้จัดการเพราะเรื่องนี้
"คำถามงี่เง่า...ขนาดตัวเองยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ตลกอ่ะ" เพชรหัวเราะในลำคอ ท่าทางเป็นเจ้าแมวหาเรื่องสุดๆ
"ขอโทษนะครับ...มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง ค่าเสียหายทั้งหมดด้วย" น้องเปิดกระเป๋าหยิบกระดาษมาเขียนยุกยิก "อันนี้สำหรับค่าอาหารวันนี้ ส่วนค่าเสียหายถ้าประเมิณราคาเสร็จแล้วแจ้งมาที่อยู่นี้นะครับ"
เพิ่งเห็นเจ้าแมวทำท่าทางเป็นงานเป็นการ ดูเป็นแมวที่หล่อมากจริงๆ
"แฟนของพี่นี่...เป็นแมวไฮโซจริงๆ สินะครับ" ผมยิ้ม ค่าอาหารของคนทั้งร้านไม่ใช่น้อยๆ กุมมือเพชรไว้
มือเจ้าแมวเหมือนกำลังใจอันแสนมหัศจรรย์เลย
"งื่อ! ผมเป็นแมวป๋า!" เพชรเอียงหน้า เมื่อเคลียร์ค่าใช้จ่ายเสร็จก็จูงมือผมออกจากร้าน ดีนะที่ร้านไม่เอาเรื่อง ลูกค้าไม่เอาเรื่อง ในเมื่อน้องบอกว่าเลี้ยงดังนั้นใครจะสั่งเพิ่มยังไงก็ได้
"ได้เจอตัวจริงแล้ว...เธอนิสัยแย่มาก" เพชรเบ้ปาก ก่อนจะมองผม "ผมวิจารณ์ได้ไหม" ทำตาอ้อนอีกแน่ะ
"ครับ?"
"เธอเป็นอืม...แม่ของอัณณ์ ผมพูดไม่ดีได้หรือเปล่า?" ผมยิ้ม...น้องเอาใจใส่ผมมากจริงๆ แม้รู้ว่าระหว่างผมกับคุณขวัญไร้ความผูกพันใดๆ แต่เธอก็เป็นแม่อยู่ดี...ผมน่ะใจอ่อนเหมือนที่พี่เพลิงบอกจริงๆ
"พูดเถอะครับ...คุณพ่อของเพชรบอกพี่ว่า 'ความผูกพันรัดตรึง และแน่นแฟ้นยิ่งกว่าสายเลือด' แม้เธอจะเกิดพี่มาแต่นอกจากนั้น...ก็ไม่มีอะไร"
"พ่อพูดถูก! ผู้หญิงคนนั้น...เหมือนคนมีอาการทางจิตเลยครับ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย"
"ต้องถามพี่เพลิงแล้วล่ะครับเรื่องนี้...เพชรให้คนพาคุณขวัญไปปล่อยที่ไหนครับ?"
"โรงแรมเธอ ดีนะผมไม่ให้ปล่อยลงอ่าวไทย" ทำหน้าจริงจังจนผมเลิกคิ้วมอง น้องคงไม่ทำจริงๆ หรอกนะ
"ไม่ทำหรอก...อัณณ์ทำหน้าน่ารัก" เพชรจิ้มแก้มผม "ดีใจที่อัณณ์ยิ้มได้ ตอนเธอมาเห็นอัณณ์เครียด ผมอยากตีเธอจริงๆ เลย กล้าดียังไงว่าอัณณ์ของผม"
"เพราะมีเพชรอยู่ข้างๆ ครับ...เพราะมีเราอยู่ พี่จึงมั่นใจว่าพี่จะไม่เป็นอะไร"
เพชรชะงักมองผมนิ่งๆ ตาวาวๆ ก่อนจะ...หน้าแดง เจ้าแมวหน้าแดงได้น่าเอ็นดูมาก...
จนผมเขินตามเลย
"อัณณ์..." น้องเรียกเสียงอ้อน
"ครับ"
"ผมอยากจูบอัณณ์" พูดได้หน้าตาเฉยมาก ทำตาวาวๆ ราวกับจะพุ่งมางับปากผมมอีก!
"ไม่ใช่แล้วครับ...ไปขับรถเลย" พอมาถึงลานจอดรถผมก็บอกให้น้องไปขับรถ แต่ตัวเองน่ะดันขึ้นฝั่งคนขับเสียก่อน ท่าทางเอ๋อๆ ของผมทำเพชรขำ น้องหัวเราะก่อนจะขึ้นมานั่งอีกฝั่ง...จากนั้น...ก็กักผมไว้ในอ้อมแขนและแนบจูบร้อนๆ ลงบนริมฝีปากของผม
"ผมดีใจ...ดีใจจนอยากจูบอัณณ์ซ้ำๆ" พูดจบก็ขบเม้มปากของผม ผละออกมาแล้วจูบอยู่แบบนั้นซ้ำๆ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน...ผมก็ได้แต่เอียงหน้ารับสัมผัสอุ่นๆ นั้นอย่างเต็มใจ ปล่อยให้น้องเอาแต่ใจเต็มที่
แค่มีเพชรอยู่...เรื่องกังวลหรือความเครียดใดๆ ก็ไม่มีผลต่อผมโดยสิ้นเชิง
เป็นเจ้าแมวที่ฮีลหัวใจทาสอย่างผมจริงๆ เลย
:: เพชร ::
หลังจากจูบอัณณ์จนพอใจแล้ว ผมก็เป็นฝ่ายมาขับรถแทน ให้อัณณ์ขับไม่ได้หรอก เขินแก้มแดงขนาดนั้น เดี๋ยวอัณณ์ไปชนคนอื่นเข้าแล้วผมจะกลายเป็นแมวที่ทำความผิดอีก โทษฐานทำเจ้าของเขินจนเกินไป
แต่ผมไม่ผิดสักหน่อย...ใครให้อัณณ์น่ารักกันล่ะ! แค่บอกว่ามีผมอยู่ใกล้ๆ อัณณ์ก็เข้มแข็ง ผมน่ะ...อยากจะคว้าอัณณ์มากอดแล้วฟัดๆ ให้แก้มช้ำเสียตรงนั้น ประกาศให้คนทั้งห้างรู้ไปเลยว่าเจ้าของผมน่ะ...น่ารักที่สุดในโลกเลย!
วันนี้วันศุกร์ผมเลยพาอัณณ์มาที่บ้าน มานอนบ้านผมนอกจากคิดถึงและหาเรื่องกอดอัณณ์แล้วก็เพื่อความปลอดภัยด้วย ผมจอดรถไว้ที่โรงรถก่อนจะจูงมืออัณณ์เข้าไปในบ้าน เห็นคุณแม่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขกกับพี่กาล
"น้องอัณณ์...สวัสดีจ้า" คุณแม่ยิ้มหวานรับไหว้อัณณ์ ก่อนจะกวักมือเรียกอัณณ์ไปนั่งข้างๆ แล้วกอดหมับ ก่อนจะชี้ชวนอัณณ์ดูละคร เช่นเดียวกันเลยกับพี่กาล...
ส่วนผมน่ะเหรอ...กลายเป็นแมวที่ถูกคุณแม่เมินไปแล้วโดยสิ้นเชิงเลย
งื่อ! ทุกคนชอบแกล้งผม!
"น้องเพชรไปตามพี่เพ กับคุณพ่อที่โรงฝึกด้วยนะคะ จริงสิ...เมื่อกี้พี่เพลิงมา ตอนนี้กำลังซ้อมอยู่กับคุณพ่อ กับพี่เพ จริงๆ เลยไอ้เรื่องต่อยตีนี่ชอบกันจัง!" คุณแม่มองผมตาขวางราวกับเหมารวมผมไปด้วย
"นั่นสิค่ะ กาลก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ไม่พอยังพาไนท์ไปนั่งดูอีก" พี่กาลก็มองผมตาขวางด้วยอีกคน
"ผมไม่เกี่ยวนะ" ผมทำหน้าอ้อน เห็นอัณณ์ยิ้มขำ
โอเค...ให้คุณแม่กับพี่กาลทำตาขวางใส่ผมอีกก็ได้ ถ้าทำให้อัณณ์ยิ้ม
ผมยอมได้ทุกอย่างอ่ะ!
"เดี๋ยวพวกเราจะเข้าครัวกัน ก่อนหนึ่งทุ่มน้องเพชรต้องพาทุกคนมาให้ได้นะคะ ไม่อย่างนั้นคุณแม่จะไม่ให้ทานฝีมือพี่อัณณ์!"
"แม่อ่ะ" ผมประท้วง "ถ้าไม่ได้กินอาหารฝีมืออัณณ์...ผมกินข้าวไม่ได้นะ"
"น้องเพชรนี่เวอร์มากค่ะ ทานฝีมือป้านม ฝีมือคุณแม่กับพี่มาหลายปี พอมีเจ้าของนี่เวอร์จริงๆ"
"ก็อัณณ์น่ารัก"
"ไม่เกี่ยวเลยครับแมว" อัณณ์ส่ายหน้ายิ้มๆ "เดี๋ยวพี่เพลิงก็มาเองนั่นล่ะครับ เห็นว่าวันนี้ปายต้องไปซ้อมสแตนด์ พี่เพลิงต้องไปส่งแฟนตัวเองอยู่แล้ว"
ผมแบะปาก ปายอยู่ประตูสามเดินเข้ามหาลัยแป๊บเดียว แต่พี่เพลิงก็ยังจะไปส่ง ไม่รู้ว่าผมหรือพี่เพลิงกันแน่ที่เวอร์อ่ะ
"น้องเพลิงนี่เป็นผู้ชายที่ดีจริงๆ ถ้าพี่เจอตอนสาวๆ นะอย่างเพน่ะชิดซ้ายไปเลยล่ะจ๊ะ" พี่กาลหัวเราะ
"ใช่เลยจ๊ะกาล แม่เห็นแล้วยังอยากกลับไปวัยรุ่นเลย"
ผมแบะปาก ตั้งแต่อัณณ์พาพี่เพลิงมาคราวก่อน ทุกคนบ้านผมก็ถูกพี่เพลิงซื้อไปแล้วแบบถาวร แถมยังบอกว่าหมากล้อมเล่าเรื่องโกหกอีก ไม่เห็นพี่เพลิงจะร้ายกาจตรงไหนออกจะเป็นผู้ชายในฝันของสาวๆ
เหอะ! พี่เพลิงน่ะจอมมารจะตายไป!
"ผมไปล่ะนะ..." ผมบอกแต่ทุกคนกำลังคุยกัน ผมเบ้ปากก่อนจะเดินไปที่โรงฝึก รอบๆ ทางเดินมีต้นไม้เพิ่มมากขึ้น แน่นอน ว่าอัณณ์มาช่วยคุณพ่อปลูก ถ้าวันไหนว่างๆ คุณพ่อจะพาอัณณ์ไปซื้อต้นไม้แล้วมาปลูกกันทั้งวัน ทำให้ผมเป็นแมวถูกทิ้งคอยเจ้าของ พอมาช่วยก็ดันหาว่ามาทำลายอีกโดนไล่ให้ไปนั่งดูเฉยๆ
ผมดีใจนะ อัณณ์เข้ากับคนที่บ้านผมได้ดีมาก อาจเป็นเพราะคุณพ่อคุณแม่ พี่ชายพี่สะใภ้รักคนที่ผมรัก และนิสัยของอัณณ์ด้วย ผมเลยไม่มีปัญหาครอบครัวไม่ชอบแฟนตัวเอง แต่ก็นั่นล่ะ...บางทีเข้ากันได้ดีจนเกินไปผมเลยมักเป็นแมวถูกเมินอยู่บ่อยๆ
ทุกคนชอบแย่งอัณณ์ไปจากผม ทำให้ผมอ้อนอัณณ์ได้น้อยลง!
ทุกคนแกล้งผม!
"อ้าว ไงแมว ได้ข่าวว่าต้องเลี้ยงคนทั้งร้านเพราะคุณขวัญเธอเหรอ?" โผล่หน้าเข้ามาในโรงฝึกพี่เพลิงก็ทักขึ้น ก่อนจะหมุนตัวใช้ขาแตะพี่เพที่ยกการ์ดรับไว้ทัน
รู้ดีจริงๆ สายข่าวจอมมารนี่น่ากลัวชะมัดเลย
"รู้?"
"คนของสิงห์โทรฯ มาบอกพี่ เพชรเอาไปส่งหน้าโรงแรมแล้วใช่ไหม? ต่อหน้าอัณณ์ก็เบามือหน่อยล่ะกัน แต่คราวหลังถ้าเธอมาระรานอีกก็ตามสบาย"
"งื่อ!" พี่เพลิงคุยง่ายกว่าอัณณ์เยอะ...เฉพาะเรื่องนี้น่ะนะ ถึงปากอัณณ์จะบอกว่าไม่ใส่ใจยังไง...แต่ผมคิดว่าอัณณ์ก็ห่วงเธออยู่บ้างตามประสาคนใจดีของผม
"พอก่อนก็ได้นะเพลิง ฝีมือเรานี่ดีจริงๆ เลิกเป็นช่างภาพแล้วมาทำงานกับพี่ดีกว่ามา" พี่เพทายยิ้มกว้างกอดคอพี่เพลิงอย่างสนิทสนม คุณพ่อกับไนท์ที่นั่งดูอยู่ก็ปรบมือแปะๆ
"ฮะๆ สิงห์เพื่อนผมมันก็ชวนแบบนี้ อย่าดีกว่าครับผมชอบการถ่ายภาพ อันนี้ไว้ป้องกันตัวมากกว่า" พี่เพลิงใช้ผ้าขนหนูซับเหงื่อก่อนจะอุ้มน้องไนท์ขี่คอ "หนักจริงๆ เจ้าลูกหมู"
"ไนท์ไม่หนักนะฮับ โตขึ้นไนท์จะเท่ห์เหมือนพี่เพลิง เหมือนคุณพ่อ" เจ้าตัวหัวเระาชอบใจ ก่อนจะเหลือบมามองผมกับคุณพ่อ "เหมือนคุณปู่กับอาเพชรด้วย"
เจ้าเด็กฉอเลาะ กลัวผมกับคุณพ่อน้อยใจล่ะสิ ขืนไปพูดให้คุณแม่กับพี่กาลได้ยิน พวกผมถูกงดมื้อเย็นกันแน่ๆ
"เธอไม่สบายเหรอ...คนนั้นน่ะ" ผมถามพี่เพลิง
"อืม...ก็อาจจะป่วยจริงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เหมือนคนคลุ้มคลั่งใช่ไหมล่ะ?" พี่เพลิงเหยียดยิ้ม "แถมยังโลภมากอีกด้วย"
"มาถึงก็เล่นละคร ไม่น่าดูเลย แถมยังว่าผมกับอัณณ์อีก นิสัยไม่ดี"
"ถ้าคุณขวัญเธอมาดีน่ะสิแปลก" พี่เพลิงยักไหล่ "เรื่องที่เช็กไม่ต้องห่วงนะ เพื่อนพี่กำลังอยากซื้อหุ้นโรงแรมเพิ่มอยู่พอดี ยิ่งเล่นกับคนโลภ...ง่ายมาก"
"จะเทคโอเวอร์กิจการฝั่นโน้นเขาเหรอ?" คุณพ่อท่านเลิกคิ้ว ดวงตามีแววชื่นชมพี่เพลิง
"ยังก่อนครับ รอช้าๆ ผมไม่ได้ทำอะไร...แค่ขอให้เพื่อนช่วยนิดๆ หน่อยๆ แต่คุณโลคัสคนนั้นเดินเข้ามาหากับดักเอง หากเขามีความสามารถธุรกิจของเขาก็รอด...แต่หากเขาโลภเกินไป..." พี่เพลิงไม่ได้พูดต่อแต่รอยยิ้มที่มุมปากนั่นก็เพียงพอแล้ว...
"เฮ้อ...อย่างพี่เพบอก พ่อล่ะเสียดายจริงๆ เพลิงควรมาทำงานกับพ่อ กับเพนะ"
"ขอบคุณที่ชวนนะครับ"
"ว่างๆ ลองมาดูก่อน ทางนี้ไม่ต้องห่วงหรอก พ่อให้เพชรเล่นได้เต็มที่"
"แน่นอน" ผมพยักหน้าหงึกหงักอย่างมั่นใจ อย่าที่พี่เพลิงบอก
อย่าให้อัณณ์รู้พอ
โรงแรมที่คุณขวัญอะไรนั่นพักก็เป็นธุรกิจของคนรู้จักกับบ้านผม...ดังนั้นทุกคนเป็นสายให้ผม แล้วคนที่เธอจ้างก็เป็นคนบ้านผมอีก
นี่ล่ะ...ที่ผมเคยบอกไปว่าเกรย์ง่อย ดีนะเจ้าดื้อหน้าบู้บี้นั่นเป็นเด็กดีนิดหน่อย เข้าใจอะไรง่าย และติดพี่ ไม่อย่างนั้นผมจะตีให้หมดเลย!
ผมยังไม่ได้คิดดอกเบี้ยค่าน้ำตาของอัณณ์เลย
อย่าหวังว่าคุณขวัญกับนายโลคัสนั่นจะอยู่ดีมีสุขกัน
"แม่บอกว่าไปทานข้าว...ทุ่มหนึ่งนะ"
"อืม เดี๋ยวสองทุ่มพี่ต้องไปส่งปายต้องเข้ามหาลัยด้วย"
"ปายเดินก็ได้"
"เอ้า! แมวนี่ มีแฟนก็ต้องให้แฟนไปส่งสิ ใครจะยอมให้แฟนเดินกันล่ะ"
"พี่เพลิงเวอร์" ผมแบะปาก
"ไม่เท่าเราหรอกแมว" มือใหญ่ยีหัวผมแรงๆ ส่วนคุณพ่อกับพี่เพ และเจ้าหลานชายก็หัวเราะ แต่ไม่มีใครห้ามสักคน ฮึ่ม! นี่ไม่ติดว่าต้องไปกินข้าวกันนะ ผมจะท้าพี่เพลิงตีอีกรอบเลย
อลาสกันนิสัยไม่ดี!
"พรุ่งนี้อัณ์จะไปไหนไหมครับ?" ผมเอียงหน้าถามคนที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ บนเตียงของผม ที่จริงบ้านผมน่ะมีห้องว่างหลายห้อง แต่ทำไมต้องให้อัณณ์ไปนอนห้องอื่นด้วย นอนให้ผมกอดน่ะดีที่สุดแล้ว!
"อืม...นอนแปลเปเปอร์สัมมนาที่บ้านเพชร แล้วช่วยคุณพ่อปลูกต้นไม้ครับ คงไม่ไปไหน"
ผมยิ้ม เกลี่ยแก้มขาวๆ นั้นก่อนจะจัดการปิดหนังสือแล้ววางไว้บนโต๊ะข้างเตียง อัณณ์จึงมองผมแบบดุๆ
ก็...อยากให้เจ้าของสนใจแมวอย่างผมมากกว่าหนังสือนี่นา ผมน่ารักกว่าตั้งเยอะ!
"นอนให้ผมกอดดีกว่า" ผมยิ้มอ้อน เอามืออัณณ์มาคลอเคลีย เห็นเขาแก้มแดงแล้วชอบใจมาก
"เจ้าแมวหื่น" อัณณ์จิ้มจมูกผมจึกๆ
ไม่ได้หื่นสักหน่อย แต่ใครให้อัณณ์กับเสื้อของผม กับกลิ่นของผมดูดีขนาดนี้ล่ะ!
"วันนี้ขอบคุณเพชรมากจริงๆ นะครับ ตั้งแต่เจอเราพี่พูดคำนี้ไปหลายครั้งแล้ว แต่ดีใจจริงๆ ที่มีเพชร"
"ผมเเป็นแมวของอัณณ์...อัณณ์เป็นเจ้าของผม"
"เพชรทำให้พี่เสียนิสัยนะครับ..." อัณณ์ยิ้ม ดึงจมูกและขยำแก้มผมเบาๆ ผมเลยล้มตัวไปทับอัณณ์เสียเลย แต่ก็ใช้แขนดันตัวไว้ไม่ให้โถมแรงใส่อัณณ์ ไม่ได้หรอก...ผมตัวโตไม่อยากให้เจ้าของที่น่ารักของผมเจ็บ
"เสียนิสัยกับผมคนเดียวพอ...นะครับ" ผมสูดกลิ่นหอมที่ซอกคอของอัณณ์ รับรู้ว่าคนใต้ร่างสะดุ้งเล็กน้อยก็หัวเราะขำ
น่าแกล้งจริงๆ เลย...
"เจ้าแมว!" อัณณ์ดุ
"อัณณ์คิดมากอยู่...ไม่ต้องคิดมากนะ คิดแต่เรื่องผมพอ" ผมกระซิบก่อนจะขบซอกคออัณณ์เบาๆ ขบไปขบมาก็เพลิน เนื้อนิ่มๆ หอมๆ ชวนให้สติและความยับยั้งชั่งใจหายไปทีละน้อยๆ ทีละน้อยจริงๆ
"อื้อ!...เพชร"
"ผมจูบนะ...ครับ" ทำตาอ้อนเข้าไว้ ผมรู้อัณณ์ใจอ่อนเสมอล่ะเวลาผมอ้อนน่ะ และไม่รอคำตอบผมก็จัดการปิดปากอัณณ์ด้วยปากของผมทันที
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน...พอเป็นแฟนกัน
ยิ่งใกล้กันเท่าไหร่ผมก็รู้สึกว่าอดทนได้ยากขึ้น
ได้จูบแค่นิดเดียว...มันไม่พอ...ไม่เคยพอเลย
ผมขบกัดริมฝีปากนั้นอย่างแผ่วเบา ช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สอดปลายลิ้นเข้าไปเลาะชิมความหวานด้านใน
มีคนบอกว่าจูบจะหวานผมไม่เคยเชื่อจริงๆ นะ แต่พอจูบอัณณ์...มันหอมหวานยิ่งกว่าขนมรสเลิศใดๆ
มือของผมค่อยๆ ไล้ไปตามเรือนร่างของอัณณ์...เจ้าของของผมไม่ได้ตัวบาง กลับกันมีกล้ามเนื้ออย่างพอดี พอรวมเข้ากับนิสัยและท่าทางแล้วดันมีเสน่ห์มาก
ที่จริง...อัณณ์ขัดขืดผมได้ แต่ช่วยไม่ได้ที่ผมรู้วิธีที่จะมอมเมาเจ้าของ
ในเมื่ออัณณ์บอกว่าเป็นทาสแมว...ตอนนี้ผมจะมอมเมาให้หลงแมวอย่างผมเยอะๆ
ผมปรับเปลี่ยนองศาการจูบ สอดมือไปภายใต้ร่มผ้า สัมผัสผิวกายเบาๆ รับรู้ว่าคนใต้ร่างสะดุ้งเล็กๆ แต่อัณณ์ไม่ได้ดิ้นหนี ผมไล้ปลายนิ้วอย่างช้าๆ ผิวกายร้อนๆ กระตุ้นอารมณ์ปรารถนา ก่อนจะค่อยๆ ผละจากริมฝีปากที่ยามนี้บวมขึ้นน้อยๆ หยาดน้ำใสๆ เชื่อมปลายลิ้นของเราสองคนไว้ด้วยกัน ดวงตาเรียวสวยของอัณณ์ดูเหม่อๆ เหมือนสติยังไม่เต็มร้อย...และแฝงด้วยความปรารถนา
ผมยิ้มกว้าง...ยิ้มหวานมาก ก่อนจะค่อยๆ ใช้ริมฝีปากปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินที่อัณณ์สวมอยู่ออกทีละเม็ด ทีละเม็ด
ทุกครั้งที่ปลดกระดุมเสร็จผมจะจูบหนักๆ ลงไปให้อัณณ์สะดุ้งเล่น...และไม่นาน...เสื้อเชิ้ตตัวนั้นก็หลุดออกไปอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นผิวขาวที่ยามนี้แดงเรื่อ และรอยแดงๆ จากฝีมือของผม
"เพชร..." อัณณ์เรียกเสียงแผ่ว น้ำเสียงทั้งแหบพร่าทั้งเจือแววกระเส่า จนทำให้สติของผมหลุดหายไปทันที
ในหัวยามนี้มีแต่การฟัดเจ้าของไว้ใต้ร่าง...และแน่นอนว่า...ผมจะไม่ปล่อยให้หลุดมืออีกแน่ๆ...
แมวๆๆๆๆๆๆๆทำอะไร
แมวนางร้ายยยย ขอให้นก! ให้มีใครเคาะประตูเข้ามา หมั่นไส้แมว! 5555
รออ่านเลยค่าาาาาา