Cr. IG. Kuma.goro
ชาเอิร์ลเกรย์ I.
"พี่มีธุระอะไรกับผม?" ผมเสยผมที่มันหล่นมาปรกหน้า ผมยาวขนาดนี้เห็นทีต้องหาทางไปตัดแล้วล่ะ ยิ่งผสานกับอากาศร้อนของเมืองไทยแบบนี้ ยิ่งน่ารำคาญมาก แต่ถึงจะรำคาญยังไงผมก็ดีใจที่ได้นั่งอยู่ตรงนี้
ตรงหน้าพี่เตโช
ผู้ชายที่ผมแอบชอบ...
ผมตอนนี้เกรียมแดดไม่น้อย เพราะไปเล่นน้ำทะเลกับพวกพี่เพลิง พี่อัณณ์มา ถึงจะถูกแกล้งแต่ผมสนุกมาก ได้ยิ้มกว้างๆ ได้หัวเราะ ได้โวยวาย ได้เอาแต่ใจ มีคนอยู่ข้างๆ สนุกสนานโดยที่ผมเป็นส่วนหนึ่งในนั้น ไม่ได้อยู่คนเดียว...
ฝันที่เคยอยากมีสักครั้ง...
แลกกับการผิวคล้ำขึ้นนิดหน่อยก็ไม่เลว แม้พี่ตำลึงคนสวยจะบอกให้ผมเอาครีมว่านหางจระเข้และโยเกิร์ตพอกตัวก็เถอะ
พี่เตโชถอดแว่น ก่อนจะหรี่ตามองผม ดวงตาคมกริบคล้ายมองเด็กเกเร เขามองผมแบบนี้เสมอ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาผมก็เป็นตัวปัญหาสำหรับเขาอยู่ดี
"ในรุ่นนาย บอกว่านายทำตัวมีปัญหา ไม่เข้าหาเพื่อนกับรุ่นพี่ ไม่ทำกิจกรรม" เสียงเย็นต่อว่าชัดเจน
"เหอะ" ผมแค่นเสียง ไม่ชอบระบบการศึกษาแบบนี้เลยจริงๆ ผมไม่เข้าพวก? ไม่ทำกิจกรรม ก็ต้องดูด้วยสิว่ากิจกรรมที่ทำน่ะมันมีสาระแค่ไหน ไม่ใช่รุ่นพี่นึกอยากจะนัดก็นัดเมื่อไหร่ก็ได้ดึกดื่นเที่ยงคืน ผมมีงานมีการต้องทำเหมือนกันนะ แล้วนัดไปทำไมถ้าไม่ใช่ฟังพี่บ่น ต้องไหว้ ต้องใส่ป้ายชื่อ ต้องแต่งตัวอย่างโน้นอย่างนี้ คือโตแล้วป่ะวะ? แค่ใส่ชุดนิสิต แต่งตัวให้ถูกระเบียบก็พอ
อย่างอื่นอย่าเยอะกับผม
"แล้วผมทำไมไม่ย้อมเป็นสีดำ?"
"นี่มันสีธรรมชาตินะครับ ผมเป็นลูกครึ่ง" ผมกลอกตา เพราะผมสีเทาที่ดูเด่น กับดวงตาสีฟ้าทำให้ผมแปลกแยก ส่วนหนึ่งเพราะไม่อยากสนิทกับใครด้วย
อีกส่วน...พวกเขากีดกันผมเอง ยิ่งผมไปสร้างเรื่องกับนาวีฯ ไว้คราวก่อน ทำให้ผมโดนคนในรุ่นเขม่นไม่น้อย
ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่ค่อยสนใจ...เพราะผมคงเรียนที่นี่ไม่นานนักหรอก
"ทำตัวให้ดีหน่อย ฉันไม่อยากตามเก็บกวาดเรื่องของนาย" พี่เตโชถอนหายใจ "อย่าไปหาเรื่องใส่ตัวด้วย"
ผมกดหัวคิ้ว "ในสายตาพี่ผมเคยดีบ้างไหมล่ะหา?"
"แล้วนายเคยทำตัวดีด้วยเหรอเกรย์ วันๆ เอาแต่ก่อเรื่อง!" เขาส่งเสียงเข้ม
ผมเม้มปากแน่น กำลังจะเถียงกลับ แต่ประตูห้องของประธานสโมสรวิศวะถูกเปิดเข้ามาโดยไม่ขออนุญาต คนเปิดเป็นคนเดียวกับที่ผมเห็นในห้องนี้คราวก่อน...
คนที่จูบกับพี่เตโช
"ไวน์..."
"เตทำงานอยู่หรือเปล่า? วันนี้ไวน์ว่าจะมาชวนเตไปเดินตลาดด้วยกัน" คนมาใหม่ยิ้มหวาน ใบหน้าสวยนั้นดูมีความสุข
แน่สิ...ในเมื่อพี่เตโชอ่อนโยนกับเขามาก จะไม่ให้มีความสุขได้ยังไงกันล่ะ!
"เตว่างเสมอสำหรับไวน์" น้ำเสียงพี่เตโชอ่อนโยน ดวงตาที่มองผมอย่างรำคาญใจเมื่อครู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลขึ้นจนผมสะอึก
แค่นี้ก็บอกให้รู้แล้วนี่...ว่าความสำคัญมันต่างกัน
คนนี้ต่างหากที่พี่เตโชรัก
ส่วนผมน่ะตัวปัญหา!
ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บ ขอบตาร้อนผ่าว จนไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้ ผมลุกขึ้นทันที ก้าวยาวๆ ไปที่ประตูโดยไม่บอกลา
"เกรย์" ผมชะงักเมื่อพี่เตโชเอ่ยเรียก เขามีอิทธิพลกับผมเสมอ แค่เสียงเรียกเบาๆ ผมก็หันไปหาทันที
"มีอะไรอีก? ผมควรอยู่ขัดจังหวะพี่งั้นเหรอ?" ผมพยายามที่จะไม่อ่อนแอต่อหน้าเขา สวมหน้าตาเด็กเกเรจอมยียวนต่อไป
"ฉันบอกนายหลายครั้งแล้วเรื่องมารยาท ฉันอายุมากกว่านาย ไวน์ก็ด้วย นายควรลาพวกเราก่อนไป"
ผมกำมือแน่นจนเล็บจิกลงบนฝ่ามือ กลืนก้อนแข็งๆ ลงคอ "จะเคารพใครอยู่ที่ความสมัครใจด้วย...ผมไม่อยากไหว้!" ผมปิดประตูเสียงดัง ขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด
พี่เตโชทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง!!
ได้แต่ระงับสติอารมณ์ของตัวเอง เห็นเด็กในช็อปสีเลือดหมูของวิศวะหลายคนมองมาที่ผม ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจ ยกมือดูนาฬิกาที่บอกเวลาใกล้เที่ยงแล้ว ซึ่งผมยังไม่มีข้าวตกถึงท้องสักเม็ด วันนี้ไม่มีเรียนคาบบ่ายด้วย...
ไปหาอะไรกินข้างนอกดีกว่า นั่งในโรงอาหารก็นั่งคนเดียวอยู่ดี แถมยังร้อนอีก
"อ้าว...น้องเกรย์? มากินข้าวเหรอ?" น้ำเสียงทักทายอย่างอารมณ์ดี พร้อมแขนแข็งแรงที่คล้องพาดไหล่ผมอย่างถือวิสาสะ
แต่แค่เสียงและกลิ่นหอมใบชาอ่อนๆ ผมก็รู้ดีเลยว่าใคร
"พี่ชา"
"ถูกต้องแล้วครับ" รุ่นพี่ในช็อปสีเทาทำหน้าทะเล้น ผมปรายตาไปด้านหลังพี่เขาที่มีช็อปเทาหลายคนที่มองผมอย่างสนใจ ก่อนจะเดินไปหาที่นั่งกัน พี่ช้างโบกมือให้ผมอย่างเป็นมิตร ส่วนพี่เพชรก็ทำสีหน้าเหมือนแมวนอนไม่พอใส่ แต่ยังอุตส่าห์โบกอุ้งมือ...ไม่สิมือให้ผมเบาๆ โรงอาหารนี้คณะพาณิชยนาวียึดส่วนหน้าไปเรียบร้อย ผมเดินผ่านทางนี้ จึงเจอกันพอดี
"พี่ไม่กินข้าวเหรอครับ?" แม้ผมจะทำหน้าตากวนๆ ใส่ แต่พี่ชาเขาแค่หัวเราะ แล้วเอื้อมมือมาหยิกแก้มผมไปมาไม่สนใจอะไรด้วย
เอาแต่ใจมาก มือเหนียวมากด้วย สลัดไม่เคยหลุด!
ฮึ่ม!
"เอ็บ..." ผมประท้วง
ตอนอยู่ทะเลค่อนข้างสนิทกัน เอาเป็นว่าผมเกรียนแค่ไหน ทำตัวร้ายกาจยังไง พวกพี่เขาก็มีวิธีจัดการ จนบางที...ผมก็รู้สึกว่าสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างแท้จริงเมื่ออยู่กับคนๆ นี้
อยู่กับกลุ่มคนเหล่านี้
"ไอ้ชามึงปล่อยแก้มน้องเขาได้แล้ว แดงหมดแล้วน่ะ" ขอบคุณที่ห้ามครับพี่ช้าง! ให้ดีคือเอาเพื่อนประสาทเสียพี่ไปไกลๆ ผมด้วย! ผมส่งสายตาขอบคุณพี่ช้างทันที
"ชา...แกล้งมากไม่ดี เดี๋ยวถูกข่วน" นี่คือคำพูดพี่เพชรครับ...งงมาก! และแมวมาก!
"อา...กูลืมไปเลย กระต่ายก็เล็บคมนี่นะ ยิ่งกระต่ายตัวนี้ยิ่งมีเขี้ยวเล็บ โอ๋ๆ หายโกรธนะเจ้าตัวน้อย เดี๋ยวเลี้ยงเครปเลยเอ้า!" พี่ชาเอามือมาวางแปะบนหัวผม โยกเบาๆ เหมือนผมเป็นเด็ก แล้วไอ้คำพูดคำจากนั่นมันอะไร
ใครคือกระต่าย! ใครเป็นเจ้าตัวน้อย!
อีกอย่างผมไม่ใช่เด็กที่เอาขนมมาล่อได้!!
ไอ้พี่บ้านี่!!
"ทำหน้าอย่างนี้จะกระโดดกัดพี่ล่ะสิ ฮะๆ เครปที่โรงอาหารเราอร่อยนะ ต้องรอคิวยาวมากเลย"
ผมได้แต่ถอนหายใจเบาๆ "ผมไม่ชอบกิน"
"กูไปจองที่ก่อน เลิกเซคช้าวันนี้แทบไม่มีที่นั่ง หรือพวกเราไปกินข้างนอกกันดี?" พี่ช้างเสนอ
"มึงจะไปกินที่ไหนครับไอ้ช้าง เที่ยงยี่สิบแล้ว บ่ายโมงมึงมีเรียนนะโว้ย คาบจารย์กานดา เข้าสายก็ถูกล็อคห้องนะครับ"
"มาม่า" พี่เพชรเสนอ
"มาม่าบ้านมึงสิไอ้แมว! ใช่สิ มึงมีอาหารที่พี่อัณณ์คนดีทำมาให้นี่! แถมไม่แบ่งพวกกูอีก!" พี่ชาเบ้ปาก ตีหัวพี่เพชรไปสองสามที ซึ่งแมวสุดหล่อก็มองตาดุๆ แล้วยักไหล่ท่าทางอวดมาก
"อิจฉาล่ะสิ?"
"หมั่นไส้โว้ย!"
ผมหัวเราะ เห็นด้วยกับพี่ชาพี่ช้าง พี่เพชรน่ะขี้อวดจริงๆ ยิ่งเป็นเรื่องของพี่อัณณ์ยิ่งอวด
แต่...ทั้งคู่ก็เป็นแฟนที่น่าอิจฉา
"พวกพี่รีบไปหาอะไรกินกันเถอะ ผมจะออกไปข้างนอกล่ะ ไม่มีเรียนบ่ายด้วย" ผมยกมือไหว้ ก็บอกแล้ว...จะเคารพใครผมเลือกเอง
"เดี๋ยวๆ หยุดเลยเจ้ากระต่ายตาแดง...ไม่สิเกรย์ตาฟ้านี่ มากินข้าวกับพวกพี่เสียดีๆ" พี่ชากอดคอผมแน่น
"ไม่เอาอ่ะ ร้อน"
"ดูทำหน้า...มันเขี้ยว!" มือใหญ่ๆ นั่นประทุษร้ายแก้มผมอีกแล้ว!
"กินกับพวกพี่นี่ล่ะ...ไปคนเดียวแบบนี้ไม่เห็นดีเลย กินข้าวน่ะต้องกินกันหลายๆ คนนะถึงจะอร่อย" พี่ชายิ้มมุมปาก ดวงตาที่มองสบกับดวงตาผมนั้นทำให้จังหวะหัวใจเต้นผิดปกติ...
มันอบอุ่น...และวาบหวาม
จนอดไม่ได้ที่จะ...หน้าแดง
ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน...
"เดี๋ยวไอ้ชามันเลี้ยง แน่นอนว่าพวกกูด้วยนะเพื่อนชา"
"เออๆ กูเลี้ยงก็ได้ มึงนี่จริงๆ รีดไถกูตลอด" พี่ชาทำสีหน้าแบบระอาเต็มที่ แต่ผมที่มองอยู่กลับอมยิ้ม ผมชอบความสัมพันธ์ของเพื่อนแบบนี้ ดูทะเลาะกันบ้าง แต่เป็นตัวของตัวเองต่อหน้ากันและกัน
มีแค่เพื่อนที่เราไว้ใจและเชื่อใจเท่านั้นที่จะเป็นแบบนี้ได้
"ไปๆ กินมาม่านี่ล่ะ เดี๋ยวแถมไส้กรอกให้ด้วย!"
"เลี้ยงใหญ่มากเลยมึงไอ้ชาเอ๊ย!"
"ขี้งก"
"พวกมึงสองคนเงียบไปเลย เกรย์...ถ้าหัวเราะอีกพี่จะบีบแก้มเราอีกนะ พี่กินไปได้บีบแก้มเกรย์ได้ เชื่อไหมล่ะ?" ผมเงียบเสียงทันทีทันใด...ผมเชื่อว่าพี่ชาทำได้!
พวกเราสี่คนเดินลงมาเซเว่น แน่นอนว่าผมยังเป็นที่วางแขนแสนพิเศษให้พี่ชา สังเกตว่าตลอดทางเดินสั้นๆ พวกเราตกเป็นเป้าสายตาไม่น้อย หลายคนคงสงสัยว่าผมที่แทบจะตีกับเด็กนาวีฯ ทำไมมาสนิทสนมกับสามคนนี้ได้
เอ่อ...ผมไม่รู้เหมือนกันนะ!
"เกรย์ไม่กินเผ็ด เห็นคราวก่อนน้ำหูน้ำตาไหลเลย เอามาม่าน้ำใสไปล่ะกัน กินได้หรือเปล่า?" พี่ชาหันมาถามไถ่ เขาช่างสังเกตและช่างจดจำ คราวก่อนที่ทะเล ผมไม่ทานของเผ็ด กินไปนิดหน่อยก็ดื่มน้ำตามไปหลายแก้ว ไม่นึกว่าพี่เขายังจำได้
รู้สึกดีจัง...ที่มีคนใส่ใจเรื่องของผมขนาดนี้
"กินได้...ครับ"
"ไปซื้อไข่ต้มกัน อย่ากินมาม่าเปล่าๆ ไม่มีสารอาหาร"
"นี่กินจนชำนาญเลยเหรอ?" ผมเลิกคิ้วแปลกใจ พี่ชาหัวเราะหึๆ
"เวลารีบๆ ก็กินแบบนี้ล่ะ บางทีพวกพี่เลิกเรียนเที่ยงครึ่ง บ่ายโมงต้องเรียนต่อ หรือบางทีคาบจนคาบ ต้องประทังความหิวตัวเองไว้ก่อนไง"
ผมพยักหน้าหงึกหงัก พอจะเข้าใจว่าพวกพี่เขาเรียนหนักมาก เห็นพี่ช้างหยิบไข่ต้มสองสามแพ็คใส่ตะกร้าสีส้ม ที่ผมอุ้มอยู่
"ไม่เยอะไปเหรอครับ?" หกฟองเลยนะ
"ไม่นี่...ของพี่สี่ ของเกรย์สอง ทานไข่ต้มอย่างน้อยวันละสองฟองดีต่อสุขภาพนะ"
"พี่ดูเอาใจใส่คนอื่น?"
พี่ชาเอียงหน้า หยิบไส้กรอกและขนมหวานสองสามอย่างใส่ลงมา "อาจเป็นเพราะพี่เป็นพี่ชายคนโตด้วยมั้ง บ้านพี่มีน้องชายกับน้องสาว เจ้าพวกนั้นชอบอ้อนมืออ้อนเท้า เลยต้องดูแลเป็นพิเศษ"
มองรอยยิ้มของเขาแล้วผมก็ได้แต่ยิ้มตาม...ใครก็ตามที่มีผู้ชายคนนี้เป็นพี่ชาย ต้องโชคดีมากแน่ๆ ขนาดผมเจอเขาแค่ไม่กี่ครั้งก็รู้สึกดีและอบอุ่นมากๆ
"เอาล่ะ...ของเราสองคนคงพอแล้ว เกรย์อยากได้อะไรอีกไหม"
ผมส่ายหน้า ก่อนจะหัวเราะเมื่อเห็นพี่เพชรกับพี่ช้างถือตะกร้าสีส้มคนละใบ เต็มใบด้วยขนมและของกินสารพัด จนพี่ชาหันไปด่าเพื่อนยาวๆ เพราะตัวเองบอกแล้วว่าจะเลี้ยง
ออกจากเซเว่นมานั่งกินมาม่ากันข้างบ่อพักน้ำข้างตึกสิ่งแวดล้อม เดี๋ยวพวกพี่เขามีเรียนตึกใกล้ๆ มาม่าน้ำใสของผมอุดมไปด้วยไข่และไส้กรอก แต่ที่ทำให้ผมหมั่นไส้ที่สุดก็คือพี่เพชร...
เจ้าตัวเปิดปิ่นโตแบบญี่ปุ่นที่พี่อัณณ์ทำมาให้ เป็นข้าวปั้นญี่ปุ่นหน้าตาน่ารักกับผักยัดไส้ ดูน่ากินมาก ซึ่งแน่นอนพี่เพชรจิ้มเข้าปากหน้าตาเฉย แถมยังกอดหมับไว้บนตัก ชนิดไม่ให้ใครเฉียดใกล้ เคี้ยวตุ้ยๆ ตาวิบวับชอบใจ
ขี้อวดชะมัดเลย...
"เอาไหม?" จิ้มข้าวปั้นอันหนึ่งยื่นให้ผม แน่นอนว่าผมไม่ปฏิเสธ ผมรู้มาว่าพี่อัณณ์ทำอาหารอร่อย แต่ไม่เคยได้ชิม เมื่อมีโอกาสแน่นอนว่าผมไม่พลาด!
อร่อยจริงๆ ด้วย! ข้าวนุ่มๆ หวานๆ กลมกล่มลงตัวที่สุด! ผมหันไปมองพี่เพชร ทำสีหน้าออดอ้อนออกมาอย่างไม่รู้ตัว พี่เขากอดกล่องข้าวแล้วส่ายหน้า เบ้ปาก
"ไม่ให้แล้ว"
"พี่เพชร..." ผมลากเสียงยาว
"ไม่..." นี่ก็น้ำเสียงเด็ดขาด
เราสองคนจ้องตากันประมาณสามสิบวินาที พี่ชาก็ยื่นมือมาขวาง บ่นขำๆ "มึงก็นะไอ้แมว...จะให้เกรย์ชิมก็บอกน้องสิ ทำท่าทางขี้อวดทำไม" พี่ชาหันมายีหัวผมเบาๆ เอาทิชชู่มาเช็ดปากที่เปื้อนให้ออก
กึก
ผมชะงัก ไม่ได้ปฏิเสธการดูแลของพี่เขา
แต่แปลกใจ...เพราะไม่เคยมีใครดูแลผมแบบนี้มาก่อน...คนที่ ให้ความสำคัญกับผมแบบนี้
พี่ชาเป็นคนแรก
"ไอ้เพชรมันแค่จะอวดเกรย์ว่าพี่อัณณ์คนดีของมันทำอาหารอร่อยแค่นั้นล่ะ ไม่ได้ใจดีอะไรหรอก หนก่อนโน้นมันก็อวดพวกพี่อย่างนี้เหมือนกัน"
อ๋ออออออ...แมวขี้อวดจริงๆ ด้วย
"ถ้าเจอพี่อัณณ์ผมจะบอกพี่เขา" ไม่ได้ฟ้องนะ ถึงจะแปลกๆ และเหมือนมีอะไรขวางกั้น แม้ความสัมพันธ์ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ผมน่ะ...ยอมรับมานานแล้วว่าตัวเองมีพี่ชายสองคน ดังนั้น...ผมแค่บอกเฉยๆ ว่าแมวของพี่ชายรังแกผม
"ขี้ฟ้อง" แมวที่ว่าเบ้ปาก ทำหน้ามุ่ย "ให้อีกชิ้น...แต่ห้ามฟ้องนะ"
เป็นแมวชอบติดสินบนจริงๆ อย่างที่พี่เพลิงกับพี่ปายว่าจริงๆ ด้วย
ผมหัวเราะ หยิบข้าวปั้นมากินอย่างสุขขี โดยมีพี่ชามองผมอย่างเอ็นดู...กับพี่ช้างที่หัวเราะสะใจ
สายตาคนแรกชวนให้รู้สึกยุบยิบในใจแปลกๆ
ถึงแม้ว่าอาหารมื้อเที่ยงของผมคราวนี้จะเป็นแค่มาม่า และมานั่งกินในที่ร้อนๆ แต่มันกลับอร่อยกว่าอาหารดีๆ หรูๆ มื้ออื่นที่ผมเคยกินมาเสียอีก
คงอย่างที่พี่ชาบอกผมนั่นล่ะ...กินข้าวคนเดียวไม่อร่อยหรอก ต้องทานกันแบบนี้สิ...
สุดท้ายมาม่าคัพถ้วยเดียวก็สามารถทำให้อิ่มได้ ผมยกมือไหว้และโบกมือลาพวกพี่ๆ ที่ขึ้นตึกเรียน ก่อนขึ้นไปพี่ายังอุตส่าห์ยืดแก้มผมหลายนาทีอีก แม้จะเจ็บแก้มนิดๆ แต่ผมก็อมยิ้มเล็กๆ ก่อนจะเหวี่ยงกุญเจรถไปมาอย่างสบายอารมณ์ด้วยนิ้วชี้ เดินไปยังลานจอดรถข้างโรงอาหาร
"ไม่นึกว่านายจะสนิทกับเด็กนาวีขนาดนั้นนะ" เสียงทุ้มแสนคุ้ยเคยนั้นทำให้ผมชะงัก หันไปมองร่างสูงที่กอดอก มองผมนิ่งๆ ดวงตาที่ไร้กรอบแว่นนั้นฉายประกายหงุดหงิด ผมไม่แปลกใจหรอก...เพราะเวลาเขามองผมก็เป็นแบบนี้ทุกที
"พี่เตโช..."
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าคนเขียนกลับมาแล้วค่าาาาา และต้องขอโทษด้วยนะคะที่หายไปโดยไม่ได้บอกกล่าว จริงๆ คือติดงานค่ะ โปรเจคนี้ทำงานบนเกาะ เหนื่อยและร้อนมากจริงๆ T_T แต่สนุกมากค่ะ! ตอนนี้คนเขียนกลับมาแล้ววววว
เอาชาเอิร์ลเกรย์มาส่งก่อนหนึ่งตอน ยังคิดตอนพิเศษตอนยอดติดตามครบ 3,000 อยู่ อีกตอนจะมาต่อก่อนวันที่ 13 เมษานี้นะคะ ส่วนเรื่องหลัก หลังสงกรานต์จะกลับมาลงปกตินะคะ
ขอบคุณที่ทุกคนยังรออ่าน ขอบคุณมากจริงๆ อย่าลืมรักษาสุขภาพกันนะคะ. บ้านเราอากาศแปรปรวนขึ้นทุกวันจริงๆ ฝนตกหน้าร้อน เมษาอากาศ 18 องศา เฮ้ออออ
สำหรับวันนี้...ฝันดีนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่าาาา
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
น้องเกรย์เหมาะกะพี่ชามากกว่านะ
น่าสงสารน้องเกรย์ ขอให้น้องมีความสุขค่ะ
ชอบพี่ชาน้องเกรย์มากๆเลย น่ารัก
ลำใยเตโช
น้องเกรย์นางน่ารักนะเออ #ชาเกรย์ ค่ะ
รบกวนไรท์ถีบอิพี่เตโชไปไกลๆนะคะ ชอบน้องเกรย์แต่ทำร้ายน้องเราไม่ชอบเลยยยยย
รอไรท์ได้เสมอจ้าาา