ตอนที่ 26 : หลั่งโฮร์โมนครั้งที่...24
Cr.Twitter ของคุณ @Bonusiie
24.
“ทำไมบรรยากาศวังเวงจังเลยครับ…ไอ้เพชรมึงรังแกอะไรพี่อัณณ์กับน้องเกรย์เขา?” น้องชาที่เปียกปอนไปทั้งตัวเพราะเล่นเจ็ทสกีเลิกคิ้วเอ่ยถาม เมื่อเห็นพวกผมสามคนสร้างรังสีอึมครึม…
“มึงใส่ร้าย…ไอ้ช้าง?”
“มันลัลล้ากับทะเล…ทำเหมือนไม่เคยมาไปได้ บ้านมันก็อยู่ใต้…พี่อัณณ์ น้องเกรย์ ไอ้เพชรทำอะไรบอกได้นะครับ ผมอยู่ข้างพี่กับน้องเกรย์อ่ะ” ท่าทางน้องชายียวนและดูจะหาเรื่องเพชรมาก ทางนี้ก็ขึงตาใส่เพื่อนอีก
ผมหลุดหัวเราะ เกรย์ก็เหมือนกัน ก่อนน้องจะรู้ตัวเลยก้มหน้าก้มตาต่อไป
เฮ้อ…ซึนจริงๆ นั่นล่ะ
“มึงไม่เล่นแล้ว?” เพชรถาม
“พักเหนื่อย…กูไม่ได้บ้าเหมือนไอ้ช้างมัน โน่นแข่งกับพี่เพลิงอยู่โน่น…” น้องชาเลิกหรี่ตามองหน้าเจ้าแมว ก่อนจะมองหน้าผม แล้วก้มมองเกรย์ ก่อนจะยิ้มกว้าง พยักหน้าหงึกหงัก “กูอยู่ดูแลทางนี้ให้ก็ได้ มึงดูแลเจ้าของมึงไป”
“อืม…ขอบใจ” สองเพื่อนสนิทเขาคุยอะไรกันไม่รู้ แต่เพชรน่ะลุกขึ้นยืนและดึงมือผมขึ้น ก่อนจะออกแรงดึงให้เดินตามน้องไป
“เดี๋ยวครับเพชร…” ผมมชะงักเท้า ก่อนจะหันมาหาน้องชา “ฝากเกรย์ด้วยนะครับ…แล้วก็ฝากปราสาททรายตรงนั้นด้วย…ของตำลึงเขา”
น้องชาทำตาโต ก่อนจะยิ้มแหย “พี่อัณณ์อ่ะ…ถ้าปราสาททรายพังนี่พี่ตำลึงหักคอผมแน่ๆ ผมกับไอ้ช้างปฏิญาณไว้แล้วว่าจะไม่เรื่องกับสาวนาวี สาววิศวะ และสาวสิ่งแวดล้อมเด็ดขาด!” ทำสีหน้าหวาดกลัวอีกแน่ะ
ผมได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะถูกเจ้าแมวลากให้เดินไปตามริมหาด น้องถอดรองเท้าแตะของตัวเอง ย่อตัวลง ยกขาผมขึ้นและถอดรองเท้าของผมออกมาถือไว้
“พี่ถือเองก็ได้นะครับ…” ผมบอก เพชรก็ว่าง่ายยื่นรองเท้ามาให้แต่ของน้องนะครับ…ไม่ใช่ของผม
เอาที่สบายใจเลยเจ้าแมวมึน
“เท้าสัมผัสน้ำ สัมผัสทราย…ผ่อนคลายนะครับ” เพชรกุมมือผมไว้หลวมๆ เลยกลายเป็นเราสองคนเดินเท้าเปล่า จับมือกัน มืออีกข้างของเราถือรองเท้าของอีกฝ่าย…
แม้เป็นเรื่องเล็กน้อย..แต่รู้สึกอบอุ่นจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“อัณณ์อยากเล่าไหม?” เจ้าแมวเอียงหน้าถาม ดวงตาคมนั้นฉายความห่วงใยออกมาจนสัมผัสได้ เพชรไม่ได้ถามเพราะอยากรู้…แค่พูดให้ผมได้พูดเพื่อให้ตัวเองสบายใจ
“อืม…เรื่องครอบครัวพี่น่ะเหรอ?”
“อื้อ! ผมจะได้เตรียมวอร์” มีการพยักหน้าจริงจังอีกแน่ะ จริงๆ เลย เลี้ยงแมวตัวนี้อะไรที่เครียดๆ ที่กังวลใจนี่หายไปหมดเลยจริงๆ นะครับ
“ที่จริงก็ไม่มีอะไรมาก…พ่อพี่น่ะเป็นคนไม่มีอะไรพ่อเป็นเด็กที่โตมากับวัด ทำงานส่งตัวเองเรียน…แต่พ่อหน้าตาดีมากเลยนะครับ ดูได้จากพี่เพลิง” ผมยิ้ม ใบหน้าของพ่อยังอยู่ในความทรงจำเสมอ แม้ท่านจะจากผมไปแล้ว…แต่รอยยิ้ม คำสอน อ้อมกอดและความมอบอุ่นนั้นยังเกิดขึ้นเสมอเมื่อนึกถึง
“พ่อเรียนป.ตรีในมหาลัยเปิด ได้ทุนน่ะครับ แล้วก็เจอกับ…” ผมหยุดไปนิด “คุณขวัญ…” ผมไม่เคยเรียกเธอว่าแม่…และเธอก็ไม่เคยต้องการ
“พ่อหน้าตาดี กิจกรรมเด่น ถ้าสมัยนี้ก็คงเดือนมหาลัยหรือคิวท์บอยแน่ๆ คุณขวัญก็เป็นผู้หญิงที่สวยมาก เรียกว่าดาวมหาลัยเลยก็ได้ครับ” ผมยิ้มเมื่อเจ้าแมวขมวดคิ้ว ท่าทางกำลังจินตนาการตาม
“พวกเขาคบกัน…อาจเพราะฐานะที่คล้ายคลึงกัน จึงเข้าใจกันได้ง่าย…ทุกครั้งที่พ่อเล่าอดีต พ่อจะยิ้มอย่างมีความสุข ราวกับผู้หญิงคนนั้นคือของขวัญล้ำค่าที่พ่อได้พบเจอ…”
“ดูไปกันได้ดีนะครับ” เพชรดึงผมหลบ ไม่ให้เหยียบโดนเปลือกหอยริมหาด
“ใช่เลยครับ…ก็ไปได้ดีหลายเดือน แต่เรื่องมันก็เกิด…ตรงที่คุณขวัญเธอเกิดท้องขึ้นมา ท้อง…ทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ พี่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และพ่อก็ไม่เคยเล่าว่าทำไม แต่ที่ผมรู้อย่างหนึ่งก็คือ…พี่เพลิงเกิดก่อนกำหนด…”
ผมไม่อยากคิดว่าทำไม…อาจจะมีเหตุสุดวิสัยต่างๆ นานา ไม่อยากถามว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ต้องการพี่ชายผมเหรอ? พ่อไม่พูดอะไรสักอย่าง..แต่ย้ำอยู่เสมอว่าพี่เพลิงเกิดมาจากความรัก…
“พวกเขาแต่งงานกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่เท่าที่พี่รู้มาจากปากชาวบ้าน…คุณขวัญเธอรับไม่ได้ เธอแทบจะบ้าคลั่ง เพราะการมีลูกทำให้เธอไม่สวยเหมือนก่อน ไม่อ่อนเยาว์เหมือนก่อน ผู้หญิงที่สวย เก่ง ถูกสังคมนินทา ถูกเพื่อนฝูงเยาะเย้ย…คุณขวัญเลยใช้ชีวิตราวไม่เคยมีสามีมาก่อน พยายามทำให้ตัวเองกลับมาอ่อนวัย กลับมาสวยอีกครั้ง”
พ่อจะเสียใจแค่ไหน…ผมไม่เคยได้ถาม
เพราะทุกครั้งที่พ่อเล่า…จะเล่าแค่สิ่งที่ดี สิ่งที่สวยงามของคุณขวัญเท่านั้น
“พี่กับพี่เพลิงห่างกันประมาณห้าปีได้…หลังจากนั้นพี่ก็เกิดมา คุณขวัญเธอทนอยู่กับพ่อพี่มาได้ตั้งหลายปีเลยนะ” เพราะเธอรู้ว่าพ่อรักเธอ…รักเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักผู้หญิงคนหนึ่งได้
“ยังดีที่พี่ไม่คลอดก่อนกำหนดนะครับ” ผมหัวเราะขื่นๆ เพชรเลยกระชับมือผมแน่นขึ้นคล้ายปลอบ “ตอนเด็กก็ไม่ค่อยรับรู้อะไรเท่าไหร่ แต่สิ่งที่จำฟังหัวเลยคือประโยคที่ว่า…แกมันเป็นเด็กที่ฉันไม่ต้องการ! เพราะแก เพราะแก!”
“สำหรับเด็กคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว รู้แค่ว่าคนๆ นี้คือเจ้าของความอบอุ่นที่โอบอุ้มมาหลายเดือน ดังนั้นสมัยโน้นพี่น่ะร้องไห้จ้าตลอด ร้องเสียงดังมากด้วย”
ดังนั้นพ่อเลยตั้งชื่อให้ผมว่าอัณณ์...ที่หมายถึงสายน้ำ จะได้เย็นและสงบเฉกเช่นสายน้ำ
“ผมโกรธ!” เพชรหน้าบึ้ง ตาคมกริบราวจะไปรบกับใคร ผมบีบมือน้องเบาๆ
“พอโตมาอีกนิดก็ไม่เคยเจอคุณขวัญอีกเลย จำหน้าเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ…เธอไม่เคยอุ้มพี่ ก็เพิ่งมารู้จากปากชาวบ้านอีกนี่ล่ะว่าที่เธอยอมอุ้มท้องพี่เพราะพ่อให้เงินสดกับเธอหนึ่งแสนบาท พอคลอดพี่เสร็จก็หย่ากันทันที และคุณขวัญก็ไม่เคยเหลียวแลพวกเราอีกเลย..”
เมื่อก่อนผมยังไม่คิดอะไร ไม่รู้ว่าเงินหนึ่งแสนมันจำนวนเท่าไหร่
แต่พอโตขึ้น…ก็ได้แต่ถามตัวเองว่า…ชีวิตผมมีค่าแค่นี้ในสายตาเธอใช่ไหม
“อัณณ์!” เพชรเรียกเสียงร้อนรน เพราะหยาดน้ำอุ่นๆ ไหลลงมาระแก้มของผม
อา…ผมร้องไห้จนได้สินะ เรื่องของเธอทำให้ผมอ่อนไหวได้เสมอ…
“ไม่ต้องเล่าแล้ว! ผมไม่ฟังแล้ว!” น้องหยุดเดินก่อนรวบผมมากอด ถ่ายเทความอบอุ่นมาให้ ผมกอดน้องแน่นซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดอันอ่อนโยนนี้
“แล้วทีนี้เราก็อยู่กันสามคนพ่อลูก…”
“อัณณ์ ผม่ไม่ฟัง!” แมวเอาแต่ใจ ผมซุกหน้ากับไหล่น้อง เล่าเรื่อยๆ
“พี่อยากเล่าให้เพชรฟังนะครับ”
“แต่อัณณ์ร้อง…ผมไม่เคยทำอัณณ์ร้องเลย” น้องบอกเสียงหงุดหงิด “ถ้าผมย้อนเวลาได้ ผมจะไปอยู่ข้างๆ อัณณ์…ไม่ให้อัณณ์ร้องไห้ จะตีทุกคนที่ทำอัณณ์ร้องไห้” ดูความจริงจังของแมวสิ
“ขอบคุณครับ…แต่ไหนบอกว่าอยากเห็นพี่ร้องไห้ไง?”
“ต้องร้องเพราะรู้สึกดีสิ!”
ผมได้แต่ส่ายหน้า ผละออกมาจากไหล่น้องแล้วจูงมือแมวตัวโตให้เดินต่อ…การได้พูดออกไป ได้เล่าให้ใครสักคนที่เราไว้ใจฟัง..ราวกับยกภูเขาบางส่วนที่หนักอึ้งออกไปเลยครับ
“ก็เคยคิดว่าตัวเองเป็นเด็กขาดความอบอุ่นนะครับ…แต่ชื่นชมพ่อที่ดูแลพี่ดีมาก เป็นทั้งพ่อและแม่ไปในคนเดียวกัน อีกอย่างพี่มีพี่ชายที่ดี…เราอายุห่างกันห้าปี แต่สนิทกันมาก เพราะมีกันเพียงสองคนพี่น้อง พี่เพลิงมีเรื่องต่อยตีบ่อย เพราะเด็กๆ แถวบ้านชอบว่าพี่เป็นเด็กไม่มีแม่ พี่เพลิงเลยจัดการให้ตลอด”
“ฮึ! ผมจะไปช่วยจัดการ”
“ผ่านไปหลายปีแล้วครับ พี่เองก็ไม่ได้งอมืองอเท้า ถูกรุมแล้วสู้ไม่ได้ไม่เป็นไร…แต่พี่เจ้าคิดเจ้าแค้น พ่อชอบปลูกต้นไม้ ที่บ้านมีหมามุ่ยก็เอาไปโปรยใส่ให้หายหงุดหงิด แกล้งเอาของขมๆ ให้ไปบ้าง” ผมบอกแล้วว่าตัวเองไม่ได้เป็นเด็กดีเท่าไหร่ แค่ไม่ออกนอกลู่นอกทางมากไปเท่านั้นเอง
“พ่อโกรธใหญ่เลยครับ ถูกตีไปตั้งหลายที พี่เพลิงด้วย เราสองคนกอดคอกันทายาอยู่เลย สุดท้ายพ่อนั่นล่ะทนดูไม่ได้” ผมอมยิ้มหัวเระาเบาๆ ความทรงจำยังเด่นชัดเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานเลย…
“พี่ไม่มีแม่เหมือนคนอื่น…ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองขาดอะไร เคยเห็นคนอื่นมีแล้วอยากได้เหมือนกัน แต่ที่ไม่ชอบยิ่งกว่าอะไรคือแววตาเศร้าๆ ของพ่อ ดังนั้นพี่จึงไม่พูดเรื่องแม่อีก…ไม่ถามหา ไม่เรียกร้อง แค่บางทีที่กลั้นไม่ไหวก็ได้แต่ระบายกับพี่เพลิง”
พี่ชายที่เข้าใจและอยู่เคียงข้างผมมาเสมอ
“พ่อทำงานหนัก ดีที่พ่อพอมีเงินเก็บ ส่งเสียพี่กับพี่เพลิงเรียนโรงเรียนแถวบ้านได้อย่างไร้ปัญหา ถ้าไม่สนใจคำพูดชาวบ้านชาวช่อง ก็ถือว่าสงบสุขทีเดียวครับ…พี่เพลิงสมองดี ม.ปลายก็ได้ทุนโรงเรียนดัง ทุนฟรีเลยทั้งค่าเทอม ค่ากิน พ่อเลยผ่อนแรงไปได้เยอะ พี่เห็นแบบนั้นก็พยายามชิงทุนของมมม.ต้น เอาเหมือนกันจะได้ช่วยพ่อประหยัด ดีนะไปอยู่โรงเรียนเดียวกับพี่เพลิงได้” ผมนึกแล้วก็ขำ
“ตอนสอบเข้าไปได้พี่อยู่ม.ต้น พี่เพลิงก็ม.ปลายปีสุดท้ายพอดี… พี่เพลิงชอบถ่ายภาพ ไม่รู้ว่าไปใช้กลวิธีอะไรถึงได้กล้องเก่าๆ มาฝึกถ่าย…แต่พี่เพลิงมีฝีมือ ส่งภาพประกวดงานไหนก็ต้องติดหนึ่งในห้าตลอด แล้วพี่ชายพี่ก็บอกว่าจะไม่เรียนต่อมหาลัย…”
ผมจำได้เลยว่าพ่ออบรมพี่เพลิงอยู่นานมาก แต่พี่ชายก็ยังยืนยันคำตอบเดิม ตอนนั้น…มีช่างภาพคนหนึ่งจาก MG เห็นผลงานพี่เพิงในงานประกาศรางวัล เขาชื่นชมมากเลยสนใจรับพี่เพลิงเป็นศิษย์ เรียนรู้งานแล้วยังมีเงินเดือนให้อีก
นั่นเป็นโอกาสที่พี่เพลิงคว้าเอาไว้อย่างไม่ลังเล
“พี่เพลิงเก่งจริง” เพชรชม ก่อนจะเบ้ปาก “แต่ขี้แกล้ง…ร้ายกาจ”
“เพราะต้องดูแลพี่ไงล่ะครับ พ่อน่ะทำใจอยู่ตั้งนานกว่าจะยอมรับได้ พี่เพลิงน่ะวุ่นๆ เรื่องเรียนภาษา เรื่องเทคนิคพื้นฐาน ยังดีที่ช่างภาพคนนั้นเขาสนับสนุนทุกอย่างเพราะเขาบอกว่าพี่เพลิงคือช่างภาพอีกคนที่เปี่ยมพรสวรรค์ หลังๆ มาพี่เพลิงก็เดินทางไปต่างประเทศบ่อย ฝึกงานจนได้เป็นช่างภาพประจำ พ่อน่ะยิ้มกว้างถึงขั้นลงครัวทำแต่ของชอบพี่เพลิง” ผมเล่าอย่างมีความสุข…ก่อนจะแหงนหน้ามองท้องฟ้า
“พอพี่ขึ้นม.ห้า…ไม่นานพ่อก็จากไป” ผมบีบมือเพชรแบาๆ “พี่ไม่เคยรู้เลยว่าท่านป่วยเป็นอะไร จำได้แค่ว่ากำลังจะกลับบ้าน และมีเบอร์โทรฯ หาว่าพ่ออยู่โรงพยาบาล”
โลกตอนนั้นดำมืดไปหมด ผมทำอะไรไม่ถุก คิดอะไรไม่ออก ได้แต่ภาวนา…
ขอให้คนสำคัญของผมอย่าได้เป็นอะไรไปเลย…
ครอบครัวของผมเหลือแค่พ่อกับพี่ชายเท่านั้น…
แต่…ปาฏิหาริย์ก็ไม่เกิดขึ้น
“พ่อป่วยด้วยโรคใจ…โรคที่ไม่มีวันรักษาหาย...” เสียงผมสั่นอีกแล้ว เพชรก็คงรู้สึกได้ ร่างผมเลยถูกน้องกอดไว้อีกครั้ง “ที่น่าเสียใจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด…คือคุณขวัญมางานศพพ่อ มาเพื่อบอกว่าจะเอาที่ดินและบ้านหลังนั้นไป...”
“อัณณ์…พอแล้วครับ” เสียงเพชรกระซิบข้างหู
“พี่แค่อยากรู้…เธอเคยรักพ่อไหม เคยรักพี่กับพี่เพลิงหรือเปล่า…”
และความจริงที่ผมสัมผัสได้มาตลอด…
ไม่เคยเลย…
“ไม่เล่าแล้ว…ผมไม่ฟังแล้ว ถ้าอัณณ์เล่าผมจะให้คนตีเธอแล้ว” น้องบอกจริงจัง ผมไม่เห็นหน้าเพชร แต่รับรู้ว่าน้องคงโกรธแทนผม
“ไม่ร้องแล้วครับ…แค่จะเล่าให้จบ”
“ถ้าร้องอีกผมจะทำจริงๆ นะ” มีการขู่ย้ำอีก
“ก็…นั่นล่ะครับทีนี้พี่กับพี่เพลิงก็เป็นเด็กไร้ญาติ ดีนะที่บอสของพี่เพลิงรับพวกเราเป็นลูกบุญธรรมม จึงไม่มีปัญหาอะไรมากเท่าไหร่ พี่เสียใจเรื่องพ่ออยู่นาน…แต่โชคดีคือมีพี่ชายอยู่ข้างๆ พี่เพลิงแทบจะไม่ไปทำงาน เพราะห่วงพี่ พอเห็นแบบนั้น…พี่ก็ได้แต่เดินต่อ พี่จะไม่ยอมให้ครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของพี่ต้องเสียใจอีก ก็เลยตั้งใจเรียน แอดฯมาติดที่มหาลัย พี่เพลิงเลยซื้อบ้านหลังเล็กๆ ไว้ย้ายมาอยู่ที่นี่เลย” เก็บบ้านหลังนั้นไว้…ให้เป็นแค่ความทรงจำ
“แล้วผู้หญิงคนนั้น?”
“ก็ยังมาระรานเรื่องที่ดินกับบ้านของพ่อบ่อยนะครับ พี่ไม่เคยจำหน้าเธอได้...น่าหัวเราะที่พอมาเจอกันบ่อยๆ คือเธอต้องการที่ดินของพ่อ ผ่านไปหลายๆ ปี ที่ดินแปลงนั้นก็มีมูลค่าขึ้นมากทีเดียว เธอกับสามีใหม่ของเธอ…พ่อเกรย์น่ะ คงอยากได้ล่ะ ทำเลดีมากเลยล่ะครับ”
“นิสัยไม่ดี!”
ผมยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ตอบโต้เรื่องนี้ “ประสบการณ์ทำให้เราเข้มแข็งขึ้นครับ…แค่ไม่คิดว่าเธอจะไม่เคยรักใครเลยจริงๆ บางที…เกรย์อาจโชคร้ายยิ่งกว่าพี่กับพี่เพลิงก็ได้”
“พอดูออกครับ…เลยเก็บมา”
“เราเดินมาไกลแล้ว เดินกลับกันเถอะครับ” ผมจูงมือเพชรเดินย้อนทางเก่า “ขอบคุณนะครับที่ฟังพี่เล่ามาตั้งนาน”
“เรื่องของแฟนผมนี่นา”
ผมยิ้ม ความเครียดดูจะหายไปเพราะแมวของผมนี่ล่ะ
“ผมน่ะ…ไม่ข้าใจหรอกนะ” น้องบอกเสียงนุ่มๆ ผมก็พยักหน้า เพชรเติบโตมากับครอบครัวที่อบอุ่น แค่ดูนิสัยก็รู้…น้องเป็นเด็กดีที่โตมาในสภาพแวดล้อมที่ดี “แต่ผมจะอยู่ข้างอัณณ์…อยู่ข้างเสมอ” เพชรหยุดเดินและดึงมือผมให้หยุดด้วย แรงที่ส่งมาทำให้ผมเซไปชนน้อง
“ผมย้อนเวลาไม่ได้…ไปอยู่ข้างๆ อัณณ์ตอนนั้นไม่ได้” ปลายนิ้วเรียวไล้แก้มผมช้าๆ เกลี่ยขอบตาผมเบาๆ "ผมอยากโทษตัวเองเหมือนกันที่ไม่หาอัณณ์เจอให้เร็วกว่านี้…”
เพชรยิ้ม “แต่ผมเจออัณณ์แล้ว…จากนี้จะไม่มีใครทำอัณณ์ร้องไห้ได้อีก” มือใหญ่ประคองใบหน้าผมไว้อย่างอ่อนโยน สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆ เมื่อน้องโน้มหน้ามาใกล้
“แฟนของผม คนรักของผม…ผมจะปกป้อง จะดูแล”
“ต่อให้พี่ผิด พี่นิสัยไม่ดี เอาแต่ใจ และบางครั้งก็เห็นแก่ตัวน่ะหรือครับ?” ผมกระซิบถาม
“เจ้าของแมวที่ชื่อเพชรน้ำหนึ่ง..จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นครับ” น้ำเสียงทุ้มนั้นมั่นใจจนผมยิ้มกว้าง ก่อนจะเป็นฝ่ายประคองใบหน้าหล่อๆ มึนๆ นั้นมาใกล้…และแนบริมฝีปากลงไปบนปากของน้อง จูบที่แค่แตะค้างเอาไว้อย่างนั้นหลายนาที ก่อนจะผละออกไปกัดจมูกเจ้าแมวเบาๆ และหอมแก้มทั้งสองข้าง
“ให้รางวัลแมว…ชอบคุณนะครับที่มาอยู่ข้างๆ พี่”
“อัณณ์…น่ารัก!” เจ้าแมวที่เลิกอึ้งกอดผมแน่นจนได้แต่ส่งเสียงหัวเราะ ความอัดอั้น เสียใจ ความกังวลทั้งหมดหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น…เหลือเพียงความทรงจำและภาพอันแสนงดงามของพ่อเท่านั้น…
ต้องขอบคุณเพชร…บางเรื่องผมไม่อาจพูดกับพี่เพลิงได้ เพราะไม่อยากให้พี่ชายนึกถึงเรื่องที่ต้องเสียใจ
ขอบคุณแมวขนฟูที่รับฟังและเป็นไหล่ให้เช็ดน้ำตา
เพราะบางที…บางเวลา เราก็ไม่ได้ต้องการคนที่พูดว่า ‘เข้าใจ’
เราแค่ต้องการคนที่ ‘รับฟัง’ และอยู่ข้างๆ เราก็เท่านั้นเอง
อื้ม…
เป็นทาสแมวน่ะ…มีดีเยอะจริงๆ นะครับ
............50%............
ผมกับเพชรเดินกลับมารวมกับคนอื่นๆ ทุกคนกำลังสนุกสนานเฮฮากันไม่น้อยทีเดียว ตอนนี้ไม่มีใครเล่นน้ำทะเลแล้ว…เพราะท้องฟ้าถูกย้อมด้วยสีส้มสด บ่งบอกว่าอีกไม่นานก็จะค่ำ ดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า และปล่อยให้พระจันทร์ขึ้นมาทำหน้าที่แทน
เห็นเกรย์ที่ตัวเปียกปอนไปหมดหลบอยู่หลังตำลึงกับปาย โดยมีน้องชา น้องช้าง และเวจะจับตัวน้อง ทำให้ผมเลิกคิ้ว ส่งเสียงถาม “แกล้งอะไรเกรย์กันครับ?”
พี่เพลิงหันมามองผม…ดวงตาคมจ้องนิ่งคล้ายสำรวจ ก่อนมือใหญ่จะวางแวะบนหัว แล้วดึงเข้าไปกอด อ้อมแขนที่ถ่ายทอดความอบอุ่นและอยู่เคียงข้างกันมาเสมอ...กอดของพี่ชาย
“ร้องไห้เหรอ?” พี่เพลิงถามเบาๆ ไม่แปลกหรอกที่จอมมารจะรู้…พี่เพลิงใส่ใจและสังเกตผมเสมอเรื่องเล็กน้อยก็ไม่รอดพ้นสายตา
“นิดหน่อยครับ…อัณณ์แค่ได้ระบาย มีเพชรอยู่ด้วยเลยเหมือนยกภูเขาออกไปเลย” ผมหลุดหัวเราะเมื่อเจ้าแมวที่ยืนข้างๆ ยึดไหล่ขึ้น ตาก็วาวๆ ราวแมวทำดีแล้วต้องการคำชม พี่เพลิงเหลือบตาไปมองก่อนจะเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ ยีหัวเพชรหลายที
“พี่เพลิงอ่ะ…”
“ทำไมแมว? พี่หมั่นไส้ไง ดูทำสิ ขี้อวดจริงๆ”
“แล้วแกล้งอะไรเกรย์กันครับ?” เกรย์ตาแดงไปหมดแล้ว สองสาวที่เป็นที่กำบังก็หัวเราะสนุกสนาน ระหว่างที่ผมไม่อยู่นี่คงคุย คงเคลียร์กันไปหลายอย่างแน่ๆ เลย
“น้องชาเขาอยากพิสูจน์น่ะ” พี่เพลิงเปลี่ยนไปพาดไหล่เพชรแทน
“มันสนุก…ประสาท” เพชรชมเพื่อน
“พิสูจน์อะไรกันครับ?”
“พวกพี่จะทำอะไร! ผมไม่เล่นแล้ว! ไม่ๆ อย่าๆ อย่าจับผมนะโว้ยยย!” เกรย์โวยวายเบี่ยงตัวหลบทางโน้นทีทางนี้ที “พี่อัณณ์! ช่วยผมด้วย!” พอเกรย์เห็นผมก็ร้องขอความช่วยเหลืออย่างไม่เหลือมาดเด็กซึน
“รุมรังแกน้องเขาไม่ดีนะครับ” ผมปราม
“โธ่…พี่อัณณ์ครับ พวกเราแค่อยากพิสูจน์เท่านั้นเอง ว่ากระต่ายกลัวน้ำหรือเปล่า หึๆ” น้องชาหัวเราะขำๆ และดูจะอารมณ์ดีเมื่อเกรย์ตวัดตามอง
“ผมไม่ใช่กระต่าย!”
“กระต่ายตาแดง ขี้โมโห” น้องชายักไหล่
“ผมไม่ใช่! พวกพี่บ้าไปแล้ว! อ้ากกกก! ไม่นะ…” น้องเกรย์วิ่งทันที เมื่อถูกน้องช้างเอื้อมจับแขน ส่วนน้องชาก็ก้าวยาวๆ ตาม ผมยิ้ม ส่ายหน้าน้อยๆ ไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
ก็…ผมอยากรู้เหมือนกันนี่นา
“ตลกจังเลยค่ะพี่อัณณ์ เกรย์เขาว่ายน้ำไม่เป็น ตอนพี่เพลิงชวนขับเจ็ทสกีก็เงียบ ไม่พูด ไม่บอก พอพี่เพลิงแกล้งขับเร็ว เลยโวยลั่นเลยดีนะชาอยู่ด้วยเกรย์เลยเกาะชาไว้”
“ฮะๆ ตำลึงขำมากอ่ะ เกาะน้องชาแน่นมาก แล้วไม่พูดจา เม้มปากใช้สายตากล่าวหาทุกคน น่าแกล้งจริงๆ ตัดนิสัยเกเรนิดๆ นั่นออกแล้วบันเทิงมาก”
“น้องชายคนนี้ของมึงก็ไม่เลวเลยนะอัณณ์…ถึงบอกไม่ได้เต็มปากว่าเด็กดี แต่ก็ไม่ได้เลวร้าย” เวหัวเราะ
“คิดถูกแล้วที่เก็บมาด้วยว่ะไอ้เพชร ไอ้ชามันดูแฮปปี้มาก” น้องช้างยิ้ม หันมาบอกผม “บ้านมันเลี้ยงกระต่ายดื้อมากตัวนึง พอเจอเกรย์มันเลยรังแกเสียสนุกเลยครับ”
“ไอ้ดื้อ” เพชรเอ่ยเบาๆ “กระต่ายตาแดง” น้องบอก “หน้าบู้บี้ หยิ่ง” ก่อนจะเอาแขนพี่เพลิงออกแล้วเอียงหน้ามองผม “ผมน่ารักกว่าเยอะ”
หลงตัวเองอีกแล้วแมวเนี่ย
“เฮ้ออออ” พี่เพลิงถอนหายใจเสียงดังๆ หรี่ตามองเพชรขำๆ ก่อนจะเสยผมตัวเอง มองผมแล้วมองเกรย์ที่น้องชาพาดไหล่กลับมา “อัณณ์ก็ว่ายน้ำไม่เป็น นี่เกรย์ยังว่ายน้ำไม่เป็นอีก ไม่ไหวๆ”
“อัณณ์ว่ายน้ำไม่เป็น?” เพชรถาม
“ครับ…พี่ชอบเล่นน้ำนะ แต่เรื่องว่ายน้ำนี่ไม่ไหว”
“ผมว่ายเก่ง..” แมวอวด “เก่งมากด้วย”
ผมอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปดึงจมูกโด่งๆ นั้นด้วยความหมั่นไส้ ไม่ค่อยเลย…
“ผมสอนอัณณ์เอง” ดูทำตาออดอ้อนสิ
“เดี๋ยว! ผมเหนื่อยแล้วนะ! ผมขอพัก” เกรย์มุดออกจากแขนน้องชาแล้วมายืนหลังผมแทน…นี่ไม่ใช่เห็นผมใจดี เลยคิดว่าผมจะไม่รังแกเขาหรอกนะ? แต่เห็นตาแดงๆ หัวยุ่งๆ นั่นแล้วก็อดสงสารนิดๆ ไม่ได้
ถึงจะ…น่าแกล้งมากก็เถอะ
“ว้า…หลุดมือเสียแล้ว” น้องชาเอ่ยยียวนก่อนจะยักไหล่ “เมื่อกี้มึงจะสอนพี่อัณณ์ว่ายน้ำเหรอไอ้เพชร?”
“อื้อ! กูเก่ง”
“ไอ้หลงตัวเอง! คราวก่อนมึงว่ายน้ำแพ้กูกับไอ้ช้างไอ้ลมอยู่เลย”
เจ้าแมวคว่ำปากมองน้องชา “วันนั้นกูไม่สบาย”
“อย่ามาสตรอว์เบอร์รี่!” น้องช้างแขวะ “มึงนอนอย่างเดียวไง ไอ้ชาไอ้ลมมันเลยเร็วกว่า ส่วนกูน่ะ…มึงไม่เคยชนะไง”
เพชรขึงตามองน้องช้างถอนหายใจใส่ ท่าทางจะยอมรับคำพูดส่วนหนึ่งแล้วหันไปหาน้องชา “งั้นมึงมาแข่งกัน!” เจ้าแมวไม่ยอมแพ้ เอ่ยท้าทันที
“ได้ๆ กูไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เหอะๆ มึงมันแค่แมวอ่ะนะไอ้เพชร”
“เดี๋ยวมึงโดน” เพชรเตะน้องชา กับน้องช้าง
“เอ้า! กูไม่เกี่ยวนะโว้ย!”
“มึงหัวเราะ”
“มึงพาลมาก!”
“จะแข่งกันเหรอ? พี่แข่งด้วยสิ” พี่เพลิงเอ่ยยิ้มๆ “อยากอวดต่อหน้าแฟนบ้างเหมือนกัน” แล้วหันไปมองปายที่หน้าแดงทันที ส่วนพวกเราพร้อมใจกันกลอกตามองบน
สองคนนี้นี่แค่มองตา แค่พูดกันไม่กี่ประโยค ก็เปลี่ยนบรรยากาศให้หวานได้
“แหมๆ มีแฟนดีนะน้องปายน้อยของพี่ตำลึง” ตำลึงไม่รอช้าที่จะแซว
“โหย…พี่เพลิงขับเจ็ทสกีได้เท่ห์ขนาดนั้น ยังจะว่ายน้ำโชว์สาวอีก กะไม่ให้น้องเขาชื่นชมคนอื่นเลยเหรอครับ” เวดูเหมือนจะเข้าใจแผนการณ์ร้ายของจอมมาร
“แฟนพี่มองแต่พี่ก็พอแล้วนี่…ถูกไหมยายหมี?”
“อ่ะ…” ปายแก้มแดงไปหมด สุดท้ายเลยได้แต่ย้ายตัวเองไปหลบหลังตำลึงแทน ผมหัวเราะเบาๆ ดีใจที่พี่เพลิงดูมีความสุข เจอคนที่พี่ชายตามหา…
และดีใจที่ตัวเองก็เจอคนๆ นั้นแล้วเหมือนกัน
ผมสบตากับเจ้าแมว น้องยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเอื้อมมากุมมือผม “ผมจะอวดอัณณ์เหมือนกัน”
“เรียนนาวีก็ต้องว่ายน้ำเก่งอยู่แล้วนี่ครับ” ผมว่า
“ก็ให้เก่งมากๆ ในสายตาอัณณ์ พี่เพลิงกับไอ้ชาสู้ผมไม่ได้หรอก” มั่นหน้ามากจริงๆ
“งั้นสู้ๆ ครับ พี่จะเชียร์เพชร”
“อื้อ! เชียร์ผมคนเดียว พี่เพลิงไม่ต้องเชียร์ ไอ้ชาด้วย”
“ไปแข่งกันที่สระว่ายน้ำแล้วกัน ใครแพ้จ่ายมื้อเย็นวันนี้นะ” พี่เพลิงหัวเระา ตาพราวระยับอย่างนึกสนุก
“เตรียมหมดตัวกันได้เลยครับ! ผมจะกินล็อปเตอร์ผัดพริกสักสิบจาน” น้องชาทำท่ามั่นใจ
“มึงบอกตัวเอง”
“เดี๋ยวมึงก็รู้ว่ากูคนจริงไอ้เสือ”
“ไม่เห็นมีใครเชียร์…เนี่ยอัณณ์เชียร์กู” น้องชูมือเราที่กุมกันไว้ขึ้นอวด แล้วเบ้ปากใส่น้องชา อีกฝ่ายทำสีหน้าเหม็นเบื่อทันที
“มึงมันขี้อวดจริงๆ พี่อัณณ์เขาเป็นกลางโว้ย!”
“ไม่อ่ะ…อัณณ์เป็นเจ้าของแมว”
“มึงอย่าไปเสวนากับมันเลยไอ้ชา…มันเป็นแมวที่เป็นทาสเจ้าของ” น้องช้างบ่น ก่อนพวกเราจะค่อยๆ ทยอยเดินกันไปรวมที่สระน้ำของโรงแรม ซึ่งไม่ค่อยมีคนเพราะส่วนมากแขกที่มาพักคงออกไปเดินเล่นกันมากกว่า
“เฮ้อ…ถ้าอย่างนั้นเกรย์ก็เชียร์พี่แล้วกัน!” น้องชาสรุป ยืดเส้นยืดสาย ก่อนจะลงไปยืนในสระท่าเตรียมพร้อม
“ทำไมผมต้องเชียร์พี่อ่ะ! ผมเชียร์พี่เพลิงไม่ดีกว่าเหรอ!” แม้เด็กซึนบอกว่าจะไม่สนใจผมกับพี่เพลิง แต่ดูเป็นห่วง และอืม…ชื่นชมพี่เพลิงมากจริงๆ นะครับเนี่ย
“พี่เพลิงเขามีปายเชียร์อยู่แล้วไง แต่พี่นี่โดดเดี่ยวเดียวดาย…เกรย์จะเป็นกระต่ายใจร้ายเหรอ?” ทำไมผมเห็นน้องชาทำตาอ้อนๆ ด้วยนะ
อืม…บางทีเพื่อนแมวก็อาจจะสปีชีส์เดียวกับแมว…ชอบอ้อนคนอื่นเหมือนกัน
“ผมไม่ใช่กระต่ายนะ!!”
“งั้นก็ใจร้าย…”
“อ่ะ…” เกรย์เถียงไม่ได้ สุดท้ายเลยทำแค่ถลึงตาใส่น้องชาอย่างเกรี้ยวกราด พี่เพลิงหัวเราะขำ พูดอะไรกับปายสองสามประโยค ก่อนจะลงไปเตรียมพร้อมในสระอีกคน เหลือแค่เจ้าแมวที่มองผมตาแป๋วราวจะขอรางวัลอยู่หนึ่งตัวที่ยังไม่ลงสระ
“พี่เพลิง ถ้าผมชนะ…ผมนอนห้องเดียวกับอัณณ์นะ” น้องหันไปบอกพี่เพลิง
“หึๆ มั่นหน้ามากแมว…แต่ถ้าพี่ชนะ ไม่โผล่หน้ามาบ้านพี่สักอาทิตย์นะ”
“ห่ะ!”
ผมหัวเราะ สองคนนี้นี่…เชื่อเถอะว่าหากเพชรแพ้ น้องก็ได้เข้าบ้านผมแน่ๆ พี่เพลิงแกล้งแมวไปอย่างนั้นล่ะ
“สู้ๆ ครับพี่เชียร์เพชร”
“ไม่เชียร์พี่เพลิง?” น้องทำท่าทางดีใจ
“อืม…พี่ต้องเชียร์แฟนตัวเองไงล่ะครับ” พูดให้แมวดีใจ
“อื้อ! ผมชนะแน่ๆ ผมจะกอดอัณณ์” คำมั่นของเพชรทำผมอย่าหยิกสักทีสองที น้องลงน้ำด้วยท่าเตรียมพร้อม
“อ่ะๆ เอามือแตะขอบสระไว้ครับ ว่ายไปกลับนะ ผมกับพี่เวเป็นกรรมการ” น้องช้างบอกเสียงดัง
“ตำลึงให้สัญญาณเอง! อยากสัมผัสความรู้สึกนี้มานานแล้ว หุๆ เอาล่ะค่ะหนุ่มๆ…3...2....1 Go!!”
::เพชร::
“มาเช็ดหัวก่อนครับเพชร ปล่อยให้ผมเปียกเดี๋ยวไม่สบายนะครับ” เสียงนุ่มๆ อ่อนโยนของอัณณ์ดังขึ้นพร้อมมือที่วางผ้าขนหนูลงบบหัวผมแล้วขยี้เบาๆ ดูร่างที่อย่ในชุดกางเกงขายาวสีขาวกับเสื้อยืดพอดีตัว อัณณ์แต่งตัวแบบนี้ทำให้เขาดูเด็กลงอีกหลายปีเลย…
แต่อัณณ์ของผมทำอะไรก็ดูดี ทำอะไรก็น่ารักน่ามอง
“ไม่น่าแพ้เลย” ผมบอกเสียงหงุดหงิด แข่งว่ายน้ำเมื่อตอนเย็น ไอ้ชามันได้ที่หนึ่งอ่ะ…ผมว่ายได้ที่สอง ส่วนพี่เพลิงเป็นคนแพ้ ต้องเลี้ยงมื้อเย็นพวกเรา แต่พี่เพลิงไม่ได้จ่ายตังค์เอง เพราะโรงแรมนี้ของเพื่อนพี่เพลิงดังนั้นเลยฟรีทุกอย่าง ต่อให้พวกเรากินกันขนาดไหนก็ฟรี จอมมารเลยไม่สะทกสะท้านใดๆ แต่ลองพวกผมแพ้สิ…พี่เพลิงแกล้งแน่ๆ
“ไอ้ที่สองก็ดีแล้วไงครับ…” อัณณ์ปลอบขำๆ ค่อยๆ เช็ดหัวผมให้อย่างเบามือ เห็นรอยยิ้มบางๆ ที่มีอยู่เสมอบนใบหน้านั้นผมก็ได้แต่ยิ้มตาม…
อัณณ์ของผมเหมาะกับรอยยิ้มแบบนี้ ดังน้นเวลาที่เขาเศร้า เขาสียใจ ผมจึงไม่ชอบเลย
และพาลไม่ชอบคนที่ทำให้เขาเสียใจด้วย
จะเป็นใครไม่รู้หรอกนะ! แต่รังแกอัณณ์ของผมน่ะ…ไม่ยอมแน่ๆ
ผมดีใจที่อัณณ์เล่าให้ฟัง เพราะนอกจากสื่อว่าอัณณ์ไว้ใจผม และถือผมเป็นคนสำคัญแล้ว ทำให้อัณณ์ผ่อนคลายขึ้น…ดูราวไม่มีเรื่องตกค้างในใจแล้ว
เรื่องครอบครัวอัณณ์ผมไม่ได้เข้าใจทุกอย่าง ผมเติบโตมากับคุณพ่อ คุณแม่ที่รักกัน และพวกท่านรักพวกผมมาก แต่ถึงยังไง…ผมก็จะอยู่ข้างๆ อัณณ์ จะกุมมือเขาไว้ จะกอดเขาไว้ จะซับน้ำตาให้เอง
แมวอย่างผมน่ะมีประโยชน์จะตาย!
“น้องชาว่ายน้ำเร็วมากเลยนะครับ เพชรด้วย” อัณณ์ชม “ขนาดพี่เพลิงที่ว่าเร็วแล้วยังแพ้ พี่เพลิงน่ะเคยเข้าไปถ่ายภาพในหน่วยนาวิกโยธินของอเมริกา ว่ายน้ำเล่นกับพวกเขาบ่อยๆ”
“พวกผมเรียนนาวี…ฝึกทุกวัน” ผมเอียงหัวให้อัณณ์เช็ดให้ถนัดๆ ตอนปีหนึ่งหนักมาก เหมือนนึกถึงความทรงจำอันแสนเลวร้ายผมเลยเบ้ปากทันที แถมพ่อผมก็เป็นทหารเก่า ผมกับพี่เพน่ะถูกเตะลงทะเลมาตั้งแต่เด็กๆ ในรุ่นที่ว่ายน้ำได้เร็วที่สุด เก่งสุด แข็งแรงสุดต้องยกให้ไอ้ช้าง มันเป็นลูกทะเล แต่มันขี้เกียจ ส่วนไอ้ชา ผม กับลมน่ะพอๆ กัน
ถ้าไม่ชนะจอมมารคงไม่ยอมให้ผมมานอนห้องเดียวกับอัณณ์หรอก!
พี่เพลิงน่ะดูเหมือนปล่อย…แต่ที่จริงก็จับตาดูตลอด เป็นอลาสกันที่ร้ายกาจ!
“น้องชาดูสนใจเกรย์นะครับ” อัณณ์เดินเอาผ้าขนหนูไปแขวนไว้ก่อนจะกลับมานั่งบนเตียงเดียวกับผม ดวงตาเรียวคู่นั้นทำให้ผมชอบ รอยยิ้มของเขาทำให้ผมรู้สึกดี
ใครจะว่าหลงเจ้าของจนเสียสถาบันแมวก็ช่าง…
เจ้าของน่ารักขนาดนี้ ผมชอบอ่ะ
“มองผมแล้วยิ้ม…ผมหล่อใช่ไหมครับ?” ผมจับมืออัณณ์มาแนบแก้มตัวเอง เห็นอัณณ์ยิ้ม และเอามืออีกข้างมาหยิกแก้มผม ที่จริงอัณณ์น่ะชอบปู้ยี้ปู้ยำหน้าผม ทั้งหยิก ทั้งดึงจมูก แต่ผมชอบมาก…อัณณ์จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
“อืม…แมวหลงตัวเอง แต่ก็หล่อจริงๆ นั่นล่ะครับ” เนี่ย…ถ้ายังยิ้มแบบนี้แล้วชมแบบนี้จะไม่ให้ผมเขินได้ยังไง ชอบบอกว่าผมน่ะทำให้อัณณ์เขิน เขาก็ทำให้ผมเขินมากเหมือนกัน แค่ผมหน้ามึน…ไม่แสดงออกเท่านั้นล่ะ
ยิ่งเมื่อตอนเย็นนะ…ที่อัณณ์จูบผมก่อนน่ะ…เขินมาก
ดีใจมากด้วย
อยากให้อัณณ์จูบอีก…เยอะๆ เลย!
“ตาพราวแบบนี้ไม่ค่อยน่าไว้ใจแล้ว” อัณณ์บอก ผมเลยหัวเราะ ใช้แรงที่มากกว่าฉวยโอกาสรวบอัณณ์ให้เอนมาทับตัวเอง เอาขาเกยทับไว้อีกขั้นกันอัณณ์ดิ้น
วิธีขี้โกงไปสักหน่อย…แต่ใครสนใจกันล่ะ
อัณณ์สูงประมาณ 179 ห่างจากผมไม่เยอะ รูปร่างก็ไม่ได้ผอมบาง แต่ดูสมส่วน มีกล้ามเนื้อพอเหมาะพอดี ดูโปร่ง เวลาเอนมาแบบนี้ก็หนักไม่น้อยเหมือนกันแต่ผมแข็งแรงมากกว่าเยอะ
ยิ่งเดี๋ยวนี้อัณณ์น่ะถูกคนอื่นๆ เป่าหูว่าผมเป็นเสือ ไม่ใช่สักหน่อย ผมเป็นแค่แมวของอัณณ์…พวกเขาใส่ร้ายผมทั้งนั้นล่ะ! ทุกคนแค่อยากแกล้งผม อัณณ์เลยระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม…หรือไม่ก็คิดว่าผมเป็นเด็กดีไม่กล้าทำอะไรอัณณ์ และถึงผมทำอัณณ์ก็สู่กลับได้
พี่เพลิงเลี้ยงน้องชายออกมาได้ดีจริงๆ เลย!
แต่ว่า…ผมอ้อนอัณณ์ก็ใจอ่อน
เนี่ย…
บอกแล้วว่าเป็นแมวของอัณณ์
“พี่หายใจไม่ออกกันพอดีนะครับ” เสียงอัณณ์บอกอย่างอ่อนใจ ผมเลยซบหน้าลงกับไหล่อัณณ์ กัดไหล่เขาเบาๆ จนอัณณ์สะดุ้งนิดๆ ผมหัวเราะทันที
อืม…ได้รังแกอัณณ์ก็เป็นความสุขของผมเหมือนกันนะ…และอยากรังแกมากกว่านี้ด้วย
“เจ้าแมวคันฟันหรือไงครับ!” อัณณ์ดุ ไม่อยากบอกเลยน้ำเสียงดุแบบนี้ไม่ได้น่ากลัว…น่าฟัดมากกว่า ผมไม่ตอบแต่ใช้จมูกกดที่ต้นคออัณณืแทน ยิ่งร่างอัณณ์ในอ้อมแขนสะดุ้งอีก ผมก็ไม่เลิกระราน
ผู้ชายน่ะเวลาอยู่ใกล้คนที่ชอบมากๆ…สัญชาตญาณมักจะมาเหนือสติทุกทีเลย ยิ่งตอนนี้เขาเป็นคนรักของผม เป็นแฟนของผม เลยอยากสัมผัสบ้างอะไรบ้าง…
“แมวลามก…” อัณณ์บอกเสียงสั่นๆ ที่พยายามควบคุมให้นิ่ง ผมเลยยิ้ม ชอบทำให้อัณณ์เขิน แล้วเวลาเห็นอัณณ์พยายามควบคุมตัวเองผมยิ่งชอบ…
เป็นหนักแล้วจริงๆ ด้วย
“อย่าร้องไห้อีกนะครับ” ผมกระซิบข้างหู กัดใบหูอัณณ์เบาๆ “ผมไม่ชอบเลย…”
“พี่รับปากไม่ได้นะครับ บางทีก็มีสถานการณ์ที่ทำให้อยากร้องไห้นะ”
“อัณณ์ดื้อ” คนใจดี ใจเย็น คนนี้น่ะดื้อเงียบจะตาย แต่เพราะเขามักยิ้มอยู่เสมอ ใบหน้าก็อ่อนโยน นิสัยก็อ่อนโยน เลยดื้อแล้วดูดี
“ร้องไห้เวลาที่ผมอยู่ด้วยเท่านั้นนะ ผมจะได้เป็นไหล่ให้อัณณ์ซับน้ำตา”
“แมวเอาแต่ใจจังเลยครับวันนี้” อัณณ์หัวเราะ ผมเลยมันเขี้ยว ฟัดแก้มเขาแรงๆ..หอมจัง ดังนั้นฟัดเลยไม่พอ…กัดไปเบาๆ อีกหนึ่งที
“เพชร! ตกลงคันฟันจริงๆใช่ไหมครับ”
“อื้อ! ผมคันฟันก็ได้นะ”
“เรานอนกันดีกว่า พรุ่งนี้ต้องขับรถกลับมหาลัยกันแล้ว”
“ผมนอนกอดอัณณ์นะ” ผมรีบอ้อน
“ไว้ใจไม่ได้ยังไงไม่รู้สิ” อัณณ์บ่นงึมงำ
“กอดอย่างเดียว” ซุกไหล่ งับเบาๆ อีกครั้ง เห็นรอยฟันตัวเองจางๆ บนไหล่อัณณ์แล้วชอบจัง รู้สึกอยากทำรอยทั้งตัวไปเลย
“แมวที่ชอบกลายร่างเป็นเสือน่ะ เชื่อถือไม่ค่อยได้เลยครับ” อัณณ์โถมน้ำหนักใส่ผมราวกับจะแก้แค้น ผมเลยรัดอ้อมแขนกอดเขาแน่นขึ้นอีก ก่อนเอนตัวลงบนเตียง ทำให้อัณณ์ทับตัวผมมาเต็มแรง พอเห็นคนสติดีฉวยโอกาสรีบลุกผมเลยคว้าเอวให้หล่นมาบนตัวผมอีกที แล้วเอาขาเกยทับไว้อีกรอบ
อืม…หนีไม่ได้แล้ว
อัณณ์จ้องมองผมดุๆ แต่แก้มเขาแดงจัด จนน่างับเล่นอีกครั้ง “เพชร…ไม่นอนดีๆ ล่ะครับ ดื้อมากๆ เดี๋ยวพี่ตีนะ”
ขู่น่ากลัวจัง…แก้มแดงไปด้วยแบบนี้
ผมยิ้ม ไม่รู้ว่าทำตาแบบไหน แต่เห็นอัณณ์แก้มแดงขึ้นกว่าเดิมอีก
“ผมอยากปลอบอัณณ์…” ผมไล้มือที่ช้างแก้มอัณณ์ช้า ที่จริงอยากคว้าเขามากอด มาจูบ แลกเปลี่ยนสัมผัสซึ่งกันและกัน ให้คิดแค่เรื่องของผม สนใจแค่ผม…ไม่ต้องคิดหรือสนใจใครที่ทำให้อัณณ์ต้องเจ็บ ต้องเสียใจ ถึงแม้ตอนนั้นคนจะบางตา แต่ก็เป็นที่สาธารณะ ถึงผมเอาแต่ใจยังไงผมก็เป็นแมวที่ดีของอัณณ์
ค่อยเก็บมาปลอบที่ห้อง
“เพชรก็ปลอบพี่ไปแล้วไงครับ” อัณณ์ยิ้มน้อยๆ ดวงตาเรียวนั้นทอประกายขอบคุณ เจือความชื่นชมและความรักแฝงมาจนผมใจเต้น “แค่เพชรอยู่ตรงนี้…ก็เกินกว่าคำปลอบโยนใดๆ แล้วครับ”
“อัณณ์…ทำไมชอบแกล้งผมนะ ผมโอดควรญเบาๆ” ทำตาเศร้าๆ อ้อนๆ ใส่
“พี่ไปแกล้งเพชรตอนไหน…พี่ว่าพี่เข้าข้างเรากว่าใครแล้วนะเจ้าแมว” อัณณ์เคาะจมูกผมเบาๆ ดูจะชอบที่ได้นอนโดยผมเป็นเบาะแบบนี้
ถ้าอัณณ์ชอบผมยอมเป็นเบาะให้ทุกวันก็ได้!
“ก็อัณณ์น่ารัก…พอน่ารักบ่อยๆ ผมก็อยากฟัด” ผมบอกไปตรงๆ อัณณ์หน้าแดง ทำตาดุอีกแล้ว
“ปกติมีแต่เจ้าของที่อยากฟัดแมว นี่แมวของพี่อยากฟัดเจ้าของด้วยหรือไงครับ?”
“อื้อ! ผมเป็นแมวพิเศษ มีตัวเดียวบนโลก”
อัณณ์ยิ้มกว้าง ท่าทางหมั่นไส้ผมไม่น้อย ผมหัวเราะเบาๆ ชอบที่ทำให้อัณณ์ของผมยิ้มได้ทั้งปากทั้งตาแบบนี้ ดังนั้นเลยใช้หกใบหน้าอัณณ์ให้โน้มลงมา ก่อนจะทาบทับริมฝีปากแนบกันเบาๆ เห็นดวงตาเรียวนั้นเบิกขึ้นนิดๆ ก่อนจะค่อยๆ ปรือตาลงให้ผมเอาแต่ใจ…บดเบียด เค้นคลึงริมฝีปากของกันและกัน สอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปด้านในแลกเปลี่ยนสัมผัสของกันและกัน…
ผมจูบอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ พักให้อัณณ์หายใจทันก็จูบอีก ยิ่งอัณณ์ตาวาวฉ่ำน้ำ ปากบวมเจ่อนิดๆ ผมยิ่งอยากรังแกเขา รู้เลยว่าอารมณ์ตัวเองกำลังพุ่งสูง เลยเลื่อนจูบมาซุกไซร้ที่ซอกคอหอมๆ ขบเม้มเบาๆ กำลังจะลากต่ำลงไปอีก…หากไม่ใช่เพราะสัมผัสได้ว่าเจ้าของที่ถูกแมวรังแกดูจะนิ่งเกินไป…
ผมเงยหน้าขึ้นมอง เห็นอัณณ์หลับไปแล้ว ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ทำให้อดยิ้มออกมาไม่ได้…ไม่แปลกหรอก วันนี้อัณณ์เหนื่อยเกินไปแล้ว ทั้งร้องไห้ ทั้งเครียด ยิ่งมาถูกผมโหมจูบแบบนี้จะหลับก็ไม่แปลก
ไม่รู้จะเสียใจหรือดีใจดี…
อัณณ์ไว้ใจผม…มากเกินไป มั่นใจว่าผมจะไม่รังแกเขาตอนหลับแน่ๆ
“ขี้โกงจริงๆ เลย” ผมพึมพำ ประคองร่างอัณณ์ให้นอนบนเตียงดีๆ มองคนอายุมากกว่าที่หลับอย่างสบายใจก็รู้สึกดีขึ้นมา ถอนหายใจเบาๆ สงบสติอารมณ์ตัวเอง…ดีนะผมเรียนรู้ที่จะควบคุมตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ไม่อย่างนั้นสติแตกแน่ๆ
ผมโน้มใบหน้าไปจูบหน้าผากนูนเบาๆ ก่อนจะห่มผ้าให้อัณณ์ ลดอุณหภูมิแอร์ และก็อดไม่ได้ที่จะจูบไปเบาๆ อีกหนึ่งที “ฝันดีครับ…อัณณ์ของผม”
ขอให้ในฝันก็ไม่มีอะไรมาทำให้อัณณ์เสียใจ เพราะถ้าฝันร้าย ผมจะตามไปตีคนทำถึงในฝันเลย
เจ้าของแมวที่ชื่อเพชรน้ำหนึ่งไม่อนุญาตให้ใครรังแก!
“ไม่หลับไม่นอนหรือไงแมว?” ผมเดินออกมาริมสระน้ำที่แข่งกันเมื่อตอนเย็น เห็นพี่เพลิงกับพี่เวกำลังเล่นไพ่ ดื่มไวน์กันอยู่ ผมเลยมานั่งด้วยคน
“ผมธุระ…พวกพี่?”
“พี่เพลิงชวนพี่มาอ่ะ “พี่เวบอก ผมพยักหน้า พี่เพลิงกับพี่เวพักห้องเดียวกัน ส่วนไอ้ชา ไอ้ช้าง และเกรย์ยึดห้องใหญ่ไป ที่จริงเกรย์ก็โวยวายจะกลับก่อน แต่เด็กนั่นไม่ค่อยรู้ที่ทาง จังหวัดไหนจังไม่รู้เลย เลยได้แต่ถูกไอ้ชาแกล้ง
เพื่อนผมคงสนใจนั่นล่ะ…มากด้วย เกรย์เหมือนไอ้ดื้อ กระต่ายหยิ่ง หน้าหน้าบู้บี้
“อัณณ์หลับแล้วล่ะสิ ถึงได้มาเดินอยู่แถวนี้น่ะ” พี่เพลิงวางแก้วไวน์ลง
“อื้อ…อัณณ์เหนื่อย ร้องไห้ด้วย ผมไม่ชอบเลย” ผมบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“คุณขวัญน่ะเหรอ?” พี่เพลิงเลิกคิ้ว “พี่เฉยๆ นะ แต่ถ้าหาเรื่องกันมากกว่านี้ ก็จะไม่เกรงใจแล้วเหมือนกัน”
“ผมยังไม่เคยเจอเลย แต่ฟังดูแล้วไม่น่าจะโอเค” พี่เวย่นคิ้ว
“อัณณ์อ่อนไหวกับเรื่องนี้เสมอ พี่น่ะเคยโตมากับเธอตั้งหลายปี แต่เธอไม่เคยสนใจใยดี พี่ก็ไม่สนเหมือนกัน แต่อัณณ์ไม่เคยสัมผัส เลยโหยหาแม่มากกว่าเยอะ เมื่อก่อนร้องไห้บ่อยกว่านี้อีก ยิ่งเด็กๆ กับชาวบ้านแถวบ้านชอบซุบซิบเข้าหู”
ผมหรี่ตา ตามไปจัดการย้อนหลังดีไหมนะ
“หึๆ ไม่เป็นไรหรอกแมว เพราะพี่ก็ทำไปไม่น้อยแล้ว สบายใจได้ ที่ออกมานี่เพราะให้คนดูแลบ้านของพ่อพี่เหรอ?”
รู้ดีสมเป็นพี่เพลิงจริงๆ เลย
“คนของผมบอกว่า มีขโมยขึ้นบ้านพี่ จะวางเพลิง” ผมกดเสียง “ใช้วิธีชั่วร้าย” ผมเลยให้จัดการส่งเจ้าหน้าที่ไปล้ว
“อา…ก็อยากได้ที่ดินตรงนั้นนี่นา เมื่อก่อนเป็นธรรมดา มีดีที่ก็อยู่ริมแม่น้ำ ผ่านไปหลายปีกมีระบบขนส่งสาธารณะผ่าน เลยกลายเป็นทำเลทองเลย แถมใกล้โรงแรมพ่อเกรย์อีก ถ้าได้ไปนี่กำไรเห็น คิดอะไรตลกๆ” พี่เพลิงหัวเราะเสียงเย็น ผมเห็นพี่เวสะดุ้ง ผมยิ้มน้อยๆ
“พี่เพลิงจัดการพ่อของเกรย์ ทางนี้ผมจัดการเอง” ต่างประเทศผมทำอะไรมากไม่ได้ ไม่เหมือนพี่เพลิงที่เพื่อนเขาเป็นคนมีอิทธพลทางฝั่งโน้น ดังนั้นแบ่งหน้าที่กันแบบนี้ก็โอเคแล้ว
“ดีล”
“เฮ้อ…ผมชักสงสารคนที่มารังแกไอ้อัณณ์มันเสียแล้วสิเนี่ย” พี่เวพึมพำเบาๆ “อ้ะ…พี่เพลิงฝากคน ดูๆ เรื่องน้องเกรย์มาด้วยได้ไหมครับ ผมว่าเด็กคนนี้น่าจะเจออะไรมากเยอะ ดูมีปมครอบครัวมาก เดี๋ยวอัณณ์มันคิดมากอีก มันได้โทษตัวเองแหงๆ” พี่เวบ่น เขาดูสังเกตและจับความรู้สึกคนรอบตัวได้เร็ว ไม่แปลกหรอกที่เป็นเพื่อนรักของอัณณ์
“พี่ฝากเพื่อนไปแล้วล่ะ” พี่เพลิงหมุนแก้วไวน์ช้าๆ “เกรย์คงเจอมาเยอะเหมือนกัน ความโลภและความต้องการไม่รู้จักพอของคนเรานี่น่ากลัวจริงๆ”
“อื้ม !” ผมพยักหน้าเห็นด้วย “ฆ่าตัวตายอย่างช้าๆ ชัดๆ”
“หึๆ” พี่เพลิงเหยียดยิ้ม ตาวาวๆ อย่างชั่วร้าย “ถ้าจะลงมือไม่ต้องเกรงใจว่าพวกเขาเป็นใคร…แค่ไม่ให้อัณณ์รู้ เรื่องก็จบแล้ว”
“ได้!” ผมจะคิดค่าเสียหาย ค่าดอกเบี้ย ที่กล้าทำให้เจ้าของของผมร้องไห้ตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันเลย อือ…พวกเผื่อไว้ด้วยว่าอาจมีอีกในอนาคต
ผมไม่ได้พาลนะ…แค่ปกป้องเจ้าของ
แมวน่ะเป็นสิ่งมีชีวิตที่หวงเจ้าของจะตายไป
ผมเป็นเป็นที่ดี…แต่เกรี้ยวกราดได้เพื่ออัณณ์
ก่อนอื่นเลย...ขอโทษค่าาา ที่จริงว่าจะมาลงเมื่อวาน แต่คนเขียนไปเล่นน้ำมา เล่นเหมือนไม่เคยพบเจอ 555 ขึ้นมาจากน้ำก็นอนซมไปตามระเบียบ วันนี้เลยตื่นมาแต่เช้า(?) เพื่ออัพเจ้าแมวเพชร หมั่นไส้เหลือเกิน...ชอบชมตัวเองตลอด! 555 หาเรื่องรังแกเจ้าของตลอด เนี่ย...ถ้าแมวกับพี่อัณณ์อยู่บนเตียงกันครั้งต่อไป แมวจะเป็นเสือจริงๆ แล้วค่ะ ^_^ ส่วนเกรย์...ไม่รังแกน้องเยอะหรอกค่ะ คนเขียนสายความสุข(?) และชอบดื่มชาเอิร์ลเกรย์ด้วย ^_^
คำผิดทยอยแก้ไปบ้างแล้ว แต่ถ้าเจอก็ทักกันได้ค่ะ บางทีก็ตาลาย 555 อายุไม่เยอะ แต่สังขารไปไกลมากกกก
อากาศร้อนมาก ร้อนอย่างโหดร้าย… ใครเล่นน้ำก็อย่าให้ป่วยน้าาา ตอนเล่นมันส์มาก พอขึ้นจากน้ำเท่านั้นล่ะ... แล้วก็ระวังไมเกรนด้วยนะคะอากาศร้อนนี่ตัวดีเลย ทุกคนรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
ขอให้เป็นวันหยุดที่ดีสำหรับทุกคนค่ะ
ป.ล. ที่จริงคนเขียนเล่นทวิตฯ นะคะ @deffadil ไว้บ่นเฉยๆ ไม่ค่อยมีสาระใดๆ เท่าไหร่ แต่หากอยากพูดคุยกันต่อเรื่องนิยาย ติดแท็ค #แมวเพชร หรือชื่อเรื่องก็ได้นะคะ คุยได้ทุกเรื่อง แนะนำนิยายได้ทุกเรื่องเช่นกันค่ะ
4/03/2561
ตอนนี้เขียนมาตั้งแต่เมื่อวาน ลบๆ เขียนๆ เขียนๆ ลบๆ กลัวสื่อออกมาไม่ดี เพราะประเด็นครอบครัวนี่ค่อนข้างอ่อนไหวทีเดียว งงๆ ขัดๆ ตรงไหนทักได้นะคะ ^_^ แต่เรื่องนี้มาม่าไม่สุดเพราะแมวนี่ล่ะค่ะ พูดทีน้ำตาปลิวไปกับลม 5555 ส่วนเกรย์...อาจมีเป็น
คนเขียนยังไม่ได้แก้คำผิดเลยยยย ถ้าเจอก็ทักกันได้เช่นกันค่ะ ไม่กัดจริงๆ นะคะ บางทีคนเขียนชอบติดภาษาทางการไปเพราะต้องพิมพ์รายงานประชุม งานเอกสารต่างๆ
อ้ะ…ภาพน้องเหมียวตอนที่แล้วกับตอนนี้น้องชื่อ ‘บากิ’ นะคะ จาก Twitter ของคุณ @Bonusiie น้องมีครอบครัวอีกหลายตัวเลยค่ะ น่ารักทั้งนั้นใครชอบเหมียวๆ ติดตามคุณโบนัส (@Bonusiie)ได้นะคะ ^_^ คนเขียนขออนุญาตคุณโบนัสเรียบร้อยแล้วค่ะว่าขอเอาน้องบากิมาใช้ประกอบนิยาย
ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ร้อนจนเพลีย…หน้าร้อนคือช่วงที่คนเขียนป่วยบ่อยที่สุด ทุกคนรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
สำหรับคืนนี้…ฝันดีและราตรีสวัสดิ์นะคะ
ป.ล. ถ้าไม่มีอะไรติดขัดวันเสาร์จะมาต่อที่เหลือให้นะคะ ^_^
1/03/2561
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เราว่ามีหลุดๆเรื่องส่วนสูงนะคะ ช่วงแรกๆบอกว่าเพชรสูงกว่าอัณณ์หลายเซ็น มาตอนหลังๆบอกห่างกันไม่เยอะ แล้วตอนพี่เพลิงอุ้มน้อง น้องบอกว่าสูงร้อยเจ็ดสิบกว่าๆ มาตอนนี้เพชรบอกอัณณ์สูง179 สำหรับเรานี่ไม่กว่าแล้วนะ มันเฉียดร้อยแปดแล้วอ่ะ
ทำไม่ดีกับลูกได้ยังไงนะ จิตใจแย่มากจริงๆ
กระต่ายตาแดง กระต่ายดื้อ หน้าบู้บี้ด้วย เกรย์เอ๊ย 55555 ไม่เป็นไรนะตาหนูนะ พี่เชียร์พี่ชากับหนูนะลูก
ที่เจอก็มี
ดังนั้นเลยใช้หกใบหน้าอัณณ์ให้โน้มลงมา
ใช้มือลูบช้างแก้มอัณณ์
ผมเป็นเป็นที่ดี
และก็มีอีกประปราย สู้ๆนะคะ ติดตามมมมมค่ะ:)
จ้า55555+
ปล. แอบชอบที่จอมมารกับเจ้าแมวแท็กทีมกันอ่ะ ร้ายกาจ~