ตอนที่ 25 : หลั่งฮอร์โมนครั้งที่...23
Cr. TW. ของคุณ Bonusiie
23.
“เอาล่ะค่ะนักศึกษา หมดเวลาสอบแล้วนะคะ! วางปากกาแล้วมาส่งกระดาษคำตอบด้านหน้าเลยค่ะ” เสียงอาจารย์คุมสอบดังขึ้น พร้อมๆเสียงโอดครวญและเสียงสวดมนต์ของนักเรียนชั้นปีสี่สาขาสิ่งแวดล้อม
“อาจารย์! อาจารย์ผมขอเขียนคำตอบก๊อนนน!”
“มาส่งได้แล้วค่ะ! เดี๋ยวอาจารย์ตัดคะแนนเลย”
“จารย์ใจร้าย!”
“น้ำลายไหลลงกระดาษคำตอบด้วยนะคะ” อาจารย์ส่ายหน้าขำๆ หรี่ตามองพวกเราด้วยความเอ็นดูปนระอาใจ “พยายามใหม่ไฟนอลสิคะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ อาจารย์จะให้ค่าน้ำหมึกปากกาสัก 0.0001 คะแนน” อาจารย์ประจำวิชาที่ทำหน้าที่คุมสอบไปด้วยหัวเราะ แม้จะดูมีอายุมาก แต่ท่านยังแข็งแรงและสดใสอยู่เลย
“ให้สักห้าคะแนนก็ยังดีนะคะ ฮือออออ”
อาจารย์ยิ้มไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะเก็บรวบรวมกระดาษคำตอบพร้อมๆกับอาจารย์อีกสองสามท่านที่คุมสอบพวกเรามองหน้ากันก่อนจะทยอยออกจากห้องสอบ พอพ้นหลังท่านผู้ใหญ่ทั้งหลาย…
“สอบเสร็จแล้วโว้ยยยยย! ในที่สุดกูก็เป็นไทแล้ว!!”
“พวกมึงคืนนี้ร้านไหนจัดมาเลย! กูจะเมา เมา และเมา!”
“แดกหมูกระทะแล้วไปร้านเหล้า ไปเกะกันเถอะ!”
ฟังดูเพื่อนๆ ตกลงที่จะฉลองหลังสอบกันแล้วผมก็ได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย ขอเติมพลังงานก่อนแล้วค่อยนอนเถอะ ไม่ไหว…กับสัปดาห์การสอบอันแสนโหดร้ายนี้ ยังดีนะที่พวกผมได้สอบเสร็จกันก่อน เพราะใครที่โชคร้ายกว่าก็…ยังสอบต่อไปอีกสองวัน…
ไม่ต้องใครที่ไหนไกลหรอก…น้องรหัสกับแฟนแมวของผมนั่นล่ะครับ
รายหลังน่ะงอแง บ่นมาทางไลน์ โทรมาอ้อน เป็นแมวหงอยใส่ผมมาหลายวันล่ะ เพราะเราต่างก็ไม่เจอหน้ากันเลย
ต่างคน…ต่างก็มีหน้าที่และความรับผิดชอบของตัวเอง
“นี่ๆ ชั้นสี่ใช่ป่ะมึง?” เวและพวกเพื่อนๆ อีกหลายคนหันมามองผมตาประกาย
“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว…นี่มิดเทอมเทอมสุดท้ายของเทอมหนึ่งแล้ว…”
ผมส่ายหน้าปรามๆ รู้ว่าเจ้าพวกเพื่อนตัวแสบเหล่านี้จะทำอะไร
“ไม่เอาน่า…”
“สอบเสร็จแล้วโว้ยยยยยยยยย!!!” พวกเพื่อนๆ ยืนเรียงกันริมระเบียงชั้นสี่ ตะโกนเสียงลั่นตึก ยังดีที่นี่มันตึกของสาขาโดยเฉพาะ และวันนี้ก็มีแค่ปีสี่ ENVI ที่มีสอบตึกนี้ ไม่อย่างนั้นได้ถูกยึดบัตรนักศึกษาและเชิญเข้าห้องดำกันแน่ๆ
“สนไหมอัณณ์?” มีการหันมายักคิ้วให้ผมอีก “เฮ้ยๆ รินเอากล้องมาใช่ป่ะ? ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกว่าสอบวิชา Hazardous กันเถอะ! สอบวันสุดท้ายของมิดเทอมแล้ว”
“วิชาโหดร้ายที่สุดพวกกูสอบกันเสร็จแล้วโว้ย!”
“แค่มิดเทอมไหมล่ะ ค่อยรอไฟนอลกันดีกว่าไหม?” ผมบอกยิ้มๆ ก่อนจะเดินไปยืนริมระเบียง ปากบอกห้ามก็เถอะ แต่ได้ทำอะไรแบบนี้กับเพื่อนๆ ก็สนุกดี…
“สอบเสร็จแล้วววววว!!”
“ฮะๆๆๆ มาๆ”
“ป้าขา พวกหนูรบกวนหน่อยนะคะ มาถ่ายรูปให้พวหหนูหน่อยได้ไหมคะ?” เจ้าของกล้องยิ้มหวาน เสียงหวานให้คุณป้าแม่บ้านประจำตึกที่มองพวกเราเป็นตัวแสบและมีแววเอ็นดู
“พวกตัวแสบ ป้าตกใจหมด ถ่ายภาพใช่ไหม…กดตรงไหนบอกป้ามา”
“ขอบคุณค่าาาาา”
“ขอบคุณคร้าบบบบบ”
พวกเรายกมือไหว้ผสานเสียงกัน จากนั้นก็กอดคอ ชูสองนิ้ว ยิ้มหน้าบานให้กล้อง…
เทอมหน้า…คงไม่ได้ทำอะไรแบบนี้แล้ว เพราะต่างคนก็มีเส้นทางของตนเอง ทั้งสัมนา ทั้งโปรเจคจบ ทั้งเริ่มหาที่ทำงาน…
เก็บไว้เป็นความทรงจำ….ที่ได้ใช้ร่วมกัน
“อ้าว…อัณณ์กลับมาแล้วหรือ? พี่ทำยำหมึก กับต้มยำกุ้งไว้มากินกันเถอะ อ้อ…มีไอศกรีมสตรอเบอรี่ราดถั่วแดงด้วย ไหนๆ อัณณ์ก็สอบเสร็จแล้วฉลองให้เสียหน่อย” เมื่อเข้ามาในบ้าน พี่ชายก็ที่สวมผ้ากันเปื้อนก็ส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้
ครอบครัวเพียงคนเดียวของผม…
ผมยิ้มรู้สึกอยากเดินเข้าไปกอดพี่เพลิง แล้วอ้อนเหมือนสมัยเด็กๆ เลย เพราะรู้สึกเหนื่อยและล้ากับการสอบมากจริงๆ แต่ทำแล้วคงไม่น่ารักเหมือนเมื่อก่อนล่ะ
“รอพรุ่งนี้ค่อยฉลองพร้อมว่าที่พี่สะใภ้อัณณ์ไม่ดีกว่าเหรอครับ?” ผมยิ้มแซว เลยโดนพี่เพลิงตีหัวเสียหนึ่งที
“พรุ่งนี้สัญญากับยายหมีแคระนั่นแล้วว่าจะพาไปเที่ยวทะเล อัณณ์มาด้วยสิ ชวนเวกับตำลึงมาด้วย”
“เป็นแฟนที่ดีจังเลยนะครับพี่เพลิงน่ะ อัณณ์ชักอิจฉาปายเสียแล้ว”
“ถึงพี่ไม่อยากยอมรับแต่แมวของอัณณ์ก็ถือว่าเป็นแฟนที่ดีนะ หากไม่…น่าหมั่นไส้จนเกินไป”
ผมหัวเราะ “กำลังคิดว่าหากไปเที่ยวกันแบบนี้…เพชรคงได้งอแง หรืออาจงอนผมไปเลยก็ได้” ผมไปสนุกโดยเจ้าแมวกำลังเคร่งเครียกับการสอบ แต่ให้ไปอ่านด้วยกันก็ไม่รู้เรื่อง เพราะเรียนคนละทาง แถมเจ้าแมวนั่นคงไม่มีสมาธิอีก
“งั้นดี...พี่จะจองโรงแรมล่ะ อ้อ…ลืมไป ไม่ต้องจองโรงแรงนี่นา มีเพื่อนต้องใช้ให้คุ้ม เดี๋ยวอัณณ์ไปอาบน้ำให้เรียบร้อยก่อนค่อยลงมานะ พี่จะไปคุยกับเพื่อน ให้ดีโทรฯ บอกแมวของอัณณ์ด้วยนะ หึๆ”
“แกล้งเพชรนี่สนุกตรงไหนกันครับ…” ผมส่ายหน้าเบาๆ
“สนุกตรงที่เจ้าแมวนั่นทำหน้าแมวหงอย…พี่ไม่ใช่ทาสแมวแบบอัณณ์ เลยแกล้งแล้วเพลินดีน่ะ ดูท่าทางสิ อัณณ์ก็เถอะ” พี่ชายหัวเราะ ก้มลงมามองตาผม “อัณณ์ก็ชอบแกล้งแมวของอัณณ์เหมือนกันนั่นล่ะ น้องชายพี่ไม่ได้ใจดีเหมือนที่ทุกคนคิดสักหน่อย”
ผมถลึงตาใส่พี่เพลิง “ก็พี่เพลิงเลี้ยงอัณณ์มาแบบนี้นี่นา อัณณ์ว่าอัณณ์ไปอาบน้ำก่อนดีกว่า”
“อัณณ์…” พี่เพลิงหรี่ตามองผม “ผู้หญิงคนนั้นมาที่นี่แล้วนะ”
ผมนิ่งไปทันที เท้าที่กำลังก้าวเดินชะงักไปทันที “ครับ…คงเป็นเรื่องเดิมๆ” ผมตอบกลับนิ่งๆ แม้ในใจกำลังปั่นป่วนมากก็ตาม
แม่…ที่แค่รับรู้ว่ามี แต่ไม่เคยสัมผัสถึงความหมายของคำนั้นเลย
เธอไม่เคยให้ความรู้สึกนั้นกับผม…และที่สำคัญ…เธอเองก็เกลียผมมากด้วย
“มิน่า...เกรย์ถึงเดินมาหาผมเหมือนมีอะไรจะพูด” ก่อนผมกลับมาบ้าน เห็นเกรย์เดินมาหาที่รถเหมือนมีเรื่องจะคุยด้วย แต่เจ้าเด็กนั่นจ้องหน้าผมอยู่หลายนาทีก็ไม่พูดอะไรสักอย่าง อ้ำๆ อึ้งๆ ตลอด สุดท้ายก็เดินหนีไปเฉย
น้องชายต่างพ่อคนนี้…บางทีก็ทำผมสับสนนะ
“เด็กคนนั้นน่ะเหรอ?” พี่เพลิงเลิกคิ้วเหมือนครุ่นคิดอะไรสักอย่าง ก่อนจะเดินมายีหัวผมเบาๆ “ไปอาบน้ำเถอะอัณณ์ อาหารเย็นหมดแล้ว อย่าคิดมาก…พี่ยังอยู่นะ อีกอย่างเพื่อนพี่ก็มีให้ใช้งาน ใช้พวกมันให้คุ้มกับความปวดหัว”
“ขอบคุณครับพี่เพลิง” ผมยิ้มกอดพี่ชายแน่น ตัวพี่เพลิงอุ่นและมีกลิ่นหอม ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย
เดินขึ้นห้องตัวเอง หยิบโทรศัพท์ที่ปิดเครื่องไว้มาเปิด เสียงโทรเข้าก็ดังขึ้นมาจนผมอดสะดุ้งเล็กๆ ไม่ได้ เห็นชื่อที่โทรเข้าผมก็หัวเระาก่อนจะกดรับทันที
แค่สองกริ๊งก็ช้าในความรู้สึกคนโทรฯ แล้ว
“สอบเสร็จแล้ว เหลืออีกสามวิชาไม่ใช่เหรอครับ? เจ้าแมว…”
( อัณณ์…งื้อออออ ) เสียงปลายสายออดอ้อนเลเวลสามร้อย นึกภาพเจ้าแมวที่กำลังกลิ้งไปกลิ้งมา หูกับหางหู่ลง มือเหมียวๆ ก็จับโทรศัพท์
( ผมจะเฉาตายอยู่แล้ว…คิดถึงอัณณ์ )
“วันนี้พี่สอบเสร็จแล้ว…ให้ขับรถไปหาไหมครับ?” ผมชักสงสารน้องเสียแล้ว ถึงจะรู้ว่าบางทีเพชรแกล้งทำก็เถอะ
ก็แฟนของผมน่ะ…ร้ายไม่ใช่เล่นเลย
( คิดถึง…แต่ไม่อยากให้อัณณ์มา ) น้องทำเสียงงุ้งงิ้ง ( ผมอยากให้พัก )
( งื้อ! แฟนที่ดี ) ยังชมตัวเองได้อีกแมวเนี่ย
“เราน่ะ…ไม่พักแล้วค่อยอ่านวิชาต่อไปล่ะครับ”
( ผมจะเทให้หมดแล้ว ) แมวงอแง ( คิดถึงอัณณ์… )
“ไม่ดื้อสิครับ…เผื่อพี่จะให้เพชรเลี้ยง”
( ได้ ผมเลี้ยงได้! จะเลี้ยงอัณณ์เอง ) แมวพัฒนาเลี้ยงเจ้าของด้วย…แมวแบบนี้มีแค่แมวของผมตัวเดียวหรือเปล่านะ
จากนั้นน้องก็บ่นเรื่องพวกเพื่อนๆ ที่แกล้งเขา ลากน้องไปติวให้ กับข้อสอบที่ยากๆ บ่นอาจารย์ บ่นคนคุมสอบ บ่นปากกา บ่นทุกอย่างอ่ะครับ…อะไรที่เพชรบ่นได้ก็เอามาบ่นหมด จากเจ้าแมวพูดน้อย พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เหมือนเก็บกดเลย
ผมน่ะก็ได้แต่ยิ้มนั่งฟังเสียงเหมียวๆ จากปลายสาย ชอบเสียงของเจ้าแมวที่เล่าทุกอย่างให้ผมฟัง เหมือนทำให้เราอยู่ใกล้กันแม่ไม่ได้เจอหน้า
แค่เวลาที่ไม่ตรงกัน…ไม่ใช่ปัญหาของเราทั้งคู่เลย
อืม…ถ้าบอกไปว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนกับพวกพี่เพลิง แมวบางตัวจะงอนผมหรือเปล่านะ
“เพชรครับ…” ผมเรียกเสียงเบาๆ
( อัณณ์…อ้อนผม? ) เหมือนเห็นแมวบางตัวกำลังทำตาโต วิ้งๆ หูตั้งตรง สะบัดหางไปมาอยู่ตรงหน้าเลย
ไม่ใช่แล้วครับแมว แต่…จะเรียกว่าอ้อนก็ได้ล่ะมั้งนะ
“คือว่าพี่น่ะสอบเสร็จแล้ว…พรุ่งนี้ปายเองก็จะสอบเสร็จแล้วด้วย”
( ง่ะ! อัณณ์จะทิ้งผมไปเที่ยวกับปาย กับพี่เพลิง! ) เพชรเสียงงอแงสุดๆ รู้สึกเห็นภาพเจ้าแมวหงายท้องกลิ้งไปมาเลย
( ผมถูกทิ้ง! )
ไปกันใหญ่แล้วเจ้าแมวน่ะ ผมได้แต่ส่ายหัวไปมา ริมฝีปากยกยิ้มขำๆ
“ไม่ได้จะทิ้งเพชรไปเที่ยวกันสักหน่อยครับ ไปพักสมองไง เดี๋ยวเราสอบเสร็จพี่จะซื้อของฝากมาให้แฟนไงครับ” ต้องเอาคำว่า ‘แฟน’ มาใช้กับเจ้าแมว น้องใจอ่อนกับคำนี้
( ไม่ใจอ่อนหรอก…อัณณ์ทิ้งผม ผมถูกทิ้งแล้ว )
ผมหัวเราะขำๆ ปลอบแมวไปหลายประโยคจนในที่สุดเจ้าแมวก็บอกว่าจะขยันสอบ แล้ววิชาสุดท้ายจะใช้เวลาสอบแค่หนึ่งชั่วโมงจากนั้นก็บึ่งมาหาผมทันที พี่เพลิงที่เดินมาตามเพราะผมลงมาช้าก็เลยจบปัญญหาโดยการแย่งโทรศัพท์ผมไปแล้วจัดการกลั่นแกล้งเจ้าแมวอย่างสนุกสนาน
เพชรนี่…น่ารักจริงๆ นั่นล่ะ
“พี่เต! ผมมีเรื่องอยากถามพี่สักหน่อย!” เกรย์เปิดประตูห้องพักของรุ่นพี่เข้าไปอย่างไม่ขออนุญาต เพราะตอนนี้เขามีเรื่องร้อนใจเกินกว่าจะมาใส่ใจมารยาทต่างๆ นานา แต่ว่า…ภาพที่เห็นรุ่นพี่หนุ่มกำลังจูบกับใครสักคนบนโซฟาก็ทำให้เขาหยุดชะงัก แววตาสั่นไหว ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างรวดเร็วเมื่ออีกคนมองมา
“มีอะไร” เตโชถามเสียงเรียบ ท่าทีคล้ายรำคายเล็กน้อยที่ถูกขัดจังหวะ
“อ่ะ…เอ่อ…พี่มีเบอร์พี่อัณณ์ หรือใครสักคนรอบตัวเขาไหม ผมต้องการด่วนเลย!” เกรย์เอ่ยความต้องการของตัวเอง อยู่ดีๆ แม่ก็บอกว่าอยากไปเจอ ‘ลูกรัก’ ที่ไม่ได้เจอกันมานาน ทำเอาเขาปวดหัวมาก ผู้หญิงอย่างแม่เอ่ยคำว่าลูกรักออกมาแสดงว่าจะไปหาเรื่องดีๆ นี่เอง
เกรย์ไม่ได้เกลียดพี่อัณณ์กับพี่พระเพลิง…แวบแรกที่รู้ว่าตัวเองยังมีพี่ชายแม้เป็นคนละพ่อ ก็รู้สึกดีใจมาก เขาโตมาคนเดียว ดังนั้นความรู้สึกของการมีพี่น้องเขายินดีอยู่แล้ว
แต่…เกรย์ก็รักแม่มาก อะไรที่แม่อยากได้หรือต้องการ หากไม่เกินกำลัง เขาก็พยายามทำให้ท่าน
ยกเว้นเรื่องนี้…แม่เอาแต่ใจยังไงก็ได้ แต่ไม่ใช่ในกรณีที่รอบตัวพี่ชายต่างพ่อทั้งสองคนของเขามีคนคอยดูแลอยู่มากมาย เป็นมืออาชีพทั้งนั้น…หากแม่ทำอะไรตามใจเกินไป มันจะไปจบเรื่องง่ายๆ
“จะเอาเบอร์อัณณ์ไปทำไม…ก่อเรื่องอีกแล้วหรือ?” เตโชหรี่ตา มือเสยผม ดวงตาคมมองรุ่นน้องคล้ายตัวปัญหา…
แววตาที่ทำให้เกรย์ชะงัก…สะท้านวูบ
เหยียดยิ้มสมเพชตัวเองในใจ ทำยังไงก็ไม่ดีในสายตาเขาหรอกเกรย์…แค่ต้องมาตามเช็ดตามล้างเรื่องที่เขาก่อพี่เตโชก็เกลียดเขามากแล้ว
“สรุปพี่ไม่มี เออ! โทษทีที่ผมขัดจังหวะ…ผมไปก่อนล่ะ!”
“เดี๋ยว” เสียงเตโชเอ่ยคล้ายสั่ง แต่ทำให้เกรย์ที่กำลังหมุนตัวออกไปชะงัก “พี่…ฉันคงให้นายนายไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่านายจะก่อปัญหาให้อัณณ์ อีกอย่าง…เข้าห้องใครควรเคาะประตูก่อน”
สรุปคือ…แค่จะบอกว่าเขามันไร้มารยาท ขัดจังหวะเวลาสำคัญ
เกรย์แค่นยิ้ม เบนสายตาไปมองร่างเล็กบนโซฟาที่มีเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมุของวิศวะคลุมอยู่บนหัว…การแสดงออกที่บ่งบอกว่าหวงแหนทำให้ในออกเจ็บแปลบ
ก็ไม่เคยมีค่าในสายตาเขาอยู่แล้วนี่…เป็นแค่ตัวปัญหาเท่านั้นเอง
“ขอโทษ!! แมร่งเอ๊ย!” สบถเบาๆ อย่างหัวเสียงแล้วรีบออกจากห้อง แสบตาจนอยากร้องไห้แปลกๆ เป็นแบบนี้ตลอดเลย…ไม่เคยมีใครรักเขา
ไม่มี
“เลิกคิดเรื่องนี้! มึงต้องคิดเรื่องสำคัญก่อน!” ตบหน้าตัวเองเบาๆ ไม่มีเบอร์พี่อัณณ์ ที่บ้านทั้งคู่ก็ไม่มีคนอยู่ สรุปแล้วเขาจะติดต่อใครได้บ้าง…
จริงสิ! ผู้ชายที่เรียนนาวีคนนั้น! เกรย์หยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเช็คดูตารางสอบของเด็กพาณิชณาวี แม้เขาไม่รู้ชื่อ แต่เดาจากรหัสสาขาแล้วพอจะรู้ล่ะว่าสอบที่ไหน
ดังนั้นอีกสามสิบนาทีต่อมาเกรย์จึงมายืนหอบอยู่หน้าตึกชั้นสี่ของพาณิชยนาวี เห็นมีรุ่นพี่บางคนทยอยออกมาจากห้องสอบแล้ว เขาสอดสายตาหาอย่างรวดเร็วแต่ไม่เจอเป้าหมาย จึงเริ่มหัวเสียมากขึ้น
“อ้าว…น้องวิศวะคนนั้นนี่?” เสียงทักจากด้านหลังทำให้เกรย์สะดุ้งก่อนจะหันนควับไปมอง
ไม่รู้จัก…
“พี่เป็นเพื่อนไอ้เพชรมันชื่อชา มีธุระอะไรหรือเปล่า? ปีหนึ่งวิศวะไม่ใช่สอบเสร็จแล้วเหรอ” รุ่นพี่ตรงหน้าดูเป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มง่าย แต่ดวงตานั้นมองเขาอย่างสำรวจ เกรย์กลอกตาเกินกว่าจะสนใจอะไร หากปกติมาทำท่าทางแบบนี้ใส่เขา ได้มีโวยวายกลับไปบ้างล่ะ ตอนนี้…ช่างมันก่อน
“เพื่อนพี่!”
“ไอ้เพชร? มันสอบอยู่ นี่เพิ่งผ่านมาห้าสิบนาที พี่ทำข้อสอบได้บ้างไม่ได้บ้างเลยออกมาก่อน ส่วนไอ้เสือนั่นมันทำได้เลยใช้เวลานานหน่อย มีธุระกับมัน?”
“ใช่!!”
“อืม…ท่าทางเรื่องสำคัญ คงเกี่ยวกับพี่อัณณ์” เกรย์เงยมองทันที เขาไม่ทันพูดอะไรคนๆ นี้ก็รู้แล้ว?
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น ก็เพชรบอกว่าน้องอ่ะเป็นน้องชายคนละพ่อกับพี่อัณณ์นี่ อีกอย่างท่าทางแบบนี้ก็คงเรื่องใหญ่ไม่น้อย” ชายิ้มนิดๆ ก่อนจะหายเข้าไปในห้องสอบ และกลับมาพร้อมคนหล่อหน้ามึน
โห! ทำได้ง่ายๆ เลยอ่ะ เกรย์ชื่นชม ก่อนจะสะดุ้งนิดๆ เมื่อตาคมของอีกคนตวัดมอง
ยอมรับนะว่าคนนี้น่ะ…น่ากลัว ตอนเจอกันแรกๆ ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ยิ่งได้รู้จัก ยิ่งไม่น่ามีปัญหาด้วย
“อัณณ์?”
พูดอะไรเนี่ย! เข้าใจยาก!
เกรย์เกาหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด เอาเป็นว่าเขาจะพูดตามที่เขาอยากพูดล่ะกัน! “ผมมาหาพี่อัณณ์ แม่บอกจะไปเจอพี่อัณณ์ แต่ผมไม่ได้บอกแม่ว่าพี่อัณณ์ไม่อยู่ที่บ้าน ถ้าแม่เข้าไปคงก่อปัญหาแน่ๆ อีกอย่างคนของพี่ก็เฝ้าดูอยู่อีก”
“แล้ว?”
ทำไมดูเป็นคนที่มึนขนาดนี้นะ!
“สรุปก็คือแม่ผมน่ะจงใจไปหาเรื่อง ไม่รู้ว่าจะไปอาละวาดทำลายบ้านพี่อัณณ์หรือเปล่า เอาคนของพ่อไปด้วยตั้งหลายคน!!”
นี่เขาเครียดจะแย่แล้วนะ แต่คนตรงอีกคนกลับเอียงหน้า ก่อนชาที่อยู่ข้างๆ จะหัวเราะ กอดคออีกฝ่าย “ไอ้เพชรมึงอย่ามามึน เดี๋ยวน้องเขาเครียดตายก่อนพอดี”
“อืม…” เพชรกดโทรศัพท์ยึกๆ สองสามที เอ่ยภาษาอะไรไม่รู้ ที่คนอื่นฟังไม่เข้าใจ “เรียบร้อย…”
คือ…เกรย์งง
“อัณณ์ไปเที่ยว” มีการทำหน้าบึ้ง เบ้ปาก ท่าทางเหมือนแมวถูกทิ้งอีก…ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายค่อนข้างน่ากลัวและตัวสูงกว่า เกรย์ก็อยากลูบหัวเขาเหมือนกัน
“แค่พี่อัณณ์ทิ้งมึงไปเที่ยวก็ทำเหมือนเขาทิ้งมึงไปมีแมวตัวใหม่! รอไอ้ช้างมันออกมาก่อน ก็ไปกันสิ เนี่ยกูเตรียมพร้อมแล้ว เฮ้ย! มึงจะถีบกูทำไมไม่ทราบครับ!”
“ปากไม่ดี…อัณณ์ไม่ทิ้ง”
“เหอะๆ พี่อัณณ์คนดี ส่วนมึงน่ะไอ้มึน อย่าเตะกูอีกนะ นั่นไงไอ้ช้างมาพอดี”
“พวกมึงตีกันทำไม สอบเสร็จแล้วก็ควรดีใจ แล้วนี่น้องวิศวะมาทำไมที่นี่อ่ะ?” ปรายตามามองรุ่นน้อง
“เรื่องที่อัณณ์ของไอ้เพชร เออ…มึงมาแล้วก็ดีไปกันเถอะ กูอยากไปกินอาหารทะเลอร่อยๆ กุ้งตัวใหญ่ๆ ปูตัวใหญ่ๆ”
“ตามึงเป็นรูปกุ้งเลยว่ะไอ้ชาๆ ฮะๆ ให้ไอ้เพชรมันขับรถล่ะกัน เมื่อคืนมันนอนเร็วกว่าคนอื่น”
บรรยากาศของเพื่อนสนิททั้งสามทำให้เกรย์ยิ้มนิดๆ เขาไม่เคยมีเพื่อน…ไม่ว่าจะที่เช็กหรือที่นี่…แต่เขาชอบมองความสัมพันธ์ของเพื่อนแบบนี้ พลันดวงตาคมทั้งสามคู่ก็หันมามองทำให้เด็กหนุ่มทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยกมือไหว้แก้เก้อ ในเมื่อเขาบอกเรื่องสำคัญไปแล้วก็กลับล่ะ
“อ้ะๆ เดี๋ยวๆ” ชาคว้าไหล่เอาไว้ก่อน จากนั้นก็คล้องคออีกฝ่ายไว้ไม่ให้ไปไหน
“ไหนๆ ก็มาแล้ว…ว่าแต่นี่น้องต่างพ่อพี่อัณณ์ใช่ป่ะ? เออ..ก็คล้ายๆ อยู่ ชื่ออะไรนะ…”
“เกรย์…”
“ดูไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่” ช้างวิจารณ์ตรงๆ เล่นเอาเกรย์แทบจะวางมวย หากไม่ติดว่าเพชรส่งสายตาดุๆ มามองแล้วเอียงหน้าถาม
“ไปกัน?”
“ไปไหน…ครับ”
“หาอัณณ์”
“ไม่ไป! ปล่อยผมด้วย! ผมแค่มาบอกเฉยๆ”
“เป็นห่วง?”
“ไอ้เสือมันถามว่าก็น้องเกรย์เป็นห่วงพี่อัณณ์ไม่ใช่เหรอ ไปด้วยกันสิ”
“เปล่าสักหน่อย! ผมเป็นห่วงแม่ต่างหากๆ เพราะพวกคนที่อยู่รอบตัวพี่อัณณ์น่ะอันตราย! ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ต่อให้ต้องทะเลาะกันแม่ผมก็ไม่ยอมให้แม่เอาแต่ใจแบบนี้หรอก!”
แค่ทะเลาะเป็นคำที่พูดให้ดูดีเท่านั้นล่ะ…ความจริงแล้วเขากันแม่น่ะ…
สรุปว่าไป ไม่ทันได้คิดอะไรเกรย์ก็ถูกช้างกับชาลากไปโยนใส่รถฟอร์จูนเนอร์สีแดงสดอย่างไม่อาจโต้เถียงได้….
:: อัณณ์ ::
“อากาศดีจริงๆ” ผมสูดกลิ่นอายทะเลเข้าปอด ปล่อยให้คลื่นซัดใส่ขาที่ยื่นออกไปในทะเล มือก็ถือหนังสือการ์ตูนที่ยืมยายปายมาอ่านไปด้วยความผ่อนคลายหันไปเห็นตำลึงที่บังคับเวให้ช่วยก่อกองทรายและถ่ายรูป ส่วนพี่เพลิงก็สอนปายขับเจ็ทสกี
นับเป็นการพักผ่อนหลังสอบที่่ไม่เลวเลยจริงๆ
“พี่อัณณ์ไม่ลงมาเล่นน้ำหรือคะ?”ยายตัวเล็กที่เปียกปอนไปทั้งนั่งลงข้างผม แม้จะมีเสียงหอบหายใจเพราะเล่นเจ็ทสกี แต่ใบหน้าปายดูสดใสมาก เหมือนเด็กซนๆ ที่ได้เล่นจนหายเครียด
“ไม่ดีกว่าครับ” ผมลูบหัวเธอเบาๆ สาวน้อยสวมเพียงเสื้อกีฬากางเกงบอล ต่างกับเพื่อนสนิทผมอย่างยอดสตรีนามตำลึงที่ใส่ชุดว่ายน้ำสีชมพูหวาน
“ไม่บอกน้องรหัสอัณณ์ไปล่ะว่าเราน่ะว่ายน้ำไม่เป็น” พี่เพลิงหัวเราะ ยักคิ้วให้ผม ดูมีความสุขกับการเผาน้องชาย
“หืม? พี่อัณณ์น่ะเหรอคะ? ว่ายน้ำไม่เป็น”
“พี่รหัสปายนั่นล่ะ พี่สอนให้แล้วนะ แต่อัณณ์ก็ว่ายไม่เป็นอยู่ดี” พี่เพลิงยังคงเผาผมต่อไป
“ใช่เลยค่ะ เห็นอัณณ์ยังขอบคุณมหาลัยอยู่เลยที่เพิ่มหลักสูตรเรียนว่ายน้ำหลังพวกเราขึ้นปีสอง ไม่อย่างนั้นอัณณ์ได้ปลามาประดับทรานสคริปต์แน่ๆ” ตำลึงเงยหน้ามาจากกองทราย ยิ้มยียวนให้ผม
“ว่ายน้ำที่อาจารย์มหาลัยเราสอนโหดจะตายไปค่ะ ตัดเกรดกับนาวีด้วย” ปายแบะปาก “อ้ะ! พี่เพลิง..หายเหนื่อยแล้วไปขับเจ็ทสกี กันต่อเถอะค่ะ มีใครสนใจลองเล่นไหมคะ? สนุกมากเลยล่ะ”
“พี่ก็อยากไปนะปาย แต่ยายนางมารบอกว่าจะก่อปราสาทเจ้าหญิงอักรูปลงไอจีสร้างสตอรี่เจ้าหญิง…อย่าตีเวน่าตำลึง!” เวหลบมือยายนางมารที่อยากสร้างปราสาทเจ้าหญิง ก่อนจะหันไปมองพี่เพลิง “อีกอย่างเป็นก้างจอมมารก็ไม่ดีเท่าไหร่หรอก”
“หึๆ ไอ้ไทม์มันบอกว่าน้องชายไม่ยอมกลับบ้าน…”
“พี่เพลิง! ผมขอโทษครับ! อย่าลงทัณฑ์ผมสถานหนักเลยนะครับ!” เวแทบจะยกมือไหว้พี่ชายผม พี่เพลิงหัวเราะดีดหน้าผากเวไปหลายทีข้อหาแอคติ้งเวอร์
“อย่าเล่นน้ำนานเกินไปนะครับปาย เดี๋ยวปวดหัวอีกหรอก”
“รับทราบค่า!” ปายยิ้มกว้าง
“พี่ดูแลเอง…อัณณ์ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”เห็นพี่เพลิงทำตาระยับมองไปด้านหลังของผม ก่อนจะยิ้มน้อยๆ “ห่วงแมวที่มาตามหาเจ้าของดีกว่านะ”
หืม?
ไม่ทันได้ถามอะไรผมก็ถูกแขนแกร่งรวบเอว พร้อมใบหน้าที่วางบนไหล่ เสียงทุ้มราวเสียงแมวอ้อนกระซิบข้างหู “คิดถึงอัณณ์”
“เพชร…ทำไมมาเร็วจังครับ”
น้องเอียงหน้าไม่ตอบ มองผมอยู่หลายนาทีมาก…มองเหมือนจะเคี้ยวผมแล้วกลืนลงคอเลยนะเจ้าแมวตัวร้ายนี่
“แฮ่มๆ ก็ไอ้เพชรมันคิดถึงพี่อัณณ์อ่ะครับ เลยซิ่งรถมานี่เลย อ้ะ…พี่เว พี่ตำลึง พี่เพลิง พี่อัณณ์ สวัสดีคร้าบบบบ”
น้องช้างกับน้องชายกมือไหว้พวกผมเรียงคน เล่นเอารับไหว้แทบไม่ทัน
“เลิกมองพี่ได้แล้วครับ” ผมยิ้ม ลูบแก้มเจ้าแมวขนฟูขี้อ้อน คือ…มองมากๆ ทาสแมวอย่างผมเขินไงครับ เดี๋ยวได้ละลายกันพอดี
“ไม่ได้มองตั้งหลายวัน…คิดถึงนี่” ดูยังทำหน้าบึ้งอีก จากตาเจ้าแมวแล้วหากไม่ติดว่านี่คือสถานที่สาธารณะผมคงถูกแมวบางตัวรวบเข้าไปฟัดแน่ๆ
แววตาเหมือนเสือเสียขนาดนี้…
“ว่าไงแมว?” พี่เพลิงทักทาย
“พี่เพลิงขี้โกง ขโมยอัณณ์มาเที่ยว แกล้งผม”
“เอ้า! พี่อยากให้น้องชายคลายเครียดหลังสอบไง…อืม ว่าแต่ไปเก็บมาจากไหนล่ะนั่น?” พี่เพลิงหรี่ตาชี้นิ้วไปทางอีกคนที่ยืนอยู่ห่างจากพวกน้องช้างน้องชา
เกรย์…
เด็กหนุ่มมองพวกผมอย่างเลิ่กลั่ก ท่าทางเหมือนอยากเดินหนีเสียเต็มประดา เพราะเคยก่อคดีกับพวกผมไว้ เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้เกลียดหรอกนะครับ…ถึงในสายตาผมเรย์จะนิสัยค่อนข้าง…อืม ไม่ดีไปสักหน่อย แต่น้องอายุยังน้อย และเหมือนจะถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจด้วย
ไม่แปลกหรอก…
“มาหาผม เรื่องอัณณ์” เพชรบอก “เก็บมาด้วย”
พูดเหมือนแมวเก็บแมวอีกตัวติดมาด้วยเลย… ผมส่ายหน้า มองสบตาพี่เพลิง
พี่ชายยิ้มน้อยๆ“ไม่กัดหรอกนะ…มีอะไรหรือ? เห็นเจ้าแมวหน้ามึนนี่บอกว่าเรื่องอัณณ์…ผู้หญิงคนนั้นก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ?”
เกรย์กัดปากตัวเอง “แม่บอกจะมาหาพวกพี่ที่บ้าน แต่ไม่รู้ว่าพวกพี่ไม่อยู่ เอาคนของพ่อไปด้วยหลายคน ผมกลัวเกิดเรื่อง…” เกรย์เหลือบมองผมกับพี่เพลิง “เป็นห่วงแม่นะไม่เกี่ยวกับพวกพี่เลย!”
หืม? ท่าทางแบบนี้… ผมยิ้ม เด็กเกรียน เกเรดูน่ารักขึ้นไม่น้อยจริงๆ
ที่จริงเกรย์ก็ไม่ช่เด็กเลวร้าย ถึงจะเป็นน้องชายต่างพ่อ และได้ในสิ่งที่ผมไม่เคยได้จาก ‘แม่’ ผมก็ไม่เกลียดน้องหรอก…แค่อิจฉานิดๆ เท่านั้นเอง
ที่เกรย์…ได้ครอบครองความรักของแม่
พี่เพลิงก็คงคิดเหมือนกัน เพราะแววตาพี่ชายดูจะอ่อนลง แม้จะเหมือนครุ่นคิดบางอย่างอยู่ ขนาดปายกับตำลึงที่สอบสิ่งมีชีวิตเล็กๆ น่ารังแกยังดูเหมือนคันไม้คันมือขึ้นมาเลย
“ถูกเพชรลากมาหรือครับ? วิศวะสอบเสร็จแล้วนี่นะ” ผมชวนคุยเพื่อให้เกรย์ลดอาการเกร็ง เจ้าแมวส่งเสียงประท้วง
“ช้างกับชาลาก ผมไม่เกี่ยว”
“ไอ้แมวขายเพื่อน!” น้องชาชี้หน้าเพชร เตรียมหาเรื่องจนผมกับคนอื่นหัวเราะ
“มึงมันแมวเนรคุณ! ตอนไม่เจอพี่อัณณ์นี่ใครที่อยู่เป็นเพื่อน พอเจอเจ้าของก็ใส่ร้ายพวกกู!” น้องช้างถลกแขนเสื้อ
“แมวที่ดี คิดถึงอัณณ์พวกมึงมาอยู่เอง กินข้าวฟรี แอร์ฟรี ค่าไฟฟรี” เพชรประท้วงอีกรอบ ก่อนจะหันมาฟ้องผม “พวกมันมาสิงบ้านผม ไม่ยอมกลับบ้านตัวเอง”
“เอ้า! ก็คุณพ่อ คุณแม่ พี่เพ ต้อนรับพวกกู”
“ช่ายๆ เหมือนที่ไอ้ช้างบอก อีกอย่างบ้านมึงอาหารอร่อย ติดริมทะเล ฟินจุงเบยยยย”
“เนรคุณ!” แล้วเจ้าแมวก็ไต่เตะเพื่อนๆ ลงทะเล ส่วนผมและคนอื่นๆ น่ะหัวเราะขำ เห็นเกรย์ยิ้ม แต่พอหันมามองผมก็หุบยิ้มทันที
อืม…อาการนี้เขาเรียกซึนหรือเปล่านะ
“เอาล่ะ! เที่ยวได้ตามอัธยาศัย หน้าโรงแรมมีรถยนต์หนึ่งคัน มอเตอร์ไซค์อีกสอง เผื่อใครอยากไปไหน เดี๋ยวไปกินเมื้อเย็นค่อยแบ่งห้องกันอีกที ส่วนเกรย์…ถ้าทำอะไรไม่ถูกนั่งกับอัณณ์อยู่แถวนี้ล่ะ อย่างซ่าส์ไปไหนมาไหนคนเดียว หลงขึ้นมาขี้เกียจไปหิ้วกลับ ยายหมี…ไปขับเจทสกีต่อกันเถอะ” พี่เพลิงจัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ พาน้องรหัสผมขึ้นเจ็ทสกีสีแดง แล้วขับลงทเะลเป็นระลอกคลื่นสวยงาม
“เฮ้ยๆ! เท่ห์ว่ะ! ไอ้เพชร ไอ้ชา พวกมึงสนไหม กูไปหาเช่าเจ็ทสกีก่อน” เสียงน้องช้างตะโกนชอบใจ
“กูเอาด้วย มาแข่งกันดีกว่าไอ้ช้าง! มึงอ่ะไอ้เพชร?”
“เฝ้าอัณณ์” เจ้าแมวตอบราวเป็นเรื่องธรรมดามาก ผมหัวเราะขำๆ เมื่อน้องชากับน้องชารุมตีหัวแมวก่อนจะไปติดต่อเช่าเจ็ทสกี แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“พวกมันบ้า” เพชรงึมงำ กลับมานั่งเป็นแมวอ้อนข้างผม
“เออ อัณณ์กูฝากของด้วยนะ จะไปเพื่อนตำลึงซื้อหมวกสาน มึงดูอยากให้ปราสาททรายเจ้าหญิงบ้านี่พังนะ เวไม่อยากก่อใหม่แล้ว”
ผมหัวเราะ รับปากเพื่อนสาวมั่นว่าจะรักษาปราสาททรายของตำลงยิ่งชีพ คุณเธอจึงยิ้มหวาน สะบัดผมลากแขนเวไปอย่างนางพญา
“สอบเป็นยังไงบ้างครับ?” ผมถามไถ่เจ้าแมว ที่เอนหัวมาพิงไหล่ หากเป็นที่บ้านน้องคงนอนตักผมแล้ว เป็นแมวที่นิสัยดี…มีกาละเทศะ สมควรให้สตรอเบอรี่เป็นรางวัลจริงๆ
“ทำได้…ง่วง พวกเพื่อนกวน คิดถึงอัณณ์”
“พี่ก็อยู่ตรงนี้แล้วไงครับ”
“อื้อ! เห็นหน้าแล้วหายเหนื่อยเลย”
เจ้าแมวตัวนี้ขยันทำดาเมจจริงๆ ใจมนุษย์ทาสอย่างผมนี่บางลง บางลง
มีแมวเป็นแฟนต้องใจแข็งแรงนะครับ ไม่อย่างนั้นแมวจะครองอำนาจ เป็นแมวเกเร
“อยากหอม อยากจูบ อยากฟัด”เจ้าแมวไม่เลิกอ้อน น้ำเสียงก็อ้อนเลเวลห้าร้อย ดวงตาคมวาวๆ สื่อความหมายอย่างที่พูดออกมาจริงๆ ชนิดที่ว่าไม่สนใจเกรย์ที่นั่งอยู่ห่างเๆ เลย
“เป็นแมวที่ดีนะครับ ถ้าไม่ดื้อขออะไรก็ได้”
เพชรยิ้มกว้าง ตาคมทอประกายวิบวับ “อื้อ! เชื่ออัณณ์”
ผมถอนหายใจเบาๆ ไม่รู้ว่านี่เข้าทางเจ้าแมวเจ้าเล่ห์ตัวนี้หรือเปล่า…เฮ้อ
“ขอบคุณที่มาบอกพี่นะครับ” ผมหันไปยิ้มให้เกรย์ เด็กหนุ่มสะดุ้ง
“ผะ…ผม แค่ แค่ไม่อยากให้แม่เป็นอะไร คนของพี่เพชร กับพี่เพลิงอันตราย” เกรย์บอกเสียงตะกุกตะกัก “ไม่ได้เป็นห่วงพวกพี่เลยนะ!”
ยังย้ำเรื่องนี้อีก…ซึนจริงๆ นั่นล่ะ
“อืม…แล้วทำไมถึงไปหาเรื่องแมนยูล่ะครับ เพราะต้องการเจอพี่นี่…พี่รู้ว่าเกรย์หาเรื่องแมนยูเพราะรู้ว่าเขาเป็นหลานรหัสพี่”
เกรย์มองผมอึ้งๆ คงสงสัยว่าผมรู้ได้ยังไงนั่นล่ะ
“อีกอย่างใช้วิธีสโตรคเกอร์ให้คนตามดูนี่ไม่ดีนะครับ” ผมบอกปรามๆ
“ผมแค่ทำตามที่แม่สั่ง! ไม่ได้อยากทำสักหน่อย! ไม่ได้อยากมาที่นี่ด้วย!” เกรย์ตะโกนเสียงดัง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเจ้าแมวข้างตัวผมทำตาดุใส่
“ไม่เสียงดังใส่อัณณ์…เดี๋ยวตีนะ”
ขู่ได้น่ารักจริงๆ เลยนะเพชรน่ะ แต่เหมือนเกรย์จะสะดุ้งอีก ชวนให้สงสัยจริๆง ว่ากลัวอะไรเจ้าแมวนักหนา แรกๆ ยังหาเรื่องชวนแมวทะเลาะอยู่เลย
“มันหงุดหงิดนี่! พวกพี่ไม่คิดจะด่า จะว่าอะไรผมหน่อยเหรอ! ทำแบบนี้มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า! ผมเคยหาเรื่องพวกพี่นะ!”
“เกรย์…ถึงเราอยากทำอะไรก็ทำไม่ได้หรอก เพชรมานี่แสดงว่ามีคนของน้องคอยดูแลอยู่ห่างๆ ที่นี่โรงแรมของพี่สิงห์เพื่อนพี่เพลิง…เกรย์ก็คงรู้นะว่าสิงหไกรสรขาเป็นใคร”
“เพื่อนพี่เพลิงมีแต่คนอันตราย” เพชรบอก “จอมมารกับเหล่าจอมมาร” ดูน้องว่าสิ ท่าทางหมั่นไส้น่าดู
“ผมรู้นี่ไง! ถึงไม่อยากให้ยุ่ง แม่คิดผิด ผิดมากๆ!”
“ทำไมไม่ห้ามล่ะครับ?”
“ห้าม? ตลกแล้ว! พี่คิดว่าแม่จะฟังผมหรือไง! ถ้าผมห้ามผมก็ถูกแม่ด่า แม่ไม่เคยรักผมเลย!!” เกรย์ตะโกนอย่างอัดอั้น ตาน้องแดงจัด มือก็กำเข้าหากันแน่น หอบหายใจหนัก สีหน้าดูทรมาน จนผมต้องลุกขึ้นและลูบหลัง…
“ใจเย็นๆ สูดลมหายใจเข้าครับ” น้องทำตาม “ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ ช้าๆ นั่นล่ะ อีกรอบนะครับ”
“แฮ่กๆ” เกรย์เงยมองผมตาแดงๆ “ขอโทษ…ที่อารมณ์เสียใส่ครับ”
“ไม่เป็นไร” ผมนั่งลงข้างน้อง โดยมีแมวบางตัวตามมานั่งข้างอย่างรวดเร็ว คำพูดบางอย่างของเกรย์สะกิดใจผม
ที่บอกว่าแม่ไม่เคยรักเลย…
“ที่จริง ผมอิจฉาพี่อัณณ์กับพี่เพลิงมาก ผมเคยไปเห็ตอนพี่เพลิงมาทำงานที่เช็ค เขาดูเท่ห์มาก ดูดี ท่าทางคล่องแคล่ว มีความสุขกับงาน ผมเหมือนเห็นปีกอยู่ข้างหลังพี่เพลิง รู้ว่าเขาคือพี่ชายก็ปลื้มมาก ที่ผมจะมีพี่ชายเท่ห์แบบนี้กับเขาด้วย แต่ทุกครั้งที่เอ่ยถึงเรื่องนี้แม่จะ…ทำลายข้าวของ ไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น…” เกรย์ก้มหน้า ชันเข่าขึ้นมา ซุกหน้าลงกับเข่าตัวเอง…ราวไม่อยากให้ใครเห็นหน้าตัวเองเวลานี้
“แม่ไม่เคยให้ผมเรียกว่าแม่ พ่อไม่สนใจ ผมอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อน พอแม่สั่งให้ย้ายมานี่ ให้จับตาดูพี่อัณณ์ ผมก็เห็นพี่มีความสุขดี เป็นที่รักของผู้คน พี่ชายทั้งสองของผมมีความสุข…มีครอบครัว…ที่ผมไม่มี” เสียงสั่นเครือและไหล่สั่น ทำให้ผมรู้ว่า…
เกรย์กำลังร้องไห้
“ไม่มีใครรักผม..สักคน”
ผมหลับตา กำมือจนรู้สึกเจ็บ…เกรย์ก็เหมือนกับผม
ไม่เคยได้รับความรักจาก‘แม่’
นั่นสิ…ผมลืมไปได้ยังไงกัน ว่าสำหรับผู้หญิงคนนั้น ‘ลูก’ คือคนที่ทำลายชีวิตเธอ ลืมไปได้ยังไงว่า…นอกจากตัวเองแล้วเธอก็ไม่เคยสนใจอะไร
ผมยังมีพี่เพลิง…ในขณะที่คิดว่าเกรย์มีแม่…แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่
“อัณณ์…เจ็บหมดแล้ว” เพชรแกะมือผมออก ก่อนจะกุมเอาไว้ “จิกผมแทน”
ผมยิ้มขื่น เกลียดตัวเองที่ได้ยินเรื่องของเธอก็เผลออ่อนแอให้เพชรเป็นห่วง เกลียดตัวเองที่นอกจากพี่เพลิงก็ไม่คิดว่าจะมีใครเป็นครอบครัวอีก
“ถ้าพี่ทำแบบนั้นเพชรจะเจ็บเอาสิครับ” ผมกระชับมือน้องแน่น ผ่อนแรงลง
“ผมเจ็บได้…แต่ไม่อยากเห็นอัณณ์เจ็บ” มือใหญ่เกลี่ยขอบตาผม ราบกับช่วยปวดน้ำตาที่มองไม่เห็นออกให้อย่างแผ่วเบา
ผมไม่ได้ร้อง…แต่ในใจเจ็บไปหมด
อะไรที่เกี่ยวกับเธอ เกี่ยวกับแม่ ทำให้ผมเจ็บเสมอ…
ผมลูบหัวเกรย์เบาๆ ก่อนจะถูกเพชรจับให้พิงไหล่ ปล่อยให้รอบตัวเงียบลง แต่ละคนก็มีเรื่องให้ต้องคิด
ไม่มีแม่ที่ไหนไม่รักลูก…ไม่จริงหรอก…ไม่จริงเลย
สำหรับเรื่องนี้คนเขียนบอกเลยว่าคนที่น่าสงสารกว่าใครก็เกรย์นี่ล่ะค่ะ...อ้อ เจ้าแมวด้วย เวลาพี่อัณณ์ทิ้งไว้ตัวเดียวแล้วน่าฉงฉานนนน 5555 คนเขียนคนเขียนปูเรื่องของเกรย์มาบ้างแล้ว แต่จะมาม่าน้ำใส(?)บทของเกรย์เลยมากขึ้นนิดหนึ่งค่ะ
ช่วงนี้คนเขียนแพ้อากาศ ไม่ไหวจริงกับอากาศร้อน ปวดหัวมากกก งานเยอะด้วยแต่จะพยายามมาให้บ่อยเท่าที่จะทำได้นะคะ สำหรับคำผิด วันเสาร์คนเขียนจะทยอยแก้เรื่อยๆ หากใครเจอก็ทักได้นะคะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ อากาศช่วงนี้โหดร้ายจริงๆ คนเป็นภูมิแพ้ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ
สำหรับวันนี้...ฝันดีและราตรีสวัสดิ์นะคะ
27/02/2561
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องเล็ก น่าสงสารสุดจริงๆ
ไม่อยากให้เกรย์คู่เตโชเลย ทีมชาเกรย์ค่ะ 5555 ขำเพชรอ่ะ น่ารัก 55555
และแมวก็ยังเป็นแมว ที่น่าตบตีเหมือนเดิม นั่นมันเด็กชายบากินินาาาา น่ารักกกกก