ตอนที่ 17 : หลั่งฮอร์โมนครั้งที่...17
อัณณ์...สตรอเบอรี่ จะเอา จะเอา จาอาววววววว
CR. TW ของคุณ @I_YamzZ
หลั่งฮอร์โมนครั้งที่...17
ผมถอนหายใจเบาๆ ด้วยความระอาเพราะรับรู้ว่าขนาดออกมาซื้อของสดใส่ตู้เย็นทำมื้อเช้าก่อนไปเรียนยังมีกลุ่มคนตามมาแอบดู...ถึงผมจะไม่สนใจยังไง แต่ก็เริ่มไม่ชอบนิดๆ แล้วเหมือนกัน เพราะนี่ดูเหมือนจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลกันพอดู
อีกอย่างเช้าขนาดนี้...พวกเขาไม่มีอะไรทำกันหรือไง
ผมเอาของทั้งหมดใส่หลังรถ ก่อนจะเดินไปอีกสองช่วงถนน เพราะผมรู้สึกได้ว่ามีคนมอง แม้เขาจะทำเนียน...แต่คนถูกจ้องน่ะรู้ดี พอผมเดินเข้าไปใกล้พวกเขาก็สะดุ้ง ส่วนผมทำเพียงยิ้ม
“มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ?” ผมถามอย่างสุภาพ ไม่ใช่คนของเจ้าแมวขนฟูแน่ๆ เพราะเพชรรู้นิสัยผมในระดับหนึ่ง และคนของน้องก็เป็นมืออาชีพ ไม่เผยพิรุธง่ายๆ แบบนี้แน่
“ไม่มีเว้ย!!” พวกเขาตอบเสียงเรียบ
“แต่พวกคุณจ้องผมจนผมอึดอัด หากไม่ใช่มีธุระกับผมแล้วต้องการอะไรกันครับ?”
“ใครจ้องว่ะ! พวกเราก็มองไปทั่วนั่นล่ะ!” พอเห็นผมไม่เลิกสงสัยพวกเขาก็เปลี่ยนมากระชากเสียงถาม แถมยังทำสีหน้าดุร้ายใส่อีก
“เฮ้ยพี่! มันรู้ตัวแบบนี้แล้วจัดเลยดีไหม!”
“เออ! นั่นสิวะ! กูนึกว่างานนี้สบายแล้วเสียอีก!”
“ไอ้เด็กนี่ดูอ่อนจะตาย! คนจ้างเขาไม่ว่าอะไรหรอกพี่ จัดมันสักสองสามทีจะได้เลิกมายุ่งกับพวกเรา!”
นี่ปรึกษาจะหาเรื่องผมโดยไม่เห็นหัวผมเลย...
ผมหรี่ตาลง พวกเขามีแค่สามคน...ดังนั้นรับมือไม่ยาก
“เฮ้ย! ไอ้หน้าอ่อน! เงียบปากไว้ล่ะ! ถ้าเอาเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจ...” คนที่พุ่งมาจะต่อยผมถูกผมปัดและยกเท้าถีบท้องไปแรงๆ ก่อนจะหมุนตัวเหวี่ยงศอกให้ไปอีกครั้ง และมือก็คว้าต้อคอกดจุดอีกคนจนได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ก่อนจะเหวี่ยงลงพื้นและเหยียบขาไปเน้นๆ แล้วก็งอเข่าใส่คนสุดท้ายที่ดูเหมือนจะอึ้งๆ ก่อนจะสับหลังคอเขาแรงๆ ทั้งสามร่วงไปกับพื้นและส่งเสียงโอดครวญอย่างเจ็บปวด...แน่นอนเพราะผมใช้ความรู้ที่พี่เพลิงสอน ใช้แรงให้เป็นประโยชน์ กดลงไปยังส่วนที่ทำให้เจ็บและตอบโต้ได้ยาก
“ผมไม่ชอบใช้ความรุนแรง...แต่พอดีผมต้องป้องกันตัว ขอโทษด้วยนะครับ” พวกเขามองผมอึ้งๆ ตาถลน ดีนะที่นี่เป็นซอยแคบๆ ข้างตลาดสดเลยไม่มีคนผ่านไปมา
“คะ...คุณอัณณ์?” ผมหันไปหาคนเรียกเป็นกลุ่มคนสามสี่คนที่ใส่ชุดดำเป็นระเบียบ ดูเหมือนว่าจะเป็นคนของเจ้าแมว พวกเขามองผมอึ้งๆ “ขอโทษที่พวกผมปล่อยให้คุณอัณณ์คลาดสายตานะครับ!”
ผมยิ้มกับข้าวเหนียวหมูปิ้งในมือพวกเขา “ไม่เป็นไรครับ ให้พวกคุณเฝ้าผมตลอดเวลาก็เกินไปแล้ว อีกอย่างคนพวกนี้ก็งี่เง่ามาก ไม่ต้องให้ถึงมือพวกคุณหรอกครับ” บอดี้การ์ดจากบ้านแมวล้วนฝีมือดีและได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี แต่ที่พวกเขาปล่อยให้ผมคลาดสายตาอาจเพราะเป็นงานง่ายๆ และก็ไม่คิดว่าจะมีคนงี่เง่าจริง
อย่างที่เพชรบอกเลย...คนที่เกรย์จ้างมาน่ะง่อยจริงๆ
พวกเขาเหลือบมองสามคนด้านหลังผมก่อนจะมองหน้าผมอย่างหวาดๆ แล้วดูเหมือนคนที่เป็นหัวหน้าจะยิ้มอย่างสุภาพ “ยังไงทางเราก็ขอโทษจริงๆ ครับ เป็นความบกพร่องของพวกเราจริงๆ”
“ไม่หรอกครับ ผมเสียอีกที่ต้องขอบคุณทุกคน เอ่อ...ยังไงก็รบกวนจัดการพวกเขาให้ทีนะครับ ผมต้องไปทำอาหารและไปเรียนแล้ว”
“ครับ!”
ผมยกมือไหว้ขอบคุณทำเอาพวกเขาตาโตยกมือรับไหว้กันแทบไม่ทัน ส่วนผมนั้นหัวเราะแล้วเดินมาขึ้นรถ...
เอาเถอะ ถือว่าออกกำลังกายยามเช้าไปแล้วกัน
“เมื่อกี้เห็นไหมครับ?...ไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ?”
“เห็น...ชัดๆ” พวกเขากำลังจะเข้ามาช่วยแล้วล่ะ แต่กำลังอึ้งอยู่...ไม่เห็นใครเคลื่อนไหวได้งดงามและแข็งแรงแบบนั้นมาก่อน แถมการโจมตีแต่ละครั้งยังแรงและเน้นจุดอันตรายไม่น้อยเลย
คุณชายให้พวกเรามาดูแลคนน่ากลัวแล้ว!
อืม...น่ากลัวเหมือนคุณชายนั่นล่ะ...
::เพชร:::
“วันนี้พวกรามีแข่งบาสฯ กับโลจิตส์นะโว้ยไอ้เสือเพชร มึงช่วยทำหน้าตาให้จริงจังหน่อยได้ป่ะ?” ชามันบ่นเพราะผมทำหน้าง่วงมึนๆ ตามนิสัย
คือ…เสียงอาจารย์ทำผมจะหลับอยู่แล้วนะ
“แข่งไม่เกี่ยวกับเรียนนะ” ผมบอกแก้โจทย์ที่อาจารย์สั่งแล้วก็ส่งให้ชา เพื่อนชา…ถึงกูจะง่วงก็เข้าใจนะว่าเพื่อนชาไม่ได้เป็นห่วง
มึงแค่กลัวไม่มีคนลอก!
“เพื่อนรัก”
“ทีอย่างนี้ล่ะยิ้มดี”
ผมมองมันแบบไร้คำพูดคำจา ไอ้ช้างที่นั่งอีกข้างหัวเราะเยาะ แต่เอาโจทย์ที่ผมแก้ไปลอกต่อ แล้วมันก็ส่งต่อกันเป็นทอดๆ
บางทีก็ไม่เข้าใจนะ…คิดเองกันเป็น แต่ทำไมขี้เกียจกันตลอด
ผมยังเป็นแมวขยันกว่าเยอะเลย!
“เอาล่ะ…วันนี้เลิกได้ ส่วนงานที่สั่งไปวันนี้ก็ให้ส่งก่อนหนึ่งทุ่มนะ อ้อ…อย่าลอกกันล่ะ คราวก่อนคำตอบเดียวกันเปี๊ยบเลย พวกคุณไม่รู้หรือไงว่าผมให้โจทย์ต่างกัน”
“โห…อาจารย์อ่ะ!” พวกเพื่อนๆ ร้องประท้วง อาจารย์ทำเพียงหัวเราะ แล้วเก็บเอกสารการสอนเดินออกจากห้องเรียน
“ไปกินข้าวโว้ยยยยย!!” ช้างเก็บของ แล้วรีบคว้าคอผมที่เตรียมไปหาอัณณ์ที่ห้องแล็ป ผมหน้ามุ่ย เพราะไม่ใช่แค่ช้างคนเดียวชามันก็คว้าตัวผมไว้อีกคน
พวกนี้นี่!
ทำไมชอบขัดขวางอ่ะ! เป็นสปายพี่เพลิงหรือเปล่า นี่ผมเพื่อนนะ!
“พอเลยมึงจะไปหาพี่อัณณ์ล่ะสิ? มากินข้าวเที่ยงกับพวกกูเสียดีๆ กินเสร็จแล้วทำงานจารย์ส่ง จากนั้นค่อยไปซ้อมบาสฯ”
“เออ…ไม่เจอแค่ไม่กี่วัน ไม่เป็นไรน่าไปให้เจอทุกวันพี่อัณณ์เบื่อหน้ามึงตายชัก!”
อัณณไม่เคยเบื่อผมสักหน่อย!
ผมมองเพื่อนตัวดีทั้งสอง คนอื่นๆ ยืนหัวเราะพวกเรา ก่อนจะรุมกันลากคอผมไปโรงอาหารกับเพื่อนๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พวกเพื่อนใจร้าย!
ผมไม่ได้เจออัณณ์แบบเต็มๆ มาเกือบอาทิตย์แล้ว เพราะต่างคนต่างยุ่งกับการเรียนและเรื่องงานเปิดรั้ว มีแค่ตอนกลางคืนที่ได้เจอกันแค่ครึ่งชั่วโมง ผมเองก็ปีสาม เรียนหนักขึ้น ต้องเตรียมตัวหาที่ฝึกงาน และวางแผนโปรเจค
ผมกับชาวนาวีเฮกันลงมาจากชั้นสี่ ตึกนี้ไม่มีลิฟท์…ความจริงคือมีแต่ปิดฐาวรไปแล้ว ด้วยตำนานอาถรรพ์มหาลัย ดังนั้นเลยต้องพึ่งพาบันไดอย่างเดียว แล้วพวกเพื่อบ้านี่ก็ล้อมหน้าล้อมหลังกันไม่ให้ผมวิ่งไปตึกสิ่งแวดล้อมที่อัณณ์อยู่
“ดูทำหน้า…เหมือนพวกกูรังแกมึงเลย” แถมยังลงไม้ลงมือกับแก้มผมอีก เดี๋ยวกัดมือขาดเลย ผมไม่ใช่แมวสักหน่อย…ไม่สิ…เป็นแมวของอัณณ์คนเดียว
“ให้ไปหาอัณณ์สิ” ก็เท่ากับไม่รังแกผมแล้ว
“เสียใจว่ะเพื่อน!”
“ช่ายยยย!”
พวกทำงานเป็นขบวนการ!
ผมบุ้ยปาก แต่ก็ตาววาว เขี่ยพวกเพื่อนๆ ออกแล้วกระโดดบันไดสามขั้นไปหาคนใส่ชุดกาวน์ที่นั่งอยู่กับพี่เวและพี่ตำลึง ดวงตาเรียวนั้นเงยมามองผมพร้อมยิ้มบางๆ แต้มใบหน้า
อัณณ์อ่อนโยนเสมอ…แค่ยิ้มเดียวก็ทำให้ผมยิ้มตามได้แล้ว
“อัณณ์”
“มาพอดีเลย…พี่เห็นเราบ่นว่าเรียนหนัง กิจกรรมเยอะ แถมเพื่อนแกล้งอีก เลยเอาวาฟเฟิล สตรอว์เบอร์รีมาให้ แล้วก็มีสตรอว์เบอร์รีสด กับซาลาเปาผักรวมของโปรดเพชรด้วย” คนใจดีว่า พลางส่งถุงผ้าให้ผม
ดีจัง…อบอุ่น
“โหยยย! ไอ้เพชรดีว่ะ! พี่อัณณ์ใจดีอ่ะ ขนาดไอ้เสือนี่ไปเกาะแกะพี่ยังเลี้ยงมันดีเลย” ไอ้ชาเริ่มบ่น
หึ…อิจฉาล่ะสิ ไม่มีอัณณ์เป็นเจ้าของก็แบบนี้ล่ะ!
“น้องชาชอบกินอะไรล่ะครับ คราวหน้าพี่จะทำมาฝาก”
ทำไมอัณณ์ต้องใจดีกับมันด้วย! ผมรีบปิดปากเพื่อนที่กำลังจะพล่ามรายการขอบโปรดมัน จากนั้นก็เตะส่งไปไกลๆ
“ฮะๆ ผมชอบแกงส้มกุ้งชะอมทอด ส่วนไอ้ชามันชอบแกงจืดเต้าหู้หมูสับ พวกเราเรื่องไม่เยอะครับ หากพี่อัณณ์จะทำมาฝากก็ยินดี”
ลืมไป…มีไอ้ช้างอีกคน
พวกเพื่อนบ้า!! แล้วคนอื่นยังเสนอหน้าบอกของชอบตัวเองให้อัณณ์อีก อย่าหวังว่าจะได้กินเลย
“น้องๆ นาวีนี่หน้าตาดีจริงๆ” พี่ตำลึงยิ้มหวาน มองพวกเพื่อนๆ ผมเรียงคน ตาวาวๆ ของสาวสวยแห่ง ENVI ทำให้เพื่อนๆ ยิ้มแหย กันระนาว
ชาวนาวีหวั่นเกรงสาวๆ ENVI ครับ…เพราะพวกเธอช่างกล้าแกร่งเหลือเกิน ต่อให้สวยแค่ไหน…ก็น่ากลัวนะ
“ไอ้อัณณ์มันทำแล็ป แล้วพักครึ่งเลยเอาของมาให้”
“พวกพี่ทานข้าวกันหรือยังครับ ไปทานด้วยกันไหม?”
“ไม่ล่ะครับ…พี่ยังต้องทำแล็ปต่ออีก แวะมาหาเพชรก่อน”
“หนักเหรอ?” ผมเอียงหน้าถาม ยื่นหัวให้อัณณ์ลูบ พอมือเรียววางลงบนหัวก็รู้สึกมีแรงขึ้นมาทันทีเลย
“อย่าให้พูดเลยน้องเพชร! ทุกวันนี้พวกพี่จะแต่งงานกับปิเปต กับการการไตเตรทอยู่แล้ว!”
“อืม…
“ไปสู่ขอเครื่อง ICP* กับ Spectro ฯ** มาเป็นเจ้าสาวก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย” แล้วพี่ตำลึงกับพี่เวก็มองหน้ากันอย่างเห็นใจ ส่วนอัณณ์หัวเราะ
“ทานให้อร่อยนะครับ ส่วนของคนอื่น ไว้คราวหน้าพี่จะทำมาฝากนะครับ วันนี้มีแข่งบาสฯ รอบชิง…พี่น่าเสร็จแล็ปตอนประมาณ 6 โมงครึ่ง”
อัณณ์จำได้ด้วย…
ดีจัง…เป็นคนอ่อนโยนและใส่ใจเสมอเลย บอกไปแค่ครั้งเดียว อัณณ์ก็จำได้
รู้สึกดีจัง…
ชอบ…
“แข่งสองทุ่ม..อัณณ์พักก่อน ค่อยมา” อัณณ์ใช้ชีวิตอยู่ในห้องแลบทั้งวันทั้งคืนจริงๆ ผมว่าตัวเองเรียนหนักแล้วนะ…
“ครับ พี่ไปก่อนนะ…คนอื่นด้วย ไว้เจอกันนะครับ”
“สวัสดีคร้าบบบบ!” พวกเพื่อนๆ ยกมือไหว้อัณณ์กับพี่เว พี่ตำลึงเสียงดังฟังชัดจนพวกพี่เขาสะดุ้งแล้วยิ้มขำ
ผมยิ้ม “ไม่ดื้อ” พยักหน้ามองตามแผ่นหลังที่สวมชุดกาวน์แล้วเดินไปตึกสิบห้าเพื่อทำแล็ปต่อ พวกเพื่อนๆ มองผมตาพราว รู้ว่าอยากล้อ
ล้อไปเถอะ ไม่สนใจหรอก
ตอนนี้กำลังปลาบปลื้ม
“ไม่ได้! ห้ามกินนะ!” ผมรีบห้ามพวกฝูงคนหิวโหยที่รุมจะแย่งของฝากจากอัณณ์ ไม่มีทางหรอก! ผมกอดถุงผ้าไว้อย่างหวงแหนทันที
“ไอ้เสือขี้หวงเอ๊ย!”
“แบ่งกันบ้างสิ อยากกินฝีมือพี่อัณณ์นะ”
“ใช่แล้ว! งานเปิดรั้ววิทยาศาสตร์คราวก่อน พี่อัณณ์ทำยำกลีบบัวอร่อยมาก”
“จริงๆ แฟนกูฟันธง!”
“ไอ้เสือเอามาแบ่ง!”
“ไม่!” ผมเอ่ยเสียงดังฟังชัด ทำตาดุๆ จนพวกเพื่อนๆ รู้ว่าจริงจัง และโวยวายผมราวไปรังแกมัน
หึ!
อาหารของอัณณ์น่ะ…นกไปเถอะ!
แต่ว่า...อัณณ์ไม่บอกผมเรื่องเมื่อเช้าจริงๆ ด้วย แม้คนของพ่อจะรายงานผมทันทีก็เถอะ แต่ผมอยากรู้จากปากอัณณ์นี่นา อัณณ์กลัวผมไม่สบายใจหรือกลัวผมดุกันแน่
งื้อ! เดี๋ยวแข่งบาสฯ ต้องดุคนใจดีที่แอบดื้อจริงๆ แล้ว!
“~~เดินเข้ามาสนาม เจอคนหล่ออยู่เต็มละลานสายตา กวาดมองสามที เจอคนหน้าตาดีอยู่สาขาไหน~~”
“M01! M01!” เสียงร้องเพลงของน้องๆ คณะผมดังกึกก้อง พอๆ กับฝั่งของโลจิสต์
สนามบาสของมหาวิทยาลัยผมนั้นเป็นสนามกลางแจ้ง โดยรอบมีสแตนด์เชียร์ตั้งไว้นับสิบ และยามนี้ก็ถูกจับจองกันเต็ม อาจเพราะเป็นช่วงซ้อมแข่งสเตอนด์เชียร์ของสาขาอื่นๆ ด้วย
ผมจ้องไปที่สแตนด์ของฝั่ง ENVI น้องๆ กำลังออกท่าทางอย่างแข็งขัน เสียงร้องเพลงฟังชัดมาก เห็นปีสามปีสี่ที่ใส่ช็อปศรีดินยืนกันประปราย แต่ไม่เห็นอัณณ์เลย...
“เดี๋ยวมานะ” ผมบอกเพื่อน ก่อนจะเดินไปที่สแตนด์ของ ENVI น้องๆ เงียบลงทันใด
“อ้าว…เงียบทำไมคะเด็กๆ? ร้องต่อสิเดียวพี่ให้พักแล้วนะคะเนี่ย” ยายตัวเล็กที่คุมน้องอยู่ว่า พอผมแตะไหล่เธอเบาๆ ก็หันมามองตาโตทันที
“พี่เขย? อ๋อ…วันนี้มีแข่งบาสฯ รอบชิง น้องๆ สวัสดีพี่เขยพวกเราหน่อย”
“สวัสดีครับ/ค่ะ” ผมยิ้มบาง ยกมือรับไหว้ ซึ่งน้องๆ ต่างทำหน้าแดง แล้วเหมือนจะกรี๊ด
ทำไมอ่า…แค่ยิ้มนิดหน่อยก็ผิดแล้วเหรอ เพราะเป็นน้องของอัณณ์ผมเลยจะใจดีด้วย แม้จะยิ้มยาก แต่เพื่ออัณณ์ผมยิ้มได้
“พี่อัณณ์ยังไม่มาค่ะ ถ้าเพชรอยากรู้นะ ไปซื้อของหน้าหอใน เพิ่งเลิกแล็ป” ยายตัวเล็กรายงานสิ่งที่ผมอยากรู้
สมแล้วที่เป็นน้องรหัสอัณณ์
“อื้อ…ขอบใจนะ”
“ยินดีที่ได้รับใช้ค่ะ เราคนกันเอง เพชรจะแข่งแล้วใช่ไหม? เดี๋ยวปายปล่อยน้องให้พัก แล้วพาไปช่วยเชียร์นะ”
“อื้อ”
“สู้ๆ ค่ะพี่เขย”
“ได้” ผมพยักหน้า
“เอ้าน้องๆ เดี๋ยวพี่ปล่อยพักนะคะ ใครไม่ไปไหนมาช่วยพี่เขยเราเชียร์หน่อย เพชร…ไปนั่งรวมกับนาวีได้ไหม?”
“ไปเลย”
“ตามนี้นะคะ พี่เพชรเขาบอกว่าจะเลี้ยงขนมน้องๆ ด้วย”
“กรี๊ดดดดดด!! ไปค่ะพี่ปาย!! พวกหนูไปเชียร์!!”
“พี่เขยสายเปย์ โฮกดีจะตาย!!”
“แล้วเมื่อกี้พี่เพชรยิ้มอ่ะพี่เพชรยิ้มด้วย กรี๊ดดด มีแรงแล้วโว้ยยย!”
“เฮ้อ เด็กสาขาเราถูกเพชรซื้อไปหมดแล้ว” สายตากล่าวหาของปายมองผม ซึ่งผมก็ผลักหัวเธอหนึ่งที แล้วเดินกลับไปเตรียมวอร์มร่างกาย
“ไปหาพี่อัณณ์มาล่ะสิมึง”
“ทำมาเป็นรู้”
“นี่เพื่อนสุดแสนอัจฉริยะไงครับไอ้เสือ” ชามันยืดอกแบบไม่อาย
“แต่ลอกการบ้าน” อย่าใช้คำว่าลอกเลย มันให้ผมทำให้ด้วยซ้ำ
“อย่าย้ำสิไอ้แมว! พี่อัณณ์ไม่อยู่เหรอ? แต่น้อง ENVI มารวมกับน้องเราแล้ว เออ…รักกันดีว่ะ” ช้างหัวเราะ เมื่อเห็นหนุ่มๆ นาวีขยับที่ให้สาวๆ นั่ง บางคนก็ลุกขึ้นยืนเพื่อเสียสละที่นั่ง
ทำดี…ไว้ผมจะดุน้อยลงหน่อย
“อัณณ์ไปกินข้าว…เพิ่งเสร็จแล็ป” ผมดาะลูกบาสฯ ไปมาก่อนจะส่งให้ช้างและไปวอร์มเบาๆ ในสนาม
“พวกพี่อัณณ์เรียนหนักชิบ กูเห็นเช้า-เย็น ก็อยู่แต่ห้องแล็ป ห้องสัมนา แถมใกล้งานเปิดรั้วเห็นค่ำๆ ดึกๆ ยังอยู่เกาะเชจูกันอยู่เลย นานๆ ทีจะเห็นพวกพี่เขาที่โรงอาหาร” ชาเบี่ยงตัวหลบผมที่เข้าแย่งลูกบาส ก่อนจะส่งต่อให้ช้าง
“อืม…แต่อัณณ์ใจดี”
“ไม่เกี่ยวโว้ย!” พวกมันสองคนประสานเสียงกัน ผมมองไปรอบๆ เห็นคนใจดีทามกลางผู้คนมากมาย รอยยิ้มบางๆ ของอัณณ์ทำให้ผมยิ้มตาม เขารู้ว่าผมมองอยู่เลยพยักหน้าและชี้นิ้วว่าจะนั่งเชียร์บนสแตนด์กับน้องๆ
ต้องชนะเท่านั้น!!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อะไรจะหลงขนาดน้านนนน
แล้วอะไรคือความสองมาตรฐานคะแมว น่ารักไปแล้วนะ