ตอนที่ 15 : หลั่งฮอร์โมนครั้งที่...15
หลั่งฮอร์โมนครั้งที่...15
“งานเปิดรั้ววิทยาศาสตร์ปีนี้อาจารย์ตั้งใจจะถ่ายทอดความรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่ผู้ที่มาเข้าชมด้วย เป็นงานใหญ่อีกหนึ่งงานของสาขาเราเลย ดังนั้นงานนี้พวกพี่จะแบ่งแยกหน้าที่ให้น้องๆ แต่ละชั้นปีทราบกันคร่าวๆ ก่อนนะคะ" ลูกหว้าเอ่ยเสียงดังฟังชัด
ตอนนี้พวกผมกำลังประชุมสาขาทั้งสี่ชั้นปี ที่หน้าตึกสิ่งแวดล้อม น้องๆ นั่งรวมกันเป็นระเบียบ งานนี้ไม่เคร่งเครียดครับ ไม่เหมือนทุกที ดังนั้นเด็กๆ จึงผ่อนคลายกันสามารถคุยเล่นกันได้
“ปีสี่…พวกพี่จะรับผิดชอบเรื่องภูมิทัศน์สถานที่ รวมถึงแปลงผัก แปลงกล้วยไม้ และโรงเรือนเพาะเห็ด และด้านอาหารว่าง ส่วนปีสาม…เห็นบอกว่าจะทำเรื่องสวนขวด อันนี้รวมอบรมด้วยไหมคะ?”
“รวมครับ/ค่ะ”
“อืม…ถ้าอย่างนั้นต้องจัดคนให้ดีนะ เพราะน้องที่งานนี้มีหลายโรงเรียน นอกจากสวนขวดแล้วต้องแบ่งคนไปจัดบูทให้ความรู้ด้วย ข่าวไหนที่น่าสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมก็เลือกมาได้เลย”
หว้าส่งให้ซันพูดต่อ “ส่วนปีสอง…อาจารย์ขอแรงพวกเราไปร่วมงานในหอประชุมบางส่วน แล้วก็มีงานในวิชา Natural Envi ที่น้องต้องทำจำลองภูเขาหลังม.ด้วย จัดคนกันดีๆ มีอะไรปรึกษาปีสามปีสี่ได้ อุปกรณ์เก่าๆ ที่พวกพี่เคยใช้เก็บไว้ในห้องสาขา ลองหาดู”
“อืม…ปีหนึ่ง หน้าที่ของน้องไม่มีอะไรมาก แต่ว่าให้ลงมาช่วยงานแทน นี่เป็นโอกาสดีของพวกน้อง งานนี้น่ะพี่ทุกคนที่ไม่ว่าอยู่ซอกหลืบไหนของมหาลัยก็มาร่วม เพราะคิดคะแนนด้วย ดังนั้นเหมาะมากกับการตามหาลายเซ็นต์” ซันยิ้มน้อย
“เรื่องที่พี่จะชี้แจงวันนี้ก็มีแค่นี้ มีใครมีคำถามไหมคะ?”
น้องๆ ที่ยังสงสัยต่างยกมือกันพรึ่บ ผมเอียงหน้าเล็กน้อย เมื่อยายปายโบกมือ ก่อนจะเดินไปหาน้องรหัส
“มีอะไรครับ?” เดินไปนั่งกับน้องๆ ได้เพราะตอนนี้ก็เท่ากับเลิกประชุมแล้ว ดังนั้นจึงไม่เคร่งเครียด ตามอัธยาศัย
“ปายเห็นเด็กวิศวะซ้อมหลีดกันแถวนี้ แล้วเห็นนายเกรย์อะไรนั่นด้วยค่ะ” ผมยีหัวปาย
ตาไวจริงๆ
ไม่ใช่ไม่รู้ว่าถูกมอง แต่รู้…และผมก็ไม่สนใจด้วย
“ถ้าเขาไม่มาระรานเรา อย่าไปยุ่งกับเขาเลยครับ”
“ค่า! ปายไม่ทำหรอก ปายเกลียดเรื่องวุ่นวายจะตาย นี่พี่อัณณ์ได้เจอเพชรบ้างไหม? ช่วงนี้นาวีก็วุ่นๆ”
“ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ครับ น้องเพชรเรียนหนัก พี่เองก็งานเยอะ ถึงจะไลน์หากันบ่อยๆ ก็เถอะ”
“ไม่เหงาเหรอคะ?” ดูมีหน้ามาล้อผม
“ไม่นี่ครับ…แมวเขาก็ต้องทำหน้าที่ของเขา พี่ก็ต้องทำหน้าที่ของพี่ จะเจอหน้ากันบ่อยๆ ได้ยังไง”
แม้จะบ่นยาวเหยียด และโทรฯ มาอ้อนเพราะอดกินของโปรดก็เถอะ…
น่าสงสารครับ เพชรเหมือนแมวที่ถูกฟัดจนช้ำ แล้วมาออดอ้อนกับเจ้าของนั่นล่ะ
ทั้งขำ…ทั้งน่าสงสาร
จนทาสแมวอย่างผมนี่อยากประเคนให้ทุกอย่างเลย
“อืม…นั่นสิคะ จริงสิพี่อัณณ์! ปายเกือบลืมถามเลย จะหาซื้อแก้วเยอะๆ ได้ที่ไหนคะ ตอนประชุมกันในชั้นปี เห็นเฮดบอกว่าน้องมาอบรมตั้งสี่ร้อยกว่าคน ไหนจะคนที่สนใจอีก”
“ไปดูร้าน 20 ก่อนครับ ปีที่แล้วพวกพี่ซื้อจากร้านหน้าหอสุข แล้วซื้ออะไรอย่าลืมขอบิลนะ…ที่ไนท์ บาร์ซาร์มีร้านหนึ่งจัดสวนขวดสวยมาก ไปลองปรึกษาเขาดูได้ครับ พี่เขาใจดี”
“ปายขี้เกียจไปไนท์ฯ เสียงดัง คนเยอะ แถมมีคอนเสิร์ตอีก ปวดหัวจะตาย แต่เฮ้อ…ยังดีที่นั่นอาหารอร่อยนะ”
“เป็นยายหมีและยายหมูเหมือนที่พี่เพลิงว่าแล้วครับ” ผมหยิกแก้มยุ้ยๆ เบาๆ
ปายเบ้ปาก “พี่เพลิงปากไม่ดี ชอบกวนประสาทปายตลอดเลย”
ปากน่ะพูดไปงั้นแต่รอยยิ้มและดวงตาที่อ่อนโยนลงของยายตัวเล็กก็ทำผมยิ้มตาม
“เรื่องซ้อมสแตนด์กับหลีดคงเพลาๆ ลงก่อน แต่ก็ต้องนัดบ้าง เดียวน้องลืมท่า แล้วมิพิโรธพอดี”
“เฮ้ยๆ อย่าโบ้ยมาทางนี้สิ” สาวน้อยผมสั้นตาคม เคาะหัวปายแรงๆ มิรา…เมทและเพื่อนสนิทของปาย
“มิโหดจะตาย” แล้วสองสาวเขาก็ตีกันไปตีกันมา ผมเลยขอตัวออกมาก่อน เพราะเวกับตำลึงกำลังจะกลับแล้ว
“ไปกินเมี่ยงปลาเผาที่ตลาดหลังม.กันเถอะอัณณ์ เดี๋ยวนัดคุยงานต่ออีก” เวทำสีหน้าเหนื่อยมาก ทั้งๆ ที่งานยังไม่เริ่ม
“เวเลี้ยงเหรอ?” ผมหัวเราะ เมื่อเพื่อนทำหน้าเครียด
“เลี้ยงบ้าอะไร! มึงก็รู้ว่ายายตำลึงเคยจบที่ปลาเผาตัวสองตัวที่ไหน นี่เดี๋ยวแม่คุณคงสั่งส้มตำ มาเต็มโต๊ะ ขืนให้กูเลี้ยงเดือนนี้กูจนพอดี!”
“นินทาฉันเหรอย่ะ! สุภาพบุรุษเลี้ยงสุภาพสตรีแบบฉันก็ถูกแล้วนี่!” ตำลึงเท้าเอวแยกเขี้ยว ก่อนจะหันมาหาผม “อัณณ์ไม่คิดถึงแมวบ้างเหรอ…ไม่เจอกันมาหลายวันแล้วนะ ตำลึงยังคิดถึงหน้าหล่อๆ ของน้องเพชรเลย”
ผมหัวเราะ “นาวีเรียนหนักนี่นา ไหนจะซ้อมบาสฯ ไหนจะกิจกรรม แม้แมวของตำลึงจะงอแงไปสักหน่อยก็เถอะ หืม?” ผมเลิกคิ้วเมื่อเพื่อสาวเกาะหมับ แถมยังเขย่าแขนผมไปมา
“อัณณ์! น้องเพชรงอแงยังไง! ตำลึงอยากเห็น อยากเห็นแมวงอแง! น้องเพชรสุดหล่อหน้ามึนงอแง กรี๊ดดดดด!”
แสบหู…
ผมดันเพื่อนออก และส่งสายตาให้เวช่วยดึงเอาคุณเธอออกไปที
เวกลอกตา ใช้ไม้เด็ด “เลิกพร่ำเพ้อได้แล้ว รีบไปกินปลา เดี๋ยวโต๊ะเต็มนะ”
“เออ…จริงด้วย! แต่ฉันไม่ลืมเรื่องน้องเพชรนะอัณณ์ ช่วงนี้แมวเพชร กับคนเลี้ยงแมว เงียบๆ ไป พวกรอความฟิน อย่างเราๆ เลยเหงาหงอย”
“ตำลึงเป็นแฟนคลับเหรอ?”ผมขำ ขณะที่เดินผ่านโรงอาหาร เพราะจอดรถไว้แถวนี้พอดี เห็นเด็กช็อปเทากำลังประชุมกันเคร่งเครียด และเจ้าแมวเพชรก็โดดเด่นในสายตา…
ใบหน้าหล่อๆ นั้นง่วงมึน หลังตรง มือไขว้หลัง ดวงตาดุๆ…ดุทั้งที่มึนนั่นล่ะ
ผมยกยิ้ม…สมกับที่เป็นเพชร และเหมือนรู้ว่าถูกผมมอง น้องเลยหันกลับมา ผมเลยยิ้มโบกมือให้ น้องทำท่าเหมือนอยากจะมาหา แต่เขาชี้ไปที่เพื่อนๆ แล้วทำหน้ามุ่ย
ผมส่ายหน้าปรามเป็นเชิงว่าไม่ต้องลงมา ก่อนจะยิ้มให้เขาแล้วชูโทรศัพท์มือถือขึ้น เป็นเชิงว่าค่อยติดต่อกัน
แมวหน้าหงอย พยักหน้าอย่างจำยอม พอเพื่อนๆ เขาสังเกตก็คว้าคอเพชรแล้วเตะน้องหลายที ก่อนจะหันมาสวัสดีผมที่รับไหว้ แล้วเดินไปรวมกับพวกเวและตำลึง
“ตกลงปลาเผาสามตัว หมี่ขาวสี่จาน?” เวที่รับหน้าที่ไปสั่งปลาเผาทวนรายการอาหาร
“สามตัวไม่อิ่มย่ะ! เอามาห้าเลย! กำลังหิว หมี่ขาวก็หกจาน เพิ่มน้ำจิ้มซีฟู้ดด้วยนะ”
คนหิวมักหน้ามืด…โดยเฉพาะสุภาพตรี
แต่ก็เห็นด้วยกับตำลึงนะครับ…ผมเองก็หิวเหมือนกัน พอเสร็จแล็ป ก็มาประชุมเลย ข้าวปลายังไม่ได้ทาน
“ตำลึงจะกินตำอะไร?” ผมถาม เพราะสาวน้อยของเรารับหน้าที่เฝ้าโต๊ะ
“เอาตำไทยไข่เค็ม ปูปลาร้า น้ำตกคอหมูย่าง ไม่เผ็ดมากนะอัณณ์ แล้วก็ตำผลไม้ด้วย”
เห็นสั่งเยอะ…แต่เชื่อเถอะครับว่าเราสามคนทานหมดแน่ๆ
“ได้…เฝ้าโต๊ะดีๆ นะ”
“ค่า!”
“ไปกันเว” ผมกอดคอเวเดินไปซื้อของตามบัญชาคุณนายเธอ ร้านปลาเผากับร้านส้มตำอยู่ใกล้กัน
“เอาไก่ย่างสักไม้ไหม?” เวถาม
“ก็ดี…สามไม้ดีกว่า”
“น้องนั่งตรงไหนกันคะ? เดี๋ยวพวกพี่เอาไปส่ง” พี่คนขายถามอย่างใจดี
“หน้าร้านน้ำผลไม้ปั่นครับ ขอบคุณครับ ไปเถอะอัณณ์”
เมื่อสั่งของเรียบร้อย พวกเรากกลับมายังโต๊ะตัวเอง เห็นตำลึงทำหน้าเครียดๆ ขมวดคิ้วเข้าหากัน
“มีอะไรเหรอ?” ผมถาม
“เห็นรุ่นน้องคนนั้นน่ะสิ! คนที่มีเรื่องกับน้องยู น้องไนท์อ่ะ มากับเด็กวิศวะคนอื่นด้วย”
ผมเลิกคิ้ว…กวาดตาไปมอง ก่อนจะสบกับดวงตาสีฟ้า ที่จ้องผมอยู่ และเกรย์ทำเพียงยกยิ้มที่มุมปาก เลิกคิ้วอย่างกวนโมโห
ผมยิ้ม ไม่สนใจอาการของเขา ทำเพียงพยักหน้าให้เป็นเชิงทักทาย
“คงมากินข้าวนั่นล่ะ” ผมบอกตำลึงกับเว
“ไม่น่าไว้ใจยังไงไม่รู้ เด็กนี่ท่าทางร้ายกาจจะตาย” เววิเคราะห์ แต่ต้องเปลี่ยนเรื่องเมื่อปลาเผาตัวโตมาเสิร์ฟ แล้วพวกเราที่หิวโหยก็จัดการทิ่มแทงคุณปลาผู้โชคร้ายด้วยช้อนแสะส้อม
ผมกับเพื่อนทานข้าวกันอย่างเฮฮาอย่างเช่นทุกที แม้จะรู้ได้ว่า…มีสายตาอีกหนึ่งคู่จ้องผมอยู่อย่างไม่ลดละ
จะทำอะไรก็แล้วแต่…
แต่ว่า…อย่าได้ล้ำเส้นผมก็พอ…
( เด็กนั่นทำตัวเป็นโรคจิตขนาดขั้นเลยเหรอ? ) พี่ชายส่งเสียงกลั้นหัวเราะมาตามสาย ทำให้ผมหัวเราะตามไปด้วย
“นั่นสิครับ”
( อืม…อัณณ์ก็ระวังไว้หน่อยล่ะกัน พี่ทำงานใกล้เสร็จแล้ว เดี๋ยวจะกลับไปสตูดิโอที่ดีซี จัดการเรื่องทางนี้เรียบร้อยพี่จะกลับไทยเลย )
“ไม่ต้องรีบก็ได้ครับพี่เพลิง อัณณ์ดูแลตัวเองได้ เขาอยากทำอะไรก็ปล่อยเขาไป แค่ไม่ล้ำเส้นผมก็พอ” ผมฉีดฟ็อกกี้ใส่ต้นกระบองเพชรที่เลี้ยงไว้ริมหน้าต่างไปด้วยคุยกับพี่ชายไปด้วย
( พี่ไปอยู่กับอัณณ์ดีกว่า เพราะเพื่อนพี่เพิ่งบอกว่า‘คุณแม่’ ของเด็กนั่นจะมาที่ไทยด้วย )
ผมเงียบไปครู่นึง รู้ได้ว่ามือตัวเองกำโทรศัพท์แน่นขึ้น
คุณแม่ของเกรย์...ก็คือคุณแม่ของผมกับพี่เพลิง…
แม่ที่แค่รู้ว่ามีเหมือนคนอื่น…แต่ไม่เคยสัมผัสความหมายของคำนั้น
( อัณณ์ ) พี่เพลิงเรียก
“ครับ?”
( อย่าบอกว่าเครียดนะ หึๆ ) พี่เพลิงดูขำผมมา ขี้แกล้งจริงๆ… ( จะทำอะไรให้มีสติ และคิดให้ดี พี่บอกอัณณ์เสมอ เรื่องนี้ก็เหมือนกัน )
“อัณณ์เข้าใจดีครับ แต่แค่เอ่ยถึงเธอบางทีก็ทำอัณณ์รู้สึกแปลกๆ”
( พี่เคยเป็นนะ แต่เดี๋ยวนี้เฉยมากกว่า อืม…ไว้พี่จะโทรไปหาอัณณ์อีกที ตอนนี้เจ้านายพี่กำลังมองตาดุแล้ว ดูแลตัวเองดีๆ นะอัณณ์ )
“พี่เพลิงก็เหมือนกันอย่าเสี่ยงอันตรายเพื่อภาพสวยๆ ดูแลตัวเองดีๆ นะครับ ไม่ต้องห่วงอัณณ์…อ้อ…แล้วก็ไม่ต้องห่วงหมีน้อยของพี่ด้วย” ได้ยินเสียงพี่เพลิงหลุดขำ พอดี กับที่ผมเห็นรถยนต์คุ้นตามาจอดหน้ารั้ว ร่างสงในชุดช็อปสีเทานั้นเดินออกมา
( เสียงรถหน้าบ้าน? อืม…พี่ว่าอัณณ์คงต้องวางแล้วล่ะ สงสัยแมวมาตามเจ้าของ อ้อ ฝากบอกแมวของอัณณ์ด้วยให้โทรฯ หรือส่งเมลล์หาพี่ได้แล้ว ติดสินบนปายไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก ) พี่เพลิงวางสายไปแล้ว ส่วนผมนั้นหัวเราะ ส่ายหน้าเบาๆ ก่อจะเดินไปเปิดรั้วให้เจ้าแมวตัวโตหน้าหงอยที่มาเสียดึกดื่น
“อัณณ์” น้องยิ้มราวอ้อน ยื่นหัวมาให้ผมลูบอย่างที่ทำประจำ
“ทำไมมาเสียดึกเลยครับ?”
เจ้าแมวตัวโตทำหน้าตาจริงจัง ดวงตาคมสวยทอประกายระยิบระยับ ริมฝีปากก็ยกยิ้มน้อยๆ ทำให้หน้าตาที่หล่อเหลาอยู่แล้วนั้นดูดีขึ้นไปอีก เขาเอ่ยเสียงทุ้ม…
แต่กลับทำให้จังหวะหัวใจของผม…เต้นผิดไป
“คิดถึงอัณณ์…”
ตอนแรกบอกว่าจะมาก่อนปีใหม่...แต่ยุ่งจากปลายปีจนถึงตอนนี้ยังหัวฟูอยู่ แต่เอามาลงก่อน เพราะผิดคำพูดมาหลายวันแล้ว ฮือออ ขอโทษจริงๆ นะคะ หัวคนเขียนฟูแล้วจริงๆ =_=
เรื่องคำผิด...โดยเฉพาะ คะ ค่ะ โค้งขออภัยอย่างรุนแรงค่ะ ใช้ผิดแบบไม่ให้อภัยจริง ขนาดอ่านทวนเองยังเกลียดที่ตัวเองเขียนเลย ฮือออ ถ้าใครเจอคำผิดทักท้วงได้นะคะ คนเขียนก็มึนๆ บางครั้งใช้ผิดบ่อยมาก ขอบคุณที่ช่วยติชมกันนะคะ ^_^
ช่วงนี้สภาพอากาศหนึ่งวันมีสามฤดู โหดร้ายจริงๆ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ระวังอย่าให้ป่วยได้น้าาาา
ป.ล. คืนนี้...ขอให้ฝันดีนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อุตส่าห์มาหาเพื่อพูดคำนี้ให้พี่ฟัง จะน่ารักไปแล้วนะ น่ารัก
ใจพี่เหลวเป็นน้ำแล้วแม๊ววว
ถึงเราจะชอบเรื่องชิวๆแบบนี้นะ แต่ก็อยากให้เขาปมแล้วๆ อยากเห็นพี่อัณโชว์เทพ ฮืออออ อยากเห็นแมวกลายเป็นเสือด้วยค่ะ