ตอนที่ 7 : 6
น่าร๊ากกกกกกกกกกกก รุคาว่าดูอบอุ่นอุ๊นนนนนนน >///////<
6
(: ซากุรางิ :)
“ห้องมีเตียงเดียวเหรอว่ะ?” ผมเอ่ยอย่างงงๆ ก็หลังจากทานข้าวเสร็จโดยที่ไม่ต่อยตีกันไปเสียก่อน เจ้าจิ้งจอกมันก็ลากผมไปนอนดูหนังเป็นเพื่อน พอตกดึกๆมากๆก็ลากพาเข้ามาห้องนอน บังคับให้อยู่ในนี้ ส่วนตัวเองก็หายแวบเข้าห้องน้ำไปเฉย
“คงต้องนอนโซฟามั้ง?” ผมกวาดมองไปรอบๆเห็นโซฟาสีดำบุกำมะหยี่อย่างดี ขนาดใหญ่พอที่ผมน่าจะซุกนอนได้ แต่คงต้องของหมอนกับผ้าห่มจากเจ้าของห้อง
หวังว่ามันคงไม่ใจร้ายใจดำกับผมนักหรอกนะ =_=
ผมพาร่างตัวเองไปนั่งแหมะที่โซฟานุ่มๆนั่น พลางมองไปรอบๆห้อง...เจ้าจิ้งจอกชอบสีโทนเข้มไม่ดำก็น้ำเงิน ดูจากพวกผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน พรม ปลอกหมอนต่างๆล้วนเป็นสีเข้มทั้งนั้น ห้องมันเรียบๆไม่ค่อยมีอะไร แป้นบาสฯ ลูกบาสฯสีส้ม แล้วก็ภาพกิจกรรมในชมรมบาสโฮคุ ภาพของหมอนั่นตอนไปเยาวชนทีมชาติเห็นมีเพื่อนต่างชาติหลายคน เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ หน้าเจ้าจิ้งจอกนี่นิ้งนิ่งอย่างกับอะไรดีไม่ก็หน้าเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา ฮะๆ
“หัวเราะอะไร!” เสียงดุๆทำให้ผมสะดุ้ง ก่อนจะหันกลับไปมองแล้วต้องหน้าแดงแปร๊ด! >//////< เจ้าจิ้งจอกมันเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว!! ผ้าสีน้ำเงินเข้มผู้เป็นปมที่สะโพกแกร่ง หยดน้ำเกาะพราวตามผิวคล้ำ เส้นผมสีดำแนบลู่มือแกร่งขยี้หัวตัวเองด้วยผ้าผืนเล็ก
ผมปฏิเสธไม่ได้ว่ารุคาว่าเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์เหลือล้น...เซ็กซี่อย่างร้ายกาจ...สมแล้วจริงๆที่ผู้หญิงทั้งโรงเรียนต่างเทคะแนนให้หมอนี่
“อ่ะ...เอ่อ...ทำไม...แก...เอิ่ม...ไม่ใส่...เสื้อผ้า...อ่า >/////<” พูดเองก็แก้มแดงเองเลยครับ เห็นดวงตาคมฉายแววแปลกใจปนระยับวูบหนึ่งก่อนกระตุกยิ้มมุมปากด้วยท่าทางที่โคตรเท่ห์
“ร้อน...”
“เอ่อ...อื้ม!”
แล้วนี่ผมเป็นอะไรฟะ! โอ๊ยยยยยย!! งงตัวเอง!
“งั้น...งั้นขอ...ผ้าห่มกับ...กับหมอน”
“เอาไปทำไม?” มันถาม เดินไปนั่งบนเตียงนุ่ม ก่อนจะส่งผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้ผม งงสิครับงานนี้ ไม่เข้าใจว่างส่งมาทำไม
“เช็ดหัวให้หน่อย”
“หา!!”
“เร็ว!” เสียงทุ้มเอ่ยเร่ง จนผมสะดุ้ง คว้าผ้ามาก่อนจะกระโดดไปนั่งซ้อนหลังคนตัวสูงกว่าแล้วเช็ดผมหนาดกดำนั่นอย่างเบามือ...ผมของรุคาว่านุ่มและนิ่มมาก แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย ผมเช็ดอย่างเบามือ ถือเสียงว่าตอบแทนเรื่องห้องพักกับอาหารแล้วกัน
“มือเบานะ” รุคาว่าบอก ผมไม่ได้ใส่ใจลมหายใจร้อนๆข้างหูและซอกคอเท่าไหร่ กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของตัวเองอยู่
“ปกตินายนอนกี่โมง”
“แล้วแต่” มือแกร่งจับข้อมือของผมจนชะงัก เงยหน้าขึ้นมองสบเห็นดวงตาสีดำสนิทคู่คมอยู่ใกล้เพียงแค่นิดเดียว ภาพของผมสะท้อนอยู่ในเงาดวงตาคู่นั้น ลมหายใจร้อนผะแผ่วระใบหน้า จมูกโด่งเฉียดจมูกผมไปนิดเดียว เร่งอุณหภูมิบนใบหน้าให้สูงขึ้นไปอีกเท่าตัว
“ตาสวย...” เจ้าจิ้งจอกชม ผมไม่รู้ว่าเพราะคำชมของหมอนั่นหรือเปล่าที่ทำให้หัวใจผมเต้นรัว
“มีใครบอกไหมว่าแกเหมือน...แมวป่า”
“ไม่ใช่...สักหน่อย” ผมอ้อมแอ้มเถียง ได้ยินเสียหัวเราะในลำคอหึๆ จากคนตัวสูงกว่า พร้อมสัมผัสบางเบาจากมือใหญ่ที่ไล้ไปแถวข้างแก้ม
“แมวตัวโต...ขนฟูๆ” รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกหยอกเย้าและเสียสติไปทุกทีด้วยน้ำเสียงทุ้มทรงเสน่ห์และความใกล้ชิดที่ไม่เคยเกิดนี่
“รุ...รุคา..ว่า”
“หืม?...ว่าไง?” ลมร้อนกระซิบข้างหูจนผมขนลุกซู่
“ฉะ...ฉัน...ง่วงแล้ว!!” ผมพยามเปลี่ยนเรื่องหลีกหนีสถานการณ์ชวนทำตัวไม่ถูก
“หึๆๆ นอนสิ” ไม่ว่าเปล่า แขนแกร่งนั่นรั้งผมลงนอนแหมะลงบนเตียงนุ่ม ตามมาด้วยผ้าห่ม และมือที่บีบจมูกอย่างหยอกล้อ
“ละ...แล้ว นายจะนอน...ไหน?” ผมกระพริบตาปริบๆ ก็นี่เตียงมัน แล้วที่สำคัญมันให้ผมนอน ถึงเตียงจะขนาดใหญ่จนผู้ชายตัวโตๆสองคนสามารถกลิ้งไปมาได้สบายก็เถอะ แลเห็นดวงตาคมทอประกายอ่อนโยน อบอุ่น...ไม่เฉยชาเหมือนทุกที ยิ่งกลั้นรอยยิ้มไม่อยู่
ชอบจัง...เวลาที่เจ้าจิ้งจอกมองผมแบบนี้...
“อยากให้นอนด้วย?” น้ำเสียงเย้าแหย่ว่า จนผมหน้าร้อนฉับ คว้าหมอนใบโตปาใส่หน้าหล่อๆนั่นไปหนึ่งที...แต่ก็ถูกมือใหญ่จับไว้เสียก่อน
“หึๆ นอนไปก่อน”
“อ่ะ...อื้อ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก
ที่เชื่อฟังนี่ง่วงแล้วครับ...ไม่ใช่อะไรหรอก
วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้วด้วย ใช้เวลาไม่นานนักผมก็เผลอหลับไปจริงๆ ได้ยินเสียงแว่วๆจากที่ไกลๆ และสัมผัสอุ่นชื้นบนหน้าผาก
“ราตรีสวัสดิ์...เจ้าแมวป่าขนฟู”
อากาศชื้นๆและกลิ่นอายของสายฝนยามเช้าทำให้ร่างที่นอนอยู่บนเตียงสีน้ำเงินขนาดใหญ่พลิกตัวไปมา มือความหาผ้าห่มขึ้นมาหมายจะคลุมโปงนอนต่อ
ช่วยไม่ได้...อากาศกำลังสบายเลยนี่นา
“ขอนอนอีกสัก...ห้า...ไม่สิสิบ...นาที” กริยาท่าทางแบบนั้นเรียกรอยยิ้มและแววตาขำๆจากคนที่เพิ่งไปวิ่งออกกำลังกายยามเช้าเสร็จ ร่างสูงเดินไปทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆ มือแกร่งไล้ใบหน้าขาวเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าออกให้
อดนึกไปถึงเมื่อคืนไม่ได้...เกือบไปแล้วนะ...อีกนิดเดียวหากเขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้จริงๆล่ะก็...เช้านี้คงไม่มีแมวตัวโตมานอนหลับสบายบนเตียงเขาหรอก ก็เจ้าตัวน่ะช่างซื่อบื้อ และงี่เง่าไม่รู้ตัวเลยว่าไอ้ท่าทางน่ารักๆเหมือนแมวถูกหยอกนั่นมันทำให้คนมองหมดความอดทนเอาง่ายๆ แม้จะไม่แน่ใจกับความรู้สึกนี้ว่าใช่หรือเปล่า...แต่กับคนที่สนใจแค่บาสฯ ตอนนี้กลับถูกเจ้าแมวป่าจอมพยศตัวโตดึงความสนใจไปแทบจะหมด
“แมวโง่...” ดีดจมูกโด่งๆนั่นไปหนึ่งที คนบนเตียวส่งเสียงอืออาพลิกตัวหนี จนเจ้าของห้องได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ
“ขี้เซาอีก...” ดวงตาคมเหลือบมองนาฬิกาฝาผนัง ก่อนจะจัดท่านอนให้อีกคนนอนๆดี
เอาเถอะ...วันนี้เป็นวันหยุด...ให้พักไปสักหน่อยค่อยปลุกแล้วกัน...
ร่างสูงลุกจากเตียงกว้างกำลังคิดจะออกไปหาอะไรมาให้เจ้าคนขี้เซากินเป็นมื้อเช้าสักหน่อย...หากไม่ติดว่ามีมือมาดึงมือเขา พร้อมใบหน้าของที่เคลื่อนตัวซุกเข้าหาราวกับแมวน้อยหาไออุ่นจากเจ้าของ กริยาที่ทำให้รอยยิ้มเอ็นดูผุดขึ้นบนเรียวปากคนยิ้มยาก ส่ายหน้าเบาๆอย่างระอาใจ ก่อนตัดสินใจล้มตัวเองลงนอนข้างๆ เตียงที่ยุบลงไปเพราะน้ำหนักตัวของอีกคน แต่คนขี้เซาหาได้สนใจ ร่างโปร่งนั้นยุกยิกๆ ครางอืออา แล้วเลื่อนใบหน้าจากมือใหญ่ไปซบอกแกร่งที่อุ่นกว่า ยิ้มบางๆราวกับอยู่ในห้วงฝันอันแสนสุข ขาปีนป่ายกอดรัดร่างสูงประหนึ่งหมอนข้างอย่างดี ทำเอาคนตัวโตอึ้งไปแป๊บนึง...ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะ หึๆๆ ออกมาในลำคอ ไม่คิดว่าเจ้าลิงหัวแดงจอมป่วน จอมหาเรื่อง ตัวแสบนั่น จะน่ารักได้ขนาดนี้...ให้ตายเหอะ! มือแกร่งรั้งผ้านวมผืนหนาสะบัดห่มคลุมคนทั้งสอง...ปล่อยตัวเองไปท่ามกลางบรรยากาศอันแสนสบาย
ตื่นขึ้นมาจะโวยวายนี่โทษเขาไม่ได้นะ เจ้าแมว...
****************************
มันสั้น แอบแวบมาอัพค่ะ ช่วงนี้สอบ(เวลาอันโหดร้าย T_T)
อ่านให้สนุกนะค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่ได้เตรียมใจมาเจอกับรุคาว่าเวอร์ชั่นไมโครเวฟเลย แงงงงงงง
กรี๊ดดดด รุคาว่า! ตาบ้าเอ้ยยยย ฮืออออ เขินไปหมด T///T เขินจนหน้าร้อน ยัยฮานะก็ขยันน่ารักซะจริง
คือนายก้อทำไรอย่างนี้เป็นนี่นาาาาา ซึนคาว่าคุง
55555+
น่ารัก มุ้งมิ้ง รุคาว่าน่ารักอ้ะตอนนี้ ^_^ >\