ปราสาทผีสิง

ลำดับตอนที่ #3 : ความฝันของมิเลวา

พอเข้าไปในปราสาท  ทุกคนก็ยิ่งตกตะลึงในความงามของปราสาท    มีห้องรับแขกขนาดใหญ่   และมีแจกันดอกไม้จัดดอกไม้อย่งสวยงาม



วางอยู่บนโต๊ะรับแขก     เมื่อมองไปรอบๆทุกคนก็ได้เห็นผ้าม่นสีแดงขนาดใหญ่สวยมงามมากๆ ปิดหน้าต่งทุกบาน

    

    \" ไม่น่าเชื่อเลยว่าไม่มีคนอยู่ \" แพนพูดขึ้น

  

    \"  จอร์นตั้งแต่พวกเรามายังไม่ได้หยุดกินข้าวกันเลย   พวกเราน่าจะกินข้าวกันก่อนดีมั้ย  \"  สตีเว่นถามขึ้น   เพราะเห็นว่าแต่ละคนก็ต่าง



เหนื่อยกันมามากพอแล้ว



      ทุกคนจึงช่วยกันจัดโต๊ะอาหาร   พอกินเส็จก็ช่วยกันเก็บจานชาม

    

    \" พวกเราทำอะไรกันเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย  เหดียวฉันกับสตีเว่นจะขึ้นไปดูข้างบนนะ \"  จอร์นพูดขึ้น  แล้วก็เดินขึ้นไปชั้นบนกับสตีเว่น



เพื่อนรัก

    

    \"  จอร์นมาดูห้องนี้สิ  เป็นห้องนอนสะอาดมากๆ  \"  สตีเว่นบอกกับจอร์น  

    

    \"  ห้องนี้ก็เหมือนกัน \"  จอร์นตอบกับ



ทั้งสองจึงปรึกษากันว่าน่าจะให้ผู้หญิงนอนกับผู้หญิง และผู้ช่ยนอนกับผู้ชาย   พอทั้งสองปรึกษากันเรียบร้อยแล้วก็มาบอกกับเพื่อนๆ ที่อยู่ข้าง



ล้าง   ทุกคนต่างเห็นด้วยตามความคิดของสตีเว่นกับจอร์น       จึงพากันขึ้นไปชั้นบน

    

    \"  แพนมิเลวา  ถ้าเกิดอะไรขึ้น ร้องดังๆเลยนะ \" จอร์นบอกกับหญิงสาวทั้งสอง



ในคืนนั้นทุกคนหลับกันอย่างสบาย เหมือนนอนอยุ่บ้านของตัวเอง  ยกเว้นแต่มิเลวา  เธอฝันร้าย  เธอได้ฝ้นเห็นเหตการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบ



ครัวของคนในปราสาท

    

มีทหารประมาณ 15 นาย มาจับตัวตัวหญิงสาว 3 คน  ซึ่งหญิงสาวทั้งสามคนนิ้เป็นลูกสาวของเจ้าของปราสาท   ทหารพวกนั้นฆ่าพวกเธอ



อย่างทารุณ

    

  คนแรกถูกฆ่าโดยการถูกตัดลิ้น และทหารพวกนั้นก็ใช้แซ่ตีเธออย่างไม่ปราณี  เธอร้องลั้นด้วยความเจ็บปวด  และที่เลวร้ายกว่นนี้พวกทหาร



จับเธอแช่ลงในนำเกลือเธอร้องด้วยความเจ็บปวดและแสบไปนั้งตัวในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวและสิ้นใจในที่สุด

      

คนที่ 2  พวกทหารพวกนั้นควักลูกตาของเธอออกมาในขณะที่ทรารกำลังควักลูกตาของเธอ  เธอร้องด้วยความเจ็บปวด   เมื่อทหารควักลูกตา



ของเธอแล้วพวกเขาก็นำมันไปดองในขวดโหล  พวกเขาพากันดูที่ขวดโหลและหัวเราะด้วยความสะใจ

    

     \" ข้าว่าแค่นี้มันดูยังไม่สะใจ \"  นายทหารคนหนึ่งกล่าวขึ้น

      

    \" อย่าทำอะไร ฉันเลยนะ   ฉันกลัวแล้ว \" หญิงสาวพูดอ้อนวอน

      

     หลังจากหญิงสาวพูดจบพวกทหารต่างพากันหัวเราะเสียงดังลั่น  แล้วก็ตัดนิ้วหญิงสาวทุกนิ้วไม่เหลือแม้กระทั้งนิ้วเท้าเธอร้องลั้นด้วความ



เจ็บและด้วยความโกรธแค้น   มือของเธอเต็มไปด้วยเลือด  พวกทหารไม่ได้หยุดอยู่เพีงเท่านั้น  พวกเขากรีดหนังของเธอลอกออกเป็นแผ่นใน



ที่สุดเธอก็สิ้นใจ  

      

  คนที่ 3 แน่นอนว่าทหารพวกนั้นไม่ปล่อยเอไว้แน่   ทหานทำกับเธออย่างทารุณ พวกเขากรีดกรีดท้องของเธอเป็นเส้นตรง เธอกรีดร้องเสียง



ดังลั้นด้วยความเจ็บปวดแต่ทหารพวกนั้นกลับหัวเราะด้วความสะใจ   พวกเค้าควักใส้ของเธอออกและแชลงในนำกรดเธอร้องด้วยความทรมา



ณแต่ไม่นานนักเธอก็หมดลมหายใจ

      

     นอกจากลูกสาวของเจ้าปราสาทแล้วลูกชายทั้ง 2 ก็เช่นเดียวกัน  ลูกชายคนแรกมีอายุเพียง 9 ขวบเท่านั้น  เขาถูกล่ามโซ่ขังไว้ในห้องใต้



ดิน เด็กชายได้แต่นั่งร้องไห้ทุกวันๆ  และเขาก็ได้หมดลมหายใจในที่สุด

      

     ส่วนพี่ชายคนโตในขณะที่มีทหารประมาณ 5 นายมาจับตัวเค้า เค้าพยายามต่อสู้อย่างสุดชีวิต  แต่ก็ต้านแรงทหารพวกนั้นไม่ไหว  เมื่อ



ทหารพวกนั้นจับตัวเค้าได้ก็ต่างรุมทุบตีและแร่หนังเขาออกเป็นแผ่นๆ เขาร้องด้วความเจ็บปวดและความแค้น   และในที่สุดเขาก็ทนพิษบาด



แผลไม่ใหวและตายในที่สุด



       ต่อมามีชายชราและหญิงชราเดินเข้ามาในปราสาท   ชายผู้นันคือเจ้าของปราสาท และหญิงชราคนนั้นก็คือภรรยาของเจ้าของปราสาท

      

     \"แอนนา   แอนนา \"เสียงชายชราเรียกลูกสาวของตน  เมื่อพวกทหารได้ยินจึงจึงจับตัวทั้งสองไปฝังทั้งเป็นบริเวณสวนดอกไม้