คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : AIR STRIKE :: Chapter 1 [60%]
AIR STRIKE :: Chapter 1
Prologue
Porsche’s
@ AS Club.
แสง สี เสียง สุราราคาแพง ผู้คนมากหน้าหลายตา กลิ่นบุหรี่ เสียงพูดคุยจอแจ และนารีที่กำลังเต้นอย่างยั่วยวน
... สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้ผมละสายตาไปจากใบหน้างดงามราวกับเทพีวีนัสก็มิปาน จมูกแหลมสวย ใบหน้าเรียวรูปไข่ เส้นผมยาวประบ่าถูกมัดรวบด้วยยางอย่างลวกๆ ริมฝีปากบางอมชมพูนิดๆ ดูน่ารักน่าประกบจูบเสียจริง!
ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนกับเพิ่งไปทำกิจกรรมเสียงเหงื่ออย่างหนักมา เพราะก้อนเนื้อทางด้านซ้ายตรงหน้าอกของผมกำลังสูบฉีดเลือดอย่างรวดเร็ว และยังไม่ใช่แค่หัวใจ สมองอันชานฉลาดของผมกำลังพร้ำเพ้อเป็นถ้อยคำจับใจความได้ว่า ใช่เลย ใช่เลย ใช่เลย!!
..อ่า นี่สินะคนที่ฟ้าลิขิตมาให้ไอ้ปอร์เช่ !
ผมกำลังลอบสังเกตการณ์ใบหน้าด้านข้างของเป้าหมายที่หันไปพูดคุยกับผู้ชายที่นั่งข้างๆ..แล้ว..!! แล้ว!! ก็หันไปประกบจูบแสนเร้าร้อนกลางที่สาธารณะชน!!
ถึงแม้ที่พวกเขานั่งจะเป็นมุมอับก็เถอะ แต่ผมก็เห็น!! ไม่นะ! เทพีของผม!! เห็นทีถ้าไม่ทำการรุกจีบขั้นแอดวานซ์ ถ้าจะโดนหมาคาบไปรับประทานชัวร์เลย
ไม่ทันที่สมองจะได้คิดอะไรมากมาย ด้วยสติที่ผสมแอลกอร์ฮอลกำลังกรึ่มๆ ได้ที่ของผม มันสั่งการให้ก้าวเท้าขวาของผมและเดินตรงไปยังโต๊ะของเป้าหมาย..
Phoon’s
“ฮัลโหล.. ว่าไง.. เออถึงแล้ว.. ขอล็อครถก่อนได้มั้ยวะ”
ติ๊ด!
“แมร่ง จะรีบไปตามควายที่ไหนว่ะ”
ผมบ่นพึมพำกับตัวเองหลังจากที่เพิ่งวางสายจากเพื่อนรักสดๆ ร้อนๆ ผมมองไปยังผับสุดหรูอันเป็นที่สร้างรายได้งามๆ ให้ผมได้ไปคลอดพอร์ชลูกรักของผมคันนี้มาขับกินลมชมวิวผลาญน้ำมันและเงินในกระเป๋า
สองเท้าผมเข้ามาหยุดในตัวผับ ตลอดทางต่างมีสายตาจับจองมาที่ผมอย่างหิวกระหาย พวกสัตว์กินพืช คิดจะเด็ดดอกฟ้า? มองแล้วเก็บไปชักว่าวเถอะพวกมึง ผมกวาดสายตามองหาเป้าหมาย หรือก็คือเพื่อนสนิทผมนั่นเอง และไปสะดุดเข้ากับมุมอับของผับ
เข้าใจเลือกที่นั่งนะมึง
เมื่อเจอเป้าหมายก็เดินตรงดิ่งไปยังโต๊ะอันเป็นแหล่งส่องสุมทันที
“ไง! กว่าจะมานะมึง”
การ์ดเพื่อนผมทักมาทันทีที่ผมเดินถึงโตะ
“ก็มึงนัดกูสี่ทุ่ม”
ผมเถียงกลับไป ก็มันนัดผมสี่ทุ่มจริงๆ นี่ ผมก็กะจะออกจากคอนโดประมาณสามทุ่มครึ่ง แต่มันดันโทรตามผมตั้งแต่สองทุ่ม แถมยังเร่งอีกต่างหาก ใครกันแน่ที่ผิด?
“ก็กูเปลี่ยนใจ!”
การ์ดพูดออกมาอย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะหันไปซบอกหนุ่มหล่อข้างกายที่นั่งฟังเราสองคนถกเถียงกันมาสักพักได้แล้ว และอีกคนที่นั่งห่างจากไอ้การ์ดไปนิดหน่อย
“หวัดดีครับ ผมฝุ่น”
ผมแนะนำตัวอย่างมีมารยาทและยิ้มอย่างเป็นมิตรไปให้
“หวัดดีครับ ผมเอ็มพ์”
คนที่ยอมให้ไอ้การ์ดซบอกพูด ก่อนจะชี้ไปที่คนที่นั่งข้างๆ จุดผมยืนอยู่
“..นั่น เพื่อนผมครับ ฟิวส์”
คนถูกแนะนำตัวส่งยิ้มมาให้ผม แล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นมือขวามาตรงหน้าผม
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
ผมส่งยิ้มใสซื่อพร้อมกับยื่นมือไปจับมือของอีกคน ที่ไม่จับเปล่า แต่กลับลูบมือผมเบาๆ เป็นเชิงเชิญชวน..
ผมค่อยๆ ชักมือออกอย่างช้าๆ แบบเหนี่ยมอาย? อยากจะขำแฮะ คิก คิก! J
30 นาทีต่อมา
“เอ็มพพพพพพ์ การ์ดอยากกลับแล้วววว”
เสียงอ้อแอ้ของไอ้การ์ดดังขึ้นข้างๆ หูผม.. มันคุยผิดคนครับ กูไม่ใช่เอ็มพ์ สัส!
“ไอ้การ์ด เอ็มพ์ของมึงอยู่นู้น!”
ผมไม่ว่าเปล่า ผลักหัวไอ้การ์ดไปซบไหล่ไอ้เอ็มพ์ตามเดิม สองผัวเมียก็นัวเนียกันต่อ ก่อนที่จะหายไปเข้าห้องน้ำทั้งคู่ แล้วเหลือผมกับไอ้ฟิวส์แค่สองคน
เราทั้งคู่นั่งเงียบๆ ดื่มกันไปสักพักจนเหล้าในขวดเริ่มลดไปมากพอสมควร คนข้างๆ ผมจึงเปิดประเด็นขึ้นมา
“ฝุ่นมีแฟนรึยังครับ?”
ผมกระดกสุรานำเข้าราคาแพงเข้าปาก ก่อนจะวางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะแล้วหันไปทำตาเยิ้มยิ้มหวานกลับไป
“ฟิวส์ถามฝุ่นทำไมเหรอครับ?”
ผมตอบคำถามของฟิวส์ด้วยคำถามของผม
“ผมก็แค่.. คิดว่าฝุ่นน่าสนใจดีน่ะครับ”
ฟิวส์ตอบกลับผมพร้อมกับส่งยิ้มจริงใจจอมปลอม? มาให้
..คิก คิก! มุกเก่าจังเลยน้า
“เหรอ.. ชอบฝุ่นเหรอครับฟิวส์?”
ผมถามก่อนจะค่อยๆ ยื่นหน้าไปใกล้ๆ จนลมหายใจที่มีกลิ่นแอลกอร์ฮอลของเราทั้งสองคนเริ่มเป็นหนึ่งเดียวกัน
“ถ้าผมบอกว่าชอบล่ะ..”
แสงแหบพร่าของอีกฝ่ายเอ่ยขึ้น พร้อมกับมือหยาบกร้านที่เริ่มอยู่ไม่กับที่ที่ควรจะเป็น ผมยกสองมือโอบรอบคอของอีกฝ่ายให้ขยับเข้ามาใกล้ขึ้น
“ผมก็จะทำแบบนี้..”
สิ้นเสียงหวาน ผมจรดริมฝีปากของผมลงบนริมฝีปากของอีกคน ซึ่งชะงักไปนิดเหมือนกำลังอึ้งกับสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ ปลายลิ้นแสนเชี่ยวชาญของผมค่อยๆ ไล้และดูดเม้นไปตามริมฝีปากล่างของอีกฝ่ายให้เปิดทางเพื่อที่ผมจะเข้าไปสำรวจความหวานและลิ้มรสแอลกอร์ฮอลจากข้างใน ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายพยายามจะต่อสู้กับผมเพื่อที่จะเป็นฝ่ายรุกล้ำเข้ามาบ้าง..
แต่ว่านะ.. เรามันคนล่ะชั้นกันครับที่รัก!
“อื้อ..”
เสียงประท้วงจากคนข้างกายของผม ทำให้ผมรู้ว่าควรหยุดจึงพละออกมา ก่อนที่จะหมดอากาศหายใจและขาดใจตายไปเสียก่อน
..อ่อนชะมัด!
ปึง!!
เสียงบางอย่างกระทบกันขัดอารมณ์สนุกสนานกับของเล่นชิ้นใหม่ของผม ก่อนจะหันไปตามเสียงแล้วพบมือเรียวขาวสวยเหมือนคนที่ไม่เคยทำงานอะไรเลย.. พวกคุณหนูสินะ?
ผมค่อยๆ ไล่สายตาจากมือเนียนไปตามแขนเรียว.. ไหล่บาง.. และใบหน้าแสนหวาน ริมมฝีปากแดงสด จมุกโด่งรั้นเชิด
.. หืม อันใหม่นี่น่าสนใจกว่าแฮะ แถมมาเสนอถึงทีเชียว
“มีอะไรกับผมเหรอครับ?”
ผมค่อยๆ พลักฟิวส์ออกก่อนจะลุกขึ้นยืนไปประจันหน้ากับสาวสวย? หนุ่มสวย?? จะเรียกยังไงดีเนี่ย?
“หวัดดี! กูชื่อปอร์เช่! มาเป็นเมียกูซะ!!”
ห๊ะ!?!... ประโยคเมื่อครู่ทำผมอึ้งไปเล็กน้อยถึงค่อนข้างมาก.. มั้งนะ
.. เอ่อ ถ้าผมฮาแตกใส่หน้าไอ้เด็กนี่ หรืออยู่ดีๆ ผมล้มกลิ้งลงไปหัวเราะที่พื้นจะผิดมั้ยเนี่ย? ฮ่าๆๆๆๆๆ อะไรจะตรงขนาดนี้!!
“เอาซี่! ถ้านายคิดว่านายสามารถทำให้ฉันเป็นเมียได้!!”
ผมตอกกลับไปพร้อมกับกรีดยิ้มหวานไปให้
.. แล้วเราจะได้รู้ ว่าใครเป็นเมียใครกันแน่ เด็กน้อย คิก คิก!
Porsche’s
ปึง!!
ทันทีที่ถึงโต๊ะของคู่กรณี ผมทำการฟาดฝ่ามือพิฆาตลงบนโต๊ะหรูอย่างเต็มกำลัง.. เพื่อจะได้ขัดฉากจูบสุดแสนจะเร้าร้อนและ..
กูอิจฉา!! ฮึ้ย!
ทั้งสองคนตรงหน้าผมค่อยๆ พละออกจากกัน ก่อนที่เป้าหมายของผมจะใช่สายตาสวยหวานเยิ้มนั่น ค่อยๆ ช้อนสายตามามองหน้าผม
“มีอะไรกับผมเหรอครับ?”
เนื้อคู่ของผมผลักชู้รักข้างกายออก ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงง่ายๆ ฟังสบายๆ เหมือนเรื่องที่มันคล้ายๆ กับการซื้อปลาทูให้แมวกิน..
ซึ่ง!! สำหรับตัวผม.. ทำไมเนื้อคู่ทำแบบนี้ ฟ้าได้ลิขิตให้เรามาเจอกัน! ให้มีผมคนเดียวไม่พอใช่มั้ย!?! ถึงได้หนีไปหาชู้น่ะฮะ! หึ.. เห็นทีจะรอช้าไม่ได้ ไอ่ปอร์เช่ขอจัดหนัก!
“หวัดดี! กูชื่อปอร์เช่! มาเป็นเมียกูซะ!!”
ผมตะคอกลั่นกลางร้าน ทำให้ผู้คนหันมามองที่เราเป็นจุดเดียวกันอย่างสนใจใคร่รู้ ง่ายๆ อยากเสือกสอดรู้กันเต็มที่
ผมพูดประโยคเมื่อครู่พร้อมกับจ้องตาสีน้ำตาลสวยที่ตอนนี้ดูหวานเยิ้มเพราะฤทธิ์ของสุรา คนตรงหน้าชะงักไปนิด ก่อนจะเสมองไปอีกทางเอามือปิดปากเหมือนกับสิ่งที่ผมพูดมันตลก..
ตลกเหรอ!?! นี่จากใจผมเลยนะเว้ย!
“เอาซี่! ถ้านายคิดว่านายสามารถทำให้ฉันเป็นเมียได้!!”
อีกคนตอบกลับมาด้วยร้อยยิ้มของผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า.. เอาซี่ เหนือกว่าก็ตอนนี้แหละว่ะ ยังไงเดี๋ยวก็อยู่ใต้ร่างเราเมื่อถึงเวลา หึหึ J
“เดี๋ยวรู้กัน!!”
Shin’s
@ Bangkok, Thailand
“ไอ้เหนือ ทำไมทำหน้าซังกะตายแบบนั้นว่ะ”
ผมถามเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผมที่เอาแต่นั่งเงียบตั้งแต่สนามบินขึ้นเครื่องยันลงเครื่อง มันก็ยังไม่เลิกทำหน้าเหมือนโดนหวยแดก อกหัก รักช้ำ นั่งทำมิวสิคหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถ
“มึงก็ดูสิ รถก็ติด น่าเบื่อ กูไม่มีอารมณ์มานั่งอุดอู้อยู่ในรถทั้งวันหรอกนะ”
มันหันหน้าพูดกับผม พอพูดจบมันก็ทำการถั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ หนักๆ ที่แม้แต่คนขับรถหรือผมยังได้ยิน แล้วมันก็หันไปทำมิวสิคต่อ..
เออ เอาดิ่วะ! ถอนหายใจแม่งให้เป็นไซนัสไปเลยแม่ง! ยังไงกูก็เพื่อนมึงวะ ถ้ามึงเป็นไซนัสจริงๆ กูจะพามึงไปหาหมอเอง ไปไหนไปกันดิ่! อย่างน้อยที่กูตามมาอยู่เป็นเพื่อนมึง ก็คอยห้ามเวลามึงทะเลาะกับพ่อกับน้องมึงไม่ให้ผูกคอตายล่ะวะ!!
เห็นแบบนั้นผมก็เลยหยิบไอพอดขึ้นมาเสียสายเฮดโฟนเพื่อเปิดเพลงฟัง แล้วจิ้มๆ กดๆ สองสามที นั่งฟังเพลงไปเพลินๆ ก่อนที่รกเก๋งสีดำคันงาม อันเป็นราชรถของตระกูลไอ้เหนือฟ้ามันจะมาจอดที่หน้าคฤหาสน์ของผู้ดีอันมีจะกิน
ทันทีที่รถหยุดก็มีคนใช้ทั้งหลายมาต้อนรับก็จะเปิดประตูให้คุณชายเหนือฟ้าเสด็จลงจากราชรถ ผมเหลือบไปมองหน้ามันนิดหน่อย เห็นเพื่อนรักทำหน้าเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เหมือนอมขี้ไว้ในปาก
เฮ้อ.. สงสารมันจริงๆ กูหวังว่าสักวันมึงคงจะได้คายขี้ที่อมไว้นะ
พอเดินเข้ามาในตัวบ้าน.. คฤหาสน์สิ ไม่นานก็มีสาวใช้วัยยี่สิบปลายๆ(ละมั้ง) เดินเข้ามาคุยอะไรสักอย่างกับไอ้เหนือ ทำให้มันยิ่งทำหน้าเหมือนโดนบังคับให้กลืนขี้เข้าไปอีก ส่วนผมจะทำไรได้ครับ เรื่องของพ่อลูกเขา เรามันคนนอก ก็ต้องหลบฉากสิ่ครับ
“เฮ้ออออ”
ทันทีที่ประตูเปิดเจ้าเพื่อนรักทำการถอนหายใจรอบที่ล้านของวันนี้ ขัดอารมณ์สุนทรีย์กูนะครับเนี่ย คนอ่านหนังสือกำลังเพลินๆ
“เป็นไรวะมึง?”
ผมเอ่ยปากถามไป แต่ในหัวก็คิดว่าคงไม่พ้นเรื่องพ่อมันเอง
“ตามเคยว่ะ เฉยเมยกับกูไม่เปลี่ยน”
“เอาน่า มึงก็รู้ พ่อมึงเป็นยังไง อย่าถิอสาแกเลย”
“กูไม่ถิอสาแกมา 10 ปีแล้วนะเว้ย!! มันแย่มากเลยหรอ กะอีแค่สนใจกูบ้าง พูดดีๆ กับกูบ้างเนี่ย!”
น้ำเสียงเกรียวกราดถูกพ่นออกมา ผมคิดว่าถ้าในมือมีขวดแก้วมันคงพาลเอามาตีกะบาลผมแตกชัวร์ คิดแล้วก็ไม่รู้จะพูดยังไง เลยส่ายหัวน้อยๆ ไปให้ ก็ไม่รู้จะทำยังไงนี่หว่า มึงหัวเสียทุกครั้งเป็นเรื่องปกติจนกูชินตามชื่อแต่เขียนคนล่ะอย่างคนล่ะความหมายแล้วโว๊ยยย
ผ่านไปสักพักบรรยากาศรอบตัวผมเริ่มเงียบ เพราะเพื่อนตัวปัญหาผมมันออกไปสูบบุหรี่เอาควันเข้าปอดให้แม่งตายไวขึ้นที่ระเบียงห้องข้างนอก ผมเลยหันมาอ่านหนังสือต่อสักพัก ก่อนจะขี้เกียจเลยหันมานอนแทน
เดี๋ยวยังไงคืนนี้ก็ต้องออกไปเซอร์เวย์สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อเรื่องสาวสวยหุ่นเอ็กซ์ๆ กันสักหน่อย นอนเอาแรงดีกว่าเนอะ เผื่อคนนี้จะได้ออกศึกไปตีเมืองจัน J
@ AS Club.
คลับดังมีระดับสุดหรูใจกลางเมือง อันเป็นแหล่งรวบรวมเหล่าผู้ดีมีเงิน เซเลบ ดารา นายแบบ นางแบบทั้งหลาย
บัดนี้ได้เกิดอาเพศ..ก็ว่าได้ล่ะมั้ง?
ณ ใจกลางคลับหรู บังเกิดชายหนุ่มหน้าตาดีหล่อเหล่า? ให้เรียกว่าสวยงามอาจเหมาะสมกว่ากระมัง - -‘’
ทั้งสองคนยืนปะทะคารมกันอย่างรุนแรง ทำให้เกิดการชุมนุมครั้งยิ่งใหญ่ เหล่าผู้คนทั้งชายหญิงต่างมองคนสองคนด้วยสายตา เสียดาย อิจฉา ฟิน(?)
เฮ้อ.. ก็แหม่ คนสวยมาได้กันเองเนี่ยนะ? เสียดายชะมัด
“เดี๋ยวรู้กัน”
ร่างสูงโปร่งที่มีหน้าตาสวยงามราวกับเทพไซคีเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจเสียเต็มประดา ทำเอาฝุ่นคนนี้ชักหมั้นเขี้ยว อยากปราบพยศคนตรงหน้าซะเหลือเกิน
“หือ.. นั่นสินะครับ เดี๋ยวก็ได้รู้”
..เฮ้ยๆ.. พูดมาไม่ได้ดูหน้าตาเลยนะเด็กนี่ ใครกันแน่ที่สมควรจะเป็นเมีย ไม่ได้ดูหน้าตาตัวเองเล้ยย อยากจะขำชะมัด ให้ตายสิ!
ฝุ่นแอบนินทาคนตรงหน้าในใจ ก่อนจะกรีดยิ้มหวานจนตาหยี๋ รอยยิ้มที่ทำให้หลายๆ คนร่วงหล่นไปสู่กับดักแสนหวานที่อำพรางอยู่ภายใต้รอยยิ้มที่ดูสวยงาม
จบประโยค มือเรียวของฝุ่นตรงเข้าไปคว้าแขนบางของปอร์เช่อย่างรวดเร็ว ทำเอาอีกคนตกใจถึงกับสะดุ้งทันทีที่มือบางอุ่นๆ นั่นคว้าเข้าที่แขนตน ไม่รอช้า ฝุ่นกระชากแขนบางให้เข้ามาประชิด
สมองยังไม่ทันประมวลสถานการณ์ตรงหน้า เมื่อรู้สึกตัวอีกทีก็เหมือนกับมีอะไรแปลกปลอมเข้ามาในโพรงปาก ปอร์เช่เบิกตากว้างตกใจกับสิ่งแปลกปลอมที่รู้สึก มันคือลิ้น!!
“อือออ!!”
เล่นทีเผลอเหรอวะ!!!
เพราะปากถูกปิด จะทำอะไรได้นอนกจากสบถด่าในใจ คนถูกล่วงล้ำไม่ได้คิดอะไรมากมายกับการถูกขโมยจูบครั้งนี้ แต่กลับเจ็บใจนิดหน่อย รู้สึกเสียศักดิ์ศรีที่ปล่อยให้อีกคนที่น่าจะเป็นฝ่ายตามดันเปิดโอกาสให้มารุกใส่ตนอย่างรุนแรง และเพื่อนไม่ปล่อยให้คนที่ล่วงล้ำเข้ามาได้ใจเกินไป เจ้าถิ่นอย่างปอร์เช่เองก็เกี่ยวกวัดลิ้นสู้ไม่ถอยเช่นกัน
ไม่นาน ริมฝีปากทั้งคู่ก็พละออกจากกัน ใบหน้าหล่อคมแต่แอบซ่อนความหวานค่อยๆ ขยับใบหน้าไปใกล้ๆ ใบหูบาง มือเรียวสวยของฝุ่นค่อยๆ ลูบไล้ปลายคางของปอร์เช่เป็นเชิงหยอกล้อกึ่งท้าทาย
“นี่.. มัดจำ จีบกูติดเมื่อไหร่ค่อยมาคร่อมกูนะครับที่รัก!”
สิ้นเสียงหวานพร้อมร้อยยิ้มพิฆาตใจประจำตัวของฝุ่น ร่างของปอร์เช่ก็ถูกพลักออก ก่อนที่ร่างของฝุ่นจะเดินหายออกไปจากคลับสุดหรู แต่ก็มิวายยังมีสายตาของเหยื่อโง่ๆ อย่างไอ้ปอร์เช่มองอย่างหยาดเยิ้มตามจนสุดสายตา
“พ่อครับ.. ผมเจอคู่ชีวิตผมแล้วครับ!!”
..TO BE CON..
the end :: chapter 1
Mr.Question
ความคิดเห็น