คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ยอมจำนน
ณ โถงพระวิหาร สตรีในชุดสีดำกำลังจ้องมองภาพของกลุ่มอันเดดแห่งฟารอนกำลังเคลื่อนทัพผ่านคลื่นภาพคล้ายผิวน้ำรูปวงรีที่ลอยอยู่ตรงหน้า
ร่างงามนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทีสบายประดับรอยยิ้มมุมปาก ทว่ารอยยิ้มนั้นก็ต้องหุบไปทันทีเมื่อมีผู้มาเยือน
{ ถูกบุกรุกโดยคมหอกแห่งพระวิหาร Pac43 } ร่างสูงใหญ่สวมเกราะนักรบแห่งพระวิหารปรากฏกายขึ้นพร้อมออร่าสีน้ำเงินแดง
“ นายยังใส่ชุดประหลาดนั่นอยู่อีกเหรอ? ” เธอกล่าวเสียงเรียบพลางไล่สายตามองตััวตนตรงหน้า
“ เขาเรียกว่าแฟชั่น ” เขาส่งเสียงอู้อี้จากในหมวกเกราะก่อนหันมองภาพของกองทัพอันเดด ลำแขนแกร่งยกขึ้นกอดอก
“ มาถึงนี่แล้วเหรอเนี่ย? ความสนุกกำลังจะเริ่มเลยนะ ” ในฐานะผู้เป็นต้นกำเนิด อนาคตที่กำลังจะเกิดนั้นไม่ใช่อะไรที่เกินการรับรู้ของเขาเลย
รอยแยกของมิติและเวลาปลดปล่อยความมืดที่คลุ้มคลั่งออกมายังโลกที่ไร้ซึ่งไฟนี้
เหล่าอันเดดทยอยกันออกมาจากรอยแยก โลกอันแปลกประหลาดที่ไม่มีกองไฟให้ผสานตััวเอง แต่พวกเขารู้สึกได้…ถึงความมืด
แค่กๆ*- “ แม่คะ โอเคไหม? ” เด็กน้อยกล่าวถามมารดาที่ตั้งแต่กลับมาก็ป่วยไม่มีแรงขยับตัวแถมยังไอไม่หยุด
“ เธอเป็นไงบ้างเหรอ? ” ชายแก่เดินเข้ามาดูอาการ
“ ไม่ดีขึ้นเลยค่ะ ” ตอนนี้คนในหมู่บ้านพากันติดไข้ป่าไปมากแล้ว เหลือคนที่แข็งแรงอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ ทุกคน!! ทุกคน มีกลุ่มอัศวินกำลังมาทางนี้ ” เสียงตะโกนดังลั่นหมู่บ้านดึงความสนใจจากทุกคนไป กลุ่มอัศวินมากมายที่สวมเกราะประหลาดเดินพาดดาบขนาดใหญ่บนบ่า
“ พ-พวกท่านมีธุระอะไรกับหมู่บ้านห่างไกลเช่นนี่รึ? ” … พวกเขาไม่ตอบ เพียงแค่หันมองสภาพหมู่บ้านที่มีจำนวนคนเพียงหยิบมือ
แค่กๆ*- ทั้งกลุ่มหันขวับไปทางต้นเสียงเมินเฉยชายหนุ่มตรงหน้า
หมับ!*- ฝ่ามือหนาคว้ากำคอของมนุษย์เฒ่าก่อนคมดาบหนาจะแทงทะลุร่าง ทว่าร่างที่ควรจะตายไปแล้วกลับสั่นครืนพร้อนกันกับที่มวลสารสีดำเอ่อล้นออกจากร่าง นั่นคือความมืด
ตึง! โครม!!*- เหล่าอันเดดฟาดดาบยักษ์ในมือสังหารความมืดนั้นทิ้งแล้วก้าวต่อไปยังเป้าหมายใหม่
เสียงร้องของผู้คนถูกกลบทับด้วยเสียงของใบดาบและเลือดเนื้อ จะใครก็ไม่มียกเว้น เด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ ใครก็ตามที่ถูกความมืดเข้าสิงสู่จะต้องถูกกำจัด
ที่อีกฝั่งของป่า กลุ่มโจรเข้ามารวมตัวกัน
“ มีพวกอัศวินจากเมืองหลวงมาป้วนเปี้ยนเยอะมาก อย่าทำอะไรโจ่งแจ้งจะดีกว่านะ- แค่กๆ ” คนที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าเหมือนคนขาดน้ำแถมยังไอออกมาเป็นระยะ
“ ลูกพี่ดูไม่ดีเลยนะครับ ” หนึ่งในลูกน้องเอ่ยท้วงถามอย่างเป็นห่วง
“ ไม่เป็นไร อะแฮ่ม*-แค่ไข้ป่าไม่นานก็หาย ”
“ ลูกพี่มีกองทัพติดอาวุธตรงมาทางนี้! ” บานประตูถูกกระแทกออกอย่างแรง
“ อะไรกันวะ? ”
ภาพของกองทัพสวมเกราะถืออาวุธหนักเดินทัพเรียงแถวยาวทอดผ่านแนวป่าไป หนึ่งในกลุ่มโจรเผลอสบตากับหนึ่งในนั้น ทั้งกองทัพหยุดชะงักก่อนจะหันไปยังทิศเดียวกันซึ่งก็คือพวกเขาเอง
“ ซวยแล้วไง ”
“ จัดแนวรบ!! จัด- ”
⁂
“ เจ้าถูกจับแล้ว โทษฐานทำร้ายผู้กล้าถือเป็นกบฏต่อจักววรดิ! ” อัศวินนายหนึ่งชักดาบชี้ใส่เขา เนมเลสไม่ได้ตอบโต้ เพียงแค่ยืนอยู่นิ่งๆเท่านั้น
“ ยอมจำนนซะ เจ้าไปไหนไม่รอดหรอก! ” กลุ่มอัศวินเดินล้อมรอบตัวเขา
“ เกิดอะไรขึ้น ” ยูริที่ตามเอ่ยถามด้วยความฉงน คนพวกนี้มาได้ยังไง? ตอนที่มาก็มีแค่คนของเธอเอง แล้วอัศวินจากเมืองหลวงพวกนี้รู้ได้ยังไง
“ มันถูกต้องสงสัยว่าเป็นพวกบูชาจอมมารครับ แถมยังทำร้ายท่านผู้กล่าอีก ” เนมเลสยังคงนิ่งเงียบไม่ขยับไปไหน แต่จู่ๆเขาก็ยกมือขึ้นเหนือหัวยอมให้ถูกจับกุมไปแต่โดยดี
“ อะไรกัน สู้สิเนมเลส!! ” โซอี้ที่วิ่งตามหลังมาเห็นภาพนี้เข้า อันเดดหนุ่มถูกพาตัวขึ้นรถม้าโดยมีอัศวินคอยควบคุม
“ ถอยไปนักผจญภัย คนคนนี้จะต้องถูกตัดสินโทษที่เมืองหลวง ท่านผู้กล้าครับ ” ประโยคสุดท้ายเขาหันไปพูดกับสองพี่น้อง พวกเธอก็จำใจกลับเมืองหลวงตามไป
“ ข้าขอถอดหมวกออกนะ ” อัศวินนายหนึ่งที่นั่งคุมเขาในรถม้าเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรขณะพยายามจะแกะเอาหมวกเกราะออก
“ คึก- แน่นมาก… ” แม้จะพยายามออกแรงกัดฟันแน่นจนเจ็บกรามก็ยังไม่สามารถถอดมันได้
“ เฮ้อ ” ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงอีกฝั่งอย่างอ่อนแรงแล้วสักพักก็ดีดตัวขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
“ เจ้ามาจากไหนเหรอ? ”
“ … ” ไม่มีเสียงตอบรับ
“ ข้าชื่อเอนิสนะ เจ้าล่ะ? ”
“ … ” ก็ยังคงไม่มีการตอบกลับอยู่ดี
“ เจ้า…คงพูดไม่เก่งสินะ ” สุดท้ายเขาก็ตัดใจจนได้
เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสซื้อมาเล่น อาจลงช้ากว่าเดิมหน่อยนะครับทั้งที่ปกติก็ช้าอยู่แล้ว
\( ̄︶ ̄ \)
ความคิดเห็น