ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { 4033A } Lost ashes

    ลำดับตอนที่ #4 : กองไฟ

    • อัปเดตล่าสุด 25 ม.ค. 66


    “ นี่ พวกเราเดินกันมาสี่ชั่วโมงได้แล้วนะ พักหน่อยเถอะ ” โซอี่เอ่ยขณะเดินลากขาตามอัศวินหนุ่มที่กำลังทิ้งห่างไปเรื่อยๆ

    เขาพาเด็กหญิงไปอยู่ในความดูแลของโบสถ์ นอกจากแม่ชีคนนั้นแล้วยังมีเด็กคนอื่นอยู่ที่นั่นอีก ส่วนเกวียนก็ให้เป็นของโบสถ์ไป

    สาเหตุการเดินทางครั้งนี้เกิดจากการที่เอลฟ์สาวเสนอให้เขาไปยังโลเวียน่าพร้อมกับเธอ แม้จะบอกไม่ได้บอกเหตุผลแต่อย่างไรก็ไมมีความจำเป็นต้องปฏิเสธ อยู่ที่โบสถ์เขาก็ไม่ได้มีหน้าที่อะไรอยู่แล้ว

     

     

    “ นี่⁓ จะมืด…แล้วนะ ” ด้วยการเดินทางจากเช้าจรดเย็นที่ไม่มีพัก เธอแทบไม่เหลือแรงจะเดินแล้วแถมเท้าก็ยังปวดจนคิดว่าถ้ามากกว่าจะเดินไม่ได้เอา

    ( อะไรของหมอนั่นกันเมืองมันไม่ย้ายหนีไปไหนสักหน่อย! )

    ขี้เถ้าหนึ่งเดียวหันกลับมามองเอลฟ์สาวอย่างนึกรำคาญในใจ ถ้าเดินเท้าไปด้วยความเร็วเท่านี้ต่อก็น่าจะถึงภายในคืนนี้แล้ว ข้างหน้าก็มองเห็นเมืองอยู่รำไรแท้ๆ

    สุดท้ายทั้งคู่ก็ไปพักกันข้างทาง เขาทิ้งตัวลงบนหินก้อนใหญ่รอเวลาให้เอลฟ์สาวสามารถเดินทางต่อได้ ขณะไล่สายตามองสำรวจรอบตัวโซอี้ก็เริ่มทำในสิ่งที่อันเดดตนนี้ต้องแปลกใจ

    เธอเอากิ่งไม้มากองรวมกัน นำกิ่งไม้สองท่อนมาถูกันและด้วยแรงเสียดสีจึงเกิดควันขึ้น จนกระทั่ง

    ไฟถูกจุดขึ้น

     เอลฟ์สาวพ่นลมออกจากปากดัง “ ฟู่ ” คลายความเกร็งจากการพยายามจุดไฟ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอัศวินก็มายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว ดวงตาใต้หมวกเกราะมองกองไฟที่ถูกจุดขึ้นไม่กระพริบ

    ไฟแห่งชีวิต? หรือไม่มันก็คงเป็นไฟแห่งความโกลาหล ฝ่ามือสวมเกราะเลื่อนเข้าใกล้กองไฟมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาสัมผัสกองไฟนั้นได้ เอลฟ์สาวดวงตาเบิกโพลงรีบชักมือของอัศวินหนุ่มออกทันที

    “ ทำอะไรของเจ้ามือเป็นแผลหมดแล้วมั้ง!? ไม่รู้จักไฟรึไงทำไมถึง… ” โซอี้ชะงักปากที่ตั้งใจจะด่าหลังสัมผัสถึงบรรยากาศแปลกๆจากคนตรงหน้า อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรแต่ความรู้สึกบางอย่างทำให้เธอคิดว่าเขากำลังเศร้าหรืออะไรประมาณนั้น ด้วยไม่รู้จะทำอย่างไรจึงปล่อยให้อีกฝ่ายใช้เวลาอยู่กับตัวเองต่อไป

    ต่อให้ไม่คาดหวังก็ยังผิดหวัง มันไม่ใช่ไฟแห่งชีวิตที่เขาตามหา ไม่ใช่แม้กระทั่งไฟแห่งความโกลาหลด้วยซ้ำ มันเป็นแค่บางสิ่งที่เลียนแบบไฟไม่มีทั้งความร้อนหรือความอบอุ่นเลยสักนิด

    ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นโลกที่ไร้ซึ่งไฟแล้วก็ได้ ในตอนที่สังหารโจรเหล่านั้นเองก็ด้วย วิญญาณที่เขาสัมผัสได้นั้นน้อยมากอาจจะแค่หนึ่งเองด้วยซ้ำ เป็นที่รู้กันดีว่าสิ่งมีชีวิตจะแข็งแกร่งได้จากการสะสมวิญญาณ ยิ่งวิญญาณมากก็ยิ่งแข็งแกร่งมาก

     

    แซก*- เสียงพุ่มไม้ขยับจังหวะเดียวกับที่หมาป่าตัวหนึ่งเดินแหวกพุ่มไม้ออกมา ไม่นานตัวอื่นๆก็ตามออกมา

    โซอี้รีบคว้าธนูก่อนจะดีดตัวขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้ อัศวินอันเดดยืนขึ้นคั่นกลางระหว่างฝูงหมาป่ากับกองไฟ

    กรรร!*- พวกมันส่งเสียงขู่ขณะก้าวเดินเข้ามาใกล้เพื่อข่มขวัญศัตรู ทว่าขี้เถ้าหนึ่งเดียวกลับไม่ขยับไปไหน ฝูงหมาป่าเองก็เริ่มเคลื่อนกายเข้ามาใกล้แล้วด้วย

    เอลฟ์สาวง้างสายธนูเตรียมยิง ตอนนี้พวกมันยังไม่เห็นเธอจึงได้เปรียบอยู่ หากอัศวินคนนั้นหยิบอาวุธเตรียมพร้อมเมื่อไหร่เธอจะยิงทันที

    “ เอ๊ะ! ” สายตาของเธอเลื่อนไปเห็นอาวุธประหลาดที่อัศวินคนนั้นถืออยู่ ขวานหินขนาดใหญ่พาดบ่าอยู่ หากสังเกตุให้ดีเมื่อครู่จะมีประกายไฟปรากฏอยู่เล็กน้อย

    พรึบ! เปรี๊ยะๆ*- ขวานยักษ์ถูกยกขึ้นเหนือศรีษะก่อนที่กระแสสายฟ้าจะไหลผ่านปลายขวานลงมาถึงแขน

    เปรี้ยง!!!!*- วินาทีที่ปลายขวานฟาดลงบนพื้นราวกับเห็นภาพสโลโมชั่น เส้นสายอัสนีผ่าลงสลักเกลียวแห่งสายฟ้าลงบนพื้นดิน แผดเผาร่างของหมาป่าและพื้นที่ใกล้เคียงให้มลายหายไปในพริบตา

    ขวานยักษ์พิฆาตมังกรทำหน้าที่ได้ไม่เคยบกพร่อง

     

    โครม!*-

    ด้วยแรงสั่นสะเทือนทำให้โซอี้ร่วงลงจากต้นไม้ มือซ้ายลูบหลังตัวเองป้อยๆจากผลของความเจ็บขณะที่มือขวาก็ปิดหูไว้ เสียงวิ้งจากฟ้าผ่าระยะประชิดยังดังอยู่ในหู

    “ เมื่อกี้มันอะไร!? เจ้าไปเอาของแบบนั้นมาจากไหน? ” เป็นคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบอีกตามเคย บุรุษในชุดเกราะคุกเข่าลงหน้ากองไฟที่ดับมอบราวกับกำลังคำนับให้มัน

    “ เจ้า… เศร้าเหรอ ให้กองไฟเนี่ยนะ? ” ดูเหมือนเธอจะชินกับการถูกอีกฝ่ายเมินเสียแล้ว

    “ กองไฟแค่นี้เดี๋ยวข้าทำให้ใหม่ก็ได้ ” …สำหรับโลกนี่มันก็เป็นแค่กองไฟสินะ แต่สำหรับอันเดดเช่นเขาไฟนี้เป็นเป้าหมายที่ต่อให้เสียสติก็ต้องบรรลุให้ได้ จะต้องเอาชนะแม้แต่ความตาย

    “ เฮ้อ⁓ เจ้าเผาพวกมันซะขนาดนี้เอาไปขายไม่ได้เลย ” เอลฟ์สาวเอ่ยตัดพ้อหลังเห็นสภาพศพของเหล่าหมาป่าที่แทบไม่เหลือชิ้นดี

     

     

    ช่วงสายของอีกวันทั้งสองก็เดินทางมาถึงโลเวียน่า มันเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ทำให้เค้านึกถึงโล-ทริค กำแพงสูงในระดับหนึ่ง สิ่งปลูกสร้างก็สูงใหญ่มีถนนและผู้คนมากมายอยู่ในเมือง มีแม่น้ำตัดผ่านบางส่วนของเมืองทำให้เมืองนี้เป็นรูปจันทร์เสี้ยวถัดจากนั้นเป็นวังขนาดไม่ใหญ่นักแต่ก็ยังคงความหรูหราอยู่

    “ ที่นี่แหละโลเวียน่า ข้าอาศัยอยู่ที่นี่แหละ ” โซอี้ภายมือโชว์ภาพของเมืองให้เขาได้เห็นเต็มตา ต้องยอมรับว่ามันสวยมากกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก

    “ ไปเร็ว เข้าไปกัน ” เธอจับจูงมือเขาให้เดินไปต่อแถวสำหรับตรวจคนเข้าเมือง ระหว่างกำลังรอเขาสังเกตุรอบข้างไปด้วย ในแถวมีคนที่มีอวัยวะหมือนสัตว์และคนที่มีเกล็ดเหมือนพวกมังกร

    โลกนี้มีแต่คนแปลก…

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×