คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ภูตอัญเชิญ?
[ “ อันเดด ” หรือที่คนทั่วไปนิยมเรียกว่าซอมบี้หรือผีดิบ พวกมันเป็นร่างไร้ชีวิต ถือกำเนิดทั้งการใช้เวทย์สายเนโครแมนเซอร์หรือการรวมตัวของอณูเวทย์มนต์ที่หนาแน่น โดยทั่วไปจึงพบได้ตามดันเจี้ยนหรือสุสานเก่าแก่บางพื้นที่
พวกมันจะอ่อนแอเมื่อสัมผัสกับแสงแดด เวทย์ไฟและศักดิ์สิทธิ์จะส่งผลรุนแรงจนถึงขั้นที่สามารถเผาร่างพวกมันได้ในพริบตา
และ “ กูล ” ก็คือขั้นวิวัฒนาการของอันเดด พวกมันจะมีสติปัญญามากขึ้นควบคู่ไปกับความสามารถทางกายภาพ บางตัวอาจถึงขั้นพูดและเข้าใจภาษามนุษย์ได้
พวกกูลมักถูกพบในบริเวณที่มีเนโครแมนเซอร์อาศัยอยู่และตามดันเจี้ยนชั้นสูงที่ทีมวลมานาหนาแน่นกว่าปกติ
อย่างไรก็ดี พวกมันยังคงแพ้แสงแดดและไฟไม่ต่างจากอันเดด… ]
ปึก*- ยูริปิดหนังสือเล่มหนาลงแล้วเอนกายพิงพนักพิง นิ้วมือเรียวบางนวดระหว่างคิ้ว
“ หรือว่าจะเป็นกูลกันนะ? ” เธอยกมือก่ายหน้าผากอย่างคนคิดหนัก ในหัวก็นึกถึงคำหนึ่งได้
“ อันเดดต้องสาป… อย่างนั้นเหรอ ” ร่างบางบิดตัวสะบัดไล่ความขี้เกียจออกไปเตรียมตัวออกจากห้องสมุดของวังหลวง
กึก*- เท้าที่กำลังจะก้าวหยุดชะงักกับที่ สัญชาตญาณร้องเตือนถึงอันตราย
ในขณะเดียวกันยูลินที่อยู่ในห้องส่วนตัวกำลงตวัดปากกาขนนกเขียนเรื่องราวที่เธอได้รับรู้จากความทรงจำของอันเดดหนุ่ม
[ วันนี้ความทรงจำของเขามันชัดเจนขึ้นแล้ว ฉันเห็นภาพเขาลุกออกจากโลงศพไปฆ่าสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “ฮอลโลว์” แล้วเดินทางต่อไปฆ่าอัศวินสูงสามเมตรอย่างรวดเร็ว ตรงไปยังสถานที่ที่เหมือนโบสถ์ ภายในมีกลุ่มคนอยู่จำนวนหนึ่งแต่เขากลับสนใจเพียงแค่ผู้หญิงในชุดสีดำ -
ปัง!*- ยูริพุ่งตัวกระแทกประตูเข้ามา ยูลินยังไม่ทันเอ่ยปากทักท้วงอะไรก็ถูกลากขึ้นมาอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า
“ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นให้ใช้เวทย์ลบตัวตนแล้วห้ามส่งเสียงนะ ” ยูริกำชับคนเป็นน้องสาวแล้วดันตัวเธอเข้าไปในตู้
“ ฟู่⁓ เสริมเวทย์ ” เธอผ่อนลมหายใจก่อนจะคว้าเอามีดสั้นขึ้นมาจากอากาศแล้วร่ายเวทย์พร้อมต่อสู้
เสียงฝีเท้าหลายสิบคู่กรูกันเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ โครม!*- ประตูไม้ถูกพังเข้ามาโดยฝีมือของกลุ่มคนในผ้าคลุมสีดำปกปิดมิดชิด ข้างใต้นั้นเห็นชุดเดราะเกล็ดสลาแมนเดอร์
ไม่รอให้อีกฝ่ายตั้งตัว ยูริถีบตัวพุ่งแทงมีดสั้นในมือทะลุศีรษะแล้วซัดเถ้าถีบใส่คนที่ตามหลังมาปลิวไปทับกับคนอื่น
ฟุ่ม!*- ผู้กล้าสาวยกมือรวบรวมอากาศไว้ในมือซ้ายก่อนจะปล่อยมันออกไปเป็นแรงอัดอากาศกระแทกใส่คนที่ไม่ทันระวังให้ปลิวร่วงออกนอกหน้าต่าง
ฟึบ! พรึบ*- ยูริก้มหลบใบดาบแล้วแทงสวนเข้าใส่บริเวณท้องของอีกฝ่ายจนล้มลง ม้วนกายหันกลับมาตวัดดาบใส่อีกคนที่เข้ามาด้านหลังด้วยกำลังเหนือมนุษย์เธอจึงสามารถตัดผ่านดาบของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
เธออาศัยแรงเหวี่ยงจากการตวัดดาบเมื่อครู่หมุนกายแทงมีดเข้ากลางอกของมันแล้วรวบรวมสายลมมาไว้ที่ปลายมีดปลดปล่อยสายลมที่รุนแรงระเบิดร่างออกเป็นชิ้นๆส่งผลออกไปถึงคนอื่นๆด้านหลังตัดเฉือนแขนขาออกไปเป็นเศษ
“ เสริมกำลังกาย,ไหวพริบ,ความเร็วกายภาพ ” เพราะต้องการจะปิดเกมโดยเร็วเธอจึงใช้บัฟเสริมความสามารถ ยูริคว้าดาบที่แตกหักปาออกไปปักคอพวกมันคนหนึ่งเข้า แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะเชยชมความสำเร็จ
เธอเคลื่อนกายอย่างรวดเร็วสังหารคนไปได้นับสิบ แต่ไม่ว่าจะสังหารไปเท่าไหร่ก็ดูเหมือนพวกมันจะไม่ได้ลดลงเลย
ฟุ่ม!!*- เธอระเบิดอากาศผลักพวกมันถอยออกไป ยูริอาศัยจังหวะนั้นคว้าดาบของคนที่ตายแล้วมาปาเข้าใส่พวกมันทีละคน วิชาที่เรียนมาจากแจ็ครู้สึกมีประโยชน์ก็วันนี้แหละ
“ อึก! ” มีดบินถูกปามาปักต้นขาของเธอจากมุมอับสายตา ร่างบางสะดุดล้มลงก่อนจะเอื้อมมือไปดึงมันออกแต่จู่ๆเรี่ยวแรงก็ดันหายไปหมด
ฉับ!*- ดาบยาวแทงทะลุท้องของเธอ ความรู้สึกเจ็บแปลบแล่นไปทั่วร่าง ด้วยฤทธิ์อัมพาตทำให้เธอไม่สามารถตอบโต้ได้ก่อนจะถูกจับมัดมือ-เท้า ปิดปาก-ตาเอาไว้
“ เอาผ้ากดแผลเอาไว้ อย่าให้นางตายเด็ดขาดนะ ”
“ แบบนี้นายหญิงต้องพอใจแน่ แล้วอีกคนอยู่ไหน ”
“ นางคงไปไม่ไกล รีบหาเถอะ ”
กรึก!*- ระหว่างที่พวกมันกำลังพูดคุยกันอยู่ยูริกำลังใช้เวทคลายสถานะอัมพาตแต่กลับถูกสวมปลอกคอไว้เสียก่อน เวทที่เธอกำลังร่ายไร้ผลรวมถึงเวทบัฟที่ร่ายไปเมื่อครู่ด้วย
ปลอกคอทาส!? เธอเคยใช้สิ่งนี้อยู่บ้างตอนที่ต้องจับกุมปีศาจ มันมีความสามารถในการดูดพลังเวทย์จากผู้ที่ถูกสวมเข้าไปไว้ในตัวมันคล้ายกับแบตเตอรี่ ยกเว้นแต่ว่าแบตฯนั่นจะไม่มีวันเต็มนะ
แต่นี่มันแปลกไปแล้ว ทำไมถึงไม่มีทหารในวังออกมาสักคนเลยล่ะ หรือว่าถูกพวกมันจัดการไปก่อนแล้ว?
โครม!*- เสียงของหนักกระแทกพื้นดังทั่วทางเดินก่อนเสียงรองเท้าเหล็กย่ำพื้นจะดังตามมา ร่างของบุรุษในชุดเกราะอัศวินดำครอบคลุมด้วยออร่าสีฟ้าย่างสามขุมเข้ามาใกล้
“ ตัวอะไรวะ!? ”
“ ภูติอัญเชิญเหรอ? ” หลังเห็นร่างไร้ชีวิตของสหายที่ถูกผ่าครึ่งกองอยู่บนพื้นพวกมันก็กรูกันเข้ามาใส่ร่างเรืองแสงสีฟ้าทันที
ดาบขนาดยักษ์ถูกเหวี่ยงออกไปด้านหน้าหมายจะตัดร่างพวกมันให้ขาด กลุ่มคนชุดดำก้มต่ำหลบการโจมตีไปได้แล้วอ้อมไปด้านหลังจนดาบยักษ์ฟาดเข้าใส่พื้นไปเต็มๆ ก่อนจะทันได้โจมตีสวนกลับใส่อัศวินเรืองแสงตรงหน้าพวกมันก็ถูกดาบยักษ์ฟาดเข้าใส่เสียก่อน
ตึง!!*- ร่างสีฟ้าออกแรงงัดดาบขึ้นจากพื้นตัดเฉือนร่างพวกมันไปได้หลายศพ
ปัก*- มีดบินอาบยาพิษปาเข้าใส่ช่วงข้อพับของร่างนั้นอย่างแม่นยำแต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่แสดงอาการอะไรแถมยังดึงมันออกมาปาสวนกลับไปได้อีก
หมับ!*- ฝ่ามือหนาสวมเกราะคว้าจับคอพวกมันคนหนึ่งเข้าก่อนใบดาบหนาจะตัดผ่านร่างอันน่าเวทนา
ดวงตาสีแดงวาวโรจน์ดุจเปลวเพลิงคลั่งสะท้อนในความมืดสร้างความกลัวให้เหล่านักฆ่าจนถึงกับเผลอก้าวถอยกลับโดยไม่รู้ตัว
ตึง!! โครม!!! อ้าากกกก!!!*- เสียงของการสังหารหมู่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เสียงคมดาบกระแทกพื้นดังลั่นทั่วทางเดิน
…พวกอัศวินมาแล้วเหรอ? ยูลินยังปลอดภัยอยู่รึเปล่า? ชาไปหมดขยับไม่ได้เลย… เลือดไหลเยอะขนาดนี้เราคงไม่รอด เจ้าปลอกคอนี่ก็ดูดพลังเวทย์เราออกไปเรื่อยๆเลย…
ตึก… ตึก… ตึก!*- เสียงฝีเท้าของใครสักคนเดินมาหยุดอยู่ข้างเธอ
กึก เคร็ง!*- ปลอกคอถูกปลดออก หรือถ้าพูดให้ถูกคือทำลายทำให้เธอพอจะต่อต้านสถานะอัมพาตได้บ้างแต่พลังเวทย์ของเธอแทบจะไม่เหลือให้ใช้แม้แต่เวทย์ฮีลระดับล่างแล้ว
ร่างของเธอถูกประคองให้นั่งพิงกำแพงเอาไว้ จากสัมผัสพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายสวมเกราะอยู่ ผ้าที่มัดตัวเธอค่อยๆถูกแกะออกจนกระทั่งผ้าปิดตาของเธอเลื่อนออกสิ่งที่อยู่ตรงหน้ากลับมีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น
“ ห๊ะ?… ” เธออดไม่ได้ที่จะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น รอบกายเธอมีแต่ซากศพนอนเกลื่อน ร่องรอยของบางสิ่งที่คมและหนากรีดเป็นรอยตามพื้นและกำแพง
“ พี่… ” เสียงของยูลินที่เพิ่งเดินออกจากห้องดึงสติของเธอกลับมา
“ แล้ว …คนที่ช่วยพวกเราล่ะ? ” ยูลินช่วยพยุงร่างของเธอขึ้นช้าๆ เมื่อได้ยินคำถามเธอก็เพียงแค่หันมาสบตานิ่งๆเท่านั้น
“ เขากลับไปแล้วค่ะ ”
{ ปฏิบัติหน้าที่สำเร็จ กำลังกลับร่างของคุณ }
ความคิดเห็น