คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ดาบแห่งจันทรคราส
“ นี่ตาแก่ มีเพื่อนมาอยู่ด้วยแล้ว คุยกันดีๆล่ะ …ถ้าเกิดมันยอมคุยด้วยนะ ” ตึง*- เนมเลสถูกดันหลังให้เข้าไปในกรงก่อนจะถูกปิดประตูไล่หลัง
“ … ” ความเงียบโรยตัวลงมาปกคลุมหลังกลุ่มทหารพาตัวเขามาส่งในห้องขังที่มีคนอยู่ก่อนแล้ว เขาเป็นชายแก่ผมหงอกรุงรัง ร่างกายเต็มไปด้วยรอยแผลแถมดวงตาซ้ายก็ยังบอดอีกด้วย
“ …เจ้าไปทำอะไรมาเหรอ? ลบหลู่พวกราชวงศ์หรือว่า- ” ตอนที่หันมองผู้มาใหม่เต็มตาชายชราก็ชะงักปากก่อนจะเพ่งพิจราณา
“ เจ้าดูไม่เหมือนนักโทษเลยนะ? ” ก็จริง จะมีนักโทษคนไหนใส่เกราะฟูลเพลตแบบนี้บ้างล่ะ
“ ตราบนเสื้อนั่นข้าไม่เห็นเลย มาจากต่างแดนรึ? ” เขาไม่ตอบ หันสายตาออกจากชายชราไปสำรวจห้องขัง โครงเตียงเปล่าขึ้นสนิม กลิ่นความชื้นและเหม็นสาบลอยอบอวลในอากาศ
“ ข้ามีนามว่าอลัน ยินดีที่ได้รู้จักนะ ” ทั้งสองจับมือกันเป็นการทักทาย เนมเลสเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงข้างชายแก่
“ …เจ้าคงผ่านอะไรมาเยอะสินะ น่าจะมากกว่าข้าด้วยซ้ำ ”ทั้งสองมองหน้ากันอยู่พักใหญ่ก่อนที่อลันจะเป็นฝ่ายพูดก่อน
“ อะไร ถึงตาข้าจะไม่ดีแต่ก็ยังไม่บอดหรอก มันเคยมองทะลุจิตใจของผู้อื่นได้ด้วยซ้ำ …แม้ว่าตอนนี้จะมืดมัวไปแล้วก็ตาม ” ไม่ว่าเปล่า อลันยักคิ้วอวดดวงตาสีเงินขุ่นมัว แต่ยิ่งพูดเสียงของเขาก็ยิ่งเบาลงเรื่อยๆ ดวงตาที่ฉายแววเจ็บปวดปรากฏขึ้นอย่างเด่นชัดแต่ครู่เดียวมันก็หายไป
“ แหม~ ข้าคอแห้งแล้วสิ เจ้าพอจะมีอะไรให้ดื่มไหม ” เขาลูบคอสื่อว่าต้องการน้ำจริงๆ เนมเลสหยิบเอาเบียร์(siegbrau)ขึ้นมาจากอากาศ มองเห็นสะเก็ดไฟลอยคลุมรอบแก้วอยู่พริบตาหนึ่ง
“ โฮ่ เจ้ามีเวทย์เก็บของด้วยรึนี่! ” ชายแก่ตาเป็นประกายก่อนคว้าเบียร์จากมือเขาไปกระดกรวดเดียวหมด …เชื่อเลยว่าคอแห้งจริง
“ ฮ่า~ สดชื่นจริงเชียว! ” กึก*-เขากระแทกแก้วเบียร์ลงบนพื้นแล้วยกมือขึ้นเช็ดปาก เนมเลสเองก็ทำเพียงแค่นั่งมองนิ่งๆเท่านั้นแต่คำพูดต่อไปของชายชรากลับดึงสนใจของอันเดดหนุ่ม
“ แด่พระอาทิตย์!! ” อลันตะโกนลั่นเหมือนอยากให้ทุกคนได้ยินก่อนที่จะได้ยินเสียงแว่วมาจากผู้คุมให้เขาเบาเสียงลง
( แด่พระอาทิตย์ ) เป็นคำที่ไม่ได้ยินมานานแล้ว หรือว่าจะมีอันเดดคนอื่นที่เป็นสาวกของลิทธิอัศวินแสงสุริยาอยู่ที่โลกนี้ด้วย
“ รู้รึเปล่าข้าน่ะนะเคยเป็นอัศวินยศสูงมาก่อน ได้รับฉายาว่าหมาป่าขาว ได้ทำงานใกล้ชิดองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีมาก่อนนะ …จนกระทั่งยัยนักบุญอะไรนั่นกับผู้กล้าโผล่มา ” พอเหล้าเข้าปากคอก็คล่อง มือไม้โบกไปตามเรื่องราวจนกระทั่งผ่านมาถึงครึ่งประโยคเขาก็ชะงัก อลันก้มมองต่ำขณะที่ดวงตาเลื่อนลอยออกไปราวกับมองออกไปยังที่ที่ไกลแสนไกล
“ นี่น่ะเหรอคนที่ข้าเห็นในนิมิต ” สตรีในชุดขาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหยิ่งทะนง เสื้อคลุมสีขาวสะอาดตาทำให้ร่างบางดูสง่าราวกับเทพธิดา ด้านหลังของเธอคืออัศวินในชุดเกราะสีเงินสลักลายสีทองดูน่าเกรงขาม
“ ครับท่าน มันทำร้ายผู้กล้าจนได้รับบาดเจ็บอย่างที่ท่านเห็นในนิมิตเลยครับ ” อัศวินที่นำตัวเขามาห้องขังเอ่ยตอบพลางก้มหัวให้อย่างเคารพ
“ แล้วจะรออะไรอยู่ ประหารมันไปเสียสิ! ” เธอเอ่ยอย่างเรียบเฉย อลันที่ก้มหน้าอยู่ลอบกัดฟันจนเห็นสันกรามนูนขึ้น ภาพของหญิงสาวจากความทรงจำปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง เขากำชับแก้วเบียร์แน่นจนสั่นพยายามกดข่มอารมณ์
“ ขออภัยครับแต่องค์จักพรรดินีประสงค์ให้ไว้ชีวิตเขาเพื่อสืบสวนเป็นการส่วนพระองค์ครับ ” เมื่อได้ฟังคำตอบสตรีในชุดขาวก็สะบัดหน้าเดินจากไปโดยไม่ลืมคำพูดทิ้งท้าย
“ เช่นนั้นก็ไสหัวไป ”
“ … ” หลังพวกเขาออกไปพักใหญ่ก็ยังคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชายชรายังคงไม่ขยับไปไหน ส่วนทางอันเดดหนุ่มก็ยังคงนั่งนิ่งไม่ต่างกัน
“ ฮึ่ม! เมื่อกี้ข้าถึงไหนแล้วนะ ” อลันกระแทกลมหายใจด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย แก้สถานการณ์น่าอึดอัด
“ พวกผู้กล้าสินะ พวกนางน่ะยังเด็กเกินไปแถมยังใสซื่อเกินไปอีกด้วย ไม่รู้เรื่องอะไรเลย- ”
“ พวกฉันไม่รู้อะไรเหรอ ” ยูริในชุดธรรมดาพูดขัดขึ้นเสียก่อน บนใบหน้าประดับอารมณ์โกรธเอาไว้เบาบาง
“ เฮอะ! ข้าพูดไปพวกเจ้าก็ไม่เชื่อ ” อลันยกยิ้มเย้ยหยัน มือสากส่ายแก้วเบียร์ไปมา
“ เนมเลสนายไม่ต้องอยู่นี่ก็ได้นะ ฉันได้ฟังเรื่องนายจากยูลินมาบ้างแล้ว นายจะไปจัดการความมืดอะไรนั่นใช่ไหมล่ะ ” ยูริเมินชายแก่ไปแล้วพุ่งเข้าตรงประเด็นที่เธอลงมาที่นี่
“ … ”
“ ฉันพานายออกมาได้ ออกไปเดินทางกับฉันแล้วปราบจอมมารด้วยกัน ”
“ ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆ ” อลันหลุดขำพรืดจนแทบขาดใจลงไปนอนกลิ้งอยู่กับพื้น
กึก! แอ๊ด⁓*- ยูริใช้เวทย์มนต์ปลดล็อคประตูเหล็ก มือบางยื่นหาบุรุษในชุดเกราะหวังให้เขาตอบรับ
“ … ” เนมเลสลุกขึ้นเดินตรงไปหาเธอก่อนจะทำในสิ่งที่เธอคิดไม่ถึง
กึง*- “ …เนมเลส ” เขาดึงประตูปิดลงตรงหน้าเธอ ร่างสูงหันหลังเดินกลับไป ยูริยืนตัวแข็งด้วยความตะลึงไม่รึกว่าอีกฝ่ายจะเลือกแบบนี้
“ พรุ่งนี้ฉันจะกลับมา…นายตัดสินใจให้ดีนะ ” เพราะไม่มีทางเลือกเธอจึงยอมกลับไปแต่โดยดี อลันเองก็แปลกใจกับการตัดสินใจของคนตรงหน้าอยู่ไม่น้อย ไม่รู้ที่ไม่ยอมไปเพราะหยิ่งในศักดิ์ศรีหรืออะไรแต่ที่แน่ๆคือเขามีอำนาจต่อรองที่ไม่ธรรมดา
ที่อีกด้าน สตรีสีขาวผู้ได้รับฉายาสตรีศักดิ์สิทธิ์กำลังมองดูเหตุการณ์ผ่านลูกแก้วทรงกลมด้วยความหัวเสีย
“ ชิ! เล่นนอกบทอยู่ได้ เป็นหมากที่ไร้ประโยชน์ซะจริง ”
“ เพราะตอนนั้นยังเป็นช่วงฤดูผสมพันธ์อยู่หมีมันเลยดุน่ะสิ ข้าที่ี่ยังเยาว์ก็เลยคึกคะนองจนได้แผลนี่มา ” อลันร่ายยาวเล่าเรื่องของตัวเองจนดึก ส่วนเนมเลสก็ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีคอยรับฟังเรื่องราวของอลันที่พ่นเป็นน้ำไหลไฟดับ
(( ได้โปรดช่วยนางด้วย!! )) เสียงปริศนาดังขึ้นในหัว เป็นเสียงของสตรีที่ก้องกังวาลไปมาจนหาต้นเสียงไม่เจอ
(( ได้โปรด! ข้าขอร้อง ได้โปรดช่วยธิดาของข้าด้วยเถอะ!! ))
จี้สร้อยคอที่ถูกเก็บไว้ใต้เสื้อเกราะสว่างวาบ จี้รูปจันทร์เสี้ยวและใบดาบสีเงินอันเป็นสัญลักษณ์ของลัทธิดาบแห่งจันทรคราส
{ คุณถูกอัญเชิญในฐานะดาบแห่งจันทรคราส }
ความคิดเห็น