คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความมืด (1)
“ คนของวิหารตรวจพบความผิดปกติที่ป่าทางใต้ ไปตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช่ฝีมือจอมมารไหม ” เสียงของสตรีนุ่มละมุนแต่แฝงไปด้วยอำนาจเอ่ยสั่งการสองอัศวินสาวในชุดเกราะที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า
“ เพคะองค์จักรพรรดินี เราจะไม่ทำให้พระองค์ผิดหวังเพคะ ” ทั้งสองตอบรับเสียงดังฟังชัด พวกเธอมีเส้นผมสีดำขลับและดวงตาสีเดียวกัน พวกเธอคือถูกอัญเชิญมาในฐานะผู้กล้า เป็นสุดยอดนักรบที่ต่อกรกับกองทัพจอมมารได้อย่างง่ายดาย
“ เมื่อไหร่เธอจะให้เราไปปราบจอมมารกันนะ⁓ ”
“ ใจเย็นสิยูลิน เธอคงเห็นว่าเราไม่พร้อม ” ยูลินเอ่ยทีเล่นทีจริงระหว่างกำลังก้าวเดินไปตามทางในพระราชวังด้วยท่าทีสบายใจ ส่วนคนเป็นพี่ก็ปรามน้องสาวอย่างไม่จริงจังมากนัก
ยูลินเป็นจอมเวทย์สายศรัทธาซึ่งเชี่ยวชาญการใช้เวทย์สายรักษา เธอสวมเชนเมลปิดทับด้วยเสื้อคลุมสีดำ ดวงตาซ้ายถูกปิดเอาไว้ ในมือมีคฑาสร้างจากไม้เนื้อดีที่ส่วนปลายยอดของมันมีอัญมณีสีฟ้าติดอยู่
และผู้เป็นพี่ของเธอก็สวมใส่เกราะฟูลเพลตอย่างดีดูหรูหรา ข้างกายมีดาบเล่มหนึ่งถูกเก็บอยู่ในฝัก มือขวากุมหมวกเกราะเอาไว้
พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในมหานครอันเป็นเมืองหลวงของจักวรรดิรีอัลทร่าซึ่งมีอำนาจมากที่สุดบนโลก สถานที่ที่พวกเธอจะต้องไปก็คือโลเวียน่า เมืองแห่งจันทรา
ทั้งสองเดินเท้ามาถึงประตูหน้าวังซึ่งมีทหารติดอาวุธกลุ่มหนึ่งกำลังรออยู่
“ อรุณสวัสดิ์ครับท่านยูริ ท่านยูลิน ” คนทั้งห้ากล่าวขึ้นพร้อมกันพลางก้มหัวทำความเคารพ เพราะนี่เป็นเพียงภารกิจตรวจสอบการใช้คนเยอะๆคงไม่มีประโยชน์
⁂
ใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ทั้งหมดก็มาถึงเมืองที่หมาย หลังผ่านเข้าประตูเมืองมาแล้วรถม้าก็ขับต่อไปอีกสักพักจนมาถึงตึกกิลด์ ชั้นแรกทำจากอิฐส่วนชั้นที่สองเป็นไม้มีหน้าต่างช่วยระบายอากาศ
ทำไมถึงมากิลด์เหรอ? ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องลงทะเบียนขาเข้า ถึงจะเป็นผู้กล้าหรืออัศวินก็ยังถูกนับให้เป็นแขนงหนึ่งของนักผจญภัย ตอนที่เข้า-ออกเมืองจะต้องแจ้งให้ทางกิลด์รับทราบ
และอีกส่วนก็เพราะเธอรู้จัักกิลด์มาสเตอร์ของที่นี่ยังไงล่ะ เลยคิดจะมาทักทายแล้วขอยืมห้องพักของกิลด์ชั่วคราวและตรวจสอบข้อมูลเล็กน้อย
“ สายัณห์สวัสดิ์ครับท่านผู้กล้า เราได้ข่าวว่าท่านจะมาเชิญทางนี้เลยครับ ” บุรุษร่างสูงใหญ่ค้อมหัวเอ่ยทักกลุ่มคนมาใหม่ด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม แต่งกายด้วยชุดเกราะฟูลเพลตสีเงินประดับลวดลายสีแดงน่าเกรงขาม
“ ไม่ต้องเป็นพิธีขนาดนี้ก็ได้ค่ะคุณแจ็ค ยังไงคุณก็เป็นคนที่ฝึกสอนเรามา ” แจ็คแห่งโลเวียน่ายิ้มรับก่อนจะเปลี่ยนท่าทีเป็นผ่อนคลาย เขาคือคนที่สอนทักษะการต่อสู้ทุกอย่างให้พวกเธอและคอยสอนเรื่องราวต่างๆบนโลกนี้อีกด้วย
“ เอาเป็นว่าเราไปคุยกันที่อื่นดีกว่านะ ” ร่างแกร่งกวักมือเดินนำไปก่อน ท่าทีสบายใจผิดกับเมื่อครู่อย่างเห็นใจชัด
“ พวกเราก็ได้ข้อมูลมาวันนี้ว่าต้นไม้กับสัตว์แถวนั้นตายไปเยอะมากเช่นกัน มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นฝีมือพวกจอมมาร ” เขากล่าวเสียงเข้มขณะวาดมือบนแผนที่แสดงบริเวณอันเป็นจุดเกิดเหตุ
“ แถวนั้นมีคนเหรอ? ” ยูริเอ่ยถามข้อสงสัยของตัวงเองหลังเห็นว่ามีสิ่งปลูกสร้างอยู่ในบริเวณนั้นด้วย
“ ใช่ เป็นโบสถ์แล้วก็สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วย แต่นี่เป็นรายงานตั้งแต่ต้นปีที่แล้วไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไง ”
“ แล้วได้ส่งคนไปตรวจดูพื้นที่รึยัง ”
“ มีนักผจญภัยรับภารกิจช่วยเหลือเข้าไปแล้ว คิดว่าบ่ายนี้คงกลับมา ”
“ พวกเราไม่มีเวลาขนาดนั้น เดี๋ยวพวกเราจะไปตรวจสอบเอง ” หลังการพูดคุยสิ้นสุดลง ทั้งคณะก็รีบบึ่งม้าไปยังเป้าหมาย
กุบ! กับ!*- ความเป็นไปได้ที่จะเป็นฝีมือจอมมารเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ปกติเจ้าพวกนี้ก็ชอบทำอะไรคาดเดายากอยู่แล้วเพราะงั้นจะรอช้าไม่ได้
“ พี่คะ! ” ยูลินตะโกนมาจากด้านหลังทุกคนจึงหยุดม้าทันที
“ เกิดอะไรขึ้น!? ” เธอไม่ตอบแต่ชี้นิ้วไปอีกทาง ต้นไม้ที่หักโค่นและพื้นดินที่กลายเป็นสีดำคล้ายว่าเกิดจากการเผาไหม้ บนพื้นมีซากศพของบางสิ่งอยู่แม้จะมองยากแต่ก็พอดูออกว่าเป็นศพของหมาป่า
มังกรไฟเหรอ? ไม่น่าใช่ ไม่งั้นคงมีรายงานมาถึงกิลด์แล้ว พื้นที่รอบๆก็เหมือนถูกแรงระเบิดผลักกระเด็นออกไป
“ ฟ้าผ่า? ” ก็อาจเป็นไปได้ละมั้ง แต่ความรุนแรงระดับนี้ไม่ธรรมดาเลย
“ ไม่ใช่ค่ะ มีไอความมืดหลงเหลืออยู่เล็กน้อย… ” ดูเหมือนยูริจะคิดดังไปหน่อยจนยูลินได้ยินเธอจึงแย้งชึ้น ดวงตาสีแดงที่เคยปิดไว้ด้วยผ้าปิดตาถูกเปิดออก หนึ่งในความสามารถของยูลินคือดวงตาซ้ายสีแดงที่สามารถมองเห็นเวทย์ความมืดของเผ่าปีศาจได้
“ แต่ทรงพลังมาก ” เหงื่อเย็นไหลลงอาบใบหน้า กลิ่นอายของความมืดที่ทรงพลังระดับนี้เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“ ถ้างั้นเราก็ยิ่งต้องรีบ ” พวกเราควบม้าต่อไปจนเห็นโบสถ์ ลักษณะของมันดูไม่ใช่ที่ที่จะมีคนมาอยู่ได้เลย อย่างไรก็ตาม เธอใช้ฝ่ามือสวมเกราะเคาะประตูไม้เก่าๆ และไม่นานก็มีคนเปิดประตูออกมา
“ พวกท่านเป็นใครเหรอครับ? ” เด็กชายตัวน้อยเอ่ยถาม ร่างกายผอมแต่ยังสะอาดพอประมาณ
“ สวัสดี ไม่ทราบว่ามีผู้ใหญ่อยู่ด้วยรึเปล่า? ” ยูริก้มตัวลงพูดคุยกับเด็กชายด้วยท่าทีเป็นมิตรที่สุด
“ เอ่อ… มีพี่ลินดากับคุณแม่ชีอยู่ที่สุสานด้านหลังครับ ”
“ ขอบใจมากจ้ะ ” เธอลูบหัวฟูๆของเด็กชายก่อนลุกขึ้นเดินอ้อมโบสถ์ไปด้านหลัง พื้นที่สุสานไม่ได้กว้างมากล้อมกรอบด้วยรั้วหิน สตรีสองคนยืนเคารพหลุมศพอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“ พวกท่านมาช้าไปแล้ว โจรมันตายหมดแล้ว ” ลินดาที่สังเกตุเห็นพวกเธอก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงปนความไม่พอใจ คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากันจากอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่น มือบางกำเสื้อคลุมที่สวมอยู่แน่น
“ เราไม่ได้มาเพราะเรื่องนั้น มหาวิหารตรวจพบความผิดปกติแถวนี้ ” ยูริพุ่งเข้าตรงประเด็นเผื่อว่าอีกฝ่ายจะมีข้อมูลอะไรที่เธอจำเป็นต้องรู้
“ ชิ! โจรไม่ใช่ปัญหางั้นสิ ” ลินดาเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจ คนพวกนี้ถ้าปัญหาไม่ถึงตัวก็ไม่กระดิกเลยจริงๆ
“ ไม่ทราบว่าพวกท่านพบความผิดปกติอะไรบ้างรึเปล่าคะ? ” ยูลินที่เงียบมานานในทีสุดก็เอ่ยขึ้น เธอมองเห็นว่าทั้งสองคนมีไอควันสีดำติดอยู่จางๆ
“ จะบอกว่าแปลกก็ไม่ถูกค่ะ มีโลงศพเปล่าอยู่ที่อีกฝั่งของโบสถ์ไม่ไกลจากนี่มาก ” หญิงสาวมในชุดแม่ชีตอบ เธอเจอโลงศพนั้นเมื่อสามวันก่อนแต่ไม่สามารถนำมันกลับมาได้
“ ขอบคุณมากค่ะ ขอองค์เทพีนำทาง ” เมื่อรับรู้เป้าหมายต่อไปพวกเธอจึงรีบขึ้นม้าเดินทางไปต่อ
“ …ขอเทพีนำทาง%*#(^*! โอ๊ย! ” คล้อยหลังพวกยูริกลับไปลินดาก็เอ่ยล้อเลียนคำพูดของเธอแต่ก็ถูกแม่ชีสาวหยิกแขนเข้าให้
เมื่อควบม้าต่อไปเรื่อยๆทั้งคณะก็มาถึงพื้นที่ที่ต้นไม้และดอกไม้แถวนั้นทั้งทุ่งตายเป็นซากกินบริเวณกว้าง
ฮี้!!!*- ม้าทุกตัวขัดขืนที่จะเดินต่อไปทั้งหมดจึงต้องเปลี่ยนไปเดินเท้า วินาทีที่ฝ่าเท้าสวมเกราะสัมผัสพื้นหญ้าสีดำความรู้สึกสะอิดสะเอียนจนเวียนหัวแทบเสียการทรงตัวก็พรุ่งพรูเข้ามา รู้สึกได้ถึงอาหารที่ทานไปไหลย้อนกลับมา
ยูลินที่ยังอยู่บนหลังม้ามองความมืดตรงหน้า ได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองดังถี่รัว เหงื่อเย็นไหลท่วมใบหน้า
ยูริและกลุ่มอัศวินยังคงฝืนเดินเข้าไปต่อจนกระทั่งเห็นโลงศพไม้อันเป็นจุดศูนย์กลางของความผิดปกติ ไอความมืดพวยพุ่งออกมาจากปากโลงปกคลุมโดยรอบ
“ ย- หยุด!!!! ” ยูลินที่เพิ่งเฟ้นหาเสียงของตัวเองเจอตะโกนปรามเสียงดัง ใบหน้าซีดเผือด กรามขบกันแน่นจนรับรู้รสสนิมในปาก คนทั้งหมดหันกลับมามองเธอเป็นตาเดียว ดวงตาสีแดงของเธอสั่นสะท้านไม่ต่างจากร่างกาย
“ อย่าขยับ ” แม้จะพูดด้วยเสียงปกติแต่กลับชัดเจน ในตอนนั้นเองกลุ่มเงาสีดำขนาดใหญ่ก็เคลื่อนกายผ่านพวกเขาไปช้าๆ
อั่ก! อ้ากกกกกกกก!!!*- จู่ๆทหารนายหนึ่งก็กรีดร้องขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ของเหลวสีดำไหลทะลักออกมาทั่วร่าง ผิวกายซีดขาวลงราวกับศพ ดวงตาละลายหายไป ร่างของเขาล้มลงและแน่นิ่งบนพื้น
“ ค่อยๆก้าวเข้ามานะ ” เสียงพูดเบาหวิวเหมือนเสียงกระซิบจากยูลินเตือนสติของทุกคนกลับมา ทั้งหมดพยายามก้าวขาแข็งๆของตัวเองออกมาจากพื้นที่น่ากลัวนั้น
ราวกับได้ปลดภูเขาลงจากบ่า ขาของยูริอ่อนแรงจนแทบยืนไม่อยู่ไม่ต่างจากคนอื่น
“ เราจะเอายังไงต่อดีครับ ท่านผู้กล้า ” สิ่งที่พวกเธอเจอวันนี้มันเกินกว่าที่จะรับมือได้ นี่คือพลังของจอมมารเหรอ?
“ ส่งม้าเร็วไปแจ้งกิลด์ให้เตรียมกำลังคนรอไว้ ฉันจะไปขอความช่วยเหลือจากวิหาร ” สิ่งนั้นอาจต้องใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์จัดการ พื้นที่เมืองโลเวียน่าอาจต้องกลายเป็นสมรภูมิรบกับจอมมารเพราะงั้นต้องเตรียมพร้อมเอาไว้
“ บอกให้คนในโบสถ์นั้นรีบหนีออกไปซะ ”
ความคิดเห็น