คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : กองไฟ
“ นี่ พวกเราเดินกันมาสี่ชั่วโมงได้แล้วนะ พักหน่อยเถอะ ” โซอี่เอ่ยขณะเดินลากขาตามอัศวินหนุ่มที่กำลังทิ้งห่างไปเรื่อยๆ
เขาพาเด็กหญิงไปอยู่ในความดูแลของโบสถ์ นอกจากแม่ชีคนนั้นแล้วยังมีเด็กคนอื่นอยู่ที่นั่นอีก ส่วนเกวียนก็ให้เป็นของโบสถ์ไป
สาเหตุการเดินทางครั้งนี้เกิดจากการที่เอลฟ์สาวเสนอให้เขาไปยังโลเวียน่าพร้อมกับเธอ แม้จะบอกไม่ได้บอกเหตุผลแต่อย่างไรก็ไมมีความจำเป็นต้องปฏิเสธ อยู่ที่โบสถ์เขาก็ไม่ได้มีหน้าที่อะไรอยู่แล้ว
⁂
“ นี่⁓ จะมืด…แล้วนะ ” ด้วยการเดินทางจากเช้าจรดเย็นที่ไม่มีพัก เธอแทบไม่เหลือแรงจะเดินแล้วแถมเท้าก็ยังปวดจนคิดว่าถ้ามากกว่าจะเดินไม่ได้เอา
( อะไรของหมอนั่นกันเมืองมันไม่ย้ายหนีไปไหนสักหน่อย! )
ขี้เถ้าหนึ่งเดียวหันกลับมามองเอลฟ์สาวอย่างนึกรำคาญในใจ ถ้าเดินเท้าไปด้วยความเร็วเท่านี้ต่อก็น่าจะถึงภายในคืนนี้แล้ว ข้างหน้าก็มองเห็นเมืองอยู่รำไรแท้ๆ
สุดท้ายทั้งคู่ก็ไปพักกันข้างทาง เขาทิ้งตัวลงบนหินก้อนใหญ่รอเวลาให้เอลฟ์สาวสามารถเดินทางต่อได้ ขณะไล่สายตามองสำรวจรอบตัวโซอี้ก็เริ่มทำในสิ่งที่อันเดดตนนี้ต้องแปลกใจ
เธอเอากิ่งไม้มากองรวมกัน นำกิ่งไม้สองท่อนมาถูกันและด้วยแรงเสียดสีจึงเกิดควันขึ้น จนกระทั่ง
ไฟถูกจุดขึ้น
เอลฟ์สาวพ่นลมออกจากปากดัง “ ฟู่ ” คลายความเกร็งจากการพยายามจุดไฟ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอัศวินก็มายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว ดวงตาใต้หมวกเกราะมองกองไฟที่ถูกจุดขึ้นไม่กระพริบ
ไฟแห่งชีวิต? หรือไม่มันก็คงเป็นไฟแห่งความโกลาหล ฝ่ามือสวมเกราะเลื่อนเข้าใกล้กองไฟมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาสัมผัสกองไฟนั้นได้ เอลฟ์สาวดวงตาเบิกโพลงรีบชักมือของอัศวินหนุ่มออกทันที
“ ทำอะไรของเจ้ามือเป็นแผลหมดแล้วมั้ง!? ไม่รู้จักไฟรึไงทำไมถึง… ” โซอี้ชะงักปากที่ตั้งใจจะด่าหลังสัมผัสถึงบรรยากาศแปลกๆจากคนตรงหน้า อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรแต่ความรู้สึกบางอย่างทำให้เธอคิดว่าเขากำลังเศร้าหรืออะไรประมาณนั้น ด้วยไม่รู้จะทำอย่างไรจึงปล่อยให้อีกฝ่ายใช้เวลาอยู่กับตัวเองต่อไป
ต่อให้ไม่คาดหวังก็ยังผิดหวัง มันไม่ใช่ไฟแห่งชีวิตที่เขาตามหา ไม่ใช่แม้กระทั่งไฟแห่งความโกลาหลด้วยซ้ำ มันเป็นแค่บางสิ่งที่เลียนแบบไฟไม่มีทั้งความร้อนหรือความอบอุ่นเลยสักนิด
ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นโลกที่ไร้ซึ่งไฟแล้วก็ได้ ในตอนที่สังหารโจรเหล่านั้นเองก็ด้วย วิญญาณที่เขาสัมผัสได้นั้นน้อยมากอาจจะแค่หนึ่งเองด้วยซ้ำ เป็นที่รู้กันดีว่าสิ่งมีชีวิตจะแข็งแกร่งได้จากการสะสมวิญญาณ ยิ่งวิญญาณมากก็ยิ่งแข็งแกร่งมาก
แซก*- เสียงพุ่มไม้ขยับจังหวะเดียวกับที่หมาป่าตัวหนึ่งเดินแหวกพุ่มไม้ออกมา ไม่นานตัวอื่นๆก็ตามออกมา
โซอี้รีบคว้าธนูก่อนจะดีดตัวขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้ อัศวินอันเดดยืนขึ้นคั่นกลางระหว่างฝูงหมาป่ากับกองไฟ
กรรร!*- พวกมันส่งเสียงขู่ขณะก้าวเดินเข้ามาใกล้เพื่อข่มขวัญศัตรู ทว่าขี้เถ้าหนึ่งเดียวกลับไม่ขยับไปไหน ฝูงหมาป่าเองก็เริ่มเคลื่อนกายเข้ามาใกล้แล้วด้วย
เอลฟ์สาวง้างสายธนูเตรียมยิง ตอนนี้พวกมันยังไม่เห็นเธอจึงได้เปรียบอยู่ หากอัศวินคนนั้นหยิบอาวุธเตรียมพร้อมเมื่อไหร่เธอจะยิงทันที
“ เอ๊ะ! ” สายตาของเธอเลื่อนไปเห็นอาวุธประหลาดที่อัศวินคนนั้นถืออยู่ ขวานหินขนาดใหญ่พาดบ่าอยู่ หากสังเกตุให้ดีเมื่อครู่จะมีประกายไฟปรากฏอยู่เล็กน้อย
พรึบ! เปรี๊ยะๆ*- ขวานยักษ์ถูกยกขึ้นเหนือศรีษะก่อนที่กระแสสายฟ้าจะไหลผ่านปลายขวานลงมาถึงแขน
เปรี้ยง!!!!*- วินาทีที่ปลายขวานฟาดลงบนพื้นราวกับเห็นภาพสโลโมชั่น เส้นสายอัสนีผ่าลงสลักเกลียวแห่งสายฟ้าลงบนพื้นดิน แผดเผาร่างของหมาป่าและพื้นที่ใกล้เคียงให้มลายหายไปในพริบตา
ขวานยักษ์พิฆาตมังกรทำหน้าที่ได้ไม่เคยบกพร่อง
โครม!*-
ด้วยแรงสั่นสะเทือนทำให้โซอี้ร่วงลงจากต้นไม้ มือซ้ายลูบหลังตัวเองป้อยๆจากผลของความเจ็บขณะที่มือขวาก็ปิดหูไว้ เสียงวิ้งจากฟ้าผ่าระยะประชิดยังดังอยู่ในหู
“ เมื่อกี้มันอะไร!? เจ้าไปเอาของแบบนั้นมาจากไหน? ” เป็นคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบอีกตามเคย บุรุษในชุดเกราะคุกเข่าลงหน้ากองไฟที่ดับมอบราวกับกำลังคำนับให้มัน
“ เจ้า… เศร้าเหรอ ให้กองไฟเนี่ยนะ? ” ดูเหมือนเธอจะชินกับการถูกอีกฝ่ายเมินเสียแล้ว
“ กองไฟแค่นี้เดี๋ยวข้าทำให้ใหม่ก็ได้ ” …สำหรับโลกนี่มันก็เป็นแค่กองไฟสินะ แต่สำหรับอันเดดเช่นเขาไฟนี้เป็นเป้าหมายที่ต่อให้เสียสติก็ต้องบรรลุให้ได้ จะต้องเอาชนะแม้แต่ความตาย
“ เฮ้อ⁓ เจ้าเผาพวกมันซะขนาดนี้เอาไปขายไม่ได้เลย ” เอลฟ์สาวเอ่ยตัดพ้อหลังเห็นสภาพศพของเหล่าหมาป่าที่แทบไม่เหลือชิ้นดี
⁂
ช่วงสายของอีกวันทั้งสองก็เดินทางมาถึงโลเวียน่า มันเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ทำให้เค้านึกถึงโล-ทริค กำแพงสูงในระดับหนึ่ง สิ่งปลูกสร้างก็สูงใหญ่มีถนนและผู้คนมากมายอยู่ในเมือง มีแม่น้ำตัดผ่านบางส่วนของเมืองทำให้เมืองนี้เป็นรูปจันทร์เสี้ยวถัดจากนั้นเป็นวังขนาดไม่ใหญ่นักแต่ก็ยังคงความหรูหราอยู่
“ ที่นี่แหละโลเวียน่า ข้าอาศัยอยู่ที่นี่แหละ ” โซอี้ภายมือโชว์ภาพของเมืองให้เขาได้เห็นเต็มตา ต้องยอมรับว่ามันสวยมากกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก
“ ไปเร็ว เข้าไปกัน ” เธอจับจูงมือเขาให้เดินไปต่อแถวสำหรับตรวจคนเข้าเมือง ระหว่างกำลังรอเขาสังเกตุรอบข้างไปด้วย ในแถวมีคนที่มีอวัยวะหมือนสัตว์และคนที่มีเกล็ดเหมือนพวกมังกร
โลกนี้มีแต่คนแปลก…
ความคิดเห็น