หยุดเวลาด้วยน้ำแข็ง - หยุดเวลาด้วยน้ำแข็ง นิยาย หยุดเวลาด้วยน้ำแข็ง : Dek-D.com - Writer

    หยุดเวลาด้วยน้ำแข็ง

    เด็กสาวชาวไทยผู้มีเวทมนต์สร้างน้ำแข็งได้ แต่คนรอบข้างเธอไม่มีใครเชื่อเรื่องเวทมนต์ มีเพียงพี่ชายของเธอเท่านั้นที่เชื่อ วันเวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน จนเธออยากใช่พลังของเธอแช่แข็งเวลาไม่ให้เปลี่ยนแปลง

    ผู้เข้าชมรวม

    223

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    223

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ธ.ค. 56 / 16:33 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    สวัสดีค่ะ รีดเดอร์อันน้อยนิดของเด
    วันนี้เดเอาเรื่องที่สี่ของเดมาลง เรื่องนี้ชื่อว่า"หยุดเวลาด้วยน้ำแข็ง"
    คราวนี้เดแต่งเพื่อเอาไปส่งครู เลยอยากรู้ความเห็นจากรีดเดอร์ว่าชอบไม่ชอบ
    เรื่องจะเป็นอย่างไงไปอ่านกันเลย
    คอมเม้นให้ด้วยนะค่ะ

    ป.ล. เดยังไม่ได้ลืมเรื่องอื่นนะค่ะ เดี๋ยวจะพยายามเอามาลงให้ครบนะคะ เพราะงั้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะค่า
    :) Shalunla
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ทำไมพี่ถึงเปลี่ยนไปล่ะคะ ทำไม...ฉันไม่เข้าใจเลยทำไมพี่ถึงได้เปลี่ยนไปอย่างนี้นี้ ทั้งๆที่เมื่อ 5 ปีที่แล้วพี่ยังเข้าใจฉันเลย พี่คงลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่า ธัญญารัตน์ คนนี้เป็นน้องของพี่ เป็นน้องของนายธนวัตน์ เด็กทุนคนล่าสุดของโปรแกรม ไทยสมาร์ทและได้ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ไม่น่าเชื่อ 5 ปีที่ห่างหายกันไปพี่จะเปลี่ยนไปขนาดนี้ น้ำตาแต่ละหยดอาบแก้มของฉันช้ายามนึกถึงพี่ชายที่พึ่งกลับมา น้ำตาหยดลงกระทบกับผิวน้ำและร่วมกับแม่น้ำเล็กที่ไหลผ่านเท้าอย่างเชื่องช้า ที่นี่ สถานที่แห่งความทรงจำ ที่ฉันไม่เคยลืม น้ำตาอีกหยดไหลอาบแก้ม

      ฮึก..ฮึก ต้องไม่ร้องสิ..ฉันต้องข่มความรู้สึกเศร้าไว้ อ๊ะ..อีกแล้วความรู้สึกเย็นเหมือนน้ำแข็งจับแบบนี้ มันมาอีกแล้ว ฉันทิ้งมือลงบนหญ้าสีเขียวอ่อนนุ่ม ทันใดนั้นหญ้าเขียวนุ่มก็ถูกเคลือบด้วยผลึกน้ำแข็ง

      "อ๊ะ...อีกแล้วทำไมฉันควบคุมมันไม่ได้อีกแล้ว ทั้งๆทีฉันพยายามขนาดนี้" น้ำตาอีกเป็นสายทะลักออกมาจากม่านน้ำตา เพราะความสามารถพิเศษบ้าๆนี้ ทำให้พี่วัตน์... ทำให้เราต้องทะเลาะกัน

      "จ๋อม..."เสียงอะไรบางอย่างกระทบผิวน้ำ และแรงกระเพื่อมของน้ำดึงสายตาของฉันไปจากน้ำแข็งข้างตัว พอหันไปสิ่งที่ฉันเห็นแทบจะทำให้น้ำตาที่เกือบแห้งทะลักออกมาอีกรอบ

      "ปลา...งั้นเหรอ" อยู่ภาพความทรงจำที่แทบจะลืมไปแล้วก็ไหลเข้ามา มันเหมือนกับเปิดลิ้นชักที่ถูกปิดตายมานาน

      "พี่วัตน์ค่า~ รอรัตน์ด้วยสิ จะรีบเดินไปไหน" เสียงนี้มันเสียงของเรานิ

      "รีบเดินตามมาสิ เดี๋ยววันนี้พี่จะไปที่แม่น้ำไปจับปลามาย่างกินนะ"เสียงพี่วัตน์ตอนนั้นทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนจังเลยยิ่งคิดยิ่งคิดถึง ฉันหลับตาลงช้าๆปล่อยให้ภาพไหลไปตามความคิด มันเหมือนกับว่าตัวฉันถูกดึงกลับไปในวันวานที่มีแค่เราสองพี่น้อง

        -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

      ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

      "ยัยโรคประหลาด อย่ามาเข้าใกล้ฉันนะ ไปไกลๆเลยนะยะ" เด็กสาวหัวโจกของหมู่บ้านโวยวายเมื่อเด็กสาวผมดำหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาเดินมาขอเล่นด้วย เด็กคนก็คือตัวฉันในสมัยเด็ก

      "ฉะ..ฉัน..มะ..ไม่ได้.ปะ..เป็นโรคนะ" เด็กน้อยน้ำตาเอ่อหน้าพูดตะกุกตะกักด้วยความกลัว

      "ถ้าไม่ใช่แล้วทำไมทุกอย่างที่เธอจับถึงกลายเป็นน้ำแข็งละ ยัยรัตน์ขี้โรค เนอะ พวกเรา" เด็กหัวโจกก็ยังพูดต่อไปคราวนี้ยังหาพวกอีกด้วย

      "มันคือเวทมนต์ หยุดล้อได้แล้ว" ไม่เสียงของตัวฉันตอนเด็ก ไม่ใช่เสียงสาวหัวโจก แต่กลับเป็นของเสียงพี่วัตน์ พี่ชายของฉัน ที่ตอนนั้นก็เป็นแค่เด็กอายุ 13ปี

       "ไม่ต้องมายุ่งเลยนะยะ ตาวัตน์ แล้วก็ไม่ต้องสอ ใส่ เกือก ฉันไม่ได้ถาม"สาวหัวโจกตวาดใส่หน้าแล้วก็ขวางไม้ที่อยู่ข้างตัวใส่เด็กหนุ่ม

      "พี่!"สาวน้อยวัย12ปี ตะโกนเสียงหลงเมื่อของเหลวสีแดงสดไหลออกมาจากแขนขวาที่พี่ชายใช้กำบังหน้า

      "ช่างพวกนี้เถอะรัตน์ พวกเราไปกันเถอะ" เด็กหนุ่มจับมือน้องสาวเดินออกไปจากตรงนั้น

      "พี่วัตน์เป็นอะไรไหมคะ รัตน์ขอดูหน่อยนะ" สาวน้อยคนนั้นยื่นมือไปจับแขนของพี่ชายอย่างเบามือ

      "เลือดเต็มเลยดูสิ รัตน์ขอโทษนะคะ รัตน์ขอโทษ" เธอยิ่งโทษตัวเธอเอง น้ำตาก็ยิ่งเอ่อดวงตาน้อย เล่นทำเอาคนเป็นพี่ทำหน้าเหว่อเลยทีเดียว

      "มะ...ไม่เป็นไร แต่อย่าร้องไห้เชียวนะ"พี่วัตน์พูดหน้าซีด

      "ป่ะ ไปแม่น้ำกันพี่หิวแล้ว"

      "เอาสิค่ะรัตน์หิวแล้วเหมือนกัน พี่วัตน์จับปลาตัวโตให้รัตน์กินหน่อยนะคะ" สาวน้อยที่ทำท่าจะร้องไห้เมื่อตะกี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยทีเดียว กับมาสดใสร่าเริงอีกครั้ง ใช้กลับมาสดใสอีกครั้ง

      “รัตน์ ต่อไปนี่ไม่ต้องไปยุ่งกับพวกนั้นนะ ต่อไปนี้อยู่กับพี่นะ พวกที่ไม่เชื่อเรื่องเวทมนต์นะปล่อยไปเถอะ”วัตน์ลูบหัวน้องสาวเบาๆ ปลอบใจฉัน มันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ยังเด็กแล้ว ไม่สิพูดให้ถูกคือตั้งแต่ฉันเกิด ฉันนั้นมีเวทมนต์ที่สามารถสร้างน้ำแข็งได้ เพียงแต่ฉันไม่สามารถควบคุมมันได้อย่างอิสระ คนอื่นจึงคิดว่ามันเป็นโรคประหลาด ฉันไม่เคยชอบในความสามารถพิเศษนี้เลยซักะนิด และไม่อยากจะมีด้วยซ้ำ ด้วยเหตุที่ว่าความสามารถนี่มันฆ่าแม่แท้ๆของฉันตอนที่ฉันเกิด จนมันกลายเป็นปมด้อยในใจตลอดมา เพราะฉะนั้นมีแต่พี่วัตน์ที่คอยปลอบใจและอยู่เป็นเพื่อน

      “ค่ะ ได้ค่ะ รัตน์จะไม่ยุ่งกับพวกนั้นอีก สาบานสามนิ้วเลย ไปกันเถอะหิวแล้วนะ”เด็กสาวผมดำตอบเสียงใส แล้วหลังจากนั้นเด็กน้อยทั้งสองออกตัววิ่งไปข้างหน้าอย่างมีความสุข วันนั้นฉันจำได้ดีพวกเราใช้เวลาทั้งวันด้วยกันอย่างสนุกสนาน ทั้งวิ่งไล่จับใต้ต้นไม้ข้างแม่น้ำ ทั้งตกปลาแล้วเอามาย่างกิน และเล่นน้ำในม่น้ำ ถึงแม้ว่าจะมีแค่สองคนก็ตามที โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเรา และมันจะทำให้เกิดการแต่งแยกระหว่างเรา

                      น้ำตาอีกเป็นสายไหลออกจากดวงตาเมื่อความคิดไหลมาถึงตรงนี้ มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเศร้าแต่เป็นน้ำตาแห่งอาลัยคิดถึง น้ำตายังไม่ทันเหือดแห้งภาพใหม่ก็ไหลเข้ามามันเป็นความทรงจำที่ไม่อยากจะเห็นอีก มันเป็นตอนที่กลับไปบ้านวันนั้น พ่อก็ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว นัยตาของพ่อดูเศร้ามาก มันเศร้าเหนือคำบรรยายเลย ในมือพ่อมีจดหมายที่ถูก ขย่ำแล้วอยู่ในมือ มือของพ่อสั่น บรรยากาศตอนนั้นมันบอกฉันว่ามันจะเป็นอะไรที่แย่ที่สุด พอฉันกับพี่วัตน์เดินเข้าไป พ่อก็โถมเข้ามากอดพวกเรา ตัวของพ่อสั่นไปหมด ฉันจำได้แม่น

      “พ่อฮะ...มีอะไรรึเปล่า” พี่วัตน์ถามพ่อ มือของพี่กำมือน้อยๆของฉันในตอนนั้นไว้แน่น เพราะกลัวคำตอบที่จะได้รับกลับมา ....เหมือนกับฉัน

      “โรงเรียนส่งจดหมายมาว่า...ลูกได้รับเลือกให้ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษนะ...จากโครงการไทยสมาร์ท”พ่อพูดเสียงเบา ตอนนั้นฉันยังไม่รู้อะไรก็ดีใจไปแทนพี่

                    “ก็ดีแล้วนิค่ะ พี่จะได้เรียนต่อสูงๆอย่างที่พี่หวัง” ทั้งพี่และพ่อยิ้มเศร้าๆให้ฉัน ตอนนั้นฉันเลยรู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด

      “ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ พี่ได้ยินมาว่าคนที่เข้ารวมโปรแกรมนี้ส่วนใหญ่ถูกบังคับให้ทำงานที่นู่นต่อนะสิ”พี่ฝืนยิ้มให้ฉัน

      “หรือไม่ก็จะเปลี่ยนทัศนะคติของเด็กคนนั้นถ้าต้องการกลับบ้าน” พ่อพูดต่อจากพี่ พอพ่อพูดจบฉันรีบหันไปมองหน้าพี่วัตน์ และดูเหมือนว่าพี่จะรู้ว่าฉันจะพูดอะไรเลยพูดขึ้นมาก่อน

      "ไม่เป็นไรหรอกน่า เชื่อพี่ พ่อด้วยเชื่อผมนะครับ"พี่วัตน์พูดอย่างหนักแน่น

      "สัญญานะ ว่าพี่วัตน์จะไม่ลืมและจะไม่ทิ้งรัตน์กับพ่อ" นั่นเป็นสิ่งเดียว แล้วก็มีคำเดียวที่ฉันต้องการ

      "อืม พี่สัญญา"

      -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

      "ทั้งที่พี่วัตน์สัญญาไว้แล้ว ทั้งๆที่รัตน์เชื่อใจพี่"น้ำใสจากตาอาบหน้าเป็นรอบที่เท่าไรของวันก็ไม่รู้

      "There's no magic in this world"อยู่เสียงภาษาอังกฤษชัดถ้อยชัดคำของพี่วัตน์ก็ดังขึ้นในหัวดังเข้าหัว

      "เลิกเฉื่อเรื่องงมหงายได้แล้ว รัต"เสียงของพี่ตอนที่เราคุยกันเมื่อกี้ดังขึ้นเรื่อย

      "เวทมนต์มีอยู่จริง พี่วัตน์เป็นคนบอกรัตน์เองนะ" ใช่ พี่เป็นคนบอกฉันเองนะ พี่ลืมแล้วเหรอ

      "พอฉานไปเรียนที่อังกิตฉานเลยได้เรียนรู้อาไรมากมาย ฉานเลยได้รู้ว่าเวดมนม่ายมีจิง ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้มันอยู่บนพื้นถานของเหดพล แหล้วเวดมนก้อมายมีเหดพล" นี่พี่โดนพวกอังกฤษล้างสมองไปแล้วเหรอ

      “แล้วนี้พี่กลับมาเพื่อจะมาตอกย่ำรัตนน์เหรอ”ฉันทำใจกล้าพูดทั้งๆที่ตอนนี้ฉันแทบจะทรุดลงไปกับพื้นเพราะคำพูดประโยดที่แล้วของพี่

      “มายเชิง ฉานกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดเปนครั้งสุดท้าย และ ฉานก้อกลับมาเก็บของเพราะฉานจะย้ายไปอยู่ United states of America! Do you understand?” พี่ตอบอย่างไม่แยแส แล้วก็หันหลังเดินขึ้นบรรได ฉันทนความอัดอั้นที่เก็บไว้ในใจไม่ไหวจงระเบิดมันออกมา

       

      “แล้วที่พี่วัตน์สัญญากับฉันไว้ละ ที่พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ลืมและจะไม่ทิ้งรัตน์ละ”ฉันตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง

       “Had I ever promise anything like that with you, Oh! Do I need to translate for you? ฉันเคยไปสัญญาอะไรแบบนั้นกับเธอด้วยเหรอ หึหึหึ” แค่ประโยคนั้นประโยคเดียวที่ทำให้ฉันรู้วี่ไม่ใช่พี่วัตน์ที่แสนดีของฉันอีกต่อไป ช่วงเวลานั้นมันเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิต

      ภาพหายไปแล้ว แต่ฉันก็ยังคิดไม่ตก ฉันควรจะทำอย่างไงดี ที่ผ่านมาฉันไม่มีเพื่อนเลยนอกจากพี่ แต่ตอนนั้นฉันยังมีความหวัง ความหวังที่ว่าพี่วัตน์จะกลับมา กลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้ไม่เหลือแม้กระทั้งความหวัง หยาดน้ำใสๆไหลออกจากดวงตา หยดน้ำตาที่ไหลลงมาบนผ่ามือได้กลายเป็นผลึกน้ำแข็งที่สวยงาม แสงอาทิตย์สุดท้ายของวันกระทบกับหยดน้ำแข็งเล็กสะท้อนเข้าตา แสงนั้นดึงความสนใจของฉันไปที่ผ่ามือ เวทสร้างน้ำแข็งหยุดน้ำตาไม่ให้ไหลต่อไป ดีจังถ้าเวทน้ำแข็งนี้สามารถหยุดเวลาไว้ที่ตอนนั้น ตอนที่เรามีความสุขด้วยกันสองคน สองพี่น้อง                                          

      ถ้าเป็นไปได้จริง ฉันอยากจะหยุดเวลาไว้ด้วยเวทน้ำแข็ง หยุดไว้เพื่อฉันกับพี่จะได้มีความสุขด้วยกัน  ตลอดไป

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×