คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : MiRaCle number6
แม้โชคชะตาจะนำพาให้เราพบกัน
แต่พรหมลิขิตนั้นก็มิอาจกำหนดให้เรารักกันได้
เมื่อกินข้าวกินปลา เก็บของเสร็จแล้ว ซีวอนจึงเดินลงบันไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์
ปึก!
เงินปึกใหญ่ถูกวางลงตรงหน้าเฒ่าแก่โรงเตี๊ยม
“ท่านจอมยุทธ์ ท่านเอาเงินมาให้ข้าทำไมทั้งมากมาย”
“ค่าเสียหายเมื่อวานท่านรวมแล้วรึยัง”
“รวมแล้ว”เฒ่าแก่โรงเตี๊ยมบอก
“งั้นที่เหลือก็เป็นค่าตัวคยูฮยอนแล้วกัน ข้าต้องเดินทางอีกใกล้ต้องการเด็กรับใช้สักคน”เจ้าของชื่อเดินเขามาพอดีจึงได้ยินการซื้อขายตนที่ทำเหมือนสินก็เลยเกิดความไม่พอใจที่เฒ่าแก่โรงเตี๊ยมจะขายตนให้ใครก็ไม่รู้
“ไม่ ข้าไม่ไปกับท่าน เฒ่าแก่ถ้าท่านไม่อยากให้ข้าอยู่ด้วยทำไมถึงไม่บอกข้าดีๆ มาขายข้าให้คนอื่นเช่นนี้ทำไมและอีกอย่างข้าก็ทำงานเพื่อแลกข้าวแลกน้ำแลกที่ซุกหัวนอน ไม่ได้เอาเงินเอาทองจากท่านสักนิด”คยูฮยอนพูดพร้อมวิ่งออกไป
นี้ก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว เด็กหนุ่มที่เดินออกมาจากหมู่บ้านก็ไม่รู้จะไปทางไหนจึงเริ่มมองหาที่พัก พลันเห็นกระท่อมร้างหลังหนึ่งอยู่ไปออกไปหน่อยเด็กหนุ่มจึงรีบเดินตรงไปยังกระท่อมร้างหลังนั้นหวังจะค้างสักคืนเพราะมองดูท้องฟ้าแล้วรู้สึกเหมือนฝนจะตก
นั้นไงว่าแล้วเชียวพูดยังไม่ทันขาดคำฝนก็ตกลงมาจริงๆด้วย เขาเลยรีบวิ่งเร็วขึ้นเพื่อจะไปถึงกระท่อมร้างหลังนั้นแต่ก็ไม่วายโดนฝนอยู่ดี
เมื่อเข้ามาในกระท่อมแล้วเด็กหนุ่มจึงเดินไปนั่งที่แคร่ไม้ฟอร์นิเจอร์เพียงชิ้นเดียวของกระท่อมหลังนี้แล้วยกแขนขึ้นกอดอกบรรเทาความหนาวเย็นและสำรวจรอบๆกระท่อมไปด้วย กระท่อมหลังนี้ไม่มีคนอยู่จริงๆเพราะไม่มีอุปกรณ์ร่วมถึงร่องรอยการหุงหาอาหารเลยไม่แน่ว่าเจ้าของอาจจะย้ายไปอยู่ที่อื่นหรือบ้างทีอาจตายไปแล้วก็ได้
ระหว่างที่กำลังพิจารณาสภาพกระท่อมอยู่นั้นพลันได้ยินเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งกำลังเดินตรงมาทางนี้ เด็กหนุ่มไม่รู่ว่าจะใช้กระบวนท่าใดรับมือกับผู้มาใหม่นี่ดีหากเขาผู้นั้นจะคิดร้ายเพราเด็กหนุ่มเองก็มิเคยเลยที่จะฝึกวรยุทธ์ ในใจนั้นก็ได้แต่ขอให้ผู้มาใหม่เดินเลยผ่านกระท่อมหลังนี้ไปแต่คงจะเป็นไม่ได้ในเมื่อประตูกระท่อมได้ถูกเปิดออกแล้ว
“ท่าน”หนุ่มน้อยเผลอหลุดปาก
“อ้าว คยูฮยอน”ซีวอนทักพร้อมกับนั่งลงที่ปลายแคร่ไม้
ก่อนจะหลับตาควบคุมลมปราณเดินพลังหยางแผ่ไอร้อนไปทั่วร่างฉันพลันเสื้อผ้าที่เปียกฝนก็แห้งสนิทอย่างรวดเร็วราวกับไม่เคยต้องฝนมาก่อน คยูฮยอนได้แต่รอบมองการกระทำนั้นอย่างอึ้งๆก่อนจะขยับตัวออกห่างซีวอนมากขึ้น
ด้านซีวอนหลังจากที่เสื้อผ้าแห้งแล้วจึงลืมตาค่อยๆลืมตาขึ้น
“เสื้อผ้าเจ้าก็เปียกเหมือนกันมิใช่รึ ขยับมาสิ”ซีวอนพูดพร้อมกับกวักมือเรียกคยูฮยอนแต่มักเน่ปีศาจกลับไม่ยอมขยับเข้าหาซีวอนซ้ำยังถดตัวหนีจนแผ่นหลังน้อยๆแตะเข้ากับผนังกระท่อม
“แล้วจะนอนทั้งทีเสื้อผ้ายังเปียกอย่างนี้นะรึ เดี๋ยวก็เป็นหวัดกันพอดี”ไม่พูดเปล่าซีวอนยังขยับตัวเข้าไปหาคยูฮยอนอีกด้วย มักเน่ปีศาจเองหลังก็ติดผลังแล้วก็ไม่รู้จะไปทางไหนครั้นจะวิ่งหนีออกไปข้างนอกรึก็กระไรอยู่เพราะฝนยังไม่หยุดตกเลยซ้ำยังกระหน่ำเทลงมาราวกับฟ้ารั่วแถมยังมีลมกรรโชกแรงอีกต่างหากและอีกอย่างเขาก็มาก่อนด้วยเรื่องอะไรจะต้องไป คยูฮยอนจึงทำได้เพียงรอการเข้ามาของซีวอนพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง
“หันหลังมา”ซีวอนออกคำสั่งเมื่อเข้าใกล้คยูฮยอนในระยะที่สมควรแล้วคยูฮยอนเองก็ทำตามอย่างว่าง่ายโดยที่มิขัดคำสั่งแต่อย่างใด
เมื่อคยูฮยอนหันหลังไปแล้วซีวอนถึงกับแอบกลืนน้ำลายเลยทีเดียวก็เสื้อผ้าที่ที่แสนบางที่มักเน่ปีศาจใส่นี่สิพอถูกน้ำฝนจึงแนบเนื้อเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
ซีวอนค่อยๆยื่นมือไปทาบลงที่หลังของคยูฮยอน
“อ๊ะ”คยูฮยอนร้องออกมาด้วยความตกใจ
“อยู่นิ่งๆ สิเดี๋ยวจะถ่ายทอดพลังลมปราณให้”ซีวอนพูดกลบเกลื่อนทั้งที่ตัวเองก็แอบสะดุ้งตามเหมือนกัน
เมื่อมักเน่ปีศาจอยู่นิ่งแล้วซีวอนจึงหลับตาควบคุมลมปราณแล้วเดินพลังหยางผ่านผ่ามือเข้าสู่ตัวคยูฮยอน ชั่วครู่เสื้อผ้าที่เปียกของคยูก็แห้งสนิท
ซีวอนจึงลืมตาขึ้น
“เสร็จแล้ว”แล้วบอกคยูฮยอน
“ถ้าเสร็จแล้วท่านช่วยนั่งให้ห่างข้าหน่อยได้หรือไม่ เอ่อ.....คือ ข้าร้อน”คยูฮยอนบอกพร้อมหลุบตาลงต่ำ
ซีวอนจึงถอยออกมานั่งตรงปลายอีกด้านของแคร่ไม้
นี่ก็เป็นเวลาดึกดึ่นแล้วแต่ซีวอนและคยูฮยอนกลับยังไม่นอน ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากนอนแต่อากาศที่หนาวเย็นทำให้พวกเขานอนไม่หลับแม้ว่าฝนจะหยุดตกแล้วแต่ความหนาวเย็นกลับยังไม่หมดไปและด้วยความหนาวเย็นนี่เองทำให้ทั้งสองร่างขยับเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว
รุ่งเช้าแสงอาทิตย์สาดส่องมากระทบใบหน้าทำให้คยูฮยอนที่นอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของซีวอนรู้สึกตัวแต่มิอาจขยับตัวได้ รู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดคอ
“ท่านๆ ตื่นเถอะ ข้าจะลุกแล้ว”คยูฮยอนปลุกคนขี้เซา
“ขอข้านอนต่ออีกนิดมิได้รึ ตัวเจ้าหอมมากเลยนะรู้มั๊ย”เล่นเอาคยูฮยอนหน้าแดงไปเลยทีเดียวเมื่อฟังจบประโยค
แต่ก็แข็งใจพูดออกไป
“นี่ท่าน ตื่นได้แล้วข้าอึดอัด”
ถึงแม้ว่าซีวอนจะตื่นแล้วแต่กลับมิยอมลุกขึ้น
“นี่ท่าน อย่าแกล้งข้าสิ”คยูฮยอนเอ็ด
“ข้าไม่ลุก จนกว่าเจ้าจะเรียกข้าว่าพี่.........นะคยูนะ เรียกข้าว่าพี่เถอะ”ซีวอนยื่นข้อแลกเปลี่ยน เขาไม่อยากให้คยูฮยอนเรียกเขาว่าท่านเลยมันดูห่างเหินยังไงพิลึกกึกกือ
“ทะ...ท่านพี่”คยูฮยอนพูดอ้อมแอ้มด้วยความกระดากปาก
“อะไรนะ เมื่อกี้เจ้าว่าอะไรนะ”ซีวอนแกล้งไม่ได้ยินก่อนจะเอาหน้าไปซุกซอกคอขาวๆของคยูแล้วสุดเอาความหอมไป(โรคจิต)
“อ๊ะ”คยูผู้ไม่เคยตกใจร้องเสียงหลง ยิ่งทำให้ซีวอนได้ใจใหญ่
“พี่ซื่อหยวน ท่านพี่ หยุดเถอะอย่าแกล้งข้าอีกเลย”ในเมื่อท่านมีคนที่ท่านรักอยู่แล้วก็อย่าให้ความหวังข้าเลย ข้าหาได้อยากเป็นตัวแทนของใครไม่
เพราะเมื่อคืนเขาเองก็ได้ยินซื่อหยวนละเมอชื่อ ฮีชอล คนรักก็หลายทีอยู่
“ดีมากน้องพี่”เมื่อได้ยินคำว่าพี่หลุดออกจากปากคยูฮยอนแล้วซีวอนก็พอใจจึงยอมปล่อยให้คยูเป็นอิสระ
เด็กหนุ่มเองเมื่อถูกปล่อยเป็นอิสระแล้วจึงเตรียมตัวที่จะเดินออกไป
“คยูจะไปไหนน่ะ”ซีวอนที่เห็นดังนั้นจึงรีบขว้าตัวไว้
“ข้าก็จะเดินทางต่นนะสิ ปล่อยข้าได้แล้ว”
“แล้วคยูจะไปที่ไหนล่ะ”ซีวอนถาม
“........................”คยูฮยอนเม้มปากไม่ยอมตอบอะไร
ก็คนมันไม่รู้จะไปที่ไหนนี่หว่า
“งั้นพี่ข้าเดินทางไปกับคยูด้วยได้หรือไม่ พี่เป็นเพียงแค่คนต่างถิ่นเดินทางคนเดียวอาจหลงได้”ซีวอนยัดเยียดความเป็นพี่เป็นน้องให้คยูเสร็จสับ
“เอ่อ...”คยูฮยอนอ้ำอึง เขาเองก็ไม่รู้จักทางเหมือนกัน
“ได้ใช่มั๊ย งั้นออกเดินทางกันเลย” ซีวอนพูดเองเออเองเสร็จสับแล้วก็ดีใจอย่างลิงโลด
“เดี๋ยวก่อนท่าน”
“พี่บอกให้เรียกพี่ว่าพี่แล้วมิใช่หรือ....หืม?”
“ท่านพี่”คยูฮยอนเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้เต็มใจนัก
“มีอันใดหรือน้องพี่”
“ข้า....ข้าหิว”
~~~~~~~~~~
จบไปแล้วในที่สุดน้องกี้กับพี่วอนก็ได้เดินทางร่วมกันซะที
ศึกยุทธครั้งนี้กำลังจะเปิดตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว(เว่อร์)
ช่วงนี้ไรทเตอร์อาจจะหายหน้าหายตาไปหน่อยนะ
ชะตากรรมของเขาทั้งสองจะเป็นอย่างไร
พี่วอนจะรักน้องกี้แบบไหน
แล้วน้องกี้จะรักพี่ซื่อหยวนหรือไม่
ติดตามได้ในตอนต่อๆไป ไอ ไอ ไอ (แอ็กโค่)
ความคิดเห็น