ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] จินตภพ (ฉบับที่ผมแต่งใหม่)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 911
      29
      20 ก.พ. 65


    บทนำ

     

     

    “เสด็จเถิดพระเจ้าค่ะ!”

    เสียงเร่งเร้าดังมาจากชายในชุดเครื่องแบบราชองครักษ์สีขาวที่ยืนอยู่ไม่ห่าง ตามลำตัวของชายผู้นั้นเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง มืออีกข้างซึ่งว่างจากการกุมดาบเล่มใหญ่ถูกยื่นส่งมารอรับเจ้าชายพระองค์น้อยที่ประทับนั่งอยู่บนพระเก้าอี้

    “ไม่!” สุรเสียงเล็กประกาศกร้าว ในความมืดนั้น เขามองเห็นดวงพระเนตรคู่น้อยแดงก่ำ “เราจะรอไปพร้อมเสด็จพ่อ!”

    “ไม่ได้พระเจ้าค่ะ! หากไม่รีบเสด็จในตอนนี้ จะทรงถูกพวกกบฏพบก่อนแน่ ๆ องค์เจ้าหลวงทรงกำชับเกล้ากระหม่อมให้...”

    “เราบอกว่า ไม่! เจ้ามีหน้าที่ดูแลเสด็จพ่อไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ไปทำหน้าที่?!”

    ราชองครักษ์หนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง หากแล้วเสียงการสู้รบด้านนอกห้องพระบรรทมที่ดังใกล้เข้ามา ทำให้เขารีบโค้งถวายความเคารพเจ้าฟ้าชายพระองค์น้อยในทันที

    “ขอประทานพระอนุญาต”

    และโดยไม่รอรับพระอนุญาตใด ๆ ทั้งสิ้น ราชองครักษ์แห่งองค์เจ้าหลวงก็เอื้อมมือคว้าเจ้าชายพระองค์น้อยขึ้นพาดบ่า ก่อนรีบรุดไปยังประตูลับหลังโต๊ะทรงพระอักษรที่ถูกบดบังไว้ด้วยกระจกบานใหญ่ ไม่สนใจว่าเจ้าชายจะทรงร้องโวยวายและดิ้นรนเท่าไร เพราะวินาทีนี้ ไม่มีสิ่งใดจะสำคัญไปกว่าการรักษาชีวิตของพระองค์อีกแล้ว!

    เปรี้ยง!!

    บานประตูของห้องพระบรรทมระเบิดออก ก่อนที่ใครคนหนึ่งจะก้าวข้ามซากประตูและเดินฝ่าฝุ่นควันสีขาวที่ฟุ้งกระจายเข้ามา นัยน์ตาสีเขียวของนายทหารราชองค์รักษ์เบิกกว้างทันทีที่มองเห็นใบหน้าของอาคันตุกะซึ่งไม่ได้รับเชิญ

    หนึ่งในทหารเอกของพระอนุชาในองค์เจ้าหลวง!

    ฝ่ายกบฎ!

    “ข้ากำลังตามหาพ่อมดหลวงโซเทปป์ นึกไม่ถึงว่าจะมาเจอท่านราชองค์รักษ์แทน”

    นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของผู้มาใหม่จับจ้องมายังเจ้าชายพระองค์น้อยที่กำลังดิ้นรนอยู่บนบ่าของราชองครักษ์ ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะก้องกังวาน

    “แจ๊คพ็อต! จับตัวเจ้าชายไปได้แบบนี้ ข้าได้รางวัลใหญ่จากท่านแม่มดแน่ ๆ !”

    “ข้านับถือความมั่นใจของเจ้าจริง ๆ ไอเด็น เพราะถ้าเป็นข้า...”

    ฟึ่บ!

    ดาบเล่มใหญ่ในมือของราชองครักษ์หนุ่มลุกเป็นไฟ ก่อนถูกยกขึ้นหันปลายคมกริบชี้ตรงไปยังฝ่ายกบฏตรงหน้า

    “ข้าจะไม่มั่นใจเช่นนั้นแน่!”

    “ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็อาจใช่ แต่ถ้าเป็นตอนนี้...”

    ฝ่ายกบฏชักดาบคู่ออกมาจากฝักที่อยู่ติดกับหลังออกมาบ้าง ก่อนส่งยิ้มเย็น

    “ท่านไม่รอดแน่”

    ฉึบ!

    ไม่ทันที่ทั้งไอเด็นหรือราชองครักษ์จะได้ลงมือ ดาบเงินยาวเล่มหนึ่งก็ถูกแทงมาจากด้านหลังของทหารฝ่ายกบฏ เสียบทะลุออกด้านหน้าที่บริเวณอกด้านขวา นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของคนขบถเบิกกว้างก่อนที่ร่างนั้นจะล้มคว่ำลงไปนอนหมดสติจมกองเลือดอยู่บนพื้นห้อง!

    “เจ้า?!”

    เมื่อไอเด็นล้มลง ร่างของผู้มาใหม่ที่เพิ่งจะจัดการกับทหารเอกของพระอนุชาก็ปรากฏชัด เขาเป็นนายทหารชั้นผู้น้อยคนหนึ่งซึ่งเพิ่งจะเข้าสังกัดกองกำลังฝ่ายขวาของเขามาได้ไม่นาน แม้จะจำชื่อของนายทหารผู้นี้ไม่ได้ หากเขาจดจำใบหน้าและผมสีน้ำตาลยาวสลวยนั่นได้ มีทหารไม่กี่คนหรอกที่ไว้ผมทรงน่าเกะกะเช่นนี้

    ในมือของนายทหารหน้าใหม่ข้างหนึ่งจูงเด็กหญิงตัวเล็กหน้าตามอมแมมที่อายุไม่น่าจะเกินไปกว่าเจ้าฟ้าชายบนบ่าของเขา

    “ท่านราชองครักษ์ ได้โปรด...”

    นายทหารหนุ่มน้อยผู้มาใหม่เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเด็กผู้หญิง ในตอนนั้นเองที่แสงสลัวจากภายนอกทำให้ราชองค์รักษ์ผู้นั้นได้มองเห็นอะไรบางอย่างที่ลำตัวของทหารผู้นี้

    ดาบสีเงินเล่มยาวคาทะลุลำตัวของเขาในบริเวณใต้ลิ้นปี่!

    การที่ยังคงยืนหยัดและกวัดแกว่างดาบอยู่ได้เช่นนี้ จะเรียกว่าปาฏิหาริย์ก็คงไม่ผิดนัก!

    “ได้โปรดช่วยพาน้องสาวข้าไปด้วย!”

    นัยน์ตาสีม่วงอเมทิสต์ของนายทหารที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความเว้าวอน เขารีบดันหลังน้องสาวให้เดินเข้ามาใกล้ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองกำลังที่เขาสังกัด ราชองค์รักษ์จ้องมองเด็กหญิงคนนั้นเพียงปราดเดียวก็เข้าใจถึงความสำคัญของเด็กหญิง...

    การที่น้องสาวของนายทหารยศน้อยผู้นี้หลุดรอดจากเงื้อมมือของนางแม่มดออกมาได้ ก็เรียกได้ว่าปาฏิหาริย์เช่นเดียวกัน!

    “ไป! เราไปด้วยกัน!” ผู้มียศสูงกว่าและมีศักดิ์เป็นผู้บังคับบัญชาออกคำสั่นห้วน

    “ไม่ขอรับ!”

    แม้รู้อยู่แก่ใจว่าการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาจะมีโทษหนักสถานใด หากเวลานี้เขาไม่สนใจสิ่งใดอีกแล้ว เสียงฝีเท้าของกลุ่มคนที่ดังเข้ามาใกล้เร่งให้เขาต้องตัดสินใจ

    “ข้าจะอยู่ถ่วงเวลา”

    นายทหารกล่าว ก่อนกัดฟันกระชากดึงดาบที่เสียบคาลำตัวของเขาออกมาถือไว้ เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกมาจากบาดแผลในขณะที่เขาออกอาการหอบ ใบหน้าคมคายเริ่มซีดลงกว่าเก่า

    “น้องพี่...” เสียงนายทหารแหบพร่า มือข้างหนึ่งจับกุมไหล่เล็ก ๆ ที่สั่นเทาของเด็กหญิงไว้

    “อย่าลืมคำพี่... ตามหาสิ่งนั้นให้พบ!”

    สายธารน้ำตาไหลรินลงมาจากดวงตาสีม่วงคู่น้อยของผู้เป็นน้อง ปากเล็ก ๆ นั้นเม้มแน่นอย่างพยายามข่มกลั้นไม่ให้ส่งเสียงโฮออกมา ราชองครักษ์หนุ่มสะดุดใจกับประโยคคำสั่งนั้นเป็นอย่างมาก หากเจ้าตัวก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป

    “เข้าใจมั้ย?” นายทหารถามย้ำเด็กหญิง หากไม่มีเสียงตอบรับนอกจากเสียงสะอื้นและอาการพยักหน้า มือใหญ่ของผู้เป็นพี่เอื้อมมาลูบศีรษะของเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน

    “ดีมาก เด็กดีของพี่...”

    แต่สีหน้าอันอ่อนโยนของพี่ชาย เพียงชั่ววินาทีก็พลันเปลี่ยนกลับเป็นเคร่งเครียด เพราะเสียงฝีเท้าจากด้านนอกห้องบรรทมที่ดังใกล้เข้ามามากขึ้นทุกที

    “ไปเถอะขอรับ ท่านต้องไปตอนนี้!” นายทหารผู้น้อยออกคำสั่งต่อผู้บัญชาการอย่างไม่เกรงกลัว สีหน้าและแววตาอันมาดมั่นนั้นทำให้ท่านราชองครักษ์พยักหน้าตกลง

    “ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงคุ้มครองเจ้า” ราชองค์รักษ์หนุ่มหันมากล่าว ก่อนพาเด็กน้อยหนึ่งพระองค์กับอีกหนึ่งคนก้าวผ่านบานประตูหายเข้าไปในความมืดมิด

    “ชะตากรรมของอาณาจักรจินตภพอยู่ในมือท่านแล้ว”

    นายทหารผู้น้อยกระซิบแผ่วเบาตามหลัง ก่อนที่ในชั่วพริบตาจะหันขวับกลับมาเพ่งมองไปในมุมมืดมุมหนึ่งของห้องพระบรรทมพลางตวาดเสียงเข้ม

    “นั่นใครอยู่ตรงนั้น?!”

     

    เฮือก!!

     

    นัยน์ตาสีม่วงคู่นั้นที่ตวัดมองมาที่เขาอย่างทันควัน ทำให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยความตกใจ

    ในความมืดมิดของค่ำคืน นัยน์ตาสีดำกวาดมองไปรอบกาย แสงไฟจากถนนหน้าบ้านที่สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้เขามองเห็นโต๊ะทำงานของตัวเองที่มีสมุดปกแข็งสีเทาเล่มกระทัดรัดเล่มหนึ่งวางอยู่...

    เขายังอยู่ในห้องนอนของตัวเองที่เงียบสงัด ไม่มีห้องพระบรรทมอะไรนั่น หรือแม้แต่เสียงสู้รบไกล ๆ ให้ได้ยิน   เด็กหนุ่มขยี้ผมสีดำของตนเองพลางถอนหายใจยาว ก่อนหงายหลังล้มแผ่ลงนอนอีกครั้ง

    “แต่งนิยายมากซะจนเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะเลย จิณณ์เอ๊ย!

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×