คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ
บทนำ
“เสด็จเถิดพระเจ้าค่ะ!”
เสียงเร่งเร้าดังมาจากชายในชุดเครื่องแบบราชองครักษ์สีขาวที่ยืนอยู่ไม่ห่าง
ตามลำตัวของชายผู้นั้นเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง
มืออีกข้างซึ่งว่างจากการกุมดาบเล่มใหญ่ถูกยื่นส่งมารอรับเจ้าชายพระองค์น้อยที่ประทับนั่งอยู่บนพระเก้าอี้
“ไม่!” สุรเสียงเล็กประกาศกร้าว
ในความมืดนั้น เขามองเห็นดวงพระเนตรคู่น้อยแดงก่ำ “เราจะรอไปพร้อมเสด็จพ่อ!”
“ไม่ได้พระเจ้าค่ะ!
หากไม่รีบเสด็จในตอนนี้ จะทรงถูกพวกกบฏพบก่อนแน่ ๆ องค์เจ้าหลวงทรงกำชับเกล้ากระหม่อมให้...”
“เราบอกว่า ไม่!
เจ้ามีหน้าที่ดูแลเสด็จพ่อไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ไปทำหน้าที่?!”
ราชองครักษ์หนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง
หากแล้วเสียงการสู้รบด้านนอกห้องพระบรรทมที่ดังใกล้เข้ามา ทำให้เขารีบโค้งถวายความเคารพเจ้าฟ้าชายพระองค์น้อยในทันที
“ขอประทานพระอนุญาต”
และโดยไม่รอรับพระอนุญาตใด
ๆ ทั้งสิ้น ราชองครักษ์แห่งองค์เจ้าหลวงก็เอื้อมมือคว้าเจ้าชายพระองค์น้อยขึ้นพาดบ่า
ก่อนรีบรุดไปยังประตูลับหลังโต๊ะทรงพระอักษรที่ถูกบดบังไว้ด้วยกระจกบานใหญ่
ไม่สนใจว่าเจ้าชายจะทรงร้องโวยวายและดิ้นรนเท่าไร เพราะวินาทีนี้ ไม่มีสิ่งใดจะสำคัญไปกว่าการรักษาชีวิตของพระองค์อีกแล้ว!
เปรี้ยง!!
บานประตูของห้องพระบรรทมระเบิดออก
ก่อนที่ใครคนหนึ่งจะก้าวข้ามซากประตูและเดินฝ่าฝุ่นควันสีขาวที่ฟุ้งกระจายเข้ามา
นัยน์ตาสีเขียวของนายทหารราชองค์รักษ์เบิกกว้างทันทีที่มองเห็นใบหน้าของอาคันตุกะซึ่งไม่ได้รับเชิญ
หนึ่งในทหารเอกของพระอนุชาในองค์เจ้าหลวง!
ฝ่ายกบฎ!
“ข้ากำลังตามหาพ่อมดหลวงโซเทปป์
นึกไม่ถึงว่าจะมาเจอท่านราชองค์รักษ์แทน”
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของผู้มาใหม่จับจ้องมายังเจ้าชายพระองค์น้อยที่กำลังดิ้นรนอยู่บนบ่าของราชองครักษ์
ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะก้องกังวาน
“แจ๊คพ็อต! จับตัวเจ้าชายไปได้แบบนี้
ข้าได้รางวัลใหญ่จากท่านแม่มดแน่ ๆ !”
“ข้านับถือความมั่นใจของเจ้าจริง
ๆ ไอเด็น เพราะถ้าเป็นข้า...”
ฟึ่บ!
ดาบเล่มใหญ่ในมือของราชองครักษ์หนุ่มลุกเป็นไฟ
ก่อนถูกยกขึ้นหันปลายคมกริบชี้ตรงไปยังฝ่ายกบฏตรงหน้า
“ข้าจะไม่มั่นใจเช่นนั้นแน่!”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็อาจใช่
แต่ถ้าเป็นตอนนี้...”
ฝ่ายกบฏชักดาบคู่ออกมาจากฝักที่อยู่ติดกับหลังออกมาบ้าง
ก่อนส่งยิ้มเย็น
“ท่านไม่รอดแน่”
ฉึบ!
ไม่ทันที่ทั้งไอเด็นหรือราชองครักษ์จะได้ลงมือ
ดาบเงินยาวเล่มหนึ่งก็ถูกแทงมาจากด้านหลังของทหารฝ่ายกบฏ เสียบทะลุออกด้านหน้าที่บริเวณอกด้านขวา
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของคนขบถเบิกกว้างก่อนที่ร่างนั้นจะล้มคว่ำลงไปนอนหมดสติจมกองเลือดอยู่บนพื้นห้อง!
“เจ้า?!”
เมื่อไอเด็นล้มลง
ร่างของผู้มาใหม่ที่เพิ่งจะจัดการกับทหารเอกของพระอนุชาก็ปรากฏชัด เขาเป็นนายทหารชั้นผู้น้อยคนหนึ่งซึ่งเพิ่งจะเข้าสังกัดกองกำลังฝ่ายขวาของเขามาได้ไม่นาน
แม้จะจำชื่อของนายทหารผู้นี้ไม่ได้ หากเขาจดจำใบหน้าและผมสีน้ำตาลยาวสลวยนั่นได้
มีทหารไม่กี่คนหรอกที่ไว้ผมทรงน่าเกะกะเช่นนี้
ในมือของนายทหารหน้าใหม่ข้างหนึ่งจูงเด็กหญิงตัวเล็กหน้าตามอมแมมที่อายุไม่น่าจะเกินไปกว่าเจ้าฟ้าชายบนบ่าของเขา
“ท่านราชองครักษ์
ได้โปรด...”
นายทหารหนุ่มน้อยผู้มาใหม่เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเด็กผู้หญิง
ในตอนนั้นเองที่แสงสลัวจากภายนอกทำให้ราชองค์รักษ์ผู้นั้นได้มองเห็นอะไรบางอย่างที่ลำตัวของทหารผู้นี้
ดาบสีเงินเล่มยาวคาทะลุลำตัวของเขาในบริเวณใต้ลิ้นปี่!
การที่ยังคงยืนหยัดและกวัดแกว่างดาบอยู่ได้เช่นนี้
จะเรียกว่าปาฏิหาริย์ก็คงไม่ผิดนัก!
“ได้โปรดช่วยพาน้องสาวข้าไปด้วย!”
นัยน์ตาสีม่วงอเมทิสต์ของนายทหารที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความเว้าวอน
เขารีบดันหลังน้องสาวให้เดินเข้ามาใกล้ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองกำลังที่เขาสังกัด
ราชองค์รักษ์จ้องมองเด็กหญิงคนนั้นเพียงปราดเดียวก็เข้าใจถึงความสำคัญของเด็กหญิง...
การที่น้องสาวของนายทหารยศน้อยผู้นี้หลุดรอดจากเงื้อมมือของนางแม่มดออกมาได้
ก็เรียกได้ว่าปาฏิหาริย์เช่นเดียวกัน!
“ไป!
เราไปด้วยกัน!” ผู้มียศสูงกว่าและมีศักดิ์เป็นผู้บังคับบัญชาออกคำสั่นห้วน
“ไม่ขอรับ!”
แม้รู้อยู่แก่ใจว่าการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาจะมีโทษหนักสถานใด
หากเวลานี้เขาไม่สนใจสิ่งใดอีกแล้ว เสียงฝีเท้าของกลุ่มคนที่ดังเข้ามาใกล้เร่งให้เขาต้องตัดสินใจ
“ข้าจะอยู่ถ่วงเวลา”
นายทหารกล่าว
ก่อนกัดฟันกระชากดึงดาบที่เสียบคาลำตัวของเขาออกมาถือไว้
เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกมาจากบาดแผลในขณะที่เขาออกอาการหอบ
ใบหน้าคมคายเริ่มซีดลงกว่าเก่า
“น้องพี่...”
เสียงนายทหารแหบพร่า มือข้างหนึ่งจับกุมไหล่เล็ก ๆ ที่สั่นเทาของเด็กหญิงไว้
“อย่าลืมคำพี่...
ตามหาสิ่งนั้นให้พบ!”
สายธารน้ำตาไหลรินลงมาจากดวงตาสีม่วงคู่น้อยของผู้เป็นน้อง
ปากเล็ก ๆ นั้นเม้มแน่นอย่างพยายามข่มกลั้นไม่ให้ส่งเสียงโฮออกมา ราชองครักษ์หนุ่มสะดุดใจกับประโยคคำสั่งนั้นเป็นอย่างมาก
หากเจ้าตัวก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป
“เข้าใจมั้ย?”
นายทหารถามย้ำเด็กหญิง หากไม่มีเสียงตอบรับนอกจากเสียงสะอื้นและอาการพยักหน้า มือใหญ่ของผู้เป็นพี่เอื้อมมาลูบศีรษะของเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน
“ดีมาก
เด็กดีของพี่...”
แต่สีหน้าอันอ่อนโยนของพี่ชาย
เพียงชั่ววินาทีก็พลันเปลี่ยนกลับเป็นเคร่งเครียด
เพราะเสียงฝีเท้าจากด้านนอกห้องบรรทมที่ดังใกล้เข้ามามากขึ้นทุกที
“ไปเถอะขอรับ
ท่านต้องไปตอนนี้!” นายทหารผู้น้อยออกคำสั่งต่อผู้บัญชาการอย่างไม่เกรงกลัว สีหน้าและแววตาอันมาดมั่นนั้นทำให้ท่านราชองครักษ์พยักหน้าตกลง
“ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงคุ้มครองเจ้า”
ราชองค์รักษ์หนุ่มหันมากล่าว ก่อนพาเด็กน้อยหนึ่งพระองค์กับอีกหนึ่งคนก้าวผ่านบานประตูหายเข้าไปในความมืดมิด
“ชะตากรรมของอาณาจักรจินตภพอยู่ในมือท่านแล้ว”
นายทหารผู้น้อยกระซิบแผ่วเบาตามหลัง
ก่อนที่ในชั่วพริบตาจะหันขวับกลับมาเพ่งมองไปในมุมมืดมุมหนึ่งของห้องพระบรรทมพลางตวาดเสียงเข้ม
“นั่นใครอยู่ตรงนั้น?!”
เฮือก!!
นัยน์ตาสีม่วงคู่นั้นที่ตวัดมองมาที่เขาอย่างทันควัน
ทำให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยความตกใจ
ในความมืดมิดของค่ำคืน
นัยน์ตาสีดำกวาดมองไปรอบกาย แสงไฟจากถนนหน้าบ้านที่สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา
ทำให้เขามองเห็นโต๊ะทำงานของตัวเองที่มีสมุดปกแข็งสีเทาเล่มกระทัดรัดเล่มหนึ่งวางอยู่...
เขายังอยู่ในห้องนอนของตัวเองที่เงียบสงัด
ไม่มีห้องพระบรรทมอะไรนั่น หรือแม้แต่เสียงสู้รบไกล ๆ ให้ได้ยิน เด็กหนุ่มขยี้ผมสีดำของตนเองพลางถอนหายใจยาว
ก่อนหงายหลังล้มแผ่ลงนอนอีกครั้ง
“แต่งนิยายมากซะจนเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะเลย
จิณณ์เอ๊ย!”
ความคิดเห็น