So Danger OX ถึงอัตรายสุดท้ายก็รักเธอ - นิยาย So Danger OX ถึงอัตรายสุดท้ายก็รักเธอ : Dek-D.com - Writer
×

    So Danger OX ถึงอัตรายสุดท้ายก็รักเธอ

    เธอผู้เกลียดการมาที่นี่เพราะมันคือสิ่งที่เจ็บปวดเขาคือคนที่จะเปลี่ยนความเจ็บปวดเหล่านั้นให้เป็นความรัก!

    ผู้เข้าชมรวม

    61

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    61

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  27 มี.ค. 58 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    1

                    เช้าที่แสนคุ้นเคยของเด็กนักเรียนธรรมดาคนนึงถ้าเป็นนักเรียนทั่วไปก็คงกำลังนอนสบายอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่กับผมมันไม่ใช่

    “ ขยันเหมือนทุกวันเลยนะ ”  ผมพยักหน้าและยิ้มให้หญิงแก่ที่ออกมารับหนังสือพิมพ์นั้นคือสาเหตุที่ผมไม่เหมือนนักเรียนทั่วไปคือผมต้องทำงานเพื่อหาเงินเรียนด้วยตัวเองต้องจัดการทุกอย่างเองเพราะผมมันเด็กไม่มีพ่อแม่มีแต่ป้าที่คอยเลี้ยงดูซึ่งตอนนี้ป้าก็อยู่ที่บ้านนอกผมขอป้าเข้ามาเรียนในเมืองและสัญญาว่าจะไม่รบกวนเงินป้าอีกชีวิตผมมันเศร้าเล่า7วันคงไม่จบ

    “ ทำไมวันนี้มาส่งเร็วนักล่ะ ” คุณป้าที่ผมมาส่งหนังสือพิมพ์ถาม

    “ วันนี้เปิดเรียนวันแรกผมไม่อยากสาย ” ผมตอบและส่งยิ้มให้นี่เป็นบ้านหลังสุดท้ายที่ผมมาส่งหนังสือพิมพ์

    “ หรอจ้ะตั้งใจเรียนนะเออใช่เห็นว่าเป็นเด็กขยันนะป้ามีของจะให้ ” คุณป้าเดินเข้าไปในบ้านเธอมักจะมีของมาให้ผมเสมอบางครั้งก็ขนม บางครั้งก็เสื้อผ้าผมเกรงใจจริงๆแต่ไม่รับก็กลัวท่านจะเสียใจ  ผมยืนรอสักพักคุณป้าก็เดินออกมาพร้อมกระเป๋าสะพายสีดำ

    “ นี่จ้ะป้าให้ในกระเป๋ามีเครื่องเขียนด้วยนะ ” 

    “ มันมากไปหรือป่าวครับผมรับมันไว้ไม่ได้จริงๆ ”  กระเป๋าสีดำใบนั้นข้างหน้าเขียนคำว่า  Body Glove ถึงผมจะไม่ได้สนใจเรื่องกระเป๋าแต่ยี่ห้อนี้ก็ดังอยู่ผมมันใจว่ามันน่าจะแพง

    “ เอาไปเถอะของลูกชายป้าน่ะตอนนี้เค้าอยู่ต่างประเทศยังไงเค้าก็คงไม่ได้ใช้ ” 

    “ ขอบคุณมากครับผมเกรงใจมากจริงๆ ” ผมยกมือไหว้

    “ รีบไปโรงเรียนเถอะวันนี้วันแรกใช่ไหม ” ผมยกมือไหว้อีกทีผมรู้จักกับคุณป้ามาได้ไม่กี่ปีเองคุณป้าเป็นคนใจดีใจเย็นพูดจาดีผมมักจะชอบคุยกับท่านเพราะท่านมักจะแนะนำอะไรดีๆให้เสมอผมสะพายกระเป๋าและขี่จีกรยานกลับบ้านจริงๆแล้วมันก็แทบจะไม่เรียกว่าบ้านเพราะผมเช่าห้องพักเล็กๆบนด่านฟ้าอยู่ก็มันโครตจะถูกและเหมาะกับผมที่สุดถึงแม้จะรวมห้องนอนห้องครัวและห้องนั่งเล่นไว้ในที่เดียวก็เถอะแต่ยังดีที่มีห้องน้ำ ผมอาบน้ำแต่งตัวเตรียมของเพื่อไปโรงเรียน

    “ เฮ้ยคอส ” เฟย์เพื่อนผมตะโกนเรียกมันเป็นเพื่อนคนเดียวตั้งแต่ผมย้ายมา

    “ มาช้าว่ะรถเมล์ไปตั้ง2คันล่ะจะสายไหมเนี่ย ” ผมดูนาฬิกาข้อมือเหลืออีก20นาทีประตูปิด

    “ โทษทีๆแต่วันนี้ไม่ต้องห่วงดิจิจะมารับ ”  ดิจิคือแฟนสุดสวยของมันนั้นเองทั้งสวยรวยอีกตั้งหากผู้หญิงคนนี้ทำให้เพื่อนผมพูดกรอกหูทุกวันว่าให้หาแฟนอยู่นั้นแหละ

    “ แล้วเมื่อไหร่จะมา ” พูดไม่ทันขาดคำมินิคูเปอร์สีแดงก็มาจอดเทียบกับป้ายรถเมล์ที่ผมกับเฟย์ยืนอยู่

    “ ขึ้นรถสิ ” เธอเปิดกระจกรถและบอกผมกับเฟย์เดินไปขึ้นรถ

    “ นึกไงวันนี้มารับ ” เฟย์ถามแฟนมัน

    “ ก็วันแรกไม่อยากให้นั่งรถเมล์คนอาจจะเยอะ ”  ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องนั่งอยู่ดีป่ะว่ะถ้าไม่อยากให้นั่งรถที่คนเยอะคงต้องมารับทุกวันผู้หญิงนะผู้หญิง

    “ จ้า ” เฟย์เอื้อมมือไปดึงแก้มแฟนสาวอย่างเอ็นดูเธอส่งยิ้มให้อย่างน่ารักจริงๆเธอไม่ใช่สาวหวานๆน่ารักๆหรอกเธอเป็นคนที่ผู้หญิงเกือบทั้งโรงเรียนกลัวผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงมาชอบเพื่อนผมได้บางทีผมควรจะแนะนำให้มันไปไหว้พระดีไหมนะ

    “ นินทาอะไรฉัน ” รู้ได้ไงผมสะดุ้งเผลอจ้องเธอในกระจกนานเกินไปมั้งผมคิดว่าจะหาพระสักองค์มาให้เพื่อนผมแขวนแล้วแหละ

    “ ป่าว ” ผมตอบ เมื่อถึงโรงเรียนผมก็เดินไปดูที่ป้ายแจ้งห้องเรียนผมอยู่ห้องAต้องเป็นเพราะการเรียนปีที่แล้วดีแน่ถึงได้เลื่อนขึ้นมาผมภูมิใจที่พยายามตั้งใจเรียน

    “ ห้องA ” ผมหันไปมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆใบหน้าเรียบเนียนไม่มีสิวสักเม็ดเกล้าผมรวบตึงซึ่งเป็นเจ้าของเสียงผมรู้สึกเหมือนไม่เคยเห็นหน้าเลยดาราหรือเปล่าขอลายเซ็นกันไว้เลยดีไหมนะเดี๋ยวคนขอเยอะสักพักเธอหันมามองหน้าผมและเอียงคอเชิงถามว่ามีอะไรผมเลยเดินไปหาไอ้เฟย์

     “ ว่าไงห้องไรว่ะ ” เฟย์ถาม

    “ A แกอ่ะ ” ผมถามตอบ

    “ Cว่ะดิจิก็ห้องเดิม  ” ดิจิยังคงทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรทั้งๆที่เธออยู่ห้องโหล่แต่ไอ้เฟย์กลับทำหน้าบูดซะเองนี่เธอรู้หรือเปล่าว่าอยู่ห้องโหล่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรสักอย่าง

    “นี่ผลการเรียนแกต่ำลงเรื่อยๆนะ ” ผมพูดขึ้นเชิงดุใส่เพื่อนแต่ก็จริงนะนี่มันเลื่อนลงไม่ได้เลื่อนขึ้นมันเคยอยู่ห้องBห้องเดียวกับผมมาก่อนแท้ๆ

    “ ฉันก็พยายามแล้วนะ ” มันบอกพรางทำหน้าผิดหวัง

    “ แกต้องตั้งใจเรียนมากกว่านี้นะฉันไปล่ะบาย ” ผมพูดจบก็ไปที่ตึกวิทย์ห้องประจำของผมอยู่ตึกวิทย์เป็นห้องคิงห้องระดับชั้นผมเดินเข้าไปในห้องส่วนใหญ่ผมก็รู้จักพวกในห้องมาบ้างเพราะเคยเรียนด้วยกันตอนม.ต้นผมหาที่นั่งแต่เดี๋ยวครูก็จัดให้ใหม่อยู่ดี

     “ นักเรียน เคารพ ” ทุกคนในห้องเคารพคุณครูและเดินเก็บกระเป๋าไปหน้าห้องเพื่อนให้คุณครูจัดที่นั่งซึ่งจะเปลี่ยนทุกเทอมนั้นไงสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็เกิดผมได้นั่งคู่กับพิ้งค์ซึ่งเธอเป็นคนพูดมากสุดๆเธอเป็นดีเจวิทยุของโรงเรียนผมคงต้องทำใจแล้วล่ะเห้อ

    “ ดีเราเคยอยู่ห้องเดียวกันตอนม.ต้นไงจำฉันได้ป่าว ” เธอยิ้มอย่างร่าเริง

    “ อื้ม ” ผมยิ้มให้เธอและหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่

     “ วันนี้เรามีเพื่อนใหม่ย้ายมาจากต่างประเทศนะเข้ามาสินักเรียน ” ผู้หญิงคนนั้นนิว่าแล้วนักเรียนใหม่จริงๆด้วยเธอกวาดตามองทุกคนในห้องและหยุดสายตาที่ผมเอ่อหมายความว่ายังไง

    “ สวัสดีค่ะ ” เธอเอ่ยนิ่งๆทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ

    “ อ่อทุกคนฝากดูแลเด็กใหม่ด้วยนะไปนั่งที่ได้จ้ะ ”

    “ แล้วจะให้นั่งตรงไหนคะ ” เธอเอ่ยถามครูเสียงเบาห้องเราก็ครบคู่แล้วเธอคงต้องนั่งคนเดียวล่ะมั้งน่าสงสารจังแต่ถ้าเป็นผมผมจะดีใจมากเลยให้เลือกระหว่างนั่งคนเดียวกับนั่งคู่พิ้งค์นั่งคนเดียวสบายใจกว่าเยอะ

    “ นั่นสินะห้องก็ครบคู่หมดแล้วสิ”  ครูทำหน้าครุ่นคิด “ หรือจะเปลี่ยนเป็นนั่งแถวละ3ดี ” ทุกคนในห้องต่างทำหน้าเบื่อหน่ายและไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

    “ มันอาจจะเกินเวลาคาบแรกไปนะคะ ”  แอมผู้หญิงที่นั่งริมหน้าต่างยกมือและพูดขึ้น

    “ หนูนั่งคนเดียวได้ค่ะ ” เด็กใหม่พูดขึ้นและเดินมาข้างหลังโต๊ะผม   “ หนูนั่งตรงนี้ได้ไหม ” เธอชี้ตรงที่ว่างข้างหลังผม

    “แล้วจะนั่งยังไงในเมื่อโต๊ะก็ไม่มีเก้าอี้ก็ไม่มีนั่งพื้นหรอไม่ดีมั้งเธออาจจะมองกระดานไม่เห็นนะ” เคที่นั่งตรงข้างกับผมบอกพลางหัวเราะเบาๆ

    “ เธอจับฉลากเข้าห้องนี้มาเหรอ” เด็กใหม่ตอบกลับและแสยะยิ้มใส่

    “ เธอว่าไงนะ ” เคลุกขึ้นและพูดด้วยท่าทางที่โมโห

    “ พอได้แล้วเข้ามาวันแรกก็เอาเลยนะถ้าจะนั่งตรงนั้นก็ไปหาโต๊ะมา ” ครูบอกเสียงดุและเดินออกจาห้องไป

    “ ช่วยยกโต๊ะหน่อยได้ไหม ” เธอพูดกับผมใช่ไหมทำไมผมต้องตื่นเต้นด้วยเนี่ยผมเดินนำเธอไปที่ห้องช่างใต้ตึกที่เก็บโต๊ะกับเก้าอี้ไว้ บรรยากาศน่าอึดอัดสุดๆ

    “ เธอชื่อไรล่ะ ” ผมเริ่มถามไหนๆเธอก็เด็กใหม่น่ะนะ

    “ เรส ” ชื่อก็แปลก

    “ เธอมาจากต่างประเทศหรอ ” ผมช่วยเธอยกโต๊ะและชวนเธอคุยแต่ใจคอจะไม่ถามชื่อผมบ้างเลยหรอ

    “ ใช่ ขอบคุณที่ช่วยนะ ” เธอนั่งลงที่โต๊ะข้างหลังผม

    “ สวัสดีฉันพิ้งค์นะเธอล่ะ เอ๊ะ!นั้นกระเป๋าของMCMหรือเปล่าสวยจังเลยรุ่นนี้พึ่งออกมาไม่ถึงอาทิตย์เลยนะ ”  เอาแล้วไงความสงบหายไปเรื่อยๆผมแอบมองไปที่เรสเธอยังเงียบและนั่งนิ่ง

    “ แล้วนั่น CASIO รุ่นใหม่นิแหมนักเรียนใหม่ไม่ธรรมดาเลยนะ ” พิ้งค์พูดพลางหัวเราะคิกคักอีกอย่างที่ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าแค่ใส่ของแพงมันทำให้คนเราดูมีค่าขึ้นหรอเห้อช่างเหอะอาจจะเป็นความคิดของผมคนเดียวมั้ง

    “ ทุกคนเงียบได้แล้ว ”  คุณครูเดินเข้ามาและเริ่มสอนผมชอบเวลานี้จริงๆเวลาที่ครูสอนแล้วทุกคนตั้งใจเรียนเพราะมันเงียบสุดๆ

    “ ทานข้าวให้อร่อยนะจ้ะ ” ทุกคนในห้องเริ่มทยอยออกจากห้องทุกคนเดินจับกลุ่มคุยกันส่วนผมก็เหมือนเดิมคนเดียวตลอดบางครั้งเป็นเด็กเรียนเก่งก็มีข้อเสียคือหาเพื่อนจริงใจยากผมมีแค่เฟย์คนเดียวที่เป็นเพื่อนในโรงเรียนแต่ผมก็ไม่เคยดิ้นรนอยากมีเพื่อนหรอก

    “ ไปทานข้าวด้วยกันไหมจ้ะ ”  พิ้งค์ที่กำลังเก็บกระเป๋าก็หันหลังไปถามเรสยัยนี่น่ารำคาญจริงๆดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเค้าไม่อยากคุยด้วยยังจะไปเซ้าซี้เค้าอีกผมล่ะไม่เข้าใจผู้หญิงจริงๆ

    “ ไม่ล่ะ ” เธอตอบแล้วเดินออกจากห้องไป

    “ หยิ่งชะมัดเหอะ ”  พิ้งค์เดินออกจากห้องไปผมเองก็เดินตรงไปที่โรงอาหาร

    “ คอสทางนี้ ” ผมเดินไปที่โต๊ะของเฟย์

    “ ห้องแกมีเด็กใหม่ป่ะว่ะ ” เฟย์เริ่มถามผม

    “ มีแกรู้ได้ไง ”

    “ ห้องฉันก็มีมันแปลกไหมล่ะ ” เฟย์พูดพลางทำหน้าครุ่นคิด  “ ห้องดิจิก็มีมีตั้ง2คนเป็นฝาแฝด ”  เริ่มแปลกล่ะผมว่าคงมาพร้อมกันหวังว่าคงไม่ได้รู้จักกันหรอกมั้ง

    “ ช่างเหอะ ” ผมว่าพรางเดินไปซื้ออาหาร

    เจอกันหลังเลิกเรียนนะ

    “ แล้ว... ”  ดิจิลุกจากโต๊ะและเดินไปทันทีโดยไม่รอให้เฟย์ถามอะไรทั้งสิ้น

    “ จะรีบไปไหนของเขา ” เฟย์พูดด้วยท่าทางหงุดหงิดผมก็สังเกตเห็นเรสที่นั่งอยู่ข้างเสาร์กับหญิงอีก3คน

    “ นั้นใช่เด็กใหม่ที่แกบอกไหมว่ะ ” ผมชี้ให้เฟย์ดู

    “ เออใช่ๆเห้ยเริ่มแปลกล่ะ ”  ผมที่เป็นคนที่ขี้สงสัยอยู่แล้วก็ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่

    @ 4.00 P.M.

    “ นี่เลิกเรียนไปไหนหรอ ” พิ้งค์ถามผม

    “ ไปทำงานมีอะไรหรือเปล่า ” 

    “ อ่อเปล่าว่าจะชวนไปกินเค้กซะหน่อย ” นึกว่าจะมีอะไรสำคัญผมว่าผมรีบกลับไปทำการบ้านดีกว่าดีนะไม่ได้บอกไปว่าทำงานตอน6โมง

    “ ขอโทษด้วยไปล่ะบาย ” ผมเดินออกมาจากห้องล่ะเห็นว่าเรสยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียง

    “ เดี๋ยวก่อน ” ผมหันไปมองคนที่ดึงเสื้อผมไว้

    “ อย่าดึงเดี๋ยวเสื้อยับ ” ผมบอกเธอ

    “ ห้ะ” เรสปล่อยมือจากเสื้อผมและมองหน้าผมด้วยสีหน้าอึ้งๆ

    “ มีไรหรือเปล่า ”

    “ จะกลับบ้านแล้วหรอ ”

    “ ใช่ ”  ผมนี่ยิ่งรีบๆกลับไปทำการบ้านอยู่ด้วย

    “ ฉันยังไม่รู้ชื่อนายเลย ”  แน่สิก็เธอไม่ถามนิ

    “ ชื่อคอสคือฉันรีบๆน่ะ ” ผมพูดเสร็จก็รีบเดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว
     



    ตอนต่อไปเข้าจุดเริ่มต้นของเขาและเธอแล้วนะ
    ♥♥
    ตอนต่อไปจะเปิดเผยรูปนางเอก
     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น