ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yaoi]want you:คุณเพื่อนครับ กูต้องการมึง

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 7 พี่รหัสครับ [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 58




    ตอนที่ 7 พี่รหัสครับ

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากที่นายอเล็กซ์วางหูจากเพื่อนรักไป ก็แอบรู้สึกผิดเล็กๆที่ปฏิเสธไปแบบนั้น แต่ในเมื่อโอกาสที่มันจะได้มาอยู่กับพี่รหัสสุดลึกลับคนนี้มันก็หายากเหลื๊อเกิน จนนายอเล็กซ์ที่เรียกได้ว่ารักเพื่อนยิ่งชีพ ต้องยอมเสียชื่อเพราะเขาเลยล่ะ ใบหน้าหล่อทะเล้นหม่นลงนิด จนทำให้เพื่อนพี่รหัสทักขึ้น

     

     

        เห้ย..น้องเป็นไรวะ

    รุ่นพี่มาดเข้มทักขึ้นเสียงนิ่งพร้อมกับทั้งตัวนั่งลงข้างๆ แบบที่ทำให้นายอเล็กซ์ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ แล้วพูดออกมาเสียงหน่าย

     

     

        “ไม่มีไรหรอกพี่เบส..ผมแค่เป็นห่วงเพื่อน

     

     

        “ใครวะ

     

     

        “ไอเจเจน่ะ พี่น่าจะรู้จักนะ หึหึ

     

     

        “ไอน้องผู้ชายตัวเล็กๆ หน้าขาวๆนั่นอะเหรอ?...เหอะ มีใครไม่รู้จักบ้างวะ

    ชายหนุ่มพูดออกมาขำๆ แล้วพากันหัวเราะเอิ้กอ้ากกันไปสองคน ก่อนที่อเล็กซ์จะมองหาร่างบางของใครอีกคน

     

     

        แล้วพี่บัทล่ะพี่

    อเล็กซ์หันมาถามรุ่นพี่ข้างๆที่ตอนนี้กำลังนั่งยิ้มกริ่มมองสาวๆที่เดินผ่านไปผ่านมา

     

     

        “ไอบัท...อืม...คงไปหาพี่ตั้มล่ะมั้ง เห็นมีปัญหาอะไรกันไม่รู้วะ

    เบสพูดตอบออกมาเสียงนิ่ง โดยที่ไม่รู้เลยว่าทำให้อีกคนชะงักนิ่งไปแล้ว คิ้วหนาค่อยขมวดกันที่ละนิด ดวงตาคู่คมเจ้าเล่ห์วาวขึ้นนิดเมื่อได้ยินชื่อบุคคลที่สาม

     

     

        “ใครเหรอพี่..คนชื่อตั้มเนี่ย?

    อเล็กซ์ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ ถ้านึกถึงนิสัยเท่าที่เห็นของพี่รหัสสุดสวยของเขาแล้ว ก็คงไม่ใช่คนที่จะยอมเดินไปหาใครง่ายๆ ถ้าคนๆนั้น....ไม่สำคัญ

     

     

                              ขนาดเรียกเรามาหายังวิ่งหาแทบตาย..แล้วหมอนั่นเป็นใคร ทำไมพี่บัทคนสวยของกูต้องไปหาด้วยวะ!

     

     

        “จริงสิ..แกคงไม่เคยเจอสินะ พี่ตั้มเขาเป็น...เอ่อ...เรียกว่าไงดีล่ะ

     

     

        “….?

    อเล็กซ์เริ่มตีหน้าเครียดเมื่อดูเหมือนว่ารุ่นพี่ข้างๆนี่จะทำท่าอึกอักเวลาต้องพูดถึงสถานะของเขาทั้งคู่ จนทำไอหัวใจด้านๆชาๆมันเริ่มจะร้อนรุ่มขึ้นมานิด สีหน้าติดกังวลที่ทำให้รุ่นพี่ขี้แกล้งยกยิ้มมุมปากขึ้นมาข้างนึง แล้วพูดออกมาเสียงเรียบ

     

     

        จะเรียกว่าเป็นคนสำคัญของไอบัทก็ได้นะ....

     

     

    กึก!

     

     

        “คนสำคัญ!!”

    อเล็กซ์ชะงักไปทันทีก่อนที่จะรู้สึกตัวแล้วทวนคำพูดขึ้นมาเสียงดังอย่างไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินคำตอบจากพี่ชายข้างๆ และเหมือนนั่นจะทำให้เบสหลุดหัวเราะออกมาแล้วพูดต่อ..

     

     

        “หึ..ยังพูดไม่จบเลย...หมายถึง ลูกน้องคนสำคัญน่ะ

    เบสพูดขึ้นเสียงกลั้วหัวเราะแบบที่กลั้นไม่อยู่จริงๆ อเล็กซ์มองหน้าพี่ชายข้างๆอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ จนกระทั่งสายตาสองคู่ไปเจอกับร่างบางในชุดนักศึกษาบัญชีที่ดูสะอาดเรียบร้อยไม่ได้หลุดลุ่ยเหมือนคนอื่นๆ ใบหน้าสวยคมเรียบนิ่งกับกำลังหันมาทางนี้ พร้อมกับสายตาที่ทั้งอเล็กซ์และเบสเองก็คิดเหมือนๆกันว่ามันดู...

     

     

                                            เย็นยะเยือกซะจนน่าขนลุก...

     

     

        “นายอเล็กซ์..มานานรึยัง

    บัทเตอร์ถามขึ้นเสียงนิ่งพร้อมกับค่อยๆนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ตอนนี้ทั้งอเล็กซ์ เบส และบัทเตอร์ กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้เรียบหรูที่ร้านกาแฟชื่อดัง เมื่อเล็กซ์เห็นว่าคนที่นัดเขามาก็มาถึงแล้ว ก็เริ่มเปิดประเด็นทันที

     

     

        สวัสดีครับพี่บัท...ผมก็มานานแล้วเหมือนกันนะครับ แต่ก็ไม่เป็นไรจะนานแค่ไหนสำหรับพี่ผมก็รอได้..แล้วนี่พี่จะดื่มอะไรมั้ยครับ เดี๋ยวผมไปสั่งให้ พี่เรียกผมมาที่นี่มีอะไรรึเปล่าครับ หรือว่าอยากจะมาเจอหน้าน้องรหัสสุดหล่อคนนี้เฉยๆ ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมพร้อมจะให้พี่คนสวยของผมเจอหน้าได้ทุกเวลาที่ต้องการเลยล่ะครับ

    อเล็กซ์พูดออกมาไม่หยุดเมื่อเห็นว่าบัทเตอร์และเบสไม่มีใครขัด เขาก็พูดต่อไปเรื่อยๆจนเริ่มรู้สึกตัวว่าไม่มีใครตอบรับเขาสักคน ใบหน้าหล่อทะเล้น หันไปมองคนข้างตัวที่ตอนนี้กำลังกลั้นขำอย่างสุดชีวิต กับพี่รหัสตรงหน้าที่ใบหน้าเรียบนิ่งริมฝีปากเหยียดตรงแต่ดวงตาที่เปลี่ยนไปนิด...ถึงแม้ว่ามันจะเปลี่ยนไปแค่นิดเดียวแต่มันก็ทำให้อเล็กซ์รู้สึกเหมือน...

     

     

                                                พี่บัททำหน้าเหมือน...กำลังอยากฆ่าคนอย่างงั้นแหละ

     

     

        “เอ่อ...มีอะไรกันรึเปล่าพี่

    อเล็กซ์ถามออกมาอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก ยิ่งทำให้เบสที่พยายามกลั้นขำมานานหลุดขำพรืดออกมาอย่างช่วยไม่ได้

     

     

        “ฮ่าๆๆๆ ไอเล็ก..แกไม่รอดแน่ว่ะ

     

     

        “……อะไรวะพี่? ผมงงนะเนี่ย

    อเล็กซ์เลิกคิ้วนิดๆอย่างงงๆ แอบชำเรืองมองพี่รหัสคนสวยตรงข้ามอย่างกล้าๆกลัวๆ ถึงแม้เขาจะเจอคนมาหลายรูปแบบ คนที่น่ากลัวมาเป็นสิบๆกันเขาก็เคยเจอมาแล้ว แต่ครั้งนี้อเล็กซ์เองก็ไม่รู้ทำไมเหมือนจะรู้สึกถึงพลังอำมหิตที่มันไม่เหมือนใครจากรุ่นพี่คนนี้

     

     

        “เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าอะไร

     

     

        “…เมื่อกี้?

    อเล็กซ์เลิกคิ้วให้บัทเตอร์นิดๆเป็นเชิงถาม แต่บัทเตอร์ก็ไม่ได้ตอบรับแต่อย่างใด ยังคงนั่งกอดอกด้วยสีหน้าเรียบนิ่งอยู่เหมือนเดิม และนั่นทำให้นายอเล็กซ์ต้องคิดหนัก

     

     

              ‘ผมพร้อมจะให้พี่คนสวยของผมเจอหน้าได้ทุกเวลาที่ต้องการเลยล่ะครับ

     

     

     ------30%-------

     

     

     

        คนสวย?

     

     

        “ฮ่าๆ..ตาย..ตายแน่ๆไอน้อง..ฮ่าๆๆๆๆ

    หลังจากที่อเล็กซ์พูดตอบออกมาอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก เบสก็พูดขึ้นแล้วหัวเราะรวน โดยที่บัทเตอร์นั่งหน้านิ่งแต่ดวงตาวาววับด้วยความโกรธ

     

     

        “นาย อยาก ตาย รึไง

     

     

    กึก..

     

     

    อเล็กซ์ถึงกับชะงักขนลุกซู่ขึ้นมาทันที เมื่อน้ำเสียงเย็นยะเยือก(จากที่ปกติก็น่ากลัวอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งทวีคูณความน่ากลัวเข้าไปอีก)ดังขึ้นมา เบสหยุดขำแล้วเลื่อนเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งออกห่างจากโต๊ะนิดๆเหมือนกลัวว่าจะโดนลูกหลง จากยะระเวลาที่เขาเป็นเพื่อนกับบัทเตอร์มานานก็พอจะรู้ว่าไอผู้ชายน้ำแข็งนี่มันมีคำต้องห้ามอยู่คำนึง..

     

     

                          ใช่..แล้วไอรุ่นน้องจอมทะเล้นนี่มันพูดออกไปแล้วด้วยล่ะ..

     

     

    พรึ่บ!!

     

     

        “เฮ้ยพี่!...

    อเล็กซ์ร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆคนสวย(โหด)ของเขาลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ใบหน้าที่เคยขาวจนซีด แต่นี้แดงก่ำจนน่าประหลาดใจ แต่ถึงจะอย่างนั้น..ไอ้หนุ่มจอมทะเล้นก็มั่นใจว่าหน้าแดงๆนี่เขาไม่ได้เขินหรอก พี่บัทกำลังโกระมากต่างหากล่ะ!!

     

     

                                ซวยแล้วกู..คราวที่แล้วไปหอมแก้มเขาจนโดนตบกลับมา คราวนี้กูจะโดนกระทืบกลับไปรึเปล่าวะเนี่ย T^T

     

     

    อเล็กซ์ได้แต่คร่ำครวญในใจ มองหน้าพี่รหัสคนสวย(ยังกล้าเรียก)อย่างอ้อนวอน เอามือลูบแก้มตัวเองแล้วนึกถึงสัมผัสเจ็บแสบจากฝ่ามือเรียวสวยนี่ จนได้แต่ยกสองมือขึ้นกางไว้ระดับอกเหมือนจะบอกให้อีกคนใจเย็นๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่า ... ไม่ทันแล้วแหละ

     

     

        “ใจเย็นนะพี่นะ..คือผม..เอ่อ...ผมพูดผิดน่ะ..ความจริงพี่หล่อต่างหาก

    อเล็กซ์พูดออกมาเสียงนุ่ม ส่งสายตาอ้อนๆแบบที่ไอเจเจยังใจอ่อนมาแล้ว ปากก็พูดแก้ตัวไปเรื่อยๆ อย่างที่ไม่รู้จะพูดอะไร การกระทำที่ทำให้คนที่อ่านใจคนเก่งยิ่งกว่าหมอดูได้แต่หงุดหงิดในใจ..

     

     

                                ลูกผู้ชาย..กล้าพูด..ทำไมมันไม่กล้ารับ!

     

     

     

        นายคิดอย่างงั้นจริงๆ?

    บัทเตอร์ถามเสียงนิ่งเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม คำพูดที่เหมือนจะเปิดโอกาสให้นายอเล็กซ์ได้แก้ตัวก็ทำให้อเล็กซ์รีบรับคำเสียงดัง

     

     

        “จริงคร้าบจริง! ใช่มั้ยพี่เบส....อะ..อ่าว.....โถ่..แม่งหนีไปซะไกลเลย T^T”

    อเล็กซ์เอี้ยวตัวไปมองรุ่นพี่ที่ตอนแรกยังนั่งอยู่ข้างๆเขา ตอนนี้ถอยออกห่างจนดูเหมือนจะแยกไปนั่งอีกโต๊ะซะแล้ว ไอ้หนุ่มจอมทะเล้น กันหน้าหล่อๆมามองพี่รหัสของตัวเองด้วยสายตาที่พยายามอ้อนแล้วอ้อนอีกแต่ดูเหมือนอีกคนจะรู้ทันไปซะทุกเรื่อง ใบหน้าสวยคมเรียบนิ่งซะจน คนที่ผ่านไปผ่านมามองยังไงก็คงดูไม่รู้ว่าตอนนี้บุคคลนี้โกรธขนาดไหน แต่นายอเล็กซ์ที่มองเข้าไปในดวงตาคู่คม เหมือนจะเห็นกองเพลิงในดวงตาที่ทำให้รู้ว่า

     

     

                                                 กูตายแน่...กูไม่รอดแน่..ตายแน่ๆไอเล็กเอ้ย ..

     

     

     

    อเล็กซ์บอกตัวเองในใจ มองอีกคนที่กำลังทำหน้าตาน่ากลัวสุดขีด ภาพที่ทำให้นายอเล็กซ์ได้แต่ ยิ้มหล่อๆให้หวังจะทำให้คนสวยโหดตรงหน้าใจอ่อน แต่เหมือนมันจะใช้ไม่ได้ผล อยากรู้มั้ย ทำไม..

     

     

    ผั๊วะ!  ผั๊วะ!  ผั๊วะ!!

     

     

        “โอ๊ยพี่! .. เจ็บนะเฮ้ย...เอ่อ..หมายถึง..ผมเจ็บนะพี่

     

     

        “อย่าเรียกฉันแบบนั้นอีก!”

    บัทเตอร์ไม่ได้สนใจคำโอดครวญของรุ่นน้องเลยสักนิด แถมยังพูดเสียงเข้มแบบน่ากลัวสุดๆ ให้นายอเล็กซ์ได้แต่โบกมือไปมาเหมือนจะบอกว่า..

     

     

        คร้าบบ คร้าบไม่พูดแล้วว T^T”

    อเล็กซ์พูดออกมาเอามือลูบแก้มตัวเองแล้วทำหน้าแหยๆ เลือดซิบๆที่มุมปากบ่งบอกได้ว่าตอนนี้ปากแตกไปเรียบร้อยแล้ว เบสที่หนีออกไปสุดโต๊ะพอเห็นว่าเหตุการณ์มันเริ่มปกติก็ขยับเข้ามา

     

     

        หึหึ ไอบัท..ยังแรงดีเหมือนเดิมเลยนี่หว่า

     

     

        “อยากจะลองอีกคนมั้ยล่ะ

    บัทเตอร์หันไปพูดเสียงเย็นกับเพื่อนรัก ก่อนที่จะตวัดสายตากลับมามองรุ่นน้องที่ตอนนี้ เอาโทรศัพท์ยี่ห้อนั่งขึ้นมาเปิดกล้องหน้าแล้วมองแผลตัวเอง

     

     

        “เบส..โทรเรียกพี่ตั้มให้ฉันหน่อย

    บัทเตอร์พูดเสียงหน่ายๆ แล้วนั่งลงด้วยสีหน้านิ่งๆ เบสล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์ตัวเก่ง แล้วกดโทรหาเป้าหมายตามที่เพื่อนรักบอกทันที ภาพที่ทำให้นายอเล็กซ์จ้องไม่วางตา

     

     

                                       อีกแล้ว...หมอนั่นอีกแล้ว

     

     

        ฮัลโหลพี่...ครับ ผมเอง...ไอบัทมันให้โทรหาน่ะครับ....ครับ...อยู่ที่ร้านแหละครับ...ครับๆ แล้วเจอกัน

    เบสพูดกับปลายสายจบก็กดวางสายแล้วหันมามองหน้าเพื่อนรัก ที่ตอนนี้นั่งไขว่ห้างกอดอกอยู่บนเก้าอี้ไม้ สีหน้าเรียบนิ่งกับดวงตาที่ไร้ความรู้สึก ให้ชวนขนลุก แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้ไอหนุ่มทะเล้น รู้สึกรู้สาอะไรเลย

     

     

        “นี่พี่บัทครับ

     

     

        “อะไร?

     

     

        “ผมขอถามอะไรหน่อยสิ

    อเล็กซ์พูดออกไปเสียงจริงจัง แววตาซุกซนแสนทะเล้นตอนนี้หลายไปอย่างกับคนละคน ภาพที่ทำให้บัทเตอร์หรี่ตาลงนิด แล้วพูดเสียงนิ่ง

     

     

        ว่ามาสิ

     

     

        “..คือ....พี่....คือแบบ..

     

     

        “อะไรของนาย?

    บัทเตอร์ขมวดคิ้วกกับท่าทางกระอึกกระอักของรุ่นน้อง แล้วถามขึ้นเสียงเรียบจน ทำให้นายอเล็กซ์ที่จริงๆก็ถามคำถามแบบนี้กับสาวๆสวยๆมาเป็นนับร้อยครั้ง แต่ครั้งนี้เขากลับต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกลั้นใจพูดออกไป

     

     

                                      ....... ครั้งนี้กูคงไม่โดนตบหรอกมั้ง

     

     

        “พี่..มีแฟนยังครับ?

     

     

        “หืม..นายว่าไงนะ

     

     

        “คะ คือ..ผม..ผมถามว่า..พี่มีแฟนยัง

     

     

        “แฟนเหรอ....เหอะ นี่นายจะถามแค่นี้จริงๆ?

    บัทเตอร์หัวเราะออกมานิดๆ กับคำถามที่ไอรุ่นน้องตรงหน้ามันถึงกับทำหน้าเครียดขนาดนี้ คิ้วเรียวสวยยกขึ้นนิดๆ พร้อมกับมุมปาก ภาพที่ดูผ่อนคลายของร่างบางทำให้นายอเล็กซ์ยิ่งสงสัยเข้าไปอีก

     

     

        “ครับ..ตกลงพี่มีแฟนรึยัง..หรือว่า....

     

     

        “หรือว่าอะไร?

    บัทเตอร์ต่อคำเพื่อให้อีกคนพูดตอบ ก่อนที่จะเอนสายตามองไปยังเพื่อนรักที่ยืนกอดอก พิงโต๊ะข้างๆอยู่ยิ้มๆ จนต้องหันหน้ากลับมามองคนตรงข้ามที่กำลังทำท่าลังเล เหมือนไม่แน่ใจว่าควรพูดรึเปล่า

     

     

        “..คนที่ชื่อตั้ม..

     

     

        “ทำไม?

     

     

        “พี่กับคนที่ชื่อตั้มเป็นอะไรกันครับ?  แล้วถ้าผมจะขอบอกว่า ผมชอบพี่ได้รึเปล่า?

     

     

       

    --------50%-------

     

     

    เจเจ




     

     

    หลังจากที่ไอตินมันพูดประโยคนั้นออกมาก็เหมือนโลกของผมมันหยุดหมุน แบบจะเหมือนว่าหัวใจมันหยุดเต้นไปแล้ว

     

     

           อย่าร้องนะครับ...กูจะชอบใครอีกได้ยังไง...ในเมื่อกูรักมึงไปแล้วเจเจ

     

     

    เสียงทุ้มนุ่มที่ทำให้ผมหยุดนิ่งอย่างน่าแปลกใจ ผมมองหน้ามันด้วยความไม่เข้าใจ นี่มันกำลังบอกรักผมอีกแล้วใช่มั้ย..มันกำลังพูดสิ่งๆนั้นออกมาอีกแล้ว.. มันจับหัวผมซุกลงกับอกอุ่นๆของมัน ผมมองผ่านม่านน้ำตาออกไป เห็นเหมือนลูกน้องของผมก็มองเข้ามาด้วยความสงสัย แล้วเห็นแบบนั้น ผมก็เลยรีบผลักมันออกห่างทันที

     

     

    พรี่บ!!

     

     

        มะ..มึงพูดอะไรของมึงติน

     

     

        “เจครับ..นี่มึงยังไม่เข้าใจอีกรึไง..ความรู้สึกของกูน่ะ... มึงยังไม่เข้าใจอีกเหรอ

     

     

        “……..”

    ผมถอยห่างมันออกมานิดๆ ก้มหน้ามองปลายเท้าของตัวเองอย่างที่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง  มันพูดออกมาแบบนี้แล้วผมจะกล้ามองหน้ามันได้ยังไง! ทำไมนะ ทำไมมันต้องมาพูดเรื่องพวกนี้ด้วย!

     

     

        “เจครับ กูขอโทษ..กูไม่ได้ตั้งใจให้มึงอึดอัด..

     

     

        “กะ..กูอยากกลับบ้าน..กลับบ้านนะ

    ผมพูดบอกออกไป ได้ยินเสียงไอตินมันถอนหายใจนิดๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะโล่งอกหรือว่าเหนื่อยใจกันแน่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังพยักหน้ารับ แล้วเดินเข้ามากอดคอผม

     

     

        “กะ...กอดคอทำไม

     

     

        “อ่าว..ทำไมล่ะ?

    ไอตินมันกันกลับมาตีหน้าซื่อถามผมกลับ โดยที่ผมก็คิดว่ามันเองก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าผมหมายความว่ายังไง

     

     

        “…….”

     

     

        “มึงอึดอัดเหรอ?

     

     

        “…….

     

     

         “เฮ้อ...กูขอโทษนะ...กูจะไม่พูดมันอีก ป่ะ กลับบ้านครับ^^”

    มันพูดจบก็ยังไม่ได้ปล่อยตัวผมไปไหน แถมยังออกแรงดึงให้เดินออกไปด้วยกัน ลูกน้องของผมมองมาที่เราทั้งคู่เป็นตาเดียว ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ก็ตาผมมันบวมเปล่งขนาดนี้ แถมก่อนออกมาผมยังโวยวายเสียงดังลั่น ถึงผมจะงอแงกับไอตินบ่อยแค่ไหนแต่ผมคิดว่าไอพวกนี้มันก็คงไม่ชินหรอกมั้งครับ เหอๆ

     

     

     

    -------------------------------------------------


     

    ติน 

     

     
     

        เจครับ...วันนี้จะทำอะไรกิน?

    เรานั่งรถด้วยกันมาผมก็หาเรื่องชวนอีกคนคุยมาตลอดทาง ถึงจะรู้อยู่ว่ามันก็ยังคงอึดอัดอยู่บ้างกับสิ่งที่ผมพูดไป แต่ผมจะไม่รออีกแล้ว ไอเวลาเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมานี่มันก็มากพอที่จะบอกได้ชัดเจนแล้วว่าผมรักมันมาก รักมากกว่าคำว่าเพื่อน ไม่ใช่ความรักแบบเด็กๆ เหมือนที่ผมเคยมีเมื่อก่อน

     

     

        “แล้วมึงอยากกินอะไรล่ะ

    ไม่วายที่มันจะถามคำถามประจำตัว ทุกๆครั้งที่ผมหรือไอเล็กถามแบบนี้มันก็มักจะพูดว่า..

     

     

        ไอตินมันอยากกินอะไร กูก็ทำอันนั้นแหละ

     

     

    หรือไม่ก็....

                         

     

      ‘แล้วแต่ไอตินมัน..

     

     

    เห็นมั้ยครับว่ามันน่ารักขนาดนี้ คุณจะไม่ให้ผมหลงมันจนโงหัวไม่ขึ้นได้ยังไงกัน? ถึงแม้ว่าเราจะโกรธกันหรือทะเลาะกันยังไง มันก็ยังคงใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆของผมอยู่เสมอ ..ก็นะ หน้าที่ภรรยาที่ดีไงล่ะ หึ

     

     

        “ยิ้มอะไรของมึงติน...บ้าไปแล้วรึไง?

     

     

        “ก็คนมันมีความสุขนี่ครับ

     

     

        “เหอะๆ กูว่ากูควรจะพามึงไปตรวจสุขภาพจิตสักหน่อยแล้วล่ะ

    เจเจมันหัวเราะแหย่ๆ แล้วมองออกนอกหน้าต่าง ผมขับรถอยู่อีกไม่นานก็คงถึงบ้านของมันแล้วล่ะครับ ผมขับรถไปเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อน ผมไม่ใช่คนชอบความเร็ว ไม่ได้ชอบการแข่งขันเหมือนเจเจมันหรอกครับ จะเรียกว่าผมกับมันต่างกันคนละขั้วเลยก็ว่าได้...แต่มันนั่นแหละ ที่ทำให้ผมอยากจะเป็นแบบนี้ อยากจะเป็นคนที่เติมเต็มในสิ่งที่มันไม่มีแบบนี้

     

     

        “กูว่านี่ถ้ามึงไปแข็งรถที่สนามกู มึงคงแพ้ราบว่ะติน

    นั่นไงครับ เพิ่งจะบอกพวกคุณไปหยกๆ ว่าผมไม่ชอบความเร็ว แต่ไอคนที่มันเล่นเปิดสนามแข่งรถเป็นของตัวเอง มีหรือจะไปเข้าใจ ชีวิตมันผมก็เห็นวันๆมีแต่ เรียน สนามแข่ง แล้วก็ดนตรีเท่านั้นแหละครับที่สำคัญสำหรับมัน เอ่อ... อีกอย่างนึงก็ คงจะเป็นผมแหละมั้งครับ

     

     

        “ก็ไม่เห็นต้องรีบเลยนี่ครับ..บ้านไม่หนีไปไหนซะหน่อย

     

     

        “เออๆ แล้วแต่มึงเถอะ

     

     

        “คร้าบบบ คุณหนู

    ผมตอบรับไปขำๆ เจเจมันก็ปรับเบาะเอนแล้วนอนไปอย่างสบายใจ ผมมองเสี้ยวหน้าหวานแล้วยกยิ้มนิดๆ ก่อนที่จะมาให้ความสนใจกับเส้นทางตรงหน้าต่อ และไม่นานเราก็มาถึงในเวลาสองทุ่มกว่าๆ..

     

     

     

        อื้ออออออ...เมื่อยจังติน

     

     

        “หึหึ ก็เล่นนอนหลับแบบนั้นในรถ ไม่เมื่อยก็แปลกครับ

     

     

        “ชิส์ ก็มึงขับอย่างกับเต่าคลาน กูก็ง่วงสิ

     

     

        “ครับๆ เข้าบ้านไป ยุงเยอะ

    ผมพูดแค่นั้นแล้วก็ดันหลังให้อีกคนเดินเข้าบ้านไป ส่วนตัวเองก็จัดการผิดบ้านและเช็คความเรียบร้อยนิดหน่อย ก่อนที่จะตามเข้าไปเช่นกัน  และภาพน่ารักๆ ที่ผมเห็นก็ไม่ใช่อะไรเลย

     

     

         ไอผู้ชายตัวเล็กๆ ผมสีน้ำตาลอ่อนๆของมันมัดจุกเอาไว้ที่กลางหน้าผาก เสื้อเชิ้ตนักศึกษาสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดบนเอาไว้ ส่วนกางเกงยีนตอนนี้ถูกพาดไว้บนเก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์เรียบร้อย ส่วนที่มันใส่อยู่ตอนนี้น่ะเหรอ... บล็อกเซอร์ตัวจิ๋วสีม่วงที่ผมเป็นคนซื้อให้นั่นแหละครับ

     

     

                              นี่มันกะจะยั่วกันตั้งแต่หัวค่ำเลยรึไง?

     

     
     

    --------------70%------------

     

     

     

    ผมเดินเข้าไปหามัน แล้วมันก็หันมามองผมตาแป๋ว ก่อนที่จะหันกลับไปมองหน้าจอทีวีตรงหน้าอีกครั้ง ผมนั่งลงที่ที่ว่างข้างๆมัน แต่ดูเหมือนมันก็ไม่ได้หันมาสนใจผมเท่าไหร่นัก เพราะตอนนี้บนหน้าจอขนาด 16 นิ้ว กำลังฉายภาพนักฟุตบอลชื่อดัง

     

     

        เจเจกูหิวว่ะ

    ผมพูดออกมาจริงๆไม่ได้หิวหรอกครับ  ก็จะหิวได้ยังไงในเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาผมก็เพิ่งจะไปกินข้าวมา แต่ผมก็อยากจะให้มันหันมาสนใจผมสักนิด ผมมั้ยล่ะครับ

     

     

        “อืม..แปบนะ

     

    !!!!!!

     

     

    นี่คือสิ่งที่ทำเอาผมอึ้ง อ้าปากค้าง ยากนะครับที่จะได้ยินคำพูดแบบนี้ น้ำเสียงเหมือนพูดตอบไปส่งๆแบบนี้ ขนาดตอนนี้มันพูดกับผมมันยังไม่ยอมหันหน้ามามองผมเลยสักนิด!

     

     

        หล่อจัง คิคิ><”

    ไอเจเจของผมมันพูดแล้วหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว หมอนอิงที่อยู่บนตักมัน มันเอาเล็บจิกแน่นเหมือนกำลังฟินสุดขั้ว.. ซึ่งนั่นทำให้ผมเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาซะดื้อๆ

     

     

        “เจครับ..

     

     

        “หืม

     

     

        “เจเจครับ หันมานี่หน่อย

     

     

        “อะไรเล่า

    มันพูดตอบผมแต่ก็ยังไม่ยอมหันหน้ามามองผมสักที จนผมเริ่มจะฉุน คุณคงไม่รู้สินะ ว่าจริงๆแล้วผมมันเป็นพวกเลือดร้อน อารมณ์ร้อน แต่ผมแค่เลือกที่จะแสดงอีกด้านให้อีกคนเท่านั้น แต่ตอนนี้มันกำลังทำให้ผมแสดงด้านที่มันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก..

     

     

        “เจเจ

     

     

        “จิ๊! ไอนี่ก็เรียกจัง!”

     

     

    หมับ!

     

     

        อ๊ะ!”

    ทันทีที่มันหันมาแล้วจิ๊ปากใส่ผม ผมก็ล็อกท้ายทอยมันไว้แน่น แบบที่จะไม่ให้มันหันหน้ากลับไปได้อีก ผมคิดว่า ผมก็หน้าตาดีนะ...แล้วทำไมล่ะ ทำไมไม่มองผม ไปมองไอหมอนั่นทำไม!

     

     

        ตะ..ติน...เป็นอะไร..เจ็บ..

    ไอเจมองหน้าผมด้วยสายตาสั่นๆ ดูหน้าสงสาร ดวงตาโตๆของมันมีเริ่มจะแดงขึ้นทีละนิด มือเล็กๆของมันก็ยกขึ้นมากุมมือผมที่บีบอยู่ที่ท้ายทอยมันเหมือนจะย้ำว่าตอนนี้ผมกำลังทำร้ายมันอยู่

     

     

                                            ปกติผมคงจะอ่อนโยนกับมันมากไปสินะ..

     

     

        “มองหน้ากูสิ

     

     

        “…..อะไร

    มันทำสีหน้าไม่เข้าใจ แล้วถามผมเสียงแผ่ว น่าสงสารนะ แต่ผมไม่คิดที่จะอ่อนข้อให้มันตอนนี้ .. ในเมื่อเวลาเกือบ 10 ปี มันยังไม่ทำให้มันยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ผมก็จะใช้เวลาคืนนี้ทั้งคืนทำให้มันยอมรับหัวใจของมันให้ได้

     

     

        “กูบอกให้มองหน้ากู

     

     

        “…ฮึก เจ็บ..

     

     

                                            นั่นไง กูว่าแล้ว..ร้องอีกแล้ว!

     

     

    มันสะอื้นออกมาแล้วตัวสั่นไปทั้งตัว น้ำตาใสๆของมันค่อยๆไหลลงมาช้าๆ มือข้างที่ผมบีบท้ายทอยมันอยู่ก็จำต้องคลายออกนิดแต่ก็ยังไม่ปล่อยให้มันเป็นอิสระ ผมเคลื่อนตัวเข้าใกล้มันขึ้นอีกนิด ตรงข้ามกับมันที่พยายามถอยห่างผมจนหลังติดพนักวางแขนของโซฟาตัวใหญ่ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้สีหน้าผมเป็นยังไง แต่ผมคิดว่ามันคงดูหน้ากลัวมาก ที่อย่างงั้นไอเจมันคงไม่มีท่าทีตื่นกลัวได้ขนาดนี้หรอก

     

     

     

    เจเจ

     


            ผมไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร แล้วผมก็ไม่รู้ว่าผมทำอะไรผิด ไอตินมันถึงได้ทำท่าทางเหมือนจะขย้ำผมให้แหลกไปซะตรงนี้ ผมสะอื้นออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก็ผมเคยบอกแล้ว ว่าผมมันเป็นพวกอ่อนไหวง่าย ขี้แง บ่อน้ำตาตื้นโคตรๆ ไอตินมันขยับเข้ามาใกล้ผมจน ตอนนี้แทบจะเหมือนมันนั่งคร่อมผมอยู่แล้วนะ!

     

     

        “ติน..ปะ..ปล่อย

    ผมพูดออกไป พยายามคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น แต่เหมือนมันจะช่วยไม่ได้สักเท่าไหร่นัก ไอบ้าตินมันก็ยังไม่ยอมลุก มันยังคงจ้องหน้าผมเหมือนอยากจะกินผมเข้าไปทั้งตัว

     

     

        “เจเจ กูจะทนไม่ไหวแล้วนะ..กูทนมานานแล้ว..

     

     

        “อะ..อะไร...มึง..พูดเรื่องอะไร

    คำพูดกำกวมของผมทำเอาผมรู้สึกวาบหวามในอกแปลกๆ เหมือนมันซ่อนความหมายอะไรบางอย่างไว้ในนั้น ซึ่งผมไม่เข้าใจ นี่มันกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่วะ!

     

     

        นี่มึงไม่รู้จริงๆเหรอเจ...มึงไม่รู้จริงๆเหรอ ความรู้สึกของกูน่ะ..

     

     

        “……..”

    ผมนั่งเงียบตัวแข็งทื่อ กับสิ่งที่มันพูด แววตามันดูผิดหวัง ดูท้อกับสิ่งที่มันกำลังทำ แต่นั่นมันก็ยังทำให้ผมไม่เข้าใจ แต่เหมือนมันมีอะไรบางอย่าง...ที่ผมไม่อยากจะยอมรับมัน..และหวังว่ามันคงจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่ผมคิด

     

     

                                    มันคงจะไม่ได้จะพูดคำๆนั้นอีกใช่มั้ย..

     

     

        “กูรักมึงไงเจ..กูรักมึง..กูรักมึ..กูรักมึง! มึงเข้าใจได้รึยัง!!”

     

     

        “!!!!!”

    ผมเบิกตากว้างหัวใจเต้นระรัว  ใช่..มันเป็นสิ่งที่ผมคิด แต่ครั้งนี้มันไม่ได้เหมือนครั้งอื่นๆ มันไม่ได้อ่อนโยน ไม่ได้หอมหวานเหมือนที่มันเคยพูด แต่มันเหมือนว่ามันกำลังจะพยายามตอกย้ำว่ามันรัก.. มันกำลังพยายามทำให้ผม เข้าใจและยอมรับ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยาก...ยากสำหรับผม

     

     

             ตั้งแต่วันนั้นที่เราจูบกันบนเตียง..ความรู้สึกแปลกประหลาดมันก็เกิดขึ้นกับผมทุกๆครั้งที่ผมอยู่ใกล้มัน คำพูดของมันแต่ละคำเหมือนแฝงอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น แต่เหมือนมันจะพยายามพูดสิ่งนี้มานานแล้ว นานก่อนที่มันจะบอกผมว่ามันรู้สึกยังไง แต่เป็นผมเอง .. เป็นผมที่พยายามที่จะไม่ยอมรับ และปิดหูปิดตาทำเหมือนว่าไม่รู้อะไร ทั้งๆที่หัวใจของผมมันก็เต้นจังหวะผิดเพี้ยนมาตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน..

     

     

              ย้อนเวลา..

     

     

        ‘ฮึก...ครูฮะ..ฮึกก..แม่ผม..พ่อผม..เขา..ฮึก เขาไปแล้ว..เขาไม่อยู่กับผมแล้ว

     

     

        ‘ครูเสียใจด้วยนะ จิราวัตร์...อ่าวนี่..นายราติณท์..มาดูเพื่อนหน่อยสิ ครูต้องไปประชุม

    วันนั้นที่ผมเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายถึงพ่อแม่บังเกิดเกล้าที่จากผมไปด้วยอุบัติเหตุ ผมไม่มีใคร ผมไม่มีที่พึ่ง ญาติพี่น้องของผมก็พากันรังเกียจผม แล้ววันนั้น ก็ทำให้ผมได้เจอกับเด็กผู้ชายในชุดนักเรียนสภาพหลุดลุ่ย ที่มองยังไงก็ดูน่ากลัว ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด..แต่นั่น เพิ่งทำให้ผมรู้ ว่าผมไม่ควรมองใครจากภายนอก

     

     

        ‘นี่..เป็นอะไร?

    น้ำเสียงทุ้มๆอ่อนละมุนดังออกมาจากเด็กผู้ชายคนนั้น มันทำเอาหัวใจของผมเต้นแปลกๆ ใบหน้าหล่อใสที่กำลังมองผมด้วยแววตาสงสัย

     

     

        ‘ฮึก..ชื่ออะไร..

    ผมไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่ผมถามเขากลับไปพร้อมกับสะอื้น ซึ่งนั่นทำให้เขาคนนั้นเลิกคิ้วขึ้นนิด ก่อนจะนั่งลงข้างๆผม

     

     

        ‘กูเหรอ?..กูชื่อติน มึงล่ะ?

    ในเมื่อเขาเห็นว่าผมไม่ได้ตอบคำถาม เขาก็ไม่คิดที่จะซักไซ้อะไร เขาหันมามองผมแล้วเหมือนจะนิ่งค้างไปนิด

     

     

        ‘เจเจ..ชื่อเจเจ

    และตั้งแต่วันนั้น..ผมก็มีเด็กผู้ชายที่ดูท่าทางเกเรคนนี้คอยดูแลปกป้องผมอยู่ตลอดเวลา เขาเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น รู้สึกปลอดภัยเวลาอยู่ใก้ลๆ เขาเป็นคนที่เอาคำว่า โดดเดี่ยว' ออกไปจากชีวิตผม แล้วหยิบยื่นคำว่า เรามาให้..

     

     

     

     

     

     

     

    -อัศวินดาบชมพู-

     

    100%---------------------------------------100%

     

    -มาแล้วจ้า คราวที่แล้วบอกจะมี NC แต่ก็ไม่มี แหะๆ โทษทีน้า เอาไว้ตอนหน้ามีแน่นอนจ้า แต่ตอนหน้าจะขอแนะนำชีวิตครอบครัวของบัทเตอร์ของเราก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวจะรีบเอาจากสุดฟินของคู่หลักมาให้น้า

    -ขนาดนานๆลงทีคอมเมนต์ยังไม่มี แบบนี้ลงเดือนเว้นเดือนดีมั้ยเนี่ย! หึหึ

     

     

    **ขอบคุณที่ติดตามค่ะ**

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×