ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yaoi]want you:คุณเพื่อนครับ กูต้องการมึง

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 จีบได้นะครับ [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 58



     
     
       ตอนที่ 3  จีบได้นะครับ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
       "เห้ยๆ ไอเจนี่มึงจะกินให้ท้องแตกตายเลยรึไงวะ"
     
     
       "นานๆทีมึงจะเลี้ยง ต้องกินให้คุ้มสิวะ"
     
     
       "โหยย พูดแบบนี้กูเสียหายนะเว้ย นายอเล็กซ์สุดหล่อออกจะใจปล้ำ"
     
     
       "หุบปากไปเลยมึง คราวก่อนหมาตัวไหนบอกจะเลี้ยง แม่งให้งบกูแค่ 150!"
    ระหว่างที่นายอเล็กซ์กับนายจิราวัตร์กำลังทำสงครามกันบนโต๊ะอาหารในร้านพิซซ่า ไอเพื่อนหน้าหล่อสองสไตล์ทั้งคู่ก็เดินเข้ามา
     
     
       "ไงครับ เจเจ^^"
    เพื่อนหน้าหล่อสไตล์แบดบอยเดินเข้ามาทักพร้อมกับรอยยิ้มกรุ่มกริม แต่ไอคำพูดแสนสุภาพที่ทำให้เจเจถึงกับทำท่าพะอืดพะอม
     
     
       "เลิกพูดเพราะกับกูซักทีเถอะแทน กูจะอ้วก ฮ่าๆ"
     
     
       "เหอๆ ก็ดี กูกำลังเอียนเลย"
    ว่าจบแทนก็นั่งลงที่ว่างข้างๆร่างเล็กโดยที่ไม่ได้คิดอะไร ทิ้งให้อีกคนที่ตอนมากำลังอารมณ์ดีๆ ตอนนี้อารมณ์เสียอย่างบอกไม่ถูก
     
     
       "ที่กู"
    นายราติณท์พูดขึ้นเสียงเรียบ ริมฝีปากเหยียดตรงพร้อมมองไปที่หนุ่มแบดบอย ที่นั่งประกบชิดไอเพื่อนตัวเล็กของเขา 
     
     
       "มึงแปะป้ายไว้รึไง?"
    แทนพูดตอบอย่างกวนๆ ก่อนที่ทั้งโต๊ะจะพากันหัวเราะ เมื่อเห็นไอคนสุขุมอย่างตินเริ่มฉุนจนควันแทบจะออกหู
     
     
       "อะๆ กูไปนั่งกับไอเล็กก็ได้วะ หวงจัง"
    แทนพูดแกล้งอย่างขำๆ ก่อนที่จะย้ายไปนั่งข้างอเล็กซ์แล้วให้ตินมานั่งข้างเจเจแทน ทั้งสี่คนนั่งทานอาหารกลางวันกันไป แกล้งกันไป คุยเรื่องฝนมหาลัยกันไป จนตอนนี้ทั้งสามคนเริ่มจะสนิทกับแทนกันมากขึ้น 
     
     
       "โลกจะแตกมั้ยวะ ไอเล็กเลี้ยงพิซซ่าเนี่ย"
     
     
       "ไม่แตกหรอก โถ่ กูเลี้ยงข้าวเพื่อนออกจะบ่อย"
     
     
       "กูเห็นมึงเลี้ยงอาหารหรูๆแต่กับพวกสาวๆ กับพวกกูก็แค่ข้าวแกงข้าง ม. แหละว่ะ ฮ่าๆ"
    ตินพูดแซ่วเพื่อนรักขำๆ เรียกเสียงหัวเราะจากเจเจกับแทนได้ดี ตินเดินกอดคออเล็กซ์นำออกไปจากร้าน ส่วนเจเจกับแทนเดินรั้งท้าย คุยนู่นคุยนี่กันไป ส่วนใหญ่เจเจจะเล่าเรื่องตลกๆของตินให้ฟังมากกว่า จนทำให้แทนรู้สึกได้ว่า  ตินมีความสำคัญกับไอตัวเล็กนี่มาก อย่างที่ไออเล็กซ์มันบอกไว้จริงๆ
     
     
       "วันนี้ไปบ้านกูสิแทน กูกะจะทำพวกอาหารทะเลกิน"
     
     
       "เออเอาดิ ช่วงนี้พ่อแม่กูไม่อยู่บ้านพอดี เหงาๆเลย"
     
     
       "พ่อแม่มึงไปไหนวะ?"
    เจเจถามร่างสูงเสียงใส ขณะกำลังเดินไปที่รถเพื่อขับกลับไปที่มหาลัย ให้แทนเหล่ตามองนิดๆ ก็เห็นใบหน้าหวานที่กำลังส่งยิ้มกว้างมาให้เขา รอยยิ้มแบบนี้มันดูเป็นธรรมชาติมากจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่ไอสองคนที่เดินนำหน้าจะคอยดูแลและคอยเป็นห่วงเจ้าของรอยยิ้มสดใสนี้ 
     
     
       "ไปดูงานที่ต่างประเทศ กลับอาทิตย์หน้าน่ะ"
     
     
       "เออดีๆ มึงจะได้อยู่เป็นเพื่อนกูถึงอาทิตย์หน้า ฮ่าๆๆ"
     
     
       "แล้วไอตินล่ะ มันจะไม่หักคอกูรึไง"
     
     
       "มันจะทำแบบนั้นทำไม มึงนี่ประสาทตามไอเล็กแล้วละ"
    เจเจเบ้ปากใส่เพื่อนข้างตัว แล้ววิ่งเหยาะๆ ไปเกาะแขนตินที่เดินนำไป ทิ้งให้นายธนินท์ หรือไอ้แทนมองตามก่อนจะส่ายหน้าเบาๆยิ้มๆ
     
     
     
                      นี่มึงคงไม่รู้ตัวเลยสินะ..
     
     
     
       "จะเดินให้เต่าเหยียบรึไงไอแทน ขาสั้นๆแบบไอเจยังนำลิ่วไปนู่นแล้ว"
     
     
       "กูได้ยินนะไอเล็ก!"
    พออเล็กซ์พูดจบ เจเจก็หันมาแยกเคี้ยวใส่เพื่อนทันที แล้วหมุนตัวกลับขึ้นรถตู้คันหรูของไอหนุ่มลุคแบดบอยข้างหลัง
     
     
       "เออไอติน ตกลงมึงได้เป็นเดือนคณะรึเปล่าวะ"
     
     
       "ไม่รู้ดิ แต่ไม่อยากเป็นว่ะ"
    ตินพูดเสียงเซ็งๆ ตอบคำถามเพื่อนตัวเล็กทีาเพิ่งถามอย่างนึกขึ้นได้ ว่าเมื่อวานมีรุ่นพี่ในคณะมาลากตัวมันไปลงแข่งเดือนคณะ แต่ดูเหมือนไอว่าที่เดือนคณะมันจะไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่
     
     
       "โหยยยย ทำไมวะ ถ้ามึงได้เป็นนะกูว่าสาวติดตึม"
    เจเจพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มล้อๆ โดยที่ไม่ได้สังเกตุเลยว่าคู่สนทนาของเขามีท่าทีเปลี่ยนไปแลิว ตินนิ่งเงียบ โดยที่ในใจรู้สึกแปลกๆ มันเหมือนน้อยใจยังไงก็ไม่รู้แฮะ
     
     
                    ......ไม่หวงกันบ้างเลยรึไงนะ
     
     
       "......"
     
     
       "อ่าว เงียบไมอะมึง..กูพูดไรผิดเหรอ"
     
     
       "มึงอยากให้..มีผู้หญิงมาติดกูเยอะๆ งั้นเหรอ?"
     
     
     
    กึก
     
     
     
    ร่างเล็กชะงักกึก กับคำถามของอีกคน ผู้หญิงมาติดงั้นเหรอ...เจเจถามตัวเองในใจพร้อมกับรู้สึกแปลกๆ อย่างที่ไม่ได้เป็นบ่อยนัก ทำไมนะ แค่คิดมันก็รู้สึกหงุดหงิดแปลกๆแล้ว ถ้ามีคนมาติดไอเพื่อนหน้าหล่อนี่เข้าจริงๆ เขาคงบ้าตายแน่ๆ
     
     
       ".....ก็..งั้นมั้ง ฮ่าๆ"
    แต่แล้วไอคนที่ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง ก็ตอบไปส่งๆ แล้วหัวเราะกลบเกลื่อน จนบรรยากาศในรถเริ่มจะมาคุขึ้นเรื่อยๆ จนไอคนที่ไม่ชอบให้อะไรมันค้างคาก็พูดขึ้นบ้าง
     
     
       "มึงไม่หวงมันหน่อยเหรอวะเจ"
    อเล็กซ์ใช้ขาสะกิดเจเจเบาๆแล้วถามเสียงทะเล้น
     
     
       "หวงทำไมละ มีเพื่อนหล่แก็ต้องโปรโมทหน่อยซิว้าาา"
     
     
       "แต่ไอตินมันยังหวงมึงเลยนะ"
     
     
       "กะ..ก็กูน่ารักอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ"
    เจเจพูดแล้วหัวเราะลั่น จนนายอเล็กซ์ที่ตอนแรกจะมาคลี่คลายสถานะการ กลับเผลอหัวเราะไปด้วยกับไอคนที่คิดว่าตัวเองน่ารักจนเพื่อนหวง 
     
     
       "ไหนบอกว่ามึงหล่อไงครับ หึหึ"
    ตินที่ไม่อยากทำอะไรให้ไอตัวเล็กนี่ต้องอึดอัดใจก็ถามขึ้นเล่นๆ แล้วมองหน้าเพื่อนสนิท(คิดไม่ซื่อ)อย่างจับผิด
     
     
       "ก็น่ารักสำหรับมึงคนเดียวไง"
     
     
    กึก
     
     
       "........"
    และอีกครั้งที่บุรุษทั้งสี่ถึงกับต้องชะงัก เพราะนายจิราวัตร์ที่พูดสิ่งที่ตัวเองคิดไปอย่างลืมตัว ใช่เค้าคิดว่าจะยอมน่ารักสำหรับไอเพื่อนตินนี่คนเดียว แต่เขาไม่อยากจะบอกให้มันรู้ซะหน่อย!
     
     
       "ฮิ้ววววววววว ~// ฮ่าาๆๆๆๆ"
    ทั้งเสียงโห่เสียงหัวเราะ ที่ดังมาจากไอเพื่อนชายทั้งสองที่นั่งอยู่เบาะหน้าประจำตำแหน่งคนขับกับข้างคนขับ จนไอคนนั่งเป็นคุณชายอยู่บ้านหลังทั้งคู่ถึงกับหน้าแดง แล้วหันหน้าหนีกันไปคนละทาง
     
     
     
    ไม่นานรถคันสวยก็มาจอดเทียบมหาลัยชื่อดัง ที่คณะบัญชี หนุ่มหล่อสี่สไตล์ก้าวขาลงจากรถเรียกสายตาจากทั้งบุรุษทั้งสตรีได้อย่างดี
     
     
      นายอเล็กซ์หนุ่มหล่อทะเล้น เดินยิ้มหวาน กวาดสายตามองสาวสวยจนพวกคุณเธอละลายกันเป็นแถวๆ ตามมาด้วยนายธนินท์ หนุ่มหล่อแบดบอย เดินใช้มือข้างคว้าล้วงกระเป๋าใบหน้านิ่งๆที่ดึงดูดจนสาวๆหลายคนต้องมองจนเหลวหลัง อีกคนก็นายราติณท์ หนุ่มหล่อแสนอบอุ่น รอยยิ้มบางๆกับมือหนาที่ยังขยี้หัวเพื่อนตัวเล็กเล่น รอยยิ้มอบอุ่นนั่นแหละที่ทำให้เขาดูมีเสน่ห์ที่สุดในกลุ่ม และไอหนุ่มตัวเล็กสดใสคนสุดท้าย ที่วิ่งร่าตะโกนโวกแหวกด่าไอบ้าตินที่มันเล่นหัวเขาจนฟู จนหนุ่มๆหลายคนมองใบหน้าสดใสอย่างหลงไหล
     
     
       "ไอบ้าติน ไอตินบ้า หัวยุ่งหมดแล้วเนี่ย!"
     
     
       "ฮ่าๆๆ แบบนี้แหละ น่ารัก ฮ่าๆ"
     
     
       "น่ารักบ้านแกสิ อ๊ากกก หยุดน้าาาาา!"
    พออเล็กซ์กับแทนเริ่มเห็นว่าการได้แกล้งไอตัวเล็กนี่ก็ดูน่าสนุกดีเหมือนกัน ก็วิ่งกรูกันเข้ามารุมยีหัวจนผมที่เซ็ดมาดีๆยุ่งเหยิง เจเจที่เกิดมามีกรรม ตัวเล็กบอบบาง ต้องจำยอมให้ไอพวกอึดทึกมันเล่นหัวไปแต่ทว่า..
     
     
       "ขอโทษฮะ.."
     
     
    กึก
     
     
    เสียงเรียกจากเด็กผู้ชายตัวเล็กหน้าตาน่ารัก ที่ไอเจเจ มันคิดว่าน้องเขายังไม่ทันทำอะไรผิด จะมาขอโทษทำไม ก็ชะงักแล้วหันไปมองต้นเสียง นาทีเดียวกันที่หนุ่มอบอุ่นก็หันหน้าไปมองตามเพื่อนรักด้วยเช่นกัน
     
     
       "มีอะไรรึเปล่าน้อง"
    เจเจถามขึ้นอย่างสงสัย เมื่อไอเด็กน้อยชุด ม.ปลาย คนนี้มันมองแต่หน้าไอติน แล้วแก้มเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแปลกๆ
     
     
       "พี่ชื่ออะไรเหรอฮะ..คือ..ผมชื่อพีมครับ^^"
    ไอเด็กหนุ่มหน้าใสพูดขึ้น โดยไม่ได้สนใจคำถามของเจเจเลยซักนิด ดวงตากลมโตยังคงจ้องมองใบหน้าหล่อของตินอย่างรอคำตอบ นายจิราวัตร์ตวัดสายตาขึ้นไปมองเพื่อนข้างตัวอย่างกดดัน พรางใช้สายตาสื่อความหมายไปกลายๆ
     
     
                  ถ้ามึงสนใจมัน มึงตายแน่ไอติน!!
     
     
       "ชื่อตินครับ^^"
     
     
    !!!!!!
     
     
    เจเจถึงกับควันออกหูเมื่อสายตาอาฆาตของเขามันใช้ไม่ได้ผล หรือจริงๆแล้วมันได้ผลแต่ไอบ้านี่มันตั้งใจจะยั่วโมโหกันแน่ หนุ่น้อยหน้าใสนามว่าพีม พอได้คำตอบก็ยิ้มกว้าง ตาโตๆเปร่งประกายวิบวับเหมือนเด็กเห็นของเล่น
     
     
       "แล้วน้องมีอะไรรึเปล่าครับ"
    ตินถามต่อเสียงนุ่ม พรางยิ้มหวานให้ แล้วชายตามองเพื่อนข้างตัว ก่อนจะเห็นอาการที่เขาพึงพอใจ
     
     
       "คือ...ผมอยากรู้จักหนะครับ"
     
     
       "งั้นก็...จีบได้นะครับ ^^"
     
     
       ">/////< คะ..ครับ!"
    หนุ่มน้อยหน้าแดงเเจ๋ ตัวบิดเป็นเกรียว แล้วอมยิ้มจนไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขินชิบหายเลยแหละ แต่ไอท่าทางที่ดูแสนจะน่ารักแบบนี้ มันกลับทำให้คนที่ปกติรักเด็กอย่างกับอะไรรู้สึกหมันไส้ขึ้นมาซะอย่างนั้น
     
     
       "ไปก่อนนะ กูจะอ้วก!"



                             -----30%----
     
     
     
    นายจิราวัตร์เดินตึงตังออกมาด้วยความร้อนรุ่มในอก เหมือนมีใครมาจุดไฟเอาไว้ในตัวเขา เกลียด เกลียดเสียงใสๆนั่น เกลียดไอคำพูดที่มาบอกว่าอยากรู้จักเพื่อนของเขา เกลียดตัวเอง เกลียดที่ไม่ดึงตัวไอเด็กนั่นออกมา เกลียดไอเพื่อนบ้าที่มันควรจะรู้ว่าทำแบบนี้แล้วเขาจะโกรธ แต่มันก็ยังทำ!
     
     
                     หรือเพราะ เราเป็นแค่เพื่อน มันถึงไม่สนใจ..
     
     
     
       "ฮ่าๆ หึงรึไงมึง"
    เสียงทุ้มนิ่งๆดังมาจากด้านหลังร่างเล็ก หนุ่มแบดบอยที่เดินยิ้มกริ่มเท่ห์ๆเข้ามาหา พร้อมกับคำถามที่ทำให้ไอตัวเล็กนี่คิดว่า มันต้องติดเชื้อมาจากไออเล็กซ์แน่ๆ
     
     
       "หึงบ้านมึงสิ! สัส!"
     
     
       "หึหึ เอาหน่าา น้องเขาก็น่ารักดีเหมาะสมกับมันจะตาย"
     
     
       "เหมาะสม...งั้นเหรอ? แต่เด็กนั่นเป็นผู้ชาย!"
    เจเจพูดอย่างหงุดหงิด จนอ้างนู่นอ้างนี่อย่างไม่คิด ให้นายธนินท์ยิ้มขำ ก่อนจะโยกหัวเพื่อนรักหมาดๆ แล้วพูดต่อ
     
     
       "ทำเหมือนมึงไม่ได้ชอบผู้ชาย"
     
     
       "กูชอบ แต่มันไม่ได้ชอบซะหน่อย!"
     
     
       "มันเคยบอกรึไงว่าไม่ชอบ?"
    เจเจนิ่งไปนิดกับคำถามที่เหมือนจะแค่แกล้งกวนประสาทเล่น แต่มันก็จริง มันไม่เคยพูดซะหน่อยว่ามันไม่ชอบผู้ชาย หรือมันชอบผู้หญิง ก็ตั้งแต่รู้จักมันมา ทั้งหญิงทั้งชายก็รุมจีบมันเยอะแยะ แต่มันเคยสนใจซะที่ไหน 
     
     
       "...แต่มันก็ไม่เคยบอกว่าชอบ"
    นายจิราวัตร์ยังคงไม่ยอมแพ้ เถียงเสียงแผ่วทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่มั่นใจซักเท่าไหร่ แทนยิ้มนิดๆกับความดื้อดึงของคนข้างๆ ก่อนจะกอดคอไอคนตัวเล็กกว่าแล้วออกแรงดึงให้เดินไปที่ตึกคณะ
     
     
       "เลิกเถียงกับกูแล้วขึ้นไปเรียนดีกว่าป่ะ?"
     
     
       "จิ๊! อย่ามาจับ"
     
     
      "ฮ่าๆ คร้าบๆ"
    เจเจสลัดตัวออกอย่างหงุดหงิด จริงๆแล้วใครจะมากอดคอหนะ เขาไม่ว่าหรอก แต่เพราะไอเรื่องที่มันกวน แล้วก็เรื่องไอเด็กนั่นอีก ที่ทำให้ตอนนี้หนุ่ม(เคย)สดใส ร่าเริง เหมือนมีเปลวไฟสุมอยู่ทั่วตัว จนคนเดินผ่านไปผ่านมาถึงกับไม่กล้าเฉียดเข้ามาใกล้
     
     
     
     
     
     
       "เจครับ วันนี้อยากไปไหนก่อนมั้ย หรือจะกลับบ้านเลย"
    พอเวลาผ่านไป ไอคนโกรธง่ายหายเร็วก็กลับมาทำตัวน่ารักเหมือนลูกแมวมาเกาะเเข้งเกาะขาตินเหมือนเดิม 
     
     
       "อืม....แล้วแต่มึงอะ มึงไปไหนกูก็ไปที่นั่นแหละ"
    เจเจทำท่าคิดแล้วพูดตอบไปยิ้มๆ ให้ตินพยักหน้ารับแล้วยิ้มบางๆ 
     
     
       "หึหึ เอาใจผัวจังนะมึง"
    ไอเพื่อนรักหมาดๆ พอเห็นไอตัวเล็กมันกลับมาออดอ้อนตินเหมือนเดิมก็แกล้งพูดแซวขึ้นขำๆ จนเจเจรีบปล่อยมือจากเเขนตินทันที
     
     
       "ผัวบ้านมึงสิ! ว่าแต่..ไอเล็กหายไปไหนวะ"
     
     
       "เห็นมันบอกเจอเนื้อคู่แล้วก็วิ่งหน้าตั้งไปนู่นแล้ววะ ฮ่าๆ"
     
     
       "โหแม่ง เป็นงี้ประจำ..ยังไม่ได้บอกมันเรื่องพี่รหัสมันเมื่อวานเลย"
    เจเจพูดขึ้นอย่างนึกได้ ไอเพื่อนหน้าหล่อทั้งสองหันมามองอย่างสงสัย แล้วตินก็เป็นฝ่ายถามขึ้น
     
     
       "ทำไม?"
     
     
       "ไม่มีไรหรอก พี่บัทเตอร์พี่รหัสมันโทรผิดมาเบอร์กู"
     
     
       "บัทเตอร์ คนไหนวะ?"
    ตินถาทขึ้นงงๆ โดยที่แทนก็พยักหน้าตามช้าๆ เหมือนเห็นด้วย ท่าทางที่ทำให้เจเจได้แต่ยิ้มแหย่ๆไปให้แล้วก็พูดออกมาเสียงใด
     
     
       "กูก็ไม่รู้ว่ะ แต่เห็นเขาพูดกันว่าน่ากลัวสุดๆเลยแหละ"
     
     
       "แสดงว่ามึงนี่ก็เสือกเรื่องชาวบ้านใช้ได้เลยนะ ฮ่าๆๆ"
     
     
       "ไอติน!!/พี่ตินฮะ"
     
     
    กึก
     
     
    รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ทั้งสามชะงัก ไม่ใช่เพราะแสดงตวาดตลกๆของเจเจ แต่เป็นเพราะเสียงเรียกใสๆ ที่ดังมาจากด้านหลังนี่ต่างหาก ภาพที่ทำให้นายธนินท์คิดว่ามันคงเป็นเรื่องภายในครอบครัว(?) จึงโบกมือลาแล้วเดินล้วงกระเป๋าออกไปอย่างเท่ห์ๆ
     
     
       "เด็กนี่อีกแล้วเหรอวะ!"
    ทันทีที่เจเจเห็นเด็กหนุ่มร่างเล็กในชุดนักเรียนเดิม ก็เริ่มอารมณ์ขุ่นขึ้นมาโดยไร้สาเหตุ ยิ่งสายตาที่มันมองเพื่อนเขาแบบแทบจะกลืนกิน มันยิ่งทำให้เขาอยากจะควักลูกตาโตๆนั่นออกมาจริงๆ
     
     
       "เจพูดไม่ดีเลยนะ"
    ตินพูดปรามร่างเล็ก ไม่ใช่เพราะเข้าข้างเด็กคนนี้ แต่มันเป็นเพราะเขาไม่อยากให้ใครมามองเจเจว่าเป็นคนปากร้ายมากกว่า
     
     
       "นี่มึงกล้าว่ากูเหรอติน!"
     
     
       "กูยังไม่ได้ว่ามึงเลยนะ"
     
     
       "ก็มึงพูด"
    สายตาสองคู่ผสานกัน แล้วเหมือนคนที่โกรธง่าย(โคตร)ก็เริ่มจะเดือดขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เจ้าตัวก็หงุดหงิดตัวเองเป็นบ้า ว่าเรื่องอะไีทำไมจะต้องมาโมโหกับเรื่องแค่นี้ด้วย
     
     
       "ไม่เอาหน่า อย่าหงุดหงิดสิ ไปรอที่รถนะครับ เดี๋ยวตามไป"
    ตินเป็นท่าไม่ดี ก็เดินเข้าไปพูดเสียงนุ่มแล้วหยิกแก้มใสเบาๆอย่างเอาใจ 
     
     
       "อื้ออ ปล่อย! เออก็ได้! เร็วๆนะมึง ถ้าช้ากูเอามึงตายแน่!"
     
     
       "หึหึ คร้าบบบ"
    ไอคนที่แพ้เสียงนุ่มๆท่าทางอ่อนโยนของอีกฝ่าย ก็เริ่มเย็นลง แต่ก็ยังไม่วายจะวางมาดข่ม แล้วเดินนำขึ้นรถไป เด็กหนุ่มชุดนักเรียนมองการกระทำของทั้งสองด้วยสายตาไม่พอใจนัก แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร จนตินหันมาหา เด็กหนุ่มรีบเปลี่ยนสีหน้า แล้วถามไปเสียงซื่อๆ
     
     
       "เอ่อ..พี่คนนั้นเขาเป็น...."
     
     
       "เป็นเพื่อนพี่หนะครับ"
    ท่าทางอ้ำๆอึ้งๆ ที่ทำให้ตินชิงตอบไป ก็มันจริงอย่างที่เขาพูด ถึงเขาจะไม่ได้รู้สึกกับมันแค่เพื่อนก็เถอะ แต่เรื่องอะไรจะต้องไปพูดแสดงความเป็นเจ้าของให้มันโดนคนอื่นมองเสียๆหายๆ คำตอบที่ทำให้เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง กระโดดเข้ามาเกาะแขนเกร่งอย่างอ้อนๆ แล้วพูดชวนเสียงใส
     
     
      "อ่อฮะ ^^ พี่จะไปไหนต่อรึเปล่าฮะ คือ..พีมอยากกินไอติม"
     
     
      "อยากให้พี่ไปด้วยสินะ^^"
     
     
      "ก็..ใช่ฮะ"
    เด็กหนุ่มก้มหน้าแล้วพูดเสียงแผ่ว แก้มเห่อแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
     
     
       "ก็ได้ครับ แต่ให้เพื่อนพี่ไปด้วยได้รึเปล่า?"
     
     
       ".....ได้ฮะ เพื่อนพี่ก็น่ารักดีฮะ พีมชอบ"
    คำตอบที่ขัดกับความคิดสุดๆ แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มคิดว่าเขาไม่ควรเป็นตัวร้าย แต่ต้องเป็นร่างเล็กคนนั้นมากกว่า 
     
     
       "ดีครับ งั้นไปรถพี่นะ"
     
     
       "ฮะ"
     
     
     
     
    ทั้งสามคนออกเดินทางโดยที่แม้ เจเจจะขัดซักแค่ไหนแต่ก็ไม่มีใครฟัง เสียงคุยจ้อที่ถามนู่นถามนี่ตินตลอดเวลา ปกติเขาไม่รำคาญหรอก แต่ตอนนี้มันกลับรู้สึกรำคาญจนต้องเปิดเพลงจากวิทยุเสียงดังๆ แต่มันก็ไม่เป็นผล..
     
     
       "พี่ตินเรียนคณะอะไรเหรอฮะ"
     
     
       "บัญชีครับ"
     
     
       "ทำไมถึงเรียนบัญชีละฮะ พี่ตินจะทำงานอะไรเหรอ"
     
     
       "พี่ต้องไปดูแลกิจการที่บ้านหนะ"
     
     
       "แล้วทำไมไม่เรียนบริหารละฮะ"
     
     
       "ก็เพื่อนพี่มันสอบไม่ติด ฮ่าๆ พี่เลยมาเรียนเป็นเพื่อนมัน"
    คนสองคนที่คุยกันเหมือนถูกคอกันดี ทำให้อีกคนที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน และนั่นทำให้เจเจที่อดทนนั่งมานานพูดขึ้นเสียงแข็ง
     
     
       "กูจะกลับบ้าน!!"
     
     
       "อ่าว ไหนบอกจะไปด้วยกันไงครับเจ"
    ตินหันหน้ามามองเพื่อนตัวเล็ก ใจกระตุกวูบไม่รู้ว่าแกล้งมันมากไปรึเปล่า
     
     
       "กูไม่อยากไปแล้ว! กูจะกลับ!"
     
     
       "แล้วจะกลับยังไงครับ ออกมาขนาดนี้แล้ว"
     
     
       "มึงอยากไปกับเด็กนี่ก็ไปสิ กูกลับเองได้!!"
    คราวนี้ดูเหมือนน้ำเสียงนุ่มๆจะใช้ไม่ได้ผล เพราะนายจิราวัตร์เดือดถึงขั้นไม่ยอมฟังใครทั้งนั้น ตอนนี้เขาไม่อยากเห็นหน้าไอเด็กนี่ ไม่อยากฟังไอเจ้าของเสียงนุ่มๆที่เคยพูดกับเขาคุยอยู่กับคนอื่น
     
     
       "เจเจอย่าเป็นแบบนี้ดิ กูไม่ชอบนะ"
     
     
       "แล้วใครขอให้มึงมาชอบล่ะ!"
     
     
       "เฮ้อ..น้องพีมครับ พี่ต้องขอโทษด้วยนะครับ คงจะไปด้วยไม่ได้แล้ว"
    ตินถอนหายใจ ไม่อยากจะทำให้อีกคนโกรธกว่านี้อีกแล้ว จึงตัดสินใจหันไปบอกเด็กหนุ่มที่นั่งมองเจเจตาขวาง
     
     
       "อ่าว แล้วพีมจะไปครับใครละฮะ"
    เด็กหนุ่มท้วงขึ้น สายตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจ แต่คนที่ไม่ได้สนใจสายตาคู่นั้นเท่าไหร่ ก็ไม่ทันได้สังเกตุ แล้วพูดออกไปเสียงนุ่ม
     
     
       "งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้านแล้วกัน"
     
     
       "ทำไมต้องไปส่ง! กลับเองไม่เป็นรึไงวะ"
     
     
       "เจเจ! พอได้แล้ว"
     
     
       "นี่มึงว่ากูเพราะเด็กนี่เหรอติน!!"
     

     
                                  ----50%----
     
     
    เจเจบรรยาย
     
     
     
     
    ผมตวาดเสียงดังลั่นรถ ความน้อยใจตีขึ้นมาเต็มอกมันไม่เคยว่าผม ไม่สิ ถึงเคยมันก็เป็นเพราะมันเป็นห่วงผม แต่นี่มันตะคอกใส่ผมเพื่อที่จะปกป้องไอเด็กหน้าใสนี่ ผมโกรธ โกรธมากด้วย! ไอตินเลี้ยวรถเข้าจอดที่ริมฟุตบาด แล้วหันหน้ามาจ้องผมเขม็ง ซึ่งผมเองก็จ้องมันด้วยสายตาที่ไม่ต่างกันนัก
     
     
       "พี่เจเจฮะ..คือพีมไม่กล้ากลับบ้านคนเดียว"
    ผมตวัดสายตาไปมองต้นเสียง ที่มองผมด้วยสายตาอ้อนวอน ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันแกล้ง ผมแอบเห็นมันยิ้มเยาะตอนที่ไอบ้าตินมันตวาดผม ผมไม่เคยไม่ชอบหน้าใคร ผมไม่เคยรู้สึกไม่ถูกชะตากับเด็กน่ารักๆคนไหน แต่คงต้องเว้นหมอนี่ไว้คนนึง!
     
     
       "ตอนมายังแจ้นมาคนเดียวได้ ทำไมตอนกลับเสือกกลับเองไม่ได้!"
     
     
       "เจเจ!!!"
     
     
     
    กึก..
     
     
     
    ครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ทุกคนชะงัก ไอตินเองก็เหมือนจะตกใจเองเหมือนกัน ผมรับรู้ได้ถึงความชื้นแฉะที่ตา ใช่ ผมกำลังจะร้องไห้ หลายๆคนคงคิดว่าผมกลัว กลัวเสียงตวาดจนร้องไห้ หรือไม่ก็ตกใจจนร้องไห้..แต่ไม่ใช่หรอกครับ มันเป็นเหมือนความรู้สึกน้อยใจ เสียใจอะไรพวกนี้มากกว่า แต่ครั้งนี้เหมือนมันจะมากกว่าครั้งอื่นๆ
     
     
     
    มันไม่ได้พูดเพราะห่วงผม..แต่มันห่วงไอเด็กนี่
     
     
    มันไม่ได้ปกป้องผม..แต่มันปกป้องเด็กผู้ชายคนนี้
     
     
     
       "ฮึกก...มึงเห็นมันดีกว่ากู"
    ผมพูดออกไปเสียงสั่น แต่ตาผมกลับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหวานๆของเด็กที่นั่งตัวสั่นอยู่หลังรถ สายตาของมันเหมือนจะพยายามบ่งบอกว่ากลัว แต่อีกมุมนึง คุณจะว่าผมมองโลกในแง่ร้ายรึเปล่า ถ้าผมจะบอกว่ามันเสแสร้ง
     
     
       "พี่เจเจ..ทะ..ทำไมมองผมแบบนั้นละครับ"
     
     
       "หึ..ติน..ดูเด็กมึงสิ ฮึก..ตัวสั่นใหญ่แล้ว..เชิญดูแลกันไปเถอะ..กูไม่ได้เหมือนเด็กนี่ กู..ฮึก..กูกลับคนเดียวได้!"
     
     
    พรึ่บ!!
     
     
    ปั่ง~
     
     
     
       "เจเจ!!...เจเจ!!"
    ผมพูดจบก็เปิดประตูลงมาทันที เสียงตะโกนเรียกชื่อผมไล่หลังดังมาเรื่อยๆ แต่ผมไม่สนใจแม้แต่จะหันไปมอง สายตาหลายคู่ของคนที่อยู่บริเวณนั้นมองมาที่ผมและรถของไอตินอย่างสนใจ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลาจะสนใจใครทั้งนั้น ผมปาดน้ำตาออกลวกๆ แล้วก้าวขาให้ยาวที่สุด 
     
     
       
    ปรี๊นนน ปรี๊นนนนนนนนน
     
     
     
    เสียงแตรรถที่ขับเข้ามาเทียบด้านข้างฟุตบาด คงจะเป็นไอตินที่ตามผมมาเพื่อที่จะให้ผมกลับไปด้วยกัน ผมไม่สนใจจะหันไปมอง แล้วก้าวขาให้เร็วขึ้นอีกแต่..
     
     
       "ไอเจ!! เห้ย! หยุดก่อนเว้ย!"
     
     
    กึก..
     
     
    ผมชะงักเพราะเสียงที่เรียกผมนั้นกลับไม่ใช่เสียงของคนที่ผมคิดเอาไว้ ทำไม..ผมถึงรู้สึกผิดหวังที่ไม่ใช่มันจังนะ..
     
     
        "ไอเจ ขึ้นรถเว้ย"
    ผมหลุดออกจากความคิดเพราะเสียงแหลมเล็กของผู้ชายไวเดียวกับผม รูปร่างคล้ายๆผม ใบหน้าคมสวยเกินชายที่ล้อมไปด้วยผมสีดำสนิท ปากเล็กๆสีส้มออกแดงหน่อยๆ ดวงตาคมดุกับจมูกโด่งได้รูปนั่น ทำให้ผมหลุดปากขานชื่อมันออกไปเบาๆ..
     
     
       "นิกกี้.."
     
     
       "เอ้าไอนี่..ก็กูน่ะสิ เห็นเป็นหมาที่ไหนล่ะ ขึ้นรถดิวะ"
    ไอนิกกี้พูดขึ้นทำท่าเซ็งๆ แล้วกวักมือเรียกผมขึ้นไปบนรถ ผมเดินไปตามคำเชิญของอีกคน ภาพที่กระจกมองข้างของรถไอนิก สะท้อนภาพรถยนต์คันหรูที่ผมเพิ่งลงมาเมื่อกี้กำลังขับตรงมาหาผม โดยที่ข้างฟุตบาดมีไอเด็กบ้านั่นยืนตาละห้อยมองรถที่กำลังแล่นเข้ามาหาผม
     
     
       "ไอเจมะ.."
     
     
       "นิก! ออกรถเร็ว!!"
     
     
       "ห๊ะ? อะไรของมึง รีบไปไหนวะ"
     
     
       "เออ ออกรถก่อน เร็วสิวะ!"
     
     
     
    บรื๊นนนนนนนนนนนน~
     
     
     
    ผมไม่ได้อธิบายอะไร แต่ไอนิกมันก็รีบออกจากตรงนั้นมาอย่างรวดเร็ว จนทิ้งระยะห่างจากไอตินมาได้ไกล ไอนิกกี้มันเป็นเพื่อนสมัย ม.ปลาย ของผมแถมมันยังเป็นนักแข่งรถด้วยครับ มันมาแข่งที่สนามผมแล้วชนะบ่อยๆ จนเราเริ่มสนิทกัน มันกับไอเล็กถือว่าฝีมือพอๆกันเลยละครับ
     
     
       "นี่มึงหนีใครอยู่รึไงวะ"
     
     
       "ก็...ประมาณนั้น"
    ผมรับคำแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง บางครั้ง ความเร็วของรถที่กำลังโลดแล่นอยู่บนถนนก็ทำให้ผมรู้สึกโล่งได้โดยที่ไม่ต้องเป็นคนขับเองด้วยซ้ำ
     
     
       "ถ้าให้กูเดา..ไอรถที่ขับตามเรามาติดๆ คงเป็นรถผัวมึงสินะ"
     
     
       "มันไม่ใช่ผัวกู"
     
     
       "ฮ่าๆ ไม่ใช่ก็เหมือนใช่ล่ะว๊าา..รัดเข็มขัดซะ กูจะพาซิ่ง"
    มันพูดจบผมก็รัดเข็มขัดตามที่มันว่า และทันทีที่มันเห็นว่าผมเซฟตัวเองเรียบร้อยแล้ว มันก็เหียบคันเร็งจนแทบมิด รถของเราขับไกลออกมาจากไอตินมา จนผมมองไม่เห็นรถมันแล้ว คาดว่าคงจะห่างกันหลายกิโล รถของไอนิกมันเป็นรถแต่งสำหรับแข่ง แต่มันก็เอามาใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะภายนอกมันก็เหมือนรถทั่วๆไป แต่ความเร็วมันมากว่ารถคันอื่นหลายเท่า...และนั่นหมายความว่า ไอตินไม่มีทางตามผมทัน
     
     
       "แล้ว..นี่มึงจะไปไหนล่ะ"
     
     
       "กูไม่รู้"
     
     
       "อ่าว ไอนี่..มึงไม่รู้แล้วกูจะรู้มั้ยละ"
    มันพูดเซ็งๆ แล้วขับรถช้าลงเรื่อยๆจนแทบจะเป็นเต่าคลาน ผมมองป้ายบอกทางบนถนน ตอนนี้เราจะออกจากกรุงเทพฯกันอยู่แล้ว ผมยังไม่รู้เลยว่าจะไปที่ไหน ผมคิดแค่ว่า ขอให้ตอนนี้ผมไปไกลๆจากไอติน ไอเพื่อนใจร้ายคนนั้นก็พอ
     
     
       "ไปบ้านมึงได้มั้ย"
     
     
       "บ้านกูเหรอ...กูว่าไปคอนโดกูดีกว่า ไปบ้านกูมีหวังได้บ้านแตก ฮ่าๆ"
     
     
       "นี่มึงกับแม่เลี้ยงมึงยังไม่เลิกตีกันอีกรึไง"
     
     
       "หึ อย่าไปพูดถึงมันเลย กูแขยงหู"
     
     
       "มึงนี่จริงๆเลย"
    ผมส่ายหน้าเอือมๆให้กับมัน ไอนิกทำท่าทางขยักแขยงตอนที่ผมพูดถึงแม่เลี้ยงของมัน มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ ชีวิตมันตอนนี้ก็คล้ายๆกับผม มีญาติก็เหมือนไม่มี มีพ่อแม่ก็เหมือนไม่มี มันมีแค่พี่ชายบุญธรรม(ที่ผมไม่เคยพบ)ของมันคนเดียวที่มันรักและเคารพตอนนี้ ก็เหมือนผม ที่มีแค่..ไอตินคนเดียว
     
     
       "แล้วกูจะคิดถึงมึงอีกทำไมวะ"
     
     
       "ห๊ะ? มึงว่าไงนะเจ คิดถึงอะไรนะ?"
     
     
       "เปล่าๆ..กู..คิดถึงมึงไง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน"
     
     
       "ฮ่าๆ กูก็คิดถึงมึง"
    มันพูดแค่นั้นแล้วก็ไปจดจ่อกับถนนตรงหน้าอีกครั้ง ทำไมมันจะไม่รู้ว่าผมโกหก มันน่ะฉลาดจะตาย มันดูคนออกทุกคน แทบจะเป็นแม่หมอ(?)ได้เลยแหละ ถึงมันจะจัดว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาเหมือนผู้หญิง แต่มันก็ไม่ได้หน้าหวานๆแบบผมนะครับ มันออกไปทางสวยดุๆซะมากกว่า ดวงตาของมันคมจนบางครั้งผมมองว่ามันน่ากลัว รอยยิ้มของมันบางครั้ง ผมก็คิดว่ามันเป็นยิ้มที่ซ่อนความรู้สึกอะไรหลายๆอย่างเอาไว้ บางครั้ง ผมก็แอบเห็นมันร้องไห้คนเดียว แต่ทุกๆครั้งๆ มันก็มักจะบอกผมว่าไม่เป็นไรและยิ้มให้ผมเสมอ ผมไม่เข้าใจหรอกนะ ว่ามันทำแบบนี้ทำไม แต่ถ้าให้ผมคิด มันคงพยายามที่จะปกป้องตัวเองจากคำว่า..น่าสมเพช
     
     
               ทำไมผมถึงรู้หนะหรอ...ก็เพราะผมเคยเป็นมาก่อนไงละก่อนที่จะเจอกับ..ไอติน
     
     
    -------------------------------------------------------------
     
     
     
       "พี่เมฆ นี่เพื่อนนิกครับ ฝากดูมันด้วยละ"
     
     
       "แล้วคุณนิกจะไปไหนครับ"
     
     
       "ฮ่าๆ ไม่ต้องเรียกผมแบบนั้นหรอกพี่ นี่ไอเจเจ มันเป็นเพื่อนซี้ สมัยเรียนของผม มันไมีมีพิษหรอก"
     
     
       "อ่าวเหรอ วางมาดซะเต็มที่เลยว่ะ ฮ่าๆๆ"
     
     
       "นิกไปอาบนะครับ เหนียวตัวจะเเย่"
     
     
     
    ฟอดดดดดด~
     
     
     
    !!!!!!
     
     
     
    ผมนั่งอึ้ง มองไอเพื่อนนิกกับพี่ชายร่างสูงในชุดสูทสีดำ ที่เมื่อกี้ไอนิกมันเขย่งตัวแล้วกดจมูกลงกับแก้มพี่เขาแรงๆ พี่เขายิ้มนิดๆ ก่อนจะขยี้หัวไอนิกจนฟูแล้วไอนิกก็หันมาหาผม
     
     
       "ไอเจตามสบายนะเว้ย จะเอาไรบอกพี่เมฆเลย เดี๋ยวกูมา"
    มันพูดแค่นั้นก็เดินหายเข้าไปในห้องที่น่าจะเป็นห้องนอน ทิ้งให้ผมยืนแคว้งอยู่กลางห้อง โดยมีพี่ชายท่าทางสุขุม ใบหน้าดุดันเข้มๆ กำลังมองมาที่ผม ... และผมกำลังจะกลัว..ถ้าไม่ใช่เพราะ..
     
     
       "เจเจสินะ นั่งครับน้อง"
     
     
       "เอ่อ..ขอบคุณครับ"
     
     
       "ฮ่าๆ ไม่ต้องกลัวพี่ขนาดนั้นหรอก พี่เป็น..เอ่อ คนใช้ของน้องนิกเขาน่ะ"
     
     
       "คะ..คนใช้?!"
    ผมขานออกมาอย่างตกใจ คนใช้บ้าบออะไรแต่งตัวดีขนาดนี้ เสื้อผ้าที่ใส่ก็แบรนเนมทั้งนั้น เผลอๆแพงกว่าที่ผมกับไอนิกใส่อีก 
     
     
       "ครับ^^"
    พี่ชายตัวสูงตอบผมเสียงนุ่ม แล้วยิ้มกว้าง ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาเดี่ยวที่อยู่ตรงข้ามกับผม คนใช้บ้านไหนกันเขานั่งบนเก้าอี้ของเจ้านาย คนใช้บ้านไหนกันขยี้หัวเจ้านายเล่น คนใช้บ้านไหนกันเขานั่งเอาเท้าขึ้นมาพาดอยู่บนโต๊ะแบบนี้วะ!!
     
     
             หรือว่านี่จะเป็นแฟนไอนิก...ก็ในเมื่อมันชอบผู้ชาย..พี่คนนี้ก็หล่อใช้ได้อยู่ แถมเมื่อกี้ไอนิกมันยังหอมแก้มพี่เขาด้วย....เออ ใช่ๆ เป็นไปได้
     
     
     
       "ไอเจ ทำไมนั่งทำหน้าเป็นหมางงแบบนั้นวะ..พี่เมฆไปแกล้งอะไรเพื่อนนิกป่ะเนี่ย"
     
     
       "พี่เปล่าเลยนะ พี่ก็นั่งอยู่ตรงเนี้ย"
    พี่เขาพูดเสียงนุ่มแล้วตบปุ๊ๆ ที่พนักวางเเขนของโซฟาที่เขานั่งอยู่ ไอนิกทำหน้าลังเลนิดๆ แล้วพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินมาหาผม
     
     
       "ว่าไง เป็นไรครับ คุณมึง"
     
     
       "คือ...เอ่อ...มึง..."
    ผมอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ถูก ชี้นิ้วไปที่พี่ชายคนนั้นกับไอนิกสลับไปสลับมา ไอทำหน้างงซักพักแล้วมันก็เริ่มเข้าใจ
     
     
       "จะถามว่ากูกับพี่เมฆเป็นอะไรกันสินะ"
     
     
    หงึก ๆๆๆๆๆ
     
     
    ผมพยักหน้าหงึกๆรัวๆ จนไอนิกกับพี่ชายคนนั้นหัวเราะกันใหญ่ แล้วไอนิกกี้มันก็เคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนผมต้องถอยห่างออกไปอีกนิด ไม่งั้นเราได้จูบกันแน่ เหอๆ
     
     
       "มึงคิดว่ากูกับพี่เมฆเป็นมากกว่าพี่น้องใช่มั้ยละ"
     
     
       "ก็..ใช่"
     
     
       "มันก็เป็นแบบนี้มึงคิดนั่นแหละ คิคิ"
     
     
       "หืม??"
    ตอนนี้ผมเริ่มจะปรับอารมณ์ไม่ทัน ไอนิกผละตัวออกห่างจากผม แล้วยืดตัวตรง มันบอกว่าเป็นแบบที่ผมคิด มันเป็นแฟนกันงั้นสินะ...แล้วไหง เมื่อกี้พี่เขาบอกว่าเป็นคนใช้วะ
     
     
       "แล้วนิกรู้รึไง ว่าน้องเจเจเขาคิดว่าเราเป็นอะไรกัน"
     
     
       "ก็พอเดาได้.."
     
     
       "แต่พี่ว่าสิ่งที่นิกคิดมันผิดน้าาา"
    อีกครั้งที่ผมมองสองคนนี้สลับไปสลับมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้วคราวนี้ไอนิกมันหันกลับมามองผมอีกครั้งด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ตาคมๆของมันหรี่ลงนิดแล้วมองผมเหมือนกำลังใช้ความคิด ซักพักมันก็เบิกตากว้าง
     
     
       "ไอเจ! อย่าบอกนะว่ามึงคิดว่าก็กับพี่เมฆเป็นผัวเมียกันหนะ"
     
     
       "...."
    ผมเงียบมองหน้ามันแล้วกระพริบตาปริบๆ มันพูดแบบนี้แปลว่าไม่ใช่งั้นสิ ทำไมอะไรๆ มันซับซ้อนแบบนี้วะ
     
     
       "โอ๊ยยย ตายๆ เพื่อนกูคิดบ้าอะไรวะเนี่ย"
     
     
       "ไม่ใช่เหรอ?"
    ผมถามมันออกไปเสียงอ่อยๆ มันทำหน้าเอือมแล้วส่ายหน้าเบาๆ ส่วนพี่ชายคนนั้นก็หัวเราะหึหึในลำคอ นี่ผมทำอะไรผิดวะเนี่ย-__-
     
     
     
             Rrrrrrrr RrrrrrrR (ติน)
     
     
    กึก
     
     
    ผมชะงักเมื่อเห็นขื่อบนหน้าจอโทรศัพท์ แล้วก็ไอรูปคู่ตอนที่ผมขี่หลังมัน ที่ผมตั้งเอาไว้เวลามันโทรเข้า ผมหันไปมองไอนิกนิดๆ มันก็มองมาที่ผมแล้วยิ้มล้อๆ 
     
     
               Rrrrrrrrrr Rrrrrrr
     
     
       "รับไปเถอะ ออกไปคุยที่ระเบียงก็ได้ กูไม่เสือกหรอก ฮ่าๆ"
     
     
       "ขอบใจ"
    ผมพูดตอบรับมันไปแล้วเดินออกไปที่ระเบียง ลมเย็นๆพัดมากระทบผิวทำเอาผมขนลุกซู่ โทรศัพท์ที่ยังสั่นและแผดเสียงลั่นอยู่ในมือผม ผมจ้องมองมันอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจสไลด์เบาๆบนหน้าจอที่รูปเครื่องหมายสีเขียวๆ
     
     
               Rrrrrrrrrr ตี๊ด!
     
     
       ":เจเจ!! อยู่ที่ไหน! ขึ้นรถไปกับใคร ทำไมไม่กลับบ้านห๊ะ!!"
    ทันทีที่ผมรับสาย เสียงตะโกนก็ดังออกมาจากโทรศัพท์จนผมต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู ทำไมมันต้องทำเหมือนเป็นห่วงผมด้วยนะ ในเมื่อมันเลิกที่จะไปกับเด็กนั่น 
     
     
       "สนใจด้วยเหรอ?"
     
     
       ": ....."
    มันไปตอบอะไร ได้ยินแต่เสียงหายใจฟึดฟัดดังออกมา มันคงกำลังระงับอารมณ์ของตัวเอง และนั่น ทำให้ผมแค่นยิ้มออกมา
     
     
       "หึ ไม่ต้องห่วงกูหรอก เอาเวลาไปห่วงเด็กนั่นเถอะ!" ตี๊ด
    ผมตัดสายมันโดยที่ไม่รอฟังมันตอบหรืออธิบาย ผมรู้ว่ามันจะหาเหตุผลดีๆมาได้เสมอ เพราะมันเป็นแบบนั้นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมไม่อยากจะฟัง ผมไม่อยากจะฟังเรื่องของไอเด็กบ้านั่นอีก!
     
     
    ผมเดินเข้ามาด้านในอีกครั้ง ก็พบว่าไอนิกมันนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาตัวยาวในท่าทีนิ่งๆแบบที่ผมไม่ค่อยได้เห็นนัก แล้วพี่ชายที่ชื่อเมฆก็ยืนเอามือไขว้หลัง อยู่ข้างๆโซฟาที่ไอนิกนั่ง ทำท่าขรึมๆเหมือนตอนแรกที่ผมเข้ามาในห้อง แต่ครั้งนี้มีผู้ชายอีกคนในท่าทางน่ากลัวกว่าพี่เมฆอีก 
     
     
       "คุณนิกครับ กลับบ้านเถอะนะครับ ไม่งั้นคุณท่านจะโกรธเอา"
     
     
       "เขาโกรธก็เรื่องของเขาสิ เกี่ยวอะไรกับฉัน"
     
     
       "คุณนิกครับ"
     
     
       "นายหัดทำเสียงแบบนี้กับฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"
     
     
       "ถ้าคุณนิกไม่ยอม ผมคงต้องทำมากว่านี้"
    พี่ผู้ชายคนนั้นทำท่าจะเข้ามาดึงตัวนิกไป แต่พี่เมฆเข้ามาขวางเอาไว้ ทำไมบรรยากาศมันดูน่ากลัวจังวะ แล้วเหมือนทั้งสามคนจะไม่มีใครสังเกตุเห็นผมเลย
     
     
       "เมฆ นายไม่ควรทำแบบนี้ ไม่กลัวคุณท่านไล่ออกรึไง"
    พี่ชายคนนั้นพูดเสียงเย็นใส่พี่เมฆ แต่ดูเหมือนทั้งไอนิกทั้งพี่เมฆจะไม่มีใครสะทกสะท้าน
     
     
       "ฉันเป็นคนของคุณบัทเตอร์ ไม่ใช่ของคุณท่าน ทำไมฉันต้องกลัว"
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    -อัศวินดาบชมพู-
     
     
    100%----------------------------------------------------100%
     
     
    -เป็นไงกันบ้างง่าาา ช่วยติชม ก่อนหน่อยน้าาา ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ลงช้า 
    พอดีไปปั่นเรื่องเก่ามา แหะๆ ยังไงก็ขอบคุณที่ยังติดตามนะคะ
     
    -ตอนนี้เจเจก็ค่อนข้างงี่เง่า เหอๆ มีตัวละครใหม่เพิ่มมาอีกแล้วละ เดี๋ยวตอนหน้าเจเจกับติน
    ก็จะได้เคลียกันแล้วน้าา แล้วก็จะได้รู้ประวัติของนิกกี้เพิ่มขึ้นด้วยน้าาา แล้วส่วนบัทเตอร์นี่
    เป็นใครอะไรยังไง มาจากไหนก็รออ่านกันน้าา ถ้าใครยังไม่ค่อยเข้าใจนิสัยของตัวละคร 
    ก็กลับไปอ่านที่หน้าหลักและอินโทรนะคะ
     
     
     
     
     
     

    แวะเอาอิมเมจ เจเจ มาแปะจ้าาาา >< น่ารัก คิคุๆ 
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×