คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : สุภาพบุรุษแฝงรัก > ตอนที่ 3/2
“ถามไรหน่อยสิ”
“ว่า?”
“ทำไมถึงคิดเปิดร้านอาหารล่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกครั้งคล้ายเป็นการชวนคุยเพื่อสร้างความสนิทสนม
“ก็ชอบอ่ะ”
“ทั้งๆ ที่เรียนทางด้านดีไซเนอร์มาน่ะเหรอ” ธีรเดชละสายตามาเลิกคิ้วใส่หญิงสาวด้วยความแปลกใจ
“รู้ได้ไง น่านบอกล่ะสิ” หญิงสาวทำปากยื่นเหมือนเด็กๆ เมื่อคิดว่าญาติผู้พี่เอาเรื่องตนไปบอกผู้ชายอื่น
“อือ”
“แม่อยากให้เรียนดีไซน์น่ะเลยเรียนให้” คราวนี้คำพูดของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม "ส่วนพ่ออยากให้เรียนบริหารก็เรียนให้อีกนั่นแหละ ก็คิดว่าท้าทายดีได้ลองทำในสิ่งที่เราไม่ชอบ”
“ฝืนใจเหรอ”
“เปล่า ก็เฉยๆ อ่ะ พอจบเลยขอทำอะไรที่ตัวเองชอบถึงได้เปิดร้าน” คราวนี้หญิงสาวหันไปมองคนขับแล้วยิ้มหวาน
“แล้วแข่งรถล่ะ”
“ก็คลายเครียดไง ไม่ได้ชอบอะไรมากหรอกแต่มันรู้สึกท้าทายเวลาเห็นเส้นชัย”
“รู้หรือเปล่าว่าเหนือเป็นผู้หญิงที่แปลก”
“ยังไงยะ” กนกจันทร์หรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ
“ก็ครั้งแรกที่เจอกับตอนนี้เหมือนคนละคนเลย ตอนนั้นดูเฉี่ยวเปรี้ยวสุดๆ เลย แถมดูหยิ่งๆ ยังไงไม่รู้”
“แล้วตอนนี้ล่ะ”
“ก็…ไม่รู้สิ” ชายหนุ่มลากเสียงแล้วหันไปขับรถต่อ ไม่ยอมตอบทำให้หญิงสาวข้างๆ หน้ายู่
“อะไรอ่ะ บอกมาก่อนสิว่าเหนือเป็นยังไง” หญิงสาวหันไปเขย่าขนของอีกฝ่ายเบาๆ
“ยังไม่ใช่ตอนนี้ครับ ลงไปก่อนถึงแล้วเนี่ย” ธีรเดชยิ้มขำกับมุมน่ารักของสาวเปรี้ยว ภายนอกที่ได้เห็นมองยังไงเธอก็ดูหยิ่งผยองไม่สนใจใครแต่พอได้มาสัมผัสใกล้ๆ เธอก็ไม่ต่างจากน้องสาวทั้งสามของเขาที่ทั้งขี้อ้อน ขี้งอน และชอบให้คนเอาใจอยู่ตลอดเวลา แม้อายุตอนนี้ก็เกือบจะเข้าเลขสามเข้าไปแล้ว
“แล้วจะเข้าไปในร้านก่อนหรือจะกลับเลย”
“เดี๋ยวเข้าไปช่วยในร้านก่อนก็ได้ แพทไม่มีธุระครับ” ชายหนุ่มตอบก่อนจะลงจากรถแล้วพากันขนของเดินเข้าร้าน
“ตามสบายนะ เหนือขอตัวไปดูเด็กๆ ในห้องซ้อมก่อน”
“ไปด้วยสิ จะทิ้งให้อยู่คนเดียวหรือไง” ธีรเดชมองค้อนจนหญิงสาวหัวเราะคิก
“ไปก็ไปสิ จะค้อนทำไม” กนกจันทร์ว่าแล้วเดินนำไปยังห้องซ้อม
“สวัสดีครับพี่เหนือ” โจนักร้องนำยกมือขึ้นทักทายหญิงสาวอย่างคุ้นเคยเมื่อหันมาเห็นเธอเดินเข้ามาในห้องต่อจากนั้นคนที่เหลือก็ทำตาม
“แฟนหรือฮะ” หนึ่งในสี่เอ่ยถามพร้อมทั้งส่งสายตาพราวระยับล้อเลียนทำเอาหญิงสาวร้อนผ่าวไปทั้งหน้า
“บ้าสิ! เพื่อนของน่านยะ ชื่อธีรเดช หรือแพทรู้จักกันไว้สิ” ตอบเสร็จก็เดินเลี่ยงไปนั่งยังโซฟาเบสข้างมือกลองจอมทะเล้น
“สวัสดีฮะ” ทั้งสี่ทำความเคารพพร้อมกันอีกครั้ง ธีรเดชพยักหน้ารับแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างหญิงสาว
“ที่นั่งตรงนู้นก็ว่างนะแพทมานั่งเบียดเหนือทำไม”
“ก็แพทอยากนั่งตรงนี้นี่” ฟังคำตอบของอีกฝ่ายจบกนกจันทร์ก็เด้งตัวขึ้นทันทีด้วยสีหน้าเอาเรื่อง
“นั่งลงเลยเจ๊” หนุ่มมือกลองรั้งข้อมือของอีกฝ่ายแล้วเอียงตัวไปยักคิ้วมาดกวนให้ธีรเดช ซึ่งชายหนุ่มก็ยักคิ้วเป็นการตอบรับเช่นกัน คล้ายส่งสัญญาณการร่วมก๊วน
“อะไรของแกอ่ะเก่ง” กนกจันทร์หันมาแหวใส่รุ่นน้อง
“ก็น้องเป็นห่วงกลัวเจ๊จะหน้ามืด อายุก็มิใช่น้อยๆ นะครับ ลุกนั่งๆ เดี๋ยวก็หน้ามืดพอดี” คำพูดกวนอารมณ์ของหนุ่มมือกลองทำให้กนกจันทร์ต้องยกมือขึ้นฟาดหัวจอมทะเล้นเสียงดังจนเรียกเสียงหัวเราะจากเหล่าผู้ชมได้เป็นอย่างดี
“โอ๊ย! เจ๊อ่ะ” ชายหนุ่มหน้าทะเล้นร้องโอดครวญแล้วทำปากยื่นใส่
“ไปซ้อมเลยไป อ่อ! วันนี้มีเซอร์ไพรส์วันเกิดด้วยนะ เดี๋ยวผู้จัดการจะเข้ามาบอกรายละเอียดอีกที”
“ครับผม”
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
“ขออนุญาตครับ มีโทรศัพท์จากคุณน่านถึงคุณแพทครับ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ผู้เคาะจะเปิดประตูเข้ามาเรียกชายหนุ่มเจ้าของโรงแรมหรู
“ครับ” ชายหนุ่มตอบรับก่อนจะหันไปมองหน้าหญิงสาวพร้อมเลิกคิ้วคล้ายถามว่าจะไปด้วยกันไหม
“เดี๋ยวเหนือตามไปคะ”
“ยังไงเนี่ย เจ๊กิ๊กกั๊กกันอยู่หรือเปล่า แค่เขาหันมาเลิกคิ้วใส่ก็รู้ความหมายอ่ะ” คล้อยหลังธีรเดชเดินออกจากห้องไปหนุ่มมือกลองจอมทะเล้นก็เข้ามากระซิบถามหญิงสาวอีกครั้ง
“ฉันจะเปลี่ยนมือกลองใครเห็นด้วยไหม” เจอมุขนี้ของเจ้าของร้านสาวสวยเข้าหนุ่มทะเล้นถึงกับวิ่งแจ้นกลับไปนั่งซ้อมกลองต่อไม่แม้แต่เอ่ยอะไรออกมาอีก ส่วนเพื่อนที่เหลืออีกสามคนนั้นถึงกับขำน้ำตาเล็ดเลยทีเดียว
“เอาล่ะ ถ้าไม่มีไรแล้วงั้นพี่ไปน่ะ เล่นเสร็จก็กลับกันได้เลยไม่ต้องอยู่ช่วยเก็บโต๊ะเหมือนเมื่อคืนล่ะ เข้าใจหรือเปล่า” กนกจันทร์รอจนสี่หนุ่มตอบรับแล้วจึงเดินออกจากห้อง
ความคิดเห็น