ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Stone of World

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ ๔ ลางร้ายของเงามืด

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 49


          .    สายลมเย็นจากชายฝั่งทะเลพัดพรายมาสู่เมืองแห่งนักรบ ในยามอาทิตย์ทอแสงทองอร่ามเรืองรองสุดปลายขอบฟ้า สร้างความรู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าทั้งปวง ภายใต้ความเงียบสงัดที่ปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณ ดังถูกสะกดเวลาไว้ก็ไม่ปาน

    เสาประตูใหญ่หนาจารึกอักษรอย่างประณีตสละสลวยไว้บนป้ายแผ่นหินบ ่งบอกให้ความหมายถึงการเป็นที่ตั้งสถานฑูตแห่ง Lordaeron หากแต่ภายในกลับไร้ซึ่งผู้คนอย่างน่าประหลาด ร่างของสองชายหนุ่ม เดินข้ามผ่านธรณี ประตูเข้าไปอย่างไม่รอช้า และหยุดอยากสงบมีท่าทีรออะไรบางอย่างอยู่ จนกระทั่งผู้คนอีกประมาณสิบกว่าชีวิตเดินเข้ามา และยังมีท่าทีไม่ต่างจากเขาสองคนนัก

    พรึบ พรึบ เสียงกางปีกของเหยี่ยวดำตัวหนึ่งดังขึ้น เรียกสายตาทุกคู่ให้หันไปมองที่มันอย่างไม่สามารถหลีกเหลี่ยงได ้ ร่างของมันบินโฉบลงมาสู่พื้นเบื้องล่าง ภายใต้สายตาของทุกคนในเหตุการณ์ ฉับพลับแสงสีขาวนวลมากมายก็พุ่งทะยานออกมาจากร่างของเหยี่ยวดำอ ย่างไม่สามารถหยุดได้ และปรากฏกายในรูปของชุดนักบวชหนุ่ม ดวงหน้าและ สายตาคมกริบ ผมสีทอง นัยน์ตาสีฟ้า แม้เหตุการณ์จะแปลงประหลา**ย่างสุดที่จะเชื่อได้ หากแต่ไม่ปรากฏความประหลาดใจในสายตาของเหล่าผู้จับจ้องใดๆ ทั้งสิ้น บรรยากาศรอบข้างเงียบสนิทอีกครั้ง อย่างเจาะจง

    ข้าต้องขออภัยที่ได้รบกวนการต่อสู้ของเหล่านักรบในลานประลองด้ว ย และเป็นตามที่พวกท่านทุกคนคิดไว้ ข้าคือผู้สลายมนตราของเหล่าจอมเวทย์ในการต่อสู้ หากแต่ข้ามีเรื่องที่จะเตือนพวกท่าน และอาณาจักรแห่งนี้ไว้ แต่ตัวข้านี้ไม่สามารถจะแจ้งให้ผู้ที่เชื่อใจได้ทราบ แม้แต่ต่อหน้าพระพักกษัตริย์ก็ยังไม่สามารถที่จะเชื่อใจได้อีกต ่อไป อันรวมถึงผู้ที่รู้จักกลุ่มนักบวชแห่งอาณาจักร Lordaeron ก็มีจำนวนลดลงเข้าไปทุกที จึงหลีกเหลี่ยงที่จะแสดงการสลายมนตรา ซึ่งเป็นเอกลักษณของพวกเราไม่ได้

    ท่านมีเรื่องอะไรจะเตือนต่อพวกเรา น้ำเสียงใจร้อนของพรีสหนุ่มดังขึ้นก่อนใคร ดึงความสนใจจากผู้คนรอบข้าง และจะเป็นเสียงของใครไปอีกไม่ได้นอกจากเด็กหนุ่มนาม วิซ เดม่อนอาย

    ใจเย็นก่อน พวกท่านจะไดรู้สิ่งที่ข้าต้องการจะบอกแน่นอนเสียงหนักแน่นมากเก่าเรียกความสนใจกลับมา  ข้าแค่ต้องการจะมาเตือนว่า เงามืดทางตะวันตกกำลังก่อตัวขึ้นอีกครั้งเป็นไปตามข่าวลือ แม้มีเป้าหมายไม่แน่ชัด มีความเป็นไปได้มากที่อีกไม่นาน มิด-รุนการ์ด จะถูกบุกทำลาย เมื่อเสียงของผู้พูดจบลง แต่กลับไม่เหมือนครั้งก่อน ไม่มีใครพูดตอบรับประโยคของนักบวชผู้นี้เหมือนครั้งก่อน ทั้งในหัวของโซล และคนอื่นๆ ต่างเต็มไปด้วยคำถามมากมายเรื่อยๆ  จุดหมายสำคัญของการทำลายครั้งนี้น่าจะเป็น เมือง Glast Heim และ Prontera ดังนั้นเมืองที่จะโดนเล่นงานเป็นเมืองแรกคงจะต้องเป็นเมือง Glast Heim และ Morroc โดยเฉพาะที่ Glast Heim น่าจะตกอยู่ในอันตรายมากที่สุดในเวลานี้ เพราะขาดผู้ดูแลเมืองคนเมืองสำคัญไปสองคน ไม่พูดเปล่าแล้วยังสงสายตามามองที่โซล และวิซ พวกเจ้าควรรีบกลับไปดูแลเมือง Glast Heim จะโดนบุกรึยังก็ไม่แน่ เสียงเข้มเน้นหนัก บอกให้รู้สึกว่าคนข้างหน้าดูมีอำนาจมากกว่าที่เห็น

    ท่านพูดเช่นนั้นก็ไม่ดีซะเสียเท่าไหร่ เมือง Glast Heim มีปราการทางธรรมชาติ ทางทิศตะวันตกไปจนถึงทิศใต้ มีขุนเขาเป็นกำแพงสูงชัน ทิศตะวันออก อยู่ใกล้กับเมือง Geffen ทิศเหนือเป็นเขตทะเลทราย ถือว่าเป็นหนึ่งในปราการที่แข็งแกร่งที่สุดในมิดเดิ้ลเอิร์ธ การจะถูกบุกในเวลาแค่ครึ่งวันนั้นไม่น่าจะมีทางทำได้ และการที่เราสองคนแอบรอบออกมานั้นไม่ได้แจ้งใครไว้ล่วงหน้า กว่าที่ข่าวเรื่องที่ผู้ดูแลเมืองจะไปเข้าหูของสิ่งที่ท่านเรีย กว่าเงามืดจริง ก็ต้องใช้เวลานับวันเสียงกล่าวโต้แย้งจากคนช่างแย้งโซล แบล็คไวท์ กล่าวขึ้น พร้อมกับใบหน้าประหลาดใจเล็กน้อยต่อคำพูดของนักบวชตรงหน้า

    คำพวกของพวกข้าเป็นสัตย์จริงเสมอ โซล แบล็คไวท์ เบาที่เจ้าคงมองโลกในแง่ดีเกินไป และข้าก็มาเพื่อเตือนเท่านั้นเมื่อเสียงของนักบวชจบลงในครั้งนี้ทุกสิ่งที่สงบก็จบลง ปรากฏคำถามจากคนรอบข้างของเขามากมาย และคำตอบที่ได้รับจากชายหนุ่มนักบวชเบื่องหน้าจนจบการพูดคุย และร่างของนักบวชผู้นั้นก็กลับไปเป็นเหยี่ยวดำอีกครั้งบินหายรั บตาไป

    ___________________________________________________________

    ฉันใจคอไม้ดีเลยวิซ เสียงของโซลจากมุมตึกใจกลางเมืองศูนย์กลางแห่งนักรบ Prontera พูดขึ้นเบาๆ ให้ได้ยินกันเพียงสองคน พร้อมกันสีหน้าเครียดๆ เล็กน้อย

    เรื่องของเงามืดกับ เมือง Glast Heim”

    โซลไม่ได้พูดอะไรต่อแต่พยักหน้าเป็นการตอบรับ

    ความจริงแล้วก็อย่างที่เคยบอกไป ก่อนที่จะมาฉันเองก็หวั่นใจในเรื่องนี้ แต่ก็อย่างที่นายว่า Glast Heim เป็นปราการที่แข็งแกร่ง แล้วยังมีหลวงพ่อสตานด์อยู่อีกทั้งคน เวลาเพียงสามวันก็ต้องไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว อย่างที่นายว่านั้นละไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่หรอก

    นักบวชคนนั้นบอกว่าฉันมองโลกในแง่ดีเกินไป โซลพูดขึ้นลอยๆ ด้วยเสียงเบาจนแทบจะเป็นการกระซิบ พร้อมกับก้มหน้าลงต่ำ ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นแล้วพูดขึ้นต่อนัยน์ตาของเขาเบิกกว้าง เป็นไปได้ไหมว่าอาจมีแกะดำในกลุ่มคนในของเมืองเราประโยคนี้ของเขาทำให้ ร่างของวิซชะงัก พร้อมกับความกระสนกระวายเกิดขึ้นเล็กน้อยในใจ ทำให้วิซกลืนน้ำลายไม่ลง แล้วจึงรวมรวบสติได้

    งั้นจะลองกลับไปดูไหมละคำถามสั้นๆ ที่ทำให้เกิดความลังเลใจของเด็กหนุ่มทั้งสองเกิดขึ้นอย่างไม่สา มารถอธิบายได้ โซลคิดทบทวนดูอยู่พักนึงจนในที่สุดก็ตอบกลับ

    ลองไปกลับดู ก็คงจะไม่น่าเสียหายอะไรมากนักนี่นา แม้ว่าเขาจะตัดสินใจแล้ว แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมายังเป็นไปด้วยความลังเล แต่ก็เป็นที่แน่นอนว่าโซลเปิดทางผ่านประตูมิติ ข้าขอเปิดประตูแห่งกาลเวลาและสถานที่เพื่อไปยังเมือง Glast Heim Warp Portal” เมื่อเสียงจบลงจึงปรากฏหลุมดำทมิฬขึ้นต่อหน้าของพวกเขาดูดสิ่งๆต ่างๆ กำลังรอบข้าง แม้จะมีแรงในการดูดเบาบาง โซลหันมามองหน้าวิซ ก่อนที่หลุมทมิฬจะดูดกลืนกินร่างของพวกเขาทั้งสองคนลงไป จากนั้นจึงสงบลงเป็นปกติ

    ภาพคุ้นตาในห้องนั้งเล่นภายในตัวบ้านของเขาชัดเชนอยู่ต่อหน้า ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ สร้างความอุ่นใจให้สองเด็กหนุ่มผู้พบเห็น ก่อนที่จะมองรอดออกไปนอกหน้าต่าง

    ความจริง !! ภาพที่สะกดสายตาสองคู่ให้ค้างแข็ง เมื่อเมืองถูกพักทลาย เหลือเพียงบ้านของเขาเท่านั้นที่ยังอยู่ในสภาพปกติ กองทัพทหารกลุ่มหนึ่งกำลังปะทะกับพวกนักรบชุดเกราะ Raydric และดูเหมือนจะไม่มีท่าทีที่สามารถเอาชนะได้

    *Plan*

    เสาประตูใหญ่หนาจารึกอักษรอย่างประณีตสละสลวยไว้บนป้ายแผ่นหินบ ่งบอกให้ความหมายถึงการเป็นที่ตั้งสถานฑูตแห่ง Lordaeron หากแต่ภายในกลับไร้ซึ่งผู้คนอย่างน่าประหลาด ร่างของสองชายหนุ่ม เดินข้ามผ่านธรณี ประตูเข้าไปอย่างไม่รอช้า และหยุดอยากสงบมีท่าทีรออะไรบางอย่างอยู่ จนกระทั่งผู้คนอีกประมาณสิบกว่าชีวิตเดินเข้ามา และยังมีท่าทีไม่ต่างจากเขาสองคนนัก

    พรึบ พรึบ เสียงกางปีกของเหยี่ยวดำตัวหนึ่งดังขึ้น เรียกสายตาทุกคู่ให้หันไปมองที่มันอย่างไม่สามารถหลีกเหลี่ยงได ้ ร่างของมันบินโฉบลงมาสู่พื้นเบื้องล่าง ภายใต้สายตาของทุกคนในเหตุการณ์ ฉับพลับแสงสีขาวนวลมากมายก็พุ่งทะยานออกมาจากร่างของเหยี่ยวดำอ ย่างไม่สามารถหยุดได้ และปรากฏกายในรูปของชุดนักบวชหนุ่ม ดวงหน้าและ สายตาคมกริบ ผมสีทอง นัยน์ตาสีฟ้า แม้เหตุการณ์จะแปลงประหลา**ย่างสุดที่จะเชื่อได้ หากแต่ไม่ปรากฏความประหลาดใจในสายตาของเหล่าผู้จับจ้องใดๆ ทั้งสิ้น บรรยากาศรอบข้างเงียบสนิทอีกครั้ง อย่างเจาะจง

    ข้าต้องขออภัยที่ได้รบกวนการต่อสู้ของเหล่านักรบในลานประลองด้ว ย และเป็นตามที่พวกท่านทุกคนคิดไว้ ข้าคือผู้สลายมนตราของเหล่าจอมเวทย์ในการต่อสู้ หากแต่ข้ามีเรื่องที่จะเตือนพวกท่าน และอาณาจักรแห่งนี้ไว้ แต่ตัวข้านี้ไม่สามารถจะแจ้งให้ผู้ที่เชื่อใจได้ทราบ แม้แต่ต่อหน้าพระพักกษัตริย์ก็ยังไม่สามารถที่จะเชื่อใจได้อีกต ่อไป อันรวมถึงผู้ที่รู้จักกลุ่มนักบวชแห่งอาณาจักร Lordaeron ก็มีจำนวนลดลงเข้าไปทุกที จึงหลีกเหลี่ยงที่จะแสดงการสลายมนตรา ซึ่งเป็นเอกลักษณของพวกเราไม่ได้

    ท่านมีเรื่องอะไรจะเตือนต่อพวกเรา น้ำเสียงใจร้อนของพรีสหนุ่มดังขึ้นก่อนใคร ดึงความสนใจจากผู้คนรอบข้าง และจะเป็นเสียงของใครไปอีกไม่ได้นอกจากเด็กหนุ่มนาม วิซ เดม่อนอาย

    ใจเย็นก่อน พวกท่านจะไดรู้สิ่งที่ข้าต้องการจะบอกแน่นอนเสียงหนักแน่นมากเก่าเรียกความสนใจกลับมา  ข้าแค่ต้องการจะมาเตือนว่า เงามืดทางตะวันตกกำลังก่อตัวขึ้นอีกครั้งเป็นไปตามข่าวลือ แม้มีเป้าหมายไม่แน่ชัด มีความเป็นไปได้มากที่อีกไม่นาน มิด-รุนการ์ด จะถูกบุกทำลาย เมื่อเสียงของผู้พูดจบลง แต่กลับไม่เหมือนครั้งก่อน ไม่มีใครพูดตอบรับประโยคของนักบวชผู้นี้เหมือนครั้งก่อน ทั้งในหัวของโซล และคนอื่นๆ ต่างเต็มไปด้วยคำถามมากมายเรื่อยๆ  จุดหมายสำคัญของการทำลายครั้งนี้น่าจะเป็น เมือง Glast Heim และ Prontera ดังนั้นเมืองที่จะโดนเล่นงานเป็นเมืองแรกคงจะต้องเป็นเมือง Glast Heim และ Morroc โดยเฉพาะที่ Glast Heim น่าจะตกอยู่ในอันตรายมากที่สุดในเวลานี้ เพราะขาดผู้ดูแลเมืองคนเมืองสำคัญไปสองคน ไม่พูดเปล่าแล้วยังสงสายตามามองที่โซล และวิซ พวกเจ้าควรรีบกลับไปดูแลเมือง Glast Heim จะโดนบุกรึยังก็ไม่แน่ เสียงเข้มเน้นหนัก บอกให้รู้สึกว่าคนข้างหน้าดูมีอำนาจมากกว่าที่เห็น

    ท่านพูดเช่นนั้นก็ไม่ดีซะเสียเท่าไหร่ เมือง Glast Heim มีปราการทางธรรมชาติ ทางทิศตะวันตกไปจนถึงทิศใต้ มีขุนเขาเป็นกำแพงสูงชัน ทิศตะวันออก อยู่ใกล้กับเมือง Geffen ทิศเหนือเป็นเขตทะเลทราย ถือว่าเป็นหนึ่งในปราการที่แข็งแกร่งที่สุดในมิดเดิ้ลเอิร์ธ การจะถูกบุกในเวลาแค่ครึ่งวันนั้นไม่น่าจะมีทางทำได้ และการที่เราสองคนแอบรอบออกมานั้นไม่ได้แจ้งใครไว้ล่วงหน้า กว่าที่ข่าวเรื่องที่ผู้ดูแลเมืองจะไปเข้าหูของสิ่งที่ท่านเรีย กว่าเงามืดจริง ก็ต้องใช้เวลานับวันเสียงกล่าวโต้แย้งจากคนช่างแย้งโซล แบล็คไวท์ กล่าวขึ้น พร้อมกับใบหน้าประหลาดใจเล็กน้อยต่อคำพูดของนักบวชตรงหน้า

    คำพวกของพวกข้าเป็นสัตย์จริงเสมอ โซล แบล็คไวท์ เบาที่เจ้าคงมองโลกในแง่ดีเกินไป และข้าก็มาเพื่อเตือนเท่านั้นเมื่อเสียงของนักบวชจบลงในครั้งนี้ทุกสิ่งที่สงบก็จบลง ปรากฏคำถามจากคนรอบข้างของเขามากมาย และคำตอบที่ได้รับจากชายหนุ่มนักบวชเบื่องหน้าจนจบการพูดคุย และร่างของนักบวชผู้นั้นก็กลับไปเป็นเหยี่ยวดำอีกครั้งบินหายรั บตาไป

    ___________________________________________________________

    ฉันใจคอไม้ดีเลยวิซ เสียงของโซลจากมุมตึกใจกลางเมืองศูนย์กลางแห่งนักรบ Prontera พูดขึ้นเบาๆ ให้ได้ยินกันเพียงสองคน พร้อมกันสีหน้าเครียดๆ เล็กน้อย

    เรื่องของเงามืดกับ เมือง Glast Heim”

    โซลไม่ได้พูดอะไรต่อแต่พยักหน้าเป็นการตอบรับ

    ความจริงแล้วก็อย่างที่เคยบอกไป ก่อนที่จะมาฉันเองก็หวั่นใจในเรื่องนี้ แต่ก็อย่างที่นายว่า Glast Heim เป็นปราการที่แข็งแกร่ง แล้วยังมีหลวงพ่อสตานด์อยู่อีกทั้งคน เวลาเพียงสามวันก็ต้องไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว อย่างที่นายว่านั้นละไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่หรอก

    นักบวชคนนั้นบอกว่าฉันมองโลกในแง่ดีเกินไป โซลพูดขึ้นลอยๆ ด้วยเสียงเบาจนแทบจะเป็นการกระซิบ พร้อมกับก้มหน้าลงต่ำ ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นแล้วพูดขึ้นต่อนัยน์ตาของเขาเบิกกว้าง เป็นไปได้ไหมว่าอาจมีแกะดำในกลุ่มคนในของเมืองเราประโยคนี้ของเขาทำให้ ร่างของวิซชะงัก พร้อมกับความกระสนกระวายเกิดขึ้นเล็กน้อยในใจ ทำให้วิซกลืนน้ำลายไม่ลง แล้วจึงรวมรวบสติได้

    งั้นจะลองกลับไปดูไหมละคำถามสั้นๆ ที่ทำให้เกิดความลังเลใจของเด็กหนุ่มทั้งสองเกิดขึ้นอย่างไม่สา มารถอธิบายได้ โซลคิดทบทวนดูอยู่พักนึงจนในที่สุดก็ตอบกลับ

    ลองไปกลับดู ก็คงจะไม่น่าเสียหายอะไรมากนักนี่นา แม้ว่าเขาจะตัดสินใจแล้ว แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมายังเป็นไปด้วยความลังเล แต่ก็เป็นที่แน่นอนว่าโซลเปิดทางผ่านประตูมิติ ข้าขอเปิดประตูแห่งกาลเวลาและสถานที่เพื่อไปยังเมือง Glast Heim Warp Portal” เมื่อเสียงจบลงจึงปรากฏหลุมดำทมิฬขึ้นต่อหน้าของพวกเขาดูดสิ่งๆต ่างๆ กำลังรอบข้าง แม้จะมีแรงในการดูดเบาบาง โซลหันมามองหน้าวิซ ก่อนที่หลุมทมิฬจะดูดกลืนกินร่างของพวกเขาทั้งสองคนลงไป จากนั้นจึงสงบลงเป็นปกติ

    ภาพคุ้นตาในห้องนั้งเล่นภายในตัวบ้านของเขาชัดเชนอยู่ต่อหน้า ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ สร้างความอุ่นใจให้สองเด็กหนุ่มผู้พบเห็น ก่อนที่จะมองรอดออกไปนอกหน้าต่าง

    ความจริง !! ภาพที่สะกดสายตาสองคู่ให้ค้างแข็ง เมื่อเมืองถูกพักทลาย เหลือเพียงบ้านของเขาเท่านั้นที่ยังอยู่ในสภาพปกติ กองทัพทหารกลุ่มหนึ่งกำลังปะทะกับพวกนักรบชุดเกราะ Raydric และดูเหมือนจะไม่มีท่าทีที่สามารถเอาชนะได้

    *Plan*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×