ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Stone of World

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ ๖ จุดจบของจ้าวแห่งเงา

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 49


    ภายในท้องพระโรงที่เสียหาย ผนังห้องราวไปทั่ว พื้นหินแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี และการต่อสู้ที่ดุเดือดเลือดพล่าน เมื่อไม่นานมานี้ก็หยุดลงกะทันหัน แต่หาใช่เพราะการต่อสู้รู้ผลแล้วไม่ หากแต่เกิดจากการเสียสละของใครบางคนที่พุ่งตัวเข้าใส่ลูกบอลปิศ าจที่น่าพลั่นพรึง แม้แต่ผู้ที่ได้ชื่อว่าเจ้าแห่งเงามืดเองก็ไม่มีความกล้ามากพอท ี่จะทำแบบนั้น มันเกิดจากความบ้าบิ่น หรือความกล้าหาญขงมนุษย์คนหนึ่งก็ไม่อาจจะหยั่งรู้ได้

    แต่ในเวลานั้นเอง เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะหยุดนิ่งไป สิ่งน่าอัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น เงาของทุกคน ไม่สิเงาจากทั่วทุกมุมท้องพระโรงวิ่งเข้าไปรวมกันเป็นกลุ่มกลาง ท้องพระโรงแห่งนี้และบีบตัวเป็นเงาที่มืดสนิท มันอาจจะเป็นลูกไม้ของจ้าวแห่งเงามืด แต่ก็หาใช่ไม่ ท่าทีของผู้ได้ชื่อว่าเจ้าแห่งเงามืดเองนั้นเองที่ประหลาดใจเสียยิ่งกว่าใครในห้องด้วยซ้ำไป ดวงเนตรของมันค้างตกตะลึง ตัวแข็งทื่อไปไหวติง ร่างกายเย็นวูบทันที อย่างที่ทำให้รู้ว่าไม่ได้แทร่งตกใจเป็นแน่

    เงานั้นในขณะนี้ว่างเปล่าไร้ซึ่งแสงจะส่องเข้าไปถึง แม้แต่แสงบางๆ ก็ไม่อาจจะเล็ดรอดเข้าไปได้ จากนั้นจึงหยุดนิ่ง และกำลังเริ่มก่อตัวเป็นร่างเนื้อ ร่างของผู้ที่หายไปพร้อมกับลูกบอลปิศาจ ร่างของผู้ตรวจการนครศักดิ์สิทธิ์ นาม 'โซล แบล็คไวท์' จากนั้นสายฟ้าทมิฬก็ผ่าลงมาใส่ร่างของโซล และร่างนั้นก็ครุกกรุ่นไปด้วยรังสีแห่งเงามืดและความว่างเปล่าท ี่น่าเกรงขามยิ่งกว่า จากนั้นเงามืดที่เคยรวมกันก็กระจัดกระจายไปทั่วทุกมุมห้องดั่งเ ดิม

    โซล แบล็คไวท์กลับมาจากความตายอย่างน่าอัศจรรย์ พร้อมกลับความน่าหวาดหวั่นใจของผู้เห็นเหตุการณ์ แววตาของโซลดุดันผิดปกติ ชวนให้ผู้สบประสานขวัญหาย และจ้าวแห่งเงามืดก็รู้สถานการณ์เวลานี้ดี และพอตั้งสติได้แล้ว มันจึงต้องเร่งบุกอีกครั้ง เพราะไม่งั้นตัวของมันเองนั้นแหละที่อาจจะไม่รอด ปากเร่งพึมพำอะไรบางอย่างด้วยความร้อนรน ในทันใดนั้น Dark Illusion ทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของมันก็กฎกายสู่ท้องพระโรง พวก Dark Illusion มีทั้งหมดอยู่สี่ตน ต่างก็พุ่งเข้าโจมตีโซลทันไม่ให้ทันตั้งตัว ส่วนนายของมัน ก็เร่งถักทอคาถาเพื่อเตรียมบุกเต็มที่ Dark Illusion ตนแรกปราดเข้ามาจากด้านหน้าตรงๆใส่เขา ง้างกรงเล็บเข้าหมายจะฟาดฟันอย่างไร้ความปรานี โซลเหวี่ยงตัวหลบไปทางซ้าย และใช้มือขวาชกเข้าไปกลางท้องผู้บุกรุก จากนั้นก็จู่โจมอีกตนหนึ่งโดยการพลิกซอกกระแทกร่างตนที่มาทางขว า จากนั้นจึงรีบกระโดดเหวียงตัวไปทางขวา ใช้เท้าแตะให้ศีรษะของอีกตนที่จะเข้าไปทำร้ายจอมเวทย์หญิงซึ่งเ ป็นคนเจ็บ ทำให้มันล้มหมดสติไปทันที อีกสามที่เหลืออยู่ มีสองตนถึงจะถูเล่นงานไปได้บ้างแล้ว ถึงกระนั้นก็ยังพุ่งกรงเล็บเข้าหาโซลได้อย่างรวดเร็ว แต่โซลก็หลบได้ด้วยความคล้องแคล้ว ทุกกรงเล็บของพวกมันจึงไม่สามารถเข้าโดนร่างของเขาได้ จากนั้นโซลก็สวนกลับด้วยหมัดหนักๆ เกินตัวของเขาทันควัน เขารัวหมัดใส่เป้าหมายตนต่อมาพร้อมหลบการโจมตีของตนอื่นๆ ได้อย่างงดงาม จนร่างของเป้าหมายกระเด็นไปกองราบคาบกับพื้น

    ( http://www.ragnarok.in.th/ro_guide/chap5/chap5-miniboss01.ht ml )

    "Dark Meteor Storm" เมื่อเสียงสุดท้ายสิ้นสุ**ุกกาบาตทมิฬก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ เช่นเดียวกับลูกบอลปิศาจนั้น มันเกิดการเสียดสีกันกับอากาศ จนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวราวกับเสียงคำราม และพุ่งทะยานโถมเข้าใส่โซลด้วยความเร็วสูง

    แต่ในเวลานั้นเองกระสุนวิญญาณก็พุ่งเข้าชนอุกกาบาตทมิฬลูกนั้น กระเด็นแหลกเป็นเสี่ยงๆ และเปลี่ยนวิถีไปทางอื่นทันที จอมเวทย์หญิงคนที่นอนอยู่ในมุมห้องคนนั้นร่ายเวทมนตร์วิญญาณสกัดการโจมตีของ Dark Lord และสมุนของมันได้ทันการ บาดแผลต่างๆ ที่เห็นในครั้งที่เห็นนั้นได้รับการรักษาภายนอกแล้วจนแทบไม่ทิ้ งรอยแผลไว้ให้เห็นได้เลย

    จากนั้นอัศวินอีกคนที่เข้าพบตอนเข้ามาก็พุ่งปราดเข้าปะทะกับ Dark Illusion ทันที บาดแผลในครั้งแรกนั้นก็ได้รับการรักษาแล้วเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเพราะอะไรแต่นี่เป็นโอกาสอันดีที่โซลจะเข้าประชิดตัวเจ ้าแห่งเงามืด โซลรีบพุ่งตัวเข้าหาพร้อมกับเตรียมง้างหมัดใส่

    "Dark Fire Wall" กำแพงไฟสีดำ ถูกจุดขึ้นเพื่อกั้นโซลจากตัวของมัน ทำให้โซลต้องลดความเร็วลงเพื่อที่จะอ้อมไปด้านข้าง เพราะการที่จะฝ่ากำแพงมนตร์ไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

    "Holy Light" ลำแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งมาจากด้านหลังของโซล เข้าขับไล่เงามืดที่ก่อตัวเป็นกำแพงอันแข็งแกร่งให้สลายไป เพียงได้เห็นเพียงเท่านี่ก็ทำให้โซลอุ่นใจ และเพิ่มความเร็วในการวิ่งเสียยิ่งกว่าเก่า เพราะนี่คือพลังของ 'วิซ เดมอนอาย' และเขานั้นเองที่รักษาบาดแผลให้เพื่อนทั้งสองคน โซลพุ่งหมัดเข้าเล็งเป้าหมายที่กลางอกของเจ้าแห่งเงามืด แต่ในพริบตาสุดท้ายที่พลังหมัดจะเข้าปะทะร่างนั้นเอง ร่างของเจ้าแห่งเงามืดก็สลายกลายเป็นเงาแล้วไปปรากฏตัวอีกมุมขอ งห้อง การทำเช่นนี้สร้างความลำบากให้โซลไม่น้อย แต่โซลพลิกแพรงสถานการณ์ได้ทันที โซลได้ตัดสินใจสร้างประตูมิติและการเวลาทันที

    "ข้าขอเปิดประตูแห่งกาลเวลาและสถานที่ Warp Portal" เหมือนกับทุกครั้ง ประมิติและกาลเวลาของเขาแผ่ความมืดไปทั่วอาณาบริเวณ และดูดสิ่งต่างๆ เข้าไป จากนั้นโซล ก็สร้างประตูแบบนี้อีกหลายต่อหลายครั้งซ้อนไว้อีก ส่วนวิซก็เปิดประตูมิติของเขาในอีกฝั่งหนึ่งของห้อง ประตูมิติของวิซนั้นเปล่งแสงสว่างสีขาวสว่างเจิดจ้า แต่นวลไม่แสบตา และปล่อยลมอ่อนๆ ออกมา ร่างของเจ้าแห่งเงามืดนั้นเป็นเงาอย่างแน่นอน มันจึงจะถูกดูดเข้าไปก่อนสิ่งอื่น และถูกแสงสว่างจากอีกด้านขับไล่ เจ้าแห่งความมืดหยุดการเคลื่อนที่ลง เพราะพยายามใช้แรงมหาศาลต้านไม่ให้ร่างของตนเองถูกดูดเข้าไป และเมื่อนั้นก่อนที่ประตูมิติจะปิดลงโซลก็รีบเข้าประชิดตัวเจ้า แห่งเงามืดง้างหมัดเข้าเต็มแรงเข้าปะทะร่างนั้นกระเด็นจะเข้าไป ในประตูมิติ แต่ก่อนที่ร่างนั้นจะถูกดูดเข้าไปเขาปลดปล่อยพลังสุดท้ายด้วยพล ังที่รุนแรงที่สุดเข้าใส่มัน เพื่อจบการต่อสู้

    "มหาเงามืดทมิฬแห่งใจอันมืดมน จงมารวมกันเป็นหนึ่ง ทำลายล้างทุกสิ่งที่ขัดขวาง Holy Dark" เสียงของโซลหนักแน่นเฉียบขาด พร้อมกับระเบิดพลังสุดท้ายเข้าใส่ แต่... แรงของการดูดมากขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อเทียบกับในตอนแรก ร่างของจอมเวทย์หญิงจึงถูกดูดเข้าไปด้วยในประตูมิติที่โซลสร้าง ขึ้น และบังเอิญเป็นบานเดียวกันกับที่เจ้าแห่งเงามืดกำลังถูกดูดเข้า ไป แต่เพราะโซลได้ปลดคลื่นพลังลูกนั้นไปแล้ว จึงหยุดไว้ไม่ทันการเสียแล้ว เงามืดศักดิ์สิทธิ์พุ่งเป็นเส้นตรงเข้าปะทะร่างเนื้ออย่างเฉียบ ขาด รุนแรงและแม่นยำ ทำให้เกิดการระเบิด จนท้องพระโรงชั้นใต้ดินสั่นสะท้อน ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ เสียงของการระเบิดดังสนั่นกังวานไปทั่วจนทำให้ไม่ได้หูชาไปเลยท ีเดียว

    เมื่อฝุ่นบางตัวลงไปแล้วแต่ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดให้เห็น เหลือแต่สิ่งที่เป็นหลักฐานชัดเจนของพื้นดินที่ได้รับแรงระเบิด จนแตกออกเป็นชิ้นๆ ร่างของทั้งสองก็หายไป มีแต่ไม้คฑาสองด้ามทิ้งไว้เท่านั้น ด้ามแรก คือ Staff of Soul ไม้คฑาด้ามสีขาว หัวไม้คฑาสีน้ำเงินมีปีกสีขาวแซมชมพูติดอยู่ ซึ่งเคยเป็นของจอมเวทย์หญิงคนนั้น

    ( http://www.ragnarok.in.th/ro_guide/chap7/chap7_weapon_53.htm l )

    และอีกด้าม คือ Bone Wand ไม้คฑาด้ามทำจากกระดูกของมนุษย์ หัวไม้คฑาก็ทำจากกะโหลกศรีษะของมนุษย์ สีม่วง ที่เคยเป็นของจ้าวแห่งเงามืด

    ( http://www.ragnarok.in.th/ro_guide/chap7/chap7_weapon_54.htm l )

    "สติร์น" โซลแผดเสียงร้องลั่น รีบวิ่งเข้าไปหาไม้คฑาทั้งสองด้ามนั้น เพื่อนร่วมกลุ่มของเขาต้องหายไป... หรือว่านี่เขาจะกลายเป็นฆาตกรที่ฆ่าเพื่อนของตนเองไปเสียแล้ว.. .

    *Plan*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×