ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชุลมุลวุ่นรัก ดูเอลอคาเดมี่ [YU-GI-OH! GX ]

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 ความจริงนั้นคือ....

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ย. 54


                หลังจากที่การทดสอบความสามารถผ่านไปและความจริงที่ผมกำลังได้รู้หลังจากที่ทุกคนโดนทดสอบความสามารนั้นก็คือ เรื่องที่ใช่ผมเป็นของเดิมพันการต่อสู้เพื่อที่จะได้สู้กันอย่างสุดความสามารถไอสึว่ามาแบบนั้น แต่มีเหรอที่ผมจะไม่โกรธ

    “ไอสึ! ทำแบบนี้ได้ยังไงทำไมไม่ปรึกษาผมก่อนละ” ผมพูด(ตะโกน)อย่างโมโหใส่ไอสึที่นั่งก้มหน้าให้กับผมอยู่ในตอนนี้

    “ฉันขอโทษแล้วไง แล้วไหนรับปากแล้วว่าจะไม่โกรธฉันละ” ไอสึที่ทวงถามถึงสิ่งที่ตกลงไว้ก่อนที่จะพูดความจริงกับผม ก่อนหน้านี้นิดหน่อย

    “ไม่ได้!! ยังไงก็ต้องลงโทษ!!!! เรื่องนี้ถ้าเกิดพวกนั้นแพ้ขึ้นพวกเขามาก็คงคิดว่าผมโดนพาตัวไปที่ไหนแล้วแน่ๆ และถ้าเป็นแบบนั้นละก็พวกนั้นเองก็จะซึมจ๋อยไปเลย” ผมที่ตอนนี้เริ่มโมโหขึ้นมาเล็กน้อยเพราะไอสึต่อรองกับผม(จูไดเวอชั่นนี้อารมณ์ร้ายกับพี่สาวตัวเองน่ะค่ะถ้าไม่ชอบยังไงติชมได้เลยค่ะ : คนเขียน)

    “นี้ๆ จูไดคุง” จู่ๆ คุณไอสะก็สะกิดผมเพื่อที่จะบอกอะไรผมสักอย่าง และดูเหมือนว่าคนอื่นๆที่นั่งกินข้าวอยู่เองก็อยากบอกผมเหมือนกัน

     “มีอะไรเหรอครับคุณไอสะ?” ผมถามคุณไอสะที่ดูเหมือนจะมีเรื่องที่จะพูดด้วย

    “ไม่ใช่ว่าพวกเขาถ้าเกิดแพ้หรอกน่ะ ที่ฉันสู้นะ...ฉันชนะละ” ไอสะตอบกลับตามความเป็นจริงที่ตัวเองสู้ชนะ...แต่นั้นมันทำให้ผม

    “เอ๋!!!!!!! งะ....งั้นก็มะ...หมายความว่าคนอื่นๆเองก็....” ผมเองที่ก็รู้อยู่แน่ๆว่าถ้าคุณไอสะชนะคนอื่นๆเองก็คง...

    “ผม/ฉันชนะค่ะ/ครับ”คำพูดนั้นทำเอาผมคิดไม่ตกว่าต่อไปจะทำไงดี พวกเขาแพ้จริงๆแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะเป็นยังไงบ้างในตอนนี้คงไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรแน่ๆ ยังไงก็ชั่งต้องบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้พวกนั้นกระจ่าง

     “ยังไงก็ต้องบอกเรื่องนี้ให้ทุกคนรู้ ไอสึไปกันเถอะ” ผมที่กำลังจะลากไอสึออกไปข้างนอกเพื่อไปหาทุกคน

    “อ้า~ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละจูไดเดี๋ยวพวกนั้นก็จะมาที่นี้เองแหละ” ไอสึที่กำลังถูกผมลากไปได้นิดหน่อยนั้นพูดขึ้นมา(เหมือนรู้)

     “เห้~จริงเหรอไอสึ?” ผมที่ถามไอสึกลับอย่างที่ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ไอสึพูด

    “จริงดิ!” ไอสึตอบกลับด้วยสีหน้าที่นิ่งแต่น้ำเสียงมั่นใจมากกกก

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ตัดมาที่ผู้พ่ายแพ้

    หลังจากที่ทุกคนดูเอลแพ้ และบางคนนั้นก็ได้มีสิ่งเดิมพันเอาไว้ แต่บางคนนั้นก็สงสัยว่าใครกันที่เป็นคนสั่งให้มาดูเอลด้วยกับพวกเค้า บางคนก็ดูเอลเชยๆแต่กลับแพ้อย่างหมดท่า ทั้งที่อีกฝ่ายใช่แค่เด็คพื้นๆเท่านั้นเองแล้วก็เหมือนกับจัดเด็คมาแบบมั่วๆด้วยสิ แต่ก็แพ้....

                หลังจากที่โยฮันดูเอลแพ้เพื่อนๆเค้ากำลังจะพาเค้ากลับหอพัก แต่เขาที่ตื่นขึ้นมากลับบอกว่าไม่เป็นไร มีที่จะไปสักหน่อยขอตัวก่อนนะแล้วเขาก็ออกแรงวิ่งเพื่อมุ่งหน้าไปที่ที่เค้าจะไปคือ หอเรด นั้นเอง

                และอีกด้านที่โชเค้ายอมรับว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก แต่สิ่งที่เค้ายอมรับไม่ได้ในตอนนี้ก็คือเรื่องที่ตนเองนั้นไม่สามารถต่อสู้เพื่อนำคนที่ตัวเองตามหากลับมาได้ตอนนี้นั้น...เค้ากำลังโกรธตัวเองที่ไม่ได้เรื่องและไม่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องลูกพี่ของตนเองได้ ซึ่งตอนี้เค้ากำลังมุ่งหน้าไปที่หอพักของเรด

                อีกด้านที่เรียวเค้าเองก็แพ้ให้กับคนที่มาตามหาตนเอง และเรื่องที่คาใจเค้าอยู่ตอนนี้นั้นคือเรื่องที่อีกฝ่ายได้รับคำสั่งมาว่าให้ทำแบบนี้...และเค้าเองก็กำลังเดินไปข้างหน้าโดยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดีและก็ยังเดินแบบนั้นต่อไปเรื่อยๆ

                อีกด้านเช่นกันที่มันโจเมะตอนนี้ที่ที่เค้าอยู่นั้นคือที่หน้าผาใกล้ๆกับหอเรด แต่ก็ไกลอยู่อะน่ะ เค้ากำลังคิดที่จะหาวิธีที่จะไปชิงตัวคนที่เค้ารักกลับคืนมาแต่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปตามหาคนที่สู้กับตัวเองที่ไหนดีนั้นละคือสิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรก และต้อนนี้นั้นเค้ามีความคิดที่จะกลับไปที่หอเรดก่อน

                อีกด้านที่เอ็ดที่กำลังเครียด ที่ว่าจู่ๆก็มีคนมาท้าสู้ด้วยแต่มันก็เรื่องปกติอะน่ะแต่ที่ไม่ปกติก็คือเรื่องที่อีกฝ่ายพูดว่าจะมาเอาชนะนั้นแหละ แต่อีกฝ่ายก็ชนะเค้าได้จริงๆทั้งที่จากการที่เค้าดูนั้นเด็คที่ใช่แทบจะไม่ได้จัดมาซะด้วยซ้ำ ตอนนี้นั้นเค้าออกมาเดินนอกโรงเรียนแล้วก็เดินไปเรื่อยๆนั้นแหละครับจนกว่าจะสบายใจ

                อีกด้านที่มิซาว่าที่เค้าในตอนนี้นั้นกำลังคุ่นคิดเรื่องที่อีกฝ่ายพูดว่าได้รับคำสั่งมาให้สู้ด้วยแล้วอีกอย่างอีกฝ่ายก็เป็นเด็กด้วยไม่รู้เลยว่าใครกันที่เป็นคนสั่งให้เด็กแบบนั้นมาสู้กับตนเอง แต่ที่แน่ๆคือเค้าแพ้ในการดูเอลกับเด็กแล้วก็เด็คที่จัดมามันเหมือนกับเด็คที่พึ่งหัดเล่นได้ไม่นาน สิ่งที่เค้าคิดอยู่นั้นในตอนนี้ก็ยังไม่กระจ่างและตอนนี้เค้ากำลังเดินออกมาห่างจากหอพักมาแล้วและดูถ้าว่าจะไกลแล้วด้วย ตอนนี้เค้าเองก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนจึงได้แค่เดินไปเรื่อยๆ

                อีกด้านที่ฟุบูกิที่ฟื้นจาการหมดสติหลังจากดูเอลเสร็จก็ได้บอก สาวๆที่ช่วยไว้ว่ามีธุระต้องไปทำก็เลยเดินออกมาจากชายหาดเพื่อมุ่งหน้าไปที่ไหนสักแห่งที่ที่เค้าเห็นเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่จะหมดสติไปนั้นก็คือที่ที่คนที่สู้ด้วยนั้นมุ่งหน้าไปนั้นเอง

                อีกด้านที่เคนซังที่ตอนนี้นั้นไม่มีแม้แต่กะจิตกะใจที่จะมองทางเดินและตอนนี้ก็ได้แค่คิดไว้ว่าจะไปที่หอเรด แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ เพื่อมุ่งหน้าไปที่ที่ลูกพี่ของตนเองนั้นเคยอยู่ เพื่อที่จะได้มีกำลังใจอยู่บ้างในตอนี้ หลังจากที่แพ้ดูเอลมาอย่างหมดท่า

                อีกด้านที่อาสึกะที่ตอนนี้นั้นก็ได้มุ่งหน้ามาที่หอเรด เพื่อที่จะได้แน่ใจว่าคนที่ถูกวางเดิมพันไว้นั้นได้ถูกเอาตัวไปจริงแน่เหรอแบบนั้นแหละ และตอนนี้เองก็ได้คิดว่าแล้วทำไมถึงต้องพุ่งเป้ามาที่เธอและเพื่ออะไรถึงได้ทำแบบนี้

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ตัดมาที่หน้าหอพักของเรด

    ที่ตอนนี้นั้นโยฮันที่ออกแรงวิ่งมาก็ได้หยุดพักที่หน้าหอเรด และโชก็เช่นกันที่เดินมาเจอโยฮันแล้วก็คิดว่าจะบอกให้โยฮันรู้ด้วย แต่ไม่ทันไรนักเรียวก็มาถึงเช่นกันและได้หยุดอยู่ที่หน้าหอเรดเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับทุกคนหรือเปล่า ไม่ทันทีเท่าไรนักมันโจเมะก็เดินมาถึงที่หน้าหอเรดที่เห็นคนอื่นๆอยู่ แล้วก็ต่อด้วยเอ็ดที่เดินมาอย่างไม่มีจุดหมายปลายทางก็ได้มาหยุดอยู่ที่หน้าหอของเรดเช่นกันเพราะว่าเห็นคนเยอะเลยสงสัยว่ามาทำอะไรกัน? ส่วนมิซาว่าที่เดินไปคิดไปนั้นก็ได้เดินมาถึงหอพักของเรดและเห็นคนอื่นๆอยู่ก็ได้เดินเข้ามาสมทบ ฟุบูกิที่เดินมาตามทางที่หน้าจะเป็นไปได้ว่าจะได้เจอกับคนที่สู้กับตนเองนั้นก็เดินมาที่หน้าของหอเรดเช่นกันตามที่แกะรอยได้น่ะเลยได้มาสมทบกับคนที่มาก่อนอยู่แล้ว เคนซังนั้นที่ไม่มีแม้แต่แรงที่จะเดินต่อนั้นตอนนี้เองก็ได้เดินมาถึงที่หน้าหอเรดเช่นเดียวกันกับทุกคน ส่วนอาสึกะนั้นที่มุ่งหน้ามาเพื่อที่จะดูให้แน่ชัดว่าคนคนนั้นได้หายไปจริงๆหรือแต่ก็มาเจอกับคนอื่นที่มาก่อนแล้วเช่นกัน

    “นี้ทุกคนหรือว่า! พวกนายก็เจอคนมาท้าสู้ด้วยนะ” อาสึกะเปิดฉากถามคนอื่นๆ หลังจากที่มาได้ไม่นานนัก

    “ใช่แล้วละอาสึกะ พี่เองก็โดนด้วย” ฟุบูกิที่พูดขึ้นมาเหมือนไม่มีแรงจะพูด(ก็เสียใจนั้นแหละ)

    “ผมเองก็โดนแถมยังแพ้หมดท่าด้วยสิ....” เอ็ดที่พูดขึ้นมาตามความเป็นจริง ที่ตัวเองนั้นแพ้อย่างราบคาบ

    “ขนาดเอ็ดยังโดนเลยเหรอ ผมเองก็ด้วยเค้าบอกว่าถ้าแพ้ลูกพี่จะถูกพาตัวไปนะ...” โชที่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเสียใจที่ตัวเองดูเอลแพ้

    “ฉันเองก็ถูกท้าแล้วก็เดิมพันกับลูกพี่เหมือนกันกับนายเลย” เคนซังที่ดูเอลแพ้มาเช่นกันก็พูดด้วยน้ำเสียงแบบเดีวยกันกับโช

    “ฉันเองก็โดนท้าแต่ไม่มีว่าจะพาตัวจูไดไปน่ะ แค่บอกว่าเป็นคำสั่งให้มาท้าสู้ด้วยเท่านั้นเอง”    มิซาว่าพูดมาตามที่ตัวเองได้รู้มาจากคนที่มาท้าสู้ด้วยนั้นพูด

    “ฉันก็ด้วยแถมยังเดิมพันด้วยจูไดอีก แต่ก็....แพ้” โยฮันที่เงียบอยู่นานได้พูดขึ้นเมื่อรู้ว่าคนอื่นๆก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากตัวเองมากนัก

    “ฉันก็เหมือนกัน...” เรียวพูดออกมาไม่มากนักเพราะว่ายังมีเรื่องที่ตัวเองนั้นสงสัยอยู่

    “ผมเองก็โดนด้วยน่ะ แถมยังบอกว่าจะมาพาตัวเทนโจอินคุงไปอีก แต่ก็ดีแล้วละที่เทนโจอินคุงไม่ได้โดนพาตัวไป”  มันโจเมะที่หาโอกาสที่จะพูดอยู่นานนั้นก็ได้ออกปากพูดในสิ่งที่ตัวเองนั้นได้ยินมา

    “เอะ!?/เอ๋?” จู่ๆ คำพูดของมันโจเมะก็ทำให้ใครหลายๆคนกำลังคิดว่า ถ้าหากว่ามันโจเมะโดนเดิมพันด้วยอาสึกะแต่ว่าอาสึกะก็ไม่ได้หายตัวไปหรือว่าจูไดเองก็จะ...แต่แล้วจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันละ?

     “หรือว่าสิ่งที่คนพวกนั้นเดิมพันไว้จะไม่ได้ถูกพาไปจริงๆ” อาสึกะพูดในทางที่ตัวเองและคนอื่นๆพอเข้าใจ

    “แล้วคนที่สั่งคนพวกนั้นให้ทำแบบนี้ละ จะมีตัวตนอยู่จริงๆรึเปล่า”

    “งั้นก็แสดงว่าลูกพี่ไม่ได้หายตัวไปเหรอ!!” โชที่เริ่มจะมีแรงใจขึ้นมาบ้างเมื่อมีโอกาสที่จะได้เจอกับลูกพี่ของตัวเอง

    “มันก็ยังไม่แน่น่ะ! ทั้งที่ตามหามาตั้งแต่เช้าก็ยังไม่เจอเลย” โยฮันเองถึงจะดีใจอยู่บ้างที่มีโอกาสที่จะได้เจอกับคนที่ตัวเองเป็นห่วงแต่ก็ยังสงสัยที่ว่าตามหาตั้งแต่เข้าก็ยังไม่เจอ

    “แล้วคนพวกนั้นเป็นใครกันแน่!!?” ฟุบูกิเองก็เริ่มตั้งข้อสงสัยขึ้นมาเหมือนกับคนอื่นๆ

    “นั้นสิแล้วต้องการอะไรจากพวกเราถึงได้ทำแบบนี้” เอ็ดเองก็เหมือนกับคนอื่นๆจะมีก็แค่เรียวที่ยังคงนิ่งเงียบและมันโจเมะที่ทำหน้าเอ่อตามเรื่องที่คนอื่นๆพูดไม่ทัน

    “หรือว่าพวกนั้นจะต้อ....” เคนซังที่กำลังจะออกความคิดเห็นเหมือนกับคนอื่นๆก็ต้องเงียบลงเมื่อมีเสียงหนึ่งดังแซ่กขึ้นมา

    “นั่งนิ่งๆ!!! อยู่กับที่แบบนั้นแหละ!! ถ้าไม่อยากถูกลงโทษหนักกว่านี้!!!!!”ในขณะที่คนที่อยู่หน้าหอพักกำลังพากันออกความคิดเห็นอยู่นั้น ยังไม่ทันพูดกันจบก็มีเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังมาจากที่ห้องอาหารของหอเรด แล้วดูถ้าว่าจะกำลังโมโหอยู่ด้วยแต่ไม่รู้ว่าจะใช่คนที่ตามหาอยู่รึเปล่า แล้วก็อีกอย่างโมโหให้ใครอยู่กันแน่!!!?

     “นั้นเสียงจูไดไม่ใช่เหรอ?” ฟุบูกิที่ทักขึ้นมาก่อนทำให้คนอื่นๆที่ตกใจกับเสียงเมื่อกี้ต้องสดุ้งไปหลายคน

    “ผมเองก็ว่าคุ้นๆนะครับ คุณฟุบูกิ” โชเองก็เริ่มที่จะคิดแล้วว่าเสียงนั้นเป็นเสียงใคร?

    “ฉันว่าเราไปดูกันเถอะ!!” อาสึกะที่พูดออกมาแล้วไม่รีรอให้ใครพูดออกมา ก็ได้เดินนำคนอื่นๆไปก่อนแล้ว

    “อืม!!” คนที่เหลือนั้นก็ได้แค่ตอบกับไปอย่างนิ่งๆ แล้วก็พากันเดินให้เบาที่สุดและมุ่งหน้าไปที่ที่มีเสียงมานั้นก็คือ ห้องอาหาร แล้วเหล่าผู้แอบมองก็พากันแอบอยู่ข้างประตู สอดส้องสายตาเข้ามาในห้องอาหารแล้วก็พบว่าคนที่ตามหามาแต่เช้ากำลังโมโหให้ผู้หญิงคนหนึ่งอยู่

     “จูได! ก็ขอโทษแล้วไงหายโกรธเถอะ นะๆๆๆๆน้า~” ผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารนั้นร้องขอให้คนที่โมโหอยู่นั่นปลอยตัวเองไป

    “ไอสึ!!!!!!” จูไดตะคอกใส่คนที่นั่งขอโทษอยู่อย่างโมโห

    //อึก//

    ผู้หญิงที่ร้องขอให้จูไดยกโทษให้ร้องดังต่อเนื่องจนหน้ารำคาญ(รำคาญเหมือนกัน-*- : คนเขียน) แต่จูไดแค่เรียกเสียงดังใส่ก็ถึงกับเงียบและสงบนิ่งในที่สุด

     “จะ...จูไดโมโหเหรอ?” โยฮันพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูตกใจกับท่าทางของจูไดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    “พึ่งเคยเห็นเนี้ยแหละ ตอนลูกพี่โมโหเนี้ยมัน...” โชพูดออกมาแล้วเว้นความไว้ด้วยอาการตกใจ

    “...นะ...หน้ากลัว!!!!” เคนซันพูดต่อให้กระจ่างกับสิ่งที่ตัวเองและคนอื่นเห็น

    “ปกติหมอนั้นมีแต่ยิ้มให้กับคนอื่นเสมอ แต่นี้กลับโมโหแบบที่พวกเราไม่เคยเห็นเลยน่ะ” มิซาว่าพูดออกมาตามความเป็นจริงที่ได้รู้จักกับจูไดมา

    “นั้นสิ!!” บันดาเหล่าผู้แอบมองที่อยู่ข้างกำแพงของประตูพากันกระสิบถามกัน ถึงอารมณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนที่คนที่พากันตามหาแสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้ง แต่กระนั้นพวกเค้าก็ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีคนอื่นที่อยู่ข้างหลังพวกเขาอยู่จนกระทั่ง

     “แอบดูแบบเนี้ยมันไม่ดีน่ะ พวกนาย....” และก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลังของพวกโยฮันที่กำลังแอบมองอยู่

    “ห๋า?/เอ๋?” ด้วยความที่สงสัยว่าใครพูดจึงทำให้ทุกคนร้องสงสัย

    “ไม่ต้องมาห๋ามาเอ๋เลยมานี้!!!!!” และจากเสียงที่ดูเรียบก็ได้เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่โมโหขึ้นมาทันที่

    “เหวอ!!!!!!!” ด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วที่จู่ๆก็ถูกลากและเหล่าคนที่พากันสังเกตการณ์ ว่าคนที่มาแอบมองอยู่นั้นจะทำอะไรต่อแต่ด้วยความที่เป็นห่วงคนที่อยู่ข้างในเลยไม่ได้มองเลยว่าจะทำอะไรต่อ พากันลากคนที่แอบมองอยู่หน้าห้องนั้นเข้าไปในห้องอาหารก่อนและจัดการโยนทิ้งและยื่นปิดทางเข้าออกไว้

     “อุ้ย...เจ็บ” อาสึกะที่ร้องอุทานออกมาตามความเป็นจริงทีตัวเองเป็นอยู่

    “เจ็บชะมัดเลย” เคนซันเองก็ร้องแบบที่ว่ารั้นเลยละ

    “รุนแรงไปแล้วนะพวกนายเนี้....” มันโจเมะที่กำลังจะว่าคนที่โยนตัวเองเอามาก็ต้องหยุดเพราะคนที่ตัวเองเห็นนั้นแหละ....

    “เอ๋!!!!!! นะ..นี้พวกนายที่มาท้าสู้นิ!!!” โยฮันที่เห็นคนที่ตัวเองสู้ด้วยยืนอยู่ตรงหน้าก็ถึงกับร้องตกใจ

    “อ้าวพวกนายเองหรอกเหรอเนี้ย” ส่วนคนที่โยนพวกโยฮันเข้ามานั้นก็ได้แต่ทำหน้าหายสงสัยในทันที่ที่รู้ว่าคนที่จัดการโยนเข้ามานั้นเป็นใคร

    “ไม่ต้องมาอ้าวเลย กำลังตามหาตัวอยู่พอดี” มันโจเมะเปิดฉากที่จะถามคนที่ตัวเองสู้ด้วยแล้วแพ้ยับเยิน

     “จูไดปลอดภัยใช่มั้ย?” ส่วนโยฮันก็รีบลุกขึ้นและเข้าไปหาจูไดที่ยืนดูแบบงง

    “ลูกพี่ผมตามหาแทบแย่เลย” โชเองก็รีบเข้าไปหาจูไดพร้อมกับทำท่าทางเหมือนจะร้องไห้

    “ปลอดภัยใช่มั้ยครับลูกพี่!!!” เคนซันเองก็ไม่น้อยหน้าที่จะเป็นห่วงลูกพี่ของตัวเอง

    “อะ!!...อืม..ฉันไม่เป็นไร” จูไดก็ได้แต่ตอบกลับไปด้วยท่าทางที่ยังงงอยู่

    “ท่านจูไดค่ะ! ของที่บอกให้ไปเอามาได้แล้วละค่ะ นี้ค่ะท่านจูได”อควอเรียที่พูดกับนายของตนอีกคนหนึ่งที่สั่งให้ไปเอาเบ็ดตกปลา(?)มาที่อยู่บนห้องของนายตนเองแต่คำพูดที่เธอปฏิบัติมาอย่างปกตินั้นทำเอาคนฟังที่เป็นเพื่อนของนายของตัวเองนั้นถึงกับอ้าปากค้างไปตามๆกัน

    “หือ?..อืมขอบใจมาก ฝากจัดการที่เหลือด้วยน่ะ ฉันจะสะสางเรื่องนี้ให้เสร็จเอง!!!” จูไดรับของที่อควอเรียส่งมาให้พร้อมกับหันหน้าไปหาคนที่นั่งอยู่กับโต๊ะใกล้กับที่ตัวเองยืนอยู่

     “เอาละ!! ทุกคนจัดการเรื่องอาหารให้เรียบร้อยจัดเตรียมเพื่อเพื่อนของท่านจูไดด้วยละ!” อควอเรียที่ทำหน้าที่ในการจัดการสั่งคนอื่นๆที่ยืนว่างงานกันอยู่ให้ทำงาน

    “ได้เลย!!!” และด้วยความที่สามัคคีกันมากกกก็ได้ช่วยกันจัดอย่างรวดเร็ว

    “เออ~ ขอโทษน่ะครับ...” โยฮันที่สงสัยในคำพูดที่ผู้หญิงผมสีน้ำเงินพูดออกมาก่อนหน้านั้นก็ได้ทักอีกคร้ง

    “มีอะไรเหรอค่ะคุณโยฮัน?” อควอเรียที่ทำหน้าสงสัยในสิ่งที่โยฮันกำลังจะพูดได้ถามโยฮันกลับ

    “เมื่อกี้พูดกับจูไดวะ..ว่ายังไงน่ะครับ...”โยฮันที่ถามอควอเรียถึงคำที่เธอนั้นใช้พูดกับจูได เพราะคิดว่าตัวเองนั้นหูฝาดไปเลยได้ยินผิดนั้นเอง

    “อ๋อ? ก็ท่านจูไดไงค่ะ” อควอเรียที่ตอบกลับด้วยสีหน้าที่มีรอยยิ้มประดับอยู่

    “ทะ...ท่าน...ท่านจูไดงั้นเหรอ!!!!!!!!”แต่คำตอบนั้นยิ่งทำให้คนอื่นๆ ช็อกกันหนักขึ้นเพราะไม่นึกว่าจะเป็นจริงตามที่ตัวเองได้ยินออกมาจากปากของเธอคนนี้

     “ไม่เห็นแปลกเลยนิ อยู่ที่บ้านก็เรียกแบบนี้เป็นปกติ ใช่ม่ะพวกเรา” อูเรียได้พูดในความเป้นจริงแต่ไอ้เรื่องที่ว่ามันยังไม่จบ....

    “อืม/อือ” เสียงประสานที่ได้แต่ตอบกลับมาพร้อมกันและก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ โดยไม่สนใจคนที่ถาม

    “แต่มันแปลกสำรับพวกเรานิครับ!!! ที่ลูกพี่ถูกเรียกว่าท่านแบบเนี้ย!!!!” โชบอกอย่างตกใจ ก็มันเรื่องจริงที่พวกเค้าเองก็ไม่รู้ว่าจูไดเคยถูกเรียกแบบนี้ด้วย

    “ไม่เห็นรู้เลยว่าจูไดจะเป็นลูกคนใหญ่คนโต” โยฮันพูดโดยที่ตัวเองกำลังทบทวน ในเรื่องที่ผ่านมา

    “จูไดคุง...คงไม่ยอมบอกเรื่องแบบนี้ให้ใครฟังง่ายๆหรอกน่ะ โยฮันคุง” ^^ ไอสะที่นั่งอยู่ได้พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ไม่เป็นเวลา

    “นาย!! คนที่สู้กับฉันนิ...แถมเด็คยังแปลกๆด้วย” ท่าทางตกใจของโยฮันนั้นก็ทำให้ อูเรีย ไม่พอใจอยู่บ้างที่ไอสะถูกว่าแบบนั้น

    “อย่ามาเรียกท่านไอสะแบบนั้น่ะ!!!!

    “เงียบหน่อยสิพวกนาย!!!!!!”เสียงคำสั่งของผู้เป็นนายใหญ่ที่สุดในตระกูลยูกิ ออกปากนิดหน่อยก็คำให้คนที่อารมณ์เสียอยู่นั้นต้องเงียบปากลงแต่ว่า...

     “ไอสึ!!! บอกแล้วใช่มั้ย ว่าให้อยู่นิ่งๆแล้วเงียบซะ!!!!!!” จูไดเสียงดังขึ้นทันทีที่ไอสึคนที่ตัวเองกำลังลงโทษอยู่นั้นพูดออกมา

    “ขอโทษ~ อะ..คือมันหนวกหู แล้วก็แล้วก็....” ไอสึพูดด้วยเสียงที่ขาดห่วง เพราะว่ากลัวที่จะโดนทำอะไรมากกว่านี้

    //เพี้ยะ//

    และแล้วคนที่ถือเบ็ดตกปลาอยู่นั้นก็ได้ฝาดเบ็ดนั้นลงข้างๆที่คนที่ถูกลงโทษนั่งอยู่อย่างแรง

    “เหรอ!!!!!” คนอื่นๆพากันร้องตกใจไปด้วยยกเว้นไอสะที่ยังคงทำหน้านิ่งและยิ้มอยู่ และเรียวที่นิ่งเป็นปกติโหดอะจูไดโมโหเนี้ยสุดๆไปเลยแหะ

     “โอ๊ะ! ขอโทษที่น่ะพวกนายช่วย...ไปนั่งกินข้าวที่ได้มั้ย?” จูไดที่เปลี่ยนโหมดจากปกติที่จะยิ้มแต่ตอนนี้นั้นเป็นแบบโหดแบบสุดๆ เพื่อพี่สาวของตัวเองน่ะเนี้ย

    “ดะ...ได้ครับ/ค่ะ” คำตอบที่ออกมาจากปากคนที่กำลังยืนอยู่ข้างจูไดได้พูดออกมาแบบไม่อยากขัดอารมณ์คนตรงนั้นสักเท่าไร

    “งะ..งั้นพวกเราขอตัวทำงานก่อนละน่ะครับ/ค่ะ” คนที่ทำงานอยู่เองก็รีบที่จะออกจากตรงนั้นเพื่อหนีปัญหาที่จะตามมา

    “อืม~ จูไดเนี้ยคงต้องคอยคุมไอสึตลอดเลยน่ะเนี้ย” ไอสะพูดกับจูไดด้วยรอยยิ้มที่ยังคงไม่หายไปจากใบหน้า

    “ของมันแน่อยู่แล้วละครับคูณไอสะ ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไม่รู้จะมีเรื่องะไรอีกรึเปล่า” พูดออกมาด้วยความร้สึกที่เป้นจริง “พอแล้วไอสึ! ลงโทษจบแล้ว”ในขณะที่จูไดกำลังลงโทษไอสึเหล่าคนที่มาหาจูไดก็ได้พากันมานั่งกินข้าวอย่างหวาดหวั่น ด้วยความกลัว มันโจเมะยังกลัวเลยและในตอนนั้นเองที่เหล่าคนที่มาหาจูไดพากันกินข้าวอยู่ก็มีเรื่องเกิดขึ้นอีกแล้ว....

     “สุดยอดเลย!!!!” โชที่พอได้กินข้าวที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ไปเพียงคำเดียว ก็ถึงกับตกใจกับรสชาติที่ได้ลิ้มมลอง

    “อาหารพวกนี้อร่อยจัง” อาสึกะเองก็ยังตะลึงกับอาหารที่อยู่เหมือนกัน

    “ผมก็ว่างั้นน่ะครับ ผมไม่เคยกินอาหารที่ไหนอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย”  เอ็ดเองก็ยังไม่เว้นเค้าเองก็พึ่งจะเคยได้กินของแบนี้มาก่อนเหมือนกัน

    “ใช่ได้เลยน่ะเนี้ย! ใครกันน่ะที่ทำอาหารพวกเนี้ย” ฟุบูกิพูดอย่างสงสัยในขณะที่ตัวเองก็ยังคงรู้สึกอร่อยกับข้าวพวกนี้อยู่

    “อืมๆ”เหล่าคนที่ถูกบอกให้กินข้าวต่างพากันบันยายไปต่างๆนาๆเกี่ยวกับอาหารที่ตัวเองกำลังกินอยู่ ก็คงจะมีแค่เรียวละน่ะที่ทำหน้านิ่งปกติ แต่คำชมนั้นทำเอาคนที่ทำอาหารนั้นถึงกับหน้าแดงแต่ก็ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นคนทำอาหารพวกนี้และคนรับใช้ในตระกูลยูกิก็ต่างพากันอมยิ้มกับท่าทางของคนที่ทำอาหารแสดงออกมาและไอสะก็ยังนั่งยิ้มสดใสไม่ทุกร้อนอยู่นั้นแหละ จะมีก็แค่ไอสึที่กำลังเครียดต่อท่าทางที่น้องชายของตัวเองแสดงออกมาและอีกอย่างน่ะแสดงท่าทางนะไม่เท่าไร แต่สายตามัน...มองไปที่ไหนฟะ!!!

     “ไอสะ! นายว่าจูไดมองใครอยู่เหรอ?” ไอสึหันมาถามไอสะด้วยความสงสัยเพราะว่าไม่เคยเห็นจูไดมองแบบนี้มาก่อน

    “เอ๋? นั้นสิน้า~ จูไดคุงคงจะมองโยฮันคุงอยู่มั้ง” ไอสะที่พูดแบบนั้นออกไปมันทำให้ไอสึตกใจเล็กน้อย

    “ห๋า? แต่ว่าหมอนั้นนะมั..อุ๊บ!”ไม่ทันที่นักที่ไอสึจะว่ากลับแต่ก็ถูกไอสะปิดปากเอาไว้ก่อน ที่จะได้พูดให้เข้าใจไปมากกว่านี้ว่าน้องชายตัวเองเป็นโฮโมอะน่ะ

     “นี้ๆ พวกนายอยากรู้ความลับเกี่ยวกับอาหารมั้ย?” และจู่ๆไอสะก้พูดในเรื่องที่มันจะนำมาซึ่งภัยให้กับจูได

    “อะไรเหรอ? ที่ว่าเป็นความลับของอาหารน่ะ” เคนซันถามด้วยความสงสัยทันทีที่ไอสะพูดออกมา

    “หรือจะเป็นวัตถุดิบที่ใช่ปรุง” มันโจเมะเองก็ได้แค่เดาล่วงหน้าเพราะว่าตอนนี้นั้นกำลังหลงอาหารที่กินใหญ่เลยละ

    “ไม่ใช่...ความลับของคนที่ทำอาหารต่างหากละ...” ไอสะที่เริ่มพูดแบบนั้นออกมาก้ทำให้จูไดได้รู้แล้วว่าอะไรที่จะถูกพูดออกมา

    “เห้~ แล้วคนที่ทำอาหารเนี้ยเป็นใครเหรอครับ?” โยฮันหันมาสนใจในคำพูดของไอสะ ทุกคนที่กินข้าวอยู่เองก็เหมือนกัน

    “หยุดน้า~ คุณไอส้าาาา!!!!

    “อ๋อ? คนทำก็คือ....อุ๊บ!..”ก่อนที่ไอสะจะพูดชื่อของคนที่ทำอาหารออกมานั้นก็ได้ ถูกปิดปากไว้ด้วยมือของจูไดแบบที่ทันเชียดฉิว

    “จูได! นั้นนายทำอะไรน่ะพวกเรากำลังจะได้รู้ชื่อคนทำอาหารอยู่แล้วน่ะไปปิดปากเค้าทำไมละ?” มันโจเมะทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยที่จูไดเอามือไปปิดปากไอสะไว้ แต่ไอสะก็ไม่ได้ขัดขืนประการใดเลย

    “อะ! เออ...ไม่เห็นจำเป็นต้องรู้เลยแค่อาหารถูกปากเค้าก็พอใจแล้วล่ะน้า” จูไดที่พยายามกลบเกลื่อนการกระทำของตัวเองอยู่โดยที่ยังปิดปากของไอสะไว้

    “พูดอย่างกับตัวเองเป็นคนทำงั้นแหละ...จูได!” เรียวที่เงียบอยู่นานก็พูดออกมาแบบงั้นๆ แต่นั้นน่ะมันปักใจของจูไดเลยน่ะ

    “ฉันก็แค่...คิดว่าเค้าหน้าจะรู้สึกอย่างงี้แค่นั้นเอง..ฮะๆๆ” จูไดก็ยังคงบอกออกไปแบบนั้นอยู่เหมือนเดิม

    “อุ๊บ!..เหาหือหอกไหไหหะ(เอามือออกไปไอสะ)... คนที่ทำอาหารนี้คือจู...อุ๊บ!”ไอสึที่แกะมือของไอสะออกแล้วนั้นก็กำลังจะบอกชื่อของคนที่ทำอาหารเหมือนกัน แต่ก็ถูกจูไดปิดปากไปอีกคนด้วยเช่นกัน ดูเหมือนจะพยายามรักษาความลับนี้ยิ่งชีพเลยน่ะแต่แล้ว...ความลับนั้นก็!!!

     “คนที่ทำอาหารนี้คือท่านจูได!!!!” จู่ๆอูเรียก็เข้ามาในห้องที่มีนายของตนเองนั้นอยู่และได้ยินเอาในขณะที่กำลังเดินมาที่นี้และเค้าเองก็กำลังรอลุ้นว่าใครจะบอก แต่เมื่อไม่ได้ดั้งใจก็เลยเป็นคนจบเรื่องนี้เองนั้นแหละคือเรื่องราวทั้งหมด

    เหวอ!!! ความลับตรู!!!!!’ จูไดถึงกับอยากร้องออกมาแต่ก็ได้แค่ร้องในใจเท่านั้น แต่ตอนนี้นั้นในห้องต่างพากันเงียบแต่จูไดสิที่อ้าปากค้างอยู่...และตอนนั้นเองที่ไอสะกับไอสึรุดพ้นเป็นอิสระ

     “อะ..อาหารนี้!” ประโยคที่พูดออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ+เล่นเอาช๊อกไปตามๆกันอีกครั้ง กับชื่อของคนที่ทำอาหารที่ตัวเองนั้นได้ยินออกมาจากปากของชายหนุ่มที่พึ่งเข้ามานั้นเอง

    “จูไดคุงเป็นคนทำเหรอ?” อาสึกะถึงกับนิ่งไป

    “มะ...ไม่จริง!!!!!!” และตามมาด้วยเสียงร้องผสาน ยกเว้น.....เรียวของเราเหมือนเดิม

     “จูได! นี้เรื่องจริงเหรอที่นายทำอาหารพวกเนี้ย!!” มิซาว่าที่ยิงตรงประเดนออกมาถามไปที่จูได้วยความสงสัย

    “นั้นสิครับลูกพี่!” โชเองก็ยังอย่างฟังคำตอบจากจูไดเหมือนทุกคน

    “ฉันว่ายังอร่อยกว่าผู้หญิงทำเลยน่ะเนี้ย ขนาดฉันยังทำไม่อร่อยขนาดนี้เลย ขอยอมรับฝีมือ” อาสึกะที่ยอมรับเลยว่าจูไดนั้นทำจริงโดยที่ยังไม่ได้ฟังคำตอบเลยด้วยซ้ำ นั้จึงทำให้มันโจเมะทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อย

    “ชะ...ใช่แล้วฉันทำเองแหละ...” จูไดยอมรับว่าตัวเองเป็นคนทำอาหารพวกนี้จริงๆ และก็ไม่ได้ที่จะพยายามปัดด้วย

    “เห้~สุดยอดเลย ไม่นึกเลยว่านายจะทำอาหารอร่อยแบบนี้ อยากกินอีกจัง” เอ็ดที่ยังคงไม่ละจากอาหารที่จูไดทำก็ได้พูดออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้จูได แต่ก็น่ะไม่วายยังมีรังสีอาความไม่พอใจมาใส่จูไดอีกคน....ที่นั่งเงียบอยู่ตรงนั้น

    “นั้นสินะอยากให้คนอื่นๆได้กินด้วยจัง” ^^ คำที่พากันพูดถึงรสชาติของอาหารนั้น และด้วยท่าทางของทุกคนที่ทึ่งในความสามารถของจูไดและเหล่าคนที่มาตามหาจูไดก็ได้นึกถึงเรื่องที่ตัวเองนั้นทำไมมาอยู่ที่นี้

     “จริงสิ! ที่มาที่นี้นะคือเรื่องของคนพวกนี้!

    “ใช่แล้วพวกเรามาที่นี้เพราะว่าอยากรู้ความจริงว่า คนพวกนี้เป็นใคร?”

    “และมาจากไหน?”

    “มาที่นี้เพื่ออะไรและมาทำไม?”

    “และอีกอย่างจูไดเกี่ยวข้องยังไงกับคนพวกนี้ที่เราไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”

    “ตอบ.มา.สิ”

    “แบบ...แบบว่าเล่นถามมาเป็นชุดแบบเนี้ยแล้วใครมันจะ...”

    “ตอบมา!!!!”คำถามที่ถูกตั้งขึ้นมากมายและเหล่าผู้คนที่พากันสงสัยกับบุคคลที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และคนที่ยังคงนิ่งเงียบอยู่ก็คือ....เรียว

     “งั้นฉันจะบอกแค่ว่า...คนพวกนี้เป็นคนที่อยู่ที่บ้านฉันแล้วก็ที่มาที่นี้ก็เพราะว่าพี่สาวฉันต้องการมาหาน่ะสิ!” จูไดทำได้แค่ตอบบางส่วนไปเท่านั้น ซึ่งส่วนที่เหลือนั้นเค้าเองก็ยังไม่ได้รู้อีก...

    “เห้~ ไม่เห็นรู้เลยว่าจูไดมีพี่สาวด้วย” โยฮันพูดทักเพราะว่าเท่าที่รู้จักกับจูไดมายังไม่เห็นจะได้ติดต่อกับทางครอบครัวเลยด้วยซ้ำ

    “นั้นสิครับ! ลูกพี่จริงอย่างที่โยฮันคุงพูด” โชเองก็ยังทำหน้าสงสัยเหมือนโยฮัน

    “ไม่เห็นเคยเล่าให้ฟังเลยครับลูกพี่!!” เคนซันเองก็แอบน้อยใจที่จูไดเองก็มีความลับกับเค้าด้วย

    “ไม่มีใครรู้ทั้งนั้นแหละเรื่องนี้!!” อาสึกะพูดเสียงดังด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย

    “แล้วใครละ พี่สาวของจูไดคุง” ฟุบูกิเป็นคนที่ถามตรงประเดนมากที่สุด คำถามนั้นถึงกับทำให้จูไดถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

    “ก็...นี้ไงครับ”พูดจบก็ชี้นิ้วไปทางที่มีหญิงสาวผมยาวสีน้ำตาลอยู่ และในตอนนั้นเองที่ไอสึก็หันหน้ามาพอดีจึงทำให้บันยากาศ แถวนั้นสว่างไสวระยิบระยับและแล้วด้วยความที่นิสัยออกจะเหมือนจูไดก็เป็นเรื่องปกติ

     “โย้~ ฉันชื่อยูกิ ไอสึ ยินดีที่ได้รู้จักจ้า~” ไอสึพูดทักทายพวกโยฮันที่อยู่ตรงหน้า ด้วยรอยยิ้มสดใส

    “ยะ..ยินดีที่ได้รู้จักครับ/ค่ะ” -////-การทักทายของหญิงสาวที่เป็นพี่สาวของจูไดก็ได้ทำให้คนที่พบเจอกันครั้งแรกนั้นถึงกับหน้าแดงกันเลยที่เดียวที่ไม่นึกว่าจะสวยขนาดนี้

    “น้า~ ฝากตัวด้วยน่ะจ้ะทุกคน” ^^ ไอสึยิ้มตอบกลับไปอย่างอารมดี

    “ฝะ...ฝากตัวด้วยครับ//ค่ะ” -/////- ไม่ว่าจะมองอีกกี่ทีก็ยังพากันหน้าแดงทุกครั้ง เวลาที่ได้มองหน้ากับไอสึตรงๆมันเหมือนกับได้มองหน้าคนที่ตัวเองแอบชอบแบบใกล้ๆ

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ในที่สุดก็ออกตามมาติดๆกับอีกเรื่องที่พึ่งแต่งสดจบไปอีกตอนค้า~ T^T ไม่ว่ายังไงก็ยังอยากร้องไห้อยู่ดี ช่วยเป็นกำลังใจให้แฟรชด้วยน่ะค่า~
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×