ลำดับตอนที่ #33
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : ตอนสั้น...โยดา & โยฟาน
Writer Talk : สำหรับตอนพิเศษตอนนี้ เราต้องขอบคุณพี่หนูม่า @Krisyeol_MAMA ที่สร้างพี่โยดา กับพี่โยฟานขึ้นมา แล้วก็ยังให้เรายืมเด็กน้อยมาเล่นในฟิคอีก อยากเห็นความน่ารักของเด็กน้อย 2 คนนี้ >> #MDคริสชาน จัดได้เลยน๊าาาาา
แนะนำตัวลครเพิ่ม
@Wuyoda_
พี่โยดาคนน่ารัก น่ารักที่สุดในโลก
@BabyYoFan
พี่ฟานคนหล่อ ...
-----------------------------------
ลำดับขั้นตอนในชีวิตคู่ส่วนใหญ่ เมื่อแต่งงานเสร็จ ก็จะไปฮันนีมูน และจบจากฮันนีมูนของฝากที่จะได้กลับมาส่วนใหญ่มักจะเป็นเด็กตัวน้อยๆในท้องของฝ่ายหญิง คู่รักเกือบทั่วโลกแทบจะมีวัฏจักรวงจรความรักแบบนั้น เว้นเสียแต่คู่ของคริสกับชานยอล…
ไม่ว่าพวกเขาจะไปฮันนีมูนกันสักกี่สิบรอบทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม ชานยอลไม่มีลูก ไม่มีเด็ก ไม่มีอะไรเลยอยู่ในท้อง เพราะเขาไม่ใช่ผู้หญิง!!!
ชานยอลไม่ได้ไม่พอใจกับความรักของคู่ตัวเอง แต่บางครั้งการมีเด็กตัวน้อยๆสักคนสองคนวิ่งเล่นอยู่รอบๆมันก็สนุกดีเหมือนกัน อย่างน้อยเสียงหัวเราะของเด็กๆก็ทำให้คู่ของเขาหายเหงาได้บ้าง ไม่ได้หันไปทางไหนก็เจอแต่หน้าคริส คริส คริส หรือไม่ก็ ผี ผี ผี ที่คริสเรียกออกมา ให้มันได้สนุกสนานและร่าเริงขึ้นบ้างก็เท่านั้นเอง
“คริส….อยากมีลูก”ชานยอลที่นอนซ้อนหลังคริสอยู่บนเก้าอี้ชายหาดพูดขึ้น การเที่ยวที่มีแค่เขากับคริสสองคนในช่วงปิดเทอมใหญ่อย่างนี้ มันช่างเงียบเหงาซะจริงๆ ถ้ามีเด็กตัวน้อยๆด้วยคงจะดีกว่านี้
“ไม่สบายรึไง”ร่างสูงเอ่ยถาม บางทีการนั่งรับลมทะเลอย่างนี้ อาจทำให้ชานยอลไม่สบาย เลยพูดอะไรแปลกๆอย่างนี้ออกมาก็ได้อีก ร่างโปร่งเบ้ปาก ก่อนจะตอบ
“ไม่ ปกติดี แต่อยากมี ดูพวกตัวน้อยๆสิ น่ารักจะตาย”ร่างโปร่งพยักพเยิดไปทางเด็กตัวน้อยๆที่วิ่งไล่จับกันอยู่ข้างๆ ร่างสูงทำหน้าเรียบเฉย ไม่บ่งบอกความรู้สึก ก่อนจะหันมาสบตาอีกฝ่าย
“นี่เป็นลมแดดรึเปล่า”คริสถามย้ำอีกครั้ง ตั้งแต่ก่อนจะมาที่นี่ชานยอลก็ชอบทำท่าทางแปลกๆ ทั้งชอบมองเด็ก เล่นแต่กับเด็กจนแทบจะลืมเขา แล้วนี่ยังมาพูดจาอะไรแปลกๆอย่างนั้นอีก มันยิ่งผิดปกติ
“ตลกน่า พูดจริงๆ”คริสยักไหล่ก่อนจะตอบอย่างไม่จริงจังนัก
“ไปแปลงเพศซะสิ”ชานยอลตีหน้ายุ่งทันทีที่ได้ยินก่อนจะทิ้งศีรษะบนอกอีกฝ่าย
“ทำได้ที่ไหนล่ะ เราไปรับเด็กมาเลี้ยงได้มั้ย”ร่างสูงเลิกคิ้วก่อนจะตอบ
“เขาเป็นคนปกติ อยู่ร่วมกับพวกเราได้ยังไง โดยเฉพาะฉัน เด็กจะกลัวมั้ยถ้าลูกน้องของพ่อเป็นผี”ชานยอลหน้าบึ้งหนักกว่าเดิม
“งั้นก็ไปเอาพวกกึ่งเทพกำพร้ามาเลี้ยงสิ”ร่างโปร่งเถียง
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะ ชานยอล”ร่างสูงปรามเสียงเข้ม ใบหน้านวลยิ่งงอง้ำมากขึ้นกว่าเดิม
“งั้นก็ไปเอาวิญญาณเด็กมาเลี้ยงก็ได้ไป”
“ไม่โวยวายน่า ก็อยู่แบบนี้ไปก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง”มือหนาลูบผมของอีกฝ่ายเล่นเบาๆ ก่อนจะไล้จมูกโด่งไปตามกรอบหน้าของอีกฝ่าย
“ท่านเฮราครับ ประทานลูกให้ผมสักคนสองคนเถอะ ถ้าให้ผมนะ ผมสัญญาเลยว่าจะคอยดูแลเขาอย่างดีเลย ขอร้องล่ะท่านเฮรา”ชานยอลเงยหน้าอธิษฐานกับเทพีเฮรา ชายาแห่งซุส ผู้เป็นเทพแห่งการครองเรือน และคลอดบุตร ร่างโปร่งเอ่ยบอกก่อนจะเอียงคอหลบเมื่อคริสเริ่มซุกไซร้ร่างกายของเขาหนักขึ้น
“พอน่า เด็กน้อยอยู่ด้วยนะ”ร่างโปร่งร้องห้ามก่อนจะจับมืออีกฝ่ายที่ทำท่าจะสอดเข้าไปใต้เสื้อของเขาให้หยุด ดวงตาคมจ้องมองดวงตากลมโต ก่อนจะกระซิบเสียงพร่าข้างหู แต่ยังไม่ทันจะเริ่มพูดจู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังแทรกขัดจังหวะ
“เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอยากได้บุตรอย่างนั้นหรอ”เสียงไพเราะเสนาะหูที่ทรงพลังเสียงหนึ่งเปล่งขึ้นท่ามกลางสรรพสิ่ง ทุกอย่างในบริเวณนั้นต่างหยุดนิ่งราวกับมีใครมาตรึงยึดเวลาเอาไว้ให้หยุดเดิน แสงสว่างค่อยๆกรีดริ้วท้องฟ้ายามโพล้เพล้ให้แหวกออก ก่อนจะกลืนกินความมืดมิดเข้าไปอย่างช้าๆ ทุกที่ที่แสงสว่างสัมผัสค่อยๆเปลี่ยนเป็นพุ่มดอกไม้ ก่อนที่ทั่วทั้งบริเวณจะกลายเป็นสวนสวยงามคล้ายสวนที่อยู่บนสรวงสวรรค์
“เมื่อกี้เจ้าพูดงั้นหรอ”เสียงหนึ่งดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับการปรากฏตัวของเทพีสูงสง่า สวมชุดสีขาวสะอาด พร้อมกับนกยูงตัวหนึ่งที่เดินขนาบข้างเธอมาด้วย
“เทพีเฮรา”ชานยอลพึมพำเบาๆ ก่อนที่เทพีจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“เจ้าบอกว่าเจ้าจะเลี้ยงดูเขาอย่างนั้นน่ะหรอ”ชานยอลชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“ครับ ท่านให้ผมได้มั้ยครับ ผมอยากมีเด็กตัวน้อยๆไว้แก้เหงา”
“เจ้าแน่ใจแล้วหรือ เด็กที่ข้าจะประทานให้พวกเจ้า อายุขัยของพวกเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง ข้าประทานให้เจ้าตอนพวกเขาอายุเท่าไร มันก็จะหยุดอยู่แค่เท่านั้น และเจ้าจะต้องเลี้ยงดูพวกเขาไปตลอดชีวิตของเจ้าด้วย เจ้าจะรับเลี้ยงดูเขาได้อย่างนั้นหรือ”
“ได้สิครับ!”
“ชานยอล…”คริสปรามอีกฝ่าย เขาไม่อยากให้ชานยอลตัดสินใจไปเพราะความคะนองชั่ววูบ
“ถ้านายไม่เลี้ยง ฉันเลี้ยงเองก็ได้”
“ไม่ใช่ ฉันไม่อยากให้นายทำอะไรเล่นๆนะ ถ้านายแน่ใจแน่ๆแล้วว่าจะมี ฉันก็พร้อมจะช่วยนายเลี้ยงพวกเขา”
“ฉันแน่ใจ”ร่างโปร่งเอ่ยตอบ ก่อนที่เทพีจะแย้มยิ้ม
“พวกเจ้าแน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าพร้อมสำหรับการเลี้ยงดูเด็กสองคน”
“ครับ…ท่านประทานพวกเขาให้พวกเราได้มั้ย”
“แน่นอน…”ชานยอลยิ้มกว้างก่อนจะหุบยิ้มเมื่อเทพีพูดต่อ
“แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
“อะไรหรอครับ”
“เจ้าจะต้องแลกเปลี่ยนชีวิตของเด็กสองคนนี้กับหัวใจของพวกเจ้า เจ้ายอมได้หรือไม่”ชานยอลและคริสชะงักไปชั่วครู่ แลกเปลี่ยนกับหัวใจ…
“แลกเปลี่ยนกับหัวใจ…..”ทั้งสองพึมพำเสียงเบา
“ใช่ หัวใจของเจ้าจะไปอยู่ที่ตัวเด็กทั้งสองคนละดวง แต่พวกเจ้าจะยังมีชีวิตต่อไปได้เพียงแต่ไร้หัวใจเท่านั้น หากแต่เพลาใดที่เด็กสองคนนั้นตายไป พวกเจ้าจะต้องตายตามไปด้วย เจ้าจะยอมเสียสละหรือไม่”ดวงตาทรงอำนาจจับจ้องมาที่ทั้งสองคน ชานยอลมองหน้าร่างสูงเล็กน้อยก่อนจะหันไปตอบเทพี
“ผมยอม”ชานยอลเอ่ยตอบอย่างไม่ลังเล เขายอมให้เป็นอย่างนี้มากกว่าที่ลูกจะตายพร้อมกับเขา เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น เขาคงรู้สึกผิดที่ชีวิตของลูกต้องมาขึ้นอยู่กับเขา เขายอมให้ชีวิตตัวเองขึ้นอยู่กับลูกเสียยังจะดีกว่า
“ดี…แล้วเจ้าล่ะ บุตรแห่งฮาเดส”เทพีหันไปถามคริสที่ยืนนิ่งไม่แสดงอาการใดๆออกมา ชานยอลมองตามอย่างลุ้นระทึก ร่างสูงเปรยตามองคนรัก ก่อนจะตอบสั้นๆ
“ครับ”คริสตอบรับ สำหรับเขาไม่ว่าจะอยู่หรือตายมันก็ไม่ต่างกัน เพราะความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัวสำหรับเขา
“พวกเจ้าแน่ใจแล้วใช่มั้ย การตัดสินใจครั้งนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”เทพีถามย้ำอีกครั้ง เมื่อสิ่งที่ชานยอลขอเป็นเรื่องสำคัญและผิดพลาดไม่ได้
“ครับ…..ผมแน่ใจ”ชานยอลเอ่ยตอบ ในขณะที่คริสพยักหน้ารับ เทพีแย้มยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบ
“ดี…..งั้นข้าก็จะประทานพรให้กับพวกเจ้า ยื่นมือของพวกเจ้าทั้งสองมาให้ข้า” เทพีเอ่ยบอก ก่อนจะยื่นมือไปรับฝ่ามือของคนทั้งคู่ คริสมองหน้าชานยอลพร้อมกับยิ้มให้เล็กน้อย
“ถือเป็นของขวัญจากการครองเรือนเสียเลยแล้วกัน”เทพีเอ่ยบอก” เทพีเอ่ยบอก ก่อนที่แสงจะค่อยๆเปล่งออกมาจากฝ่ามือของเทพี แล้วแผ่คลุมไปทั่วร่างของคนทั้งสอง โซ่สีทองเกี่ยวพันคนทั้งคู่อย่างช้าๆ เทพีปล่อยมือทั้งสองให้เป็อิสระ ก่อนจะยกมือขึ้นอยู่ระดับอกของคนทั้งคู่ ฝ่ามือของเทพีเปล่งแสงสีทองเรืองรองที่อบอุ่น ผิวเนื้อที่เคยเป็นสีเนื้อกลับโปรงใสจนเห็นหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ภายใน เทพีทาบฝ่ามือลงบนอกของทั้งสอง ฝ่ามือที่เคยอบอุ่นร้อนขึ้นเรื่อยๆจนทั้งสองเจ็บปวด ผิวหนังเหมือนจะไหม้ เลือดในกายเหมือนจะเดือดผ่าน กระดูกเหมือนจะหลอมเข้าด้วยกัน หัวใจเหมือนกำลังจะถูกกระชากออกจากร่างทั้งเป็น
มือของเทพีค่อยๆจมดิ่งลึกเข้าไปในอกของทั้งสอง ยิ่งเข้าใกล้หัวใจมากเท่าไรความเจ็บปวดก็ยิ่งทวีคูณ ทั้งสองทรมานเสียยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เคยบาดเจ็บ จนถึงขนาดที่พิษของฮาร์ปี้ หรือแม้แต่การลงทัณฑ์ของฟิวรี่ก็ไม่อาจทัดเทียม ฝ่ามือของเทพีค่อยๆล้วงเข้ามาในร่างกาย ก่อนจะคว้าเอาหัวใจทั้งสองดวงเอาไว้ ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างเหมือนใครมาเผาพวกเขาทั้งเป็น ก่อนที่เทพีจะกระชากเอาหัวใจออกมาจากร่าง
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก”ชานยอลและคริสร้องลั่น ก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้น ความเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสจนไม่สามารถบรรยายได้ เทพีกุมหัวใจของทั้งสองเอาไว้ ก่อนที่แสงสีทองจะสว่างเรืองรองอยู่รอบๆแล้วห่อหุ้มหัวใจเอาไว้ ก้อนเนื้อสีแดงฉานค่อยๆลอยออกมาอยู่กลางอากาศ ก่อนจะเปลี่ยนสีและรูปร่างไปทีละนิด หัวใจด้านบนกลายเป็นศีรษะมนุษย์ ถัดมาเป็นแขน และลำตัวค่อยๆเกิดขึ้น ก่อนที่ขา และเท้าจะค่อยๆตามมา จากนั้นทารกขนาดเท่าฝ่ามือทั้งสองก็ค่อยๆเติบโตขึ้น เรื่อยๆจากทารก เป็นเด็กตัวเล็กๆ ก่อนจะหยุดเติบโตเมื่อพวกเขาอายุได้เกือบหกปี เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงตัวน้อยกำลังนั่งกอดเข่าอยู่ในวัตถุโปร่งใสสีทอง ชานยอลและคริสมองภาพตรงหน้านิ่ง ความเจ็บปวดทรมานหายไปเป็นปลิดทิ้ง ความตื้นตันและดีใจฉายชัดอยู่บนใบหน้าทั้งสองที่ได้เห็น ‘ลูก’เป็นครั้งแรก
“นี่คือลูกของพวกเจ้า”เทพีเปล่งเสียง ก่อนที่เด็กหญิงตัวน้อยจะลอยมานอนหลับอยู่บนตักของชานยอล และเด็กผู้ชายที่ลอยมานอนบนตักของคริส หยาดน้ำตาค่อยๆไหลอาบแก้มของร่างโปร่ง มือเรียวอุ้มลูกที่เทพีประทานให้ไว้แนบอก
“ขอบคุณครับท่านเฮรา”
“จงดูแลพวกเขาทั้งคู่ให้ดี ถ้าเจ้าละเลยพวกเขา วันนั้นพรของข้าจะกลายเป็นคำสาปของพวกเจ้า”เทพีเอ่ยบอก ก่อนที่แสงสว่างจะสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง ทั่วทั้งบริเวณกลับมาเหมือนเดิม วัตถุโปร่งแสงสีทองที่ห่อหุ้มเด็กน้อยค่อยๆสลายไป ก่อนที่ดวงตาเล็กๆสองคู่จะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นช้าๆ
“คุณแม่/คุณพ่อ”ชานยอลกับคริสมองเด็กตัวน้อยที่ร้องเรียกตัวเอง ก่อนที่ชื่อและความสามารถของเด็กชายหญิงคู่นี้ก็ผลุดเข้ามาในหัวของเขาอย่างไร้ที่มา….เด็กผู้หญิงชื่อโยดา ควบคุมวิญญาณได้เหมือพ่อ….ส่วนเด็กผู้ชายชื่อโยฟาน ควบคุมน้ำได้เหมือนแม่
“คุณแม่ขาาาาา”เด็กหญิงตัวน้อยชูแขนให้ชานยอลอุ้ม ก่อนจะโผเข้ากอดแล้วเริ่มพูดเสียงเจื้อยแจ้ว
“พี่โยดาหิวข้าวแล้วค่ะ พาหนูไปมั๊มข้าวหน่อยได้มั้ยคะ”เด็กหญิงตัวน้อยร้องบอก ชานยอลมองเด็กตัวน้อยอย่างตะลึง ก่อนจะหันไปสบตากับคริสอย่างขอความเห็น
“ลูกหิวข้าว พาไปกินสิ”ร่างโปร่งยิ้มกว้างก่อนจะอุ้มเด็กตัวนอนขึ้นมา
“พี่โยดาอยากกินอะไรคะ”คนถูกถามนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ
“ทุกอย่างเลยค่ะคุณแม่”เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มจนตาปิดพร้อมกับอ้าแขนให้ดูว่าอยากกินเยอะแค่ไหน
“อย่างนี้พุงแตกพอดี แล้วพี่ฟานล่ะหิวรึยังครับ อยากกินอะไร”ร่างโปร่งหันไปหาโยฟานที่ยืนอยู่ข้างๆคริส แต่สายตากลับกำลังมองเด็กอีกกลุ่มกำลังนั่งเล่นทรายอยู่อย่างอยากรู้อยากเห็น
“หิว แต่พี่ฟานไปเล่นอันนั้นก่อนได้มั้ยครับ คุณแม่”เด็กชายตัวน้อยขออย่างกระตือรือร้น
“ได้///ไม่”คริสและชานยอลพูดขึ้นพร้อมกัน ร่างโปร่งหันไปขมวดคิ้วใส่ ในขณะที่คริสเองก็ตีหน้านิ่งใส่
“จะค่ำแล้วมันอันตรายพรุ่งนี้ค่อยเล่น”โยฟานเขย่าแขนชานยอลพร้อมกับทำหน้าอ้อน
“ให้ฟานไปเล่นนะครับ คุณแม่ ถ้าฟานไม่ได้เล่นฟานจะกินข้าวไม่ลง”
“โรคนี้ถ้าไม่รีบรักษา แย่แน่ๆเลย งั้นพี่ฟานไปเล่นเลยครับ”พอเด็กน้อยได้รับอนุญาตก็รีบวิ่งไปยังกองทราย แต่ก็ไม่วายถูกพ่อรั้งตัวเอาไว้
“พ่อบอกว่าเล่นพรุ่งนี้ ไปกินข้าวก่อน”โยฟานทำหน้างอ ก่อนจะหันมาร้องบอกผู้เป็นพ่อสลับกับมองกองทราย
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ไปกินข้าวครับ”คริสยื่นคำขาด ก่อนจะจูงมือพาโยฟานกลับขึ้นไปยังที่พัก เด็กชายตัวน้อยเหลียวมองกองทรายตาละห้อย
“คุณแม่ขา เราเอาทรายไปให้พี่ฟานเล่นได้มั้ยคะ”โยดาเขย่าแขนถามชานยอล ก่อนที่ร่างโปร่งจะยิ้มกว้างออกมา
“ได้สิ แต่ต้องไม่ให้คุณพ่อรู้ด้วยนะ”โยดายิ้มจนตาปิดก่อนจะรีบยืดชายเสื้อตัวเองออกมา แล้วให้ชานยอลตักทรายให้
“แบบนี้คุณพ่อก็เห็นสิว่าหนูเอาไป”
“งั้น…….พี่โยดาจะให้เพื่อนช่วยค่ะ”โยดาบอกก่อนจะเรียก ‘เพื่อน’ ที่ว่าให้ออกมาช่วย วิญญาณเด็กตัวเล็กๆค่อยๆโผล่ออกมาจากหาดทราย ก่อนที่จะมาช่วยโยดาตักทรายใส่เสื้อ
“พี่ฟานต้องดีใจแน่ๆเลย”เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มแก้มปริ พร้อมกับตักทรายใส่เสื้อของผีตัวน้อย ชานยอลมองตามลูกสาวพลางคิดว่าวิธีนี้อาจไม่ได้ผลเท่าไร เพราะคริสเป็นเจ้าแห่งวิญญาณ แต่ก็ไม่อยากทำให้ลูกสาวเสียใจ
“ใช่แล้วพี่ฟานต้องดีใจมากๆเลย แต่พี่โยดาต้องไม่ให้คุณพ่อเห็นเพื่อนๆนะคะ เดี๋ยวคุณพ่อดุ”
“ค่ะ ไม่ให้เห็นๆ”
“ดีมากเลยคะพี่โยดาคนดี แต่ว่าตอนนี้เราต้องไปกินข้าวกันได้แล้วล่ะ เดี๋ยวคุณพ่อดุ”ชานยอลพยักพเยิดไปทางคริสที่หันกลับมามองพวกเขา ก่อนที่โยดาจะรีบบอกให้พวกเพื่อนๆซ่อนตัว กลัวว่าคริสจะเห็นว่าตัวเองแอบเอาทรายมาให้โยฟานเล่น แล้วจูงมือพาชานยอลเดินไปหาคริส ในขณะที่โยฟานรีบวิ่งถลาเข้ามาหาโยดา
“อย่าวิ่ง!”คริสดุลูกชาย เด็กชายตัวน้อยชะงักก่อนจะเดินช้าๆ แต่พอลับหลังพ่อก็กลับมาวิ่งต่ออีก ในขณะที่โยดารีบวิ่งเข้าไปห้าม กลัวว่าคุณพ่อจะหันมาดุอีก แต่โยฟานก็ไม่วายจะซนต่ออีกอยู่ดี จนชานยอลที่เดินตามหลังมาหลุดยิ้มให้กับความน่ารักของทั้งสอง ดูท่าว่าต่อไปนี้ครอบครัวของเขาจะต้องวุ่นวายซะแล้วสิ คุณพ่อจอมเฮียบ คุณแม่จอมตามใจ และคุณลูกจอมขัดคำสั่ง
--------------------------------------------------------
“พี่ฟานอยากกินอันนี้”เสียงเด็กชายตัวน้อยดังออกมาจากหลังเมนูที่ตัวเองชะโงกหน้าไปขออ่านของคริสทั้งๆที่ยังอ่านไม่ค่อยจะถูก และไม่รู้ว่าชื่ออาหารแปลกๆพวกนั้นคืออะไร
“เผ็ด กินไม่ได้ครับ”คริสบอกลูกชาย
“นิดนึงนะครับคุณพ่อ พี่ฟานโตแล้ว พี่ฟานกินได้”
“ไม่ครับ เป็นเด็กกินรสจัดไม่ได้ ไม่ดื้อนะครับ”คริสดุเสียงเข้ม ก่อนที่คนถูกดุจะหน้าหงิก งอนที่ถูกขัดใจ
“คุณพ่อใจร้าย”
“โยฟาน”คริสเรียกชื่อลูกเสียงเข้ม ก่อนที่โยดาจะยื่นเมนูมาหาโยฟาน
“งั้นมั๊มอันนี้มั้ยพี่ฟาน”โยดาจิ้มเมนูหนึ่งให้คู่แฝดตัวเอง เด็กชายตัวน้อยส่ายหน้า โยดาทำหน้าผิดหวัง ก่อนจะหันไปหาชานยอล
“คุณแม่ขา พี่ฟานกินอันไหนได้บ้างคะ ที่เผ็ดน้อยๆ”ร่างโปร่งหยิบเมนูมาดูก่อนจะตอบ
“พี่ฟานกินอันนี้มั้ยครับ เผ็ดเหมือนอันนั้นแหละ”ชานยอลโกหกลูกชาย ความจริงแล้วเมนูนี้มันเผ็ดน้อยกว่าเยอะ โยฟานแกล้งเหลือบตาดูก่อนจะตอบ
“ก็ได้”
“ชานยอล….ให้ลูกกินอันนั้นได้ยังไง”คริสขัดขึ้น เขาไม่ยอมให้ลูกกินอะไรที่เด็กไม่ควรกินหรอก
“นิดเดียวน่า ลูกอยากรู้ก็ให้ลูกลองหน่อยสิ………เอาอันนี้กับอันนี้ครับ”ชานยอลตัดบทหันไปสั่งอาหารกับบริกร
“ไม่….ไม่เอาอันนั้น เปลี่ยนเป็นอันนี้”ร่างสูงแย้ง ชานยอลทำหน้าไม่พอใจ ก่อนที่โยดาจะยกมือห้าม
“ไม่ทะเลาะกันๆ คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ทะเลาะกัน”ชานยอลกับคริสถึงกับหลุดยิ้มเมื่อลูกสาวตัวน้อยทำหน้าจริงจังเกินกว่าเหตุ
“ก็คุณพ่อขัดใจคุณแม่นี่คะ ไม่ยอมตามใจพี่ฟาน”ชานยอลบอกลูกสาว
“คุณพ่อไม่อยากให้พี่ฟานเผ็ดครับ”
“แต่ผมอยากกินนี่นา”โยฟานเถียง ก่อนจะได้รับสายตาดุๆจากคริส โยดาทำหน้าเครียด ก่อนจะหันไปหาโยฟาน
“พี่ฟาน กินอันนี้นะ เดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่ไม่เลิกทะเลาะกัน”โยฟานทำหน้าลังเล มองพ่อกับแม่สลับกันก่อนจะพยัก
หน้าตอบ
คริสยิ้มก่อนจะหันไปสั่งอาหาร ท่ามกลางสายตาไม่พอใจของชานยอล ไม่นานนักอาหารที่สั่งก็มาเสิร์ฟ โยดานั่งกินข้าวเรียบร้อย โดนคริสดุบ้างเมื่อเริ่มเล่นซน ผิดกับโยฟานที่โดนคริสดุทุกวินาที เพราะมัวแต่เล่น
“โยฟาน ไม่เล่นน้ำ”ร่างสูงดุเมื่อโยฟานเริ่มควบคุมให้น้ำไหลวนไปมา
“โยฟาน ไม่เล่นอาหาร”
“โยฟาน ไม่จับแก้ว เดี๋ยวมันแตก”
“โยฟาน อย่าอมข้าว”
“ปล่อยลูกบ้างเถอะน่า ดุอยู่นั้นแหละ”ชานยอลเอ็ดก่อนจะเช็ดปากให้โยดา
“ไม่ได้!”คริสพูดเสียงเข้ม ก่อนที่ทั้งมื้ออาหารจะดังไปด้วยชื่อ โยฟาน โยฟาน โยฟาน และโยฟาน จนชานยอลคิดว่าคืนนี้คงจะนอนละเมอเป็นชื่อโยฟานแล้วแน่ๆ
--------------------------------------------------------------
หลังจากมื้ออาหารเย็น ทั้งครอบครัวก็กลับไปที่ห้องนอนเพื่อพักผ่อน คริสจัดแจงให้คู่แฝดชายหญิงอาบน้ำทันทีที่มาถึง เพราะเห็นว่าถึงเวลาที่เด็กควรจะนอนได้แล้ว ในขณะที่ชานยอลกลับเห็นว่าลูกควรได้เล่นผ่อนคลายสักชั่วโมงสองชั่วโมงบ้าง แน่นอนว่าแนวคิดนี้เป็นที่น่าเห็นชอบของเด็กๆทั้งสอง แต่ไม่ใช่สำหรับคุณพ่อจอมเหียบ คริสยึดอำนาจ สั่งบัดเสร็จไม่เปิดโอกาสให้ใครเถียง จนสุดท้ายทุกคนต้องยอมเพราะไม่อยากขัดใจหัวหน้าครอบครัว
“ลงอ่าง!”โยฟานร้องบอกอย่างตื่นเต้น ก่อนจะลงไปในอ่าง แต่อ่างในความหมายของเด็กชายตัวน้อยคืออ่างล่างหน้า ไม่ใช่อ่างอาบน้ำอย่างที่ควรจะเป็น
“โยฟาน! ไม่ลงไป ขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”คริสดุ ก่อนจะอุ้มลูกชายที่โดดลงอ่างขึ้นมา
“ทำไมลงไม่ได้ละครับ มันอันเล็ก เท่าตัวพี่ฟานพอดีเลย”โยฟานพูดหน้าจริงจัง พร้อมกับชี้ไปทางอ่างล่างหน้า พยายามให้พ่อเข้าใจว่ามันเหมาะกับเขามากแค่ไหน
“ไม่ได้ครับ นั่นสำหรับล่างหน้า ไม่ใช่อาบน้ำ”
“แต่ว่า…”
“พี่ฟานในนี้น้ำเยอะ เล่นสนุกกว่าในอ่างล่างหน้าอีกนะ”ชานยอลที่ทนไม่ไหวเกลี่ยกล่อมลูก ครั้งนี้เขาเห็นด้วยว่ามันไม่ควร เกิดเล่นในอ่างล้างหน้าแล้วพลาดท่าตกลงมาจะว่าไง เด็กชายตัวน้อยมองหน้าคุณแม่อย่างลังเล ถึงมันจะจริงอย่างที่ชานยอลว่า แต่เขาก็งอนมากกว่าจะอยากเข้าใจ ก็วันนี้เขาโดนขัดใจมาตลอดทั้งวันเลยนี่นา!
“อยากเล่นในนั้นมากกว่า”โยฟานตอบพร้อมกับกอดอกฉับเมื่อถูกหย่อนลงในอ่างอาบน้ำ
“แต่ในนี้มีพี่ชาร์กให้เล่นด้วยนะ”ชานยอลแกล้งทำเสียงตื่นเต้น ก่อนจะบังคับสายน้ำให้ขึ้นเป็นรูปหูของปลาฉลามกำลังว่ายไปหาโยฟาน
“พี่ชาร์กกก ! พี่ชาร์กกก !”โยฟานร้องอย่างดีใจ ก่อนจะเริ่มไล่ตะครุบปลาฉลามที่ชานยอลทำขึ้นมา
“พี่โยดาเล่นด้วยสิ”โยดาตะโกนบอกโยฟาน ก่อนจะเดินเข้าไปหา
“มาสิๆ เอาเพื่อนพี่โยดามาเล่นด้วย จะได้สนุกๆ”โยฟานพูดอย่างกระตือรือร้น โยดาพยักหน้า ยิ้มจนตาปิดก่อนจะเรียกผีเด็กออกมา วิญญาณเด็กเล่นกับฉลามน้ำอย่างสนุกสนาน ทั้งสั่งให้มันกระโดด ทั้งให้มันดำผุดดำว่าย เด็กหญิงตัวน้อยที่มองเห็นวิญญาณก็หัวเราะคิกคักชอบใจ ในขณะที่โยฟานทำตาโตตกใจที่เห็นว่าพี่ชาร์กของตัวเองกำลังเล่นอยู่กับใครที่มองไม่เห็นอยู่
“ให้มาอาบน้ำนะ ไม่ได้ให้มาเล่น ใครอาบน้ำไม่เสร็จภายในสิบนาที พ่อจะลงโทษ”คริสพูดเสียงเข้ม ผีเด็กรีบหายตัว โยดากับโยฟานหยุดชะงัก ก่อนเด็กหญิงตัวน้อยจะรีบวักน้ำขึ้นอาบ เพราะกลัวคุณพ่อจะลงโทษ ในขณะที่โยฟานทิ้งตัวเองให้จมลงไปในน้ำอย่างเซ็งๆ
“คุณพ่อใจร้าย”เด็กตัวน้อยบ่น แต่ก็รีบอาบน้ำตามโยดา เพราะกลัวจะถูกคริสทำโทษ
เพราะคำขู่ของคริสทำให้ทั้งครอบครัวอาบน้ำเสร็จได้ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที ก่อนที่เด็กตัวน้อยทั้งสองจะถูกห่อตัวอยู่ในผ้าเช็ดตัว แล้วอุ้มมาแต่งตัวข้างนอก ชุดนอนเด็กลายเหมือนกันถูกหยิบออกมา ก่อนที่คริสจะให้เด็กตัวน้อยฝึกใส่เสื้อผ้าเอง
“ถุงเท้าใส่รึยัง”ร่างสูงเช็คลูกจอมซนทั้งสอง
“ใส่แล้วค่ะ”โยดาตอบเสียงดังฟังชัด ในขณะที่โยฟานรีบใส่ถุงเท้าแล้วหันไปยิ้มแฉ่งให้พ่อ
“ดีมาก มาใส่เสื้อคลุมเร็ว เดี๋ยวหนาวตอนกลางคืน”คริสบอก ก่อนจะใส่เสื้อคลุมให้ลูกตัวน้อย
“เข้านอนได้แล้ว”ร่างสูงพูดก่อนที่เด็กทั้งสองจะปีนขึ้นไปบนเตียงนอนอย่างว่าง่าย
“เป็นพ่อ หรือเป็นทหารน่ะ”ชานยอลบอกก่อนจะล้มตัวนอนข้างๆลูกตัวน้อย
“เป็นแฟนนาย”คริสพูดเสียงเรียบ แต่แววตาแฝงแววกวนประสาทจนได้ค้อนจากชานยอลเป็นรางวัล
“เล่านิทาน”โยฟานพูดแทรกขึ้น พร้อมกับกระตุกชายเสื้อของชานยอล แต่คริสดันตอบแทน
“ไม่มี”เด็กน้อยหน้าสลด จนชานยอลถลึงตาใส่คริส
“เล่าเรื่องในทะเลให้ฟังดีกว่า อยากฟังมั้ย”ร่างโปร่งเอ่ยถาม
“ในนรกด้วยได้มั้ยคะ”โยดายกมือขึ้นถาม ชานยอลหลุดยิ้ม กอนที่คริสจะตอบ
“ได้ครับ แต่เรื่องสั้นๆนะ ดึกแล้ว ลูกต้องนอนได้แล้ว”คริสเอ่ยบอก ก่อนที่ชานยอลจะเริ่มเล่าเรื่องท้องทะเลให้โยฟานและโยดาฟัง เด็กน้อยตั้งหน้าตั้งใจฟัง จนคริสแอบยิ้มให้กับความน่ารักของลูกทั้งสอง
“อยากไปทะเลไวๆจัง จะไปหาพี่ชาร์กคนหล่อกับพี่เงือกตัวน้อยๆ ”โยฟานพูดพร้อมกับทำท่าปลาว่ายอยู่ในน้ำ
“เดี๋ยวได้ไปแน่นอนครับ ตัวแสบ”ชานยอลตอบพร้อมกับบีบจมูกรั้นอย่างหมั่นเขี้ยว
“พี่โยดาอยากฟังเรื่องนรก เล่าให้ฟังหน่อยสิคะ”โยดาหันไปหาคุณพ่อ ก่อนที่คริสจะเริ่มเล่าเรื่องในนรกคร่าวๆให้โยดาฟัง ฝาแฝดตัวน้อย ทำหน้าตกใจทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องตื่นเต้น ก่อนที่ความสนใจของพวกเขาจะค่อยๆลดลงเพราะความง่วงงุน ดวงตาเล็กๆสองคู่ค่อยๆปิดลง เด็กน้อยเบียดตัวเข้าหาพ่อกับแม่ราวกับลูกแมวตัวน้อยที่อยากอยู่ในอ้อมอกของพ่อกับแม่
“หลับซะละ”ชานยอลพูดขึ้น ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากฝาแฝดทั้งสองคน ในขณะที่คริสลูบผมโยดาที่อยู่ในอ้อมกอดเบาๆ
“ควรจะหลับได้ตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วแล้วด้วยซ้ำ”ร่างสูงพูดก่อนจะเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มให้คลุมที่อกโยฟาน ชานยอลเบ้ปากก่อนจะตอบ
“จะเป๊ะไปไหน นี่อยู่กับครอบครัวนะ ปล่อยบ้างก็ได้ ไม่ใช่พวกวิญญาณที่ต้องมาสั่งๆ”
“รักเลยทำ”ร่างสูงพูดสั้นๆ จนชานยอลชะงัก ก่อนจะตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”คริสยิ้มน้อยๆก่อนจะกอดตัวชานยอลไว้
“นี่…..ลูกนอนด้วยอย่างนี้ จะรักนายก็ไม่ได้แล้วสิ”ร่างโปร่งถลึงตาใส่
“ยังจะคิดอยู่อีก!”ร่างสูงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะตอบ
“นายต้องหาเวลาให้ฉันได้รักนายด้วย”
“ไอ้บ้า! นอนได้แล้วไป ง่วงแล้ว”ชานยอลตัดบทก่อนจะแกล้งหลับตา
“ง่วงขึ้นมาเชียวนะ”คริสหยอกก่อนลูบไล้แขนของชานยอลเบาๆจนร่างโปร่งจักจี้
“อะไรเล่า! คนจะนอน”ร่างโปร่งแกล้งหงุดหงิด สะบัดแขนอีกฝ่ายออก ก่อนจะมองหน้าคริสตาเขียว
“หน้านายตอนนี้มันน่า……..รัก จริงๆ”คริสยิ้มเจ้าเล่ห์ พร้อมกับแกล้งโน้มหน้าไปหา ร่างโปร่งรีบผงะถอยออก
“เดี๋ยวลูกตื่น อยู่เฉยๆเลย จะนอนแล้ว!”ชานยอลยื่นคำขาดก่อนจะซุกตัวกอดลูกตัวน้อย แล้วหลับตา คริสหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งห้องจะค่อยๆเงียบลง ชานยอลไม่ยอมลืมตา ในขณะที่เขาก็ไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่นอนมองภาพครอบครัวสุขสันต์อยู่อย่างนั้น
มันมีความสุขอย่างน่าประหลาด ทุกอย่างตื้นตันอยู่ในอก ลูกตัวน้อยๆสองคนนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขากับชานยอล ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบและอบอุ่น นี่หรอความรู้สึกของพ่อกับแม่เวลาที่มองลูกๆ มันมีความสุขอย่างนี้เองหรือ
“ชานยอล…”ร่างสูงเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเบา เปลือกตาบางวูบไหวเล็กน้อย แต่ไม่ยอมลืมตาก่อนจะตอบกลับมา
“อะไร”
“พรุ่งนี้พาลูกไปหาพ่อกับแม่กัน”ชานยอลลืมตาตื่นขึ้นมาสบตากับอีกฝ่าย
“จริงสิ เราควรจะพาลูกไปหาพ่อกับแม่”
“ใช่ พรุ่งนี้แม่จะลงไปหาพ่อฉันอยู่พอดีด้วย”คริสเอ่ยบอก โชคดีที่พรุ่งนี้แม่เขาจะลงไปเยี่ยมพ่อของเขายังนรกใต้พิภพ ตรงตามกำหนดการที่เพอร์เซอร์โฟเนจะต้องขึ้นมาบนโลกในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้ทั้งสองไม่ต้องพบเจอกันตรงๆ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องดีแล้ว เพราะแม้ว่าเทพีจะไม่เคียดแค้นมาธาร์อย่างแต่ก่อน แต่ก็ใช่ว่าเธอจะทำใจให้ไม่รู้สึกอะไรได้หากสามีต้องมาเจอกับคนรักเก่า
“งั้นก็พาลูกไปหาพ่อแม่นายก่อน แล้วค่อยขึ้นไปหาพ่อฉัน”คริสพยักหน้า ก่อนจะมองดูลูกทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม
“ลูกต้องสนุกแน่ได้ไปทั้งนรก ทั้งทะเล พ่อแม่พวกเราคงต้องปวดหัวแน่”
แนะนำตัวลครเพิ่ม
@Wuyoda_
พี่โยดาคนน่ารัก น่ารักที่สุดในโลก
@BabyYoFan
พี่ฟานคนหล่อ ...
-----------------------------------
ลำดับขั้นตอนในชีวิตคู่ส่วนใหญ่ เมื่อแต่งงานเสร็จ ก็จะไปฮันนีมูน และจบจากฮันนีมูนของฝากที่จะได้กลับมาส่วนใหญ่มักจะเป็นเด็กตัวน้อยๆในท้องของฝ่ายหญิง คู่รักเกือบทั่วโลกแทบจะมีวัฏจักรวงจรความรักแบบนั้น เว้นเสียแต่คู่ของคริสกับชานยอล…
ไม่ว่าพวกเขาจะไปฮันนีมูนกันสักกี่สิบรอบทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม ชานยอลไม่มีลูก ไม่มีเด็ก ไม่มีอะไรเลยอยู่ในท้อง เพราะเขาไม่ใช่ผู้หญิง!!!
ชานยอลไม่ได้ไม่พอใจกับความรักของคู่ตัวเอง แต่บางครั้งการมีเด็กตัวน้อยๆสักคนสองคนวิ่งเล่นอยู่รอบๆมันก็สนุกดีเหมือนกัน อย่างน้อยเสียงหัวเราะของเด็กๆก็ทำให้คู่ของเขาหายเหงาได้บ้าง ไม่ได้หันไปทางไหนก็เจอแต่หน้าคริส คริส คริส หรือไม่ก็ ผี ผี ผี ที่คริสเรียกออกมา ให้มันได้สนุกสนานและร่าเริงขึ้นบ้างก็เท่านั้นเอง
“คริส….อยากมีลูก”ชานยอลที่นอนซ้อนหลังคริสอยู่บนเก้าอี้ชายหาดพูดขึ้น การเที่ยวที่มีแค่เขากับคริสสองคนในช่วงปิดเทอมใหญ่อย่างนี้ มันช่างเงียบเหงาซะจริงๆ ถ้ามีเด็กตัวน้อยๆด้วยคงจะดีกว่านี้
“ไม่สบายรึไง”ร่างสูงเอ่ยถาม บางทีการนั่งรับลมทะเลอย่างนี้ อาจทำให้ชานยอลไม่สบาย เลยพูดอะไรแปลกๆอย่างนี้ออกมาก็ได้อีก ร่างโปร่งเบ้ปาก ก่อนจะตอบ
“ไม่ ปกติดี แต่อยากมี ดูพวกตัวน้อยๆสิ น่ารักจะตาย”ร่างโปร่งพยักพเยิดไปทางเด็กตัวน้อยๆที่วิ่งไล่จับกันอยู่ข้างๆ ร่างสูงทำหน้าเรียบเฉย ไม่บ่งบอกความรู้สึก ก่อนจะหันมาสบตาอีกฝ่าย
“นี่เป็นลมแดดรึเปล่า”คริสถามย้ำอีกครั้ง ตั้งแต่ก่อนจะมาที่นี่ชานยอลก็ชอบทำท่าทางแปลกๆ ทั้งชอบมองเด็ก เล่นแต่กับเด็กจนแทบจะลืมเขา แล้วนี่ยังมาพูดจาอะไรแปลกๆอย่างนั้นอีก มันยิ่งผิดปกติ
“ตลกน่า พูดจริงๆ”คริสยักไหล่ก่อนจะตอบอย่างไม่จริงจังนัก
“ไปแปลงเพศซะสิ”ชานยอลตีหน้ายุ่งทันทีที่ได้ยินก่อนจะทิ้งศีรษะบนอกอีกฝ่าย
“ทำได้ที่ไหนล่ะ เราไปรับเด็กมาเลี้ยงได้มั้ย”ร่างสูงเลิกคิ้วก่อนจะตอบ
“เขาเป็นคนปกติ อยู่ร่วมกับพวกเราได้ยังไง โดยเฉพาะฉัน เด็กจะกลัวมั้ยถ้าลูกน้องของพ่อเป็นผี”ชานยอลหน้าบึ้งหนักกว่าเดิม
“งั้นก็ไปเอาพวกกึ่งเทพกำพร้ามาเลี้ยงสิ”ร่างโปร่งเถียง
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นนะ ชานยอล”ร่างสูงปรามเสียงเข้ม ใบหน้านวลยิ่งงอง้ำมากขึ้นกว่าเดิม
“งั้นก็ไปเอาวิญญาณเด็กมาเลี้ยงก็ได้ไป”
“ไม่โวยวายน่า ก็อยู่แบบนี้ไปก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง”มือหนาลูบผมของอีกฝ่ายเล่นเบาๆ ก่อนจะไล้จมูกโด่งไปตามกรอบหน้าของอีกฝ่าย
“ท่านเฮราครับ ประทานลูกให้ผมสักคนสองคนเถอะ ถ้าให้ผมนะ ผมสัญญาเลยว่าจะคอยดูแลเขาอย่างดีเลย ขอร้องล่ะท่านเฮรา”ชานยอลเงยหน้าอธิษฐานกับเทพีเฮรา ชายาแห่งซุส ผู้เป็นเทพแห่งการครองเรือน และคลอดบุตร ร่างโปร่งเอ่ยบอกก่อนจะเอียงคอหลบเมื่อคริสเริ่มซุกไซร้ร่างกายของเขาหนักขึ้น
“พอน่า เด็กน้อยอยู่ด้วยนะ”ร่างโปร่งร้องห้ามก่อนจะจับมืออีกฝ่ายที่ทำท่าจะสอดเข้าไปใต้เสื้อของเขาให้หยุด ดวงตาคมจ้องมองดวงตากลมโต ก่อนจะกระซิบเสียงพร่าข้างหู แต่ยังไม่ทันจะเริ่มพูดจู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังแทรกขัดจังหวะ
“เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอยากได้บุตรอย่างนั้นหรอ”เสียงไพเราะเสนาะหูที่ทรงพลังเสียงหนึ่งเปล่งขึ้นท่ามกลางสรรพสิ่ง ทุกอย่างในบริเวณนั้นต่างหยุดนิ่งราวกับมีใครมาตรึงยึดเวลาเอาไว้ให้หยุดเดิน แสงสว่างค่อยๆกรีดริ้วท้องฟ้ายามโพล้เพล้ให้แหวกออก ก่อนจะกลืนกินความมืดมิดเข้าไปอย่างช้าๆ ทุกที่ที่แสงสว่างสัมผัสค่อยๆเปลี่ยนเป็นพุ่มดอกไม้ ก่อนที่ทั่วทั้งบริเวณจะกลายเป็นสวนสวยงามคล้ายสวนที่อยู่บนสรวงสวรรค์
“เมื่อกี้เจ้าพูดงั้นหรอ”เสียงหนึ่งดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับการปรากฏตัวของเทพีสูงสง่า สวมชุดสีขาวสะอาด พร้อมกับนกยูงตัวหนึ่งที่เดินขนาบข้างเธอมาด้วย
“เทพีเฮรา”ชานยอลพึมพำเบาๆ ก่อนที่เทพีจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“เจ้าบอกว่าเจ้าจะเลี้ยงดูเขาอย่างนั้นน่ะหรอ”ชานยอลชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“ครับ ท่านให้ผมได้มั้ยครับ ผมอยากมีเด็กตัวน้อยๆไว้แก้เหงา”
“เจ้าแน่ใจแล้วหรือ เด็กที่ข้าจะประทานให้พวกเจ้า อายุขัยของพวกเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง ข้าประทานให้เจ้าตอนพวกเขาอายุเท่าไร มันก็จะหยุดอยู่แค่เท่านั้น และเจ้าจะต้องเลี้ยงดูพวกเขาไปตลอดชีวิตของเจ้าด้วย เจ้าจะรับเลี้ยงดูเขาได้อย่างนั้นหรือ”
“ได้สิครับ!”
“ชานยอล…”คริสปรามอีกฝ่าย เขาไม่อยากให้ชานยอลตัดสินใจไปเพราะความคะนองชั่ววูบ
“ถ้านายไม่เลี้ยง ฉันเลี้ยงเองก็ได้”
“ไม่ใช่ ฉันไม่อยากให้นายทำอะไรเล่นๆนะ ถ้านายแน่ใจแน่ๆแล้วว่าจะมี ฉันก็พร้อมจะช่วยนายเลี้ยงพวกเขา”
“ฉันแน่ใจ”ร่างโปร่งเอ่ยตอบ ก่อนที่เทพีจะแย้มยิ้ม
“พวกเจ้าแน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าพร้อมสำหรับการเลี้ยงดูเด็กสองคน”
“ครับ…ท่านประทานพวกเขาให้พวกเราได้มั้ย”
“แน่นอน…”ชานยอลยิ้มกว้างก่อนจะหุบยิ้มเมื่อเทพีพูดต่อ
“แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
“อะไรหรอครับ”
“เจ้าจะต้องแลกเปลี่ยนชีวิตของเด็กสองคนนี้กับหัวใจของพวกเจ้า เจ้ายอมได้หรือไม่”ชานยอลและคริสชะงักไปชั่วครู่ แลกเปลี่ยนกับหัวใจ…
“แลกเปลี่ยนกับหัวใจ…..”ทั้งสองพึมพำเสียงเบา
“ใช่ หัวใจของเจ้าจะไปอยู่ที่ตัวเด็กทั้งสองคนละดวง แต่พวกเจ้าจะยังมีชีวิตต่อไปได้เพียงแต่ไร้หัวใจเท่านั้น หากแต่เพลาใดที่เด็กสองคนนั้นตายไป พวกเจ้าจะต้องตายตามไปด้วย เจ้าจะยอมเสียสละหรือไม่”ดวงตาทรงอำนาจจับจ้องมาที่ทั้งสองคน ชานยอลมองหน้าร่างสูงเล็กน้อยก่อนจะหันไปตอบเทพี
“ผมยอม”ชานยอลเอ่ยตอบอย่างไม่ลังเล เขายอมให้เป็นอย่างนี้มากกว่าที่ลูกจะตายพร้อมกับเขา เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น เขาคงรู้สึกผิดที่ชีวิตของลูกต้องมาขึ้นอยู่กับเขา เขายอมให้ชีวิตตัวเองขึ้นอยู่กับลูกเสียยังจะดีกว่า
“ดี…แล้วเจ้าล่ะ บุตรแห่งฮาเดส”เทพีหันไปถามคริสที่ยืนนิ่งไม่แสดงอาการใดๆออกมา ชานยอลมองตามอย่างลุ้นระทึก ร่างสูงเปรยตามองคนรัก ก่อนจะตอบสั้นๆ
“ครับ”คริสตอบรับ สำหรับเขาไม่ว่าจะอยู่หรือตายมันก็ไม่ต่างกัน เพราะความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัวสำหรับเขา
“พวกเจ้าแน่ใจแล้วใช่มั้ย การตัดสินใจครั้งนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”เทพีถามย้ำอีกครั้ง เมื่อสิ่งที่ชานยอลขอเป็นเรื่องสำคัญและผิดพลาดไม่ได้
“ครับ…..ผมแน่ใจ”ชานยอลเอ่ยตอบ ในขณะที่คริสพยักหน้ารับ เทพีแย้มยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบ
“ดี…..งั้นข้าก็จะประทานพรให้กับพวกเจ้า ยื่นมือของพวกเจ้าทั้งสองมาให้ข้า” เทพีเอ่ยบอก ก่อนจะยื่นมือไปรับฝ่ามือของคนทั้งคู่ คริสมองหน้าชานยอลพร้อมกับยิ้มให้เล็กน้อย
“ถือเป็นของขวัญจากการครองเรือนเสียเลยแล้วกัน”เทพีเอ่ยบอก” เทพีเอ่ยบอก ก่อนที่แสงจะค่อยๆเปล่งออกมาจากฝ่ามือของเทพี แล้วแผ่คลุมไปทั่วร่างของคนทั้งสอง โซ่สีทองเกี่ยวพันคนทั้งคู่อย่างช้าๆ เทพีปล่อยมือทั้งสองให้เป็อิสระ ก่อนจะยกมือขึ้นอยู่ระดับอกของคนทั้งคู่ ฝ่ามือของเทพีเปล่งแสงสีทองเรืองรองที่อบอุ่น ผิวเนื้อที่เคยเป็นสีเนื้อกลับโปรงใสจนเห็นหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ภายใน เทพีทาบฝ่ามือลงบนอกของทั้งสอง ฝ่ามือที่เคยอบอุ่นร้อนขึ้นเรื่อยๆจนทั้งสองเจ็บปวด ผิวหนังเหมือนจะไหม้ เลือดในกายเหมือนจะเดือดผ่าน กระดูกเหมือนจะหลอมเข้าด้วยกัน หัวใจเหมือนกำลังจะถูกกระชากออกจากร่างทั้งเป็น
มือของเทพีค่อยๆจมดิ่งลึกเข้าไปในอกของทั้งสอง ยิ่งเข้าใกล้หัวใจมากเท่าไรความเจ็บปวดก็ยิ่งทวีคูณ ทั้งสองทรมานเสียยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เคยบาดเจ็บ จนถึงขนาดที่พิษของฮาร์ปี้ หรือแม้แต่การลงทัณฑ์ของฟิวรี่ก็ไม่อาจทัดเทียม ฝ่ามือของเทพีค่อยๆล้วงเข้ามาในร่างกาย ก่อนจะคว้าเอาหัวใจทั้งสองดวงเอาไว้ ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างเหมือนใครมาเผาพวกเขาทั้งเป็น ก่อนที่เทพีจะกระชากเอาหัวใจออกมาจากร่าง
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก”ชานยอลและคริสร้องลั่น ก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้น ความเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสจนไม่สามารถบรรยายได้ เทพีกุมหัวใจของทั้งสองเอาไว้ ก่อนที่แสงสีทองจะสว่างเรืองรองอยู่รอบๆแล้วห่อหุ้มหัวใจเอาไว้ ก้อนเนื้อสีแดงฉานค่อยๆลอยออกมาอยู่กลางอากาศ ก่อนจะเปลี่ยนสีและรูปร่างไปทีละนิด หัวใจด้านบนกลายเป็นศีรษะมนุษย์ ถัดมาเป็นแขน และลำตัวค่อยๆเกิดขึ้น ก่อนที่ขา และเท้าจะค่อยๆตามมา จากนั้นทารกขนาดเท่าฝ่ามือทั้งสองก็ค่อยๆเติบโตขึ้น เรื่อยๆจากทารก เป็นเด็กตัวเล็กๆ ก่อนจะหยุดเติบโตเมื่อพวกเขาอายุได้เกือบหกปี เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงตัวน้อยกำลังนั่งกอดเข่าอยู่ในวัตถุโปร่งใสสีทอง ชานยอลและคริสมองภาพตรงหน้านิ่ง ความเจ็บปวดทรมานหายไปเป็นปลิดทิ้ง ความตื้นตันและดีใจฉายชัดอยู่บนใบหน้าทั้งสองที่ได้เห็น ‘ลูก’เป็นครั้งแรก
“นี่คือลูกของพวกเจ้า”เทพีเปล่งเสียง ก่อนที่เด็กหญิงตัวน้อยจะลอยมานอนหลับอยู่บนตักของชานยอล และเด็กผู้ชายที่ลอยมานอนบนตักของคริส หยาดน้ำตาค่อยๆไหลอาบแก้มของร่างโปร่ง มือเรียวอุ้มลูกที่เทพีประทานให้ไว้แนบอก
“ขอบคุณครับท่านเฮรา”
“จงดูแลพวกเขาทั้งคู่ให้ดี ถ้าเจ้าละเลยพวกเขา วันนั้นพรของข้าจะกลายเป็นคำสาปของพวกเจ้า”เทพีเอ่ยบอก ก่อนที่แสงสว่างจะสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง ทั่วทั้งบริเวณกลับมาเหมือนเดิม วัตถุโปร่งแสงสีทองที่ห่อหุ้มเด็กน้อยค่อยๆสลายไป ก่อนที่ดวงตาเล็กๆสองคู่จะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นช้าๆ
“คุณแม่/คุณพ่อ”ชานยอลกับคริสมองเด็กตัวน้อยที่ร้องเรียกตัวเอง ก่อนที่ชื่อและความสามารถของเด็กชายหญิงคู่นี้ก็ผลุดเข้ามาในหัวของเขาอย่างไร้ที่มา….เด็กผู้หญิงชื่อโยดา ควบคุมวิญญาณได้เหมือพ่อ….ส่วนเด็กผู้ชายชื่อโยฟาน ควบคุมน้ำได้เหมือนแม่
“คุณแม่ขาาาาา”เด็กหญิงตัวน้อยชูแขนให้ชานยอลอุ้ม ก่อนจะโผเข้ากอดแล้วเริ่มพูดเสียงเจื้อยแจ้ว
“พี่โยดาหิวข้าวแล้วค่ะ พาหนูไปมั๊มข้าวหน่อยได้มั้ยคะ”เด็กหญิงตัวน้อยร้องบอก ชานยอลมองเด็กตัวน้อยอย่างตะลึง ก่อนจะหันไปสบตากับคริสอย่างขอความเห็น
“ลูกหิวข้าว พาไปกินสิ”ร่างโปร่งยิ้มกว้างก่อนจะอุ้มเด็กตัวนอนขึ้นมา
“พี่โยดาอยากกินอะไรคะ”คนถูกถามนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ
“ทุกอย่างเลยค่ะคุณแม่”เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มจนตาปิดพร้อมกับอ้าแขนให้ดูว่าอยากกินเยอะแค่ไหน
“อย่างนี้พุงแตกพอดี แล้วพี่ฟานล่ะหิวรึยังครับ อยากกินอะไร”ร่างโปร่งหันไปหาโยฟานที่ยืนอยู่ข้างๆคริส แต่สายตากลับกำลังมองเด็กอีกกลุ่มกำลังนั่งเล่นทรายอยู่อย่างอยากรู้อยากเห็น
“หิว แต่พี่ฟานไปเล่นอันนั้นก่อนได้มั้ยครับ คุณแม่”เด็กชายตัวน้อยขออย่างกระตือรือร้น
“ได้///ไม่”คริสและชานยอลพูดขึ้นพร้อมกัน ร่างโปร่งหันไปขมวดคิ้วใส่ ในขณะที่คริสเองก็ตีหน้านิ่งใส่
“จะค่ำแล้วมันอันตรายพรุ่งนี้ค่อยเล่น”โยฟานเขย่าแขนชานยอลพร้อมกับทำหน้าอ้อน
“ให้ฟานไปเล่นนะครับ คุณแม่ ถ้าฟานไม่ได้เล่นฟานจะกินข้าวไม่ลง”
“โรคนี้ถ้าไม่รีบรักษา แย่แน่ๆเลย งั้นพี่ฟานไปเล่นเลยครับ”พอเด็กน้อยได้รับอนุญาตก็รีบวิ่งไปยังกองทราย แต่ก็ไม่วายถูกพ่อรั้งตัวเอาไว้
“พ่อบอกว่าเล่นพรุ่งนี้ ไปกินข้าวก่อน”โยฟานทำหน้างอ ก่อนจะหันมาร้องบอกผู้เป็นพ่อสลับกับมองกองทราย
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ไปกินข้าวครับ”คริสยื่นคำขาด ก่อนจะจูงมือพาโยฟานกลับขึ้นไปยังที่พัก เด็กชายตัวน้อยเหลียวมองกองทรายตาละห้อย
“คุณแม่ขา เราเอาทรายไปให้พี่ฟานเล่นได้มั้ยคะ”โยดาเขย่าแขนถามชานยอล ก่อนที่ร่างโปร่งจะยิ้มกว้างออกมา
“ได้สิ แต่ต้องไม่ให้คุณพ่อรู้ด้วยนะ”โยดายิ้มจนตาปิดก่อนจะรีบยืดชายเสื้อตัวเองออกมา แล้วให้ชานยอลตักทรายให้
“แบบนี้คุณพ่อก็เห็นสิว่าหนูเอาไป”
“งั้น…….พี่โยดาจะให้เพื่อนช่วยค่ะ”โยดาบอกก่อนจะเรียก ‘เพื่อน’ ที่ว่าให้ออกมาช่วย วิญญาณเด็กตัวเล็กๆค่อยๆโผล่ออกมาจากหาดทราย ก่อนที่จะมาช่วยโยดาตักทรายใส่เสื้อ
“พี่ฟานต้องดีใจแน่ๆเลย”เด็กหญิงตัวน้อยยิ้มแก้มปริ พร้อมกับตักทรายใส่เสื้อของผีตัวน้อย ชานยอลมองตามลูกสาวพลางคิดว่าวิธีนี้อาจไม่ได้ผลเท่าไร เพราะคริสเป็นเจ้าแห่งวิญญาณ แต่ก็ไม่อยากทำให้ลูกสาวเสียใจ
“ใช่แล้วพี่ฟานต้องดีใจมากๆเลย แต่พี่โยดาต้องไม่ให้คุณพ่อเห็นเพื่อนๆนะคะ เดี๋ยวคุณพ่อดุ”
“ค่ะ ไม่ให้เห็นๆ”
“ดีมากเลยคะพี่โยดาคนดี แต่ว่าตอนนี้เราต้องไปกินข้าวกันได้แล้วล่ะ เดี๋ยวคุณพ่อดุ”ชานยอลพยักพเยิดไปทางคริสที่หันกลับมามองพวกเขา ก่อนที่โยดาจะรีบบอกให้พวกเพื่อนๆซ่อนตัว กลัวว่าคริสจะเห็นว่าตัวเองแอบเอาทรายมาให้โยฟานเล่น แล้วจูงมือพาชานยอลเดินไปหาคริส ในขณะที่โยฟานรีบวิ่งถลาเข้ามาหาโยดา
“อย่าวิ่ง!”คริสดุลูกชาย เด็กชายตัวน้อยชะงักก่อนจะเดินช้าๆ แต่พอลับหลังพ่อก็กลับมาวิ่งต่ออีก ในขณะที่โยดารีบวิ่งเข้าไปห้าม กลัวว่าคุณพ่อจะหันมาดุอีก แต่โยฟานก็ไม่วายจะซนต่ออีกอยู่ดี จนชานยอลที่เดินตามหลังมาหลุดยิ้มให้กับความน่ารักของทั้งสอง ดูท่าว่าต่อไปนี้ครอบครัวของเขาจะต้องวุ่นวายซะแล้วสิ คุณพ่อจอมเฮียบ คุณแม่จอมตามใจ และคุณลูกจอมขัดคำสั่ง
--------------------------------------------------------
“พี่ฟานอยากกินอันนี้”เสียงเด็กชายตัวน้อยดังออกมาจากหลังเมนูที่ตัวเองชะโงกหน้าไปขออ่านของคริสทั้งๆที่ยังอ่านไม่ค่อยจะถูก และไม่รู้ว่าชื่ออาหารแปลกๆพวกนั้นคืออะไร
“เผ็ด กินไม่ได้ครับ”คริสบอกลูกชาย
“นิดนึงนะครับคุณพ่อ พี่ฟานโตแล้ว พี่ฟานกินได้”
“ไม่ครับ เป็นเด็กกินรสจัดไม่ได้ ไม่ดื้อนะครับ”คริสดุเสียงเข้ม ก่อนที่คนถูกดุจะหน้าหงิก งอนที่ถูกขัดใจ
“คุณพ่อใจร้าย”
“โยฟาน”คริสเรียกชื่อลูกเสียงเข้ม ก่อนที่โยดาจะยื่นเมนูมาหาโยฟาน
“งั้นมั๊มอันนี้มั้ยพี่ฟาน”โยดาจิ้มเมนูหนึ่งให้คู่แฝดตัวเอง เด็กชายตัวน้อยส่ายหน้า โยดาทำหน้าผิดหวัง ก่อนจะหันไปหาชานยอล
“คุณแม่ขา พี่ฟานกินอันไหนได้บ้างคะ ที่เผ็ดน้อยๆ”ร่างโปร่งหยิบเมนูมาดูก่อนจะตอบ
“พี่ฟานกินอันนี้มั้ยครับ เผ็ดเหมือนอันนั้นแหละ”ชานยอลโกหกลูกชาย ความจริงแล้วเมนูนี้มันเผ็ดน้อยกว่าเยอะ โยฟานแกล้งเหลือบตาดูก่อนจะตอบ
“ก็ได้”
“ชานยอล….ให้ลูกกินอันนั้นได้ยังไง”คริสขัดขึ้น เขาไม่ยอมให้ลูกกินอะไรที่เด็กไม่ควรกินหรอก
“นิดเดียวน่า ลูกอยากรู้ก็ให้ลูกลองหน่อยสิ………เอาอันนี้กับอันนี้ครับ”ชานยอลตัดบทหันไปสั่งอาหารกับบริกร
“ไม่….ไม่เอาอันนั้น เปลี่ยนเป็นอันนี้”ร่างสูงแย้ง ชานยอลทำหน้าไม่พอใจ ก่อนที่โยดาจะยกมือห้าม
“ไม่ทะเลาะกันๆ คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ทะเลาะกัน”ชานยอลกับคริสถึงกับหลุดยิ้มเมื่อลูกสาวตัวน้อยทำหน้าจริงจังเกินกว่าเหตุ
“ก็คุณพ่อขัดใจคุณแม่นี่คะ ไม่ยอมตามใจพี่ฟาน”ชานยอลบอกลูกสาว
“คุณพ่อไม่อยากให้พี่ฟานเผ็ดครับ”
“แต่ผมอยากกินนี่นา”โยฟานเถียง ก่อนจะได้รับสายตาดุๆจากคริส โยดาทำหน้าเครียด ก่อนจะหันไปหาโยฟาน
“พี่ฟาน กินอันนี้นะ เดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่ไม่เลิกทะเลาะกัน”โยฟานทำหน้าลังเล มองพ่อกับแม่สลับกันก่อนจะพยัก
หน้าตอบ
คริสยิ้มก่อนจะหันไปสั่งอาหาร ท่ามกลางสายตาไม่พอใจของชานยอล ไม่นานนักอาหารที่สั่งก็มาเสิร์ฟ โยดานั่งกินข้าวเรียบร้อย โดนคริสดุบ้างเมื่อเริ่มเล่นซน ผิดกับโยฟานที่โดนคริสดุทุกวินาที เพราะมัวแต่เล่น
“โยฟาน ไม่เล่นน้ำ”ร่างสูงดุเมื่อโยฟานเริ่มควบคุมให้น้ำไหลวนไปมา
“โยฟาน ไม่เล่นอาหาร”
“โยฟาน ไม่จับแก้ว เดี๋ยวมันแตก”
“โยฟาน อย่าอมข้าว”
“ปล่อยลูกบ้างเถอะน่า ดุอยู่นั้นแหละ”ชานยอลเอ็ดก่อนจะเช็ดปากให้โยดา
“ไม่ได้!”คริสพูดเสียงเข้ม ก่อนที่ทั้งมื้ออาหารจะดังไปด้วยชื่อ โยฟาน โยฟาน โยฟาน และโยฟาน จนชานยอลคิดว่าคืนนี้คงจะนอนละเมอเป็นชื่อโยฟานแล้วแน่ๆ
--------------------------------------------------------------
หลังจากมื้ออาหารเย็น ทั้งครอบครัวก็กลับไปที่ห้องนอนเพื่อพักผ่อน คริสจัดแจงให้คู่แฝดชายหญิงอาบน้ำทันทีที่มาถึง เพราะเห็นว่าถึงเวลาที่เด็กควรจะนอนได้แล้ว ในขณะที่ชานยอลกลับเห็นว่าลูกควรได้เล่นผ่อนคลายสักชั่วโมงสองชั่วโมงบ้าง แน่นอนว่าแนวคิดนี้เป็นที่น่าเห็นชอบของเด็กๆทั้งสอง แต่ไม่ใช่สำหรับคุณพ่อจอมเหียบ คริสยึดอำนาจ สั่งบัดเสร็จไม่เปิดโอกาสให้ใครเถียง จนสุดท้ายทุกคนต้องยอมเพราะไม่อยากขัดใจหัวหน้าครอบครัว
“ลงอ่าง!”โยฟานร้องบอกอย่างตื่นเต้น ก่อนจะลงไปในอ่าง แต่อ่างในความหมายของเด็กชายตัวน้อยคืออ่างล่างหน้า ไม่ใช่อ่างอาบน้ำอย่างที่ควรจะเป็น
“โยฟาน! ไม่ลงไป ขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”คริสดุ ก่อนจะอุ้มลูกชายที่โดดลงอ่างขึ้นมา
“ทำไมลงไม่ได้ละครับ มันอันเล็ก เท่าตัวพี่ฟานพอดีเลย”โยฟานพูดหน้าจริงจัง พร้อมกับชี้ไปทางอ่างล่างหน้า พยายามให้พ่อเข้าใจว่ามันเหมาะกับเขามากแค่ไหน
“ไม่ได้ครับ นั่นสำหรับล่างหน้า ไม่ใช่อาบน้ำ”
“แต่ว่า…”
“พี่ฟานในนี้น้ำเยอะ เล่นสนุกกว่าในอ่างล่างหน้าอีกนะ”ชานยอลที่ทนไม่ไหวเกลี่ยกล่อมลูก ครั้งนี้เขาเห็นด้วยว่ามันไม่ควร เกิดเล่นในอ่างล้างหน้าแล้วพลาดท่าตกลงมาจะว่าไง เด็กชายตัวน้อยมองหน้าคุณแม่อย่างลังเล ถึงมันจะจริงอย่างที่ชานยอลว่า แต่เขาก็งอนมากกว่าจะอยากเข้าใจ ก็วันนี้เขาโดนขัดใจมาตลอดทั้งวันเลยนี่นา!
“อยากเล่นในนั้นมากกว่า”โยฟานตอบพร้อมกับกอดอกฉับเมื่อถูกหย่อนลงในอ่างอาบน้ำ
“แต่ในนี้มีพี่ชาร์กให้เล่นด้วยนะ”ชานยอลแกล้งทำเสียงตื่นเต้น ก่อนจะบังคับสายน้ำให้ขึ้นเป็นรูปหูของปลาฉลามกำลังว่ายไปหาโยฟาน
“พี่ชาร์กกก ! พี่ชาร์กกก !”โยฟานร้องอย่างดีใจ ก่อนจะเริ่มไล่ตะครุบปลาฉลามที่ชานยอลทำขึ้นมา
“พี่โยดาเล่นด้วยสิ”โยดาตะโกนบอกโยฟาน ก่อนจะเดินเข้าไปหา
“มาสิๆ เอาเพื่อนพี่โยดามาเล่นด้วย จะได้สนุกๆ”โยฟานพูดอย่างกระตือรือร้น โยดาพยักหน้า ยิ้มจนตาปิดก่อนจะเรียกผีเด็กออกมา วิญญาณเด็กเล่นกับฉลามน้ำอย่างสนุกสนาน ทั้งสั่งให้มันกระโดด ทั้งให้มันดำผุดดำว่าย เด็กหญิงตัวน้อยที่มองเห็นวิญญาณก็หัวเราะคิกคักชอบใจ ในขณะที่โยฟานทำตาโตตกใจที่เห็นว่าพี่ชาร์กของตัวเองกำลังเล่นอยู่กับใครที่มองไม่เห็นอยู่
“ให้มาอาบน้ำนะ ไม่ได้ให้มาเล่น ใครอาบน้ำไม่เสร็จภายในสิบนาที พ่อจะลงโทษ”คริสพูดเสียงเข้ม ผีเด็กรีบหายตัว โยดากับโยฟานหยุดชะงัก ก่อนเด็กหญิงตัวน้อยจะรีบวักน้ำขึ้นอาบ เพราะกลัวคุณพ่อจะลงโทษ ในขณะที่โยฟานทิ้งตัวเองให้จมลงไปในน้ำอย่างเซ็งๆ
“คุณพ่อใจร้าย”เด็กตัวน้อยบ่น แต่ก็รีบอาบน้ำตามโยดา เพราะกลัวจะถูกคริสทำโทษ
เพราะคำขู่ของคริสทำให้ทั้งครอบครัวอาบน้ำเสร็จได้ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที ก่อนที่เด็กตัวน้อยทั้งสองจะถูกห่อตัวอยู่ในผ้าเช็ดตัว แล้วอุ้มมาแต่งตัวข้างนอก ชุดนอนเด็กลายเหมือนกันถูกหยิบออกมา ก่อนที่คริสจะให้เด็กตัวน้อยฝึกใส่เสื้อผ้าเอง
“ถุงเท้าใส่รึยัง”ร่างสูงเช็คลูกจอมซนทั้งสอง
“ใส่แล้วค่ะ”โยดาตอบเสียงดังฟังชัด ในขณะที่โยฟานรีบใส่ถุงเท้าแล้วหันไปยิ้มแฉ่งให้พ่อ
“ดีมาก มาใส่เสื้อคลุมเร็ว เดี๋ยวหนาวตอนกลางคืน”คริสบอก ก่อนจะใส่เสื้อคลุมให้ลูกตัวน้อย
“เข้านอนได้แล้ว”ร่างสูงพูดก่อนที่เด็กทั้งสองจะปีนขึ้นไปบนเตียงนอนอย่างว่าง่าย
“เป็นพ่อ หรือเป็นทหารน่ะ”ชานยอลบอกก่อนจะล้มตัวนอนข้างๆลูกตัวน้อย
“เป็นแฟนนาย”คริสพูดเสียงเรียบ แต่แววตาแฝงแววกวนประสาทจนได้ค้อนจากชานยอลเป็นรางวัล
“เล่านิทาน”โยฟานพูดแทรกขึ้น พร้อมกับกระตุกชายเสื้อของชานยอล แต่คริสดันตอบแทน
“ไม่มี”เด็กน้อยหน้าสลด จนชานยอลถลึงตาใส่คริส
“เล่าเรื่องในทะเลให้ฟังดีกว่า อยากฟังมั้ย”ร่างโปร่งเอ่ยถาม
“ในนรกด้วยได้มั้ยคะ”โยดายกมือขึ้นถาม ชานยอลหลุดยิ้ม กอนที่คริสจะตอบ
“ได้ครับ แต่เรื่องสั้นๆนะ ดึกแล้ว ลูกต้องนอนได้แล้ว”คริสเอ่ยบอก ก่อนที่ชานยอลจะเริ่มเล่าเรื่องท้องทะเลให้โยฟานและโยดาฟัง เด็กน้อยตั้งหน้าตั้งใจฟัง จนคริสแอบยิ้มให้กับความน่ารักของลูกทั้งสอง
“อยากไปทะเลไวๆจัง จะไปหาพี่ชาร์กคนหล่อกับพี่เงือกตัวน้อยๆ ”โยฟานพูดพร้อมกับทำท่าปลาว่ายอยู่ในน้ำ
“เดี๋ยวได้ไปแน่นอนครับ ตัวแสบ”ชานยอลตอบพร้อมกับบีบจมูกรั้นอย่างหมั่นเขี้ยว
“พี่โยดาอยากฟังเรื่องนรก เล่าให้ฟังหน่อยสิคะ”โยดาหันไปหาคุณพ่อ ก่อนที่คริสจะเริ่มเล่าเรื่องในนรกคร่าวๆให้โยดาฟัง ฝาแฝดตัวน้อย ทำหน้าตกใจทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องตื่นเต้น ก่อนที่ความสนใจของพวกเขาจะค่อยๆลดลงเพราะความง่วงงุน ดวงตาเล็กๆสองคู่ค่อยๆปิดลง เด็กน้อยเบียดตัวเข้าหาพ่อกับแม่ราวกับลูกแมวตัวน้อยที่อยากอยู่ในอ้อมอกของพ่อกับแม่
“หลับซะละ”ชานยอลพูดขึ้น ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากฝาแฝดทั้งสองคน ในขณะที่คริสลูบผมโยดาที่อยู่ในอ้อมกอดเบาๆ
“ควรจะหลับได้ตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วแล้วด้วยซ้ำ”ร่างสูงพูดก่อนจะเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มให้คลุมที่อกโยฟาน ชานยอลเบ้ปากก่อนจะตอบ
“จะเป๊ะไปไหน นี่อยู่กับครอบครัวนะ ปล่อยบ้างก็ได้ ไม่ใช่พวกวิญญาณที่ต้องมาสั่งๆ”
“รักเลยทำ”ร่างสูงพูดสั้นๆ จนชานยอลชะงัก ก่อนจะตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”คริสยิ้มน้อยๆก่อนจะกอดตัวชานยอลไว้
“นี่…..ลูกนอนด้วยอย่างนี้ จะรักนายก็ไม่ได้แล้วสิ”ร่างโปร่งถลึงตาใส่
“ยังจะคิดอยู่อีก!”ร่างสูงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะตอบ
“นายต้องหาเวลาให้ฉันได้รักนายด้วย”
“ไอ้บ้า! นอนได้แล้วไป ง่วงแล้ว”ชานยอลตัดบทก่อนจะแกล้งหลับตา
“ง่วงขึ้นมาเชียวนะ”คริสหยอกก่อนลูบไล้แขนของชานยอลเบาๆจนร่างโปร่งจักจี้
“อะไรเล่า! คนจะนอน”ร่างโปร่งแกล้งหงุดหงิด สะบัดแขนอีกฝ่ายออก ก่อนจะมองหน้าคริสตาเขียว
“หน้านายตอนนี้มันน่า……..รัก จริงๆ”คริสยิ้มเจ้าเล่ห์ พร้อมกับแกล้งโน้มหน้าไปหา ร่างโปร่งรีบผงะถอยออก
“เดี๋ยวลูกตื่น อยู่เฉยๆเลย จะนอนแล้ว!”ชานยอลยื่นคำขาดก่อนจะซุกตัวกอดลูกตัวน้อย แล้วหลับตา คริสหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งห้องจะค่อยๆเงียบลง ชานยอลไม่ยอมลืมตา ในขณะที่เขาก็ไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่นอนมองภาพครอบครัวสุขสันต์อยู่อย่างนั้น
มันมีความสุขอย่างน่าประหลาด ทุกอย่างตื้นตันอยู่ในอก ลูกตัวน้อยๆสองคนนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขากับชานยอล ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบและอบอุ่น นี่หรอความรู้สึกของพ่อกับแม่เวลาที่มองลูกๆ มันมีความสุขอย่างนี้เองหรือ
“ชานยอล…”ร่างสูงเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเบา เปลือกตาบางวูบไหวเล็กน้อย แต่ไม่ยอมลืมตาก่อนจะตอบกลับมา
“อะไร”
“พรุ่งนี้พาลูกไปหาพ่อกับแม่กัน”ชานยอลลืมตาตื่นขึ้นมาสบตากับอีกฝ่าย
“จริงสิ เราควรจะพาลูกไปหาพ่อกับแม่”
“ใช่ พรุ่งนี้แม่จะลงไปหาพ่อฉันอยู่พอดีด้วย”คริสเอ่ยบอก โชคดีที่พรุ่งนี้แม่เขาจะลงไปเยี่ยมพ่อของเขายังนรกใต้พิภพ ตรงตามกำหนดการที่เพอร์เซอร์โฟเนจะต้องขึ้นมาบนโลกในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้ทั้งสองไม่ต้องพบเจอกันตรงๆ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องดีแล้ว เพราะแม้ว่าเทพีจะไม่เคียดแค้นมาธาร์อย่างแต่ก่อน แต่ก็ใช่ว่าเธอจะทำใจให้ไม่รู้สึกอะไรได้หากสามีต้องมาเจอกับคนรักเก่า
“งั้นก็พาลูกไปหาพ่อแม่นายก่อน แล้วค่อยขึ้นไปหาพ่อฉัน”คริสพยักหน้า ก่อนจะมองดูลูกทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม
“ลูกต้องสนุกแน่ได้ไปทั้งนรก ทั้งทะเล พ่อแม่พวกเราคงต้องปวดหัวแน่”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น