คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เพื่อนใหม่
รักหมดใจนาย
......ครืน......
เสียงเครื่องบินโบอิ้งลำใหญ่กำลังทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
สนามบินที่ยิ่งใหญ่ ทันสมัย และเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ????
สายตานับร้อยนับพันคู่ภายในสนามบินกำลังจับจ้องไปยังหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง ริมฝีปากแดงระเรื่อ ผมสีบรอนเทา และดวงตาสีฟ้าอมเขียวดุจน้ำทะเล ที่กำลังก้าวเดินอย่างสง่างามโดยมีชายชราใส่สูทสีดำเดินเข็นรถเข็นที่มีกระเป๋าจำนวนมากวางอยู่
ทั้ง 2 ต่างไม่ใส่ใจกับสายตาที่มองมานัก โดยเฉพาะหญิงสาวที่ถูกจับจ้องเป็นพิเศษ ด้วยรูปกายภายนอกของเธอที่ได้รับมาจาก 4 สัญชาติไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ไทย รัสเซีย และเอ็กโซเซีย โดยเฉพาะเอ็กโซเซีย ประเทศที่เธออาศัยตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันอายุ 17 ปี และปีที่ 17 นี่เองที่เธอต้องเดินทางมายังประเทศไทยตามคำสั่งของพ่อและแม่เพื่อหาประสบการณ์ชีวิตในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน
ทั้ง 2 ก้าวเท้าขึ้นรถยุโรปคันหรูสีดำติดฟิล์มกันแสงซะมืดสนิทจนคนภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาภายในได้ รถยนต์แล่นเข้าสู่กรุงเทพมหานครแดนสวรรค์ของชาวไทยตามจุดมุ่งหมายของทั้ง 2 คน
“เบิร์ตหยุดที่ห้างนั่น”
“ครับกระหม่อม”
ชายชราตอบรับด้วยน้ำเสียงนอบน้อมก่อนจะเปิดไฟเลี้ยวและหักพวงมาลัยรถเพื่อเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมือง หญิงสาวก้าวเท้าลงจากรถทันทีที่รถจอดสนิทพลางส่งสายตาบอกชายชราที่อยู่ในรถว่าไม่ให้ตามเธอมา
เธอเดินเข้าไปยังภายในห้างตามเป้าหมายที่เธอวางไว้แต่แรกตั้งแต่ที่มาถึงประเทศไทย เธอตรงไปยังสิ่งที่เธอตั้งใจจะทำทันที
เธอเงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่อร้านตัดผมชื่อดังแห่งหนึ่งก่อนจะเดินเข้าร้านท่ามกลางการต้อนรับของพนักงานสาว
เธอได้แต่พยักหน้าตอบรับอย่างเรียบๆ และเดินไปนั่งรอจนถึงคิวของเธอเอง
“เอาทรงนี้”เธอชี้นิ้วมืออันเรียวงามลงไปบนแบบทรงผมที่ทางร้านมีไว้ให้ลูกค้าเลือก แต่เมื่อช่างตัดผมก้มลงมองดูกลับต้องถามเธอย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“แน่เหรอค่ะ”
“อืม ตัดซิ”เธอตอบกลับอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มพลางจ้องมองใบหน้าของตัวเองที่ถูกสะท้อนอยู่บนกระจกบานใหญ่
ด้วยระยะเวลาไม่นานนัก ทรงผมทรงใหม่ของเธอก็ออกมาเสร็จสมบรูณ์ซึ่งมันช่างเป็นทรงผมที่ขัดกับการแต่งตัวของเธอในตอนนี้ซะจริง จากผมยามเป็นลอนสีบรอนเทากับถูกตัดซะสั้น ไว้ลากไทรระกับบ่า ผมข้างหน้าถูกสไลด์ไล่ระดับและข้างบนถูกตัดสั้นพอประมาณ ถ้าจะพูดกันจริงๆมันเป็นทรงสุดนิยมของทอมไทยนั่นเอง
“ขอบใจ ไม่ต้องทอนนะ”เธอหยิบเงินออกมาจ่ายและเดินไปโดยไม่รอช้า เพราะยังมีสถานที่อีกที่หนึ่งซึ่งเธอตั้งเป้าหมายไว้ นั่นก็คือร้านเสื้อผ้า
บรรดาเหล่าเสื้อผ้ามากมายถูกหยิบส่งไปยังพนักงานขายด้วยท่าทางงงๆของพนักงานขายเอง เพราะเสื้อผ้าแต่ละตัวที่เธอหยิบส่งไปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเสื้อผ้าแบบผู้ชายทั้งสิ้น ซึ่งมันผิดกับชุดที่เธอใส่อยู่ตอนนี้จนพนักงานขายได้แต่มองสลับไปมาด้วยความงง
เธอเองได้แต่จ่ายเงินและนำเสื้อผ้าชุดหนึ่งที่ซื้อเข้าไปเปลี่ยน และหิ้วถุงเสื้อผ้าที่ซื้อมาหลายถุงด้วยรอยยิ้มนิดๆที่มุมปากพร้อมกับเดินกลับไปยังลานจอดรถอีกครั้ง
ชายชราเปิดประตูรถพร้อมกับมองไปยังหญิงสาวด้วยหัวใจที่แสนจะทรมาน รถยนต์ถูกแล่นออกพร้อมกับบทสนทนาที่ชายชราได้แต่พูดแบบจำยอม
“ฝ่าบาททำเช่นนี้ไม่กลัวเสด็จพ่อว่ารึ”ชายชราในชุดสูทสีดำพูดพร้อมกับมองไปยังกระจกหลังเพื่อให้เห็นใบหน้าของบุคคลที่เขาพูดด้วย
“จะกลัวทำไม ในเมื่อตัวจริงของเราก็เป็นแบบนี้ ท่านพ่อเองก็รู้ดี เบิร์ตอย่างกังวลไปเลย”
“แต่ฝ่าบาท”
“เอาเถอะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเรารับผิดชอบเอง แล้วก็เลิกเรียกเราว่าฝ่าบาทได้แล้ว เราต้องปิดบังตัวตนเบิร์ตลืมไปแล้วรึ
เบิร์ตเรียกเราว่าเรย์ก็พอ”
“ครับกระหม่อม”ชายชราพูดพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ มีหวังถ้าทางเอ็กโซเซียรู้ว่าเจ้าหญิงหรือองค์รัชทายาทที่กำลังจะขึ้นครองราชย์ในอีกไม่นานกลายเป็นแบบนี้ไปแล้วล่ะก็ เขาคงมีหวังหัวหลุดจากบ่าแทนที่จะแก่ตายอย่างธรรมชาติแน่ๆ
รถยนต์ถูกแล่นเข้าสู่รั้วบ้านขนาดกลางที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่โตนัก รอบๆบ้านอัดแน่นไปด้วยต้นไม้นานาพรรณที่สร้างบรรยายร่มรื่นให้แก่บ้านจนไม่อาจจะคิดได้ว่าอยู่ในกลางกรุงเทพฯ
ทั้ง 2 ก้าวลงจากรถพร้อมกับสำภาระในมือท่ามกลางการออกมาต้อนรับของหญิง ชายและลูกสาวที่อยู่ในวัยเดียวกันกับเรย์
“เดินทางเหนื่อยมั้ยค่ะ”เสียงใสๆของหญิงสาวดังขึ้นเป็นการทักทาย
“นิดหน่อย”เรย์ตอยกลับเสียงเรียบพร้อมกับประเมิณหญิงสาวตรงหน้าที่แม่ของเขาบอกว่าเป็นเพื่อนสมัยเรียนอย่างวิเคราะห์ว่าเธอคงจะเป็นคนใจดีอย่างที่แม่ของเขาบอกจริงๆ
“งั้นเชิญเข้าด้านในก่อนดีกว่าครับ”ฝ่ายชายพูดขึ้นบ้างจนเรย์หันไปมอง เขาคงเป็นสามีของเธอเป็นแน่ เขาได้แต่คิดเพียงเท่านั้นพร้อมกับก้าวเท้าเข้าบ้านด้วยท่าทีเหนื่อยอ่อน
“เราขอพักเลยได้มั้ย”เรย์พูดขึ้นทันทีที่เห็นคู่สามีภรรยาเจ้าของบ้านทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา
“งั้นนิ้งพาขึ้นไปที่ห้องซิลูกแล้วก็ช่วยจัดข้าวจัดของด้วยนะ และที่สำคัญอย่าเสียมารยาท”
“ค่ะแม่”หญิงสาวผมยาวถึงกลางหลังสึดำสนิท ดวงตากลมโตดูสดใสตอบกลับไปยังแม่ของตัวเองด้วยรอยยิ้มแหยๆ
“ตามมา”เธอหันมาพูดกับเพื่อนร่วมบ้านที่จะเข้ามาอยู่ในชายคาเดียวกันกับเธอในฐานะลูกของเพื่อนแม่เธอและในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนของโรงเรียนเธอเอง
เรย์เดินตามเธอขึ้นไปยังชั้น2 โดยชายสายตามองมายังเบิร์ตว่าเป็นการเข้าใจกันในการที่จะให้เบิร์ตอธิบายเรื่องที่2สามีภรรยาคู่นี้ควรจะรู้ในเรื่องของเขาเอง
......................................................
“พวกคุณคงรู้ใช่มั้ยครับ ว่าเอ็กโซเซียกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่”เบิร์ตหรือชายชราผู้ติดตามพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมกับมองไปยัง 2 สามีภรรยาที่นั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับเขา โดยมีการโต้ตอบกลับมาเพียงการพยักหน้าเป็นเครื่องหมายว่าเข้าใจของ 2 สามีภรรยาคู่นี้เท่านั้น
“ฝ่าบาทกำลังจะขึ้นครองราชย์ต่อจากเสด็จพ่อในอีกไม่ช้า แต่ที่ถูกส่งตัวมาที่นี่เพราะมีพวกหัวเก่าบางกลุ่มคัดค้าน คุณคงจะรู้ดีมันก็เป็นเรื่องเก่าๆ เกี่ยวกับสายเลือดขององค์รัชทายาทที่เสด็จพ่อหรือกษัตริย์องค์ปัจจุบันสืบสายเลือดมาจาก รัสเซียและเอ็กโซเซีย ส่วนเสด็จแม่ของพระองค์ทรงเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นไทย พวกคนหัวเก่าจึงคัดค้านเพราะคิดว่าองค์รัชทายาทมีสายเลือดเอ็กโซเซียเพียงน้อยนิด”
“จึงไม่เหมาะสมที่จะขึ้นครองราชย์ต่อ”ฝ่ายภรรยาพูดแทรกขึ้นเพราะพอจะเข้าใจสถานการณ์ดี
“ใช่....แล้วอีกอย่างก็เกิดปัญหาจากตัวองค์รัชทายาทเองด้วย ที่ท่านเอ่อเป็น....เป็น”
“เป็นผู้หญิงอย่างนั้นรึ”ฝ่ายสามีเริ่มสงสัย
“ไม่ใช่ ประเทศของเราไม่ว่าหญิงหรือชายสามารถขึ้นครองราชย์ได้ แต่ๆพวกท่านคิดว่าองค์รัชทายาทดูเป็นผู้หญิงนักรึ”
“เอ่อ...ก็ใช่”2 สามีภรรยาตอบรับออกมาเป็นเสียงเดียวกัน เพราะจากภาพที่พวกเขาเห็นนั้นต้องบอกว่านั่นมันทอมชัดๆไม่ใช่ผู้หญิงซักนิด
“นั่นแหละปัญหาสำคัญ หากพวกหัวเก่ารู้เรื่องนี้เข้าคงจะยิ่งต่อต้าน ดังนั้นพระราชินีจึงได้ส่งองค์รัชทายาทแห่งเอ็กโซเซียมาฝากพวกท่านที่เป็นพระสหายสนิทดูแล เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านทั้ง 2 จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และไม่บอกฐานะที่แท้จริงขององค์รัชทายาทให้ผู้ใดรับรู้เพื่อความปลอดภัยของพระองค์”
“พวกเราจะดูแลองค์รัชทายาทให้ดีที่สุด ความลับจะไม่มีทางรั่วไหลแน่นอนแม้แต่ลูกสาวเรา เราก็จะไม่บอก พวกเราสัญญา”
“ขอบคุณท่านมาก”เบิร์ตลุกขึ้นยืนพร้อมกับก้มตัวคำนับเป็นการให้เกียรติแก่ 2 สามีภรรยา ตอนนี้เขารู้สึกโล่งใจมากที่เดียวที่องค์รัชทายาทหรือฝ่าบาทที่เขารักจะได้อยู่ในการดูแลของคนทั้ง 2 ที่เป็นคนดีเช่นนี้
........................................................
“นี่ห้องนาย”นิ้งหรือหญิงสาวตัวเล็กพูดพร้อมกับหมุนลูกบิดประตูและก้าวเท้าเข้าห้อง ตามด้วยเรย์ที่เดินตามเข้ามาภายใจห้องอีกคน เรย์มองสำรวจไปรอบๆห้องอย่างพิจารณาจนหญิงสาวตัวเล็กถึงกับตั้งคำถาม
“อยู่ได้มั้ย”
“อยู่ได้”เรย์ตอบกลับเสียงเรียบพร้อมกับปล่อยข้าวของที่อยู่ในมือลง
“นายพูดภาษาไทยชัดนะ...ชัดจนแทบไม่อยากเชื่อ”
“ก็เราพูดกับแม่ทุกวัน จะไม่ชัดได้ยังไง”
“ว่าแต่นายชื่ออะไร เราชื่อนิ้ง”
“เราเรย์”เรย์ตอบกลับเสียงเรียบใบหน้ายังคงนิ่งเฉยผิดกับนิ้งที่ตอนนี้เธอออกจะดูวุ่นๆกับการจัดของให้เข้าที่เข้าทางภายในห้อง
“เห็นแม่บอกว่านายเป็นลูกครึ่งตั้ง 4 ชาติ”บทสนทนาบทใหม่ถูกหยิบยกขึ้นด้วยปากน้อยๆของนิ้งที่ต้องการทำลายบรรกาศอันเงียบเชียบ
“อืม”
“อะไรบ้าง”
“ไทย ญี่ปุ่น รัสเซีย เอ็กโซเซีย”เรย์ยังคงตอบเสียงเรียบ เขาเองได้แต่นึกในใจว่าเธอที่อยู่ตรงหน้าคงจะเป็นคนที่เข้าพูดด้วยมากที่สุดรองจากแม่ของเขาเอง เพราะตัวเขาเองไม่ชอบสุงสิงกับใครซักนิด แต่ก็แปลกใจที่ไม่รู้สึกอึดอัดหรือรำคาญกับคำถามของเธอเลย
“อย่างนี้ก็ดีนะซิ”
“ไม่ดีอย่างที่คิดหรอก....เอ่อ..เสื้อผ้าไม่ต้องนะเดี๋ยวเราจัดการเอง”เรย์พูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการเดินทาง
“อืม.....”หญิงสาวตอบรับพร้อมกับจ้องมองไปยังร่างสูงโปร่ง
“ขอถามอะไรอีกอย่างได้มั้ย”นิ้งพูดขึ้นอีกครั้งทั้งๆที่รู้ว่าคำถามที่เธอถามอาจจะไปรบกวนเวลาพักผ่อนตอนนี้ของเขาก็เป็นได้
“อืม.....ถามมาซิ”
“สีผมนั่น.....”
“มรดกจากพ่อ...มรดกของตระกูล”เรย์พูดยิ้มๆ สีผมที่แตกต่างจากคนอื่นๆบนโลกมันพอจะทำให้เขาอดภูมิใจไม่ได้ ว่าอย่างน้อยเขาเองก็มีสายเลือดของเอ็กโซเซียไปไม่น้อยกว่าใคร เพราะมันถือเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างง่ายๆจากสีผมของเขาที่มีแต่คนในตระกูลวาโคนี่แห่งราชวงศ์เอ็กโซเซียเท่านั้นที่จะเป็นเช่นนี้
“แปลกดีนะ...สวยดีเงางามเหมือนเส้นไหม”
“ขอบใจ”
“อืม...งั้นพักผ่อนเถอะ ถ้ามีอะไรก็เรียกเราได้นะ ห้องเราอยู่ตรงข้ามกับห้องนาย”
“อืม..ยังไงก็ขอบใจอีกครั้งนะ”เรย์ตอบรับด้วยรอยยิ้ม
นิ้งหันตัวกลับพร้อมกับเปิดประตูและปิดมันลงอย่างรวดเร็ว นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีทีเดียวสำหรับเพื่อนใหม่ที่ดูทั้งน่าสนใจและน่าค้นหา
.........................................................
การดำเนินชีวิตของครอบครัวนี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยที่พวกเขาเองไม่อาจคาดเดาได้ ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเริ่มขึ้นทั้งสิ่งดีและสิ่งไม่ดี คงจะมีแต่การคาดเดาที่สามารถจะทำได้แค่นั้นในตอนนี้สำหรับในอนาคตที่จะเกิดขึ้นในวันหน้า
ความคิดเห็น