ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #รอยสักจอน [JUNGKOOK X YOU] *tattoo Jeon*

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter Jeon : 13 [ 100% ]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.78K
      481
      5 ก.ย. 62

    B
    E
    R
    L
    I
    N





    Chapter 13














        YOU




        ฉันตัดสินใจได้ก็จัดการเก็บของที่เหลือใส่กระเป๋าที่หามาได้ ชุดเดิมของฉันและเงินจำนวนนึง นอกนั้นโทรศัพท์ของฉันหายไป ไปกับคนใจร้ายนั่น ซึ่งทำให้ฉันติดต่อใครไม่ได้เลยสักคน





        เผลอแปปเดียว ฉันก็เดินออกมาจากตัวบ้าน พลางหันกลับไปมองและถอนหายใจเฮือกใหญ่..ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืด ฉันแอบกลัวอยู่ไม่น้อยที่ต้องเดินผ่านความมืดพวกนั้นไป แม้จะมีเสาไฟอยู่เป็นจุดๆอยู่ก็ตาม แต่ฉันต้องหาโอกาสหนีออกไปเพราะตอนนี้จองกุกไม่อยู่ จะหายไปไหนก็เรื่องของเขา






        ไม่เกี่ยวกับฉันเลยสักนิด....






        "อึก จะไปคิดถึงมันทำไม..คนแบบนั้น" อยากจะห้ามตัวเองว่าให้หยุดสักที หยุดดื้อได้แล้ว ทำไปแล้วมันไม่มีอะไรดีก็ไม่จำเป็นทำ หากเขาต้องการ อยากให้ฉันออกไปจากชีวิตและหยุดทำให้เขาต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องลูก ฉันก็ควรไป...








        นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด











        ท้องฟ้ายามค่ำคืน บนทะเลสีครามจากด้านบนเต็มไปด้วยหมู่ดาวระยิบระยับ งดงามไปเสียหมด ชนบทที่หาดูดาวสวยๆพวกนี้ได้อยาก..ทำให้ฉันอดที่จะยืนเงยหน้ามองไม่ได้ นานแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ได้มองดาวสวยๆพวกนี้





        หลังจากที่ย้ายมาอยู่เกาหลี ฉันก็ไม่เคยได้เห็นดาวเต็มๆท้องฟ้าแบบนี้มาก่อน...มองนึกย้อนก็หวนกลับไปคิดถึงแม่ บ้านเกิด บ้านอันแสนอบอุ่นที่เคยอยู่ ชนบทนอกเมืองเต็มไปด้วยทุ่งข้าวบาเลย์และดอกคาเนชั่น สวนผลไม้ของชาวบ้าน เบอร์รี่แสนอร่อย และฟารม์สัตว์ที่ฉันชอบแอบหนีแม่ไปเล่นกับแกะขนฟูทุกๆวัน





        ตอนนี้..ฉันอยู่ที่ไหน ที่ที่มีแต่คนแปลกหน้า และหาทางออกไม่ได้ ฉันต้องการออกไปจากที่นี่..หากทำได้ ฉันจะไม่กลับมาอยู่เกาหลีอีก ถ้ามีใครต้องให้จะไป



                       
        ".....จำอะไรไม่ได้..." ความทรงจำดีๆพวกนี้ จำได้เท่านี้จริงๆ ฉัน..จำอะไรไม่ได้ ว่าตอนเด็กๆเคยทำอะไรไว้บ้าง มีแค่ความคิดบางส่วนที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของฉัน





        คนที่เคยรู้จัก ก็จำไม่ได้นอกจากพ่อแม่ตัวเองที่คอยช่วยเหลือมาโดยตลอด....แต่ยังมีอีกคนที่ฉันเคยรู้จัก แต่ฉันนึกมันไม่ออก เธอเป็นผู้หญิง ฉันจำได้แค่นี้







        "อ๊า!!...ปวดหัว.." มือเล็กเผลอปล่อยกระเป๋าในมือลงก่อนที่จะยกขึ้นกุมขมับตัวเองเอาไว้ ความเจ็บปวดตรงเส้นประสาทแบบนี้มันอะไรกัน พอฉันนึกถึงเรื่องพวกนี้ สมองของฉันก็ทำงานหนักและปวดหัวมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ทำไมไม่เหมือนเดิม รู้สึกหน้ามืดและร่างกายเริ่มอ่อนล้า






        ร่างเล็กเซเกือบหัวทิ่มไปข้างหน้าก่อนที่จะทรุดลงนั่งตัวอ่อน ควบคุมสติไม่ได้เพราะหน้ามืดและปวดหัว ก่อนจะสลบแล้วทรุดตัวนอนลงไปกับพื้น













        ภายในตัวห้องนอนเล็กๆ จัดวางไปด้วยของใช้เก่าๆอย่างเป็นระเบียบ ตัวฟูกที่นอนถูกปูไว้อย่างเป็นระเบียบพร้อมมีร่างเล็กๆนอนไม่ได้สติอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาที่ถูกห่มให้ด้วยฝีมือของหญิงสาวอีกคน...








        มือเล็กของเธอบิดผ้าชุปน้ำเย็นๆก่อนที่จะซับลงผิวบางของหญิงสาวอย่างเบามือ..คนตัวเล็กนอนแน่นิ่งและปล่อยให้คนแปลกหน้าเช็ดตัวให้ ตามใบหน้าและแขน หวังว่าคงจะทำให้หญิงสาวฟื้นตัวเร็วๆ





        เพราะตั้งแต่เมื่อคืนแล้วที่(ชื่อคุณ)สลบไม่ตื่น สังเกตได้จากลมหายใจ ร่างกายเพื้อมเบาๆด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด..อาการแบบนี้น่าเป็นห่วง คงเจออะไรมาเยอะสินะถึงได้ดูบอบบางขนาดนี้







        "เป็นยังไงบ้าง?" มือเล็กชะงักลงก่อนที่จะหันไปมองชายหนุ่มอีกคนที่เลื่อนประตูออกแล้วถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องนอนของน้องสาว



        "พี่...ทำไมตื่นเช้าจัง?"



        "ก็...." ร่างสูงอ้ำอึ้งสักพักแล้วเหลือบสายตาคมๆไปมองคนตัวเล็กที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่ม



        "เอ๊ะนี่..หรือว่า..." น้องสาวตัวเล็กของเขายกยิ้มกวนๆพร้อมชี้นิ้วไปที่ใบหน้าของพี่ชายก่อนจะสลับไปมากับร่างบางที่นอนอยู่



        "อย่ารู้เยอะยัยเด็กนี่...เอ่อ ก็นั่นแหละ แค่อยากแวะมาดูเฉยๆว่าเธอเป็นยังไงบ้าง?" ซึ่งชายหนุ่มเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอยากรู้มากแค่ไหนกับอาการของร่างเล็ก







        เพราะจริงๆแล้วผู้ชายคนนี้เป็นคนช่วย(ชื่อคุณ)ไว้เอง หากเขาไม่วิ่งออกไปซื้อของให้คุณยายตอนกลางคืนล่ะก็ เขาจะเจอมั้ยว่ากำลังมีคนต้องการความช่วยเหลือ..นาทีแรกที่เห็นใบหน้าของหญิง ชายคนนี้ก็แอบหวั่นไหวอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือต้องช่วยร่างเล็กเอาไวเสียก่อน...




        "หึ..ยังไม่ได้สติเลยพี่ ฉันว่าเธอดูเหนื่อยๆนะ จะฟื้นรึเปล่าก็ไม่รู้"


        "นั่นปาก!!..เดี๋ยวเถอะ"


        "ฉันก็แค่คิดเฉยๆ พี่เนี่ยก็..."


        ร่างสูงได้แต่ยืนแยกเขี้ยวใส่น้องสาว ก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้แล้วนั่งลงข้างๆที่ฟูกนอนพื้น ดวงตาคมกวาดมองใบหน้าหวานอย่างสงสัย คิ้มหนาขมวดเมื่ออยู่ๆก็นึกได้ว่าเคยเจอผู้หญิงคนนี้ที่ไหน...ใช่ ใช่จริงๆด้วย คนที่เดินอยู่ตลาดท่องเที่ยววันนั้น เดินไปกับ จอน จองกุก 



        จอน จองกุก...ผู้ชายคนนั้น เขารู้จัก เพราะจองกุกมาที่นี่ทุกๆปี และเป็นที่รู้จักของใครหลายๆคนในหมู่บ้าน รวมถึงครอบครัวของเขาก็รู้จักจองกุกเช่นเดียวกัน เฉกเช่นยัยน้องสาวตัวแสบที่แอบคลั่งจองกุกอยู่เงียบๆเพราะความหล่อเกินบ้างเกินเมืองของเขานั้นเอง



        ว่าแต่..ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับจองกุกนะ พึ่งเคยเห็นครั้งแรก ถ้าเป็นแฟนกัน ยัยน้องสาวของเขาคงกรี๊ดลั่นบ้านแน่ๆ-_-




        "ฉันว่าฉันออกไปทำกับข้าวช่วยยายก่อนดีกว่า"


        "เอ่อ ไปดิ"


        "ว่าแต่พี่ไม่ไปทำงานรึไง?"


        "วันนี้วันหยุด ยัยงั่ง"


        "เชอะ! แล้วอย่าลืมไปเก็บผักมาไว้ด้วยล่ะ!!!"    สองพี่น้องดูเหมือนจะไม่ลงรอยกันในตอนนี้เช้า หลังจากที่น้องสาวของเขาเดินออกไปจากห้อง ก็เหลือเพียงแค่ชายหนุ่มและหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้า มือหนาเก้ๆกังๆอยู่ไม่น้อยพลางตัดสินใจว่าจะลองแตะตัวดูดีมั้ยนะ จะตัวร้อนรึเปล่า เผลอๆอาจจะไม่สบายก็ได้


        ร่างหนาส่ายหัวหน่อยๆก่อนที่จะถือวิสาสะเอื้อมมือลงไปเกลี่ยผมให้คนตัวเล็ก..ใบหน้าหวานที่ซีดเผือกจนอดที่จะคิดมากไม่ได้ว่าร่างบางจะเป็นอะไรมากรึเปล่า หากหล่อนฟื้นขึ้นมาตอนนี้ก็คงจะดี



        "เห้อ..."




        "อือ..."    เสียงเล็กแหบซ่านครางอู้อี้ในลำคอ เปลือกตาคู่สวยยังคงปิด เพียงแค่ร่างกายเริ่มขยับตัวขึ้นมาทีละน้อยๆ...หลังจากนั้นคนตัวเล็กก็ค่อยๆลืมตาขึ้นและพยายามที่จะยันตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ทว่าก็โดนชายหนุ่มจับตัวลงนอนราบอีกครั้ง





        เปลือกตาบางๆเปิดขึ้น ภาพตรงหน้าชัดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด..ใบหน้าของผู้ชายคนนึงที่กำลังจ้องมองฉันอย่างตั้งอกตั้งใจ วินาทีแรกรูปลักษณ์หน้าตาของเขาเหมือนจองกุก แต่ก็ไม่ใช่ ฉันตาฝาดไปเอง เขาไม่ใช่จองกุกแต่เป็นชายอื่น..


        "คุณเป็นใคร...?"   ฉันเอ่ยถามอย่างสงสัย


        เขาเป็นใครกัน..แล้วฉันอยู่ที่ไหน


        "ผมชื่อโดยูง ผมเป็นคนช่วยคุณไว้^^"


        "คะ?"


        ช่วยหรอ อ่า นี่ฉันเป็นอะไรไป พอนึกๆได้เหตุการณ์ครั้งสุดท้ายก็ดับวูบ แล้วหลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย


        "คุณสลบอยู่ข้างทางน่ะ ผมเลยพาคุณกลับมาที่บ้าน..แหะๆไม่ต้องห่วงนะเสื้อผ้าของคุณน้องสาวผมเป็นคนเปลี่ยนให้แล้วล่ะ :)"    ผู้ชายที่บอกว่าชื่อโดยยูง เผยยิ้มบางๆอย่างเป็นมิตรและอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฉันฟัง


        "งั้นหรอ..ขอบคุณนะคะ"


        หมายความว่าตอนนี้ฉันยังอยู่ที่เดิม ที่ที่จองกุกพามา..ฉันอุส่าห์พยายามหนี แต่ทำไมฉันไม่หลุดพ้นจากที่นี่สักที แล้วสภาพร่างกายตอนนี้อีกล่ะ จะเอาแรงที่ไหนกลับบ้าน แค่นี่ก็ทรมารจะตายอยู่แล้ว



        "ฉันอยากกลับบ้าน.."


        "ครับ?..ไม่ได้นะ! ตอนนี้คุณกำลังป่วย อยู่พักที่ก่อนเถอะ พอหายดีแล้วผมจะไปส่งเองครับ^^"


        "จะ..จะดีหรอคะ คือว่าฉันต้องกลับโซล"


        "เอ๊ กลับโซล..อ้าว แล้วจองกุกล่ะ พวกคุณมาด้วยกันไม่ใช่หรอ?"



        คนข้างๆพูดเหมือนรู้ดี แต่มันก็ถูกของเขา ฉันมากับจองกุก..แต่ต้องการไปจากเขาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้..เรื่องแบบนี้ฉันไม่ควรพูดให้ใครฟัง เพราะฉันไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนด้วย




        ฉันเงียบลงสักพัก ภายในตัวสมองมันสับสนไปหมด..เมื่อได้ยินชื่อของจองกุก หัวใจของฉันมันก็บีบรัดอย่างเจ็บปวด ความรู้สึกดีๆมันกำลังเล่นงานฉัน เปลี่ยนกลายไปเป็นความกลัว กลัวทั้งๆที่ยังรัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหนีความจริง....จองกุก เขาหลอกหลอนฉันไปทุกที




        "ละ..แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่กับจองกุก"   ร่างเล็กกักกลั้นความรู้สึกเสียใจเอาไว้ภายในอกก่อนที่จะเปล่งเสียงถามออกไปเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่มี...ตอนนี้ฉันจะร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ มันน่าอายจะตายไป



        "อ่อ ผมเคยเห็นคุณน่ะ..ขอโทษนะครับที่ถามแบบนี้ออกไป^^"   ชายหนุ่มยิ้มแห้งพลางยกมือขึ้นลูบท้ายทอยแก้เขิน


        "หึ ไม่เป็นไรค่ะ...ฉันว่าฉันไม่ควรพูดเรื่องนี้"


        "คะ..ครับ"




        ทั้งสองเงียบลง ภายในห้องนอน บรรยากาศเริ่มอึดอัด ต่างคนต่างไม่พูดอะไรต่อ จนโดยูงพูดทำลายความเงียบขึ้นมา


        "อะ..เอ่อ ดีเลย คุณตื่นแล้ว งั้นรอผมก่อนนะครับ"


        "จะไปไหนหรอคะ?"


        "อ่อ  ผมจะไปดูในครัวให้ว่าแม่กับยายทำมื้อเช้าเสร็จรึยัง..."


        "อ่อค่ะ^^"   ฉันตอบรับพร้อมยิ้มน้อยๆ ก่อนที่คุณโดยูงจะเดินออกไปจากห้อง


        ตอนนี้ เหลือแค่ฉันคนเดียว ฉันมองไปรอบๆห้อง สภาพห้องแบบไม้เหมือนบ้านเกาหลีในสมัยโบราณ อากาศเย็นสบายถ่ายเทอยู่ตลอดเวลาทำให้ร่างกายของฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นอยู่ไม่น้อย..ฉันคิดว่าตอนนี้อาการของฉันเริ่มดีขึ้นแล้วจึงตัดสินใจเดินออกไปจากตัวห้องช้าๆ เท้าแตะลงพื้นไม้เย็นๆเบาที่สุดจนไม่ได้ยินเสียงเดินแต่กลับได้ยินเสียงไม้ดังเอี๊ยดอ๊าด สามารถรู้ได้ว่าบ้านหลังนี้ถูกใช้มานานมากแค่ไหนและยังคงสภาพไว้เหมือนเดิม




        สายลมแห่งฤดูร้อนพัดผ่านกระทบร่างเล็กๆ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาพร้อมกับอุนหภูมิอุ่นๆในยามเช้า ต้นไม้รอบบ้านเอนไปตามแรงลม กิ่งไม้กระทบหน้ากระทบหลังจนเกิดเสียงอันไพเราะจากธรรมชาติ...ร่างบางสูงอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดลึกๆก่อนที่จะนั่งลงพื้นไม้ที่ยื้นออกมาจากตัวบ้าน


        "..."   ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่นี่อากาศดีมากจริงๆ


        ฉันไม่เคยได้ลองออกมานั่งเล่นแบบนี้ตั้งแต่ถูกพามาอยู่ที่นี่..แม้แต่อิสระก็ไม่เคยได้รับจริงๆจังๆสักที...นึกแล้ว ฉันทนอยู่แบบนั้นได้ยังไง เมื่อก่อนฉันเป็นพวกรักอิสระ ชอบเที่ยว ชอบเดินห้าง แต่ตอนนี้มันคงไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้นอีกแล้ว เพราะฉันมีภาระอันใหญ่หลวงที่ต้องดูแล





        อีกแค่ปีเดียว ใกล้เรียนจบ..ไปพร้อมๆกับเลี้ยงลูก








        อีกด้านของบ้าน โดยูงและคุณยายเดินออกมาจากห้องครัวก่อนที่จะเห็นคนตัวเล็กนั่งเอนกายตามลำพังอยู่หลังบ้าน..คุณยายยิ้มน้อยๆก่อนที่จะเข้าไปนั่งลงข้างๆเด็กสาว ตามมาด้วยโดยูงลงนั่งอีกคนประกบข้าง


        "ตื่นแล้วหรอยัยหนู^^"  ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปยิ้มให้กับคุณยาย


        "ค่ะ..คือว่า..."

        "นี่คุณยายผมเอง ท่านเป็นคนดูแลคุณตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว:)"


        "คะ..ขอบคุณนะคะที่ดูแลหนู ต้องรบกวนคุณยายมากแน่ๆเลย"

        "ไม่เป็นไรหรอก..ตัวเล็กน่ารัก มีน้ำมีนวล ยายก็เอ็นดู ไม่เหมือนหลานยาย ยัยเด็กนั่นไม่ค่อยน่ารักสักเท่าไหร่หรอกฮ่าๆ^^"


        "คุณยายก็ เดี๋ยวมันมาได้ยินจะงอนเอานะครับ^^"

        "เอาสิ กล้างอนยายหรอ?"



        สองยายหลานนั่งคุยกันอย่างเป็นมิตร ฉันเองก็มีส่วนร่วมในบทสนทนา รอยยิ้มแรกของวันนี้ได้เผยออกมาอย่างมีความสุขกับเช้าวันใหม่...ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้ฉันต้องยิ้มไว้ก่อน ก่อนที่ความสุขนั้นจะหายไป



























        JEON



        รถคันหรูจอดเทียบท่าลงหน้าบ้านหลังใหญ่ คนใช้ที่กำลังยืนทำงานอยู่หน้าบ้านต่างตกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อเจ้านายคนเล็กของพวกหล่อนกลับมาที่บ้านในรอบหลายๆเดือน..หญิงแก่ที่มียศเป็นหัวหน้าแม่บ้านต้องรีบวิ่งเข้ามาต้อนรับและเอ่ยถามอย่างเป็นมิตร


        "คุณจองกุกยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ..ทำไมวันนี้ถึง---"


        "มีใครอยู่บ้าน?"


        "คะ?"

       
        "จีมินฮยองอยู่มั้ย...."


        "อ่อ ค่ะ คุณจีมินพึ่งออกไปทำงานเมื่อเช้านี้เอง..แต่วันนี้คุณท่านอยู่บ้านนะคะ..คุณจองกุกจะเข้าไปพบคุณรึเปล่า?"

        แม่บ้านบรรยายยาวเหยียด ทำให้ร่างสูงชั่งใจอยู่สักพักก่อนที่จะตอบออกไป..



        เช้าวันนี้ ไม่ได้ตั้งใจที่จะต้องมาพบพ่อ แต่เหตุผลที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือเรื่องของเยจิน ไม่รู้ว่าจีมินฮยองพาเยจินไปไว้ไหนและอยากจะเคลียร์เรื่องทุกอย่างให้จบๆกันไปสักที


        ครั้งนั้น ผมโกรธมากที่จีมินฮยองกล้าทำแบบนั้นกับเยจิน..ไม่รู้เพราะเป็นห่วงหรือกลัว เลยทำให้ผมหน้ามืดตามัว พลั้งมือทำร้าย(ชื่อคุณ)ไปจนเธอหมดสติ หลังจากนั้นผมอยากจะทำทุกอย่างให้กระจ่างเสียที ผมไม่เข้าใจตัวเองว่า ผมยังรักเยจิน อยู่หรือเปล่า ?





        "..."


        ร่างสูงเดินตามแม่บ้านมาจนถึงห้องรับแขก เท้าหนาหยุดชะงักก่อนที่จะมองไปที่ผู้เป็นพ่อกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ตามลำพัง


        "คุณท่านค่ะ คุณจองกุกกลับมาแล้วค่ะ"    ชายแก่ละสายตาจากหนังสือพิมพ์พร้อมผละริมฝีปากออกจากขอบแก้วกาแฟ ก่อนจะเหลือบมองไปที่ลูกชายคนเล็กที่พึ่งโผล่หน้ามาให้เห็น หลังที่จากทำความผิดไว้เยอะแยะจนคนอื่นต้องเดือดร้อน


        "กลับมาจนได้สินะ..."


        ผมปิดปากเงียบก่อนจะตัดสินใจเดินตรงดิ่งไปนั่งลงบนโซฟา ตรงข้ามกับพ่อ และนั่งมองท่านด้วยแววตาที่ไม่ค่อยสบอารมณ์มากนัก...พ่อไม่ชอบผม ผมเลยไม่อยากเจอท่านสักเท่าไหร่


        "ไม่ได้อยากกลับมาสักหน่อย ผมแค่แวะมาทำธุระ.."   ผมตอบออกไปปัดๆพลางเบือนหน้าหนี


        "งั้นหรอ..ดี แกมาก็ดีแล้ว ฉันมีเรื่องอยากจะบอกแกตั้งนานแล้วล่ะ..แกว่างฟังมั้ยล่ะ?"


        "อื้ม...."    ถึงยังไงซะ มาแล้วก็ไม่เจอใคร พ่ออยากจะพูดอะไรก็พูดมา ผมฟังได้หมดแหละ



        "ฉันอยากบอกแกเรื่องหนู(ชื่อคุณ)...เรื่องงานหมั้น"


        ชายแก่วางหนังสือพิมพ์ในมือลง พลางจัดสรรค์ท่านั่งให้สบายพลางเอนกายและหายใจเข้าปอดเฮือกนึงพร้อมพ้นลมหายใจออกมาอย่างกังวลเล็กน้อย..การที่จะหาโอกาสได้อยู่ด้วยกันแบบนี้มันก็หายาก เขาอยากจะบอกความจริงกับลูกชายให้เข้าใจเสียทีและเลิกดื้อรั้น แล้วกลับมาเป็นผู้เป็นคนสักที...




        "..."    ผมพยักหน้าเบาๆก่อนจะนั่งรอฟังในสิ่งที่พ่อจะกล่าว แต่พอได้ยินชื่อของ(ชื่อคุณ) ผมก็รู้สึกแปลกๆ นึกถึงเธอขึ้นมาทันที..แต่ก็จำได้ว่าตัวเองพูดอะไรไว้ ถ้าหากกลับคำตอนนี้ ผมคงดูโง่ไม่น้อย





        ปากผมบอกว่าเกลียด..แต่ความรู้สึกมันไม่ใช่แบบนั้น





        "เห้อ! เมื่อตอนแกยังเด็กและเกเร เป็นเด็กมีปัญหา...แต่แม่แกกลับมั่นใจในตัวแกที่สุดกับเรื่องแบบนี้...เรื่องงานหมั้น ก่อนที่แม่แกจะเสียแม่แกฝากให้ฉันจัดงานหมั้นให้แกเมื่อเรียนจบ...."


        "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ(ชื่อคุณ)?"


        "ก็แม่เอ็งขอให้ฉันจัดงานหมั้นแกกับหนู(ชื่อคุณ)ยังไงล่ะ ที่ฉันไม่ชอบเยจินก็เพราะเรื่องนี้ ฉันไม่อยากผิดสัญญากับแม่แก แต่สุดท้ายแกก็หัวดื้อไม่ยอมฟังเหตุผลฉันแล้วเลือกที่จะเลือกยัยเด็กนั่น....แกรู้ตัวมั้ยว่าแกกำลังทำให้แกแม่แกเสียใจมากแค่ไหน แกน่าจะรู้ตัวเองนะจองกุก..ที่ฉันทำไปทั้งหมดเพราะความหวังดี เลือกคนที่ดีที่สุดให้  แต่เมื่อเอ็งมันดื้อแบบนี้ฉันก็ไม่บังคับ จะทำอะไรก็ทำ เพราะตาจีมินเป็นความหวังเดียวที่จะสามารถทำตามสัญญานั้นได้"



         เรื่องราวที่ผมไม่เคยรู้ ยิ่งกว่าละคร ทำให้ร่างกายของผมหยุดนิ่งไปอยู่นาน..สิ่งที่พ่อพูดมานั้นเป็นความจริงหรอ ตลอดที่ผ่านมาผมเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่าคนพวกนั้นจงใจบังคับและทำให้ผมกับเยจินเลิกกัน แต่กลับกัน..ไม่มีใครบังคับผม แต่ทุกคนทำไปเพราะคำมั่นสัญญาของแม่ก่อนที่จะเสีย...หากพ่อบอกผมเร็วกว่านี้ ผมคงไม่ทำเรื่องผิดพลาดจนมาถึงตอนนี้หรอก


        เรื่องผิดพลาด..ผิดมากและไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้




        "แล้ว..แม่ไปรู้จักกับ(ชื่อคุณ)ได้ยังไง?"    เสียงทุ่มเอ่ยสั่นกระอักกระอวน มือหนาประสานเข้าหากันและกุมมือไว้แน่น...ผมไม่เข้าใจ ผมแค่รู้สึกกลัว


        "ฉันก็ไม่รู้กับแม่แก...."


        "งั้น!! ถ้าจีมินฮยองกลับมา...บอกให้โทรหาผมด้วย ผมขอตัว!!"


        ชายหนุ่มลุกพรวดขึ้นกระทันหันก่อนที่จะร่ายยาวแล้วเดินหนีออกไปจากตัวบ้าน..ร่างสูงวิ่งเยาะๆออกมาแล้วเดินขึ้นรถไปอย่างเร่งรีบ จนกระทั่งตัวรถคันหรูเคลื่อนออกไปจากบริเวณหน้าบ้าน...รถของชายหนุ่มแล่นไปตามถนนใหญ่ด้วยความเร็ว เท้าหนาเหยียบจนเกือบมิดเพราะความเร่งรีบที่กำลังเล่นงานอยู่ตอนนี้


        ตอนนี้ ผมต้องกลับไป...กลับไปที่บ้านหลังนั้น และอยากจะแก้ไขทุกอย่างที่เกิดขึ้น






        ใช้เวลาไม่นาน ผมก็ขับรถมาถึงที่ปูซาน...และถึงบ้านหลังเล็กที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน ร่างสูงผละตัวออกจากรถก่อนที่จะวิ่งไปเปิดประตูบ้านแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นบนของบ้าน...ผมวิ่งมาหยุดตรงหน้าห้องของแม่ ซึ่งตอนนี้(ชื่อคุณ)พักอยู่ ร่างหนายืนหายใจเข้าออกลึกๆก่อนจะตัดสินใจยกมือขึ้นเคาะประตู แต่ก็มันไม่ทันใจจึงเปลี่ยนมือมาเปิดประตูออก


        "(ชื่อคุณ)!...."    ภายในห้องนอน ไร้เงาและเสียงของคนที่ต้องการจะเจอ สายตาคมกวาดมองหาคนตัวเล็กไปทั่วห้องแต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า


        ชายหนุ่มเริ่มอยู่ไม่สุข และออกค้นหาให้ทั่วห้อง..หายังไงก็ไม่เจอ และยิ่งไปกว่านั้น ร่องรอยบนเตียงถูกจัดไว้เป็นระเบียบ เสื้อผ้าที่เคยใส่มานั้นก็หายไป และนั่นก็ทำให้ผมมองสถานการณ์ตอนนี้ออกได้ว่า




        (ชื่อคุณ)หนีไปแล้ว....





        ทำไมต้องหนีไป..หนีไปทำไม ไหนบอกว่าจะอยู่กับฉันยัยโง่




























      [ 50% ]


















        YOU



        "มากินข้าวได้แล้วเด็กๆ~"


        "พี่ก็!! หลบไป!!"


        "อ้าว ยัยเด็กนี่! แกนั่นแหละหลบไป!!"


        "พอเลย! ถ้าทะเลาะกันอีกแม่จะเอาข้าวไปเทให้หมากินตอนนี้เลย!" เสียงแหลมๆของผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้น ทำให้เด็กทั้งสองหยุดการกระทำลงก่อนที่จะเดินเข้าไปนั่งลงเก้าอี้กันคนละฝั่ง


        ฉันได้แต่ยืนมองทุกคนในห้องครัว เพราะความเกรงใจทำให้ฉันไม่กล้าเดินเข้าไป ฉันไม่มีส่วนร่วมของครอบครัวคนอื่น...ฉันว่า ฉันออกไปนั่งข้างนอกดีกว่า



        "เดี๋ยวสิ! จะไปไหนล่ะ มาทานข้าวกันก่อนสิครับ^^"


        "คะ?"


        "มาเถอะครับ คุณยายอุส่าห์เตรียมซุปร้อนๆไว้ให้คุณเลยนะครับ~" คุณโดยูงพูดทักก่อนที่จะเดินเข้ามาจูงแขนฉันเดินไปนั่งลงข้างๆ

        ตอนนี้ทุกคนบนโต๊ะอาหารต่างพากันมองฉันไม่หยุด อะไรกัน มองแบบนี้ฉันก็เกร็งจะแย่อยู่แล้ว..แค่ช่วยไว้คืนเดียว ฉันอยากจะออกไปจากบ้านหลังนี้เพราะฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่ที่นี่นานเกินไป ฉันอยากกลับบ้าน


        "เชิญเลย ตามสบาย^^"


        "คะ..ค่ะ^^" ยังไงก็เถอะ เขาขออะไรก็ทำไปก่อนก็แล้วกัน เพราะตอนนี้ฉันมันไม่มีที่ไปอยู่แล้วหนิ อีกสักหน่อยคงได้กลับบ้า
    นแล้วล่ะ











        ช่วงเวลาครึ่งวันนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ฉันจะยังกลับโซลไม่ได้ แต่ตอนนี้ฉันอยู่เป็นสุขดีหากหลังจากผ่านไปคืนนี้ไปได้ ฉันคงต้องถึงบ้านอย่างแน่นอน

        เพราะว่าตอนนี้ฉันได้ตั๋วรถไฟเป็นที่เรียบร้อย จากความช่วยเหลือของคุณพ่อของคุณโดยูงที่ทำงานอยู่ที่สถานีนั่น เลยทำให้ฉันได้ตั๋วกลับโซลในวันพรุ่งนี้เป็นเวลาบ่ายสอง..หลังจากนี้อีกวันฉันก็ขอรบกวนครอบครัวพวกเขาอีกหน่อยก็แล้วกัน




        ในช่วงเวลาว่างๆ คนตัวเล็กเดินเร่ไปเรื่อยภายในสวนผักของครอบครัวที่ช่วยเหลือเอาไว้เมื่อคืนนี้..ร่างบางในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้น ผมสวยที่ยาวถึงเอวเนื่องจากไม่ได้รับการดูแลสักเท่าไหร่ การกระทำของหญิงสาวนั้นอยู่ในสายตาของชายหนุ่มตลอดเวลา ร่างหนาที่กำลังนั่งเก็บพริกอยู่กลางสวน ไม่มีใครสังเกต นอกจากเจ้าตัวจะปรากฎโผล่ออกมาให้เห็นเอง..โดยูงอมยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นคนตัวเล็กอาการดีขึ้นและสามารถออกมาเดินเล่นแบบนี้ได้ เขาไม่รู้หรอกว่าหญิงสาวไปเจออะไรมา แต่ก็รู้สึกสบายเพราะร่างบางนั้นไม่ได้ดูโทรมเหมือนเมื่อคืน


        "ของทำดูมั้ย?"    จู่ๆชายหนุ่มก็โผล่พรวดเข้ามาพร้อมชูเม็ดพริกสีแดงสดขึ้นต่อหน้าหญิงสาว..ร่างเล็กเบิกตาตกใจอยู่หน่อยๆพลางก้าวถอยหลังแล้วมองไปที่ร่างของโดยูงด้วยความงงงวย


        "คะ?"   ฉันทำสีหน้างงก่อนที่จะมองไปที่คุณโดยูง..นี่เขาโผล่มาจากไหนกันเนี่ย ตกใจหมดเลย


        "คุณอยากลองเก็บพริกดูมั้ย สนุกนะ^^"


        เก็บพริกหรอ แล้วมันน่าสนุกตรงไหนกัน ก็แค่เดินเด็ดไปละนิดๆเอง-_-


        "ลองดูๆ"


        "เอ่อ ค่ะๆ^^"    ฉันปฏิเสธไม่ได้เมื่อคุณโดยูงทะยั่นทะยอให้เก็บพริกเป็นเพื่อนกับเขา..ฉันจึงตัดสินใจอะไรไม่ได้นอกจาก เดินเข้าไปที่สวนพริกกับเขาแล้วเริ่มทำกิจกรรมยามบ่ายไปอย่างเรื่อยๆ



        อันที่จริงมันก็สนุกดีนะแหะๆ^^






        พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า แสงยามเย็นผ่านเข้ามาพร้อมกับอากาศร้อนๆกำลังลดอุณหภูมิลง...ไอลมอ่อนพัดผ่านเข้ามาในหน้าต่างบานเล็ก ม่านสีอ่อนพลิ้วไปตามแรงลมพร้อมไปกับบรรยากาศอุ่นๆที่ตกกระทบถึงร่างหนาของชายหนุ่มที่กำลังหลับใหลตลอดทั้งวัน


        ร่างของจองกุกนอนหลับอยู่บนโซฟาตัวเล็กเพียงลำพัง..เจ้าตัวนอนหลับไปอย่างไม่รู้ตัว หลังจากที่กลับบ้านมา เขาก็รอ รอแล้วรออีก แต่ก็ไร้วี่แววของหญิงสาวหลังจากที่หนีออกไปจากบ้าน แต่ชายหนุ่มกลับคิดไปว่า(ชื่อคุณ)คงไปไหนได้ไม่ไกล เดี๋ยวก็กลับมา...แต่ว่า จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับ


        และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้จองกุกนอนอยู่แบบนี้ทั้งวัน...เวลาผ่านไปไม่นาน เปลือกตาหนาก็เปิดขึ้นช้าๆ ดวงตาฉายแววความว่างเปล่า เหม่อลอยทอดยาวออกไปที่ประตูบ้าน หวังว่าจะมีคนเปิดออก




        "..."    ความเงียบภายในห้องยังคงปกคลุม ได้แต่ยินเสียงหายใจเบาๆของชายหนุ่ม ก่อนที่จองกุกจะตัดสินใจหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูมาเปิดดู หน้าจอโทรศัพท์เปิดขึ้นพร้อมปรากฏรายชื่อคนติดต่อเข้ามาหลายสาย


         พี่ชายของเขา จีมิน โทรเข้ามาหลายสายแต่จองกุกไม่ได้รับเพราะเขานอนหลับ...คิ้วคมกระตุกขึ้นเล็กน้อยพลางนึกได้ว่าตนเป็นคนบอกเองว่าให้โทรมา แต่ทว่าทำไมตอนนี้จองกุกรู้สึกไม่อยากรับสายหรือโทรกลับ เขาคิดว่าสายที่โทรมานั้นมันไม่สำคัญ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเยจินกลับกลายเป็นเรื่องที่เฉยชาขึ้นมาเสียดื้อๆ



        จองกุกรู้สึกแบบนั้น...




        รู้สึกไม่อยากยุ่งกับฝั่งทางนั้นอีก




        "ชั่งแม่ง..."   เสียงทุ่มสถบเบาๆก่อนจะกดปุ่มดับหน้าจอโทรศัพท์แล้ววางลงบนอก ร่างหนาพ้นลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วหันกลับไปมองประตูอีกครั้ง



        ตอนนี้จองกุกไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมรู้สึกเคว้งคว้างมากขนาดนี้ เลือดในร่างกายสูบฉีดแรงขึ้นมากว่าปกติ ที่แย่ไปกว่านั้นทำไมเขารู้สึก...เหงา...เหงาเหมือนตอนที่แม่จากไป รู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างขาดหายไป ความรู้สึกนี้มันกลับมาอีกแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่แม่เขาคนเดียวที่ทำให้ความรู้สึกเหงามากขนาดนี้ แต่ดันเป็นคนอื่น คนที่เขาพึ่งไล่ไปไกลๆ ออกไปจากชีวิต 






        หากกลืนน้ำลายตัวเองจะผิดมั้ย











        ในเมื่อรอไม่ได้ เขาก็ต้องไป จองกุกตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งออกไปจากตัวบ้านท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆที่ใกล้ลับขอบฟ้า...





        ร่างเล็กเดินมาพร้อมกับน้องสาวของคุณโดยูงพร้อมพูดคุยกันอย่างสนิทสนม หลังจากที่พึ่งออกไปซื้อของมาทำมื้อค่ำสำหรับคืนนี้..ไม่ว่าจะอยู่บ้านเฉยๆ ใช้โอกาสนี้ช่วยครอบครัวของคุณโดยูงทำงานบ้านและทำมื้อค่ำเพื่อเป็นการตอบแทน เพราะพรุ่งนี้ฉันต้องกลับบ้านแล้ว...


        "จริงหรอคะ อ่า ดูไม่ออกเลยว่า(ชื่อคุณ)มีลูกน่ะ..มิน่าล่ะคุณยายถึงได้แอบลูบท้อง(ชื่อคุณ)บ่อยขนาดนั้น คนแก่อะเนาะ ใช้แค่ตาก็ดูออกซะงั้น-_-"


        "หึ..คุณยายท่านคงผ่านอะไรมาเยอะ คนรุ่นใหม่อย่างเราคงคาดไม่ถึงหรอกค่ะ^^"    ร่างเล็กอมยิ้มน้อยๆ มือบางหิ้วถุงอาหารสดในมือ...ผ่านไปไม่ถึงวันเราสองคนก็สนิมกันขึ้นมาก ยูอี น้องสาวของคุณโดยูง เธออายุเท่าฉันและกลับมาอยู่ที่บ้านหลังจากหยุดซัมเมอร์ เธอเองก็เรียนอยู่ที่โซลเหมือนกันแต่คนละมหาลัย แต่ดูเหมือนปิดเทอมของเธอคงมีความสุขมากน่าดูที่ได้อยู่กลับครอบครัว ฉันเองก็อยากให้แม่มาอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน


        แต่ท่าน เคยพูดไว้ว่า..ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าอยู่ที่บ้านเกิด 



        ฉันเองก็อยากกลับบ้านเกิดด้วยเหมือนกัน...




        "เห้อ!..."


        "เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมสีหน้าดูไม่ดีเลย?"   ยูอี หยุดเดิก่อนจะยืดตัวเข้ามาดูฉันใกล้ๆ..ฉันได้แต่ยิ้มน้อยๆแล้วส่ายหน้า


        ฉันไม่เป็นไร..ฉันแค่เศร้านิดหน่อย


        "เปล่าหรอก :)"

        "งั้นหรอ..เห็นพ่อเคยพูดว่าเวลาที่ผู้หญิงกำลังตั้งท้องน่ะอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวชอบเดี๋ยวเกลียด เธอก็คงเป็นแบบนั้นเหมือนกันสินะ ฉันเข้าใจๆ"    ร่างเล็กของยูอีพยักหัวขึ้นลงพลางกอดอก ทำท่าให้รู้ว่าหล่อนเข้าใจกับสถานการณ์ตอนนี้..มันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ยูอียังไม่เข้าใจอีกส่วนนึง ว่าฉันต้องเจอกับอะไรบ้าง


        ชั่งเถอะ นี่มันชีวิตฉัน คนอื่นไม่ควรรับรู้...


        "หึๆ ฉันดีใจนะที่ยูอีเข้าใจ ว่าแต่เราไม่รีบกลับบ้านหรอเดี๋ยวคุณโดยูงจะดุเอาหรอก"


        "จริงด้วย!! ไอ้พี่บ้านั่นบอกว่าห้ามกลับค่ำ!..งั้นเรารีบไปกันเถอะ!"


        "อ๊ะ! เดี๋ยวสิยูอี!!"


        ยังไม่ทันไรยูอีก็รีบวิ่งกลับบ้าน..ฉันได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของหล่อนที่กำลังวิ่งห่างออกไปโดยไม่นึกเลยว่าคนท้องอย่างฉันวิ่งไม่ได้น่ะ-_-


        ไม่นะยูอี เธอกลับมารับฉันก่อน! หล่อนจะรีบไปไหน!!?




        "เห้อ..คงต้องเดินกลับคนเดียวสินะ"    ร่างเล็กมุ้ยปากก่อนจะมองซ้ายขวาที่ตอนนี้ไม่มีคนเดินผ่าน ก็แหงล่ะ ตอนนี้ฟ้าใกล้มืดแล้วหนิ เหลือแค่ฉันคนเดียวสินะ บ้าจริง..ทำไมรู้สึกกลัวแบบนี้


        แต่ก่อนอื่น ฉันควรเลิกทางเดิน เพราะหากเดินหน้าต่อไป จะต้องผ่านหน้าบ้านของ..จองกุก..ฉันไม่อยากผ่านไปที่นั่น หากเจอเขาขึ้นมาล่ะ ฉันจะทำยังไง...ฉะนั้นฉันควรเลือกทางอื่น





        เท้าเล็กเปลี่ยนทิศทางแล้วเดินจากไป..เรียกว่าบังเอิญหรือเราหนีไม่พ้นกันแน่ การกระทำของหญิงสาวทั้งสองจนถึงเหลือเพียงคนเดียว จองกุกยืนมองอยู่ห่างๆ หลบซ้อนที่หลังเสาไฟข้างทางและมองคนตัวเล็กหมุนตัวแล้วเดินกลับไป


        (ชื่อคุณ)เลือกที่จะไม่เดินผ่านบ้านหลังนั้น...




        ร่างสูงปรากฏตัวขึ้นหลังที่ร่างเล็กเดินออกไป จองกุกถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันนี้..เขานึกว่า(ชื่อคุณ)จะหนีไปไกลแล้วเสียอีก เพราะความโง่ของตัวเองแท้ๆที่วิ่งออกมา หากไม่คิดเช่นนั้นคงไม่ได้รู้หรอกว่า(ชื่อคุณ)ยังอยู่ที่นี่ แต่เลือกหลีกเลี่ยงที่จะเจอหน้าเขา



        ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้...ควรตามไปใช่มั้ย ?






        ร่างของจองกุกแอบเดินตามหลังคนตัวบางมาเรื่อยๆ จนมาหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง เขาเงยหน้ามองตัวบ้านที่แปลกไปจากบ้านหลังอื่นๆ บ้านหลังนี้คงเป็นครอบครัวใหญ่คงมีกันอยู่ไม่น้อย...อยู่ๆเสียงประตูไม้หน้าบ้านก็เปิดออกพร้อมปรากฏร่างของชายหนุ่มแปลกหน้าที่ถือโอกาสเดินเข้ามาใกล้(ชื่อคุณ)และช่วยถือของ มิหนำซ้ำมือของผู้ชายคนนั้นก็ฉวยโอกาสยกขึ้นลูบหัวร่างบางอย่างเอ็นดู ชายหญิงทั้งสองดูมีความสุข ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่เกรงใจคนที่กำลังยืนมองด้วยแววตาที่ดุดันพร้อมมือหนากำหมัดไว้แน่น



        อยากจะเข้าไป..จองกุกอยากจะเข้าไปซัดไอ้หมอนั้น


        ไวกว่าความคิด การตัดสินใจไปเพียงอารมณ์ชั่ววูบ..ร่างใหญ่ๆของจองกุกก็เข้าไปกระชากร่างเล็กออกห่างก่อนที่จะกระแทกหมัดเข้าไปบนแก้มด้านซ้ายของโดยูงจนเจ้าตัวเซถอยหลังไปอยู่หลายก้าว




        ฉันตกใจ เบิกตากว้าง ร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัวอยู่ไม่น้อย ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเมื่อเห็นสิ่งตรงหน้า พยายามหลบหลีกมาหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยทำสำเร็จ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน..เขาก็ตามหาฉันเจอ..


        จองกุก เขามาที่นี่ได้ยังไง



        ความรู้สึกต่างๆจุกอยู่กลางอก ทำให้ขอบตาของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว และแล้วน้ำอุ่นๆก็ไหลอาบแก้มฉันอย่างห้ามไม่ได้..ทำไมกัน เห็นเขาแล้วฉันต้องอ่อนแอตลอด เพราะคำพูดพวกนั้นที่เคยทำร้ายจิตใจสินะถึงได้ตามราวีไม่เลิกแบบนี้ 



        นี่ฉันเป็นบ้าอะไรของฉัน!!





        "อย่า...อย่าทำเขานะ อึก!"


        "(ชื่อคุณ)!! กลับบ้าน!"



        "ไม่!! จองกุกปล่อยฉันฮึก!"    มือเล็กถูกดึงกลับขณะที่รีบวิ่งเข้าไปห้ามเพื่อไม่ให้คุณโดยูงถูกทำร้าย ฉันพยายามที่จะดันจองกุกออกห่างแต่ทว่าเขากลับเปลี่ยนเป้าหมายมาดึงฉันออกไปจากตัวคุณโดยูงแทน..เรี่ยวแรงของฉันไม่ได้มีมากถึงขั้นต่อต้านเขาได้ จะยื้อมากแค่ไหน ก็แพ้จองกุกอยู่ดี


        เสียงทุ่มๆของเขาออกคำสั่งเสียงลั่นก่อนที่จะดึงตัวฉันเข้าไปใกล้แล้วใช้แขนโอบรัดตัวฉันไว้แน่นเพื่อไม่ให้หลุดหนี



        การกระทำของเขา ทำให้ฉันแปลกใจอยู่ไม่น้อย..



        "ปล่อย! นายตามฉันมาทำไมฮึก!.."    น้ำเสียงเล็กๆสั่นไหว มืออันน้อยนิดคิดจะแกะแขนของร่างสูงออกจากตัว แต่ก็ไม่ได้ผล จองกุกเกาะฉันไว้แน่นมาก


        "(ชื่อคุณ)..."


        "อย่ายุ่งกับเมียกู!!..ไปกลับ!!"


        "ไม่! ฉันไม่ไป!!! จองกุกฉันบอกให้หยุดไง!!"    หมายความว่ายังไงกัน ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้ หัดอายปากตัวเองบ้างนะจองกุกกับสิ่งที่พูดออกไปน่ะ ถ้าไม่รู้สึกอะไรก็อย่ามาพูดแบบนี้ฉันไม่ชอบ!!


        ฉันโวยขึ้นพร้อมดิ้นไปมาอีกครั้ง และยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุไปกันใหญ่...จองกุกพยายามลากฉันไปให้ห่างออกไปไกลมากที่สุด...คุณโดยูงมีท่าทีจะวิ่งตามมาแต่ฉันหันกลับไปมองและส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธว่า'อย่าตามมา' ฉันไม่อยากให้เขาเจ็บตัวเพราะฉัน ฉะนั้นฉันขอจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...ฉันไม่อยากพึ่งพาคนอื่นไปมากกว่านี้






























        จองกุกลากฉันมาจนถึงหน้าบ้านของเขา เผลอๆฉวยโอกาสขณะที่เขาปล่อยมือร่างเล็กก็พุ่งตัววิ่งหนี แต่ทว่าแขนยาวของจองกุกก็เอื้อมเข้ามาฉุดแขนฉันไว้ได้เสียก่อนที่จะหนี...


         "จะไปไหน!?!"    เสียงของจองกุกตวาดขึ้น ทำให้ฉันหยุดชะงักและยืนหันหลังให้เขา


        ตอนนี้ฉันไม่อยากเจอหน้าเขา..ฉันทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น


        "ปล่อยฉัน..."


        "ไม่"


        คำปฏิเสธของเขาทำให้ฉันเปิดตากว้างอย่างแปลกใจ..ทำไม ทำไมถึงได้พูดแบบนี้ คำพูดที่ออกมาอย่างไม่ใส่ใจนั่นหมายความว่ายังไงกัน...เขาต้องการอะไรจากฉันอีก!!


        "กล้าพูด..กล้าพูดออกมาได้ยังไง! ฉันก็ไปแล้วนี่ไงจะเอาอะไรอีก!!!"   ฉันเองก็มีอารมณ์โกรธและเสียใจเหมือนกัน ทำไมเขาไม่นึกบ้างว่าที่ฉันไปเพราะอะไรและต้องการอะไร ไม่ใช่เห็นแก่ตัว ได้ฝ่ายเดียวอยู่แบบนี้ ฉันเคยอยากได้ความรักที่ไม่ใช่คนในครอบครัว อยากอยู่ในสายตาและดูแลเอาใจใส่จากคนที่รัก..รักเพียงฝ่ายเดียว..และในเมื่อสิ่งที่พยายามมาทั้งหมดมันเปล่าประโยชน์จนเรื่องมันใหญ่โตมาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันก็ไม่อยากหลอกตัวเองอีกต่อไป



        คนด้านหลังเงียบลง ไร้ปฏิกิริยาการตอบโต้ เพียงแค่รู้สึกได้ว่าจองกุกเคลื่อนไหวและกำลังขยับตัวมาใกล้ฉัน...



        แต่ทำไมฉันรู้สึกกลัว..กลัวว่าเขาจะเข้าใกล้มามากกว่านี้




        "ฉันไม่ให้เธอไปไหนทั้งนั้น..."


        "ทำไม..เกลียดฉันนักไม่ใช่หรอ!!ทำไมถึงไม่ปล่อยฉันไป!!!"    ทำไมถึงได้เป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ สนุกมากรึไงที่ทำแบบนี้..ฉันไม่สนุกด้วยหรอกนะกับการเห็นความรู้สึกของคนอื่นเป็นเรื่องเล่นๆ


        ฉันยังคงยืนหันหลังให้กับจองกุก ก่อนที่จะเปล่งประโยคคำพูดคำนั้นออกมา..นี่ในเป็นครั้งแรกที่ฉันกล้าพูดตรงๆกับเขา ช่วงเวลาที่ผ่านมามัวแต่กลัว กลัวว่าเขาจะเกลียดไปมากกว่านี้ แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันคงไม่แล้วล่ะ เขาควรรู้สักทีว่าฉันรู้สึกยังไงกับสิ่งที่เขาทำมา..มันมากเกินกว่าจะรับได้..ฉันเป็นฝ่ายที่เสียใจมาโดยตลอด จนกระทั่งลูก เขาก็ไม่ใยดีและอยากจะฆ่าให้ตายโดยที่ไม่มีความรู้สึกรับผิด





        เขาทำฉันได้..แต่อยากทำร้ายลูกฉัน





        "..."


        "นายยังเห็นฉันเจ็บไม่พอใช่มั้ย อยากทรมารฉันมากสินะ..หรือว่าจะให้ฉันตายก่อนค่อยพอใจ..ฮ..ฮึก..อยากให้ฉันตายไปเลยใช่มั้ย นายถึงจะมีความสุข ฮึก!"    ไม่ใช่ว่าท้าทาย แต่ความรู้สึกของฉันมันเจ็บมากจริงๆ เจ็บจนไม่รู้จะอะไรพูดอีกแล้ว พูดยังไงเขาก็ไม่มีวันเข้าใจ เขาไม่ใช่ฉัน เขาไม่ได้เจ็บเหมือนฉัน


        และความรู้สึกที่เคยเจอมามันก็กลั้นไม่อยู่ ตากลมปิดลงพร้อมมีน้ำใสๆอุ่นไหลอาบแก้ม มือบางยกขึ้นปิดหน้าของตัวเองเอาไว้เพราะไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเราอ่อนแอมากขนาดไหน แม้พยายามที่จะเข้มแข็งแล้วก็ตาม แต่พอเจอสิ่งที่ทำให้ความรู้สึกนั้นถูกทำลายลง ก็ยากที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วปล่อยมันออกมาอย่างห้ามไม่ได้


        "อย่าคิดไปเองจะได้มั้ย!..(ชื่อคุณ)..."


        "คะ..คิดหรอ! อึก! ฉันไม่ได้คิดไปเองแต่กำลังพูดความจริงกับสิ่งที่นายทำกับฉัน!! นายทำร้ายฉัน ถึงยังไม่ตายแต่ก็เหมือนตายทั้งเป็น!!!"    ฉันสะบัดตัวออกจากมือของจองกุกแล้วถอยออกห่าง ฝ่ามือเล็กยกขึ้นเช็ดคราบน้ำตาที่แก้ม ดวงตาที่แดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด....ฉัน ฉันร้องไห้ออกมาจริงๆ มันเสียใจมากจริงๆ


        "ถ้านายไม่รู้สึกอะไรก็อยากทำแบบนี้กับฉัน..เกลียดฉัน เกลียดลูก เราไม่ควรเจอกันอีก มันอาจเป็นเหตุผลที่ดีที่สุด..นายจะได้กลับไปรักกับแฟนนายเหมือนเดิมไง"    พูดเองจุกเอง เหมือนก้อนเนื้อกลางอกบีบอัดเหมือนใจจะขาด ฉันเกลียดตัวเองชะมัดที่อยู่อย่างไร้สถานะ ไม่มีความสำคัญใดๆสำหรับเขา...



        แล้วจะอยู่ให้มันเจ็บใจทำไมล่ะ..ควรไปจะไม่ดีกว่าหรอ ?




        "ฉันจะกลับแล้ว...เชิญนายกลับไปแฟนนายเถอะ"


        "ไม่! เดี๋ยว!!...เธอต้องอยู่กับฉัน!"


        "มันไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องอยู่!!!"


        "จะมีหรือไม่ก็ชั่งฉันไม่สน!!"


        "แล้วทำไมถึงต้องดึงฉันไว้ทุกที!! นายอยากให้ฉันออกไปจากชีวิตนักไม่ใช่รึไงจองกุก!!..."


        "ก็เพราะฉันอยากให้เธออยู่กับฉันยังไงล่ะ!!"



        " !!! "








        นี่มันมีเหตุผลไม่เพียงพอเอาซะเลย...เขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่ ฉันสับสนไปหมดแล้ว


        คำพูดและน้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังของจองกุกที่มันเปล่งออกมาจากปากของเขานั้น ทำให้ฉันหยุดชะงัก ราวกับว่าตอนนี้สิ่งรอบข้างหยุดหมุน มีแค่เราสองคน สองคนจริงๆที่รับรู้...


        "เพราะ..เพราะอะไร? ที่นายอยากให้ฉันอยู่ เพราะความน่าสมเพชหรอ? หรือว่าอะไรกันแน่...บอกเหตุผลกับฉันสิจองกุก ตัดสินใจให้ตัวเองสักทีเถอะ"    ร่างเล็กสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะตัดสินใจหมุนตัวกลับไปมองคนตรงหน้า และต้องการเหตุผลจริงๆจังๆตอนนี้ ฉันอยากได้เหตุผลจากปากของเขาด้วยตัวเอง



        ขอร้อง..อย่าโกหก ได้โปรดพูดความจริงกับฉัน




        "...."


        "ทำไมไม่พูดล่ะ?"


        "แค่2เดือน..ฉันขอเวลาแค่2เดือน ก่อนที่จะกลับ อยู่กับฉันแค่2เดือน หลังจากนั้นฉันจะปล่อยเธอไป"    ร่างสูงเผยน้ำเสียงจริงจัง ดวงตาฉายแววสื่อถึงการอ้อนวอนและจริงจังกับสิ่งที่พูดออกมา ไม่รู้ว่าจองกุกกำลังพูดอะไรออกไป แต่ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ เขาก็มีทางเลือกสุดท้าย คือการขอเวลา..เวลาแค่2เดือนจริงๆ


        "ได้..ในเมื่อนายกล้าขอ ฉันก็กล้าให้..แต่หลังจบเรื่องนี้ไป ต่างคนต่างอยู่ ส่วนเรื่องลูก...ฉันจะเลี้ยงของฉันเอง"    ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้กล้ารับปากออกไปแบบนั้น แต่ที่รู้ๆว่า ฉันกับเขาเราจะไม่ได้เจอกันอีกและต่างอยู่จริงๆ 


        เพราะคำว่ารักหรือขอโทษ เขาไม่เคยพูดมันเลยสักครั้ง...ฉะนั้น ฉันแน่ใจแล้วว่าเขาต้องการแค่นี้จริงๆ เขาคงไม่ต้องการที่อยากจะอยู่กับฉันไปตลอดชีวิตหรอก


        
















    [ 100% ]



    To be continued





        #TALK



         ความจริงไรท์จะต่อยาวกว่านี้อีกแต่ว่า ขอเก็บไว้ตอนหน้าดีกว่านะคะ หุๆ><

         มีคนอยากได้แบบเล่มอะ ทำไงดี ขอเวลาคิดก่อนหึๆ^^







    เม้นเยอะอัพไว (เจอกันวันอาทิตย์นะคะ)






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×