ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #รอยสักจอน [JUNGKOOK X YOU] *tattoo Jeon*

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter Jeon : 5 [ 100% ]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.79K
      368
      11 พ.ค. 62

    B
    E
    R
    L
    I
    N





    Chapter 5













         "ทำไมใส่กระโปรงสั้น...ยัยโง่"    จู่ๆชายแปลกหน้าก็พูดขึ้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยแววตาปรืออย่างเมาไม่ค่อยมีสตินัก


        "จ..จองกุก!?"


        "เอ่อ!! ถอดกระโปรงออกเดี๋ยวนี้!!"    ยังไม่ทันไรมือหนาๆของเขาก็ดุ๊กดิ๊กจะพยายามดึงกระโปรงที่ฉันใส่ออกจากเอว..ให้ตายสิ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!?


        "อ๊ะ! ฉันเจ็บหยุดนะ!!"    จองกุกไม่สนใจเสียงร้องของฉันเลยสักนิด นี่มันเจ็บมากนะที่เขาดื้อที่จะดึงกระโปรงออกแบบนี้ มันรัดแน่นถอดแบบนี้ให้ตายมันก็ไม่มีทางหลุดหรอกนะ


        "เจ็บ...หึ! เธอตายแน่(ชื่อคุณ)"


        "ห๊า!?"    เดี๋ยวนี่รอให้ฉันตั้งสติก่อนสิไอ้บ้า!!


        "เธอต้องถูกลงโทษ อึก!!"    สิ้นเสียงโวยวายของจองกุก เขาก็จับฉันกระชากไปตามแรงดึงของเขา ฉันทั้งยื้อและร้องห้ามแต่ดูท่าทางของจองกุกจะไม่ยอมฟังฉันเลยสักนิด แถมตอนนี้เขาก็ไม่สนผู้คนที่กำลังเต้นเบียดเสียดกันอีกด้วย แต่พอรู้ตัวอีกทีถาดที่ฉันถือก็หลุดมือไปแล้ว ทำไงดี โดนไล่ออกแน่ๆ นี่ฉันพึ่งเริ่มงานวันแรกเองนะ เงินก็ยังไม่ได้T^T


        เจ้าตัวสูงมีอาการมึนเมา พูดคุยก็ไม่รู้เรื่อง แรงกายก็เยอะเท่าควายตัวนึงได้(?) ผู้หญิงอย่างฉันมีสิทธิ์หรอที่จะต่อต้านเขาได้น่ะ..ไม่เลยสักนิด



        ผ่านไปไม่นาน ฉันก็โดนจองกุกลากมาจนถึงที่ไหนก็ไม่รู้ แต่เรายังคงอยู่ในตัวผับ แต่ฉันยังไม่รู้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน...ฉันสติหลุดไปสักพักก่อนที่จะนึกถึงพี่พนักงานสาวสวยที่พึ่งบอกฉันไปหยกๆว่าที่นี่มีห้องทรมารสำหรับลูกค้าที่ชอบเซ็กส์แบบซาดิส..และฉันคิดว่า มันคงใช่ที่นี่แน่ๆ




        ห้องลับ 301 




        เพราะชื่อห้องมันบอกอยู่นี่ไง!!




        "ฮึก! จองกุกปล่อย!!"


        "หึ!!!"



        แต่สิ่งที่กลับได้ เพียงแค่เสียงหัวเราะในลำคอของร่างสูงอย่างไร้สติ ถึงจองกุกจะเมามากแค่ไหนแต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้ เขาไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้รึไง หรือฉันต้องเอาเงินฟาดหัวเขาคืนบ้างถึงจะพอใจงั้นหรอ!?


        ทั้งที่ฉันพยายามทำตัวออกห่างแล้ว ยอมถอยแล้ว ยอมทุกอย่าง แต่ทำไมสุดท้ายเขาถึงกลับไล่ตามฉันมาแบบนี้ ทั้งๆที่เป็นคนพูดแท้ๆว่าเกลียดฉัน เกลียดแล้วไง จำเป็นต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยรึไง!!






        ชักจะมากเกินไปแล้วนะ!...





        "อ๊ะ!!"    ฉันหลุดจากภวังค์ความคิดพอรู้สึกตัวอีกที เขาก็พาฉันเข้ามาในห้องแล้ว  จองกุกหยุดนิ่งไปชั่วขณะพร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง ฉันได้แต่ยืนก้มหน้าเงียบพยายามที่จะไม่ร้องไห้..ตั้งแต่เจอเขาฉันก็นับไม่ถ้วนแล้วว่าตัวเองร้องไห้ไปกี่ครั้ง แต่ที่รู้คือฉันร้องไห้บ่อยมากเกินไปจนตาบวมเกือบทั้งสัปดาห์  สิ่งที่ทำให้ฉันร้องไห้นั้นไม่ได้น้อยใจหรอกนะที่จองกุกไม่รักฉันน่ะ แต่ฉันร้องไห้เพราะกลัวและก็เกลียดตัวเองที่เผลอทำตัวอ่อนแอต่อหน้าเขาแบบนี้ ฉันพยายามเข้มแข็งแล้วแต่...ก็ทำไม่ได้สักที


        ฉันเหลือบตามองจองกุกที่จู่ๆเขาก็ปล่อยตัวฉันก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้าไปเปิดตู้คล้ายกับตู้เสื้อผ้า แต่มันไม่ใช่ มันคือตู้เก็บเซ็กทอยที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์หรือเครื่องเล่นสนุกต่างๆถูกเก็บไว้เป็นจำนวนมาก...ร่างเล็กเบิกตากว้างพร้อมก้าวถอยหลังทันทีเมื่อเห็นร่างสูงคว้า แซ่กับเชือกถือไว้อยู่ในมือ  ฉันเห็นว่าตอนนี้บรรยากาศเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆฉันเลยตัดสินใจวิ่งหนี  แต่ทว่ายังไม่ทันก้าวขาจองกุกก็พุ่งตัวเอามารัดตัวฉันไว้จากด้านหลังพร้อมเหวี่ยงร่างของฉันลงเตียงอย่างไม่ใยดี



        "อึก!! จะ..จะ..จะทำอะไรน่ะ! นี่จองกุกหยุดนะ!!! ตั้งสติหน่อยสิ นายเมามากแล้วนะ!!!"    ร่างสูงใหญ่โน้มลงมาดึงแขนฉันยกขึ้นเหนือหัวก่อนที่เขาจะใช้เชือกที่หยิบมาผูกมือฉันไว้กับหัวเตียง


        "นาย!!..ฮึก!! ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย!!"    เสียงเล็กพูดปนสะอื้นด้วยความกลัวและพยายามที่จะดึงสติให้เขาหยุดการกระทำทั้งหมด  แต่ดูเหมือนจองกุกจะไม่ฟังฉันอีกตามเคย  เขาทำเป็นหูทวนลมพร้อมจัดการปลดกระโปรงพนักงานของฉันออกอย่างเร่งร้อนและเอาแต่ใจ  เมื่อดึงกระโปรงออกพ้นช่วงล่างจองกุกก็โน้มตัวลงมาทับฉันพร้อมครางอู้อี้อย่างขาดสติเหลือทน




        เงียบ . . .





        "จ..จองกุก!?"    ฉันขยับตัวดิ้นไปมากะว่าจะทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมาพูดกับฉันสักสองสามคำก็ยังดี แต่ปรากฏว่าเจาหลับไปแล้ว หลับทั้งๆที่มัดฉันไว้แบบนี้เนี่ยนะ!?


        "จองกุก!! ตื่นขึ้นมาปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะอึก!"    เห้อ! ให้ตายสิ จับฉันมัดไว้แล้วหนีไปหลับคนเดียวเลยงั้นหรอ นี่ฉันต้องนอนท่านี้เลยใช่มั้ย และก็ไม่ได้ใส่กระโปรงด้วย-_-



        ขอให้ฝันร้ายก็แล้วกัน!!









        เช้าวันต่อมา...



        ผ่านมาสู่เช้าอีกวัน ร่างบางหลับใหลในท่าที่ถูกผูกมือไว้กับหัวเตียงตลอดทั้งคืน ถึงจะนอนไม่สบายตัวก็เถอะแต่ใครจะไปทนได้ทั้งวันทั้งคืนแบบนั้น จำใจนอนทั้งๆที่อยากกลับคอนโดใกล้จะบ้า


        "อืม..."    เป็นอีกเช่นเคยที่คนตัวเล็กครางงัวเงียอยู่บนเตียง เปลือกตาคู่สวยค่อยๆเปิดขึ้นมองเพดานสีขาวโพลนของห้องในตัวผับ  ฉันสะบัดหัวไล่ความง่วงออกไปในหมดก่อนจะหลุบตามองร่างกายของตัวเองพบว่าตอนนี้จองกุกได้ลุกออกไปจากตัวฉันแล้ว และเปลี่ยนที่ไปนั่งอยู่ปลายเตียงแทน?


        "นะ..นายตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่?"    ฉันขมวดคิ้วเล็กน้องพลางผงกหัวขึ้นมองแผ่นหลังหนาๆของเขา จองกุกนั่งหันหลังให้ฉันอย่างเงียบๆ อะไรกันแฮงค์รึไงยะ-_-


        "หึ คงแฮงค์หนักล่ะสิ..."    ฉันหัวเราะเบาๆอย่างน่าสมเพช เป็นไงล่ะ เมื่อคืนทำเป็นเก่งดีนัก เจอฤทธิ์เหล้าเข้าไปถึงกับนิ่งเลยล่ะสิ


        "เอ่อ พูดมาก..แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?"    จองกุกเอ่ยเสียงทุ่มๆของตนอย่างสงสัยพร้อมเอี่ยวตัวหันมามองฉัน 


        "เหอะ คงจำไม่ได้จริงๆสินะ..."


        "อะไร?"


        "เห้อ!! ดูเอาสิ...สิ่งที่นายทำกับฉัน"


        "อื้ม"


        จะบอกว่าอายมันก็อายอยู่นะที่ฉันนอนอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่จองกุกเป็นคนทำหนิเขาก็น่าจะรู้ตัวดี..


        "คงเป็นเธอจริงๆสินะ"


        "ฉัน..ฉันทำไม?"


        "เปล่า...ชั่งเถอะ ฉันแค่เมา อย่าถือสาเลย!"


        ห้ะ! อย่าถือสา..แล้วที่ทำกับฉันเมื่อคืนล่ะ



        เอ่อ เชื่อแล้วว่าเมา-_-




        ฉันตัดสินใจเงียบลง พร้อมมองหน้าจองกุกอย่างนิ่งๆ ลองคิดๆดูแล้วตอนหมอนี่เมาแล้วน่ากลัว แต่พอแฮงค์กับดูเป็นคนนิ่งๆซะงั้น เพราะดูท่าทางของเขาก็คงจะไม่ไหว ลักษณะร่างกายดูอ่อนล้าเพราะฤทธิ์เมาเล่นงานเขาหนักจริงๆ



        สมน้ำหน้ามั้ยล่ะ!






        ผ่านไปสักพัก อาการแฮงค์ของจองกุกก็เริ่มดีขึ้นมาพอบ้าง เขายอมปล่อยฉันโดยที่ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ  พอฉันหลุดออกมาได้ก็โดนจองกุกลากออกมาจากห้อง แต่เราทั้งสองต้องหยุดชะงักเพราะมีบุคคลที่สามยืนดักไว้ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก


        "ผู้จัดการ?"    เสียงเล็กเอ่ยปากอย่างสงสัย คิ้วคู่สวยขมวดเป็นปมที่จู่ๆผู้จัดการร้านก็เดินมาดักหน้าฉันไว้พร้อมกับทำสีที่ไม่ค่อยพอใจมากนัก


        "เธอ...."    เสียงของผู้จัดการเปล่งออกมาจากปากน้อยๆของเธอ พลางเหยียดสายตามองฉันด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์สุดขีด


        "มะ..มีอะไรหรอคะ?....."


        "ยังมีหน้ามาถามอีกหรอยะ!! นี่แกกล้าดียังไง แค่มาทำงานวันแรกก็หน้าด้านมาเอากับคุณจองกุกของฉันเลยหรอห้ะ!!!"    ผู้จัดการอ้าปากว่าฉันไม่หยุดก่อนที่เธอจะเดินเข้ามากระชากหัวฉันอย่างรุนแรง  ฉันพยายามต่อต้านสุดขีดเพื่อไม่ให้ตัวเองเจ็บตัวไปมากกว่านี้


        เหอะ! นี่หล่อนหลงตัวเองอยู่รึไง สำคัญตัวไปรึเปล่าวะ!?


        "นี่หยุด!!!!"    จองกุกที่อยู่ในเหตุการณ์ในที่สุดเขาก็เข้ามาช่วยดึงฉันออกจากยัยผู้จัดการหมาบ้าก่อนร่างของหล่อนจะถูกมือใหญ่ๆของจองกุกผลักออกจนเซถอยหลัง


        "จองกุก!?"


        "ฉันบอกเธอไปว่ายังไง!! แค่one night stand...หลบไปเกะกะ!!"    ร่างสูงแผดเสียงตวาดใส่หน้าผู้จัดการสาวก่อนที่หน้าของหล่อนตอนนี้ดูเหว๋อไม่เป็นท่า หน้าแตกเลยล่ะสิ...อ่อ! แล้วอีกอย่าง ฉันไม่ยอมให้หล่อนมากระชากหัวฟรีๆหรอกนะ


        "ตะ..แต่..."


        "หุบปาก!!!....ไป(ชื่อคุณ)!! กลับบ้าน!!"    ว่าจบ จองกุกก็เอื้อมมือมาดึงแขนฉันให้เดินตามออกไป แต่ก่อนจะเดินผ่านผู้จัดการสาวฉันก็ได้ทิ้งข้อความส่งท้ายไว้พลางเดินหายไปกับจองกุกพร้อมๆกัน




        "คืนนี้เตรียมตัวโดนปิดร้าน..แบบถาวรได้เลย^^"












        ตอนนี้ฉันควรกลับคอนโดได้แล้ว รถพ่อก็น่าจะมาถึงแล้ว...แต่ฉันไปไม่ได้เพราะตอนนี้ตัวเองนั่งอยู่ในรถของจองกุก  หลังจากที่ออกจากผับ ฉันก็รีบเปลี่ยนชุดพร้อมเตรียมตัวจะกลับ แต่ในระหว่างนั้นจองกุกเดินตามฉันอยู่ตลอดเวลา จนรู้สึกว่าเขาพึ่งตัดสินใจว่าต้องฉุดฉันขึ้นรถ และนั่นมันก็เป็นอย่างที่คาดไว้ เขาไม่ยอมให้ฉันกลับแถมยังขู่จะฆ่าอีกด้วยถ้าหากฉันก้าวเท้าหนีแม้แต่เซนเดียว


        และที่สำคัญ เขายังไม่บอกเหตุผลอีกด้วยว่าพาฉันมาทำไม ต้องการอะไรกันแน่ แต่สิ่งที่ได้ก็คือความเงียบ....



        "ฉันหิว...."    ฉันหลุดจากภวังค์ความเงียบพลางหันหน้าไปมองด้านคนขับที่อยู่ๆจองกุกก็บอกว่าหิว ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนเอาหัวพิงกระจกรถทำเป็นไม่สนใจ


        คุยกับผีไปเถอะหยะ!...ฉันยังแค้นเรื่องเมื่อคืนไม่หายนะจะบอกให้!


        "ทำเธอถึงไปอยู่ที่นั่น..."


        "อืม?"


        "ใครใช้ให้เธอไปทำงานที่ผับ...ตกอับรึไง"    ฉันนั่งฟังเสียงกวนประสาทของจองกุกอย่างเบื่อหน่าย  ร่างบางนั่งกอดอกพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างไม่พอใจเล็กน้อยและไม่ยอมปริปากพูด


        "ถามแล้วทำไม่ตอบห้ะยัยเด็กใจแตก...!?"


        นั่นปาก-_-


        "...."


        "นี่เธอโกรธฉันอะไรอีกวะ!!----"


        "อย่ามาทำเป็นจำไม่ได้หน่อยเลย!! ฉันโกรธนายก็เพราะเรื่องเมื่อคืนนั่นแหละ!!!!"


        เหมือนความอดทนของฉันมันถึงขีดจำกัด เสียงเล็กตวาดขึ้นภายในรถที่มีเราอยู่กันแค่สองคน  ฉันหันหน้าไปมองจองกุกพร้อมกับสายตาเขม็งใส่อย่างเหลืออด ที่ผ่านมาฉันทนมามากพอแล้ว โดนตบโดนตีทั้งด่าทั้งว่าทั้งๆที่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ความผิดทั้งหมดมันก็คือเขา จองกุกเป็นคนเริ่มต้นก่อนตั้งแต่ทีแรก! ฉันไม่ผิดเลยสักนิด!!


        "พอสักทีเถอะจองกุก!! เลิกยุ่งกับฉันสักที! ฉันทนเจ็บมามากพอแล้ว เรามันแค่คนรู้จักหรือเป็นแค่one night stand นายต้องการแบบนี้ไม่ใช่รึไง!!...."


        "หุบปากรำคาญ!!"


        "นี่นายกำลังเลี่ยงคำถามของฉันอยู่นะจองกุก!! เลิกยุ่งกับฉันสักเถอะ ฉันพูดคำนี้มาหลายครั้งแล้วนะ!!..หัดสงสารแฟนตัวเองบ้างเถอะจองกุก!!!!"




        เอี๊ยด!!




        ความสงบในรถได้จางหายลงโดยฝีปากของฉันก็ปลดปล่อยความในใจออกมาจนเกือบจะหมดที่มันอยู่ในก้นบึ้งความรู้สึกของฉัน ฉันไม่อยากแย้งของใคร แต่ต้องการให้เขาเลือกสักทีว่าจะยื้อฉันไว้หรือจะปล่อยและกลับไปหาแฟนของเขาซะ!!...จองกุกเหยียบเบรครถกระทันหันจนทำให้ร่างของฉันเผลอกระแทกเข้ากับเบาะรถอย่างจัง ร่างสูงปิดปากเงียบพลางตึงสีหน้าราวซาตานที่ต้องการจะฉุดวิญญาณลงนรกทั้งเป็นทำให้ฉันแอบหวั่นใจอยู่ไม่น้อย เขาจอดรถก่อนที่จะเดินลงออกไป ฉันมองตามหลังเขาที่จู่ๆก็เดินอ้อมมาฝั่งฉันก่อนที่เขาจะเปิดประตูและดึงฉันออกจากตัวรถคันหรูของเขา



        ตุบ!!



        ร่างบอบบางกระแทกลงพื้นฟุตบาทข้างถนนจนเกิดเสียงแรงจากเหตุโดนจับทิ้งลงพื้นปูนแข็งๆ ความเจ็บแปล๊บๆแล่นเข้ามาในตัวฉันจนทำให้เกิดอาการร้องซี๊ดออกมา...


        "ทะ..ทำบ้าอะไรของนายห้ะ!!?"    เสียงเล็กตวาดใส่ร่างสูงด้วยความโกรธพลางเงยหน้าขึ้นมอง


        "พูดมากรำคาญ!! หาทางกลับเองก็แล้วกัน!!"    พูดจบ เขาก็ทิ้งฉันไว้ข้างทางก่อนจะขับหนีออกไป  คำพูดคำจาของเขาพูดกระทบกระแทกราวกับว่ารำคาญฉันเต็มทน หึ ก็แหงสิ คนมันรับความจริงไม่ได้หนิเนาะ ชั่งเขาเถอะสงสัยจองกุกจะเบื่อฉันแล้วเขาถึงได้กล้าทิ้งฉันไว้แบบนี้


        "หน้าอายชะมัด..."    คนมองเต็มเลย ไม่ใช่ว่ามีฉันอยู่ที่นี่คนเดียวสักหน่อย



        ฉันรวบรวมแรงเท่าที่มีพยุงตัวเองลุกขึ้นยืน มือบางพลางยกปัดเศษฝุ่นออกจากกระโปรงราคาแพงให้หมดพร้อมตัดสินใจเดินออกไปจากจุดที่ฉันอยู่....ร่างเล็กเงียบไม่มีแม้แต่เสียงร้องไห้ ความรู้สึกเหม่อลอยมันเข้าครอบคลุมไปทั่วร่างกาย จำทำให้ฉันกายเป็นคนจิตหลุดไปอย่างไม่รู้ตัว







        เอี๊ยดดดดด!!...






        ปึ้ง!!!












        "เฮ้ย!! มีผู้หญิงถูกรถชน!!"





        "พะ..พี่(ชื่อคุณ)!?"



        









    [ 40% ]
















        JEON




        ทั้งโกรธและรำคาญ ไม่รู้ว่ายัยนั่นจะแหกปากทำไมก็ไม่รู้ เรื่องอื่นเยอะแยะมีไม่คุยแต่ดันมาเอาแต่เรื่องเก่าๆมาพูด คิดว่าผมไม่ฟังรึไง ผมฟังทุกประโยคตั้งแต่ต้นตนจบ แค่ไม่อยากจะพูดเพราะผมไม่ชอบให้เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาคุย และผมอาจจะรู้ตัวช้าไปว่าเมื่อคืนเมามาก เมาจนคุยไม่รู้เรื่องและจำเหตุการณ์เมื่อคืนแทบไม่ได้ สาเหตุที่ผมเมาไม่รู้เรื่องขนาดนั้นก็เป็นเพราะไอ้เพื่อนตัวดีของผม ไอ้เซฮุนกับได้ยูคยอมมันชวนผมมาดื่มน่ะสิ แถมยังเทเหล้ากรอกปากไปหลายขวดจนนับไม่ถ้วน พอรู้ตัวอีกทีผมก็เมาเรียบร้อย สตงสติก็ไม่เหลือ และในเมื่อผมเกิดอาการแฮงค์ในเช้าวันต่อมาผมก็พึ่งสังเกตว่า(ชื่อคุณ)อยู่ด้วย เกิดอะไรขึ้นผมก็ไม่รู้ คิดซะว่าตัวเองไม่ผิดก็แล้วกัน...ส่วนเรื่องของยัยนั่นผมก็ไม่อยากสนแล้วว่าจะคิดยังไง หาเรื่องใส่ตัวเอง ไม่เกี่ยวกับผม


        "โธ่เว้ย!.."    เสียงทุ่มสถบอย่างหัวเสีย เมื่ออยู่ๆสมองของผมก็นึงถึงแต่ยัยนั่น พอนึกทีไรไอ้จีมินฮยองก็แล่นเข้ามาในหัวของผมในเวลาเดียวกัน คำพูดเมื่อวานยิ่งทำให้ผมหมั่นไส้ รู้สึกว่าตัวเองกำลังแพ้ และผมก็ไม่ยอมถอยออกมาจากชีวิตของยัยนั่นแน่นอนถ้าจีมินฮยองยังไม่ยอมที่จะปริปากบอกเหตุผลให้กับผมฟังว่าทำไมถึงห่วงยัยนั่นจนออกหน้าออกตา...




        ตัวรถคันหรูขี่ย้อนกลับไปที่เดิมหลังจากที่หนีออกมาได้ประมาณ5นาทีกว่า ผมตัดสินใจขับรถย้อนกลับไปดูว่ายัยนั่นหนีไปรึยัง อย่าคิดว่าผมห่วงล่ะ แค่จะไปเอาตัวกลับแค่นั้นเอง ขืนปล่อยไปอีกมันก็ไม่สนุกอะดิ เพราะนี่มันพึ่งเริ่ม....



        ระหว่างนั้นเท้าหนาก็เหยียบเบรครถกระทันหันเพราะรถพยาบาลนั่นจอดขวางทางอยู่ ซึ่งนี่ทำให้ผมหัวเสียอยู่ไม่น้อยป่านนี้ยัยนั่นคงหนีไปไกลแล้วล่ะถ้าไอ้รถบ้านี่มันไม่มาขวางทางอยู่แบบนี้...ผมจิ๊ปากเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูรถพร้อมเดินลงออกไปจุดที่คนยืนมุงดูอยู่ไม่น้อย



        "น่าสงสารอะ พึ่งทะเลาะกับแฟนแท้ๆแต่กลับมาถูกรถชน"


        "เห้อ เวรกรรมอะเนาะ"



        จู่ๆเสียงของผู้หญิงสองคนก็วิ่งผ่านหูผมไปแบบผ่านๆ คิ้วหนาขมวดสงสัยก่อนจะหันหน้าไปมองสองคนนั้นที่กำลังจะเดินผ่าน แต่ยังไม่ทันจะเดินพ้นตัวผมไปพวกเธอสองคนก็หยุดชะงักะพร้อมเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยสายตาแปลกๆ


        หมายความว่ายังไง มีคนถูกรถชน..ผมไปไม่ถึง10นาที เกิดเรื่องอะไรขึ้น?


        "ผู้ชายนี่ก็แย่เนาะ..."    ผมยืนมองอยู่สักพักอยู่ๆพวกหล่อนก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงประชดประชันพร้อมเบนสายตามองมาที่ผมอย่างน่ารังเกียจ


        "อะไรของเธอ?"   เสียงทุ่มเอ่ยภามอย่างสงสัยพลางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจนัก  อะไรของพวกเธอวะ ผมก็ยืนอยู่เฉยๆกล้าดียังไงถึงพูดแบบนี้


        "เหอะ มาช้าไปรึเปล่า?"

        "ก็แฟนคุณโดนรถชนกลางถนนอะ ไม่รู้รึไง?"


        "ห้ะ?"


        "แหมทำเป็นไม่รู้เรื่อง ก็ผู้หญิงที่คุณจับโยนลงฟุตบาทไง...ตอนเนี่ยอยู่โรงพยาบาลแล้ว!!"    ด้วยน้ำเสียงจริตจก้านของผู้หญิงอีกคนที่เปรียบเสมือนว่ากำลังทำร้ายผมทางคำพูด และด้วยความเป็นผู้หญิงถึงกล้าทำให้พวกเธอพูดออกมาอย่างไม่เกรงกลัว แล้วที่สำคัญสิ่งที่พวกหล่อนพูดมาทั้งหมดทำให้ผมเริ่มกระจ่างแล้วว่าบุคคลที่กำลังหมายถึงนั้นเป็นใคร


        (ชื่อคุณ)..?



        "คุณเป็นแฟนที่โคตรแย่เลยนะ..."


        "ขอให้โดนทิ้ง!!!"


        "ไปเถอะแก อยู่ไปก็เกะกะขวางทางจราจร!"    ว่าจบ พวงนางก็เดินออกไปและทิ้งให้ร่างสูงยืนนิ่งตามลำพังท่ามกลางจราจรติดขัดด้วยเหตุเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น...อยากรู้จริงๆว่าพวกหล่อนมีความแค้นอะไรส่วนตัวกับผมรึเปล่าวะ-_-!


        ผมทึ่งหัวตัวเองไป1ทีก่อนที่จะตัดสินใจกลับไปที่รถและมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลใหญ่ใจกลางเมืองทันที ผมไม่รู้หรอกว่าเรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ที่แน่ๆผมไม่ยอมให้ยัยนั่นตายแบบง่ายๆแน่.....เพราะเรื่องของเรามันยังไม่จบ













        @โรงพยาบาล



        ภายในตัวโรงพยาบาลขนาดใหญ่ประจำกรุงโซล  ความวุ่นวายที่ผ่านมาไม่นานในที่สุดก็สงบลงหลังจากได้รับข่าวว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่ถนนxxx ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ2ราย ทั้งคนขับและบุคคลสาธารณะที่โดนลูกหลงไปอย่างไม่รู้ทันเหตุการณ์  ผ่านมา1ชั่วโมงเต็มจากคู่กรณีได้ตกลงกันอย่างลงเอยและไม่มีเรื่องติดขัดใดๆ   ชายแก่วัยกลางคนพร้อมกับลูกน้องอีก5คนเมื่อทำธุระเสร็จก็ไม่รอช้าที่จะมุ่งหน้าไปหาคนเจ็บด้วยความเป็นห่วงจนแทบขาดใจ







        ห้องพักฟื้น...




        เด็กหนุ่มร่างสูง ยังคงเฝ้าคนเจ็บไม่ห่าง...หลังจากได้รับการรักษาคนตัวเล็กก็นอนพักฟื้นอยู่เป็นเวลานานและยังไม่มีท่าทีจะฟื้นขึ้นมาสักที  สายตาคมอันไร้เดียงสาของซูบินมองร่างบางนับจากหัวจรดเท้า พบรอยแผลจากการไถลไปบนท้องถนนเล็กน้อย รอยช้ำอีกนับไม่ท้วน จนน่าเป็นห่วง ส่วนบนศรีษะก็ถูกผ้าพันรอบหัวเพราะบริเวณหน้าผากมีแผลแตกขนาดเท่านิ้ว3นิ้วมารวมกัน และยังไม่หมด..แขนข้างขวาที่ถนัดที่สุดของร่างเล็กนั้น กระดูกหลุดตรงบริเวณข้อศอกจนทำให้ต้องเข้าเฝือกในระยะยาว...



        ไม่ถึงกับตายแต่ก็เจ็บไม่น้อย




        "ผู้ชายคนนั้นคงเป็นแฟนพี่สินะ...แต่เป็นแฟนที่โคตรเลวเลย"    เด็กหนุ่มกัดฟันกรอดอย่างสุดทน มือหนากำแน่นอย่างไม่รู้ตัว ซูบินทั้งโกรธและเกลียดในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่เพราะว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เขาเห็นนั่นจะดูเป็นคู่รักที่ทะเลาะกันรุนแรงมากแค่ไหน แต่มันก็ไม่เจ็บเท่าที่เขาเห็นผู้หญิงที่เผลอมีใจให้นั่นต้องถูกทำร้ายทั้งคำพูดและร่างกายแบบนั้น...แต่ถึงยังไงซะเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปยุ่งแต่ขอเป็นคนปลอบแบบห่างๆก็ดีมากพอแล้ว






        แอด~




        ประตูสีขาวสะอาดประจำโรงพยาบาลนั้นถูกเปิดออกโดยคนจากด้านนอก เด็กหนุ่มหันไปมองพบผู้ที่อวุโสที่มีสิทธิ์เป็นพ่อของร่างบางนั้นได้เดินเข้ามาในห้องพร้อมระบายยิ้มอ่อนๆให้เด็กชายอย่างเอ็นดู...ซูบินไม่รีรอที่จะโค้งตัวเคารพผู้ใหญ่ตรงหน้าทันทีเมื่อคุณปีเตอร์ คิม ได้ย่างกายเข้ามาให้ห้องพักฟื้นของลูกสาว


        "ขอบใจนะที่เฝ้าหนู(ชื่อคุณ)ให้..."    ชายแก่เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงนุ่มอ่อนอย่างที่เคยเป็น คุณปีเตอร์เดินเข้าไปใกล้ซูบินพร้อมยกมือขึ้นตบบ่าของเด็กหนุ่มเบาๆ


        "ไม่เป็นไรครับ^^"


        "เห้อ! ถ้าไม่ได้พ่อหนุ่มช่วยไว้ลูกสาวลุงคงแย่มากไปกว่านี้แน่ๆ"


        "ครับ ผมก็อาจรู้สึกผิดถ้าพี่(ชื่อคุณ)เจ็บมากกว่าเท่าที่เป็นอยู่"


        "อื้ม ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้ง หากเราได้เจอกันอีกลุงจะตอบแทนพ่อหนุ่มให้จนกว่าจะพอใจเลยล่ะ"


        "ม..ไม่เป็นไรครับ ขอแค่ให้พี่เขาปลอดภัยผมก็พอใจมากแล้ว^^"    ซูบินรีบปฏิเสธทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของคุณปีเตอร์  ซูบินไม่ต้องการสิ่งใดแต่เขาต้องการให้คนตัวเล็กปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว


        "แหม!! ถ้าไม่ติดว่าลูกสาวลุงมีคู่หมั้นแล้ว ลุงคงยกลูกสาวให้พ่อหนุ่มไปตั้งนานแล้ว อืม คนดีๆแบบนี้ลุงไม่น่าพลาดเลย เห้อ!!"    ซูบินได้แต่ยิ้มแห้งๆ พลางหลุบตาลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่า คู่หมั้น นั่นสิ มันก็จริงอย่างที่คุณปีเตอร์ว่า คนมาทีหลังย่อมไม่มีสิทธิ์เลยแม้แต่นิดเดียว เพียงแค่ทำใจและยอมรับความจริง


        "อ่า เอาล่ะ ลุงว่าพ่อหนุ่มกลับไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวทางนี้ลุงเฝ้าต่อเอง"    คุณปีเตอร์พูดขึ้นพร้อมมองไปที่เด็กหนุ่มในเครื่องแบบนักเรียน เขาอาจคิดว่าซูบินต้องการพักผ่อนเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เด็กต้องอ่านหนังสือและสอบเข้ามหาลัย เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่อยากรบกวนซูบินมากนัก อยากจะให้กลับบ้านไปนอนพักผ่อนซะมากกว่า


        "ครับ เดี๋ยวผมจะมาเยี่ยมใหม่^^"    ซูบินฝืนยิ้มบางๆเพื่อให้ชายแก่รู้สึกสบายใจ เด็กหนุ่มรู้ตัวดีว่าตอนนี้คงปล่อยให้พ่อได้มีเวลาอยู่กับลูก แถมอีกอย่างซูบินก็เพลียมากและต้องกลับบ้านไปหาแม่ที่กำลังรออยู่


        "อื้ม กลับบ้านดีๆนะ^_^"


        "ครับ ขอบคุณครับ:)"












        ตอนนี้ผมพึ่งมาถึงโรงพยาบาล สาเหตุที่มาช้ามากเกินเวลาก็เพราะเจออุบัติเหตุอีกเส้นทางน่ะสิ เลยจำเป็นต้องขับรถอ้อมไปอีกทางนึงซึ่งมันไกลพอสมควร แต่มันก็ไม่ถือกับว่าเป็นอุปสรรค์หนักหนาสาหัต ตอนนี้ผมต้องตามหายัยนั่นให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย...




        ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาในตัวโรงพยาบาลที่กำลังชุกชุมไปด้วยผู้คนมากมาย..สายตาคมกวาดมองหาเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ที่มีนางพยาบาลกำลังทำงานตามหน้าที่ของตนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก ไม่ให้เสียเวลาร่างหนาเลยตัดสิ้นใจเดินเข้าไปถามทันที


        "ขอโทษนะครับ คนไข้ที่ชื่อ(ชื่อคุณ)พักอยู่ห้องไหนครับ?"    ผมเดินพรวดเข้าไปถามนางพยาบาลโดยไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงเลยเผลอทำให้เธอตกใจไม่น้อย


        "ขอโทษนะคะ ขอชื่อจริงด้วยค่ะ?"    หล่อนรีบดึงสีหน้าตกใจทิ้งก่อนที่วิญญาณนางพยาบาลเข้าสิงตามหน้าที่..และคำถามของหล่อนก็ทำให้ผมอ้ำอึ้งไปอยู่นาน



        ได้ไง..ผมไม่รู้จักชื่อจริงยัยนั่น!-_-



        "เอ่อ ถ้าบอกว่าผมไม่รู้จักล่ะ?"    แถไปก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่าเป็นมิจฉาชีพมาหลอก


        "ถ้าไม่ทราบทางเราก็บอกไม่ได้นะคะ เพราะชื่อของคนๆเดียวไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นกรุณาบอกชื่อจริงมาด้วยค่ะ"


        "เอ่อ..."


        "คุณเป็นอะไรกับคนไข้คะ?"


        กูขอต่อยพยาบาลได้มั้ยวะ!?-_-




        สถานการณ์ตอนนี้ทำให้ผมยืนเงียบอยู่สักพัก ส่วนนางพยาบาลก็เหล่ตามองผมไม่เลิก ให้ตายเถอะ จะมองอะไรนักหนาวะ ก็คนไม่รู้อ่ะจะให้ทำไง!!!


        "อ่ะ!! คุณจองกุก!?"  


        จู่ๆเสียงทุ่มใหญ่ที่มีความเป็นชายนั้นได้สอดแทรกเข้ามาในโซนประสาทของผม ทำให้ผมค่อยๆหันหน้าไปมองด้วยความเบื่อหน่าย..


        "หื้ม?"   ผมขานรับเบาๆพร้อมมองชายร่างสูงใหญ่ ที่มีลักษณะคุ้นๆเหมือนเคยเจอที่ไหน...คิดๆดู เอ่อนึกออกแล้ว ลูกน้องของคุณปีเตอร์ คิม  พ่อตาของจีมินฮยอง-^-


        "คุณจองกุกจริงๆด้วย สวัสดีครับ^^"    การ์ดประจำตัวของคุณปีเตอร์เดินเข้ามาทักทายผมตามมารยาท ส่วนผมเองก็พยักหน้ารับน้อยๆก่อนที่จะถามออกไป


        "คุณปีเตอร์อยู่ที่นี่หรอ?"    หากคุณปีเตอร์ไม่อยู่ที่นี่ การ์ดของเขาจะมาปรากฏตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทำไมกัน


        "ครับ พอดีนายท่านมาเฝ้าลูกสาวครับ แล้วคุณ...."


        "ลูกสาว?..คู่หมั้นจีมินฮยองอยู่ที่นี่?"   เสียงของผมพูดตัดบททันทีเมื่อได้ยินว่าคุณปีเตอร์มาเฝ้าลูกสาวของท่าน และด้วยความอยากรู้มานานว่าลูกสาวของท่านหน้าตาเป็นยังไงผมจึงถามออกไปอย่างเร่งรีบ


        "ครับ พอดีว่าคุณหนูเกิดอุบัติเหตุ นายท่านเลยเลยรีบมาดูอาการ..."


        "พาฉันไปหน่อยสิ"


        "ครับ?"


        "พาฉันไปหาหน่อยสิ คุณหนูของนายน่ะ"


        "ครับ ตามมาเลยครับ"


        ว่าจบ การ์ดส่วนตัวของคุณปีเตอร์ก็เดินนำหน้าออกไป ก่อนที่ผมจะเดินตามหลังไปติดๆ พักเรื่องของ(ชื่อคุณ)ไว้ก่อนเพราะยังไงซะผมก็ไปหาไม่อยู่แล้ว เลยถือโอกาสไปหาคุณปีเตอร์ซะเลยเพราะผมอยากรู้จริงๆว่าอดีตเจ้าสาวเมื่อ2ปีที่แล้วของผมจะหน้าตาเป็นยังไงหึ:)





        ใช้เวลาไม่นาน ผมก็ได้มาถึงห้องพักฟื้นพร้อมเดินเข้าไป ประตูบานสวยเปิดออกพร้อมปรากฏตัวของชายแก่ที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ผมมองไปที่ร่างของคุณปีเตอร์ที่กำลังใช้ผ้าเช็ดตัวให้ลูกสาวอยู่ไม่ห่าง..


        "เอ่อ นายครับ..คุณจองกุกมาพบนายครับ"   น้ำเสียงของลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้นพลางเดินเข้าไปใกล้ผู้เป็นนายอย่างมีมารยาท คุณปีเตอร์พยักหน้าน้อยๆก่อนที่จะวางทุกอย่างในมือลงพร้อมหันหน้ามาประเชิญกับผม


        "ลมอะไรหอบมาล่ะครับคุณจองกุก..."


        "เอ่อ ผมแค่ผ่านมาแถวนี้ แล้วบังเอิญได้รู้ว่าลูกสาวของคุณเกิดอุบัติเหตุผมเลยแวะมาเยี่ยมสักหน่อย"    แถไปแถมามันก็เวิร์คแฮะ เพราผมไม่มีอะไรที่จะแก้ตัวแล้วจริงๆ ผ่านมาก็จริงแต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าคนพวกนี้ก็อยู่ที่นี่ด้วย


        "งั้นหรอ อืม ดีเหมือนกันที่คุณมาเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงผมก็ต้องไปประชุมแล้ว...คงไม่มีใครอยู่เฝ้ายัยหนูของผมแล้วล่ะ"


        กำลังสื่อถึงอะไร-_-?


        "ฮ่าๆ ถ้ามันไม่เป็นการรบกวน....."    ผมยืนฟังคนแก่พล่ามอยู่เรื่อยๆ สายตาของผมก็พลางกวาดมองไปรอบๆห้องก่อนที่จะเหลือบไปเห็นลูกสาวของคุณปีเตอร์ที่กำลังนอนพักอยู่บนเตียง แต่เพียงไม่กี่เสี้ยววินาทีชายแก่ก็ทำท่าขยับออกห่างจากเตียงก่อนที่จะปรากฏรูปร่างลักษณะของคนบนเตีบงสามารถทำให้ผมเห็นได้อย่างชัดเจน...ร่างสูงเบิกตากว้างเล็กน้อยอย่างประหลาดใจที่อยู่ๆความบังเอิญก็ทำให้ผมหยุดนิ่งชั่วขณะพร้อมมองลึกไปที่ร่างบางที่อยู่บนเตียง


        ลูกสาวของคุณปีเตอร์ คิม คือ(ชื่อคุณ)งั้นหรอ?


        "นั่นลูกสาวของคุณ...."


        "ใช่..(ชื่อคุณ)ลูกสาวผมเอง ผู้หญิงที่คุณจองกุกปฏิเสธที่จะหมั้นด้วยไง จำไม่ได้หรอ"


        คำพูดของคุณปีเตอร์ทำให้ผมนึกถึงอดีตที่ผ่านมา มิหนำซ้ำเรื่องราวทั้งหมดมันยิ่งทำให้ผมอึ้งอยู่ไม่น้อย ไม่ยักกะคิดว่าคู่หมั้นของผม ไม่สิ ตอนนี้เธอเป็นของจีมินฮยองแล้ว กำลังอยู่ตรงหน้าและผมรู้จักเป็นอย่างดีเลยล่ะ...ไม่คิดว่าผู้หญิงที่ผมปฏิเสธงานหมั้นด้วยนั้นคือ(ชื่อคุณ) เรื่องบ้าๆแบบนี้มันทำให้ผมตงิดใจแปลกๆทั้งสับสนและไม่ชอบที่กำลังจะเห็นจีมินฮยองกับเธอต้องแต่งงานกันภายในปีหน้า...




        เหอะ!...




        "ครับ ผมไม่เคยเห็นหน้าเธอ...แต่เราสองคนรู้จัดกัน"


        "งั้นหรอ บังเอิญจังเลย..."


        "หึ! ครับ..เอาเป็นว่าตอนนี้คุณปีเตอร์ไปทำงานเถอะ เดี๋ยวผมจะดูแลลูกสาวของคุณให้เอง"    ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสีย
    งเจ้าเล่ห์โดยที่ชายแก่ไม่เอะใจเลยสักนิด เพราะเรามันคนคุ้นเคย เพราะฉะนั้นความไว้ใจย่อมมีให้ผมอยู่แล้ว หึ ตอนแรกที่แอบตกใจอยู่ไม่น้อยแต่ตอนนี้มันเริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์มันชั่งเป็นใจให้ผมได้เข้าใกล้ยัยนี่มากขึ้น และต่อจากนี้ไปจีมินฮยองก็อาจจะกังวลมากไม่น้อยถ้าหากรู้ว่าผมนั่นได้ทราบความจริงว่าพวกเขาสองเป็นคู่หมั้นกัน


        วางแผนไว้ดีหนิฮยอง ไม่คิดจะบอกผมเพราะกลัวว่าคู่หมั้นของตัวเองจะโดนเล่นงานหนักล่ะสิ หึ! แต่เสียใจด้วยนะ มันสายเกินไปแล้วล่ะ


        "เอางั้นก็ได้ ผมคงไว้ใจคุณนะ ในระหว่างที่คุณจีมินไปดูงานที่ต่างประเทศ งั้นผมก็ฝากดูแล(ชื่อคุณ)หน่อยก็แล้วกัน"


        "ได้ครับ..."    ผมตอบตกลงไปอย่างไม่ลังเล หึผมจะยอมปฏิเสธได้ยังไงล่ะในเมื่ออดีตพ่อตาฝากไว้ซะขนาดนี้ ไม่ต้องห่วงครับคุณปีเตอร์ผมจะดูแลลูกสาวของคุณเป็นอย่างดีเลยล่ะ




        "หึ! ถือว่าเธอยังรอดตายจากรถ แต่เธอไม่มีทางรอดจากเงื้อมมือของฉันแน่นอน : ) "









        เวลา 17:00 น.



        เวลาล่วงเลยนับหลายชั่วโมง คุณหมอและพยาบาลยังคงเข้ามาตรวจดูอาการอยู่เรื่อยๆแม้ว่าผู้ป่วยจะฟื้นแล้วก็ตาม...ร่างบอบบางนอนเอนตัวขึ้นในระยะที่พอเหมาะเพื่อให้รู้สึกสบายตัวพลางมองออกนอกหน้าต่างที่ถูกเปิดออกเพื่อให้อากาศถ่ายเท ท้องฟ้าที่เริ่มสลัวลงใกล้จะมืด ตามตึกสูงใหญ่ต่างพากันเปิดไฟต้อนรับในยามค่ำคืนที่กำลังจะถึงในอีกไม่ช้า


        "เห้อ...."    ลมหายใจอุ่นถูกพ้นออกมาเบาๆ ก่อนที่ร่างบางจะหลับตาลงอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นการปิดตาพักผ่อนที่ลำบากใจยิ่งนัก ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ หัวแตก กระดูกแขนหลุด ร่างกายที่ช้ำไปทั้งตัว อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกระทันหันแบบนั้นใครๆก็ต่างใจหายไม่น้อย นึกว่าตายไปแล้วเสียอีก


        พอตื่นมา ก็รู้ว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนอกซะจาก..คนที่พึ่งไล่กันในเมื่อไม่นานมานี้


        จอน จองกุก





        ตอนนี้ผมพึ่งกลับเข้ามาในห้องพักฟื้น หลังจากที่ออกไปหากาแฟดื่มแก้ง่วง และถือโอกาสซื้อของกินมาด้วยซะเลย..วันนี้นับว่าผมใจดีไม่อยากทำร้ายคนป่วย เอาใจสักวันคงไม่เสียหายเพราะยังไงซะเราก็ต้องได้เจอกันอีกอยู่ดี แถมบ่อยมากๆด้วยหึ!^^


        ร่างสูงโปร่งก้าวเท้าเข้ามาในพักขาวสะอาดก่อนที่จะคว้ารีโมทขึ้นมาเปิดทีวีเพื่อทำลายบรรยากาศความเงียบในห้อง..หน้าจอที่ดำใหญ่ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับละครช่องโปรดที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้  ผมละสายตาจากทีวีก่อนที่จะหันหน้าไปมองอีกทาง พบว่ายัยตัวดีที่อยู่บนเตียงเงียบและทำเป็นไม่สนใจผม เหอะ ผมรู้หรอกน่ะว่ายัยนี่ยังเคืองผมไม่เลิก ไม่รู้ว่าจะโกรธอะไรนักหนา...


        ผมรู้ตัวดี แต่ไม่อยากสำนึก :)



        "กินข้าว...ไม่กินฉันจะฟ้องพ่อเธอ"    ผมเอ่ยคำขู่ (ชื่อคุณ)ก็รู้ดีว่าตอนนี้ผมอยู่เพราะอะไร เพราะพ่อของเธอได้ฝากไว้ยังไงล่ะ ตอนแรกพอฟื้นมาเจ้าหล่อนก็ไม่พอใจอย่างหนัก แต่เธอทำอะไรได้ ไม่มีใครมาเยี่ยมเลยสัก เหลือแต่ผมนั่นแหละ หุบปากและอยู่นิ่งๆ ผมจะไม่ใจร้าย


        "ฉันซื้อข้าวกล่องมา..."


        "ไม่กิน..."



        หึ่ม!!-_-



        "กิน ไม่งั้นฉันจะฟ้องพ่อเธอ!"


        "ฟ้องสิ! ฟ้องเลย...แล้วฉันก็จะได้บอกให้พ่อไล่นายออกไปจากชีวิตฉันสักที!! มันน่ารำคาญ!!"    เสียงเล็กตวาดขึ้นโดยลืมตัวว่าเจ็บยังไม่หาย ผมชะงักไปสักพักก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องคุย


        "เงียบน่ะ....."    ผมเลิกสนใจคนบนเตียงก่อนที่จะทำการแกะข้าวกล่องใส่จานโดยที่ไม่ใส่ใจเธอแม้แต่น้อย


        "อ่ะ กินซะ..."    ผมหยิบจากข้าวไปวางไว้บนตักของ(ชื่อคุณ)ก่อนที่ตัดสินใจจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปทำธุระ...ถ้าออกมากินไม่หมดล่ะก็ ถือว่าผมพูดดีด้วยแล้วนะ







        YOU


        "เหอะ!..."    ฉันเค้นเสียงหัวเราะอย่างน่าสมเพชออกมาหลังจากที่จองกุกเดินเข้าไปในห้องน้ำ  ให้ตายสิ พ่อนะพ่อ ไปรู้จักกับหมอนี่ได้ยังไง ทำไมถึงได้เชื่อใจเขามากขนาดนี้ ไม่ห่วงลูกสาวเลยรึยังไง และอีกอย่าง ฉันโคตรสมเพชสภาพตัวเองตอนนี้เลย แถมแขนข้างขวาที่เอาไว้เขียนหนังสือยังต้องมาหลุดอีก หัวก็แตกเย็บไปหลายสิบเข็ม ที่แย่ไปกว่านั้นคือการที่จองกุกมาอยู่กับฉันในห้องพักฟื้นด้วยกันสองต่อสอง จะติดต่อเพื่อนก็ไม่ได้เพราะสมาร์ทโฟนของฉันถูกจองกุกยึดไปแล้ว!-_-


        บ้าจริง!!!!


        "อึก!!"    ระหว่างที่ฉันนั่งบ่นอยู่ในใจอยู่นั้น จู่ๆไอ้มือทรยศมันก็ตักข้าวใส่ปากอย่างไม่รู้ตัว  พอรู้สึกตัวอีกทีฉันก็เผลอเคี้ยวมันไปแล้วอ่า เห้อ เสียเฟลหมดฉัน ให้ตายสิ-_-


        "เห้อ! กินก็ได้วะ-^-"    ว่าจบฉันก็ใช้มือข้างซ้ายหยิบช้อนพลางตักข้าวใส่ปากด้วยท่าทางเบื่อหน่าย เอาจริงๆแล้วฉันก็หิวอะนะ แต่ฉันไม่อยากกินของที่จองกุกซื้อมาต่างหาก เพราะฉันยังรู้สึกเคืองเขาไม่หาย เดี๋ยวอยู่เดี๋ยวไล่ ไม่รู้ว่าฉันจะทำตัวยังไงแล้วตอนเนี่ย เพราะฉันรู้ชะตากรรมตัวเองแล้วว่าสภาพตอนนี้คงหลบหน้าเขาไม่พ้นแน่ๆ



        "หึ! ไหนบอกว่าไม่หิว......"


        "อุ๊ป!•*•"   ฉันรับดึงช้อนออกจากปากทันทีเมื่อได้ยินเสียงทุ่มๆของใครบางคน ร่างบางแอบเบิกตาโตเล็กน้อยก่อนที่จะวางช้อนลงและรีบคว้าน้ำมาดื่มเพื่อล้างปาก


        "คะ..แค่กินเฉยๆ เสียดาย!"


        "หรอ งั้นเธอไม่ต้องเสียดายเดี๋ยวฉันกินเอง"    เมื่อพูดจบ จองกุกก็เดินเข้ามาหยิบจากข้าวออกจากตักของฉันพร้อมเดินหนีไปนั่งลงบนโซฟา  ร่างเล็กยู่ปากอย่างขัดใจพลางเบนสายตาหนีไปอีกทาง เอ่อ!! เอาไปกินเลย คนไม่หิวโว้ย!!


        ไม่กินก็ได้....





        โครกกกกก!!



         หน้าท้องแบนราบเริ่มสั่นไหวเนื่องจากขาดสารอาหารที่ไม่ได้กินมานานนับหลายชั่วโมง มือบางขางซ้ายยกขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองเบาๆเพราะตอนนี้ฉันหิวแบบจริงๆจังๆแล้ว หิวแบบเริ่มทนไม่ไหวแล้วอ่า ในกระเพาะตอนนี้มันโล่งไปหมดเลย เห้อ!!


        "หึ..."    จู่ๆไอ้เสียงขำในลำคอของจองกุกมันทำให้ฉันได้ยินและเกิดอาการหมั่นไส้จนสุดจะทน โคตรเกลียดเลยไอ้สีหน้ากวนประสาทอย่างเขาเนี่ย!! เห็นแล้วปวดหัว!-^-


        "ชิ!..."


        ฉันทำเป็นไม่สนใจก่อนที่จะค่อยๆขยับตัวนอนลงช้าๆพร้อมปิดตาให้สนิทและรอให้พระอินทร์มารับไปเข้าเฝ้า(?) ฉันจะนอนและก็นอนจนกว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาล








        2 วันต่อมา....




        เป็นเวลาพักฟื้นที่ถือว่านานพอสมควร ในที่สุดก็ได้ออกจากโรงพยาบาลสักที  พอฉันกลับมาที่คอนโดก็เห็นรถที่คุณพ่อส่งมานั้นจอดไว้อยู่ในโซนจอดรถส่วนตัว แต่ว่าฉันยังขับมันไม่ได้เพราะแขนกับหัวยังไม่หายดี....ฉันคาดหวังจะได้กลับไปนอนที่ห้อง คิดถึงนกน้อยใจจะขาด แต่ทว่า ฉันไม่สามารถกลับห้องได้ เพราะตอนนี้ฉันอยู่ในห้องของจองกุกน่ะสิ!!


        หลังจากที่ได้ออกจากโรงพยาบาล จองกุกก็อ้างว่าคุณพ่อของฉันให้มารับกลับ และฝากดูแล ดูแล? ถามจริง ไม่กลัวลูกสาวตายเลยรึยังไง-_-



        เห้อ! อยากรู้จริงว่าพวกเขารู้จักกันได้ยังไง?...ไม่ยอมมีใครบอกฉันเลยสักคำ!!





        "นี่ ฉันขอออกไปข้างนอกได้มั้ย"    ฉันพยุงตัวเองออกมาจากห้องเชือดเก่า(?) ก็ห้องนอนจองกุกนั่นแหละ  ฉันค่อยๆเดินไปทางด้านหลังของเขาที่เขากำลังยืนดูดบุหรี่อยู่ริมระเบียง...นี่เขายังดูดอยู่อีกหรอ หมดไปกี่ม้วนแล้วเนี่ย-_- ชั่งเถอะแต่ตอนนี้ฉันอยากออกไปข้างนอกอยากไปช้อปปิ้ง อยากใช้เงินแฮะๆ^^


        "ว่าไงนะ?"    ร่างสูงใหญ่ขมวดคิ้วก่อนจะใช้นิ้วคีบบุหรี่ออกจากริมฝีปากและหันหน้ามามองฉันด้วยความสงสัย..ฉันถอนหายใจน้อยๆพร้อมเงยหน้ามองจองกุกและพูดว่า


        "ฉันอยากช้อปปิ้ง....จะไปซื้อเสื้อผ้าใหม่"    อยากได้เสื้อผ้าใหม่ก็เพราะฉันเริ่มเบื่อพวกตัวเก่าๆแล้ว อยากได้ชุดใหม่ เครื่องสำอางใหม่และอยากปรับลุคใหม่ให้ดูสวยกว่าเดิมและหาผัวใหม่(?) ไม่ใช่พูดเล่น!!^[]^


        "คืนสภาพแล้วรึไง?"


        "อื้อ..ดีขึ้นแล้ว และฉันพร้อมที่จะกลับห้องตัวเองแล้วด้วย"   ขอแอบหว่านล้อมให้เขาใจอ่อนเพื่อปล่อยฉันกลับห้อง


        และดูเหมือน มันจะไรัประโยชน์-_-


        "เดี๋ยวจะพาไป...แต่เธอห้ามกลับห้อง เพราะฉันไม่อนุญาต"


        "นี่!! นายมีสิทธิ์อะไรมาบังคับฉัน ชีวิตของฉัน ฉันจะกลับไปที่ที่ของตัวเองไม่ได้รึไง!?"


        "อย่าหาเรื่องมาทะเลาะหน่อยเลย  เพราะยังไงซะฉันก็ไม่โง่ปล่อยเธอไปหรอกหึ!"


        "น..นาย  อย่ามาเห็นแก่ตัวแบบนี้สิ ฉันไม่อยากยุ่งกับนายอีก"    ร่างเล็กหลุบตามองล่างพร้อมพูดออกมาอย่างน้อยใจ ที่ฉันพูดแบบนี้ก็เพราะอยากจะลืมจองกุกให้ได้เสียที ฉันไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของเขาอีกแล้ว มันเหนื่อย...เหนื่อยมามากพอแล้ว


        ชายหนุ่มเงียบลงสักพักก่อนจะใช้นิ้วบดหัวบุหรี่จนดับ พร้อมเดินเข้ามาดึงแขนร่างเล็กเบาๆพร้อมพาเดินออกไปจากห้อง...ฉันเอาแต่ก้มหน้าเงียบและยอมเดินตามจองกุกไปอย่างว่าง่าย ตลอดทางเดินเขาเอาแต่จับแขนฉันจนมาถึงห้าง การกระทำของจองกุกทำให้ฉันใจเต้นอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะยังไงเขาทำไม่ดีกับฉันไว้มาก แต่ฉันก็อดที่จะแอบหวั่นไหวไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันไม่เคยเผลอรักใครมากขนาดนี้มาก่อน แต่ฉันมาช้าและผิดเวลาไปมาก เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันก็เลยเถิดมามากจนถอนตัวออกไม่ทัน..แต่ฉันก็จะพยายามถอนตัวออกมาจากชีวิตของจองกุกให้ได้ สักวันฉันจะยอมไปและไม่มีวันห้วนกลับ



        "เธอจะไปร้านไหน?"    ร่างหนาหยุดเดินพร้อมหมุนตัวกลับหลังพลางเอ่ยถามฉันที่เอาแต่เงียบ...


        ตอนนี้เราได้มาถึงห้างเป็นที่เรียบร้อย และโผล่เข้ามาอยู่ในโซนร้านขายเสื้อผ้า ฉันก็แอบดีใจอยู่นิดๆอะนะที่จองกุกยอมพาออกมา แต่เขายังค้างคาเรื่องที่ไม่ให้ฉันกลับห้องอยู่และไม่ยอมบอกเหตุผล แต่เรื่องห้องเอาไว้ก่อน ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ....


        "ฉันลืมหยิบเอากระเป๋าตังค์มา...."    และนี่ก็คือสาเหตุสำคัญอีก1อย่างที่ทำให้ฉันเอาแต่ยืนเงียบ



        ฉันลืมเอากระตังค์มา..จะซื้ออะไรได้ล่ะ-^-



        "เห้อ!! นี่มันโง่จริงๆ...."


        "อือ ขอโทษ...กลับเถอะ"


        "เดี๋ยว!..ไม่ต้อง เดี๋ยวจ่ายให้"










        ภายในร้านขายชุดสุดหรู แบรนด์ราคาแพงต่างๆที่แต่งเติมไปด้วยเสื้อผ้าหลายประเภท มากมายจนเลือกไม่ถูกว่าจะเอาชุดไหนกลับบ้านดี เป็นเวลานานพอสมควรที่ชายหนุ่มนั่งรอคนตัวเล็กลองเสื้อผ้าที่ถูกใจ ทั้งๆที่ตัวเองไม่สมประกอบแท้ๆ(?) แต่กลับเลือกชุดนานเกือบชั่วโมง  เวลานี้ทำให้จองกุกนั่งถอนหายใจบ่อยครั้งจนทำให้พนักงานแถวนั้นเป็นอันต้องแอบยืนหัวเราะเบาๆ เพราะผู้หญิงสมัยนี้เลือกชุดนาน พวกผู้ชายไม่เข้าใจหรอก....


        ถ้าเป็นเยจินมาซื้อชุดล่ะก็ เธอคงไม่เข้าร้านแพงๆแบบนี้และไม่เรื่องมากเลือกชุดนานอีกด้วย...ซึ่งความคิดพวกนี้ทำให้จองกุกแอบคิดอยู่ไม่น้อยว่าผู้หญิงสองคนนี้มีนิสัยที่ต่างกันสุดขั่ว  เยจิน เรียบร้อย พูดจาหวาน น่ารัก แตกต่างจากอีกคนที่ ดื้อเงียบ เอาแต่ใจ แถมยังชอบโชว์อีกต่างหาก ปากจัด แต่เจ้าน้ำตา...





        "ฉันจะเอาชุดนี้!!"   เสียงใสพูดขึ้นเรียกความสนใจจากคนตัวใหญ่ที่กำลังนั่งรออยู่ไม่ห่าง ฉันยื้นชุดเดรสสั้นเข้ารูปส่ายเดี่ยว เซ็กซี่ ผ้าเสปนเดกสีหวานแหวกข้างให้จองกุกถืออยู่ไว้ในมือ นี่มันก็ผ่านมาเกือบชั่วโมงแล้วแต่ฉันพึ่งเลือกชุดที่ถูกใจได้แค่ตัวเดียว หมอนั่นรับปากว่าจะจ่ายให้ทั้งทีมันก็ต้องเลือกให้คุ้มสิหึๆ  เมื่อฉันยื้นชุดให้จองกุกถือเขาก็ยกชุดของฉันขึ้นดูพร้อมทำสีหน้าไม่พอใจแปลกๆ?


        "แรด..เอาไปเก็บ!!"     จู่ๆจองกุกก็โวยวายขึ้นพร้อมเอาชุดที่เลือกมาจับยัดใส่มือข้างซ้ายของฉัน ถ้าไม่ติดว่าแขนข้างขวาพิการอยู่ล่ะก็ ฉันฟาดชุดใส่คืนไปนานแล้วนะ!!


        "ไม่!! ฉันจะเอาชุดนี้!!!..."    จับยัดใส่มือจองกุกคืน


        "เธอจะบ้ารึไง!! ทั้งรัดทั้งสั้น แหวกขาอีกจะใส่ไปอ่อยใคร!?"


        "ก็ฉันชอบหนิ!!"


        "ไม่ให้ใส่!!..ไปร้านอื่น!!"



        "อ๊ะนี่!!"    





        สุดท้ายฉันก็โดนจองกุกลากออกมาทั้งๆที่ไม่ได้อะไรติดมือมาเลยสักอย่าง  เขาดึงฉันเข้าแวะร้านนู้นร้านนี้แต่มันก็ไม่ถูกใจฉันเลยสักร้าน เพราะร้านที่เขาพาไปมันมีแต่ชุดผู้หญิงๆเรียบๆ ฉันไม่ชอบ ฉันชอบแนวหวานสไตล์เซ็กซี่มากกว่า และนี่มันก็คือสไตล์ของฉัน จองกุกจะมาเดือดร้อนด้วยอะไรมิทราบ ฉันจะใส่ชุดไหนเขาก็ควรไม่เข้ามายุ่ง!?


        ฉันหน้าบึ้งหน้าตึงก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าถัดมา จองกุกปล่อยมือฉันก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปหยิบชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลืองคู่กับกระโปรงสีขาวพริ้วยาวตกถึงเข่ามาทาบวัดกับสัดส่วนร่างกายของฉัน..


        "เอาตัวนี้----!"


        "ไม่เอา!!!"    เสียงของฉันร้องปฏิเสธขึ้นทันทีเมื่อจองกุกเอ่ยปากว่าจะเอาชุดตัวนี้


        "มีปัญหา!?"


        "เอ่อ!! นายจะบ้ารึไง ชุดนี้มันป้าจะตาย ฉันไม่ใส่มันหรอก เชย!!"    ฉันปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมปัดมือจองกุกทิ้งให้ไปพ้นๆทาง  ชุดป้าแถมยังเชยแบบนี้ฉันไม่เอา ไม่อยากได้ สไตล์มันดูเหมือน อีเด็กบ้าเยจิน! 


        "เห็นฉันเป็นแฟนนายรึไง! งี่เง่า ไร้เหตุผล ถ้าอยากได้ชุดแบบนี้นักก็ซื้อไปให้แฟนนายใส่นู้น!! ฉันไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว!!"    ว่าจบ ฉันก็ตัดสินใจเดินหนีออกไปจากร้านขายเสื้อผ้า ทิ้งจองกุกไว้อยู่ตามลำพัง...ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าเขาเคยเห็นความรู้สึกฉันมั้ย พอทำอะไรก็ดูเหมือนจะยึดติดอยู่แต่กับแฟนของตัวเองตลอด ฉันไม่อยากเป็นตัวแทนของใคร ไม่อยากเป็นวัสถุแทนความรู้สึกของคนอื่น ฉันก็แค่อยากเป็นตัวของตัวเอง อยู่ในสิ่งที่ฉันเป็นเพราะนี่มันตัวฉัน ชีวิตฉัน ช่วยเข้าใจกันสักนิดก็ยังดี เหมือนด้านลบและด้านบวก..ซึ่งเยจินคือด้านบวก ส่วนฉันคือด้านลบสินะ ในสิ่งที่นายคิดจองกุกมันเป็นแบบนี้ใช่มั้ย....



        ฉันทนกลั้นอารมณ์และความน้อยใจไว้ พร้อมาพาตัวเองหนีออกจากโซนร้านขายเสื้อผ้า ไม่รู้ว่าฉันหนีออกมาไกลแค่ไหนแล้ว แต่ที่แน่ๆรู้ว่าตอนนี้ฉันยืนอยู่ใจกลางห้างและท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมานับไม่ถ้วน....


        "อึก!!...ไอ้บ้า!"    ไม่รู้ฉันจะหาคำด่าหมอนั่นยังไงดี ไม่ได้โกรธที่เลือกชุดแบบนี้แต่ฉันเกลียดที่เขาเห็นฉันเป็นเยจิน...เขาไม่เคยเห็นฉันอยู่สายตาเลยรึยังไง!!







        อีกด้านของความรู้สึก ที่จองกุกเองอาจจะยังทำตัวไม่ถูกเพราะยังไม่เข้าใจว่าคนตัวเล็กที่พึ่งโวยวายออกไปนั้นต้องการอะไรกันแน่..ทั้งๆที่ออกพามาห้างแล้วแท้ๆแต่กลับทำตัวเอาแต่ใจ อยากได้นั่นได้นี่จนเกินตัว ไม่หัดคิดเลยรึยังไงว่าไอ้ชุดที่อยากได้มันล่อแหลมมากขนากไหน เสื้อผ้าดีๆไม่อยากใส่แต่อยากใส่แต่จำพวกโชว์เนื้อโชว์หนัง เห็นแล้วมันรำคาญสายตาและเกิดอารมณ์หงุดหงิด โดยเฉพาะยิ่งใส่ชุดแบบนั้นออกมาข้างนอกแล้วมันยิ่งดูไม่ดีไปกันใหญ่....


        "คุณลูกค้าคะ..ดิฉันพอจะมีคำแนะนำให้คุณลูกค้า สำหรับในกรณีแบบนี้ ดิฉันมีชุดที่แฟนของคุณน่าจะพอใจ^^"    พนักงานสาวที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ เธอก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าตลอดเวลาที่เปิดร้านมา เห็นลูกค้าประเภทแบบนี้จนบ่อยครั้งและเธอสามารถแก้สถานการณ์แย่ๆแบบนี้ได้โดยเฉพาะคุณผู้ชายที่มีแฟนสาวขี้น้อยใจและดื้อเงียบเป็นพิเศษ


        ชายหนุ่มพยักหน้าน้อยๆเมื่อเห็นพนักงานสาวอาสาที่จะแก้ปัญหาให้..ตอนนี้จองกุกแค่ต้องการชุด1ตัวและตามคนตัวเล็กไป ขืนทำเจ้าหล่อนผิดหวัง มีหวังหล่อนได้โทรฟ้องพ่อแน่ๆ และจองกุกก็จะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ร่างบางอีก






        ตอนนี้ฉันเดินมาหยุดอยู่ในโซนนั่งพักผ่อนสำหรับคนที่มาเดินห้าง ร่างของฉันเอนกายพิงเก้าอี้ไม้สาธารณะบริเวณน้ำพุใหญ่ใจกลางห้าง พลางนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาแม้จะขยับตัวก็ไม่คิด...ฉันอยู่แบบนี้ไปเรื่อยเปื่อยพลางเหม่อลอยและยกมือขึ้นแตะบริเวณแผลบนหน้าผากของตัวเอง เห้อ! เมื่อไหร่จะหายเนี่ย อึดอัดตัวเองจะแย่อยู่แล้ว....


        ฟุบ!


        พื้นที่บนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ข้างๆถูกแทนที่ด้วยคนบางคน ก่อนที่ร่างหนาๆจะทิ้งตัวลงนั่งพร้อมเอนหลังพิงและยื้นถุงช้อปปิ้งอีกจำนวนนึงมาให้หญิงสาวข้างกาย...ฉันขมวดคิ้วสงสัยพร้อมมองมือใหญ่ๆของผู้ชายที่ยื้นถุงมาใส่หน้าฉัน  จองกุก? หมอนี่ตามฉันมางั้นหรอ แถมเขายังมีถุงช้อปปิ้งของร้านเสื้อผ้ามาด้วย


        "อ่ะ! เปิดดูพอใจยัง?"    จองกุกเลิกคิ้วกวนพร้อมนำถึงช้อปปิ้งมาวางไว้ข้างๆตัวฉัน..ฉันได้แต่นั่งเงียบพลางเหลือบมองร่างหนาที่จู่ๆก็ทำตัวแปลกๆ ผีอะไรเข้าสิงกันถึงได้ซื้อเสื้อผ้ามาให้ทั้งๆที่ยังกีดกันฉันจากชุดพวกนั้นอยู่เลย หรือว่า เขาจะซื้อชุดยัยป้ามาให้ฉันอีก เหอะ! ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ ฉันโกรธจริงๆด้วย


        "หื้ม?"    ฉันเลิกทำหน้าสงสัยก่อนที่จะล้วงชุดในถุงขึ้นมาดู ปรากฏว่าข้างในถุงนั้นผิดคาด มันไม่ใช่ชุดยัยป้า แต่มันเป็นเสื้อผ้าสไตล์ฉันเลยแต่ดูเซฟลงมานิดนึง  ชุดเดรสแบบคุณหนูสไตล์เกาหลีเว้าเอวนิดๆสวยแบบเซ็กซี่ในโทรนสีกรมน้ำเงิน และอีกหลายๆชุดซึ่งมันถูกใจฉันไม่น้อย


        "น..นายซื้อมันมาทำไม!!"    ฉันรีบเก็บอาการดีใจพร้อมยัดชุดใส่ถุงคืน


        "หึ! เบื่อคนขี้งอนแถวนี้..."


        "ฉะ..ฉันไม่ได้งอน!!"


        "ไม่ได้งอน?..แล้วทำไมเธอถึงหนีฉันออกมา"



        นี่นายยังไม่รู้ตัวอีกหรอจองกุก..ไอ้ผู้ชายเฮงซวนเอ้ย!!


        ฉันดึงสีหน้าเล็กน้อยพร้อมสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนที่จะพูดออกมาว่า...


        "ฉันไม่ชอบให้นายเอาฉันไปเปรียบเทียบกับแฟนของนาย!!.."    ฉันอยากให้เขารู้ ให้เขารู้สึก และเห็นหัวฉันบ้าง ฉันมันก็มีหัวใจเหมือนกัน อยากให้หันมาสนใจเหมือนกัน




        ถ้าทำได้...ขอแค่ให้เขาแสดงความรู้สึกดีๆที่มีต่อฉันสักครั้งก็ยังดี 




        "แล้วใครว่าฉันเอาเธอไปเปรียบกับเยจิน!...ยังไม่รู้ตัวอีกรึไงว่าชุดที่เธอใส่มันโป๊น่ะห้ะยัยโง่!!"


        "นาย..หึงฉันรึไง-//-"






        "....."









        [ 100% ]





    To be continued









         #TALK


        คิดจะอัพนานแล้ว แต่เน็ตไรท์ลอยไปกับพายุฝนเลยได้แต่งช้า อิอิ  ตอนนี้ยังไม่เท่าไหร่ เจอกันตอนหน้านะคะ ไรท์จะทยอยอัพเรื่อยๆ


    เม้นเยอะอัพไว แถมNC






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×