ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter Jeon : 4
Chapter 4
ไม่ควรไว้ใจตั้งแต่ทีแรก
เพราะความกลัวแท้ๆ
จองกุกโกหกฉัน...
"ฮึก! ไอ้บ้า..." ไอ้ผู้ชายเฮ็งซวย จะไปตายไหนก็ไป ฉันจะไม่หลงเชื่อคำพูดของนายอีกต่อไปแล้ว ไอ้คนเห็นแก่ตัว!!..เอาฉันมาทิ้งไว้แล้วหนีไปแบบนี้งั้นหรอ เหอะ!!
JEON
"ไม่อยู่ค้างด้วยกันหรอลูก?" เสียงแก่ของหญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ พร้อมกับคำชักชวนให้ผมอยู่ค้างคืนที่นี่ ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านของเยจินพร้อมกับคุณแม่ของเธอ ทั้งวันนี้ผมทำงานเยจินก็อยู่ด้วยตลอด ไม่นานนักเธอก็หาโอกาสชวนผมมาทานข้าวที่บ้านเพราะคุณแม่ของเธออยากทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาที่มีผมด้วย เยจินกับแม่ของเธออาศัยอยู่ด้วยกันสองคน ส่วนพ่อของเธอเสียไปตั้งแต่ยังเด็ก ผมน่ะเข้าใจความรู้สึกนี้ดีเลยล่ะว่าการสูญเสียคนรักไปแบบนั้นมันคงเสียใจมากขนาดไหน...เพราะผมเองก็เคยเสียแม่ไปเหมือนกัน...
เพราะฉะนั้นผมกับเยจินถึงเข้ากันได้ดี จนคบกันมาได้2ปีกว่า
"ไม่ล่ะ ครับผมเกรงใจ" ผมปฏิเสธไปพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ใจจริงก็อยากอยู่นะ แต่ว่าให้ความเป็นส่วนตัวต่อเยจินกับคุณแม่ของเธอจะดีกว่า อยู่ไปก็อาจจะดูขัดหูจัดตาเปล่าๆ
"อยู่ค้างคืนก่อนเถอะค่ะ วันนี้เยจินเห็นข่าวในทีวีบอกว่าวันนี้มีพายุเข้า ขืนปล่อยให้พี่ขับรถฝ่าฝนไปแบบนี้คงอันตรายมากแน่ๆ แถมตอนนี้ฟ้าก็มืดมากแล้วด้วย..."
"จริงอย่างที่น้องว่า ค้างกับเราสักคืนคงไม่เป็นไรหรอก...อีกอย่างคุณพ่อของจองกุกก็คงไม่รู้^^" สองแม่ลูกพูดอย่างมีเหตุผล แต่ประโยคหลังของคุณน้าทำให้ผมแอบหวั่นอยู่ไม่น้อยในสิ่งที่เธอพูด...ทุกคนในบ้านรู้ตัวดีว่าพ่อของผมไม่ชอบเยจินเพราะรายได้ครอบครับของเยจินนั้นไม่ได้รวยล้นฟ้าเหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ เมื่อก่อนผมเคยถูกกีดกันจากเยจินเพราะคุณพ่อหาคู่หมั้นให้เมื่อ2ปีก่อน แต่ผมปฏิเสธเพราะเราไม่เคยรู้จักกัน แต่พอคุณพ่อจะเอารูปคู่หมั้นให้ดูผมก็เลี่ยงที่จะมองและเลือกเยจิน....หลังจากนั้นคุณพ่อของผมก็เกลี้ยกล่อมให้เลิกกับเยจินและหันมาควงคู่หมั้นที่หาให้แทน
แต่ผมก็หลีกเหลี่ยงมาโดยตลอด จนคุณพ่อถอดใจ ท่านเลยยกเลิกสัญญาหมั้นระหว่างคุณ ปีเตอร์ คิม เพราะผมไม่เต็มใจที่จะหมั้น บวกกับลูกสาวของท่านก็ยังไม่เอ่ยปากตกลง ถือว่าโชคเข้าข้างทั้งสองฝ่ายเลยยกเลิกแต่ส่งไม้ต่อให้จีมินฮยองแทน..จีมินฮยองก็เต็มใจนะ ได้ยินมาว่าคู่หมั้นของฮยองสวยระดับนางแบบ พอผมจะขอดูหน้าหน่อยก็ทำเป็นหวง จน2ปีผ่านมาเนี่ย ผมก็ยังไม่เคยเห็นฮยองเขาควงคู่หมั้นมาให้เห็นสักที....และในวันนึงผมไปแอบได้ยินฮยองงอแงกับพ่อว่าทำไมลูกสาวของคุณปีเตอร์คิมไม่ยอมตกลงที่จะหมั้นสักที
"พอครับ เมื่อไหร่น้องจะยอมหมั้นกับผมสักที...ผมเหงา~"
"ใจเย็นๆสิลูก คุณลุงเขาบอกว่ารอให้น้องเรียนจบก่อนค่อยหมั้น เห็นว่าน้องเขาบอกแบบนั้น..."
"น้องยังไม่พร้อมใช่มั้ย?"
"ใช้ แถมน้องก็ไม่เคยเห็นหน้าแกด้วย หึๆสงสัยจะกลัวได้ไอ้พวกเสี่ยหัวล้านพุงพุ้ยล่ะมั้ง เลยไม่กล้าดูฮ่าๆ!"
"พ่ออะ!! ไม่เป็นไรผมจะรอจนกว่าน้องยอมตกลง!^^"
พอย้อนนึกไปแล้ว ผมก็คิดว่าผู้หญิงคนนี้แปลก...ดูเป็นคนลึกลับและไม่ยอมเปิดตัวสักที จนผมคิดไปว่าเธอคงลืมจีมินฮยองไปแล้วล่ะมั้ง
"พี่กุกคะ?"
"ค..ครับ!?"
"นั่งเหม่ออะไรอยู่คะ...จะให้เยจินจัดที่นอนให้เลยมั้ย?" ใบหน้าหวานๆของเยจินยื้นเข้ามาใกล้ผมพร้อมกับคำพูดที่ชักชวน...อ่าาาา นี่ผมนั่งเหม่ออยู่งั้นหรอ อดีตนะอดีต มันชั่งซับซ้อนยิ่งนัก คิดไปก็ปวดหัว เลิกคิดเถอะคนพวกนั้นไม่เกี่ยวกับผมเสียหน่อย
"นอนที่นี่เถอะจ่ะ ตอนนี้พายุฝนมาแล้วนะ...." จริงสิ..พอผมมองออกไปนอกหน้าต่างก็ปรากฏว่าเม็ดฝนเริ่มสาดลงมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมว่าถ้าจะขับรถกลับมีหวังโดนพายุซัดไปแน่ๆ
"ก็ได้ครับ...รบกวนด้วยนะครับ" เมื่อผมตอบตกลงไปอย่างไม่ขัดใจนัก สองแม่ลูกก็ยกยิ้มอย่างอ่อนโยนที่มีให้ผม...ค้างที่นี่สักคืนคงไม่เป็นไรไหนๆก็มาแล้ว
ต่อมา คุณน้าและเยจินอาสาเสียสละห้องนอนให้ แต่ผมเลือกที่จะนอนห้องของคุณน้าเพราะมันอาจเป็นการดีที่เยจินจะได้นอนห้องของตัวเองพร้อมกับแม่
"คืนนี้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหรืออยากได้อะไร พี่กุกเดินมาเรียกเยจินได้เลยนะคะ^^" เสียงเล็กพูดขึ้นในขณะที่ผมกำลังจัดเตียงให้เป็นระเบียบ ผมเงยหน้าขึ้นมองเยจินที่เอาแต่ยิ้มหวานให้ไม่หยุด
"ครับ เยจินไม่คิดจะนอนเลยหรอหื้ม?"
"คะ..คือว่าคืนนี้เยจินจะอ่านหนังสือน่ะคะ"
"งั้นหรอครับ หึเยจินไปเถอะ อย่านอนดึกมากนะ"
"ค่ะ ฝันดีนะคะพี่กุก^^"
"ฝันดีครับ...."
หลังจากเยจินเดินออกไปผมก็ปิดไฟเตรียมตัวที่จะนอนตามปกติ...แต่ผมแอบตงิดๆใจเล็กน้อยว่ารู้เหมือนลืมอะไรไปสักอย่าง นึกยังไงก็นึกไม่ออก ร้านสักผมก็ปิดแล้ว ของก็ไปเอามาลงแล้ว ประตูห้องก็ล็อคแล้ว ลืมอะไรไปอีกวะ!?
ติ้ง!!
สมาร์ทโฟนเครื่องหรูที่ถูกวางไว้อยู่บนโต๊ะหัวเตียงดังขึ้นพร้อมกับหน้าจอที่สว่างขึ้นปรากฏให้เห็นข้อความของใครบางคนที่ส่งมา..ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมยันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะเดินลงจากเตียงแล้วคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูทันที
' จองกุกลูกพ่อ พรุ่งนี้มีนัดทานข้าวกับคุณปีเตอร์ ช่วยเสด็จมาให้ทันเวลาด้วย 9โมงเช้า ที่ร้านอาหารประจำของเรา แต่งตัวมาหล่อๆหน่อยนะลูกเพราะว่าอีกไม่นานพี่ชายแกก็จะได้หมั้นแล้ว '
"อะไรของพ่อวะ?" นัดทานข้าวกับคุณปีเตอร์ พรุ่งนี้เนี่ยนะ ทำไมมันกระทันหันแบบนี้...แถมยังบอกว่าฮยองก็ใกล้ที่จะได้หมั้นแล้ว งั้นหมายความว่าฝ่ายหญิงก็ต้องมาด้วยอะดิ ในรอบ2ปี ที่ผมไม่เคยเห็นหน้าและรู้จัก หึงานนี้ผมไม่พลาดหรอกอยากจะเห็นจริงๆว่าเจ้าสาวของพี่ชายผมหน้าตาจะเป็นยังไง : )
"อืม..."
YOU
พายุกำลังตกหนัก เป็นเวลานับชั่วโมง ร่างกายของฉันพยายามหลบหนีเม็ดฝนเปียกๆที่กำลังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ฉันเดินออกมาจากมหาลัยเป็นเวลานานพอสมควร แต่ในระหว่างเดินจู่ๆฝนก็ตก ฉันเลยต้องรีบหาที่หลบจนกว่าฝนจะหยุด ระแนงของตึกที่ยื้นออกมาพอช่วยที่จะทำให้ฉันไม่โดนฝนได้ แต่เปียกเพียงนิดหน่อย..เรื่องฝนน่ะ ไม่สำคัญที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือฉันจะกลับคอนโดยังไง รถเมล์กับแท็กซี่ก็หมดแล้ว ดึกขนาดนี้คงไม่มีใครออกมาขับรถผ่านหรอก พวกเขาคงนอนหลับกันหมดแล้ว
"เห้อ!...." ชั่วโมงก่อนฉันพึ่งร้องไห้เสร็จมาหมาดๆ แต่ตอนนี้ฉันหยุดแล้ว หยุดที่จะร้องและหยุดนึกถึงมันซะ...จองกุก หมอนั้น ทำฉันผิดหวังอยู่ไม่น้อยที่เขาผิดสัญญาในขณะที่ทิ้งฉันไว้ ไม่รู้ทำไมฉันถึงต้องร้องไห้เพราะน้อยใจ มันหยุดไม่ได้จริงๆ ฉันน่ะแอบคาดหวังในตัวเขาพอสมควรทั้งๆที่รู้ตัวว่าเขาไม่มีทางทำในอย่างที่ปากว่าแน่ๆ เขามันก็แค่โกหก หลอกฉันเล่นเพื่อความสนุก..ฉันน่าจะรู้ตัวดี..
ร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงซะจองกุกก็ไม่คิดจะมารับฉันอยู่แล้วหนิ...
ตึก ! ! !
" ! ? " ในระหว่างที่ฉันกำลังยืนหลบฝนอยู่เงียบๆอยู่นั้น จู่ๆก็ได้ยินเสียงดังตึกแล่นเข้ามาในโซนประสาทอย่างรวดเร็ว พอได้ยินฉันก็รีบหดตัวเข้าอย่างเงียบๆ แขนที่กอดกระเป๋านั้นกอดไว้แน่นอย่างระแวงหน้าระแวงหลัง ตัวฉันเริ่มสั่นระริกเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเงาสีดำใหญ่ที่กำลังเดินโซซัดโซเซมาทางฉันเรื่อยๆ
"อือ...>^<" ร่างเล็กพลางหลับตาปี๋และพยายามหาทางที่จะเดินหนี..ทั้งกลัวเสียงฟ้าผ่าและเงาแปลกๆตรงนั้น ฉันควรทำไงดี จะวิ่งหนีไปเลยมั้ย
เปรี้ยง!!...
"กรี๊ด!! อึก!...ฮือ...." สายฟ้าสว่างวาบปรากฏลงต่อหน้าต่อตา ฉันรีบยกมือขึ้นปิดปากเมื่อเผลอร้องออกมาทั้งๆที่กำลังมีคนเดินเข้ามาหา..ฉันควรเงียบเอาไว้สิ ไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนจับได้นะ..
ฉันกลัว . . .
"คิกๆ นั่นใคร...ผู้หญิงรึเปล่าหา?" เสียงของคนปริศนาดังขึ้นในบริเวณไม่ใกล้ไม่ไกลนัก ฉันมองซ้ายมองขวาพร้อมกับคราบน้ำตาที่เริ่มไหลออกมาเปรอะเปื้อนหัวใบหน้า พอรู้ตัวอีกทีฉันก็มองเห็นต้นต่อของเสียง มันคือผู้ชายที่มีอายุในวัยทำงาน สวมเสื้อของบริษัท เนคไทที่ถูกดึงลงด้วยสภาพที่เมาแอ๋...เท้าเล็กค่อยๆก้าวถอยหนีทีละนิดๆและตัดสินใจที่นะวิ่งหนี
ปัก!!
"อัก!!!" ร่างบางๆล้มลงพื้นอย่างไม่เป็นท่าพร้อมกระเป๋าในมือที่กระเด็นหลุดออกไป เทียบกับว่าตอนนี้ไม่มีอะไรรองรับตัวฉันเลยนอกจากพื้นปูนแข็งๆ ในระหว่างที่ฉันกำลังจะเตรียมตัววิ่ง จู่ๆไอ้ขี้เมาจากด้านหลังก็ขว้างขวดเหล้าสีทึบเปล่าใส่หลังของฉันอย่างแรง จนทำให้ฉันเสียหลักก่อนที่จะล้มลง
"อ..อึก! อย่าทำอะไรฉันนะ!" เพียงไม่กี่วินาที คนจากด้านหลังก็พุ่งตัวลงมาคร่อมฉันไว้พร้อมกับกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งอันแสนน่ารังเกียจปะทะใส่หน้าฉันเต็มๆ ฉันพยายามเบือนหน้าหนีและดิ้นรนสุดชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผลหรือสู้ได้ มันไม่พูดอะไรเพียงแค่ยกยิ้มด้วยสีหน้าทุเรศที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา...ร่างเล็กเม้มปากแน่นและยังคงพยายามช่วยตัวเองให้รอด...ใจคิดหวังคงไม่รอด แต่ร่างกายยังคงต่อต้านไม่หยุด ทั้งกลัว ขยะแขยง ความรู้ทั้งหมดที่มีมันถาโถมเข้ามาใส่ในตัวฉันจนไม่สามารถลบมันออกไปได้
ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ไม่เคยมีใครคนไหนเห็นใจฉันนอกจากร่างกายที่ต้องการสัมผัส ความเห็นแก่ตัวของพวกมันเปรียบเสมือนตราบาปในใจของฉันที่ยากจะลบเลือน เจอเพื่อนของจองกุกยังไม่พอ ยังจะต้องมาเจอพวกขี้เมาข้างทางข่มขืนอีกงั้นหรอ...โคตรสมเพชตัวเองเลยวะ!
" อึก! ฮือ!...ปล่อย!!" ใครก็ได้ช่วยฉัน ใครก็ได้...
"เอิ่ก!! เด็กดื้อๆ...ไม่เอาไม่ร้องคิกๆ^^"
"กรี๊ดดด!!! อย่านะไอ้โรคจิตฮือๆ!" มือเล็กพยายามผลักไสคนน่ารังเกียจออกสุดแรง มือหยาบๆของมันล้วงเข้ามาใต้กระโปรงนักศึกษาของฉันและพยายามที่จะดึงเนื้อผ้าส่วนในของฉันออก แต่เพราะแรงที่ฉันดิ้นไปมาเลยทำให้ยากต่อการถอด ฉันทั้งผลักทั้งทุบตีแต่มันก็ไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใดแถมยังเอี่ยวแขนอีกข้างมาล็อคฉันไว้เพื่อไม่ให้ดิ้นรนอีกครั้ง
"อึก!!...อ..อย่าฮึก!"
ไม่เอาแล้ว ฉันไม่อยากเจอแบบนี้อีกแล้ว...
"เฮ้ย!!!"
ตุบ!!!
เหลี่ยมไม้หน้าสามขนาดใหญ่ปะทะลงท้ายทอยของคนแปลกอย่างสุดแรง เท้าหนาของชายหนุ่มที่พึ่งมาใหม่ถีบเข้าที่เอวด้านซ้ายของไอ้โรคจิตขี้เมาจนร่างของมันถลาลงไปกับพื้นก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้าไปซ้ำจนคนที่ถูกกระทำหมดสิลงข้างถังขยะ เมื่อตรวจสอบให้แน่ชัดแล้วว่ามันไม่ได้สติแล้ว เขาก็เลยตัดสินใจรีบตรงดิ่งเข้าไปประคองร่างเล็กขึ้นทันที
"คุณครับ...คุณ?" แขนแกร่งของชายหนุ่มพลางช้อนร่างเล็กขึ้นมาประคองพร้อมเรียกถามคนในอ้อมแขนด้วยความกังวล...สายตาคมไล่มองร่างบางไปทั่วร่างกายที่มีสภาพยับเยินพอสมควร พอเขาจะร้องเรียกถามแต่ปรากฏว่าคนตัวเล็กในอ้อมแขนของเขานั้นสลบไปเสียแล้ว
"อ่า...ทำไงดีเนี่ย-_-"
เช้าวันต่อมา...
เช้าของอีกวัน ฟ้าฝนยังคงเป็นใจที่จะตกลงมาอยู่เรื่อยๆ แต่ความรุนแรงลดลงต่างจากเมื่อคืนที่ผ่านมา อากาศเย็นๆสายฝนฉ่ำๆทำให้สภาพอากาศเปียกชื่นและมีผลกระทบทำให้ใครหลายๆคนป่วยเอาได้ง่าย...ภายในห้องครัวเล็กๆแสนอบอุ่นของเด็กหนุ่มพร้อมกับครอบครัวที่กำลังวุ่นทำมื้อเช้าอยู่ในครัวกันอย่างอบอุ่นตามปะสาครอบครัวทั่วไปเหมือนบ้านหลังอื่นๆ
"ซูบิน เดินไปหยิบเกลือให้แม่หน่อยสิลูก" หญิงวัย40ต้นๆเอ่ยเสียงหวานวานให้ลูกชายสุดที่รักเดินไปหยิบเกลือมาในขณะที่เธอกำลังง่วนกับทำสิ่งอื่นที่อยู่ในมือ
"ครับ^^" เด็กหนุ่มขานรับอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินผ่านผู้เป็นแม่ไปพร้อมหยุดระหว่างชั้นวางเครื่องปรุงที่อยู่ชั้นบนพอประดับหยิบจับได้ง่าย สายตากลมใสของเด็กชายกวาดหาเครื่องปรุงที่มีเกล็ดสีขาวและรสชาติเค็มอยู่ไปสักพักก่อนที่จะรีบคร้วกระปุกเกลือพร้อมยื้นให้ผู้เป็นแม่
"นี่ครับ^^"
"ขอบใจจ้ะ!...เอ่อ ซูบิน แม่ว่านี่มันก็จะ8โมงแล้วนะ ลูกขึ้นไปดูพี่เขาหน่อยสิว่าตื่นรึยัง"
"อ่า ได้ครับ" เด็กหนุ่มพูดพลางยิ้มอ่อนก่อนจะตัดสินใจปลดผ้ากันเปื้อนสีหวานออกจากตัวพร้อมเดินหายออกไปจากห้องครัว
ซูบินปล่อยให้แม่ของตนทำอาหารอยู่ในครัวส่วนพ่อของเขาก็ยังไม่ตื่น ซูบินชอบตื่นเช้าลุกขึ้นมาทำมื้อเช้าช่วยแม่ของเขาทุกวันจนชินและเขาก็มีความสุขที่ได้ทำแบบนี้ เมื่อนึกได้ร่างสูงก็รีบวิ่งกลับขึ้นไปบนเพราะลืมไปว่าเผลอทิ้งคนไว้นอนคนเดียวอยู่ในห้อง
"พี่ครับ..." เสียงทุ่มเอ่ยเรียกคนในห้องพร้อมเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนอนของตน..สายตากลมใสของเด็กหนุ่มมองไปที่เตียงของตนที่ยังคงปรากฏคนร่างเล็กนอนหลับยังไม่ตื่น ร่างสูงทำการปิดประตูห้องก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงบนปายเตียงพร้อมไล่สายตามองคนตัวเล็กที่กำลังหลับปุ๋ยไม่รู้ปะสีปะสาอะไร
ถ้าให้ย้อนไปกลับไปเมื่อคืน หลังจากที่ซูบินออกมาจากร้านเกมส์กับเพื่อน เขาก็เตรียมที่จะวิ่งกลับบ้านเพราะระยะทางบ้านกับร้านเกมส์ไม่ถือว่าอยู่ไกลมากนักแถมพายุยังซัดมาไม่หยุด เขาเลยตัดสินใจวิ่งกลับอย่างไม่คิดชีวิต แต่จู่ๆในระหว่างวิ่งกลับเขาก็ได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงซึ่งนั่นก็คือคุณนั่นเอง...ซูบินน่ะเป็นพวกไม่ชอบเห็นผู้หญิงถูกทำร้าย เมื่อเขาเห็นคุณตกอยู่อันตรายเด็กหนุ่มเลยไม่ลังเลที่จะช่วย ยอมรับเลยว่าเมื่อคืนซูบินใช้แรงเยอะไปไม่น้อยแต่มันก็คุ้มที่สามารถช่วยคุณไว้ได้
"อือ...." เด็กหนุ่มเลิกคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนทันทีเมื่อได้ยินเสียงครางงัวเงียของคนตัวเล็ก นั่นเป็นสัญญาณว่าร่างบางบนเตียงกำลังจะตื่นขึ้น..ไม่รอช้าซูบินก็รีบยันตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปประคองร่างเล็กๆขึ้นนั่งในขณะที่เปลือกตากำลังจะเปิดขึ้น
ฉันรู้สึกเหมือนมีคนเดินเข้ามาประคองหลังราวกับว่าตัวเองถูกยกให้นั่งพิงไหล่ด้านหน้าของใครสักคน..อาการของฉันยังคงงัวเงียไม่หายและไร้เสียงที่จะพูดเพราะเมื่อคืนฉันร้องไปไม่น้อย
เมื่อคืน!?
"อ..อย่า!!..."
นี่ฉันไม่รอดแล้วใช่มั้ย และนี่ไอ้โรคจิตมันกำลังอยู่ข้างหลังฉัน!?
"ด..เดี๋ยวก่อนครับ!"
"ไอ้โรคจิตแก!..." ฉันเปล่งเสียงออกมาอย่างลืมตัวพร้อมเอี่ยวตัวหันไปบีบคอไอ้โรคจิตที่ตอนนี้มันกำลังลวนลามฉันจากด้านหลัง(?)..ฉันออกแรงบีบโดยไม่คิดจะเหลือบตามองมันเลยสักนิด ยิ่งมองยิ่งรังเกียจ น่าขยะแขยง
"แค่ก! หยุด!..ผมไม่ใช่โรคจิตสักหน่อย!" อยู่ๆไอ้โรคจิตมันก็ร้องปฏิเสธพลางยกมือขึ้นมาจับมือฉันออกจากคอ...เอ๋? แล้วนี่ทำไมเสียงของไอ้โรคจิตมันฟังดูหล่อจังแถมกลิ่นตัวยังหอมแป้งเด็กอีก หืมมมม ไอ้แก่โรคจิตไม่เจียมตัว!!
"หยุด และช่วยมองหน้าผมด้วย!-_-" มันคงรู้แหละว่าฉันไม่มีท่าทางจะหยุดทำง่ายๆ ฉันปิดหูปิดตาที่จะไม่ยอมรับฟังก่อนที่จะพุ่งแขนเข้าไปบีบคออีกครั้ง
แต่ทว่า...ฉันพลาด
"อ๊ะ!!"
ตุบ!...
เพียงแค่เสี้ยววินาที ร่างบางๆของฉันก็ถูกคว้าเข้าไปกอดก่อนที่ไอ้โรคจิตมันจะพลิกตัวนอนหงายลงบนเตียง เท่ากับว่าตอนนี้ฉันนอนทับตัวมันอยู่...ไม่นะ!!
"กรี๊ดดดดดด!!"
"โอ้ย! หยุด!!!!"
"ไอ้โรคจิต!!"
"ผมไม่ใช่โรคจิต!!!"
"กูไม่เชื่อ!!!----"
ปั้ง!!
"ถ้าจะเล่นม้าขย่มกันก็ช่วยทำกันเงียบๆหน่อย!!"
"พ่อ!!? 0[]0"
เท้าหนาๆของชายแก่ถีบประตูเข้ามาด้วยสภาพที่ตื่นยังไม่เต็มที่พร้อมมองไปที่ร่างชายหญิงที่นอนทับกันอยู่บนเตียง..อะไรเนี่ย! นี่ฉันได้ยินประโยคที่เขาพูดมันหมายความว่ายังไง เล่นม้าขย่ม หรอยะ!! โรคจิต!-_-
"มันไม่ใช่อย่างนั้นนะพ่อ...จู่ๆพี่เขาก็อาละวาดไม่ยอมฟังผมเลย-^-"
พี่!?
"อ่ะ! ที่แท้แกมันก็ได้เด็กโรคจิต!!!!" ฉันผลักตัวเองออกพร้อมมองคนใต้ร่าง หน้าตาก็ดีนะไม่เห็นต้องมาข่มขืนกันเลย!! พ่อมันก็อีกคน โรคจิต!-_-
"เห้อ! นี่อิหนู ลูกชายลุงไม่ใช่โรคจิตสักหน่อย-_-"
"ใช่ๆ(-_-)(._.)(-_-)(._.)"
"ไม่เชื่อ..." ฉันยืนยันคำขาดก่อนจะลุกออกจากตัวคนใต้ร่างพร้อมทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง..แต่ทว่าความรู้สึกเจ็บจี๊ดก็แล่นผ่านหลังของฉันจนทำให้ร้องซี๊ดออกมา
"ซี๊ด!...เจ็บ..." ร่างบางทำหน้าเหยเกพร้อมเอามือคล้ำหลังตัวเอง..แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาอยู่เลยล่ะ ทว่ามันแทนที่ด้วยเสื้อยืดตัวหนาสีสมแค่ตัวเดียวส่วนที่เหลือมันโล่งโจ้งหมด-_-
"หลังของพี่มันช้ำน่ะ เมื่อคืนผมเปิดดูแล้ว....เอ่อหมายถึงแม่ผมน่ะ"
"หมายความว่าไง-_-"
"ก็เพราะว่าผมไม่ใช่โรคจิต! เมื่อคืนผมกระทืบมันไปแล้ว ไม่ต้องห่วงพี่ไม่โดนมันดึ๋บๆหรอก-///-" หน็อยไอ้เด็กนี่ ดูมันพูดเข้า!!
"พูดให้มันดีๆหน่อยนะ ที่บอกว่าช่วยฉันน่ะ จริงหรอ?" ก็แอบเชื่ออยู่นิดๆอะนะ เพราะดูจากท่าทางแล้วเด็กนี่มันคงไม่โกหกฉันหรอกเพราะเท่าที่จำได้ไอ้โรคจิตเมื่อคืนมันใส่ชุดพนักงานหนิ อืม เข้าใจแล้ว...ขอโทษก็แล้วกันแหะๆ^^
"ไม่ได้โกหกแน่นอน...ผมเป็นคนช่วยพี่ไว้ แต่ว่าเมื่อคืนพี่สลบไปผมเลยพากลับมาอยู่ที่บ้านก่อนเพราะผมไม่รู้จักที่อยู่ของพี่"
"อืม...ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ขอบคุณนายก็แล้วกัน และขอโทษด้วยที่เผลอบีบคอนายไป-^-"
"ไม่เป็นไรครับ...อืม ผมว่าพี่ไปอาบน้ำเถอะ ถ้าพี่เดินไหวอะนะ^^"
"อืม..แต่ฉันไม่มีชุด"
"ยืมชุดแม่ผมก่อนก็ได้^^"
"อ่า..รบกวนด้วยนะ:)"
เวลาผ่านไปฉันพยุงร่างกายอันอ่อนปวกเปียกออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัวฝืนใหญ่ที่เด็กนั่นมันหามาให้ ตอนนี้ฉันเดินมานั่งลงบนเตียงพลางมองร่างสูงที่ยื่นชุดของแม่เขามาให้ฉัน ฉันมองไปที่ชุดเดรสแขนตุ๊กตา สีแดงสด กระโปรงสวิงตรงหน้า แอบขมวดคิ้วนิดหน่อยว่าทำไมเขาถึงเลือกชุดนี้มาให้ฉัน
"ไม่มีชุดอื่นหรอ?"
"อือ ไม่ครับ แม่บอกว่าพี่น่าจะใส่ชุดนี้แล้วเหมาะสุด ท่านเลยบอกให้ผมเอามาให้เปลี่ยน"
"งั้นหรอ ขอบใจนะ...ออกไปได้แล้วฉันจะเปลี่ยนชุด" ถึงร่างกายตอนนี้จะยังปวดอยู่ก็เถอะแต่ฉันก็สามารถช่วยตัวเองได้แล้วไม่ต้องกังวลที่จะทำให้คนอื่นลำบากไปด้วย..ฉันไม่อยากเป็นภาระของใคร..
"ครับ เสร็จแล้วอย่าลืมลงมาทานข้าวนะ^^"
"อ่าาาา รู้แล้วๆ"
หลังจากแต่งตัวเสร็จ อาการของฉันก็ดีขึ้นเยอะมากเลยล่ะและฉันก็ไม่อยากนึกถึงเรื่องเมื่อคืนอีกแล้ว ฉันจะลืมมันไปให้หมด คิดซะว่ามันเป็นแค่ฝันร้ายก็พอ...ร่างเล็กๆภายใต้ชุดเดรสแขนตุ๊กตาสีแดงสดเดินลงมาจากชั้นบนก่อนที่เท้าบางจะหยุดชะงักพร้อมมองไปที่บุคคลแปลกหน้าที่กำลังนั่งรออยู่โต๊ะรับประทานอาหาร ฉันยกยิ้มแห้งๆก่อนจะรีบพาตัวเองเดินไปนั่งลงเกาอี้ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้
"ตายจริง ใส่ชุดของแม่ได้พอดีเลย~^^"
"ก็เพราะว่าคุณอ้วนขึ้นยังไงล่ะเลยใส่ไม่ได้"
"นี่คุณ!!!"
"พ่อครับแม่ครับอย่าพึ่งทะเลาะกันตอนนี้สิ เรามีแขกนะ...."
"อ..เอ่อ...ไม่เป็นไร ทำตัวปกติเถอะ^^" ฉันยกมือขึ้นระดับอกพลางโบกมาไปมาอย่างเกรงใจ แหะ ฉันมันก็แค่คนขออาศัยแค่ชั่วคราวไม่เห็นจำเป็นต้องทำแบบนี้เลย ฉันรู้สึกเกรงใจจะบ้าอยู่แล้ว
"อื้ม ว่าแต่เรายังไม่รู้จักชื่อกันเลยหนิ"
"เอ่อจริงด้วย........"
จากนั้นเราก็ทำความรู้จักกัน และลงมือทานข้าว...เช้านี้ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะมากเลยแหละ ครอบครัวนี้น่ารักมากๆเลยคุยกันสนุกปากด้วย ทำให้ฉันยิ้มไม่หยุดจนกระทั่งทานข้าวเสร็จ...ตอนนี้ฉันขอตัวขึ้นมาอยู่บนห้องอีกครั้งเพราะทางนั้นไม่ให้ฉันล้างจานช่วยเพราะกลัวว่าฉันจะยังปวดหลังอยู่
ร่างน้อยๆค่อยๆเอนตัวลงนอนบนเตียงช้าๆพลางคว้ากระเป๋าของตนมาเปิดดู ปรากฏว่าทรัพย์สินของฉันยังอยู่ครบ กระเป๋าตังค์ บัตรเครดิตต่างๆ รวมถึงสมาร์ทโฟนด้วย...อืม แต่จะว่าไปตั้งแต่เมื่อวานฉันยังไม่ได้เปิดเช็กข้อมูลในเครื่องเลยหนิ นึกแล้วก็เปิดดูหน่อยก็ดีนะ
"หื้ม!?" เมื่อฉันเปิดหน้าจอขึ้นก็พบข้อความจากพ่อที่ส่งมาให้...ท่านส่งมาว่า ให้มาตามนัดทานข้าวกับคุณ จอน แฮชาน แขกคนสำคัญ ร้านอาหารประจำของพ่อ มาให้ตรงเวลาภายใน9โมงเช้า แต่งตัวสวยๆด้วย-_-
"ตายแล้ว!-_-" ข้อความนี้ถูกส่งมาตั้งแต่เมื่อวานซึ่งฉันไม่ได้เปิดมันดูเลย ดูท่าทางจะเป็นข้อความสำคัญอีกซะด้วยสิ ทำไงดีไปตอนนี้คงไม่ทันแน่ๆเพราะนี่มัน10โมงแล้ว นัดกันไว้9โมง ไม่มีทางที่ฉันจะไปทันแน่ๆ
แง ทำไงดีT^T
"จริงสิ!!......"
JEON
ห้องอาหาร Fine Dining สไตล์ฝรั่งเศสที่มีกลิ่นอายของญี่ปุ่นที่การันตีคุณภาพบรรยากาศของห้องอาหารเน้นโทนสีน้ำตาลและดำ เรียบง่ายแต่ยังคงความหรูหรา เพิ่มลูกเล่นการตกแต่งด้วยไม้ถ่านรอบร้าน ซึ่งจุดเด่นคือครัวเปิดและโซนChef's Tableหรือใครอยากมีความส่วนตัวหน่อยก็เปลี่ยนบรรยากาศนั่งรับประทานอาหารด้านนอกในสไตล์เทอเรสและเป็นส่วนที่ยื่นออกไปนอกตัวอาคาร นั่งชมวิวสวยๆพร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นๆชื่นใจได้...แต่ปกติแล้วครอบครัวของผมจะชอบรับประทานอาหารในแบบส่วนตัวมากกว่า มันเงียบและสงบดีแถมยังไม่ถูกรบกวนจากคนด้านนอกอีก ส่วนตัวผมเวลาที่มาคนเดียวก็จะชอบออกไปนั่งจิบเบียร์พร้อมกับดินเนอร์อยู่ด้านนอก นั่งกินคนเดียวสบายใจสุด สักวันผมเคยคิดจะพาเยจินมาด้วยแต่หาโอกาสยังไม่ได้สักทีเห้อ!
วันนี้ครอบครัวของเราได้ถูกนัดหมายมาทานมื้อเช้าด้วยกันกับคุณปีเตอร์และลูกสาว แต่ทว่านี่มันจะเที่ยงแล้วนะทำไมลูกสาวของคุณปีเตอร์ยังไม่มาอีก....
"ผมว่านี่มันก็นานแล้วนะครับ...ทางนั้นมีปัญหาอะไรรึเปล่า?" ด้วยความใจร้อนของผมทำให้พูดออกไปอย่างตรงๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองคุณปีเตอร์ด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์มากนัก แต่ทว่าสีหน้าของผมต้องแอบถอดเล็กน้อยเมื่อการ์ดของคุณปีเตอร์ที่ยืนป้องหลังอยู่ประมาณ10คนทำท่าจะล้วงปืนขึ้นมายิ่งผม
ไอ้บ้าเอ้ย กูแค่ถามเฉยๆคิดจะฆ่ากันให้ตายเลยรึไง!!-_-
"เอาหน่า~ พวกเอ็งหนิ!" น้ำเสียงของคุณปีเตอร์เอ่ยขึ้นด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะยกมือขึ้นห้ามการ์ด และพวกมันก็ดูท่าทางจะเชื่องพร้อมปล่อยมือออกจากปืนอย่างว่าง่าย
"เอาเป็นว่าพวกเราไม่ต้องรอหรอกดูท่าทางแล้ว-----!!"
Rrrrrr!
"อ่า ลูกสาวผมโทรมาน่ะ....." คุณปีเตอร์ไม่คิดจะลุกไปไหนก่อนจะทำการกดรับสายจากลูกสาวทันที ส่วนพวกผมสามพ่อลูกก็ได้แต่นั่งฟังอย่างเงียบๆ
"ไงครับเจ้าหญิงน้อยของพ่อ....หื้ม! จริงหรอ...แล้วเป็นยังไงบ้างลูก อ่าาาาา ได้ครับ ครับ ดูแลตัวเองด้วยนะ ไม่ร้องนะโอ๋ๆได้ครับพ่อจะซื้อให้ ไม่มีปัญหาไหนๆลูกก็จะเรียนจบแล้ว ครับ พักผ่อนนะครับแม่นกน้อยของพ่อ^^"
ย๊าท์..นี่คำพูดกับน่าตามันชั่งเข้ากันยิงนัก เขามันตามใจลูกนี่หว่า-_-
"เห้อ! ดูท่าทางลูกสาวของผมจะมาไม่ได้ เพราะทางนั้นติดฝนอยู่ที่บ้านเพื่อนน่ะ แถมยังบอกว่าไม่สบายอีกด้วย...ต้องขอโทษด้วยนะครับ^^" หลังที่คุณปีเตอร์วางสายจากลูกสาวเสร็จ เขาก็กลับมาสนใจสามหน่ออย่างพวกเราต่อ..ผมแอบมองจีมินฮยองเล็กน้อย เจ้าตัวทำสีหน้าผิดหวังหน่อยๆด้วยแววตาที่เกินจะคาดเดา
"ไม่เป็นไรครับ..."
"งั้นเรามาคุยเรื่องของเด็กๆกันเถอะ^^"
"ว่ามาเลยครับ:)"
"ครับ..เท่าที่ผมดูไปสักพักแล้ว ผมคงคิดว่าลูกสาวของผมคงไม่ตกลงที่จะยอมหมั้นกับจีมิน เพราะเวลาที่ผ่านมาเธอแทบจะไม่เอ่ยปากตกลงเลยสักคำและผมก็คิดว่านี่มันก็นานมามากพอแล้ว เราเลยตัดสิใจว่าจะยกเลิกสัญญาทั้งหมด..."
"ไม่ครับ! ให้เวลาผมหน่อยได้มั้ย..."
"หึ คุณแน่ใจหรอจีมินว่าจะรอ และมั่นใจหรอว่าตัวเองรักลูกสาวผมจริงๆ...แต่ถ้าลูกสาวของผมไม่รักคุณล่ะ แถมอีกอย่างจองกุกลูกชายคนเล็กของคุณแฮชานยังปฏิเสธที่จะหมั้น ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าคุณจีมินจะจริงจังกับลูกสาวของผม" รอยยิ้มบางๆของชายแก่ปรากฏขึ้นพร้อมกับประโยคอันแสนชวนปวดใจที่ทำให้จีมินฮยองหน้าซีดลงเล็กน้อย ก็แหงล่ะ ใครๆก็ต้องกลัวอยู่แล้วถ้าฝ่ายหญิงไม่รัก..รักเขาข้างเดียวมันก็เจ็บแบบนี้นี่แหละ...
' ....นายเป็นคนเดียวที่ฉันรักและมีใจให้ฮึก! '
เคร้ง!!...
มือหนาที่จับช้อนเขี่ยอาหารไปมาเผลอทำหลุดมือลงอย่างไม่รู้ตัว ทำให้ผู้ร่วมโต๊ะอาหารทั้งสามต้องหันมาสนใจเป็นตาเดียวกัน...ผมเหม่อไปสักพักเมื่อพึ่งนึกได้ว่าลืมอะไรไปสักอย่าง..ผมลืม(ชื่อคุณ) ยัยนั่นหายไปจากหัวสมองของผมเลยแฮะ...
"เป็นอะไรรึเปล่าจองกุก?" พ่อของผมเอ่ยถามพร้อมมองหน้าผมด้วยความสงสัย
"เปล่าครับ...ผมขอตัวกลับก่อนนะ"
"เดี๋ยว!! จะไม่มีใครไปไหนทั้งนั้นถ้าผมคุยยังไม่จบ..." ระหว่างที่ร่างสูงกำลังเตรียมตัวจะลุกขึ้นต้องหยุดชะงักพร้อทนั่งลงตามคำพูดของชายแก่ ผมลอบถอนหายใจเล็กน้อยและยอมนั่งลงอย่างว่าง่าย ดูๆท่าแล้วผมคงไม่ไหนไม่ได้ เอาวะ!
"ครับ...."
"เอาล่ะว่ามา..." คุณปีเตอร์ผ่ายมือเชิญให้จีมินฮยองพูดต่อหลังจากที่ขาดตอนมานอนพอสมควร
"ครับ ผมไม่รู้ว่าน้องจะรักหรือไม่ 2ปีที่ผ่านมาเราสองคนไม่เคยเจอกันเลย..แต่ตอนนี้ผมเจอน้องแล้ว และผมก็จะทำให้น้องยอมรับในตัวผมให้ได้ ผมขอโอกาสอีกสักครั้ง..ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย" น้ำเสียงแห่งความมุ่งมั่นและแววตาที่จริงใจของร่างหนาทำให้ทางฝ่ายผู้ใหญ่แอบยิ้มอยู่ไม่น้อย
"หึ! เอางั้นก็ได้...เหลืออีกแค่ปีเดียว รอให้น้องเรียนจบก่อนค่อยว่ากันอีกที แต่ในตอนนี้ถ้าจีมินบอกว่าเจอน้องแล้ว งั้นผมก็ฝากดูแลด้วยล่ะ ยิ่งชอบไปไหนมาไหนคนเดียวอยู่ซะด้วยสิ"
"ครับ ผมจะดูแลน้องและจะไม่ยอมให้ไอ้ผู้ชายหน้าไหนเข้ามายุ่งเด็ดขาด:)"
"...." แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมวะ ทำไมฮยองแมร่งต้องเน้นคำพูดใส่หน้าผมแบบนั้น-_-?
"ได้...ได้ มาๆเลิกทำหน้าเคลียดแล้วมาทานข้าวเถอะ^^"
เวลาต่อมา . . .
ตอนนี้เราทุกคนต่างแยกทางกลับทางใครทางมัน คุณปีเตอร์ก็กลับไปแล้วเพราะมีงานต่อแถมยังจะต้องไปซื้อของให้ลูกสาวอีก..แต่ผมก็อยากรู้ว่าลูกสาวของเขาหน้าตาเป็นยังไง รู้งี้ดูรูปตั้งแต่2ปีที่แล้วก็ยังดีจะได้ไม่ต้องมาทำหน้าสงสัยอยู่แบบนี้
"เห้อ!!" ผมถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกุญแจรถออกมา แต่ในขณะที่ผมกำลังจะล้วงกุญแจขึ้นมา จู่ๆก็รู้สึกว่ามีคนยืนมองอยู่ข้างๆ ผมจึงตัดสินใจหันหน้าไปมองอย่างช้าๆ
จีมินฮยอง?
"อะไร?" เสียงทุ่มเอ่ยถามอย่างนิ่งๆพร้อมสื่ออารมณ์ออกไปว่ามีปัญหาอะไรกับผมมิทราบ..แน่นอนว่าการที่เราสองคนทนอยู่โต๊ะร่วมอาหารกับคุณปีเตอร์ได้นั้นคือการแสดง ใจจริงแล้วผมกับจีมินฮยองก็ไม่ได้อยากเจอขี้หน้ากันเท่าไหร่หลังจากวันนั้น..วันที่ฮยองเข้าไปช่วย(ชื่อคุณ)หนีออกมาจากห้องของผม ดังนั้นผมจึงรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเจอหน้าฮยอง..แต่ก็ยังนับเป็นพี่อยู่อะนะ..แค่ไม่ชอบที่เห็นฮยองอยู่กับยัยนั่น มันดูเหมือนว่าผมกำลังแพ้
"ฉันรู้ว่าแกเคืองฉันเรื่องที่เกี่ยวกับ(ชื่อคุณ).."
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฮยอง?"
"อย่ายุ่งกับเธอ!" ร่างสูงฉายแววตาอันโกรธเคืองออกมาอย่างเห็นได้ชัด ลำคอที่ค่อยๆปรากฏเส้นเลือดปูดทำให้ผมแอบแสยะยิ้มเล็กน้อย...หว่า~ จีมินฮยองกำลังโกรธหนิ
"ทำไม?..ทำไมจะยุ่งไม่ได้ในเมื่อยัยนั่นเป็นเมียผม..แค่ชั่วคราว: ) " ผมพูดพร้อมแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจนักที่สามารถทำให้คนตรงหน้ามีอารมณ์เดือดขึ้นมาได้ไม่น้อย..อยากรู้จริงๆว่าทำไมฮยองต้องการให้ผมเลิกยุ่งทั้งๆที่ตัวเอง..มีคู่หมั้นแล้ว...
"ไอ้กุก!!..."
"อ่ะๆ อย่าแม้คิดจะต่อยผม..พ่อกำลังมองเราอยู่นะ^^" นิ้วเรียวทำการชี้ไปที่ผู้เป็นพ่อที่กำลังนั่งมองอยู่ในรถ ผมไม่อยากให้พ่อเคลียดว่าลูกชายของตัวเองกำลังจะต่อยกัน ไม่งั้นผมคงสวนกลับไปนานแล้ว^^
"มึงต้องการอะไร..." จีมินฮยองชักหมัดลงก่อนจะเอ่ยประโยคนึงออกมาจากปาก อู้ว มีมึงด้วย หึ!สงสัยจะโกรธจัด
"ต้องการหรอหึ!...ต้องการทรมารคนเล่นยังไงล่ะ"
"...แต่มึงมีแฟนแล้ว อย่าทำแบบนี้"
"แล้วไง ทีฮยองล่ะ ตัวเองมีคู่หมั้นอยู่แล้วแท้ๆจะเข้ามายุ่งทำไม?"
"เรื่องนี้ฉันคงบอกไม่ได้ แต่ฉันขออยู่อย่างเดียวคืออย่ายุ่งกับ(ชื่อคุณ)"
ประโยคคำพูดของฮยองทำผมยืนเงียบอยู่สักพักพลางเอาลิ้นดุนแก้มพร้อมคิดทบทวนเล็กน้อย บอกไม่ได้งั้นหรอแล้วเกี่ยวอะไรกับยัยนั่นวะ..หึ! ชักจะทำให้ผมรู้สึกสนุกขึ้นมาแล้วสิ ยิ่งฮยองทำเป็นห่วงผมยิ่งอยากจะทำร้ายยัยนั่นเพื่อความสะใจ ถึงเธอจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ผมก็ไม่สน ขอแค่ความสนุกก็เพียงพอ
"ไปขอกับหมาเถอะ..เพราะฮยองเป็นคนทำให้ผมอยากจะเล่นสนุกขึ้นมามากยิ่งกว่าเดิม ไม่แน่ผมอาจจะเอายัยนั่นให้ขาดใจตายไปเลยก็ได้...อ่อ!! ขอแสดงความยินดีด้วยนะฮยอง เห้อ!ได้ยินมาว่าพรุ่งนี้ต้องไปดูงานที่ต่างประเทศหนิ ตั้ง1อาทิตย์แหนะ!!" ร่างสูงปรากฏสีหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูรถพร้อมพาตัวเองเข้าไปโดยไม่สนใจคนจากด้านนอก ก่อนที่จะสตาร์ทรถและขับหนีออกไป
"ได้...แฟนแกก็จะเจ็บไม่ต่างกัน!!"
YOU
เมื่อกี้..ฉันออกไปยืนริมหน้าต่าง มือสองข้างพลางเลื่อนกระจกรีบปิดทันทีเพราะฝนสาดปรอยๆเข้ามาในห้องนอนของซูบิน อ่า ฝนยังไม่หยุดตกสินะ จริงๆแล้ว ฝนตกนี่ดีนะ สำหรับฉันแล้วหน้าฝนเป็นฤดูกาลที่ชื่นชอบมากที่สุดรองจากฤดูหนาว เพราะชอบบรรยากาศหลังฝนตก อากาศจะสดชื่นปลอดโปร่งโล่งปอดอย่างมาก ยิ่งบ้านใครมีต้นไม้เยอะๆมักจะได้กลิ่นไอดินลอยคลุ้งขึ้นมาเตะปลายจมูกเสมอ พอหลังฝนตกมองท้องฟ้าอึมครึมที่กำลังคลี่สีเทาให้กระจายตัวแผ่ออกบนผืนฟ้า จนกระทั่งพบว่าท้องฟ้ากระจ่างใสขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งฉันมองแล้วรู้สึกดีมากใช่มั้ย ใช่รู้สึกดีมากๆเลยล่ะ
"ท่าทางจะหายดีแล้ว ยืนยิ้มเชียวนะครับ^^"
"อ่ะ! ไงซูบิน:)" ร่างบางยิ้มหวานส่งให้เจ้าของบ้านที่พึ่งวางหนังสือลงพร้อมหันหน้ามาพูดกับฉัน ตอนนี้ซูบินกำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาลัยและอีกไม่กี่วันเราก็จะปิดเทอมฤดูร้อนแล้ว เพราะสาเหตุที่พายุเข้าก็หมายความว่าซัมเมอร์นี้กำลังจะมาถึง
ตื่นเต้นจัง ใกล้จะได้ไปเที่ยวเมาดีฟแล้ว สถานที่ที่ใครหลายๆคนเรียกว่า สวรรค์บนดิน เนื่องจากความสวยงามอันหาที่เปรียบไม่ได้ของธรรมชาติทางทะเล แถมยังเป็นสถานที่หมายปองของการฮันนีมูนของคู่รักอีกด้วย คิดแล้วคงโรแมนติกสุดๆไปเลยล่ะ! ฉันน่ะจองตั๋วไว้ล่วงหน้าตั้ง2เดือนเพื่อจะได้ไปพักผ่อนที่นั่น...
"ฮ่าๆ แค่ตื่นเต้นน่ะ จะปิดเทอมแล้ว..."
"หึ พี่เนี่ยน่ารักจังเลยเนาะ..."
"ห้ะ?"
"อ..เอ่อ เปล่าครับ ผมแค่คิดว่าอยากจะสอบเข้ามหาลัยเดียวกันกับพี่ให้ได้^^"
"หึ งั้นก็อ่านหนังสือเยอะๆนะ แล้วเจอกันตอนเปิดเทอม"
"ผมจะพยายามครับ!"
"สู้ๆนะซูบิน~" ร่างเล็กยกมือให้กำลังใจคนรุ่นน้องที่มีความพยายามที่จะได้เรียนต่อในมหาลัยเดียวกันกับฉันให้ได้...เราสองคนนั่งพูดคุยกันสักพัก เวลาผ่านไปไม่นานเสียงบีบแตรรถก็ดังขึ้น
"อ๊ะ! มาแล้ว!!..." อยากรู้มั้ยว่าใครมารับ ลูกน้องของพ่อฉันเอง ในที่สุดก็จะได้กลับที่ของตัวเองแล้ว^^
ตอนนี้ฉันเตรียมของก่อนจะวิ่งมาหยุดตรงประตูบ้าน คุณน้าและซูบินก็เดินมาส่งเพราะตอนนี้มันถึงเวลาที่ฉันจะต้องกลับแล้ว...
แอด!...
"เชิญครับคุณหนู" การ์ดตัวใหญ่ยืนบริเวณประตูบ้านพร้อมถือร่มสีดำคันใหญ่อยู่ในมือ ฉันค่อยๆเปิดประตูออกก่อนที่จะเดินเข้าไปอยู่ใต้ร่มของการ์ดอย่างรู้งาน
"ฉันต้องไปแล้ว..ฝากบอกลาคุณลุงด้วยนะซูบิน^^" พ่อของซูบินออกไปทำงานแล้วล่ะ
"ครับ โชคดีนะครับพี่(ชื่อคุณ)"
"ว่างๆก็แวะมาเล่นมาด้วยกันบ่อยๆนะหนู เดี๋ยวคราวหน้าน้าจะอบขนมไว้รอ"
"ค่ะคุณน้า ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องเมื่อคืน วันหลังเดี๋ยวจะซื้อขนมมาฝาก^^"
"จ้า^_^"
"ฮึ ไปนะซูบิน ตั้งใจอ่านหนังสือล่ะ บาย~" หลังจากนั้นเราก็บอกลากันก่อนที่การ์ดจะพาฉันเข้ามาในรถพร้อมขับออกไปจากบริเวณหน้าบ้านของซูบิน....ระหว่างนั้น ฉันก็นอนพักพร้อมมองวิวนอกกระจกรถที่ถูกเกาะด้วยเม็ดฝนเย็นๆ ทำให้ฉันผ่อนคลายลงได้มาก จนลืมเรื่องที่จองกุกทำกับฉันไปชั่วขณะ
"ให้ผมไปส่งที่คอนโดเลยรึเปล่าครับคุณหนู?"
"อืม จ้ะ...." ฉันตอบออกไปส่งๆพลางไม่หยุดมองวิวข้างนอก สายฝนที่เริ่มาซาลงเรื่อยๆ ซัมเมอร์ที่ใกล้จะมาถึง...
Rrrrrr!
"อ่ะ! ฮัลโหลค่ะคุณพ่อ?" ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบหยิบสมาร์ทโฟนบนตักขึ้นมากดรีบสาย ทำไมจู่ๆคุณพ่อถึงโทรมาล่ะเนี่ย
"ถึงห้องรึยังครับ?"
"ยังค่ะ..เนี่ยใกล้จะถึงไฟแดงแล้ว"
"หึๆ ดีเลย...หนูครับ พ่อไปถอยรถรุ่นใหม่ล่าสุดมาให้แล้วนะ^^"
"จริงหรอคะ!! เย้!~" ในที่สุด ฉันก็มีรถขับเสียที นึกว่าจะโดนคุณพ่อดุซะอีก ดีใจจัง~
"อยากได้ขนาดนั้นเลย?"
"ค่ะ!!"
"แต่!!..พ่อไม่ได้ให้ฟรีๆหรอกนะ"
นั่นไง!-_- พ่อนะพ่อ
"อ่าาาาา!..อะไรล่ะคะ?" ฉันกรอกน้ำเสียงเซ็งๆใส่พลางทำปากมุ้ยเหมือนเด็กที่กำลังถูกพ่อแม่ขัดใจ
"ลูกต้องทำงานหาเงิน เลี้ยงตัวเองก่อนเรียนจบ!"
"อะไรนะ!?"
"โอ้ย! อย่าพึ่งตกใจลูก แค่ปีเดียวเอง พ่อก็ยังส่งเงินให้ทุกอาทิตย์นั่นแหละแค่ลดจำนวนเงินลงเองนะครับ...พ่อน่ะแค่อยากให้หนูรู้ว่าเงินมันหายากมากแค่ไหน นะครับคุณลูกลองทำงานหาประสบการณ์ดูบ้างนะๆ"
เห้อ! ถ้ามันจะขนาดนี้ล่ะก็
"ก็ได้ค่ะ หนูจะรีบหางานทำ-_-!" ได้รถมาแล้วหนิ คงปฏิเสธไม่ได้!!!!
"ดีมาก~ อ่า! อีกอย่าง..หนูรีบๆตอบตกลงคู่หมั้นได้แล้วนะ พ่อขี้เกียจรอแล้ว พ่ออยากอุ้มหลาน"
"พ่อ! หนูยังเรียนไม่จบ!!"
"แหะๆพ่อขอโทษ...รีบๆตอบตกลงสักที!~"
"ต..แต่หนูลืมแล้วว่าจะได้แต่งกับคนไหน..เมื่อ2ปีก่อนหนูยังโดนปฏิเสธเลย แล้วนี่หนูจะมั่นใจได้ยังไงล่ะคะ?"
"เถอะน้า~ พ่อว่าคนนี้หนูก็รอดูไปก่อน พอเรียนจบแล้วเราค่อยว่ากันใหม่เนาะๆ^^"
"คร้า!! แค่นี้นะคะหนูขี้เกียจคุยแล้ว!!" เรื่องหมั้นหรอ เอาไว้ทีหลังก่อนก็แล้วกัน ส่วนตอนนี้รีบหางานทำก่อนเถอะ!!
@คอนโด
เวลา 13:00 น.
"รับสมัครเด็กเสริฟ หญิง 5 อัตรา อายุไม่เกิน 30ปี รายได้ต่อวันxxxxx....เห้อ!! เอาอันนี้แหละ!!" นิ้วเรียวทำการจิ้มลงบนจอสมาร์ทโฟนด้วยความเร่งรีบ พอฉันกดปุ๊บหน้าจอมันก็เด้งขึ้นมาปั๊บ!! อ่ะ! ง่ายจังฉันได้งานแล้วอ่า
เป็นงานที่ผับ ตำแหน่งเด็กเสริฟชั้นVIP มันคงไม่ยากหรอกมั้ง...ก็คงไม่ต่างจากเด็กเสริฟในร้านอาหารหรอก~
"รายงานตัวคืนนี้?" ได้!! ฉันจะไป!!..แต่ พ่อจะส่งรถมาให้ฉันพรุ่งนี้ แง~ ต้องขึ้นแท็กซี่ไปเองสินะT^T
หลังจากนั้นฉันก็นอนหลับพักผ่อนเพื่อเอาแรงเตรียมเริ่มงานคืนนี้...ร่างบางนอนขดใต้ผ้าห่มอันแสนสุขสบายโดยที่ไม่มีใครมาก่อกวน ผ่านไปสักพักฉันก็ตื่นขึ้นด้วยอาการงัวเงียพลางคว้าสมาร์ทโฟนขึ้นมาเปิดดู ปรากฏว่าอีก2ชั่วโมงที่จะต้องไปรายงานตัว
"คุณหนูอย่างฉันต้องไปทำงานกลางคืนหรอเนี่ย...ฮึ้บ! เอาวะไม่ลองไม่รู้!!" คนตัวเล็กเด้งตัวขึ้นนั่งจนลืมอาการปวดบริเวณด้านหลังไปซะสนิท..ฉันบิดขี้เกียจไปมาก่อนจะตัดสินใจลุกออกไปอาบน้ำแต่งตัว
รู้สึกตื่นเต้นจัง ทำงานครั้งแรก^^
@ผับ
เวลา 21:30 น.
สายปาร์ตี้ต้องมา! เอาใจสายแดนซ์ให้มันส์กระจาย ตัวผับดีไซน์สไตล์โมเดิร์น ไฮไลท์อยู่ที่ความEntertain สำหรับใครหลายๆคน แหล่งรวมมั่วสุม กิเลส ขายบริการและพวกชอบหนีเมียมาเที่ยว..บรรยากาศในนี้ทำให้ฉันอึดอัดมากไม่น้อย พอจะเอาเครื่องดื่มไปเสริฟทีก็โดนเบียดแทบตัวจะแตก..แต่ฉันก็ต้องอดทนเพื่อเงิน(?)
"อ๊ะ!!!" ใครเหยียบเท้าT^T
เจ็บตัวยังไม่พอ ชุดที่ใส่มันก็รัดซะเหลือเกินแถมกระโปรงที่ใส่อยู่มันก็สั้นเหนือเข่าขึ้นมาจนเห็นขาอ่อนขาวๆของฉันที่ไม่เคยโชว์ให้ใครดูมาก่อน แต่ตอนนี้ ฉันกำลังจะถูกไอ้พวกเสือตัวยักษ์จ้องมองทะลุทะลวงจนน่ากลัว..คนอื่นก็มีให้มอง ทำไมไม่มอง ทำไมต้องเป็นฉัน
แง๊ พ่อจ๋า หนูไม่เอาแล้ว!!!
พรึบ!
"โอ๊ะ!?" อยู่ๆแผ่นหลังเล็กก็ถูกทับจากคนด้านหลัง แขนยาวๆของมันยืดมากอดเอวฉันไว้แน่นพร้อมเอาหน้าซุกลงซอกคออย่างไม่ขออนุญาต ฉันพยายามดิ้นไปมาแต่ก็ไม่มีท่าทีจะหลุดง่ายๆ จะแหกปากให้คนช่วยก็ไม่ได้เพราะเสียงดนตรีดังมาก!
"อือ~"
"อึก! ปล่อยฉัน!...."
เสียงครางทุ่มๆของคนแปลกหน้าดังอู้อี้อยู่ข้างหูฉันพร้อมกับกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งที่ทำให้ฉันต้องอดที่จะยกมือขึ้นปิดจมูกไม่ได้..นี่ฉันเจอคนเมาอีกแล้วหรอเนี่ย-_-
"ทำไมใส่กระโปรงสั้น...ยัยโง่" จู่ๆชายแปลกหน้าก็พูดขึ้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยแววตาปรืออย่างเมาไม่ค่อยมีสตินัก
"จ..จองกุก!?"
"เอ่อ!! ถอดกระโปรงออกเดี๋ยวนี้!!" ยังไม่ทันไรมือหนาๆของเขาก็ดุ๊กดิ๊กจะพยายามดึงกระโปรงที่ฉันใส่ออกจากเอว..ให้ตายสิ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!?
"อ๊ะ! ฉันเจ็บหยุดนะ!!" จองกุกไม่สนใจเสียงร้องของฉันเลยสักนิด นี่มันเจ็บมากนะที่เขาดื้อที่จะดึงกระโปรงออกแบบนี้ มันรัดแน่นถอดแบบนี้ให้ตายมันก็ไม่มีทางหลุดหรอก
"เจ็บ...หึ! เธอตายแน่(ชื่อคุณ)"
"ห๊า!?" เดี๋ยวนี่รอให้ฉันตั้งสติก่อนสิไอ้บ้า!!
"เธอต้องถูกลงโทษ อึก!!"
To be continued
#TALK
ฉันต้องเจ็บปวดแค่ไหนเธอถึงจะพอใจ (อะไรอีกวะ5555+)
งื้อ~ มาต่อแล้ว ตอนหน้าคุณหนูของเราไม่รอดแน่ๆ อิกุกผู้เกรี้ยวกราด ใจร้าย ไอ้xxx มีแฟนแล้วยังหน้าด้านมายุ่งกับนางเอกอีกนะ!! หึ่ย! คอยดูเถอะแกหึๆ(ยิ้มร้าย) ไรท์ไปแระ! บายๆๆๆๆๆ~
เม้นเยอะอัพไว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น