ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter Jeon : 9 [ 100% ]
Chapter 9
YOU
ร่างบางยังคงนอนตัวสั่นระริกอยู่บนเตียงด้วยความหนาวเหน็บจากอากาศข้างนอก ต้นไม้สูงใหญ่ที่ล้อมรอบไปทั่วบริเวณตัวบ้านกำลังปล่อยอากาศอันแสนบริสุทธิ์ออกมา ถึงแม้มันจะอากาศดีมากแค่ไหน แต่มันไม่ดีต่อสุขภาพของคนตัวเล็กเลยสักนิด ทั้งๆที่ป่วยอยู่แบบนี้แต่กลับต้องมานอนห่มผ้าตากลมอยู่แบบนี้..แรงจะลุกขึ้นไปปิดหน้าต่างก็ไม่มี ต้องทนอยู่แบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน
"อึก...หนาว" เสียงหวานครางกระเส่าก่อนที่เปลือกตาคู่สวยจะค่อยๆเปิดขึ้นด้วยความหนักอึ้ง...ม่านตาใสที่แดงก่ำ ปลายจมูกเล็กๆขึ้นสีอมชมพูดนิดๆพร้อมน้ำมูกที่ไหลออกมาอยู่ไม่ขาดสาย ตอนนี้ภายในร่างกายของฉันสั่นเทาและหนาวจนแทบจะทนไม่ได้ ขอแค่น้ำสักแก้วก็ได้ ฉันเริ่มทนไม่ไหวแล้ว ทั้งหิวและเหนื่อย เหมือนใจจะขาด
แล้วฉันจะหวังอะไรมากล่ะ..ฉันกำลังหวังอยู่ใช่มั้ย หวังเพียงแค่ให้ประตูบานนั้นเปิดออกและยอมปล่อยฉันไปสักที ฉันอยากกลับบ้าน ไม่รู้ว่าป่านนี้ว่าคุณพ่อจะรู้รึเปล่าว่าฉันหายไป แล้วจะมีใครมาพาฉันออกไปจากที่นี่รึเปล่า
จะมีใครสักคนมั้ย...
ณ ตึกสูงตง่าใจกลางเมือง บริษัทส่งออกขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากมายทำงานกันให้วุ่นเพื่อนับรายได้ตั้งแต่เข้ากระเป๋าจนออกกระเป๋า ทำงานหนักแน่นเพื่อเงินเดือนที่ยอมแลกมากด้วยหัวสมองของใครหลายๆคน..แต่บุคคลที่จะเรียกว่าสบายมากขึ้นมาระดับนึงก็คือเจ้านายของทุกคนที่กำลังเดินผ่านชั้นทำงานไปอย่างไม่สนใจอะไรมาก ร่างสูงเดินหน้าคิ้วขมวดโดยที่ไม่สนใจพนักคนอื่นๆที่กล่าวทักทายเลยแม้แต่น้อย มือหนาพลางกดสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของตนเพื่อติดต่อใครบางคน แต่พอติดต่อกี่ครั้งๆก็ไม่สามารถต่อสายไปหาคนที่ต้องการได้ และนั่นทำให้จีมินเริ่มรู้สึกเป็นห่วงคนตัวเล็กขึ้นมาอีกตามเคย..และเขาก็กังวลว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับน้องชายของเขาอีกตามเคย หากติดต่อคนตัวเล็กยังไม่ได้ คราวนี้จีมินจะทำยังไงต่อ
ครั้งที่แล้วก็ถือว่าเตือน..แต่นี่ถ้า จอน จองกุก ทำผิดอีกล่ะก็ ก็คงถึงตาที่จีมินต้องเอาคืนบ้าง คู่หมั้นเขาเจ็บ แฟนจองกุกก็เจ็บไม่ต่างกัน
เพียงแค่รอเวลาที่เหมาะสม จีมินจะเอาคืนให้มันต้องยอมแทบเท้าเขา ไม่เร็วก็ช้า
"ป้าก็ไม่รู้ว่าพวกเธอสองคนเป็นอะไรกัน....แต่คุณจองกุกฝากนี้มาให้"
"..."
หญิงวัยกลางคนโผล่เข้ามาในห้องนอนที่ตอนนี้ฉันนอนอยู่บนเตียงตามลำพัง ไม่รู้ว่าเธอโผล่มาจากไหน แต่เธอดูท่าทางใจดีและมีอายุพอสมควร แต่ฉันไม่เข้าใจว่าเธอกำลังหมายถึงอะไร จองกุกฝากอะไรมาให้ฉัน
ตอนนี้ฉันได้แต่มองร่างของหญิงแก่อย่างนิ่งๆ มองการกระทำของเธอที่กำลังจัดแจงอะไรสักอย่างอยู่บนโต๊ะไม้ขนาดเล็กที่อยู่ห่างจากฉันไม่ไกลมากนัก แต่เมื่อผ่านไปไม่นานเธอก็หันกลับมาพร้อมแก้วในมือที่บรรจุน้ำใสๆปริมาณครึ่งแก้วและยาอีก2เม็ดที่ถูกยื้นมาให้ฉัน ฉันขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆยันตัวเองลุกขึ้นนั่งพร้อมเอนกายพิงหัวเตียงเพราะไม่มีแรงที่จะนั่งด้วยตัวเอง
"...?"
"ยาน่ะ..กินแล้วนอนพักผ่อนซะ เดี๋ยวช่วงเที่ยงๆคุณจองกุกค่อยกลับ"
"ล..แล้ว...?"
"ป้าก็แค่คนข้างบ้าน เขาฝากดูเดี๋ยวป้าก็กลับแล้ว..." หญิงวัยกลางคนพูดพลางเดินออกไปปิดหน้าต่างไว้ให้ฉันจนลมจากข้างนอกไม่สามารถเล็ดรอดผ่านเข้ามาได้...จากนั้นฉันก็ไม่รอช้าที่จะกินยาเข้าไปทั้งๆที่ยังไม่ได้ทานข้าวเลยสักนิด หลังจากที่คุณป้าปิดหน้าต่างเสร็จท่านก็หันมามองฉันก่อนที่จะเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ฉันมองการกระทำของคุณป้าที่อยู่ๆก็ยกขาโต๊ะขึ้นพร้อมดึงโซ่ออกจนหลุดเป็นอิสระ แม้ว่าที่ข้อเท้าของฉันยังถูกล็อคไว้อยู่ก็ตาม
"ป้าไม่ถามหรอกนะว่าพวกเธอสองคนมีปัญหาอะไรกันรึเปล่า..แต่ป้าไม่ยอมให้แม่หนูโดนล่ามไว้แบบนี้หรอกนะ"
ไม่ว่าเปล่า คุณป้าก็ถกผ้าห่มขึ้นก่อนที่จะใช้กุญแจปลดล็อคข้อเท้าฉันออก ตัวโลหะคลายออกจากเท้าของฉันพร้อมเผยให้เห็นรอดบีบรัดสีแดงเป็นรอบๆ เกิดอาการแสบขึ้นมานิดๆแต่ก็ไม่ถึงกับตาย
"ว..ว่าแต่คุณป้าทำได้ยังไง?" ฉันเอ่ยถามสงสัย อยากจะรู้ว่าป้าแกไปเอากุญแจมาจากไหนแล้วทำไมถึงได้กล้าปล่อยฉันทั้งๆที่จองกุกไม่อยู่..เขากลับมาฉันจะตายมั้ย เขาต้องฆ่าฉันแน่ๆ
"หึ ป้ารู้จักคุณจองกุกดีว่าซ้อนอะไรไว้ไหน แล้วแกเป็นคนยังไง:)" คุณป้าเอ่ยพลางยิ้มบางๆ ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นมาหนึ่งเปาะ ฟ้าหลังฝนย่อมดีเสมอแต่จะดีตลอดไปเราก็ไม่รู้โชคชะตาของเราอยู่ดี เพียงแค่นี้ฉันก็ไม่ต้องกังสลอะไรมากหากยังมีคนดีๆอยู่ข้างๆเสมอ
"ป้ารู้...ป้าค่ะ ที่นี่ที่ไหน?"
"หื้ม? หนูไม่รู้หรอว่าตัวเองอยู่ที่ไหน..." ฉันได้แต่ยิ้มแหย่ๆพร้อมส่ายหน้าเบาๆเมื่อคุณป้ารู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆฉันก็ถามออกไปแบบนั้น
"อื้อ...จองกุกเขาไม่ได้บอก"
"อย่างงั้นหรอ"
"แล้วตอนนี้ ฉันอยู่ที่ไหนหรอคะ?" เสียงเล็กถามออกไปด้วยความแหบซ่าน พลางตั้งใจฟังคำตอบของคุณป้าที่กำลังจะบอกในสิ่งที่อยากรู้
"ที่นี่ก็ เป็นบ้านเกิดของแม่คุณจองกุกน่ะลูก อยู่ที่ปูซานจ้ะแต่ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองนะ เราอยู่แถวชนบท^^"
ปูซาน?..ชนบทงั้นหรอ
แล้วทำไมฉันต้องมาอยู่ในที่แบบนี้ด้วยเนี่ย!!?
11 : 50 น.
เวลาผ่านไป หลังจากที่คุณป้ากลับไปที่บ้านของตัวเอง..ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราสองคนได้คุยกันจนสนิทสนมกันมากขึ้น คุณป้าเล่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับที่นี่ให้ฉันฟังจนหมด แถวชนบทที่อยู่นั้นติดกับภูเขา มีหมู่บ้านเล็กๆอยู่ใจกลางของเกาะ ใช่แล้วล่ะที่นี่มันเป็นเกาะที่มีสะพานเชื่อมอยู่ติดกับตัวเมืองใหญ่ที่จะสามารถกลับไปที่โซลได้ คุณป้าบอกว่าที่นี่อยู่พอมีอยู่มีกิน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ อยู่อย่างพอเพียง เรื่องแบบนี้มันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่มันไม่ค่อยดีกับฉันสักเท่าไหร่ ไม่รู้สิ มันไม่สะดวกสบายเหมือนโซลเลยสักนิด!!
ไม่ค่อยชอบเลย!-^-
แต่ก็นะ โวยวายไปมันก็ไม่มีประโยชน์..คุณป้าท่านค้นบ้านของจองกุกแล้วเอาอัลบั้มรูปเก่าๆมาให้ฉันดู ทุกอย่างเปิดเผยไปซะหมด ทั้งรูปเก่าๆและอดีตของเขา มีแค่เขากับแม่กันสองคน นอกนั้นฉันไม่เห็นใครอยู่ในรูปเลย แม้แต่พี่จีมินก็ไม่มี..ให้ตายเถอะ ชีวิตหมอนี่จะลึกลับไปถึงกันเชียว อีตาโรคจิต!!
เวลายังเดินหน้าต่อ ฉันเหลือบมองนาฬิกาบนผนังห้องพบว่าอีก10นาทีจะเที่ยงแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องฉันเลยสักกะอย่าง มีแค่น้ำกับยา เห้อ!!!
"อ่า...ทำไมมันลำบากขนาดนี้-_-" ฉันเปล่งเสียงบ่นอยู่ไม่ขาดสายพร้อมพยุงตัวเองลุกจากเตียงก่อนที่จะพาตัวเองเดินออกไปจากห้องนอนที่ตอนนี้ฉันไม่ได้ถูกล่ามเอาไว้...มือบางค่อยๆจับราวบันไดพลางก้าวขาเดินลงอย่างช้าๆอย่างระมัดระวัง ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆบ้าน พบว่าบ้านนี้ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย ไม่ใช่บ้านเกาหลีแบบโบราญแต่เป็นบ้านหลังธรรมดาๆที่เคยเห็นอยู่ในโซลมาก่อน ฉันเลิกสนใจห้องนั่งเล่นก่อนที่จะรีบตรงดิ่งเข้าไปในครัวทันที
เป้าหมายที่ฉันจะต้องหาก็คือของกิน...แต่ทว่าฝันต้องแตกสลายเมื่อในตู้เย็นที่เปิดดูปรากฏว่ามันไม่มีอะไรให้กินเลยสักอย่าง!!!
แมร่ง!!-_-
จนถึงตอนนี้ ร่างกายของฉันมันถึงขีดสุด ก่อนที่ร่างบางๆจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นด้วยความหมดหวัง ฉันเอาหัวพิงฝาตู้เย็นพร้อมทำสีหน้าเหม่อลอยเหมือนคนอดอะไรตายอยาก ตอนนี้ไม่สบายก็จะตายอยู่แล้ว แต่นี่ไม่มีอะไรให้กิน ตายคูณ2น่ะสิคราวนี้ ฮื่อ!T^T
หิว...หิวโว้ย-_-
ตึก!
"!..."
จู่ๆ แผ่นหลังบางๆก็รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวจากด้านหลัง คนตัวเล็กสะดุ้งตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะหันหน้าไปมองเงาสีดำใหญ่ยืนหยุดอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าของห้องครัว ตากลมเปิดกว้างพลางอ้าปากค้าง ก่อนจะโดนคนตัวสูงเพ็งเล็งสายตามองมาอย่างแปลกใจ...ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดีแล้ว เขากลับมาแล้ว ฉันต้องตายแน่ๆ
ฉันมองจองกุกนิ่งๆ เนื้อตัวเริ่มกระสับกระส่าย จะตื่นเต้นก็ไม่จะกลัวก็ไม่เชิง ตอนนี้ในหัวของฉันมันมโนมั่วไปหมดแล้ว เขาจะตบฉันบ้างล่ะ ทำร้ายกันบ้างล่ะ ไม่รู้ว่าเรื่องไหนมันจะเกิดขึ้นกับฉันเร็วๆนี้กันแน่T^T
"เธอ...หลุดมาได้ยังไง?" น้ำเสียงทุ่มกดต่ำจนน่าขนลุกของจองกุกทำให้ฉันขนแขนฉันลุกซู่ ราวกับว่ากำลังโดนจับผิดจากฆาตกรโรคจิตดีๆนี่เอง แถมสีหน้าของเขายังเริ่มตึงขึ้นเรื่อยๆเหมือนว่าเขากำลังโกรธ โกรธสุดๆไปเลย!...ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะ อย่าฆ่าฉันเลยฮื่อ!
ร่างเล็กมัวแต่อ้ำอึ้ง สายตาเลิ่กลั่ก โดนจ้องจนทำตัวไม่ถูก...เมื่อพอกระพริบตาลงอีกครั้ง จองกุกก็เดินเข้ามาใกล้ฉันก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงมาพร้อมแขนยาวๆของเขาช้อนร่างของฉันขึ้นท่าเจ้าสาว ฉันทั้งตกใจและทำหน้าเหวอก่อนที่จะรีบเอาแขนค้องของเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้ตก
"เห้อ! ป้าคงปล่อยเธอสินะ..ให้ตายสิ"
"ด..เดี๋ยวสิ!!"
จองกุกไม่ฟังเสียงท้วงของฉันเลยสักนิด เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมอุ้มฉันออกไปจากห้องครัว แต่พอผ่านพ้นประตูห้องครัวไปเขาก็พาร่างของฉันไปวางลงบนโซฟาเล็กๆในตัวห้องนั่งเล่น...จองกุกผละตัวออกจากฉัน ฉันได้แต่ทำหน้างงเมื่อจองกุกมาโหมดนี้ โหมดนิ่งๆที่ไม่คาดคิด อ่า ดีจังไม่โดนตบ><
"นี่...นายพาฉันมาที่นี่ทำไม?"
"อย่าคิดจะรู้เยอะ เพราะฉันไม่ปล่อยเธอไปหรอก"
"หงึ! แต่ว่านาย..นายพาฉันมาบ้านแม่นายแบบนี้ นายไม่รังเกียจฉันรึไง ปล่อยฉันไปนะๆๆๆๆ!" และด้วยเพราะฤทธิ์ยาที่คุณป้าเอาให้ทาน ฉันจึงมีแรงที่จะตื้อจองกุกให้เขายอมปล่อยฉันไป แต่ขอร้องยังไงหมอนั่นก็ไม่ยอมปล่อยฉันแถมยังสีหน้ากวนตีxใส่อีก อ้าก!! ฉันจะฆ่าหมอนั่น!!-_-
"ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะบอกเธอ เธอต้องอยู่ที่นี่กับฉัน..แค่สองคน:)" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อๆของเขา(?) ทำให้ฉันหมดหวังที่จะอ้อนวอน และรอรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น...และฉันก็กลัวในสิ่งที่เขาพูด 'ที่นี่คือนรกของฉัน' แต่ฉันมองยังไงมันก็ยังไม่ใช่นรกสักหน่อย เขาไม่ได้ทำร้ายฉัน หรือขืนใจ(-///-)เลยสักกะอย่าง แล้วนรกที่ว่ามันเป็นยังไงล่ะเนี่ย
จองกุก..หมอนี่ต้องมีแผนพิเลนๆมาแกล้งฉันแน่ๆ...มานิ่งๆแบบนี้ อย่าไว้ใจ จอน จองกุก เด็ดขาด!!!
[ 40% ]
JEON
ที่นี่..ปูซาน บ้านเกิดของแม่ผม ผมอยู่และเรียนที่นี่ตั้งแต่เด็กๆ อาศัยอยู่กับแม่กันแค่สองคน เพราะพ่อชอบตีจนทำให้ผมต้องหนีมาอยู่ที่นี่จนกว่าจะโตพอที่จะกลับไปเรียนที่โซล วันนั้น รู้สึกใจหายมากที่ต้องจากที่นี่ไป ผมไม่เคยลืมที่นี่เลยสักครั้ง จะกลับมาเยี่ยมที่ปูซานปีละครั้ง แล้วก็โดนเรียกตัวกลับ...เฉกเช่นฤดูร้อนของปีนี้เป็นอีกปีที่ผมหนีความวุ่นวายจากในเมืองมากพักผ่อนที่นี่ จะอยู่จนกว่าจะหมดฤดูหรือแล้วแต่ความต้องการ
"เห้อ...." ลมร้อนอุ่นๆพัดผ่านร่างหนาไป ตามด้วยอากาศอันบริสุทธิ์ที่โหยหามาโดยตลอด ความเหงาและว่างเปล่าถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่นี่และหายไปกับสายลม และเริ่มตนด้วยความรู้สึกใหม่ๆ นัยต์ตาคมยังคงมองบ้านเกิดของมารดาพร้อมรอยยิ้มบางๆประดับขึ้นบนใบหน้าอย่างมีความสุข ไม่นึกว่านี่ที่จะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ จากเมื่อก่อนเคยเป็นเกาะเล็กๆไร้ความเจริญ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปมีความทันสมัยมากขึ้น มีรถน้อยใหญ่ขับผ่านไปไม่มากนัก แต่ที่ยังคงความเป็นเดิมก็คือผู้คนที่นี่ยังใจดีไม่เปลี่ยนและเด็กกับคนแก่ก็ยังเยอะเหมือนเดิมเลยแฮะ ที่นี่หาเด็กวัยรุ่นๆยากจริงๆเลย สงสัยคงหนีไปอยู่ที่เมืองใหญ่ของปูซานกันหมดเห้อ...
ตอนนี้ผมได้แต่ยืนรำลึกถึงความหลัง พลางก้มมองธารน้ำเล็กๆไหลผ่านใต้สะพานไปโดยที่มีผมยืนมองอยู่ตามลำพัง จะบอกว่าหลังจากที่มาถึงปูซานเมื่อคืน ตื่นเช้ามาก็เจอยัยโง่นั่นนอนป่วยอยู่ในห้องนอน แต่ผมก็ดูแลคนป่วยไม่เป็นหรอกเลยพูดแบบนั้นออกไปแล้ววานให้คุณป้าข้างบ้านคนสนิทให้มาดูแลก่อนที่ผมจะหนีออกมาอยู่ตรงนี้ยังไงล่ะ..ผมบอกป้าแกไว้ว่าเที่ยงๆถึงจะกลับ เพราะคิดว่ากว่าจะเดินดูรอบๆหมู่บ้านก็คงใช้เวลานาน
ตึก ตึก ตึก!...
ลูกบอลสีสันหลากสีกลมๆเท่าฝ่ามือ กลิ้งเข้ามาใกล้ปลายเท้าของร่างสูง คิ้วหนาขมวดอย่างสงสัยก่อนจะก้มลงมองลูกบอลปริศนาที่อยู่ๆก็กลิ้งมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ร่างสูงโปร่งยืดตัวลงก้มหยิบลูกบอลขึ้นมาดู และต้องชะงักเพราะเสียงเล็กๆของใครบางคนร้องขึ้น
"อย่าจับมันนะ!!!!"
"โอ๊ะ!?...."
นี่มันเสียงเด็กหนิ..แล้วดูเหมือนจะหวงของมากซะด้วย
"เอามา อย่าจับมัน!!...." ผมหลุบตามองล่างพลางดูเจ้าตัวเตี้ยที่ยืนทำแก้มตุ๊บป่อง ทั้งโวยวายและพยายามยืดตัวขึ้นมาแย่งลูกบอลจากมือของผม เจ้าเด็กนี่มันดูแสบดีแฮะ เหมือนใครบางคนไม่มีผิด ขี้โวยวาย ขี้น้อยใจเป็นที่หนึ่ง
"อยากได้คืน?"
"มันไม่ใช่ของลุงหนิ!! เอามา..."
เหอะ ว่าใครลุงนะ?
"พูดจาไม่มีหางเสียง แล้วคิดหรอว่าฉันจะคืนให้:)" ผมยกยิ้มมุมปากพร้อมยื้นแขนออกไปนอกสะพานในขณะที่ในมือกำลังถือลูกบอล เจ้าเด็กเตี้ยเบิกตาโตพลางอ้าปากค้างเมื่อเห็นท่าทีของผมจะทิ้งลูกบอลลงไปในน้ำ
"พูดจาให้มันดีๆก่อนสิ แล้วฉันจะคืนให้" เสียงทุ่มกดต่ำเพื่อขู่เด็กน้อยให้ทำตามที่สั่ง ส่วนตัวแล้วผมเกลียดเด็กดื้อและไม่มีมารยาท จะหัดสั่งสอนให้พูดเพราะๆสักหน่อยก็ต้องหาเรื่องมาขู่สิ จริงมั้ย^^
เจ้าเด็กน้อยยืนเงียบสักพักก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาอ้อนวอน พลางคว่ำปากตามประสาเด็ก
"เห้อ..."
"ผมขอลูกบอลคืน..นะครับ^^"
" !? "
"นะครับ..ลุง!!"
โว้ย!! ไอ้นี่มัน กูไม่ใช่ลุงเว้ย!!-_-
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านมาถึงกี่โมงแล้ว แต่กว่าจะจัดการไอ้เด็กแสบนั่นได้ก็เล่นเอาซะปวดหัวไปกันใหญ่ แต่เมื่อหลังจากที่ผมเดินหนีออกมา พอรู้ตัวอีกทีตอนนี้ตัวเองมายืนอยู่ในดงตลาดสดเป็นที่เรียบร้อย กลิ่นคาวปลาสดใหม่ลอยขึ้นมาแตะปลานจมูกของผมไปผ่านๆ แต่ก็ไม่ถึงกับกลิ่นแรงมากนัก...ตลาดนี้เป็นตลาดขายส่งปลาและอาหารทะเลสดๆ ของเมืองปูซานย่อยที่อยู่บนเกาะ ความหลากหลายของอาหารทะเลต่างๆทำให้แววตาของผมลุกมันวาวด้วยความแปลกตาและแปลกใหม่ ที่นี่มีสัตว์ทะเลที่ผมไม่เคยเห็นเยอะแยะเลยแฮะ แต่จะว่าไปอยากกินกุ้งอ่ะ ซื้อกลับไปทำกินที่บ้านได้ป่าววะ
"แล้วไง มีปัญหา?"
นั่นแหละคือจุดที่ผมกลับมาอยู่ที่บ้านพร้อมกับกุ้งสดหิ้วกลับมาบ้าน แต่ดันเจอยัยนี่ไปนั่งหมดอะไรตายอยากอยู่ในครัว แถมยังหลุดออกมาได้เพราะป้าแกแท้ๆ ชอบหวังดีไม่เข้าเรื่อง...
"ปากดีจังเลยนะ..."
"ชิล์ ก็นายทำแบบนี้กับฉันทำไมล่ะ!!" เสียงแหลมๆของหล่อนหวีดขึ้นราวกับว่าตัวเองไม่ได้ป่วยเลยสักนิด..ให้ตายเถอะ ยัยนี่จะอึดเกินไปแล้ว แบบนี้มันต้องโดนสั่งสอนสักหน่อยแล้วหึ!
"ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะบอกเธอ เธอต้องอยู่ที่นี่กับฉัน..แค่สองคน:)" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างมีเล่ห์นัย ผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้าเงียบปากลง สีหน้าของหล่อนเริ่มซีดและกังวลกับสิ่งที่ได้ยินไปเมื่อสุดๆ
เธออาจนึกไม่ถึงหรอกว่าที่นี่คือบ้านของผม และผมจะทำอะไรก็ได้เพราะนี่มันถิ่นผม บ้านผม และผมเป็นเจ้าของที่นี่..ส่วนหล่อนก็แค่คนอาศัยอยู่ก็เท่านั้นเพราะฉะนั้น ผมจะสั่งอะไรหล่อนก็ต้องทำ ถ้าหากขัดขืน โดนปล่อยลงทะเลแน่
"นาย..มีแผนชั่วๆอยู่ในหัวใช่มั้ย!?" เหมือนเธอรู้ดีว่าผมกำลังคิดอะไร (ชื่อคุณ)มีท่าทีจะลุกออกจากโซฟา แต่ทว่าต้องล้มลงไปนั่งอีกครั้งเพราะท่าทางอาการจะยังไม่หายดี แต่ปากดีชะมัด...ผมไม่ตอบอะไรหล่อนพลางยักไหล่อย่างไม่สนใจเธอ ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง ตอนนี้มันก็เที่ยแล้ว คนอย่างผมก็หิวเป็นนะ แถมวันนี้ยังซื้อกุ้งมาอีก..แต่ว่า ทำอะไรกินล่ะ ผมทำไม่เป็น
คิดไปก็เท่านั้น ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย หึ!
ร่างเล็กยืนมุ้ยปากอยู่หน้าเตาอย่างโดดเดี่ยว ภายในห้องครัวที่เดิม โดนลากและบังคับให้ทำอาหารเที่ยงแด่คุณชายที่ตอนนี้ได้ทำการหนีออกไปดูทีวีในห้องนั่งเล่นอย่างสบายใจเฉิบ และปล่อยให้คนตัวเล็กยืนคิดหนักกับเจ้ากุ้งสดที่ซื้อมาว่าต้องอะไรให้คุณชายรับปะทานดี(?)...บ้าจริง เป็นคนอยากกินเองแท้ๆแต่ดันทำอะไรไม่เป็น และใช้ร่างบางเยี่ยงทาส ไม่เอา เรียกว่าคนใช้ดีกว่า ฟังดูดีกว่าทาส-_-
"หึ่ม!..." ร่างบางถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะลงมือล้วงเข้าไปในถุงพรอมกับกุ้งสดๆที่..ยังไม่ตาย!!
"อี๋!!!" มันยังดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่เลยอ่า แล้วใครมันจะไปฆ่าลงว่ะ กลัวบาปเป็นนะ
แม่เจ้า เกิดมาก็พึ่งเคยจับกุ้งเป็นๆก็คราวนี้แหละ เมือกเหนียวๆยังติดอยู่บนตัวกุ้งอยู่เลย..มันจะสดเกินไปแล้ว!-_-
คนตัวเล็กกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เพราะเริ่มคิดหนักแล้วว่าจะต้องทำยังไง ตอนนี้ร่างบางอยากนอนเต็มทน หิวก็หิว ยังเป็นไข้อยู่เลยแต่ก็ขอบคุณยาของคุณป้าอะนะที่ช่วยชีวิต ไม่งั้นคงไม่มีแรงมายืนจับกุ้งอยู่แบบนี้หรอก เหอะ!!
แล้วก็ขอบคุณ จอน จองกุก ที่หาภาระมาให้!!!!
"แค่ก!...อึก ทำไงวะ-_-" เป็นรอบที่8 ที่ร่างเล็กยืนบ่นกับกุ้งกันอยู่สองต่อสอง(?) มิหนำซ้ำอิคนโดนใช้ก็กำลังไอแทบตาย ไม่คิดจะหายาแก้ไอมาให้กินเลยรึไง ไอ้บ้า!!
"กุ้งมันยังไม่ตาย!! ทำไงเนี่ย!!!!!...."
"หึ..." เสียงของยัยนั่นโวยวายคนเดียวอยู่ในครัว และนั่นมันทำให้ผมรู้สึกสนุกแปลกๆจนเผลอหลุดยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ความเด๋อด๋าของหล่อนคงทำให้ผมอดกินข้าวแน่ๆคราวนี้ แค่กุ้งตัวเดียวก็ร้องจะเป็นจะตาย
อ่า...แบบนี้ต้องนอนรอสินะ-_-
YOU
ฉันภาวนาขอให้มันกินได้ก็พอ ไอ้น้ำเดือดปุดๆอยู่ในหม้อแบบนั้นไม่รู้ว่าฉันจะทำเมนูอะไร แต่ขอต้มน้ำไว้ก่อนแหะๆ ค่อยคิดทีหลัง
ร่างบางเลิกสนใจน้ำในหม้อก่อนที่จะค่อยๆหมุนตัวกลับพร้อมเปิดฝาตู้เย็นออกเผยให้เห็นของที่อยู่ในตู้เย็น ปรากฏว่าในนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำกินหรอก วัตถุดิบก็ดูเหมือนพึ่งเติมเข้ามาใหม่..เห็นแล้ว หรูสุดก็ไม่พ้นอาหารจำพวกต้มๆแกงๆนั่นแหละ
"ชิล์!..หุงข้าวก่อนดีกว่า-^-" ไม่รู้ว่าฉ้นต้องทำอะไรแล้ว มีอะไรก็กินๆไปเหอะ ขี้เกียจเดินออกไปเถียง!!
เวลาผ่านไป30นาที อาหารที่ฉันทำก็เป็นอันเสร็จสิ้น แกงกิมจิใส่กุ้ง มันก็มีแค่นี้แหละ อย่าเรื่องเยอะ-_-
ถ้วยแกงถูกวางลงตรงหน้าของคุณชายที่พึ่งตื่นหลังจากที่หลับใหลไปนานแสนนาน(ทำไมไม่ตายไปเลยล่ะ^^)...ฉันรีบจัดการวางมื้อเที่ยงให้จองกุกอย่างเงียบๆ พลางสัมผัสได้ว่าสายตาของเขากำลังจ้องมองฉันอย่างไม่วางตา ฉันพยายามทำเป็นไม่สนใจ พร้อมที่จะเดินออกไปจากห้องครัว แต่เท้าเล็กเป็นอันต้องหยุดชะงักเพราะเสียงใหญ่ๆของจองกุกพูดดักทางไว้เสียได้
"เดี๋ยว!!!" เสียงทุ่มๆของเขา ทำให้ฉันหยุดเดินก่อนที่จะหันหน้าไปมองเขาอย่างนิ่งๆ
"ใครใช้ให้เธอไป..."
"เอ๊ะ"
"มานี่..." หญิงสาวมองชายหนุ่มที่อยู่ๆก็ออกคำสั่งพร้อมเอามือหนาๆของตนตบลงบนต้นขาของเขาซะเอง เพื่อเป็นการเรียก..ร่างบางขมวดคิ้วสงสัยพร้อมมองหน้าจองกุกอีกครั้ง แค่เขาก็กลับเร่งให้ฉันเดินเข้าไปใกล้ จนฉันต้องยอมเดินเข้าไปอย่างไม่ปริปากพูดอะไรมาก
"มีอะไรมิทราบ?" ฉันถามออกไปพร้อมกรอกตามองบนด้วยความเบื่อหน่ายกับความเรื่องมากและความเอาแต่ใจของจองกุกเต็มทน เพราะตอนนี้ฉันอยากนอนพักผ่อนจะแย่ ไม่มีแรงมายืนต่อปากต่อคำหรอกนะยะ
"ฉันยังไม่อนุญาตให้เธอไป..."
"เอ้า จะอะไรนักหนาเนี่ย ข้าวก็ทำให้กินแล้วจะเอาอะไรอีก!?"
"เอาเธอมั้ง : ) "
"อะ..ไอ้บ้า!! อย่ามากวนประสาท°^°" ฉันทำตาโตพร้อมเบือนหน้าหนีไปทางอื่น รู้สึกไม่ชอบเอาซะเลยกับไอ้คำพวกนี้หนิ มันไม่ชินหูอีกด้วย เชอะ!
"หึ! ชั่งเถอะ...มานั่งนี่"
"อะไร?"
"เร็วๆ!"
จองกุกเอ่ยคำสั่งเด็ดขาดก่อนจะเอามือตบลงต้นขาของตัวเองอีกครั้ง ร่างเล็กมุ้ยปากอย่างขัดใจก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ร่างสูง ต้นแขนเรียวถูกคว้าเข้าไปอย่างไม่ทันตั้งตัวก่อนที่ฉันจะปลิวไปตามแรงดึงของจองกุก...ฉันล้มลงนั่งบนตักของเขาพร้อมแขนยาวๆเลื่อยขึ้นมารัดเอวฉันไว้แน่น
"อ๊ะ! จะทำอะไรน่ะ..." ร่างบางร้องเสียงหลงพลางดิ้นไปมาเพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการของเขา แต่ฉันก็ยังโง่ ลืมไปว่าจองกุกแรงเยอะมากแค่ไหน ดิ้นให้ตายก็ไม่หลุด จนกว่าเขาจะยอมปล่อยเอง
"หยุดดิ้น"
"ไม่!!" ฉันยังดิ้นต่อไปจนกว่าจะหลุดจากเขา
"ก้นเธอมันเสียดสีอยู่กับน้องชายฉันอยู่นะ! ถ้าไม่อยากโดนกระแทกจนไข้ขึ้นล่ะก็ อยู่นิ่งๆ!!"
"ห้ะ..0.0" เมื่อได้ยินเช่นนั้น ร่างของฉันจึงหยุดโดยอัตโนมัติ ก่อนจะยอมนั่งลงบนตักของเขาอย่างเงียบๆ ฉันนั่งตัวเกร็งเหมือนถูกสาปราวกับว่าเป็นรูปปั้น พร้อมลมหายใจอุ่นๆของจองกุกจรดลงข้างใบหูของฉัน แผ่นหลังบางแนบชิดกับแผงอกหนาๆของเขาจนสามารถรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจเต้นของจองกุกอย่างชัดเจนมากเลยทีเดียว
ต่างคนต่างไม่พูดอะไรต่อ ได้ยินเพียงแค่เสียงลมหายของชายหนุ่มเบาๆ ตากลมเหลือบมองมือหนาที่อยู่ๆก็เอื้อมออกไปก่อนที่จะหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวใส่ช้อน ก่อนจะนำช้อนขึ้นมาจ้อปากฉัน?
"หื้ม?"
"กิน..."
"ห..ห้ะ?"
"บอกให้กินไง!.."
"อะ..อื้อ><" ฉันยังไม่ทันจะอ้าปากพูดเลย จองกุกเขาก็ยัดช้อนเข้าปากฉันเป็นที่เรียบร้อย ฉันไม่เข้าใจว่าหมอนี่ทำแบบนี้ทำไม รู้แต่ว่าเขาทำแบบนี้จนฉันอิ่มแล้วค่อยปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ
ตอนนี้ฉันนอนหมกอยู่ใต้ผ้าห่มฝืนหนา รอให้เวลามันผ่านไปจนถึงช่วงเย็น การนอนพักผ่อนทำให้ร่างกายฟื้นฟูมากยิ่งขึ้น อุณหภูมิในร่างกายก็เริ่มลดลง และฉันก็รู้สึกสบายตัวมากขึ้นหลายเท่าเลยล่ะ
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูจากด้านนอก เรียกความสนใจทำให้ฉันผุดหน้าออกจากใต้ผ้าห่ม พร้อมมองไปที่ประตูบานใหญ่ที่ค่อยๆเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของจองกุกภายใต้ชุดลำลอง เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ธรรมดาๆ แต่ฉันก็ไม่สนใจหรอกนะ ถึงจะหล่อมากแค่ไหนก็เถอะ(?)
"..."
"จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน..ตื่น!!!"
"งื้อ!! โอ้ยอะไรนักหนา!!?" ระหว่างที่ฉันนอนต่อ ก็โดนไอ้บ้าเจ้าอารมณ์เดินเข้ามากระชากผ้าห่มออกจากตัว ฉันขมวดคิ้วตึงสีหน้าไม่พอใจก่อนจะเด้งตัวขึ้นนั่งพร้อมมองไปที่จองกุกอย่างคาดโทษ ตอนนี้โคตรอารมณ์เสียเลยวะ ตบมาตบกลับคอยดูสิ!!!-_-
"นี่เธอกล้าขึ้นเสียงใส่ฉัน?"
"ก็เออน่ะสิ!! จะอะไรนักหนาวะ ขอนอนพักอยู่เฉยๆไม่ได้รึไง!?"
"นี่เธอ!! ฉันไม่ได้ให้เธอมานอนๆกินๆแบบหรอกนะจะบอกให้!!"
"จะ..จะทำอะไรน่ะ อร๊าย!!!" ไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงๆของจองกุกก็เข้ามาใกล้ก่อนที่จะจับร่างฉันยกขึ้นสูงพร้อมพาดไว้บนไหล่ของเขา ชุดที่ฉันใส่อยู่มันก็แค่เสื้อเชิ้ตตัวเอง ชายเสื้อก็ถกขึ้นจนก้นเกือบโผล่ ไอ้นี่ทำอะไรไม่คิดเลยรึไง! อ้วกแตกมาฉันจะทำไงห้ะ!?
"ปล่อยฉันลงนะ!!"
"เงียบน่ะ!!!..."
"ชิล์!-_-" เอะอะก็บอกให้เงียบๆ ฉันเองก็มีสิทธิ์พูดเหมือนกันเหอะๆ พ่อคนบ้าอำนาจ=^=
ตลอดทางเดินลงมาจากบ้าน ฉันเอาแต่เงียบและห้อยตัวอยู่บนไหล่ของจองกุกไปเรื่อยๆ พอรู้สึกตัวอีกที เราก็มาโผล่ที่สวนหลังบ้านของเขาเสียแล้ว...ร่างบางผงกหัวขึ้นมองพลางขมวดคิ้วสงสัยอย่างหนัก ก่อนที่จะโดนจองกุกวางร่างของฉันลงบนหญ้าหนาๆ..เขาปล่อยให้ฉันนั่งลงบนหญ้าเย็นๆพร้อมกับบรรยากาศยามเย็นที่พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ร่างสูงไม่พูดอะไรต่อพลางเดินหนีออกไปนั่งลงบนเก้ากี้เล็กๆพร้อมกับโต๊ะปิกนิกที่ตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ห่างจากกันไม่ไกลมากนัก
สายลมฤดูร้อนยามเย็นมาพร้อมกับบรรยากาศอันแสนสดชื่น เสียงลมและกิ่งไม้กระทบพร้อมกันจนกลายเป็นเสียงเพลงจากธรรมชาติที่ฉันไม่ได้ยินเสียงแบบนี้ตั้งแต่ย้ายมาอยู่เกาหลีกับพ่อ ที่นี่ปูซาน สวนหลังบ้านของเขา มีทั้งดอกไม้ ผลไม้เกิดตามรั้วบ้านที่หาได้ยากสุดๆ มันทำให้ฉัน..มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
บรรยากาศเหมือนอยู่ที่อิตาลีเลย..บ้านของแม่ฉัน ก็เป็นแบบนี้แหละ อ่า คิดถึงแม่จัง^^
"หื้ม.....ไอ้จองกุก!!!!!!!!"
ปลายจมูกน้อยๆของคนตัวเล็กรับรู้ได้ถึงกลิ่นเหม็นๆจากควันบุหรี่ที่อยู่ๆก็ลอยเข้ามากระทบหน้าฉัน..พอมองดูอีกทีก็เจอต้นตอที่นั่งดูดบุหรี่ด้วยความสบายอกสบายใจ ไม่สนธรรมชาติพวกนี้เลยสักนิด หน็อย! ทำแบบนี้อากาสอันบริสุทธิ์เสียหายหมด ทำให้ฉันของขึ้นเลยคราวนี้!!
"ย๊า!! หยุดนะ!!!"
หมับ!!
"เห้ย!!" ชายหนุ่มเบิกตากว้างพร้อมมองไปที่ร่างเล็กที่กำลังโวยวายและฉกม้วนบุหรี่ออกไปจากมือของเขา ขณะที่จองกุกกำลังดื่มด่ำไปกับเจ้าควันมรณะอยู่นั้น อารมณ์ของเขาเป็นต้องถูกขัดเพราะมือเล็กๆของฉันแย่งมันมาก่อนที่จะทิ้งม้วนบุหรี่ลงพื้นหญ้าพร้อมใช้เท้าเหยียบมันจมผืนดิน
"ทำอะไรวะ!?"
"หึ!! ทำบ้าอะไรของนาย เสียบรรยากาศหมด!!"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ!?" ร่างหนายันตัวขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมเท้าสะเอวและทำสีหน้าเบื่อหน่ายต่อหน้าหญิงสาวที่จู่ๆก็เข้ามาขัดจังหวะ
"ก็กลิ่นมันเหม็น!! ฉันไม่ชอบ..."
"แล้ว?"
"แถมมันยัง..ไม่ดีต่อสุขภาพ..ของฉัน!! เผื่อฉันปอดไหม้จะทำไง!!!"
"หึ นึกว่าเป็นห่วงฉันเสียอีก" จองกุกยกคิ้วกวนพลางเอาลิ้นดุนแก้ม ก่อนที่เขาจะค่อยๆโน้มตัวลงมาใกล้ฉัน เมื่อเห็นอย่างนั้นฉันจึงถอยหนีแต่ทว่าก็โดนแขนอีกข้างของเขาคว้าตัวเข้าไปชนกับร่างหนาๆแน่นๆของเขาเข้าอย่างจัง หน้าฉันมุดแผงอกจองกุกและพยายามเบือนหนีแต่หมอนี่ก็ดื้อดึงจับฉันมาอยู่ที่เดิม..บ้าจริง ไม่เหม็นรึไง ฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลยแหะๆ
"อ๊ะ...." ร่างเล็กขนลุกซู่พลางหดตัวหนีจากการคืบคานของจองกุกที่อยู่ๆก็เอาจมูกมาซุกซนบนหัวของฉัน..แก้มกลมทั้งสองข้างเริ่มขึ้นสีแดงระรื่นกับการกระทำของชายหนุ่ม มันชั่งน่าขนลุกเสียจริง ไอ้เสียงหายใจฟึดฟัดแบบนั้นเหมือนโรคจิตไม่มีผิด และอารมณ์เดียวกันกับที่โดนจองกุกลวนลามครั้งแรกบนรถเมล์เลยอ่า แม่จ๋า><
"หัวเหม็นนะยัยสกปรก หึ:)"
แหม มันก็ชั่งหาคำมาด่า!-_-
"อะ..ไอ้บ้า!! ปล่อยเลย!!...โรคจิต!" ทำบ้าอะไรยะ บรึ๋ย! ขนลุก-_-!
"หึๆ :) "
ตอนนี้ฉันยืนมองสวนดอกไม้เล็กๆอันแสนสวยงามอยู่ตรงหน้า แต่ในมือยืนถือพลั่วตักดินไว้แน่น และสีหน้าของฉันก็แสดงอาการไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้อย่างชัดเจนมากเลยล่ะ...เพราะ ฉันโดนบังคับให้มาพรวนดินน่ะสิ!! ถ้าไม่ทำก็อดกินข้าวเย็น ทำจนกว่าจะหมดสวนเนี่ยแหละ!! มันน่าโมโหนักที่อยู่ๆก็กลายเป็นคนสวนให้เขาเนี่ย!! แม่ม ที่แรกก็นึกว่าจะพาออกมานั่งกินลมสบายๆ แต่ที่ไหนได้ เหอะๆพาออกมาใช้แรงงานนี่เอง-_-
แต่ที่น่าตกใจและน่าโมโหไปมากกว่านั้น ก็คือคำพูดของจองกุกก่อนที่จะใช้ให้ฉันมาทำงานก็คือ...
"อยู่ที่นี่เธอมีหน้าที่ก็คือคอยรับใช้ฉันตลอดทั้งซัมเมอร์ กวดบ้าน ซักผ้า ทำความสะอาด ทำสวนทั้งหมด..ถ้าไม่พอใจล่ะก็ ก็น่าจะรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากเธอขัดดคำสั้งฉัน^^"
ชัดเจนใช่มั้ยล่ะ คำพวกนี้มันยังก้องอยู่ในหัวของฉันอยู่เลย ฮื่อ หลอกหลอนเสียจริง!!!
"หึ้ย!! ชีวิต!!..." ร่างเล็กนั่งยองๆพลางบ่นแต่ก็ไม่พ้นนั่งขุดดินอย่างลวกๆ คำว่าพรวนดินเนี่ย คิดว่าฉันทำเป็นมั้ยห้ะ ก็ไม่..แต่เคยเห็นในหนัง แต่ในหนังพระเอกเป็นคนทำไง แต่นี่อะไร ผู้หญิงสวยๆอย่างฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ ดินเนี่ยมันสกปรกมากรู้มั้ย ทำเสร็จแล้วมือจะด้านมั้ยเนี่ย!!
"บ่นๆ!"
"เงียบหน่า!!!!" ฉันตะโกนกลับไป พร้อมเหลือบมองจองกุกที่ตอนนี้เขานั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆอย่างสบายใจ ไม่คิดแม้จะเดินมาช่วยกันเลย ใจดำ ใจดำที่สุด!!...ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ทำแบบนี้จนจะครบทุกสวนแล้วนะ
ร่างเล็กเลิกสนใจคนออกคำสั่ง ก่อนที่จะหันกลับมาทำงานต่อ หลังมือเล็กๆยกขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากอย่างไม่รู้ว่าดินที่ติดอยู่บนมือนั้นเลอะทั่วใบหน้าเต็มไปหมด ทั้งจมูก แก้ม หน้าผาก ทำให้คนที่แอบมองอยู่ห่างๆเป็นอันต้องหลุดขำอย่างลืมตัว..สายตาคมจ้องมองไปที่คนตัวเล็กก่อนจะวางกระป๋องน้ำอัดลมลงบนโต๊ะ พลางยืดตัวลุกขึ้นยืน จองกุกมองซ้านมองขวาพร้อมสายตาไปสะดุดกับสายยางรดน้ำวางอยู่ไม่ไกล..รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างชั่วร้าย เท้าหนาเดินมาหยุดตรงก็อกน้ำก่อนที่จะหยิบสายยางขึ้นมาแล้วเปิดน้ำจนสุด
"อ้าก!! อร๊ายยย!!!"
ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างพอใจ เมื่อสายน้ำที่เขาพึ่งฉีดออกไปทำให้คนตัวเล็กตกใจจนต้องวิ่งหนีเหมือนลูกหมาที่เกลียดน้ำสุดๆ เสียงร้องโวกเวกโวยวายมันชั่งทำให้จองกุกสนุกมากซะจริง สะใจเป็นบ้า^^
"อ้าก!! หยุดนะ----อั่ก!!"
ตุบ!!
"กรี๊ดดดดดด!!"
วันนี้ เป็นวันที่บ้าที่สุด!!!
ไม่เจ็บตัว แต่ปวดหัวแทนน่ะแม่ม!-_-
จากเหตุการณ์ฝนตกเมื่อคืน ทำให้พื้นดินบางส่วนกลายเป็นหนองน้ำหรือแอ่งโคลน และถือว่าฉันดวงซวยที่วิ่งหนีน้ำอีตาจองกุกจนไปตกในหลุมกองโคลนพร้อมสภาพที่เปรอะเปรื้อนโคลนเหนียวๆน่าเกลียดๆไปหมด สภาพดูไม่ได้เลยสักนิด แถมยังโดนคนแก่แถวนั้นยืนขำจนฟันปลอมจะหลุดอีก!! แต่มันก็ไม่น่าอายเท่าจองกุกมายืนขำฉันหรอกนะ ฮือT^T
จนถึงตอนนี้ ตาบ้านั่นก็ยังไม่หยุดขำ พอฉันอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จมันก็ยังมองแล้วก็ขำไม่หยุด
แต่..เอ๊ะ?
"มะ..เมื่อกี้นายยิ้ม?" ใบหน้าหวานอ้าปากเหวอพลางชี้นิ้วไปที่ชายหนุ่มที่รีบหุบยิ้มลงทันทีเมื่อโดนจับได้คาหนังคาเขา อ่า แบบนี้มันแปลกชะมัด ตั้งแต่เจอกันมาฉันไม่เคยเห็นจองกุกยิ้มแบบจริงๆจังๆเลยสักครั้ง ยิ้มแบบมีความสุขอ่ะ ไม่เคยเลย นอกจากรอยยิ้มเลวๆ(-^-)
"อะแฮ่ม!!...แล้วเสื้อที่เอาให้ ใส่ได้ใช่มั้ย?" จองกุกกระแอมในลำคอก่อนที่จะพูดเปลี่ยนเรื่อง
"อ่อ อื้ม ก็ใส่ได้..แต่มันคับไปหน่อย-^-" ฉันคว่ำปากลงน้อยๆพลางยกแขนขึ้นปิดส่วนบนตัวเองเอาไว้ จองกุกบอกว่านี่คือชุดของแม่เขา แต่ซักและเก็บไว้เป็นอย่างดี ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องเอาชุดแม่เขาให้ใส่ด้วย แต่ไม่ได้จะว่าหรอกนะ เพราะมันก็ใส่ได้ แต่มันคับหน้าอกไปหน่อย ประมาณได้เลยว่าแม่จองกุกตัวเล็กเท่าไหน และแม่ของฉันคงไม่ตัวเล็กเท่านี้แน่ ท่านสมบูรณ์ไปซะทุกส่วน><
ก็เหมือนฉันนั่นแหละ
"เธอ นี่มันโตแต่ตัวนะ..สมองน่ะเท่าเด็กอนุบาล"
"นี่!!! คุยนอกเรื่องแล้วมั้ย!!..แล้วไหนล่ะข้าวเย็น ฉันจะกินๆๆๆ!!!"
"เธอมันน่ารำคาญกว่าที่คิดแฮะ โวยวายอยู่ได้!"
"ข้าวๆ! จะกินข้าว!!!"
"เห้อ!!!!!!"
บรรยากาศตลาดเล็กๆภายในหมู่บ้าน เต็มไปด้วยแสงสีสวยงาม ผู้คนที่ผ่านเข้ามาเที่ยวต่างเดินช้อปปิ้งกันอย่างสนุกมือ สินค้าส่วนใหญ่เป็นของจากฝีมือของชาวบ้าน ทั้งของกิน งานฝีมือ และขนมโบราณต่างๆ...ร่างเล็กเดินมองไปรอบๆตลาดด้วยความแปลกตา เพราะไม่เคยเห็นของพวกนี้มาก่อน ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่และครั้งแรกที่เคยเจอ ของฝากน่ารักๆเต็มไปหมด จำพวกตุ๊กตาเย็บมือน่ารักชะมัด อยากได้จัง...
มือบางๆเอื้อมไปกระตุกชายเสื้อของร่างสูงพร้อมทำสายตาอ้อนวอนก่อนจะชี้ไปที่ตุ๊กตาเย็บมือรูปกระต่ายสีชมพูที่วางขายอยู่ตรงหน้า..คือว่า ตอนนี้ฉันไม่มีเงินเลยสักกะบาท เพราะกระเป๋าตังค์อยู่ที่โซลนู้นแหนะ แถมโทรศัพท์ก็โดนจองกุกยึดไปอีกง่าT^T
"อะไร?" จองกุกถามเสียงเรียบพลางหลุบตามองฉัน ที่ตอนนี้กำลังทำเรื่องปัญญาอ่อนเข้าไปกันใหญ่ ก็มันไม่มีทางเลือกนี่หนา มันน่ารัก ฉันอยากได้ แล้วตอนนี้จองกุกก็เป็นคนเดียวที่..มีเงินแหะๆ><
"อยากได้~" ฉันดัดเสียงให้น่ารักก่อนจะชี้ไปที่ตุ๊กตาอีกครั้ง...อ้าก! น่าอายชะมัด
"แล้ว?"
"ซื้อให้หน่อยสิแหะๆ^^"
"หึ นี่เธอกำลังอ้อนฉันรึไง?"
ตาบอดหรอยะ ก็เอ่อน่ะสิ!!!
"ใช่~" ตอบไปอย่างหน้าด้านๆเลยค่ะ ใช้ฉันกำลังอ้อน หาดูยากนะคะ รีบๆซื้อให้เลย!!
"แหม ตอนอยู่บ้านยังด่าฉันจนปากแฉะ..แล้วนี่อะไร เธอนี่มันนางมารยาหญิงจริงๆ"
หึ่ม อดทนไว้(ชื่อคุณ) อย่าพึ่งทำขายหน้าตอนนี้ คนเยอะ
"แต่ฉันไม่มีเงินหนิ.."
"เลยจะให้ฉันซื้อให้?"
"ใช่~"
"เรื่องอะไรล่ะ...ตามมา!!"
และดูเหมือนจองกุกจะปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ฉันได้แต่หันหลังมองเจ้าตุ๊กตาที่ค่อยๆเดินห่างกันไปไกล..จองกุกลากฉันออกมาห่างไกลพอสมควรพร้อมกับท่าทีที่เพิกเฉยกับสิ่งที่ฉันต้องการ และเมื่อฉันไม่ได้สิ่งของที่ต้องการ ความเอาแต่ใจก็เริ่มแสดงนิสัยพวกนี้ออกมาระหว่างเดิน ขอบตาของฉันเริ่มร้อนก่อนจะมีน้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียใจสุดๆที่มีคนกล้าทำให้สิ่งที่ฉันต้องการนั่นหลุดมือไป
"ฮึก..." ร่างเล็กเริ่มมีเสียงสะอื้นเบาๆ พลางหยุดเดินกระทันหันและไม่ยอมเดินตามจองกุกไป
เมื่อรู้สึกได้ว่าคนตัวเล็กไม่ได้เดินตาม จองกุกจึงหยุดเดินก่อนที่จะหมุนตัวกลับแล้วเข้าไปใกล้ มือหนาวางลงบนไหล่เล็กทั้งสองข้างพลางก้มหน้าลงต่ำ ปรากฏว่าคนตัวเล็กตรงหน้ากำลังมีน้ำหูน้ำตาขึ้นมาเสียได้...
ลำบากจองกุกอีกแล้วสิทีนี้-_-
"เป็นอะไร?"
"อึก! ฉันอยากได้ตุ๊กตา..."
"(ชื่อคุณ) อย่าเอาแต่ใจ ฉันไม่ชอบ"
"กะ..ก็ฉันอยากได้หนิ!! ฉันไม่มีเงินแถมนายก็ต้องซื้อทุกอย่างที่ฉันอยากได้เพราะนายเป็นคนพาฉันมาลำบากถึงที่นี่ฮึก!!" เสียงเล็กงอแงขึ้น ท่ามกลางผู้คนที่ผ่านไปมา จองกุกไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้วเพราะตอนนี้กำลังมีเด็กเอาแต่ใจยืนงอแงอยู่กลางตลาดแบบนี้ แถมผู้คนที่เดินสวนไปสวนมาก็เริ่มมองกันใหญ่ เสียงซุบซิบต่างๆนาๆจนน่าอาย รังแกผู้หญิงบ้างแหละ ทำผู้หญิงท้องบ้างแหละ ให้ตายเถอะ อย่ามโนกันไปเองสิวะ!!
"(ชื่อคุณ)หยุด!!..."
"ฮึก! ตุ๊กตา อยากได้อึก!"
ร่างสูงถอนหายใจออกมาด้วยความสิ้นหวังและหมดหนทางที่จะแก้ไข...จองกุกก้มมองล่างไปสักพักเพื่อทำใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังเจอ พึ่งเคยถูกผู้หญิงงอแงใส่ก็วันนี้แหละ..แบบนี้มันต้องสั่งสอนเด็กดื้อสักหน่อยแล้วสิ :)
"เห้อ~ ได้..ได้ฉันจะซื้อให้"
"ห..ห้ะ...จริงนะ เย้!----"
"แต่! เธอต้องจูบฉันกลางตลาดเดี๋ยวนี้! เอาสิถ้าอยากได้หึ:)"
[ 100% ]
To be continued
#TALK
จองกุก แกมันร้าย!! ร้ายจริงๆ อยู่บ้านนอกกับอยู่ในเมืองเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยนะ..แหม พ่อคุณจะใจดีไปถึงตอนไหนกัน หึๆ คุณรีทเดาอารมณ์จองกุกไม่ถูกหรอกฮ่า!!
คอมเม้น+กำลังใจ มาจูบและอ้อนวอนจองกุกกันค่ะ><
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น