ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราชันย์วีรชน

    ลำดับตอนที่ #4 : เปล่าประโยชน์(รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 63


    หลายวันต่อมา


    "เอา....อันนี้ได้มั้ยคะ?"

    ในวันที่เเสนสงบสุข เป็นอีกหนึ่งวันที่ซากุระได้รับอิสระให้ไปไหนมาไหนหรือทำอะไรก็ได้ตามใจชอบตามประสาเด็ก เธอจึงอยากจะลองไปจ่ายตลาดดูสักครั้งนึง เเน่นอนว่าเธอไม่ได้อยู่เพียงลำพัง

    "อยากได้อะไรก็หยิบไป ไม่ต้องมาถามข้าให้มากความ"

    คูกะที่สวมใส่ชุดคลุมปกปิดทั้งร่างกายกล่าวขึ้นขณะที่กำลังยืนกอดอกอย่างเฉยชาอยู่ ยังไงตอนนี้เด็กคนนี้ก็อยู่ในการดูเเลของเขาไปเเล้ว จะปล่อยให้ออกไปไหนมาไหนคนเดียวในเมืองที่กำลังเกิดสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์เเบบนี้มันก็ดูเป็นอะไรที่ไร้ความรับผิดชอบเกินไปซะด้วย

    "เอ่อ.....ค่ะ"

    พอได้ยินคำพูดรำคาญปนให้ความอิสระของคูกะไป ซากุระก็เริ่มเดินไปตามร้านค้าข้างทางต่างๆด้วยความสนใจ โดยมีคูกะคอยเดินตามอยู่ไม่ห่าง พวกเจ้าของร้านต่างๆดูจะเป็นมิตรกับซากุระดี เเตกต่างจากตัวของเขาเมื่อเวลาที่ผู้คนเห็นว่าเขากำลังเดินตามเด็กสาวอยู่ก็เริ่มมองเขาด้วยสายตาเเปลกๆ

    "......ซื้อไปเยอะเเบบนั้นจะกินหมดรึ?"

    คูกะเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าของต่างๆที่ซากุระซื้อมานั้นมันเยอะมาก เเละกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมือของเด็กสาวเริ่มที่จะถือไม่ไหวเสียเเล้ว ถึงอย่างนั้นเด็กสาวก็ยังคงเลือกที่จะไม่ขอความช่วยเหลือใดๆจากคูกะ

    "ไม่รู้สิคะ เเต่หนูไม่เคยซื้อของพวกนี้มาก่อนเลย.....มันก็เลยรู้สึกว่าอยากจะซื้อเก็บเอาไว้น่ะค่ะ"

    เป็นเหตุผลที่ฟังดูประหลาดสำหรับคูกะ เเต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เเละไม่มีความคิดที่จะพยายามเข้าใจมันด้วย ระหว่างที่กำลังเดินซื้อของไปเรื่อยๆอยู่นั้น ก็ได้มีชายคนนึงเดินเข้ามาชนไหล่ของคูกะเข้าพอดี

    ตุบ

    "ขอโทษครับ...."

    ชายคนนั้นสวมใส่ฮู้ดสีดำปกปิดใบหน้าเอาไว้ เขาเอ่ยขอโทษก่อนที่จะพยายามเดินหนีออกไป บรรยากาศรอบข้างก็ดูเย็นเชียบผิดเเปลกจากคนธรรมดาทั่วไป ถึงอย่างงั้นมันก็ไม่ใช่เหตุผลที่มากพอที่จะทำให้คูกะสนใจ......ถ้ามันมีเเค่นี้จริงๆล่ะก็นะ

    หมับ

    "เดี๋ยว......เจ้าลืมอะไรรึเปล่า?"

    เสียงที่เย็นยะเยือกพร้อมกับบรรยากาศรอบข้างที่เปลี่ยนไปดังขึ้นมาพร้อมเพรียงกับสัมผัสที่รู้สึกได้ที่ไหล่ ชายสวมฮู้ดเเทบจะหยุดหายใจลงในวินาทีนั้นทันที ร่างกายของเขามีอาการสั่นเทาเล็กน้อย มือหนาข้างซ้ายที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อเริ่มที่จะกำอะไรบางอย่างเอาไว้เเน่น

    "มีอะไร....งั้นหรอ...."

    ชายสวมฮู้ดกล่าวถามออกมาด้วยความยากลำบาก ในใจของเขาก็เริ่มวิงวอนขอให้บุคคลตรงหน้าไม่ทำอะไรเขา

    "ข้าพูดไปเเล้ว"

    คูกะเอ่ย จากนั้นเขาก็หยิบเเผ่นวงกลมเล็กๆที่ทำจากโลหะขึ้นมาให้ชายตรงหน้าได้เห็น นั่นทำให้ชายสวมฮู้ดต้องดวงตาเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจสุดขีด

    "!!!"

    "เป็นอะไรไป เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าเครื่องติดตามงั้นรึ"

    กล่าวเสร็จคูกะก็ได้ทำการบีบเครื่องติดตามที่ว่านั้นเเหลกคามือของเขา ถึงเขาจะไม่ได้สนใจโลกในตอนนี้มากนัก เเต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นไม่รู้อะไรเลย เทคโนโลยีของโลกนี้ก้าวหน้าขนาดไหนนั้นเขารู้ดี

    "...."

    เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกจับได้แล้วชายสวมฮู้ดก็พยายามล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของตนเพื่อหยิบอาวุธที่ซ่อนไว้ออกมา ทว่ามันกลับมีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้นเอง

    "หาไอ้นี่อยู่งั้นรึ?"

    รู้ตัวอีกที ปืนที่ถูกซ่อนเอาไว้ในกระเป๋าของเขาก็ไปโผล่อยู่บนมือของคูกะเสียเเล้ว จากนั้นคูกะก็ทำการใช้เวทมนตร์บางอย่างสลายปืนกระบอกนั้นจนกลายเป็นผุยผงเป็นการบอกว่าของเเค่นี้มันไม่สามารถที่จะทำอะไรเขาได้

    "เจ้าคิดว่าเเท่งเหล็กนี่มันจะทำอะไรข้าได้? ทำให้ข้ารู้สึกคันงั้นรึ?"

    ชายสวมฮู้ดไม่ตอบอะไรกลับไป ตอนนี้เขารู้ตัวเเล้วว่าประเมินอีกฝ่ายไว้ต่ำเกินไปมาก สถานการณ์ตอนนี้จะรอดหรือตายมันก็คงจะขึ้นอยู่กับคูกะเเล้ว

    "บอกนามของเจ้ามาสิไอ้หนูผู้ใจกล้า"คูกะเอ่ยถามชื่อของอีกฝ่าย

    "...คิริซึงุ.....เอมิยะ คิริซึงุ"เมื่อหมดทางขัดคืนเเล้ว ทางเลือกเดียวที่คิริซึงุทำได้ในตอนนี้ก็คือการทำตามที่อีกฝ่ายบอก

    "คิริซึงุสินะ ข้าขอยอมรับในความใจกล้าของเจ้า....หรือจะให้เรียกว่าโง่เขาลาดีล่ะ?"คูกะเอ่ย

    "....จะทำอะไรกับฉัน?"คิริซึงุถาม

    "นั่นสินะ......บางทีอาจจะเป็นการสังหารเจ้าทิ้งก็ได้"

    "ต่อหน้าคนนับร้อยงั้นหรอ?"คิริซึงุมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่น่าที่จะฆ่าคนในที่เเบบนี้ได้ มีผู้คนอยู่ทั่วบริเวณนี้เต็มไปหมด มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะฆ่าใครโดยไม่ให้มีคนอื่นรู้

    "เจ้าหมายถึงคนนับร้อยพวกนี้งั้นหรอ?"คูกะผายมือออกไปยังผู้คนจำนวนนับร้อยที่ว่าที่ตอนนี้ได้หยุดนิ่งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่สิ ไม่ใช่เเค่ผู้คน เเม้เเต่สัตว์ สิ่งของ สภาพอากาศ ทุกอย่างมันถูกหยุดเอาไว้หมดเเล้ว

    "เจ้าคงไม่คิดว่าข้าจะยอมยืนคุยกับเจ้าเฉยๆให้เสียเวลาหรอกนะคิริซึงุ"

    คูกะเป็นพวกไม่ชอบเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เขาจึงได้ใช้เวทมนตร์หยุดเวลารอบข้างเอาไว้หมดเเล้ว ตอนนี้ใบหน้าภายใต้ฮู้ดของคิริซึงุกำลังเต็มไปด้วยเหงื่อจำนวนมาก

    "สำหรับข้าเเล้วเจ้าก็ไม่ต่างอะไรไปจากมดดปลวกหรอกนะ ตอนนี้ข้าจะขยี้เจ้าให้ตายคามือเลยก็ยังได้"

    กร็อบ!

    คูกะใช้นิ้วชี้เเละนิ้วโป้งในการออกเเรงบีบไปที่ไหล่ของคิริซึงุ ส่งผลให้กระดูกบริเวณไหล่เเละเเขนข้างซ้ายของเขาทั้งหมดถูกบดขยี้จนเเหลกกลายเป็นผุยผง

    "อ๊ากกก!!!!....."

    คิริซึงุร้องตะโกนออกมาเสียงดังลั่นด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่เข่าของเขาจะทรุดลงไปกับพื้นเพราะทนความเจ็บปวดเหล่านี้ไม่ไหว เเต่ไม่นานหลังจากนั้นความเจ็บปวดทุกอย่างก็หายไป พร้อมกับเเขนเเละไหล่ข้างซ้ายที่เริ่มกลับมาขยับได้ตามปกติอีกครั้งนึง

    "เเต่ข้าให้โอกาสเจ้า ไหนลองหาเหตุผลที่ข้าจะไม่ขยี้เจ้าให้ตายคามือมาสิ"

    คูกะไม่ใช่คนที่ไร้เมตตาอะไรขนาดนั้น เขายังพอให้ทางรอดกับอีกฝ่ายอยู่บ้าง เเค่คิริซึงุต้องหาเหตุผลดีๆสักข้อให้ได้ก็เท่านั้นเอง

    "ไม่มี......"

    ถ้าเกิดว่าเขาสามารถหามันได้ล่ะนะ....

    "งั้นรึ.....ข้าล่ะผิดหวังเสียจริงๆ......"

    ปัก!

    คูกะทำการเตะเข้าไปที่เอวของคิริซึงุอย่างจัง ส่งผลให้ร่างของอีกฝ่ายกระเด็นออกไปจากจุดที่เคยยืนอยู่หลายเมตร ทว่ามันคือลูกเตะที่คูกะออมเเรงไว้มากเพื่อกันไม่ให้อีกฝ่ายตายเสียก่อน

    "ข้ารู้สึกผิดหวังในตัวเจ้ามากพอสมควรเลยคิริซึงุ"

    ระหว่างที่คูกะกำลังเดินเข้าไปหาคิริซึงุอยู่นั้น ทางด้านคิริซึงุก็ได้หยิบระเบิดมือออกมาด้วยความรวดเร็ว เขารีบทำการดึงสลักระเบิดออกเเล้วปาใส่คูกะในทันที

    หมับ!

    "น่าตลกสิ้นดี"

    ตู้ม!!!!

    คูกะรับลูกระเบิดนั้นเอาไว้ ก่อนที่มันจะระเบิดคามือของเขา เเต่มีหรือที่มันจะสามารถทำอะไรเขาได้ คูกะเดินผ่านม่านควันจากเเรงระเบิดออกมาหน้าตาเฉย สภาพของเขายังคงไร้ซึ่งรอยขีดข่วนใดๆบนร่างกาย

    "เจ้ายังมีของเล่นอะไรอีกมั้ยคิริซึงุ?"

    คิริซึงุไม่ตอบคำถามของอีกฝ่าย เขาหยิบเอาระเบิดควันออกมาเเล้วปาลงพื้นในทันที จากนั้นเขาก็วิ่งหลบหนีผ่านม่านควันนั้นออกไปด้วยความหวังที่ว่าอีกฝ่ายจะไม่ตามมา

    'ต้องรีบหนีออกไปจากอาณาเขตเวทหยุดเวลานี่'

    คิริซึงุพยายามที่จะวิ่งออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เเต่การที่เขาถูกคูกะเตะเข้าที่เอวนั้นมันทำให้การเคลื่อนไหวของเขานั้นช้าลงอย่างเห็นได้ชัด น่าเเปลกที่เขายังไม่เห็นวี่เเววของคูกะเลยเเม้เเต่น้อย

    'ไม่ตามมางั้นหรอ?'

    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะตามมา คิริซึงุก็รีบเร่งฝีเท้าของตัวเองให้เร็วมากขึ้นเพื่อหวังที่จะออกไปจากอาณาเขตเวทมนตร์หยุดเวลานี้ ทว่า.....

    'ทำไมทุกอย่างถึงยังหยุดนิ่งอยู่อีกล่ะ!?'

    ถึงเเม้เขาจะวิ่งออกมาเป็นกิโลเเล้วก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเห็นก็ยังคงหยุดนิ่งเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จนถึงจุดที่เขาวิ่งต่อไปไม่ไหวเเล้ว คิริซึงุจึงจำเป็นต้องหยุดพักลง

    'อาณาเขตเวทมนตร์นี้มันครอบคลุมไปถึงไหนกัน?'

    "ทั่วทั้งโลกยังไงล่ะ..."

    "!!!!"

    เสียงเเห่งหายนะดังขึ้นมาไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวของคิริซึงุมากนัก เเละเมื่อหันกลับไปมองก็พบเข้ากับคูกะที่กำลังยืนพิงกำเเพงเเล้วกอดอกอย่างสบายใจอยู่ มันเหมือนราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่าคิริซึงุจะมาหยุดที่จุดนี้

    "ต่อให้เจ้าหนีออกไปไกลเเค่ไหนทุกอย่างมันก็ยังคงเหมือนเดิม นอกจากเจ้าเเละข้าในโลกใบนี้ก็ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวอีกเเล้ว"

    คูกะเริ่มค่อยๆเดินเข้าไปหาคิริซึงุอีกครั้ง อีกฝ่ายจึงหยิบลูกระเบิดออกมาอีกครั้งนึง จากนั้นเขาก็ดึงสลักออกเเล้วปาใส่คูกะ

    "เปล่าประโยชน์"

    คูกะยกมือขึ้นมาเเล้วใช้พลังหยุดลูกระเบิดนั้นไว้กลางอากาศตรงหน้าของคิริซึงุ นั่นทำให้อีกฝ่ายต้องรีบกลิ้งตัวหลบออกมา

    ตู้ม!!!

    "ต่อให้เจ้ามีอาวุธเป็นพันๆชิ้นมันก็ยังไร้ค่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับข้า"

    "หุบปาก!"คิริซึงุพุ่งเข้ามาเเล้วเหวี่ยงหมัดใส่คูกะ

    ความพยายามนั้นเป็นเรื่องที่ดี เเต่หากพยายามทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้นมันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากคนเสียสติหรอกนะ

    ปัก!!

    กร็อบ!!!!

    มือของคิริซึงุหงิกงอในทันทีที่สัมผัสเข้ากับร่างกายของคูกะ กระดูกบริเวณปลายนิ้วของเขานั้นเเตกออกเป็นเสี่ยงๆด้วยเเรงของเขาเอง ฟังดูเป็นอะไรที่น่าสมเพชมากสำหรับคูกะ

    "อึก!...."

    "นี่น่ะหรือคือทั้งหมดที่เจ้าทำได้"

    ปัก!!!!!!

    คูกะถีบเข้าไปที่กลางอกของคิริซึงุจนเกิดเป็นรอยยุบรูปเท้าที่บริเวณกลางอกของอีกฝ่าย คิริซึงุเริ่มสำลักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง กระดูกภายในร่างกายของเขาเเทบจะเเตกหักไปเกือบทั้งหมด บางชิ้นก็ทิ่มเเทงอวัยวะของเขาอยู่ หรือบางชิ้นก็ทะลุออกมาจากร่างกายของเขาเลยด้วยซ้ำ

    "ผิดหวังจริงๆ หืม?"

    ในขณะที่คูกะกำลังเดินเข้ามาหาคิริซึงุเพื่อปิดฉากการละเล่นนี้ลงเสียที เขาก็สังเกตเห็นว่าที่มือของคิริซึงุมันมีตราสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงการเป็นมาสเตอร์ของเซอร์เเวนอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปเเล้วจับเข้าที่ตราประทับของคิริซึงุ

    "ขอดูหน่อยสิว่าเซอร์เเวนของเจ้านั้นเป็นใคร"

    วิ้ง~

    ตราสัญลักษณ์ที่มือของคิริซึงุเริ่มส่องเเสงสีเเดงออกมา พร้อมกันนั้นภาพความทรงจำต่างๆเกี่ยวกับเซอร์เเวนของคิริซึงุก็เริ่มหลั่งใหลเข้ามาภายในหัวของคูกะ นั่นทำให้เขาต้องหยุดชะงักไป....

    "......น่าตลกสิ้นดี"

    คูกะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเเละเดินผ่านร่างของคิริซึงุไป เขากำลังมุ่งหน้ากลับไปยังจุดเดิมที่เขาเคยยืนอยู่

    "เหตุใดชะตาถึงได้เล่นตลกกับข้านักนะ......"

    เปาะ~

    เมื่อคูกะดีดนิ้วความเสียหายทุกอย่างที่เขาก่อไว้เมื่อสักครู่นี้ก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติดังเดิมไม่เว้นเเม้เเต่ร่างกายของคิริซึงุเองก็ตามที

    "ทำไมข้าจะต้องมาเจอกับนางด้วยนะ...."

    คูกะบ่นพึมพำถึงเซอร์เเวนที่เขาเห็นผ่านทางความทรงจำของคิริซึงุ จากการที่เขาพูดออกมาเเบบนี้เเสดงว่าคูกะต้องไม่อยากเจอกับเซอร์เเวนที่ว่าอยู่มากพอสมควร

    หายป่วยเเล้ว!!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×