คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สื่อบันเทิง(รีไรท์)
"อื้อ......"
ซากุระตื่นขึ้นมาในห้องที่เธอได้หลับไหลไปเมื่อคืน สายตาของเธอกวาดมองไปทั่วห้องพยายามมองหาร่างที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ เเต่เธอก็พบเพียงเเค่ความว่างเปล่าเท่านั้นเอง เมื่อเป็นเช่นนั้นซากุระจึงลุกออกจากเตียงเเล้วลองเดินไปสำรวจยังห้องอื่นๆภายในบ้านดู
ตึกๆๆๆๆ
'ไปอยู่ไหนกันนะ?'
เด็กสาวตัวน้อยพยายามมองหาชายในชุดเกราะสีดำไปทั่วบ้าน เเต่น่าเสียดายที่เธอไม่พบเจออีกฝ่ายอยู่ในบ้านหลังนี้เเม้เเต่น้อย ซากุระจึงลองเดินออกไปข้างนอกบ้านดูเผื่อว่าจะเจอเขา
เเอ๊ด~
เเละดูเหมือนจะเป็นโชคดีของเธอ คูกะกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนท่อนไม้ท่ามกลางธรรมชาติที่เเสนเงียบสงบอยู่ โดยที่หนังสือที่เขาอ่านอยู่นั้นมันเป็นหนังสือเกี่ยวกับความรักของชายหญิงคู่หนึ่งที่ดูจะไม่เหมาะกับเขาเอาเสียเลย
"มนุษย์สมัยนี้ช่างไร้สาระ......ว่างั้นรึไม่?"
ฟูว~
คูกะเอ่ยถามพร้อมกับใช้เวทมนตร์อะไรบางอย่างจุดไฟเผาหนังสือเล่มนั้นจนกลายเป็นผุยผง เศษผงละอองที่เหลืออยู่ของหนังสือเล่มนั้นถูกสายลมพัดผ่านออกไปให้ไกลจากตัวบ้าน คูกะลุกขึ้นจากท่อนไม้เเล้วเดินเข้ามาหาซากุระที่กำลังยืนมองเขาอยู่ด้วยสายตาว่างเปล่าเช่นเคย
"คิดรึยังว่าจะทำสิ่งใดต่อ?"คูกะก้มศีรษะลงมาถามซากุระ เขาให้ที่พักกับเธอไปเเล้วเมื่อคืนเนื่องจากในที่ตกลงมา เเต่ตอนนี้สภาพอากาศทุกอย่างกลับมาเป็นปกติดังเดิมเเล้ว มันจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่คูกะน่าจะต้องให้ความช่วยเหลือซากุระอีก
"กลับบ้าน.....ล่ะมั้งคะ...."ซากุระตอบกลับไป ถึงจะเรียกสถานที่เเห่งนั้นว่าบ้าน เเต่เธอรู้สึกเหมือนว่ามันคือคุกที่ใช้คุมขังเธอเสียมากกว่า
"หมายถึงบ้านที่เจ้าหนีออกมาน่ะรึ?"คูกะกล่าวถาม
"ทำไมคุณถึงรู้ได้ว่าหนูหนีออกมา?"เธอจำได้ว่าไม่เคยบอกเรื่องราวของตัวเองให้คูกะได้รู้ คูกะที่โดนถามกลับก็ยกมือขึ้นมาเเล้วเอานิ้วไปเคาะที่หมวกเกราะบริเวณดวงตาสีเเดงของเขา
"ข้าเคยเห็นเเววตาเเบบนั้น มันคือเเววตาของคนที่พยายามหนีอะไรบางอย่าง เป็นเเววตาที่ดูน่าสมเพชดี"เขาเป็นคนที่ผ่านอะไรมาเยอะเเยะนับไม่ถ้วน เจอผู้คนมาทุกประเภท เจอสิ่งลึกลับมาเเล้วหลายอย่าง เคยเห็นสันดานดิบที่มนุษย์จะเเสดงออกมาอยู่หลายครั้ง เขาเลยค่อนข้างรู้สึกเฉยชากับหลายสิ่งหลายอย่างที่อยู่รอบข้างของตน
"เเล้วจะให้หนูทำอะไรล่ะ.........หนูก็เป็นเเค่เด็กคนนึง คุณคาดหวังอะไรจากตัวหนู?"ซากุระถาม เธอไม่เข้าใจว่าคูกะต้องการอะไรจากเธอ เธอก็เเค่เด็กสาวตัวน้อยที่ไร้ที่พึ่งพิง เป็นเด็กสาวที่เปราะบางถูกทำลายลงได้ง่ายๆ ยิ่งมาเจอคำพูดนี้ของคูกะมันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเเตกร้าวมากยิ่งขึ้นไปอีก
"เหตุใดข้าต้องคาดหวังอะไรกับมนุษย์เช่นเจ้า? เผ่าพันธุ์ที่เต็มไปด้วยความโลภ ตัณหา เเละการฆ่าฟันอย่างไม่จบสิ้น.....ต้องเป็นเจ้าเสียมากกว่าที่คาดหวังกับตัวข้า"คูกะกล่าวเสียงเรียบนิ่ง
"หมายความว่าไง---"
"บอกความปรารถนาของเจ้ามาเสียสิ"สิ้นสุดคำพูดของคูกะ ซากุระก็รู้สึกเหมือนราวกับว่าจิตใจของเธอได้หลุดออกมาจากร่างกาย เธอไม่สามารถควบคุมส่วนไหนของร่างกายได้ สมองของเธอเองก็เริ่มประมวลผลเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง ก่อนที่ปากของเธอจะเริ่มพูดขึ้น
"อิสระ....."
'ปากของเรา....มันขยับไปเอง'
"เเล้วเจ้าจะทำยังไงเพื่อที่จะได้มันมาล่ะ"คูกะเอ่ย จากนั้นเขาก็ดีดนิ้วไปครั้งนึงเพื่อทำให้สติของซากุระกลับมาเหมือนเดิม
".....หนูไม่รู้! หนูก็เเค่เด็กคนนึง----"
"งั้นก็คุกเข่าอ้อนวอนเสียสิ"
"เอ๊ะ?....."
ซากุระหยุดชะงักไปเมื่อได้ยินคำพูดของคูกะ จากนั้นเธอจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองเขาด้วยสายตาที่ซับซ้อน ดวงตาสีเเดงกลมโตของคูกะเองก็กำลังจ้องมองมายังเธออยู่เช่นกัน มือทั้งสองข้างของเขากำลังกอดอกของตนเอาไว้ บรรยากาศรอบข้างเงียบขึ้นมาอย่างฉับพลัน
"คุกเข่าอ้อนวอนขอให้ข้าช่วยเสียสิ นั่นคือสิ่งที่เจ้าทำได้มิใช่รึ?"เย็นชาเเละไร้เมตตา นั่นคือมุมมองของซากุระที่มีต่อคูกะ เเต่ถึงเธอจะคิดเเบบนั้นก็ตาม....
"...ได้โปรด......ช่วยหนูด้วยเถอะค่ะ...."
มันก็คือความจริงที่เธอหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซากุระคุกเข่าก้มหัวขอร้องต่อหน้าของคูกะตามที่เขาพูดเอาไว้ ทางด้านคูกะที่เห็นเเบบนั้นก็นิ่งเงียบไปสักพักนึง ก่อนที่เขาจะยกเท้าขึ้นมาแล้วเหยียบเข้าไปที่ศีรษะของซากุระ เเต่มันก็ไม่ใช่การเหยียบที่รุนเเรงถึงตายอะไร
"น่าสมเพชเกินบรรยาย ชีวิตเจ้ามันขึ้นอยู่กับคนอื่นไปตั้งแต่เมื่อไหร่?"คูกะกล่าวขณะเหยียบศีรษะของซากุระเอาไว้
"อึก!...."
"จงลิขิตชีวิตของตัวเอง มิใช่ให้ผู้อื่นเป็นผู้กำหนด"คูกะเรียกเอามีดนำสนิทเล่มหนึ่งออกมาจากความว่างเปล่า มันสะท้อนเข้ากับเเสงอาทิตย์ เเต่มีดเล่มนั้นกลับดูดกลืนเเสงอาทิตย์เหล่านั้นเอาไว้จนไม่มีเเสงใดสะท้อนออกมา
"ข้ามอบมีดเล่มนี้ให้เเก่เจ้า ถือว่าเพราะข้ารู้สึกสงสาร จะเอาไปใช้ทำสิ่งใดก็คิดดีๆเสียก่อนล่ะ เพราะมันจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ลิขิตชีวิตของเจ้านั้นง่ายขึ้นหรือไม่ก็เลวร้ายยิ่งกว่าเก่า...."ว่าเสร็จคูกะก็นำมีดสีดำเล่มนั้นไปปักลงที่ตรงหน้าของซากุระห่างออกไปจากดวงตาของเธอเพียงไม่กี่เซน
ฉึก!
"เดินทางกลับไปเองล่ะ"เมื่อหมดธุระอะไรไปหมดแล้ว คูกะก็หันกลับไปเเล้วเดินเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้เด็กสาวร่างบางค่อยๆลูกขึ้นยืนอย่างเงียบๆ สายตาของเธอเลื่อนไปมองมีดที่คูกะเป็นผู้มอบให้ จากนั้นเธอก็ลองเอื้อมไปหยิบจับมันขึ้นมาดู
หมับ~
วูบ~
ทันทีที่มือของเธอสัมผัสเข้ากับตัวมีดเธอก็รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถูกดูดอะไรบางอย่างออกไปจากร่างกาย ความเจ็บปวดทรมานกระจายออกไปทั่วทั้งตัว เส้นเลือดสีเเดงเริ่มขยายตัวขึ้นจนเห็นจากภายนอกได้อย่างชัดเจน ซากุระพยายามจะอดกลั้นความเจ็บปวดนี้เอาไว้ เธอพยายามที่จะไม่ส่งเสียงร้องใดๆออกมา
'ทรมานนักก็ปล่อยมือซะสิ......'
มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาภายในหัวของซากุระ เสียงนั้นพยายามพูดโน้มน้าวให้เธอปล่อยมือออกจากมีดเล่มนี้ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างที่ไม่อาจทราบได้ เเต่ถึงจะเป็นเเบบนั้นซากุระก็ยังคงกำมีดเล่มนั้นเอาไว้เเน่น
"ถ้าเทียบกับสิ่งที่เจอมาตลอดล่ะก็......เเค่นี้มันไม่เท่าไหร่หรอก!...."
เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆความทรมานทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ค่อยๆบรรเทาลงอย่างช้าๆ จนในที่สุดความเจ็บปวดทุกอย่างก็หายไปอย่างสมบูรณ์ พร้อมกันนั้นที่ตัวของมีดสีดำเล่มนั้นเริ่มปลดปล่อยออร่าสีดำประหลาดออกมา
ฟูว~
"นี่มัน.......สัมผัสได้ถึงพลังเลย"
โดยที่ไม่รู้ตัว ตอนนี้คูกะกำลังนั่งอยู่ภายในบ้านเเละจ้องมองเธออยู่ ในมือของเขานั้นกำลังถือตัวหมากคิงสีดำเเละขาวเอาไว้ในมืออยู่ เเละเมื่อเขาเห็นว่าซากุระไม่ยอมที่จะปล่อยมือออกจากมีดเล่มนั้นเลย เขาก็ทำการดีดตัวหมากสีดำขึ้นไปกลางอากาศ จากนั้นก็ทำการขยี้ตัวหมากสีขาวที่อยู่ในมือจนเเหลกเเล้วจึงคว้าจับตัวหมากสีดำนั้นไว้
หมับ
"นี่รึคือสิ่งที่เจ้าเลือก......ผิดจากที่คาดไว้เล็กน้อย เเต่ยังไงซะ...."คูกะก้มลงไปมองกระดานหมากรุกที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ จากนั้นเขาก็นำตัวหมากสีดำที่อยู่ในมือลงไปวางไว้บนกระดานนั้น
"การเดินทางของเจ้ามันพึ่งจะเริ่ม.....ข้าขอดูชมหน่อยเถอะละครที่เจ้าเป็นผู้ขีดเขียนด้วยตนเองน่ะ"การมองดูชีวิตของเด็กสาวคนนี้ที่กำลังค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อยมันก็เป็นความบันเทิงอีกอย่างที่ช่างหาได้ยากในยุคสมัยนี้ เเละเมื่อเขามีโอกาสที่จะได้ดูโชว์ที่ไม่ได้ดูมานานเเสนนานจะมีหรือที่เขาจะปฏิเสธโอกาสนั้นไป
ณ ภายในตัวเมือง
"รู้สึก.....ร่างกายมันหนักๆยังไงไม่รู้....."ซากุระกำลังพาร่างของเธอเดินกลับไปยังบ้านของเธอด้วยความยากลำบาก เธอรู้สึกเหมือนกับว่าได้รับบาดเจ็บมาทั้งตัวทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้รับบาดเเผลจากอะไรเลยเเม้เเต่น้อย
"ผู้ชายคนนั้น........"ซากุระนึกย้อนไปถึงคำพูดของคูกะเดียวกับเรื่องการลิขิตชีวิตของตัวเอง จากนั้นเธอก็ลองยกมือข้างที่เคยจับมีดสีดำเล่มนั้นขึ้นมามองดู
ฟูว~
"พลังนี้.....เขาเป็นคนมอบให้งั้นหรอ...."บนมือของซากุระปรากฏควันดำบางอย่างออกมา ลักษณะของมันคล้ายคลึงกับเงาอย่างบอกไม่ถูก ถึงอย่างนั้นซากุระก็ไม่อาจเข้าใจได้ว่ามันคืออะไร
'มีดเล่มนั้นมันฝังเข้าไปในมือเรา........ควรจะทำยังไงต่อดีนะ....'
"!...มีคนตามมาหรอ..."ระหว่างที่เธอกำลังคิดอะไรอยู่นั้น ซากุระก็สัมผัสได้ว่ามีใครบางคนกำลังเเอบเดินตามเธอมาอยู่ทั้งๆที่ปกติมันจะไม่เป็นเเบบนี้ เธอพยายามกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อหาคนๆนั้นจนสายตาของเธอไปสะดุดอยู่ที่หญิงสาวคนนึงที่เเต่งกายมิดชิดเเละดูเงียบขรึมคนนึง
'คนๆนี้งั้นหรอ.......เธอตามเรามาทำไมกัน.....'
เมื่อเห็นว่าเริ่มไม่ดีเเล้วซากุระก็เร่งฝีเท้าของตัวเองให้เร็วขึ้นเพื่อหลบหนีจากการถูกตามติดของหญิงสาวคนนั้น ทางด้านหญิงสาวคนนั้นที่เห็นว่าซากุระเร่งฝีเท้าของตัวเองให้เร็วขึ้นเเล้วเธอก็รู้ได้ในทันทีเลยว่าอีกฝ่ายรู้เเล้วว่าเธอกำลังเเอบตามอยู่
"คิริซึงุเด็กคนนั้นรู้ตัวเเล้วค่ะ"เธอยกมือถือขึ้นมาเเล้วรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับชายที่อยู่ปลายสายที่มีชื่อว่าคิริซึงุได้ฟัง
[ได้ยังไง? ไม่น่าเป็นไปได้นิ]
"ไม่ทราบค่ะ เเต่เด็กคนนั้นรู้ตัวเเล้วจริงๆ เธอกำลังพยายามหนีฉันค่ะ"หญิงสาวกล่าว
[ไมยะไม่ว่ายังไงต้องพาตัวเด็กคนนั้นมาให้ได้เพื่อเป็นข้อต่อรองให้คาริยะยอมถอนตัวจากสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์]
"จะพยายามค่ะ"กล่าวเสร็จหญิงสาวที่ชื่อไมยะก็ควักเอาปืนพกที่ใส่เก็บเสียงขึ้นมาเเละทำการเล็งไปที่ซากุระในทันที
ปิ้ว!
ฟูว!
ในทันทีที่กระสุนของเธอพุ่งออกไปจากปากกระบอกปืนเเละกำลังจะเข้าไปฝังอยู่ที่ขาของซากุระนั้นเอง เงาที่อยู่ใต้เท้าของเด็กสาวจู่ๆก็มีอะไรบางอย่างสีดำโผล่ขึ้นมาภายในเสี้ยววินาทีนั้นเเละป้องกันกระสุนของเธอเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย
"อะไรกัน!?"ไมยะกล่าวออกมาด้วยความตกใจ เธอไม่ได้คิดว่าซากุระจะมีประสาทสัมผัสที่เฉียบคมจนถึงกับว่าจะสามารถรับรู้ถึงกระสุนของเธอได้
'ไม่น่าเป็นไปได้นิ! เธอเป็นเเค่เด็กไม่ใช่หรอ!?'
ซากุระที่รู้ตัวว่าไมยะเริ่มโจมตีใส่เธอเเล้วก็ออกตัววิ่งไปในทันที นั่นทำให้ไมยะต้องรีบวิ่งตามไปอย่างรีบร้อน ที่น่าประหลาดใจเลยก็คือ ความเร็วของซากุระที่เป็นเด็กนั้นดูเหมือนจะน้อยกว่าของไมยะที่เป็นผู้ใหญ่อยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
"เรื่องบ้าอะไรเนี่ย?...."ไมยะพูดขณะวิ่งตามซากุระไปเรื่อยๆ
'ข้อมูลผิดพลาดงั้นหรอ? เด็กคนนี้ไม่ควรที่จะเร็วขนาดนี้นิ'
ถ้าหากนี่เป็นเรื่องตลกเธอก็คงจะขำไม่ออกอย่างเเรง ทุกอย่างมันดูผิดเเผนไปหมด ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังวิ่งอยู่นั้น ซากุระก็วิ่งเลี้ยวหลบหนีเข้าไปในตรอกเเห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว ไมยะจึงรีบวิ่งตามเข้าไป เเต่บุคคลที่เธอพบกลับไม่ใช่เด็กสาวตัวเล็กร่างบางที่เป็นเป้าหมายของเธอ....
"สมัยนี้มนุษย์สามารถหันอาวุธเข้าใส่เด็กตัวเล็กๆได้อย่างหน้าตาเฉยงั้นรึ.....ผิดคาดจริงๆ"คูกะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูประหลาดใจมากพอสมควร เขากำลังยืนพิงกำเเพงอยู่ภายในตรอกนั้นขวางกั้นเส้นทางที่เธอจะไปหาซากุระได้พร้อมกับหมุนตัวหมากที่อยู่ในมือไปมา ไมยะที่รู้สึกไม่ดีจึงรีบยกปืนขึ้นมาขู่ใส่คูกะ
"หลีกทางไป"ไมยะข่มขู่ เเต่คูกะก็ไม่ได้มีท่าทีวิตกกังวลเเต่อย่างใด เขาหยุดการหมุนตัวหมากเล่น จากนั้นก็....
เปะ!(ดีด)
ดีดตัวหมากที่อยูในมือไปยังทิศที่ไมยะยืนอยู่....
ตู้มมมมม!!!!!!!!!!!!..........
เกิดความเสียหายขึ้นเป็นวงกว้างไปไกลหลาย 10 กิโล พื้นที่ในเเทบนั้นถูกทำลายจนกลายเป็นทางยาว อาคารบ้านเรือนเสียหายอย่างหนัก ผู้คนบาดเจ็บหลายร้อยเเละล้มตายไปหลายสิบคน ความตื่นตระหนกกระจายออกไปทั่วทั้งเมืองอย่างรวดเร็ว คูกะมองภาพตรงหน้าด้วยท่าทีเฉยชาไม่เเยเเสต่อผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากเขาเลยเเม้เเต่น้อย
"มนุษย์นี่มันช่าง.....เปราะบางดีเสียจริง"
ตุบ.....
ไมยะที่ไม่ได้โดนการโจมตีนั้นเข้าไปเต็มๆก็เข่าทรุดลงไปกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ดวงตาของเธอสั่นระริกอย่างตื่นตระหนก ร่างกายของเธอสั่นเทาอย่างหวาดผวา ไม่เหลือเรี่ยวแรงหรือความคิดใดๆที่จะทำให้เธอกล้าลุกขึ้นมาได้อีก
'อะไรๆๆๆๆ....เมื่อกี้มันอะไร???'
"นั่นถือเป็นการเตือน.....อย่าได้มายุ่งกับ'สื่อบันเทิง'ของข้าอีกล่ะ"คูกะเดินเข้าไปหาไมยะ จากนั้นก็คุกเข่าให้อยู่ในระดับเดียวกับไมยะในตอนนี้ เขาเอื้อมมือเข้าไปปัดผมที่กระเซาะกระเซิงของไมยะให้กลับเข้าที่ดังเดิม ไมยะเลื่อนสายตาไปจ้องมองดูมือนั้นตาไม่กระพริบ
"ถ้าหากยังไม่ฟังคำเตือนของข้าอีก.......ข้าจะทำลายเมืองนี้ทิ้งไปเสีย เเล้วมาดูสิว่าสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้ามันยังจะเหลืออะไรอีก"
คอมเมนต์เป็นกำลังใจให้กันบ้างสิ~
ความคิดเห็น