ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ปลายทาง
    บางที ถ้าเพื่อคนที่เรารักแล้ว เราอาจยอมทำได้ทุกอย่าง เสียสละได้ทุกสิ่ง ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของเราเอง เพียงเพื่อจะทำให้ใครคนนั้นมีความสุขเท่านั้นเอง
    ประโยคนั้นยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท ติดค้างอยู่ภายในใจ ราวกับไม่อาจจะลบเลือนออกไปจากห้วงความคิดได้แม้แต่วินาทีเดียว โดยเฉพาะในยามที่เขากำลังเงียบงันเช่นนี้
    \"นายทำอะไรอยู่น่ะเจมส์\" คำถามดังออกจากปากผู้มาเยือน ชั้นดาดฟ้าของเครื่องบินขนส่งนั้นเงียบงันจนได้ยินเสียงลมหายใจ เจมส์หันกลับมา เดวิดยืนอยู่ตรงหน้าและส่งรอยยิ้มมาให้
    \"คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ\" เขาตอบ ส่งยิ้มกลับไปให้เดวิด ผู้เดินตรงมาหาและหยุดยืนข้างๆเขา
    \"เอสเตลให้มาตาม บอกว่านายควรกลับเข้าไปข้างในได้แล้ว\"
    \"ฉันหลับไม่ลงน่ะ รู้สึกแปลกๆ\" เดวิดมองหน้าเขาราวกับจะหาคำตอบ ก่อนจะยิ้มน้อยๆ
    \"นายจะกังวลไปทำไมกัน\"
    \"อย่าบอกว่านายไม่คิดว่ามันแปลกๆนะ\" เจมส์พูด จ้องหน้าเดวิดอย่างไม่เชื่อสายตา แต่เดวิดส่ายหน้า
    \"ฉันรู้ว่ามันแปลก แต่การที่วาเนสซ่าคุยกับเอสเตลไม่ใช่เรื่องที่ฉันแปลกใจ เพราะที่ฉันแปลกใจก็คือ ทำไมนายไม่รู้สึกแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่วาเนสซ่าเจอกับเอสเตลลตั้งแต่ตอนแรกแล้วต่างหาก\"
    \"ทำไมหรอ นายรู้สึกอะไร\" เจมส์ถามกลับ จริงอยู่ที่ตอนนั้นเขากำลังตื่นเต้นที่ได้พบญาติ เลยทำให้เขาลืมสังเกตอะไรบางอย่างไป
    \"ไอ้การที่วาเนสซ่าไม่ชอบเอสเตลน่ะ ฉันพอสัมผัสได้ แต่ \" เดวิดทอดเสียง \"ไม่รู้สินะ ฉันรู้สึกว่าเอสเตลต่างหากที่ไม่ชอบวาเนสซ่าน่ะ ไม่รู้นะ มันเหมือนกับมีรังสีอะไรสักอย่างจากตัวเอสเตลที่ทำให้รู้สึกอันตรายน่ะ\"
    เจมส์มองหน้าเดวิดอย่างตื่นตะลึง
    \"บ้าน่า เป็นไปไม่ได้หรอก เอสเตลไม่ได้อันตรายขนาดนั้น\" เขาพูด \"บางที อาจเป็นแวนนี่ก็ได้\"
    \"เจมส์\" เดวิดพูดเสียงเข้ม จ้องหน้าเขา \"บางที แค่เพราะนายรู้สึกดีๆกับเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยังรู้สึกดีๆกับนายหรือคนรอบข้างนะ ตามความคิดของฉันนะ นายกับเอสเตลไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วใช่ไหมล่ะ\" เขาถาม เจมส์พยักหน้า \"นั่นไง การที่นายกับเขาอยู่ด้วยกัน รู้จักกันมาก่อนหน้านี้ เขาอาจจะเป็นเหมือนกับนางฟ้า แต่ใครจะรู้ เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน- - นายลองคิดดูนะ เขาไปอยู่ไกล เปลี่ยนไปขนาดไหนไม่มีใครรู้ พอกลับมาเจอกัน นายคิดหรือว่าเขาจะต้องเหมือนเดิม ถ้าคิดแบบนั้น นายก็โง่มาก อีกอย่าง ขนาดโลกเรามันหมุนไปทุกวันๆอย่างนี้ หมุนไปโลกก็ยังเปลี่ยน อาทิตย์ขึ้น พระจันทร์ตก เช้าร้อน ค่ำเย็นสบาย ตื่น7โมง เช้าวันรุ่งขึ้นอาจกลายเป็น7โมงครึ่งก็ได้ ขนาดนี่เป็นแค่โลกเรา เราอยู่ในโลกทุกวัน มันยังเปลี่ยนได้ แล้วคนที่ไม่ได้อยู่กับเราล่ะ \" เดวิดเว้นเสียง
\"เขาจะเปลี่ยนไปได้ขนาดไหน\" เดวิดพูดในที่สุด เจมส์นิ่งฟัง สมองรับฟังและเริ่มคล้อยตามเมื่อคิดถึงความเป็นจริง แต่ภายในใจ - - ยังคงรั้นที่จะเชื่อในสิ่งที่เขาอยากจะเชื่อ - - เชื่อว่าเธอเป็นเหมือนเดิม
\"นายคิดเอาเองแล้วกันนะ ฉันจะกลับไปนอนแล้ว ส่วนนาย ก็แล้วแต่ละกัน ฉันถือว่าฉันมาบอกนายตามที่เอสเตลขอแล้ว ขอตัวก่อนนะ\" เดวิดพูดจบแล้วก็เดินออกไป
ปล่อยให้เจมส์ยืนนิ่ง และเงียบงันอยู่เช่นนั้น
*************************************************************************************************
เวลา 07.30 น.
\"อรุณสวัสดิ์ทุกคน\" วิกเตอร์ส่งเสียงเรียกมาก่อนเป็นการทักทาย ตามมาติดๆด้วยเสียงที่ฟังแล้วเปรี้ยวขาดใจของวาเนสซ่าที่ตรงเข้ามาหาเอสเตลกับเคทในทันที วิกเตอร์นั้นมองแล้วทำตาปริบๆ เดวิดนั้นมองวาเนสซ่ากับเอสเตลอย่างพินิจพิเคราะห์ ส่วนเจมส์นั้นไม่มองหน้าใคร ทั้งยังหลบตาเอสเตลอย่างผิดปกติ ทั้งหมดนี้ ไม่รอดสายตาของใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกลไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มสวยๆผุดขึ้นมาประดับริมฝีปากงามๆนั้น ก่อนที่คนคนนั้นจะลุกขึ้นจากที่นั่ง และเดินตรงไปยังห้องอาหาร
คณะของเจมส์ออกเดินไปยังห้องอาหาร โดยมีเอสเตลกับวาเนสซ่าเดินคู่กันด้านหน้า วิกเตอร์กับเคทเดินคุยกันไปอย่างถูกคอ  รั้งท้ายด้วยเดวิดกับเจมส์
\"เป็นอะไรรึเปล่าเจมส์\" คำถามดังขึ้นลอยๆจากปากของเดวิด เจมส์ส่ายหน้า
\"ไม่หรอก แค่กำลังคิดอะไรอยู่น่ะ\" เจมส์ตอบ เดวิดพยักหน้าอย่างรับรู้ แล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกจนกระทั่งถึงห้องอาหารที่พวกเอสเตลพากันนั่งลงแล้ว
\"นายอย่าคิดมากเลยนะ เก็บอาการไว้หน่อยจะดีกว่า อย่าพยายามทำตัวมีพิรุธ  เดี๋ยวจะผิดสังเกต พาลให้เจ้าตัวเค้าสงสัยเอาเปล่าๆ\" เดวิดกระซิบขึ้นเบาๆ เจมส์จึงละทิ้งความคิดที่วกวนอยู่ในใจไปก่อน แล้วหันมาสนใจคนรอบตัว
ทั้งคู่เดินไปนั่งสมทบกับคนอื่นๆ ภายหลังสั่งอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งโต๊ะก็เริ่มพูดคุยกันอีก แต่- - ทั้งที่พยายามลืมสิ่งที่รบกวนจิตใจอยู่ภายในแล้ว เจมส์ก็ยังอดคิดไปถึงมันอีกไม่ได้ จากตอนแรกที่มีใครถามก็ตอบไปแบบงั้นๆ จนในที่สุดก็กลายเป็นว่าเขาไม่ได้ตอบอะไรใครจนกลายเป็นว่าเขาเงียบที่สุดในโต๊ะ และยังมีท่าทางเหม่อๆด้วย แน่นอนว่าภาพทั้งหมดนี้ ก็ไม่ได้พ้นสายตาของคนที่ลอบสังเกตพวกเขาอยู่ไม่ไกลแม้แต่น้อย เจมส์นั้นเริ่มรู้สึกแปลกกับการที่ตัวเขาเองมานั่งคิดกังวลถึงคำพูดของเดวิดเมื่อคืนนี้ แม้จะเพิ่งร็จักกันได้ไม่นาน แต่เขาก็ได้เห็นความสามารถที่ไม่เหมือนใครของเดวิด  รัชเชอร์ เพื่อนใหม่จากประเทศมีคาเอลคนนี้ เขามั่นใจว่าเดวิดยังมีอะไรที่ซ่อนอยู่อีกแน่ๆ แต่ในขณะที่กำลังคิดนั่นเอง สายตาของเขาก็เผลอไปสบกับใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกล - -
คนที่เจมส์มองเห็นนั้นเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ สวยกว่าที่คนทั่วไปเขาจะสวยกัน และเธอก็ไม่ใช่คนที่ดูเหมือนคนประเภทที่ต้องไปทำศัลยกรรมเพื่อความงามเลยสักนิด ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็ต้องขอบอกว่าเธอเป็นเหมือนนางฟ้า หรือ เทพอะไรสักอย่างแน่ๆ เพราะนอกจากใบหน้าที่สวยเกินหน้าคนธรรมดานั่นแล้ว เขายังสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่เป็นเหมือนรัศมีที่เปล่งประกายออกมาจากเธอผู้นั้นอันบ่งบอกถึงความสูงศักดิ์ของเธอ แม้ว่าจะไม่มีมงกุฎแวววาวอยู่บนศีรษะของเธอก็ตาม
ชายร่างสูงคนหนึ่งเดินตรงไปหาเธอในขณะที่เจมส์จ้องมองอยู่ ดูเหมือนทั้งคู่จะพูดอะไรกันอยู่ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็ลุกขึ้น จัดกระโปรงให้เรียบร้อย แล้วออกเดินตามชายคนนั้นไป
เธอหันหน้ามาหาเจมส์นิดนึง และาสายตาของเขาไม่ได้เบลอ เขาคิดว่า เธอ- - ส่งยิ้มมาให้เขา - - ก่อนจะเดินจากไป
ทิ้งให้เจมส์ตกอยู่ในภวังค์
************************************************************************************************
ควันไอพ่นที่พุ่งออกมาจากเครื่องบินขนส่งค่อยๆจางหายไปพร้อมกับสายลมที่พัดมาให้รู้สึกเย็นสบาย ท่ามกลางแสงแดดเจิดจ้าของเดือนเมษายน
เจมส์ เดวิด วิกเตอร์ เอสเตล วาเนสซ่า และเคท ทยอยกันเดินลงมาจากเครื่องบิน เจมส์มองไปรอบๆ สายตาพานพบกับคลื่นมนุษย์ที่เดินตรงเข้าสู่อาคารสีขาวเบื้องหน้า จะว่าเป็นอาคารสีขาวก็คงไม่ถูกต้องนักหรอก เพราะเท่าที่สายตาของเจมส์บอกได้ อาคารตรงหน้าดูเหมือนจะทำจากกระจกมากกว่า เพราะไม่ว่าจะมองไปทางมุมไหนก็มีแต่กระจกทั้งสิ้น
\"หรูดีเนอะ\" เสียงหวานๆของเคทดังขึ้นเมื่อพวกเขาเดินตรงไปสู่อาคารเบื้องหน้าพร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่นๆ
\"อื้อ สวยจริงๆ ทั้งสวยทั้งหรู ยั้งงี้ค่อยเข้ากับฉันหน่อย\" วาเนสซ่าพูด หน้าบาน \"แต่แดดมันร้อนไปนิด ถ้าร้อนแบบนี้ทุกวันมีหวังหน้าดำตายเลย\"
\"ตกลงมาเรียนหรือมาเดินแบบล่ะจ้ะ แวนนี่น้องรัก\" วิกเตอร์ถาม กระเซ้าน้องสาวตัวเองเล่นแก้เซ็ง
\"บ้าน่า วิก พี่ก็พูดอะไรเรื่อยเปื่อยจริงๆนะ\" วาเนสซ่าแหวใส่พี่ชาย ก่อนจะกอดแขนเขาเอาไว้อย่างประจบ \"ว่าแต่ ถ้าพี่ไม่ดูแลฉันให้ดีๆล่ะก็ ฉันจะฟ้องพ่อแน่\" พูดจบเธอก็เดินออกไป และวิ่งไปเกาะแขนเจมส์แทน สร้างความเขินให้เจมส์ขึ้นมาแบบสุดๆ แม้จะเคยโดน \'เล่น\' แบบนี้มาก่อนก็ตาม และแน่นอนว่าภาพนี้ สร้างความรู้สึกต่างๆกันให้กับผู้ที่ได้พบเห็น สาวๆที่เดินอยู่แถวนั้นต่างเกิดความรู้สึก \'หมั่นไส้\' วาเนสซ่ากันเป็นแถว ส่วนพวกผู้ชายต่างก็อิจฉาเจมส์แบบสุดๆที่มีสาวสวยมาเกาะแขน เดินควง ไอ้ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เจมส์วางหน้าไม่ถูก ส่วนเพื่อนๆที่เดินตามมาก็รู้สึกปวดหัวกับพฤติกรรมของแม่สาวสุดแสบตรงหน้า แม้ว่าไม่มีใคร - - นอกจากเจมส์กับวิกเตอร์ - - จะรู้ว่าวาเนสซ่าร้ายได้ขนาดไหน
พวกเขาเคลื่อนตัวไปตามฝูงชนจนถึงอาคารสีขาวที่ตั้งตระหง่านเบื้องหน้าที่ดูราวกับเป็นอาคารผู้โดยสารเหมือนที่มีในสนามบินแห่งอื่นๆบัดนี้ เจมส์สามารถบอกได้คร่าวๆว่ามันเป็นตึกสูงประมาณ3ชั้น หากแต่เป็นสามชั้นที่ใหญ่โตมโหฬารสุดๆ เพราะเท่าที่ดู มันจุคนได้ถึงห้าแสนคน แล้วนี่แค่เฉพาะชั้นล่างเท่านั้นนะ - - ไม่ต้องพูดถึงอีกสองชั้นที่เหลือด้วยซ้ำ แล้วเจมส์ก็มองเห็นประตูที่ติดตั้งอยู่รายล้อม มันเป็นประตูกระจกลายน้ำที่มีกรอบอยู่เป็นรูปสี่เหลี่ยม ตอนแรกเจมส์พยายามหาที่จับประตู แต่ที่เขามองเห็นกลับเป็นบานประตูเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อหันไปมองข้างๆ เห็นคนอื่นเดินทะลุเข้าไปเลย เขาเลยทำตาม จึงได้พบว่ามันเป็นประตูสแกน ที่พอเดินเข้ามาปุ๊บ มันก็จัดการประกาศชื่อผู้ที่เพิ่งเดินเข้ามาทันที
\"ยินดีต้อนรับ มิสเตอร์ เจมส์ เอ็ดเวิร์ด\"
เจมส์เดินเข้าไปข้างในพร้อมกับวาเนสซ่าที่ยังเกาะติดเขาแจพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ ภายในตัวอาคารนั้นเย็นสบายและสว่างสดใส  ตกแต่งด้วยกระจกทำให้ดูกว้างขึ้นอีก มีเก้าอี้วางอยู่เป็นชุดๆทำด้วยคริสตัล เจมส์มองไปรอบๆด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ ไม่ต่างกับผู้ร่วมเดินทางคนอื่นๆ และแล้ว เมื่อทุกคนเข้ามากันครบแล้ว ก็เกิดแสงสีทองสว่างวาบขึ้นจากประตูทุกบาน
\"นักเรียนครบจำนวน\"
ทันทีที่เสียงที่ว่านั้นดังขึ้น โพเดียมสีดำขลิบขาวทำจากหินอ่อน สลักตัวอักษร IIA ไขว้กัน ด้านบนเป็นรูปมงกุฎสีทองที่มีรัศมีรุ่งโรจน์ ก็ปรากฏขึ้นตรงใจกลางพื้น พร้อมกับผู้หญิงในชุดสูทสีดำคนหนึ่งที่ขึ้นมาพร้อมกันกับโพเดียมนั้น
เธอคนนั้นมีผมสีทองที่เกล้าขึ้นเป็นมวยเรียบร้อย หน้าตาจัดว่าสวยมาก แต่อะไรบางอย่างทำให้รู้สึกว่าเธอเป็นคนที่ดูดุมาก เพราะเพียงแค่เธอขึ้นมาเท่านั้น ทั่วทั้งอาคารก็ดูเหมือนจะเงียบงันกันไปหมด
\"สวัสดีทุกๆคน\" เสียงของเธอดูเย็นชา ราวกับมีน้ำแข็งพ่นออกมาจากคำพูดของเธอ \"ยินดีต้อนรับเข้าสู่โรงเรียนใหม่ของพวกเธอ ฉันชื่อ เนฟ เทอร์เนอร์ เป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง ฉันได้รับประวัติและข้อมูลทุกรูปแบบเกี่ยวกับตัวพวกเธอแล้ว และขอให้มั่นใจว่าฉันจำพวกเธอได้เป็นรายบุคคลเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ฉันหวังว่าคงไม่ต้องเจอกับเธอที่แผนกปกครอง\" เนฟ เทอร์เนอร์ประกาศ สายตาของเธอที่มองมาบอกให้รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง
\"เอาล่ะ เราเข้าใจกันแล้วใช่ไหม นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป พวกเธอถือเป็นบุคลากรของที่นี่ และทุกสิ่งที่เธอทำ จะเป็นตัวประเมินผล สำหรับคนที่สงสัยว่าประเมินผลเรื่องอะไร เธอก็คงต้องรอไปก่อน เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของฉันที่จะแจ้งกับพวกเธอ หน้าที่ที่ฉันได้รับมาก็คือ ให้มาดูแลความเรียบร้อยให้พวกเธอ แต่คนที่มีเรื่องที่จะต้องพูดกับพวกเธอโดยตรงคือรองผู้อำนวยการ และเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมที่พวกเธอทุกคนจะต้องเข้าร่วม และฉันขอแนะนำให้พวกเธอรู้จักกับท่านรองผอ. เมลานี มาร์โก\"
สิ้นเสียงของอาจารย์ฝ่ายปกครอง กลุ่มคนที่ด้านหนึ่งของห้องนั้นก็แหวกทางออก หญิงสาวผมทองหน้าตาอ่อนโยนเดินตรงมาที่โพเดียม ขณะที่เทอร์เนอร์เดินลงมาจากโพเดียม
\"สวัสดีจ้ะ ทุกๆคน\" เสียงของ เมลานี มาร์โกดังขึ้น เสียงซุบซิบต่างๆก็เงียบลง เมลานีมีท่าทีพอใจที่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในระเบียบ รอยยิ้มของเธอจึงปรากฏขึ้น
\"ยินดีต้อนรับเข้าสู่ International Inclusive Academy จ้ะ ฉัน เมลานี มาร์โก รองผู้อำนวยการของสถาบันนี้ ยินดีต้อนรับพวกเธอทุกๆคน และฉันหวังว่าพวกเธอจะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขเหมือนอยู่บ้านของตัวเอง เพราะฉะนั้น ขอให้เธอคิดซะว่าเราเป็นพี่น้องกัน เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ตามชื่อของที่นี่เลยก็ได้จ้ะ\" เมลานีพูด ขณะที่ผู้มาใหม่ทุกคนรู้สึกดีขึ้น
\"IIA ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับพวกเธอทุกคน ไม่ว่าเธอจะมาจากส่วนไหนของโลก แต่ ณ เวลานี้ พวกเราได้มายืนอยู่ร่วมกันที่นี่ นับเป็นเรื่องดีอย่างที่สุด และตอนนี้ ฉันก็แน่ใจว่าพวกเธอคงจะอยากไปพักผ่อน ไปสำรวจสถานที่ ไปพบเพื่อนใหม่ๆกันแล้ว เพราะฉะนั้น ฉันขอเวลาห้านาทีในการอธิบายสิ่งที่เธอควรจะรู้ แล้วจากนั้น เธอก็จะได้ออกไปจากอาคารหลังนี้ เพื่อไปพบสิ่งที่ตื่นเต้นกว่าข้างนอก
IIA เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในสถานที่ลับ แต่อย่าคิดว่าฉันจะใจร้ายจนไม่บอกพวกเธอว่าเราอยู่ที่ไหนในโลก พวกเรากำลังยืนอยู่บนเอฟเว่น ไอส์แลนด์ หรือเกาะสนธยา อยู่ทางเหนือของประเทศมีคาเอล สำคัญกว่านั้นคือ เกาะนี้เป็นเกาะปิด ไม่มีนักท่องเที่ยว ไม่มีสื่อมวลชน แต่มีทุกสิ่งๆที่จะทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดเท่าที่โลกนี้จะมีได้ ฉันต้องบอกเธอว่าไม่มีใครสามารถมาที่นี่ได้ถ้าไม่ไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ เพราะฉะนั้น ฉันจึงต้องบอกเธอว่าแม้เธอจะติดต่อทางบ้านได้ แต่ผู้ปกครองก็จะไม่เดินทางมาที่นี่เด็ดขาด เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างสถาบันกับทุกประเทศทั่วโลก และแน่นอน - - รวมผู้ปกครองของพวกเธอด้วย\" เมลานีพูด
\"เอาล่ะ ฉันคงต้องอธิบายเกี่ยวกับสถานที่สำคัญในโรงเรียนให้พวกเธอฟัง เหตุผลก็เพราะว่าฉันไม่อยากเห็นพวกเธอหลงทาง แม้มันอาจจะเป็นเรื่องสนุกก็ตาม\" เธอพูด ส่งยิ้มไปรอบห้อง \"เอฟเว่น ไอส์แลนด์ เป็นเกาะขนาดใหญ่ ที่ประกอบด้วยเกาะเล็กๆอีกห้าเกาะ และแต่ละเกาะก็มีความสำคัญกับพวกเธอ เกาะแรก คือที่นี้ พอร์ท ไอส์แลนด์ เป็นศูนย์รวมของการเดินทางทุกชนิด เป็นต้นทางน่ะ เข้าใจไหมทั้งเดินทางระหว่างที่ตั้งอื่นๆและการเดินทางกลับไปประเทศของพวกเธอจะเริ่มต้นที่นี่ทั้งสิ้น
เกาะที่สอง อันนี้สำคัญมากนะ เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของที่นี่เลย คือ อคาเดมี ไอส์แลนด์ เป็นเกาะที่พวกเธอจะต้องเดินทางไปเกือบทุกวัน เพราะมันคือที่ตั้งใหญ่ของสถาบันเรา และพวกเธอก็ต้องไปเรียนที่นั่นด้วย
เกาะที่สาม ใหญ่เป็นอันดับสองของที่นี่ คือ เรสซิเด้นท์ ไอส์แลนด์ เป็นเกาะที่พวกเธอใช้เป็นที่อยู่ ที่นั่นนอกจากจะเป็นที่พักของเธอแล้ว ยังมีโบสถ์เล็ก ห้องสมุดส่วนกลาง ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ สวนสนุกและเรสซิเด้นท์คลับซึ่งเป็นโซนกีฬาที่มีให้เธอเล่นทุกชนิด กับโซนอีกโซนหนึ่งที่พวกเธอจะชอบ คือ รีแล็กซ์ โซน อันเป็นโซนที่เต็มไปด้วยเกมทุกชนิด ซึ่งฉันคงไม่ต้องบอกเธอหรอกนะว่าเธอจะเข้าไปเล่นที่นั่นได้ในวันหยุดของเธอเท่านั้น และอย่าคิดโดดเรียนเป็นอันขาด ถ้าเธอยังไม่อยากไปเจอกับคุณเนฟที่ฝ่ายปกครอง
เกาะที่สี่ เป็นเกาะที่พักของอาจารย์ทุกคน แผนกทุกแผนกของทุกสาขาวิชาจะอยู่ที่นั่น และแน่นอน - - ฝ่ายปกครองด้วย ตัวฉันเองก็พักอยู่นั่นด้วย เราเรียกที่นั่นว่า การ์เดียน ไอส์แลนด์
และเกาะที่ห้า คือโฮลี่ ไอส์แลนด์ ที่นั่นถือเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ เป็นเขตหวงห้าม ห้ามไม่ให้ใครเข้าไปเด็ดขาดโดยไม่ได้รับอนุญาต
เอาล่ะ ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม แล้วสิ่งหนึ่งที่พวกเธอจะต้องได้รับก็จะปรากฏขึ้น เอาล่ะนะ 1.....2.....3\" สิ้นเสียง ซองสีดำ ขนาดเท่ากระดาษA4ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า เจมส์เปิดมันออกอย่างสนใจ และสิ่งที่ได้พบข้างในก็คือ - -
\"ในซองนี้เป็นข้อมูลต่างๆตามที่ฉันได้แจ้งไปแล้วและยังไม่ได้แจ้ง นอกจากนี้ยังมีการ์ดประจำตัวนักเรียน เข็มกลัดที่เธอจะต้องกลัดเอาไว้ที่หน้าอกเสื้อด้านขวา หนังสือคู่มือนักเรียน ใบแจ้งกำหนดการของสัปดาห์นี้เพื่อที่เธอจะได้ไม่หลงวัน ใบแจ้งอุปกรณ์การศึกษาที่พวกเธอจะต้องใช้ ซึ่งเธอจะหาซื้อได้ทางอินเตอร์เน็ตหรือที่ห้างสรรพสินค้า ใบกรอกวิชาเรียน ซึ่งเธอจะต้องส่งภายในวันมะรืนนี้ที่นี่ ฉันต้องบอกเธอว่าอุปกรณ์บางอย่างของบางวิชาเธอจะต้องหาซื้อหลังจากตารางสอนออกมาแล้ว เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าเธอลงเรียนวิชาอะไรบ้าง วิธีลงทะเบียนเรียนแจ้งให้เธออยู่แล้วในนั้น และที่สำคัญคือ ข้อมูลที่พัก ขาดข้อมูลนี้เธอจะหาที่พักของพวกเธอไม่ถูกแน่ และสุดท้าย คือสร้อยคอ
สร้อยคอของพวกเธอสามารถปรับความสั้นยาวได้ตามต้องการ ประโยชน์ของมันคือเอาไว้เช็คชื่อเข้าชั้นเรียน รายละเอียดมีอยู่ในหนังสือคู่มือนักเรียน ฉันยังต้องบอกพวกเธอว่าที่นี่มีชุดยูนิฟอร์ม ซึ่งเธอจะต้องใส่สัปดาห์ละสี่วัน กับวันที่มีการประชุม วันเรียนวันเดียวที่อนุญาตให้ใส่ชุดไปรเวทได้คือวันศุกร์ และหวังว่าพวกเธอคงจะรู้ว่าควรแต่งตัวยังไงจึงจะเรียบร้อย\" เมลานีพูด แล้วเธอก็ปรบมือสองครั้ง เก้าอี้คริสตัลโผล่ขึ้นมาจากพื้นทำเอาหลายคนตกใจ เจมส์มองพวกมันแล้วหันไปมองเมลานี มาร์โก ผู้กำลังยิ้ม
\"พวกเธอคงอยากจะรู้วิธีเดินทางไปที่พัก นั่งอ่านจากหนังสือคู่มือนักเรียนก่อนก็ได้จ้ะ ขณะนี้ - - เก้านาฬิกา สามสิบนาที อีกสิบห้านาทีหลังจากนี้ - - ระบบขนส่งระหว่างเกาะจะพร้อม ขอให้ทุกคนโชคดี\" เธอพูด ยิ้มให้ทุกคนอีกครั้ง \"และก็ ขอพูดอีกครั้ง ยินดีต้อนรับเข้าสู่ IIA จ้ะ\"
*********************************************************************************************
09.45 น.
\"ระบบขนส่งระหว่างเกาะ เตรียมพร้อมดำเนินการใน 5...4...3...2...1 ขณะนี้ ระบบขนส่งทุกรูปแบบพร้อมใช้บริการ ผู้จะเดินทางไปสู่เรสซิเด้นท์ ไอส์แลนด์ทางเรือรับส่ง กรุณาเดินออกทาง เกท 2,6,และ8 ทางการวาร์ป กรุณาขึ้นไปที่ชั้น2 จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ที่โซนA และโซนC  ต้องการเดินทางด้วยทางเลื่อนใต้ทะเลกรุณาไปที่เกท 1,3และ4 หากต้องการเดินทางด้วยรถไฟลอยฟ้า กรุณาขึ้นไปที่ชั้น2 สถานีรถไฟลอยฟ้าจะอยู่ที่โซนB ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเดินทางค่ะ\" เสียงประกาศที่ดังขึ้นทำให้คลื่นมหาชนที่นั่งกันอยู่ในห้องโถงออกเดินไปยังสถานที่ตามที่ประกาศไว้ เจมส์หันไปมองหน้าเพื่อนๆที่เหลือ ก่อนจะเริ่มต้นปรึกษากัน
\"จะไปทางไหนดีคะ\" เอสเตลล์ถามเจมส์ผู้ตั้งใจฟังประกาศกว่าใครในกลุ่ม แต่สำหรับเจมส์ ไม่ว่าทางไหนก็น่าลองทั้งนั้น
\"ฉันว่า เราน่าจะไปทางเลื่อนใต้ทะเลนะ ฉันอยากเห็นพวกปะการังน่ะ\" วาเนสซ่าพูดขณะมองไปรอบๆ
\"รถไฟลอยฟ้าก็เข้าท่านะ\" เคทพูดบ้าง แต่วิกเตอร์ส่ายหัวทันทีด้วยสีหน้าบอกว่าไม่เอาด้วยแน่นอน
\"ทำไมล่ะ\" เคทถามเมื่อเห็นหน้าวิกเตอร์
\"ฉันไม่ชอบความสูง\"
\"แต่เรานั่งเครื่องบินมานะ\"
\"แต่บนเครื่องบินเราไม่ต้องนั่งติดกระจกตลอดเวลานี่\"
เคทส่ายหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ เดวิดก็เลยขัดขึ้นมา
\"วาร์ปล่ะเป็นไง\"
\"เอางี้ดีกว่า ฉันว่าเราแยกกันไปดีกว่า จะได้ไม่ต้องมาขัดใจกัน แล้วไปถึงที่นั่นแล้วเข้าโทรหากันอีกที โอเคมั้ย\"เจมส์พูด
\"ไม่งั้นก็เคทพยักหน้าอย่างเห็นด้วย วิกเตอร์ก็พยักหน้า ส่วนคนอื่นๆมีท่าทียอมรับกับข้อเสนอนี้
\"ใครจะไปกับฉันบ้าง ฉันจะไปทางเลื่อนใต้ทะเล\" วาเนสซ่าพูดด้วยท่าทางเริงร่า วิกเตอร์หันไปหาเธอแต่ส่ายหน้า
\"ไม่ล่ะ ฉันว่าจะวาร์ปไป คงจะเร็วกว่ากันเยอะ\" วิกเตอร์พูด
\"ฉันว่าจะไปทางเรือนะ ไปด้วยกันมั้ย เอสเตล\" เคทชวน เอสเตลพยักหน้าอย่างว่าง่าย เคทจึงหันมาหาเจมส์กับเดวิด
\"จะไปด้วยกันไหม\"
เจมส์ส่ายหน้าทันที เดวิดก็ด้วย เคทเลยพยักหน้าแล้วยิ้ม ก่อนจะเดินจากไปพร้อมเอสเตล เจมส์กับเดวิดจึงมองหน้ากัน
\"นายจะไปทางไหนล่ะ\" เจมส์ถาม เดวิดตอบทันที
\"รถไฟลอยฟ้า\"
\"ดี งั้นฉันไปกับนายด้วย\"
ทั้งคู่จึงเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง โซนB ด้วยกันเงียบๆ
รถไฟลอยฟ้าก็ไม่เชิงเป็นรถไฟนักในสายตาของเจมส์ แต่มันควรจะเรียกว่ากระเช้าลอยฟ้ามากกว่า ด้วยลักษณะของพาหนะทรงกลมที่ทำจากไฟเบอร์กลาสและกระจก มันมีหลายขนาด โดยแบบที่ใหญ่ที่สุดเท่าทีเจมส์เห็นคือห้องโดยสารขนาดสิบคนนั่ง สามารถชมวิวได้360องศา แต่การจะใช้บริการมันได้นั้น ต้องอาศัยสร้อยคอที่มีการ์ดชื่อที่ได้รับแจก มันเป็นสร้อยคอที่มีลักษณะเหมือนสร้อยคอแบบที่พวกทหารชอบใส่กัน สลักชื่อพวกเขาและมีรอยปรุๆเหมือนช่องรหัสอยู่ เจมส์สวมมันไว้ทันทีในขณะที่เดวิดพันมันไว้ที่ข้อมือ
หลังจากใช้การ์ดชื่อที่ห้อยอยู่กับสร้อยรูดเครื่องลงชื่อใช้บริการแล้ว เจมส์กับเดวิดก็ได้ห้องโดยสารขนาดสองคนนั่งมาหนึ่งห้อง ภายในห้องมีเครื่องมือติดต่อสื่อสารไปถึงห้องโดยสารของคนอื่นๆด้วย มันเป็นแผงหน้าจอที่มีปุ่มทั้งหมดสี่ปุ่มด้วยกัน ปุ่มแรกเป็นปุ่มสีขาว ซึ่งใช้เป็นปุ่มแสดงรายละเอียดที่ต้องการทราบของที่นี่โดยกรอกคำค้นหาลงไปก็เรียบร้อย ปุ่มที่อยู่รองลงมาเป็นปุ่มสีเขียว เจ้าปุ่มนี้จะแสดงรายชื่อผู้โดยสารของแต่ละห้องขึ้นมา และสามารถกดเลือกที่ห้องที่เราต้องการได้เพื่อจะได้คุยกับเพื่อนในกรณีที่ต้องแยกกันนั่ง ปุ่มที่สามเป็นสีฟ้าเจ้าปุ่มนี้สามารถปรับอากาศภายในห้องโดยสารได้ และรายละเอียดจากปุ่มสีขาวบอกให้เขารู้ว่าเมื่อใช้บริการรถไฟลอยฟ้านี่แล้ว ก่อนจะออกจากห้องโดยสารต้องกดปุ่มสีฟ้าเสมอ เพื่อให้มันทำความสะอาดตัวเอง ปุ่มสุดท้ายเป็นสีแดง ปุ่มนี้สามารถนำผ้าม่านขึ้นมาติดในห้องโดยสารได้ ไปจนถึงสามารถเปลี่ยนห้องโดยสารให้กลายเป็ฯลักษณะทึบเพื่อกันแดดและไม่ให้ใครเห็นได้ด้วย เจมส์อดคิดไม่ได้ว่าที่นี่มันช่างหรูหราเกินกว่าโรงเรียนทั่วไป - - ก็แน่ละ โรงเรียนไหนเขาจะมีเกาะแบบนี้
เจมส์อ่านข้อมูลเกี่ยวกับที่พักในใบแจ้งข้อมูลที่พักขณะที่เดวิดนั่งดูวิวรอบๆ เจมส์อ่านข้อมูลที่พักแล้วก็อึ้งไปเลยเพราะเจอกับความแตกต่างอย่างคาดไม่ถึง(อีกแล้ว)ของสถานที่แห่งนี้
ที่พักของอินเตอร์เนชั่นแนล อินคลูซีฟ อคาเดมี่ เป็นบ้านหรือที่เรียกว่าคฤหาสน์จะเหมาะกว่า ตามที่เจมส์เห็นในรูป แต่ที่นี่เรียกมันว่าหอพัก มันมีอยู่ทั้งหมดกว่าร้อยหลัง และแต่ละหลัง - - จะอยู่กันไม่ถึงยี่สิบคน แต่ละหลังจะถือเป็นครอบครัวเดียวกันและแต่ละหลังก็มีชื่อเรียกเป็นของตัวเอง ภายในหอพักมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และเท่าที่เจมส์อ่านเจอในรายละเอียด - - ทุกหลังมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน
เจมส์อ่านรายละเอียดแล้วพบกับชื่อของเขาเองกับรายชื่อของคนอื่นๆอีกราวๆสิบห้าคนในหอพักที่ชื่อ    ดาร์วิเนียน เจมส์อ่านเจอรายชื่อของเดวิด และเคทอยู่ในบ้านหลังเดียวกันด้วย
การเดินทางไปบ้านพักผ่านรถไฟ(กระเช้า)ลอยฟ้าใช้เวลาไม่ถึงสามสิบนาที เมื่อพวกเขาไปถึงเรสซิเด้นท์ ไอส์แลนด์ เจมส์ไม่ลืมที่จะกดปุ่มสีฟ้าเพื่อให้มันทำความสะอาดตัวเอง เขาคุยเล่นกับเดวิดในเรื่องไม่เป็นเรื่องเพื่อปัดความกังวลออกไปจากใจ ณ จุดที่พวกเขาลงมาจากรถไฟลอยฟ้าที่เกาะที่พักนั้นเป็นหอสูงขนาดใหญ่ที่มีเครื่องวาร์ปสำหรับลงไปที่พื้นในกรณีที่ไม่อยากเดินลงไป เจมส์กับเดวิดเลือกที่จะวาร์ปลงไปแม้ยังอยากจะอยู่ต่อสักครู่เพื่อชมวิว เครื่องวาร์ปที่นี่ตั้งเรียงกันเป็นช่อง ทุกครั้งที่มีการใช้เครื่องนี้ เครื่องก็จะเรืองแสงสีฟ้าออกมา วิธีใช้ก็แสนจะง่าย(ตามความคิดของเจมส์กับเดวิด) ก็คือ เมื่อก้าวเข้าไปแล้ว ให้นึกถึงสถานที่ที่ต้องการจะไป ถ้าที่นั่นมีเครื่องวาร์ปอยู่ก็จะสามารถไปปรากฏตัวที่นั่นได้ทันที
เมื่อลงไปถึงข้างล่างแล้ว เจมส์ก็ได้เจอกับเคท เอสเตล วิกเตอร์ และวาเนสซ่า และทั้งหมดก็เตรียมตัวจะแยกย้าย วาเนสซ่ากับวิกเตอร์พักอยู่ที่หอพักชื่อ มอร์กานอฟ เอสเตลพักอยู่ที่หอพักชื่อ อาร์วีเฟรลล์ ทั้งหมดจึงตัดสินใจที่จะแยกกันไปก่อนที่จะออกมาเจอกันอีกครั้งตอนเย็น
เรสซิเด้นท์ ไอส์แลนด์มีลักษณะเหมือนเมืองใหญ่ๆทั่วไป คือเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย วิธีเดินทางไปสถานที่ต่างๆของเกาะนี้ก็มีตั้งแต่ การวาร์ป การนั่งรถรับส่งที่มีอยู่ทั่ว และการเดินไป เจมส์ เดวิด และเคทเลือกที่จะเดินไปเพื่อสังเกตทิศทาง โชคดีที่หอพักของพวกเขาอยู่ไม่ไกล เดินจากสถานีเดินทางเพียงไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง ความที่เกาะนี้เป็นเหมือนเมืองๆหนึ่ง ก็เลยมีป้ายโฆษณาด้วย ป้ายหนึ่งที่พวกเขาเดินผ่านบอกให้รู้ว่า นักเรียนจะสามารถซื้อพาหนะของตัวเองสำหรับเดินทางระหว่างเกาะและภายในเกาะได้ในสัปดาห์หน้า ส่วนอีกอันหนึ่งบอกว่า เกมสามมิติที่เป็นที่นิยมของคนทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ \"ทรีไอคอนส์ แบทเทิล\" เปิดให้เล่นแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แน่นอนว่าพวกเขามองมันด้วยความสนใจ เจมส์เคยเล่นเกมส์นี้เมื่อตอนอยู่ที่บ้าน และนึกอยากจะเล่นอีกครั้งอยู่เหมือนกัน
แต่ในขณะที่จ้องมองสองข้างทางของถนนในเกาะ โดยไม่รู้ตัว เมื่อเจมส์ละความสนใจจากสิ่งรอบข้าง เขาก็พบว่า- - หอพักดาร์วิเนียนอยู่ตรงหน้าแล้ว
    ประโยคนั้นยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท ติดค้างอยู่ภายในใจ ราวกับไม่อาจจะลบเลือนออกไปจากห้วงความคิดได้แม้แต่วินาทีเดียว โดยเฉพาะในยามที่เขากำลังเงียบงันเช่นนี้
    \"นายทำอะไรอยู่น่ะเจมส์\" คำถามดังออกจากปากผู้มาเยือน ชั้นดาดฟ้าของเครื่องบินขนส่งนั้นเงียบงันจนได้ยินเสียงลมหายใจ เจมส์หันกลับมา เดวิดยืนอยู่ตรงหน้าและส่งรอยยิ้มมาให้
    \"คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ\" เขาตอบ ส่งยิ้มกลับไปให้เดวิด ผู้เดินตรงมาหาและหยุดยืนข้างๆเขา
    \"เอสเตลให้มาตาม บอกว่านายควรกลับเข้าไปข้างในได้แล้ว\"
    \"ฉันหลับไม่ลงน่ะ รู้สึกแปลกๆ\" เดวิดมองหน้าเขาราวกับจะหาคำตอบ ก่อนจะยิ้มน้อยๆ
    \"นายจะกังวลไปทำไมกัน\"
    \"อย่าบอกว่านายไม่คิดว่ามันแปลกๆนะ\" เจมส์พูด จ้องหน้าเดวิดอย่างไม่เชื่อสายตา แต่เดวิดส่ายหน้า
    \"ฉันรู้ว่ามันแปลก แต่การที่วาเนสซ่าคุยกับเอสเตลไม่ใช่เรื่องที่ฉันแปลกใจ เพราะที่ฉันแปลกใจก็คือ ทำไมนายไม่รู้สึกแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่วาเนสซ่าเจอกับเอสเตลลตั้งแต่ตอนแรกแล้วต่างหาก\"
    \"ทำไมหรอ นายรู้สึกอะไร\" เจมส์ถามกลับ จริงอยู่ที่ตอนนั้นเขากำลังตื่นเต้นที่ได้พบญาติ เลยทำให้เขาลืมสังเกตอะไรบางอย่างไป
    \"ไอ้การที่วาเนสซ่าไม่ชอบเอสเตลน่ะ ฉันพอสัมผัสได้ แต่ \" เดวิดทอดเสียง \"ไม่รู้สินะ ฉันรู้สึกว่าเอสเตลต่างหากที่ไม่ชอบวาเนสซ่าน่ะ ไม่รู้นะ มันเหมือนกับมีรังสีอะไรสักอย่างจากตัวเอสเตลที่ทำให้รู้สึกอันตรายน่ะ\"
    เจมส์มองหน้าเดวิดอย่างตื่นตะลึง
    \"บ้าน่า เป็นไปไม่ได้หรอก เอสเตลไม่ได้อันตรายขนาดนั้น\" เขาพูด \"บางที อาจเป็นแวนนี่ก็ได้\"
    \"เจมส์\" เดวิดพูดเสียงเข้ม จ้องหน้าเขา \"บางที แค่เพราะนายรู้สึกดีๆกับเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยังรู้สึกดีๆกับนายหรือคนรอบข้างนะ ตามความคิดของฉันนะ นายกับเอสเตลไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้วใช่ไหมล่ะ\" เขาถาม เจมส์พยักหน้า \"นั่นไง การที่นายกับเขาอยู่ด้วยกัน รู้จักกันมาก่อนหน้านี้ เขาอาจจะเป็นเหมือนกับนางฟ้า แต่ใครจะรู้ เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน- - นายลองคิดดูนะ เขาไปอยู่ไกล เปลี่ยนไปขนาดไหนไม่มีใครรู้ พอกลับมาเจอกัน นายคิดหรือว่าเขาจะต้องเหมือนเดิม ถ้าคิดแบบนั้น นายก็โง่มาก อีกอย่าง ขนาดโลกเรามันหมุนไปทุกวันๆอย่างนี้ หมุนไปโลกก็ยังเปลี่ยน อาทิตย์ขึ้น พระจันทร์ตก เช้าร้อน ค่ำเย็นสบาย ตื่น7โมง เช้าวันรุ่งขึ้นอาจกลายเป็น7โมงครึ่งก็ได้ ขนาดนี่เป็นแค่โลกเรา เราอยู่ในโลกทุกวัน มันยังเปลี่ยนได้ แล้วคนที่ไม่ได้อยู่กับเราล่ะ \" เดวิดเว้นเสียง
\"เขาจะเปลี่ยนไปได้ขนาดไหน\" เดวิดพูดในที่สุด เจมส์นิ่งฟัง สมองรับฟังและเริ่มคล้อยตามเมื่อคิดถึงความเป็นจริง แต่ภายในใจ - - ยังคงรั้นที่จะเชื่อในสิ่งที่เขาอยากจะเชื่อ - - เชื่อว่าเธอเป็นเหมือนเดิม
\"นายคิดเอาเองแล้วกันนะ ฉันจะกลับไปนอนแล้ว ส่วนนาย ก็แล้วแต่ละกัน ฉันถือว่าฉันมาบอกนายตามที่เอสเตลขอแล้ว ขอตัวก่อนนะ\" เดวิดพูดจบแล้วก็เดินออกไป
ปล่อยให้เจมส์ยืนนิ่ง และเงียบงันอยู่เช่นนั้น
*************************************************************************************************
เวลา 07.30 น.
\"อรุณสวัสดิ์ทุกคน\" วิกเตอร์ส่งเสียงเรียกมาก่อนเป็นการทักทาย ตามมาติดๆด้วยเสียงที่ฟังแล้วเปรี้ยวขาดใจของวาเนสซ่าที่ตรงเข้ามาหาเอสเตลกับเคทในทันที วิกเตอร์นั้นมองแล้วทำตาปริบๆ เดวิดนั้นมองวาเนสซ่ากับเอสเตลอย่างพินิจพิเคราะห์ ส่วนเจมส์นั้นไม่มองหน้าใคร ทั้งยังหลบตาเอสเตลอย่างผิดปกติ ทั้งหมดนี้ ไม่รอดสายตาของใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกลไปแม้แต่น้อย รอยยิ้มสวยๆผุดขึ้นมาประดับริมฝีปากงามๆนั้น ก่อนที่คนคนนั้นจะลุกขึ้นจากที่นั่ง และเดินตรงไปยังห้องอาหาร
คณะของเจมส์ออกเดินไปยังห้องอาหาร โดยมีเอสเตลกับวาเนสซ่าเดินคู่กันด้านหน้า วิกเตอร์กับเคทเดินคุยกันไปอย่างถูกคอ  รั้งท้ายด้วยเดวิดกับเจมส์
\"เป็นอะไรรึเปล่าเจมส์\" คำถามดังขึ้นลอยๆจากปากของเดวิด เจมส์ส่ายหน้า
\"ไม่หรอก แค่กำลังคิดอะไรอยู่น่ะ\" เจมส์ตอบ เดวิดพยักหน้าอย่างรับรู้ แล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกจนกระทั่งถึงห้องอาหารที่พวกเอสเตลพากันนั่งลงแล้ว
\"นายอย่าคิดมากเลยนะ เก็บอาการไว้หน่อยจะดีกว่า อย่าพยายามทำตัวมีพิรุธ  เดี๋ยวจะผิดสังเกต พาลให้เจ้าตัวเค้าสงสัยเอาเปล่าๆ\" เดวิดกระซิบขึ้นเบาๆ เจมส์จึงละทิ้งความคิดที่วกวนอยู่ในใจไปก่อน แล้วหันมาสนใจคนรอบตัว
ทั้งคู่เดินไปนั่งสมทบกับคนอื่นๆ ภายหลังสั่งอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งโต๊ะก็เริ่มพูดคุยกันอีก แต่- - ทั้งที่พยายามลืมสิ่งที่รบกวนจิตใจอยู่ภายในแล้ว เจมส์ก็ยังอดคิดไปถึงมันอีกไม่ได้ จากตอนแรกที่มีใครถามก็ตอบไปแบบงั้นๆ จนในที่สุดก็กลายเป็นว่าเขาไม่ได้ตอบอะไรใครจนกลายเป็นว่าเขาเงียบที่สุดในโต๊ะ และยังมีท่าทางเหม่อๆด้วย แน่นอนว่าภาพทั้งหมดนี้ ก็ไม่ได้พ้นสายตาของคนที่ลอบสังเกตพวกเขาอยู่ไม่ไกลแม้แต่น้อย เจมส์นั้นเริ่มรู้สึกแปลกกับการที่ตัวเขาเองมานั่งคิดกังวลถึงคำพูดของเดวิดเมื่อคืนนี้ แม้จะเพิ่งร็จักกันได้ไม่นาน แต่เขาก็ได้เห็นความสามารถที่ไม่เหมือนใครของเดวิด  รัชเชอร์ เพื่อนใหม่จากประเทศมีคาเอลคนนี้ เขามั่นใจว่าเดวิดยังมีอะไรที่ซ่อนอยู่อีกแน่ๆ แต่ในขณะที่กำลังคิดนั่นเอง สายตาของเขาก็เผลอไปสบกับใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกล - -
คนที่เจมส์มองเห็นนั้นเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ สวยกว่าที่คนทั่วไปเขาจะสวยกัน และเธอก็ไม่ใช่คนที่ดูเหมือนคนประเภทที่ต้องไปทำศัลยกรรมเพื่อความงามเลยสักนิด ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็ต้องขอบอกว่าเธอเป็นเหมือนนางฟ้า หรือ เทพอะไรสักอย่างแน่ๆ เพราะนอกจากใบหน้าที่สวยเกินหน้าคนธรรมดานั่นแล้ว เขายังสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่เป็นเหมือนรัศมีที่เปล่งประกายออกมาจากเธอผู้นั้นอันบ่งบอกถึงความสูงศักดิ์ของเธอ แม้ว่าจะไม่มีมงกุฎแวววาวอยู่บนศีรษะของเธอก็ตาม
ชายร่างสูงคนหนึ่งเดินตรงไปหาเธอในขณะที่เจมส์จ้องมองอยู่ ดูเหมือนทั้งคู่จะพูดอะไรกันอยู่ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็ลุกขึ้น จัดกระโปรงให้เรียบร้อย แล้วออกเดินตามชายคนนั้นไป
เธอหันหน้ามาหาเจมส์นิดนึง และาสายตาของเขาไม่ได้เบลอ เขาคิดว่า เธอ- - ส่งยิ้มมาให้เขา - - ก่อนจะเดินจากไป
ทิ้งให้เจมส์ตกอยู่ในภวังค์
************************************************************************************************
ควันไอพ่นที่พุ่งออกมาจากเครื่องบินขนส่งค่อยๆจางหายไปพร้อมกับสายลมที่พัดมาให้รู้สึกเย็นสบาย ท่ามกลางแสงแดดเจิดจ้าของเดือนเมษายน
เจมส์ เดวิด วิกเตอร์ เอสเตล วาเนสซ่า และเคท ทยอยกันเดินลงมาจากเครื่องบิน เจมส์มองไปรอบๆ สายตาพานพบกับคลื่นมนุษย์ที่เดินตรงเข้าสู่อาคารสีขาวเบื้องหน้า จะว่าเป็นอาคารสีขาวก็คงไม่ถูกต้องนักหรอก เพราะเท่าที่สายตาของเจมส์บอกได้ อาคารตรงหน้าดูเหมือนจะทำจากกระจกมากกว่า เพราะไม่ว่าจะมองไปทางมุมไหนก็มีแต่กระจกทั้งสิ้น
\"หรูดีเนอะ\" เสียงหวานๆของเคทดังขึ้นเมื่อพวกเขาเดินตรงไปสู่อาคารเบื้องหน้าพร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่นๆ
\"อื้อ สวยจริงๆ ทั้งสวยทั้งหรู ยั้งงี้ค่อยเข้ากับฉันหน่อย\" วาเนสซ่าพูด หน้าบาน \"แต่แดดมันร้อนไปนิด ถ้าร้อนแบบนี้ทุกวันมีหวังหน้าดำตายเลย\"
\"ตกลงมาเรียนหรือมาเดินแบบล่ะจ้ะ แวนนี่น้องรัก\" วิกเตอร์ถาม กระเซ้าน้องสาวตัวเองเล่นแก้เซ็ง
\"บ้าน่า วิก พี่ก็พูดอะไรเรื่อยเปื่อยจริงๆนะ\" วาเนสซ่าแหวใส่พี่ชาย ก่อนจะกอดแขนเขาเอาไว้อย่างประจบ \"ว่าแต่ ถ้าพี่ไม่ดูแลฉันให้ดีๆล่ะก็ ฉันจะฟ้องพ่อแน่\" พูดจบเธอก็เดินออกไป และวิ่งไปเกาะแขนเจมส์แทน สร้างความเขินให้เจมส์ขึ้นมาแบบสุดๆ แม้จะเคยโดน \'เล่น\' แบบนี้มาก่อนก็ตาม และแน่นอนว่าภาพนี้ สร้างความรู้สึกต่างๆกันให้กับผู้ที่ได้พบเห็น สาวๆที่เดินอยู่แถวนั้นต่างเกิดความรู้สึก \'หมั่นไส้\' วาเนสซ่ากันเป็นแถว ส่วนพวกผู้ชายต่างก็อิจฉาเจมส์แบบสุดๆที่มีสาวสวยมาเกาะแขน เดินควง ไอ้ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เจมส์วางหน้าไม่ถูก ส่วนเพื่อนๆที่เดินตามมาก็รู้สึกปวดหัวกับพฤติกรรมของแม่สาวสุดแสบตรงหน้า แม้ว่าไม่มีใคร - - นอกจากเจมส์กับวิกเตอร์ - - จะรู้ว่าวาเนสซ่าร้ายได้ขนาดไหน
พวกเขาเคลื่อนตัวไปตามฝูงชนจนถึงอาคารสีขาวที่ตั้งตระหง่านเบื้องหน้าที่ดูราวกับเป็นอาคารผู้โดยสารเหมือนที่มีในสนามบินแห่งอื่นๆบัดนี้ เจมส์สามารถบอกได้คร่าวๆว่ามันเป็นตึกสูงประมาณ3ชั้น หากแต่เป็นสามชั้นที่ใหญ่โตมโหฬารสุดๆ เพราะเท่าที่ดู มันจุคนได้ถึงห้าแสนคน แล้วนี่แค่เฉพาะชั้นล่างเท่านั้นนะ - - ไม่ต้องพูดถึงอีกสองชั้นที่เหลือด้วยซ้ำ แล้วเจมส์ก็มองเห็นประตูที่ติดตั้งอยู่รายล้อม มันเป็นประตูกระจกลายน้ำที่มีกรอบอยู่เป็นรูปสี่เหลี่ยม ตอนแรกเจมส์พยายามหาที่จับประตู แต่ที่เขามองเห็นกลับเป็นบานประตูเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อหันไปมองข้างๆ เห็นคนอื่นเดินทะลุเข้าไปเลย เขาเลยทำตาม จึงได้พบว่ามันเป็นประตูสแกน ที่พอเดินเข้ามาปุ๊บ มันก็จัดการประกาศชื่อผู้ที่เพิ่งเดินเข้ามาทันที
\"ยินดีต้อนรับ มิสเตอร์ เจมส์ เอ็ดเวิร์ด\"
เจมส์เดินเข้าไปข้างในพร้อมกับวาเนสซ่าที่ยังเกาะติดเขาแจพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ ภายในตัวอาคารนั้นเย็นสบายและสว่างสดใส  ตกแต่งด้วยกระจกทำให้ดูกว้างขึ้นอีก มีเก้าอี้วางอยู่เป็นชุดๆทำด้วยคริสตัล เจมส์มองไปรอบๆด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ ไม่ต่างกับผู้ร่วมเดินทางคนอื่นๆ และแล้ว เมื่อทุกคนเข้ามากันครบแล้ว ก็เกิดแสงสีทองสว่างวาบขึ้นจากประตูทุกบาน
\"นักเรียนครบจำนวน\"
ทันทีที่เสียงที่ว่านั้นดังขึ้น โพเดียมสีดำขลิบขาวทำจากหินอ่อน สลักตัวอักษร IIA ไขว้กัน ด้านบนเป็นรูปมงกุฎสีทองที่มีรัศมีรุ่งโรจน์ ก็ปรากฏขึ้นตรงใจกลางพื้น พร้อมกับผู้หญิงในชุดสูทสีดำคนหนึ่งที่ขึ้นมาพร้อมกันกับโพเดียมนั้น
เธอคนนั้นมีผมสีทองที่เกล้าขึ้นเป็นมวยเรียบร้อย หน้าตาจัดว่าสวยมาก แต่อะไรบางอย่างทำให้รู้สึกว่าเธอเป็นคนที่ดูดุมาก เพราะเพียงแค่เธอขึ้นมาเท่านั้น ทั่วทั้งอาคารก็ดูเหมือนจะเงียบงันกันไปหมด
\"สวัสดีทุกๆคน\" เสียงของเธอดูเย็นชา ราวกับมีน้ำแข็งพ่นออกมาจากคำพูดของเธอ \"ยินดีต้อนรับเข้าสู่โรงเรียนใหม่ของพวกเธอ ฉันชื่อ เนฟ เทอร์เนอร์ เป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง ฉันได้รับประวัติและข้อมูลทุกรูปแบบเกี่ยวกับตัวพวกเธอแล้ว และขอให้มั่นใจว่าฉันจำพวกเธอได้เป็นรายบุคคลเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ฉันหวังว่าคงไม่ต้องเจอกับเธอที่แผนกปกครอง\" เนฟ เทอร์เนอร์ประกาศ สายตาของเธอที่มองมาบอกให้รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง
\"เอาล่ะ เราเข้าใจกันแล้วใช่ไหม นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป พวกเธอถือเป็นบุคลากรของที่นี่ และทุกสิ่งที่เธอทำ จะเป็นตัวประเมินผล สำหรับคนที่สงสัยว่าประเมินผลเรื่องอะไร เธอก็คงต้องรอไปก่อน เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของฉันที่จะแจ้งกับพวกเธอ หน้าที่ที่ฉันได้รับมาก็คือ ให้มาดูแลความเรียบร้อยให้พวกเธอ แต่คนที่มีเรื่องที่จะต้องพูดกับพวกเธอโดยตรงคือรองผู้อำนวยการ และเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมที่พวกเธอทุกคนจะต้องเข้าร่วม และฉันขอแนะนำให้พวกเธอรู้จักกับท่านรองผอ. เมลานี มาร์โก\"
สิ้นเสียงของอาจารย์ฝ่ายปกครอง กลุ่มคนที่ด้านหนึ่งของห้องนั้นก็แหวกทางออก หญิงสาวผมทองหน้าตาอ่อนโยนเดินตรงมาที่โพเดียม ขณะที่เทอร์เนอร์เดินลงมาจากโพเดียม
\"สวัสดีจ้ะ ทุกๆคน\" เสียงของ เมลานี มาร์โกดังขึ้น เสียงซุบซิบต่างๆก็เงียบลง เมลานีมีท่าทีพอใจที่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในระเบียบ รอยยิ้มของเธอจึงปรากฏขึ้น
\"ยินดีต้อนรับเข้าสู่ International Inclusive Academy จ้ะ ฉัน เมลานี มาร์โก รองผู้อำนวยการของสถาบันนี้ ยินดีต้อนรับพวกเธอทุกๆคน และฉันหวังว่าพวกเธอจะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขเหมือนอยู่บ้านของตัวเอง เพราะฉะนั้น ขอให้เธอคิดซะว่าเราเป็นพี่น้องกัน เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ตามชื่อของที่นี่เลยก็ได้จ้ะ\" เมลานีพูด ขณะที่ผู้มาใหม่ทุกคนรู้สึกดีขึ้น
\"IIA ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับพวกเธอทุกคน ไม่ว่าเธอจะมาจากส่วนไหนของโลก แต่ ณ เวลานี้ พวกเราได้มายืนอยู่ร่วมกันที่นี่ นับเป็นเรื่องดีอย่างที่สุด และตอนนี้ ฉันก็แน่ใจว่าพวกเธอคงจะอยากไปพักผ่อน ไปสำรวจสถานที่ ไปพบเพื่อนใหม่ๆกันแล้ว เพราะฉะนั้น ฉันขอเวลาห้านาทีในการอธิบายสิ่งที่เธอควรจะรู้ แล้วจากนั้น เธอก็จะได้ออกไปจากอาคารหลังนี้ เพื่อไปพบสิ่งที่ตื่นเต้นกว่าข้างนอก
IIA เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในสถานที่ลับ แต่อย่าคิดว่าฉันจะใจร้ายจนไม่บอกพวกเธอว่าเราอยู่ที่ไหนในโลก พวกเรากำลังยืนอยู่บนเอฟเว่น ไอส์แลนด์ หรือเกาะสนธยา อยู่ทางเหนือของประเทศมีคาเอล สำคัญกว่านั้นคือ เกาะนี้เป็นเกาะปิด ไม่มีนักท่องเที่ยว ไม่มีสื่อมวลชน แต่มีทุกสิ่งๆที่จะทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดเท่าที่โลกนี้จะมีได้ ฉันต้องบอกเธอว่าไม่มีใครสามารถมาที่นี่ได้ถ้าไม่ไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ เพราะฉะนั้น ฉันจึงต้องบอกเธอว่าแม้เธอจะติดต่อทางบ้านได้ แต่ผู้ปกครองก็จะไม่เดินทางมาที่นี่เด็ดขาด เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างสถาบันกับทุกประเทศทั่วโลก และแน่นอน - - รวมผู้ปกครองของพวกเธอด้วย\" เมลานีพูด
\"เอาล่ะ ฉันคงต้องอธิบายเกี่ยวกับสถานที่สำคัญในโรงเรียนให้พวกเธอฟัง เหตุผลก็เพราะว่าฉันไม่อยากเห็นพวกเธอหลงทาง แม้มันอาจจะเป็นเรื่องสนุกก็ตาม\" เธอพูด ส่งยิ้มไปรอบห้อง \"เอฟเว่น ไอส์แลนด์ เป็นเกาะขนาดใหญ่ ที่ประกอบด้วยเกาะเล็กๆอีกห้าเกาะ และแต่ละเกาะก็มีความสำคัญกับพวกเธอ เกาะแรก คือที่นี้ พอร์ท ไอส์แลนด์ เป็นศูนย์รวมของการเดินทางทุกชนิด เป็นต้นทางน่ะ เข้าใจไหมทั้งเดินทางระหว่างที่ตั้งอื่นๆและการเดินทางกลับไปประเทศของพวกเธอจะเริ่มต้นที่นี่ทั้งสิ้น
เกาะที่สอง อันนี้สำคัญมากนะ เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของที่นี่เลย คือ อคาเดมี ไอส์แลนด์ เป็นเกาะที่พวกเธอจะต้องเดินทางไปเกือบทุกวัน เพราะมันคือที่ตั้งใหญ่ของสถาบันเรา และพวกเธอก็ต้องไปเรียนที่นั่นด้วย
เกาะที่สาม ใหญ่เป็นอันดับสองของที่นี่ คือ เรสซิเด้นท์ ไอส์แลนด์ เป็นเกาะที่พวกเธอใช้เป็นที่อยู่ ที่นั่นนอกจากจะเป็นที่พักของเธอแล้ว ยังมีโบสถ์เล็ก ห้องสมุดส่วนกลาง ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ สวนสนุกและเรสซิเด้นท์คลับซึ่งเป็นโซนกีฬาที่มีให้เธอเล่นทุกชนิด กับโซนอีกโซนหนึ่งที่พวกเธอจะชอบ คือ รีแล็กซ์ โซน อันเป็นโซนที่เต็มไปด้วยเกมทุกชนิด ซึ่งฉันคงไม่ต้องบอกเธอหรอกนะว่าเธอจะเข้าไปเล่นที่นั่นได้ในวันหยุดของเธอเท่านั้น และอย่าคิดโดดเรียนเป็นอันขาด ถ้าเธอยังไม่อยากไปเจอกับคุณเนฟที่ฝ่ายปกครอง
เกาะที่สี่ เป็นเกาะที่พักของอาจารย์ทุกคน แผนกทุกแผนกของทุกสาขาวิชาจะอยู่ที่นั่น และแน่นอน - - ฝ่ายปกครองด้วย ตัวฉันเองก็พักอยู่นั่นด้วย เราเรียกที่นั่นว่า การ์เดียน ไอส์แลนด์
และเกาะที่ห้า คือโฮลี่ ไอส์แลนด์ ที่นั่นถือเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ เป็นเขตหวงห้าม ห้ามไม่ให้ใครเข้าไปเด็ดขาดโดยไม่ได้รับอนุญาต
เอาล่ะ ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม แล้วสิ่งหนึ่งที่พวกเธอจะต้องได้รับก็จะปรากฏขึ้น เอาล่ะนะ 1.....2.....3\" สิ้นเสียง ซองสีดำ ขนาดเท่ากระดาษA4ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า เจมส์เปิดมันออกอย่างสนใจ และสิ่งที่ได้พบข้างในก็คือ - -
\"ในซองนี้เป็นข้อมูลต่างๆตามที่ฉันได้แจ้งไปแล้วและยังไม่ได้แจ้ง นอกจากนี้ยังมีการ์ดประจำตัวนักเรียน เข็มกลัดที่เธอจะต้องกลัดเอาไว้ที่หน้าอกเสื้อด้านขวา หนังสือคู่มือนักเรียน ใบแจ้งกำหนดการของสัปดาห์นี้เพื่อที่เธอจะได้ไม่หลงวัน ใบแจ้งอุปกรณ์การศึกษาที่พวกเธอจะต้องใช้ ซึ่งเธอจะหาซื้อได้ทางอินเตอร์เน็ตหรือที่ห้างสรรพสินค้า ใบกรอกวิชาเรียน ซึ่งเธอจะต้องส่งภายในวันมะรืนนี้ที่นี่ ฉันต้องบอกเธอว่าอุปกรณ์บางอย่างของบางวิชาเธอจะต้องหาซื้อหลังจากตารางสอนออกมาแล้ว เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าเธอลงเรียนวิชาอะไรบ้าง วิธีลงทะเบียนเรียนแจ้งให้เธออยู่แล้วในนั้น และที่สำคัญคือ ข้อมูลที่พัก ขาดข้อมูลนี้เธอจะหาที่พักของพวกเธอไม่ถูกแน่ และสุดท้าย คือสร้อยคอ
สร้อยคอของพวกเธอสามารถปรับความสั้นยาวได้ตามต้องการ ประโยชน์ของมันคือเอาไว้เช็คชื่อเข้าชั้นเรียน รายละเอียดมีอยู่ในหนังสือคู่มือนักเรียน ฉันยังต้องบอกพวกเธอว่าที่นี่มีชุดยูนิฟอร์ม ซึ่งเธอจะต้องใส่สัปดาห์ละสี่วัน กับวันที่มีการประชุม วันเรียนวันเดียวที่อนุญาตให้ใส่ชุดไปรเวทได้คือวันศุกร์ และหวังว่าพวกเธอคงจะรู้ว่าควรแต่งตัวยังไงจึงจะเรียบร้อย\" เมลานีพูด แล้วเธอก็ปรบมือสองครั้ง เก้าอี้คริสตัลโผล่ขึ้นมาจากพื้นทำเอาหลายคนตกใจ เจมส์มองพวกมันแล้วหันไปมองเมลานี มาร์โก ผู้กำลังยิ้ม
\"พวกเธอคงอยากจะรู้วิธีเดินทางไปที่พัก นั่งอ่านจากหนังสือคู่มือนักเรียนก่อนก็ได้จ้ะ ขณะนี้ - - เก้านาฬิกา สามสิบนาที อีกสิบห้านาทีหลังจากนี้ - - ระบบขนส่งระหว่างเกาะจะพร้อม ขอให้ทุกคนโชคดี\" เธอพูด ยิ้มให้ทุกคนอีกครั้ง \"และก็ ขอพูดอีกครั้ง ยินดีต้อนรับเข้าสู่ IIA จ้ะ\"
*********************************************************************************************
09.45 น.
\"ระบบขนส่งระหว่างเกาะ เตรียมพร้อมดำเนินการใน 5...4...3...2...1 ขณะนี้ ระบบขนส่งทุกรูปแบบพร้อมใช้บริการ ผู้จะเดินทางไปสู่เรสซิเด้นท์ ไอส์แลนด์ทางเรือรับส่ง กรุณาเดินออกทาง เกท 2,6,และ8 ทางการวาร์ป กรุณาขึ้นไปที่ชั้น2 จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ที่โซนA และโซนC  ต้องการเดินทางด้วยทางเลื่อนใต้ทะเลกรุณาไปที่เกท 1,3และ4 หากต้องการเดินทางด้วยรถไฟลอยฟ้า กรุณาขึ้นไปที่ชั้น2 สถานีรถไฟลอยฟ้าจะอยู่ที่โซนB ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเดินทางค่ะ\" เสียงประกาศที่ดังขึ้นทำให้คลื่นมหาชนที่นั่งกันอยู่ในห้องโถงออกเดินไปยังสถานที่ตามที่ประกาศไว้ เจมส์หันไปมองหน้าเพื่อนๆที่เหลือ ก่อนจะเริ่มต้นปรึกษากัน
\"จะไปทางไหนดีคะ\" เอสเตลล์ถามเจมส์ผู้ตั้งใจฟังประกาศกว่าใครในกลุ่ม แต่สำหรับเจมส์ ไม่ว่าทางไหนก็น่าลองทั้งนั้น
\"ฉันว่า เราน่าจะไปทางเลื่อนใต้ทะเลนะ ฉันอยากเห็นพวกปะการังน่ะ\" วาเนสซ่าพูดขณะมองไปรอบๆ
\"รถไฟลอยฟ้าก็เข้าท่านะ\" เคทพูดบ้าง แต่วิกเตอร์ส่ายหัวทันทีด้วยสีหน้าบอกว่าไม่เอาด้วยแน่นอน
\"ทำไมล่ะ\" เคทถามเมื่อเห็นหน้าวิกเตอร์
\"ฉันไม่ชอบความสูง\"
\"แต่เรานั่งเครื่องบินมานะ\"
\"แต่บนเครื่องบินเราไม่ต้องนั่งติดกระจกตลอดเวลานี่\"
เคทส่ายหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ เดวิดก็เลยขัดขึ้นมา
\"วาร์ปล่ะเป็นไง\"
\"เอางี้ดีกว่า ฉันว่าเราแยกกันไปดีกว่า จะได้ไม่ต้องมาขัดใจกัน แล้วไปถึงที่นั่นแล้วเข้าโทรหากันอีกที โอเคมั้ย\"เจมส์พูด
\"ไม่งั้นก็เคทพยักหน้าอย่างเห็นด้วย วิกเตอร์ก็พยักหน้า ส่วนคนอื่นๆมีท่าทียอมรับกับข้อเสนอนี้
\"ใครจะไปกับฉันบ้าง ฉันจะไปทางเลื่อนใต้ทะเล\" วาเนสซ่าพูดด้วยท่าทางเริงร่า วิกเตอร์หันไปหาเธอแต่ส่ายหน้า
\"ไม่ล่ะ ฉันว่าจะวาร์ปไป คงจะเร็วกว่ากันเยอะ\" วิกเตอร์พูด
\"ฉันว่าจะไปทางเรือนะ ไปด้วยกันมั้ย เอสเตล\" เคทชวน เอสเตลพยักหน้าอย่างว่าง่าย เคทจึงหันมาหาเจมส์กับเดวิด
\"จะไปด้วยกันไหม\"
เจมส์ส่ายหน้าทันที เดวิดก็ด้วย เคทเลยพยักหน้าแล้วยิ้ม ก่อนจะเดินจากไปพร้อมเอสเตล เจมส์กับเดวิดจึงมองหน้ากัน
\"นายจะไปทางไหนล่ะ\" เจมส์ถาม เดวิดตอบทันที
\"รถไฟลอยฟ้า\"
\"ดี งั้นฉันไปกับนายด้วย\"
ทั้งคู่จึงเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง โซนB ด้วยกันเงียบๆ
รถไฟลอยฟ้าก็ไม่เชิงเป็นรถไฟนักในสายตาของเจมส์ แต่มันควรจะเรียกว่ากระเช้าลอยฟ้ามากกว่า ด้วยลักษณะของพาหนะทรงกลมที่ทำจากไฟเบอร์กลาสและกระจก มันมีหลายขนาด โดยแบบที่ใหญ่ที่สุดเท่าทีเจมส์เห็นคือห้องโดยสารขนาดสิบคนนั่ง สามารถชมวิวได้360องศา แต่การจะใช้บริการมันได้นั้น ต้องอาศัยสร้อยคอที่มีการ์ดชื่อที่ได้รับแจก มันเป็นสร้อยคอที่มีลักษณะเหมือนสร้อยคอแบบที่พวกทหารชอบใส่กัน สลักชื่อพวกเขาและมีรอยปรุๆเหมือนช่องรหัสอยู่ เจมส์สวมมันไว้ทันทีในขณะที่เดวิดพันมันไว้ที่ข้อมือ
หลังจากใช้การ์ดชื่อที่ห้อยอยู่กับสร้อยรูดเครื่องลงชื่อใช้บริการแล้ว เจมส์กับเดวิดก็ได้ห้องโดยสารขนาดสองคนนั่งมาหนึ่งห้อง ภายในห้องมีเครื่องมือติดต่อสื่อสารไปถึงห้องโดยสารของคนอื่นๆด้วย มันเป็นแผงหน้าจอที่มีปุ่มทั้งหมดสี่ปุ่มด้วยกัน ปุ่มแรกเป็นปุ่มสีขาว ซึ่งใช้เป็นปุ่มแสดงรายละเอียดที่ต้องการทราบของที่นี่โดยกรอกคำค้นหาลงไปก็เรียบร้อย ปุ่มที่อยู่รองลงมาเป็นปุ่มสีเขียว เจ้าปุ่มนี้จะแสดงรายชื่อผู้โดยสารของแต่ละห้องขึ้นมา และสามารถกดเลือกที่ห้องที่เราต้องการได้เพื่อจะได้คุยกับเพื่อนในกรณีที่ต้องแยกกันนั่ง ปุ่มที่สามเป็นสีฟ้าเจ้าปุ่มนี้สามารถปรับอากาศภายในห้องโดยสารได้ และรายละเอียดจากปุ่มสีขาวบอกให้เขารู้ว่าเมื่อใช้บริการรถไฟลอยฟ้านี่แล้ว ก่อนจะออกจากห้องโดยสารต้องกดปุ่มสีฟ้าเสมอ เพื่อให้มันทำความสะอาดตัวเอง ปุ่มสุดท้ายเป็นสีแดง ปุ่มนี้สามารถนำผ้าม่านขึ้นมาติดในห้องโดยสารได้ ไปจนถึงสามารถเปลี่ยนห้องโดยสารให้กลายเป็ฯลักษณะทึบเพื่อกันแดดและไม่ให้ใครเห็นได้ด้วย เจมส์อดคิดไม่ได้ว่าที่นี่มันช่างหรูหราเกินกว่าโรงเรียนทั่วไป - - ก็แน่ละ โรงเรียนไหนเขาจะมีเกาะแบบนี้
เจมส์อ่านข้อมูลเกี่ยวกับที่พักในใบแจ้งข้อมูลที่พักขณะที่เดวิดนั่งดูวิวรอบๆ เจมส์อ่านข้อมูลที่พักแล้วก็อึ้งไปเลยเพราะเจอกับความแตกต่างอย่างคาดไม่ถึง(อีกแล้ว)ของสถานที่แห่งนี้
ที่พักของอินเตอร์เนชั่นแนล อินคลูซีฟ อคาเดมี่ เป็นบ้านหรือที่เรียกว่าคฤหาสน์จะเหมาะกว่า ตามที่เจมส์เห็นในรูป แต่ที่นี่เรียกมันว่าหอพัก มันมีอยู่ทั้งหมดกว่าร้อยหลัง และแต่ละหลัง - - จะอยู่กันไม่ถึงยี่สิบคน แต่ละหลังจะถือเป็นครอบครัวเดียวกันและแต่ละหลังก็มีชื่อเรียกเป็นของตัวเอง ภายในหอพักมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และเท่าที่เจมส์อ่านเจอในรายละเอียด - - ทุกหลังมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน
เจมส์อ่านรายละเอียดแล้วพบกับชื่อของเขาเองกับรายชื่อของคนอื่นๆอีกราวๆสิบห้าคนในหอพักที่ชื่อ    ดาร์วิเนียน เจมส์อ่านเจอรายชื่อของเดวิด และเคทอยู่ในบ้านหลังเดียวกันด้วย
การเดินทางไปบ้านพักผ่านรถไฟ(กระเช้า)ลอยฟ้าใช้เวลาไม่ถึงสามสิบนาที เมื่อพวกเขาไปถึงเรสซิเด้นท์ ไอส์แลนด์ เจมส์ไม่ลืมที่จะกดปุ่มสีฟ้าเพื่อให้มันทำความสะอาดตัวเอง เขาคุยเล่นกับเดวิดในเรื่องไม่เป็นเรื่องเพื่อปัดความกังวลออกไปจากใจ ณ จุดที่พวกเขาลงมาจากรถไฟลอยฟ้าที่เกาะที่พักนั้นเป็นหอสูงขนาดใหญ่ที่มีเครื่องวาร์ปสำหรับลงไปที่พื้นในกรณีที่ไม่อยากเดินลงไป เจมส์กับเดวิดเลือกที่จะวาร์ปลงไปแม้ยังอยากจะอยู่ต่อสักครู่เพื่อชมวิว เครื่องวาร์ปที่นี่ตั้งเรียงกันเป็นช่อง ทุกครั้งที่มีการใช้เครื่องนี้ เครื่องก็จะเรืองแสงสีฟ้าออกมา วิธีใช้ก็แสนจะง่าย(ตามความคิดของเจมส์กับเดวิด) ก็คือ เมื่อก้าวเข้าไปแล้ว ให้นึกถึงสถานที่ที่ต้องการจะไป ถ้าที่นั่นมีเครื่องวาร์ปอยู่ก็จะสามารถไปปรากฏตัวที่นั่นได้ทันที
เมื่อลงไปถึงข้างล่างแล้ว เจมส์ก็ได้เจอกับเคท เอสเตล วิกเตอร์ และวาเนสซ่า และทั้งหมดก็เตรียมตัวจะแยกย้าย วาเนสซ่ากับวิกเตอร์พักอยู่ที่หอพักชื่อ มอร์กานอฟ เอสเตลพักอยู่ที่หอพักชื่อ อาร์วีเฟรลล์ ทั้งหมดจึงตัดสินใจที่จะแยกกันไปก่อนที่จะออกมาเจอกันอีกครั้งตอนเย็น
เรสซิเด้นท์ ไอส์แลนด์มีลักษณะเหมือนเมืองใหญ่ๆทั่วไป คือเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบาย วิธีเดินทางไปสถานที่ต่างๆของเกาะนี้ก็มีตั้งแต่ การวาร์ป การนั่งรถรับส่งที่มีอยู่ทั่ว และการเดินไป เจมส์ เดวิด และเคทเลือกที่จะเดินไปเพื่อสังเกตทิศทาง โชคดีที่หอพักของพวกเขาอยู่ไม่ไกล เดินจากสถานีเดินทางเพียงไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง ความที่เกาะนี้เป็นเหมือนเมืองๆหนึ่ง ก็เลยมีป้ายโฆษณาด้วย ป้ายหนึ่งที่พวกเขาเดินผ่านบอกให้รู้ว่า นักเรียนจะสามารถซื้อพาหนะของตัวเองสำหรับเดินทางระหว่างเกาะและภายในเกาะได้ในสัปดาห์หน้า ส่วนอีกอันหนึ่งบอกว่า เกมสามมิติที่เป็นที่นิยมของคนทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ \"ทรีไอคอนส์ แบทเทิล\" เปิดให้เล่นแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แน่นอนว่าพวกเขามองมันด้วยความสนใจ เจมส์เคยเล่นเกมส์นี้เมื่อตอนอยู่ที่บ้าน และนึกอยากจะเล่นอีกครั้งอยู่เหมือนกัน
แต่ในขณะที่จ้องมองสองข้างทางของถนนในเกาะ โดยไม่รู้ตัว เมื่อเจมส์ละความสนใจจากสิ่งรอบข้าง เขาก็พบว่า- - หอพักดาร์วิเนียนอยู่ตรงหน้าแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น