คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : {Chapter7}
“ซาสึเกะอยู่หรือเปล่า”ซากุระถามขึ้นเมื่อไม่ได้ยินเสียงอะไรก่อนที่เธอจะลืมตาขึ้นมาหน่อยๆเพื่อมองดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้า สิ่งนั้นมันทำให้เธอแทบเสียสติ ศพของชายกลุ่มหนึ่งที่ช่วยเธอ กับศพของสัตว์ประหลาดสองตัว
อีกตัวหนึ่งตายอย่างน่าหวาดกลัวหน้าอกข้างซ้ายของปีศาจตัวนั้นเป็นรูเหอวขนาดใหญ่หัวใจของเจ้านั้นก็ถูกกำจนแตกสลายส่วนอีกตัว หัวไม่มีมันไม่ใช่รอยถูกฟันแต่มันเป็นรอยดึง สิ่งนั้นมันทำให้เธอแทบเสียสติก่อนจะร้องออกมา
“กริ๊ดดดดดด”
เสียงกรีดร้องของเสียงเล็กมันทำให้เขารู้ทันทีว่าซากุระเป็นอะไรซาสึเกะรีบกลับคือสู่สภาพเดิมก่อนจะรีบวิ่งไปหาเธอก่อนจะพบว่าเธอนั้นลืมตาขึ้นก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ปิดตาไว้ซาสึเกะรีบวิ่งไปคว้าเอาคนที่เสียสติเข้ามากอด
“ฉันอยู่นี้แล้วไม่มีอะไรแล้วนะ”
“ไม่ซาสึเกะ....เกิดอะไรขึ้นทำไม ทำไมทุกอย่าง..”เสียงขาดห้วงของเธอมันทำให้เขารู้ทันทีว่าเธอคงครองสติไว้ไม่ได้
.
.
ที่นี้ที่ไหน นั้นคือหนึ่งคำถามที่ตอนนี้เธออยากรู้เหลือเกิน ที่นี้มีแต่หิมะสีขาวต้นไม้ถูกปกคุมด้วยหิมะ ก่อนที่สายตาของเธอจะไปปะทะกับหญิงสาวคนหนึ่งเธอดูน่าจะแก่กว่าเธอราวๆสักเจ็ด แปดปี เธอใส่ยูคาตะสีขาวรายดอกซากุระ มองต้นซากุระที่ผลิ ดอกในฤดูหนาวผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ในความทรงจำของเธอหลังจากการนองเลือดนั้น ดวงตาสีฟ้าทะเลมองต้นซากุระด้วยความชื่นชมก่อนจะมองเด็กทารกที่อยู่ในอ้อมกอดพร้อมกับเอาจมูกไปชนกับเด็กทารกคนนั้น ผู้หญิงคนนั้นมันทำให้เธอรู้สึกโหยหา รู้สึกคิดถึง รู้สึกรัก ในเวลาเดียวกัน ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะมองมาทางเธอ
“อย่าได้อาฆาตแค้นเขา”พอจบคำพูดนั้นทุกอย่างก็ดูเลือนรางเหมือนกับว่าส่วนลึกในจิตใจของเธอไม่อยากทำตามในสิ่งที่หญิงสาวบอก
อะไรอาฆาตแค้นอะไรทำไมเธอถึงไม่อยากทำตามก่อนที่จะมีภาพผู้คนมากมายล้มตายอสูรกายยืนอยู่บนซากศพของมนุษย์ ดวงตาสีโลหิตแดงฉาบ จ้องมาทุกอย่างด้วยความพิโรธความชิงชังทุกอย่างอยู่ในกองเพลิงที่ลุกโชนนั้น
“กริ๊ดดดดด”
“ซากุระเธอเป็นอะไรหรือเปล่า”เสียงนั้นมันทำให้เธอหันไปมองเขาทั้งน้ำตา ซากุระโผล่เข้ากอดชายหนุ่มทันที ซาสึเกะลูบหัวเล็กก่อนจะจูบศีรษะปลอบขวัญ
“ซาสึเกะ...หนู..หนูกลัวเมื่อคืน เมื่อคืน”พูดออกไปพร้อมกับตัวสั่นเหมือนกับลูกนกตกน้ำ
“ไม่มีอะไรแล้วเลิกร้องได้แล้วเด็กดี”ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้เธอใจชื่นขึ้นเลยสักนิดสาวน้อยซุกในอ้อมกอดที่อบอุ่นจิตใจของเธอบอกซ้ำ
“ละ..แล้วพวกสัตว์ประหลาดกับคนพวกนั้นละค่ะ”เมื่อได้สติมานิดหนึ่งเธอก็ถามในสิ่งที่อยากรู้
“ไม่มีสัตว์ประหลากหรอกนะ เธอก็แค่โดนโจรไล่เชยๆ”
“กะ..โกหกหนูเจอจริงๆนะค่ะ”
“เธอคิดว่าฉันเคยโกหกเธอหรือไง”คำพูดของเขามันทำให้เธอรู้สึกผิดก่อนจะซ่ายหน้า คนอย่างซาสึเกะไม่มีทางโกหกเธออยู่แล้วสงสัยเธอคงจะตาฝาดไปเอง
ซาสึเกะจำเป็นต้องโกหกเธอออกไปเพราะเหตุผลหลายอย่างเธอไม่ควรรู้เรื่องเกี่ยวกับเจ้าพวกนี้ เธอไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเจ้านั้น เขาไม่อยากให้เธอเป็นอันตรายแค่เหตุการณ์เมื่อวานมันก็ทำให้เขาแทบคลั่งได้ดีเลยทีเดียว ถ้าตอนนั้นเขาไปไม่ทันละก็เขาอาจจะเสียสติและกลับไปถล่มรังของพวกมันได้และคนบริสูทธิ์ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อาจจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย ตอนนั้นเขายอมรับว่าเขาได้ยินเสียงของเธอจริงกับได้กลิ่นเลือดเธอ ไอ้เจ้านั้นมันบังอาจทำให้เธอมีแผลมันสมควรที่จะต้องโดนแบบนั้น
.
.
“ซาสึเกะหนูฝันเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอสวยมาก ดวงตาของเธอเป็นสีฟ้า สีผมของเธอเป็นสีชมพูเข้มกว่าหนูอีก เธออุ้มเด็กทารกไว้ เธอบอกว่าหนูว่าอย่าอาฆาต...”
“พอได้แล้วเธอลืมผู้หญิงคนนั้นไปสะ นั้นมันก็แค่ภาพลวงตามันก็แค่ความฝันมันไม่มีอะไรทั้งนั้น”ซาสึเกะพูดตัดบททันทีเมื่อเธอพูดในสิ่งที่เขาไม่อยากได้ยิน ซาสึเกะเดินเข้ามาลูบหัวของเธอก่อนที่เธอจะโผล่ขึ้นถามเขา แม้จะเป็นประโยคต้องห้ามแต่เธอก็อยากรู้อยู่ดี
“ซาสึเกะพ่อแม่หนูเป็นใครกันแน่นค่ะ”คำพูดของเธอมันทำให้เขาจ้องเธออย่างเขม็งเขาอยากจะโกธรเธอในสิ่งที่เขาสั่งว่าห้ามพูด แต่เมื่อเจอกันแววตาที่สั่นระริกไปด้วยความกลัวที่จะโดนดุกับใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา สิ่งนั้นมันทำให้เขาใจอ่อน
“ไม่รู้แล้วห้ามถามอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของเธออีก เธอจำไว้ฉันเท่านั้นที่เป็นครอบครัวเธอ”ประโยคที่ไม่ต่างจากเดิมมันทำให้เธอถอนหายใจ ยังไงสะซาสึเกะก็พูดถูกเขาเป็นครอบครัวของเธอ
“รู้แล้วค่ะหนูจะไม่ถามเรื่องแบบนี้อีกแล้วค่ะ”คำพูดของเธอมันทำให้เขายิ้ม ก่อนจะเข้าไปกอดเธอซากุระกอดตอบเธอหลับตารับอ้อมกอดที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นของเขา ทุกอย่างก็แค่ฝันร้ายในค่ำคืนที่ผ่านพ้นไปก็เท่านั้น สิ่งที่เธอเห็นเมื่อคืนมันไม่ใช่ความจริงหรือไงแต่ถ้าซาสึเกะบอกว่าไม่ใช่ความจริงก็ไม่ใช่ความจริง ความจริงคือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเธอไม่ใช่หรือไงคือ
ฮารุโนะ ซาสึเกะ แต่เดี่ยว ซาสึเกะไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกับเธอไม่ใช่หรือไงแล้วเขาจะเป็นครอบครัวของเธอได้อย่างไง
“ซาสึเกะ ซาสึเกะใช่ครอบครัวหนูจริงๆเหรอ”คำพูดของเธอมันทำให้คนตัวโตขมวดคิ้วก่อนจะจ้องเธอ
“ทำไมถึงถามแบบนั้น”
“ก็เพราะซาสึเกะใช้นามสกุลฮารุโนะ ส่วนหนูใช่นามสกุลอุจิวะ แล้วที่อยู่ในครอบครัวเดียวกันต้องเป็นคนที่ใช้นามสกุลเดียวกันไม่ใช่เหรอค่ะ”คำอธิบายของเธอมันนทำให้เขาแทบกุมขมัด ทำไมถึงซื่อบื้อได้ขนาดนี้นะ
“เฮ้ย..เธอโตพอที่จะรู้ทุกอย่างแล้วนะซากุระ ฉันเป็นเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นฉันจริงเปรียบเสมือนรอบครัวของเธอเข้าใจไหม”ซากุระพยักหน้ารับรู้
“ค่ะ แต่ว่านะซาสึเกะทำไมไม่มาใช้นามสกุลหนูละเราจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันไง”ซาสึเกะยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นเหมือนมีบางอย่างแอบแฝงอยู่
“ไม่ละอยู่แบบนี้ละ ฉันชอบนามสกุลนี้มากกว่า”
“เหรอค่ะ งั้นก็ได้แต่หนูขอให้ซาสึเกะอยู่กับหนูตลอดไปก็พอแล้ว”คำพูดที่ไร้เดืองสากับรอยยิ้มที่ใสซื่อนั้นเป็นหลักฐานที่ชี้ให้ชัดว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง ความรู้สึกในตอนที่เธอพูดเป็นจริงทั้งหมด
“ขอให้เธอทำจริงอย่างที่ปากว่า”คำพูดของเขามันทำให้เธอขมวดคิ้วก่อนจะมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจอะไรเขาจะหาว่าเธอจะถอนทิ้งเขาอย่างงั้นเหรอ
“ซาสึเกะจะหาว่าหนูจะทิ้งคุณไปเหรอไม่มีทางหรอกหนูไม่มีวันทิ้งซาสึเกะไปไหนเด็ดขาด”
“ฉันเชื่อ”พอถึงเวลานั้นเธอยังจะยืนยันคำพูดนั้นอีกอยู่ไหมฉันอยากรู้จัง
“ถ้าเชื่อทำไมต้องพูดแบบนั้นด้วยละค่ะ”พูดออกไปพร้อมกับทำหน้ามุ่ยใส่เขา ซาสึเกะยื่นมือไปจับจมูกของเธอพร้อมกับออกแรงดึง
“ก็เพราะฉันหมั่นไส้เธออย่างไงละ”
“ซาสึเกะหนูเจ็บนะ”คำพูดนั้นมันทำให้เขาถอนหายใจก่อนจะปล่อยมืออกจากจมูกบาง
“ไปทำกับข้าวได้แล้วไป”ซาสึเกะล้มตัวมานั่งโซฟาตรงข้ามกับเธอ สาวน้อยพยักหน้าก่อนจะเด้งตัวขึ้น
“รับทราบแล้วค่า”
.
.
“เธอทำเองเหรอ”ซากุระพยักหน้า ก่อนที่ซาสึเกะจะมองอาหารที่อยู่บนโต๊ะอาหารที่ดูดีกว่าแต่ก่อนที่เธอเข้าครัวครั้งแรก
“รับรองเลยค่ะว่าทานได้แน่นนอนเพราะคุณครูสอนดี”
“ฉันรู้”คำพูดของเขามันทำให้เธอยิ้มได้ก่อนจะมานั่งข้างๆเขา สาวน้อยตักซุปมะเขือเทศที่เขาชอบที่สุดให้
“เห็นว่าซาสึเกะชอบ กินสิค่ะหนูป้อน”ซากุระเอาซ้อนที่ตักซุปไว้ใกล้ๆปากเขาก่อนที่เขาจะทานมัน ไม่ว่าจะผ่านเรื่องร้ายมามากแค่ไหนขอแค่มีเขาอยู่ข้างๆเธอก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
“มาทีฉันป้องเธอบ้าง”ซาสึเกะพูดก่อนจะหยิบคุกกี้ขึ้นมา “ด้วยปาก”พูดพร้อมกับคาบมันไว้มันไว้พร้อมกับพยักคิ้วข้างหนึ่งให้เธอหนึ่งที การกระทำที่ท้าทายมันทำให้เธอยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เขาคงคิดว่าเธอไม่กล้าละสิถึงได้ทำอย่างนี้
“อย่ามาปล้ำหนูทีหลังก็แล้วกัน”ซากุระวางซ้อนไว้ก่อนจะลุกจากเก้าอี้ของตัวเอง เธอนั่งที่ตัวของเขาก่อนจะโน้มตัวลงไปงาบคุกกี้จากปากของเขากัดกินไปเรื่อยๆระหว่างนั้นเธอก็จ้องมองแต่ดวงตาสีรัตติกาลที่ดูน่าหลงใหลคู่นั้นโดยไม่วางตา เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายเปลือกตาของเธอก็ค่อยๆปิดลงช้าๆ
“อืม”ไม่เคยคิดเลยว่าแม่กระต่ายน้อยของขาจะกลายเป็นผู้ล่าไปแล้ว รสจูบที่เคยไร้เดืองสาในตอนนั้นกับมีความร้อนแรงในในตอนนี้ใครสอนเธอกันนะ(ก็เอ็งนั้นละ)ซากุระถอนริมฝีปากออกก่อนจะเอานิ้มโป้งลากริมฝีปากเขาจากบนไปล่างก่อนจะหยุดที่กึ่งกลางริมฝีปากของเขา การกระทำที่ดูยั่วยวนของเธอมันทำให้เขาแทบคลั่งซาสึเกะจับศีรษะเธอไว้ก่อนจะจูบเธอด้วยความรวดเร็วหัวใจของเธอสั่นไหว
รสจูบของเขาอันตรายกว่าของเธอตั้งพันเท่าซากุระกำคอเสื้อของเขาแน่นพร้อมกับตอนสนองรสจูบของเขาที่เธอกล้าทำถึงขนาดนี้ก็เป็นเพราะเธอได้จากเขาหมดนั้นละ สงสัยเชื้อหื่นกามคงแพร่ระบาดมาถึงเธอแล้วละมั้ง
มือหนาเลื่อนลงมาจนถึงเอวกิ่วก่อนจะสอดมือเข้าใต้ร่มผ้าแต่พอจะทำจริงๆน่าจะเป็นเธอที่ถอยหลังกลับแต่เป็นเขาเองที่ถอยเขาถอนจูบจากเธอพร้อมกับกดหัวเธอให้แนบที่หน้าอกของเขา
“ห้ามทำแบบนี้อีกนะขอร้องละ”เขาไม่อยากทำผิดมากกว่านี้พอได้แล้วละ สาวน้อยเอาใบหน้าซุกที่อกของเขาก่อนที่ซาสึกะจะลูบผมของเธอ
“........”
“เพราะตัวฉันนะไม่มีสิทธิ์แตะต้องเธออีกแล้ว”หรือจะเรียกง่ายๆว่าตัวของเขานะไม่มีสิทธิ์นั้นตั้งแต่เธอเป็นทารกแล้ว ขอโทษนะอาสึกิ ที่บางครั้งฉันรักษาสัญญาไม่ได้ ขอโทษจริงๆ
มือที่สามโผล่มาแล้วสะที่ไหน ว่าจะอัพตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่ท่านพ่ผู้บังเกิดก้าวได้นำตัวกระหม่อนไปหาท่านย่า ขออภัยด้วยนะเจ้าคืที่อัพช้า
ความคิดเห็น