ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คล้องใจรักราชนาวี

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่6 แม่ว่าหนักแล้วลูกงอนหนักกว่าอีก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.34K
      112
      1 พ.ค. 62


    บทที่6  แม่ว่าหนักแล้วลูกงอนหนักกว่าอีก

     

    “รุ้ง ได้เวลาเข้าประชุมแล้วพร้อมไหม” พี่สาวถามขึ้นท่ามกลางภวังค์ความหลัง พาให้คนมัวแต่นึกถึงความหลังจนยังไม่ได้ทานข้าวถึงกับกลืนน้ำลายเอือก

    “รุ้งยังไม่อิ่มเลยอะพี่ครีม”

    “โอ๊ย แล้วทำไมไม่รีบกินเอาแต่แยกเขี้ยวใส่กันทำไม” คนเป็นพี่บ่นให้ก่อนที่จะหยิบแคกเกอร์จากลิ้นชักยื่นให้น้องสาว “รองท้องไปก่อน ประชุมเสร็จค่อยมากินต่อ คราวนี้คุณหญิงลัลนาเข้าประชุมด้วย คนพวกนั้นจ้องเล่นงานเราพี่น้องอยู่ อีกอย่างท่านประธานใหญ่เข้าประชุมด้วย เราพลาดไม่ได้”

    “ค่ะ” น้องสาวตอบรับแล้วก็คว้าของว่างรองท้องมาทานก่อนจะหยิบงานเดินตามพี่สาวออกจากห้องไปโดยไม่สนใจชายหนุ่มแม้แต่น้อย

    1ชั่วโมงต่อมา

    เพราะรัมภาภัสร์มีพรสวรรค์ด้านนี้พร้อมทั้งพยายามศึกษาสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอการพรีเซนต์งานในครั้งนี้จึงถูกใจทั้งลูกค้าและได้รับความพึงพอใจจากท่านประธานใหญ่ผู้เป็นบิดาเลี้ยงของปฐวีด้วย การประชุมครั้งนี้จึงผ่านพ้นไปด้วยดี

    “ปรัชตาถึงจริง ๆ ที่รับคนเก่งแบบนี้เข้ามาทำงาน พวกคุณสองพี่น้องเก่งมาก ลูกค้าประทับใจกับชิ้นงานนี้มาก” คุณประภพบอกก่อนที่จะยิ้มให้และออกจากห้องประชุมไป

    ปฐวียกนิ้วให้น้องสาวของคู่ปรับก่อนจะตามพ่อเลี้ยงไป รัมภาภัสร์รีบพุ่งตรงกลับห้องทำงานทันทีก่อนที่จะมองหาข้าวกล่องที่ทานค้างไว้

    “อะ” เสียงสั้น ๆ ดังขึ้นข้าง ๆ พร้อมกับข้าวกล่องกล่องใหม่ที่ถูกยื่นมาให้

    “ก็เห็นมันเย็นแล้ว เลยไปซื้อมาให้ใหม่” เขาบอก “หรือไม่เอา”

    หญิงสาวคว้าไว้ทันทีก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ ทำเหมือนราชนาวีเป็นอากาศอีกครั้ง ไม่นานรติภัทรและคนอื่น ๆ ก็กลับเข้ามาในห้องโดยมีชายหนุ่มหน้าคุ้นตาเดินตามมาหลังสุด

    “เฮ้ย รัก” ปฐวีเป็นฝ่ายทักก่อนที่จะเดินเข้ามาตบไหล่คนเป็นทั้งเพื่อนทั้งญาติผู้พี่ “โอ้โห กล้ามเป็นมัดเลยว่ะ อิจฉาชะมัด”

    “แกก็มี”

    “มันก็ไม่เท่าแกนี่หว่า”

    “ไม่เจอกันหลายปีมาอิจฉากันเรื่องกล้ามเนี่ยนะ” ราชนาวีถามก่อนที่มองสำรวจคนไม่ได้เจอกันนาน “สบายดี?”

    “สบายตัว แต่ไม่สบายใจเว้ย แม่บังคับให้หมั้นกับผู้หญิงที่ไม่ชอบว่ะ แล้วแกอะ”

    “คิดว่าต้องมาตามลูกตามเมียทันทีที่เคลียร์งานเสร็จแบบนี้สบายดีไหมล่ะ?” เขาถามแล้วก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ “เออ แล้วแกมาเป็นประธานบริษัทนี้ได้ไงวะ ไหนสัญญากับน้าวีไว้ว่าจะกลับไปดูกิจการไง”

    “ยังไม่ถึงเวลา แม่ขอให้อยู่ด้วยจนไอ้ปราณมันเอาตัวเองรอดก่อนถึงจะปล่อยฉันกลับ” ปฐวีตอบก่อนที่จะชักชวน “เออ ไปดื่มกันไหมคืนนี้”

    “ไม่ดื่มเว้ย ยังไม่ได้เจอหนูเล็กเลย เออ นี่หนูเล็กไปไหน ไม่ใช่ว่าแม่จะหนีบติดตัวไว้เหรอ?” ไม่วายจิกคนเป็นเมียที่ไม่ว่าจะอะไรก็ต้องหนีบลูกไปด้วยตลอด

    “วันนี้โรงเรียนเปิดเทอมวันแรก หนูเล็กอยู่โรงเรียน” รติภัทรเป็นคนตอบเพราะรัมภาภัสร์ยังคงวุ่นอยู่กับการกิน ดูเหมือนว่าน้องสาวเธอจะกินเก่งกว่าแต่ก่อนมากตั้งแต่มาอยู่กับเธอหญิงสาวก็กินนั่นกินนี่เยอะแบบไม่กลัวอ้วน โดยเฉพาะของหวานที่รัมภาภัสร์โปรดปรานเป็นพิเศษในช่วงนี้

    “รุ้ง ฉันซื้อมาให้กล่องเดียวนะ อีกกล่องนั่นของฉัน” ราชนาวีส่งเสียงเมื่อหันไปเห็นหญิงสาวทานข้าวหมดไปแล้วกล่องหนึ่งและกล่องที่สองก็กำลังจะหมด นี่คุณเธอไปหิวมาจากไหนกัน

    “ก็ยื่นมาสอง ก็คือให้สองดิ” เธอบอกก่อนที่จะรีบทานต่อจนหมดราวกับกลัวชายหนุ่มจะมาแย่งก่อนจะดื่มน้ำอย่างสบายใจ

    “เดี๋ยว ๆ แกบอกว่าอีกกล่องของแก หมายความว่าแกยังไม่ได้กินมา?” รติภัทรถาม

    “กับข้าวมื้อล่าสุดคือบนเรือเมื่อเช้านี้”

    “แกนี่มันจริงเล้ย” รติภัทรและปฐวีเอ่ยพร้อมกันโดยไม่มีการนัดหมายก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดออกด้วยฝีมือของโสภิตา

    “พี่ปรัชคะ คุณป้าให้พี่ปรัชไปส่งน้องโซ่”

    “รอเดี๋ยวนะ” ปฐวีตอบก่อนจะตบไหล่เพื่อนสนิท “จะต้องไปแล้วว่ะ แลกเบอร์ติดต่อกันไว้แล้วกันไว้ค่อยนัดเจอกัน”

    “โอเค” ราชนาวีตอบก่อนที่จะแลกเบอร์กัน

    “ใครเหรอคะพี่ปรัช ลูกค้าเหรอหล่อจัง?” โสภิตาถามไม่ได้สนใจคนอื่นภายในห้อง เพราะรูปร่างที่ดูดีกว่าปฐวีและใบหน้าที่รูปงามกว่าดาราบางคนของราชนาวีทำให้หญิงสาวรู้สึกสนใจชายหนุ่มขึ้นมาไม่น้อย

    และคำถามนั้นของโสภิตาก็ทำให้รัมภาภัสร์เงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่ชอบใจ ไม่รอฟังว่าปฐวีจะตอบว่าอย่างไร หญิงสาวก้าวไปควงแขนชายหนุ่มผู้ถูกถามถึงทันที

    “สามีคุณพี่เองค่ะคุณน้องโส เอ้ย น้องโซ่ เก็บกิริยาบ้างนะคะเดี๋ยวใครเขาจะหาว่าหน้าไม่อายมายิ้มยั่วผัวชายบ้าน” เมื่อเช้าหล่อนว่าเธอหน้าไม่อายแต่งตัวมายั่วแฟนชาวบ้าน บ่ายนี้เธอขอตอกคืนด้วยคำที่แรงกว่าคงจะไม่ผิดอะไรหรอกมั้ง  เธอแค่จะตอกกลับโสภิตานะ ไม่ได้หวงอีตาผีทะเลนี่เลย

    “นี่แก”

    “ไปกันได้แล้วโซ่” ปฐวีรีบห้ามศึกเมื่อรู้สึกว่าศึกนี้จะทำให้เขาปวดหัวได้ “ไว้เจอกันรัก”

    “เหอะ เมื่อเช้ามาหาว่าเราแต่วตัวมายั่วแฟนชาวบ้าน ทีตัวเองโดนหาว่าอ่อยสามีชาวบ้านหน่อยล่ะทำเป็นรับไม่ได้” รัมภาภัสร์บ่นก่อนจะกลับไปที่โต๊ะ ราชนาวีมึนงงกับท่าทีของภรรยาสาวจึงเรียกเพื่อนสาวมาหา

    รติภัทรทิ้งงานมากระซิบกระซากอย่างว่าง่าย กว่าที่ราชนาวีจะรับรู้เรื่องราวทั้งหมดก็ใกล้เวลาเลิกเรียนของหนูน้อยรัมภาวีร์พอดี

    “พี่ครีมไปรับหนูเล็กคนเดียวได้ไหมอะ รุ้งมีอะไรต้องแก้นิดหน่อย” รัมภาภัสร์บอก

    “พี่เองก็นึกได้ว่ายังมีงานค้างน่ะสิ เอ่อ รัก แกไปรับหนูเล็กมาที่นี่หน่อยนะ นี่แผนที่โรงเรียน พอจะไปถูกไหม” คนเป็นพี่สาวหันไปถามเพื่อนสนิท

    “น่าจะถูกนะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ราชนาวีรับคำก่อนจะลุกออกจากห้องไป เขาพอจะรู้จากรติภัทรมาบ้างว่าบริษัทแห่งนี้เลิกงาน17.00น.และสามารถพาลูกพาหลานมารอได้และเด็กหญิงรัมภาวีร์ก็มาขลุกอยู่ที่นี่ตลอด1เดือนที่ผ่านมา

    แม้จะไม่ชินเส้นทางแต่ราชนาวีก็สามารถมาถึงโรงเรียนได้ในเวลาเลิกเรียนพอดีเป๊ะ  ชายหนุ่มหยิบของขวัญวันเกิดที่เตรียมไว้เดินเข้าไปภายในโรงเรียนด้วยก่อนที่จะมองหาลูกสาวตัวน้อยที่ไม่ได้พบหน้ากันแรมเดือน

    “อะ เราให้ เธอรับแล้วต้องเป็นแฟนกับเรานะหนูเล็ก” เสียงพูดติดจะแก่แดดดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลจากร่างสูงมากนักทำเอาคุณพ่อที่กำลังมองหาลูกสาวชะงักเมื่อได้ยินชื่อที่คล้ายกับลูกสาวของตนถูกเอ่ยออกมาจากปากของหนูน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นนำนม

    “ตกลง เราเป็นแฟนกัน ให้แล้วอย่าเอาคืนล่ะ” เสียงตอบกลับดังขึ้นยิ่งพาให้ใจราชนาวีรู้สึกหนักอึ้ง เสียงนั้นเป็นเสียงของหนูน้อยรัมภาวีร์แน่นอน แต่เด็กน้อยแก่แดดของเขาทำไมไปตอบรับไอ้เด็กแก่แดดที่ไหนไม่รู้นั่นง่ายจัง

    “อือ ๆ ไม่เอาคืนหรอก ต่อไปเราเป็นแฟนกันเนอะ แล้วจะเป็นแฟนกันไปจนโตเลย โตแล้วก็แต่งงานกัน”

    “ให้ได้โตถึงขั้นแต่งงานได้ก่อนเถอะค่อยมาพูดเรื่องแต่งงานกับลูกสาวฉัน” ราชนาวีปรากฏตัวขึ้นแทรกกลางในทันที ชายหนุ่มเป็นคนที่ปล่อยลูกสาวมีอิสระในทุกเรื่อง แต่เรื่องเดียวที่ไม่ได้คือเรื่องที่มีไอ้เด็กผู้ชายหน้าด้านเฉียดมาใกล้ลูกสาวเขานี่ล่ะที่เขายอมไม่ได้ แม้จะยังเด็กแต่เขาก็หวงลูกสาวเป็นอย่างมาก

    “พ่อตะเองเหรอ?”

    “เปล่า” สองหนูน้อยถามตอบกันก่อนที่เด็กชายอภิวัฒน์ หรือ ไอซ์ จะเอ่ยกับชายหนุ่ม “แฟนผมบอกว่าคุณลุงไม่ใช่พ่อเขา เพราะงั้นอย่ามายุ่งเรื่องคนรักกัน”

    “ไอ้เด็ก...”

    “ผู้ใหญ่จะรังแกเด็กเหรอ?”

    “ไม่ใช่สักหน่อย แล้วฉันก็เป็นพ่อหนูเล็กด้วย”

    “ก็หนูเล็กบอกไม่ใช่” หนุ่มน้อยค้านพร้อมกับกางปีกปกป้องแฟนสาววัยละอ่อน “อย่ามาทำร้ายหนูเล็กนะ”

    “โธ่ หนูเล็ก หนูบอกไอ้เด็กนี่ไปสิว่าพ่อรักเป็นพ่อของหนู”

    “เชอะ” เด็กหญิงรัมภาวีร์ทำงอนก่อนจะมองไปมองมา “แม่รุ้งกับครีมจ๋ายังไม่มาเลย ไอซ์ไปส่งเค้านะ”

    “ได้สิ เดี๋ยวไอซ์จะบอกคุณพ่อให้ไปส่งหนูเล็ก”

    เอากับเด็กสองคนนี้สิ ราชนาวีจนด้วยคำพูดไม่รู้ว่าระหว่างลูกสาวเขากับแฟนหนุ่มน้อยของคุณเธอนี่ใครแก่แดดกว่ากัน

    “หนูเล็กครับ แม่รุ้งกับครีมจ๋าให้พ่อรักมารับ กลับกับพ่อรักดีกว่านะ”

    “ไม่ต้อง เดี๋ยวผมไปส่งแฟนผมเอง” เด็กชายอภิวัฒน์บอกก่อนที่จะจูงมือเด็กหญิงไปหาบิดาเมื่อเห็นว่าคนเป็นพ่อมารับแล้ว เด็กน้อยทั้งสองไปหยุดหน้าบิดาของเด็กชายก่อนที่จะฟ้องอะไรสักอย่างที่ราชนาวีไม่ได้ยิน

    “โอเค แต่เดี๋ยวปะป๊าขอไปคุยกับคุณอาคนนั้นก่อนนะ” พ่อของอภิวัฒน์เป็นนายตำรวจหนุ่ม เขารู้ว่าลูกเขาค่อนข้างจะแก่แดด แต่ไอ้ที่ลูกชายแจ้นมาฟ้องว่าชายคนนั้นคิดจะจับตัวแฟนตัวน้อยของตัวเองไปนี่มันก็เชื่อยาก คงต้องไปคุยกันสักหน่อย

    “เอ่อ ผมร้อยตำรวจเอกอาทิตย์ครับ เป็นพ่อของไอซ์ เขาบอกว่าคุณจะไปทำร้ายแฟนเขา”

    “ผมนาวาตรีราชนาวีครับ เป็นพ่อของหนูเล็ก แต่พอดีลูกสาวงอนผมอยู่ แกค่อนข้างจะโตเกินวัยน่ะครับ” ราชนาวีแนะนำตัวเองพร้อมกับแสดงหลังฐานด้วยกลัวว่านายตำรวจหนุ่มจะไม่เชื่อ ทั้งหลักฐานการเป็นทหารเรือ และรูปถ่ายกับหนูน้อยรัมภาวีร์

    “โอ้ ลูกชายผมก็ค่อนข้างจะโตเกินวัยเหมือนกัน แกคงไม่ได้ทำให้คุณโกรธหรอกนะ?”

    “ผมไม่ชอบที่ลูกชายคุณมาแตะเนื้อต้องตัวลูกสาวผม” ราชนาวีบอกก่อนจะถอนใจพรืด “แต่ก็เอาเถอะ หนูเล็กคงไม่ยอมหายงอนกลับกับผมง่าย ๆ หรอก คุณช่วยไปส่งแกที่บริษัทสิรากรทีได้ไหม ผมจะขับตามไป”

    “อ่า ไม่มีปัญหาครับผู้การ วางใจเถอะ” ร้อยตำรวจเอกอาทิตย์บอกก่อนที่จะแลกเบอร์ติดต่อกันแล้วกลับไปหาสองหนูน้อย นายตำรวจหนุ่มขับรถไปส่งหนูน้อยรัมภาวีร์ที่บริษัทก่อนที่จะแยกตัวไปเมื่อคนเป็นพ่อของหนูน้อยจอดรถและลงมาหาลูกสาว

    “ดูสิ นี่อะไร” ชายหนุ่มเอ่ยกับลูกสาวพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญให้

    “พ่อรักขอโทษนะ ที่ต้องออกเรือด่วนไม่ได้อยู่ร่วมวันเกิดหนูเล็ก แต่พ่อไม่เคยลืมวันเกิดลูกนะ ของขวัญนี่พ่อก็ซื้อก่อนจะออกเรือด้วย”

    “หึ” คนเป็นแม่ว่าหนักแล้วคนเป็นลูกนั้นงอนหนักยิ่งกว่า หนูน้อยทำเชิดไม่สนใจใส่โดยไม่เหลือบมองของขวัญแม้แต่น้อย

    “หนูเล็ก พ่อรักขอโทษนะครับ หายโกรธนะคนดี”

    “ไม่หาย หนูเล็กจะโกรธ จะงอนนาน ๆ ไม่หายง่าย ๆ หรอก” เด็กหญิงรัมภาวีร์บอกก่อนจะเดินเข้าไปด้านในบริษัทอย่างคุ้นเคย แต่แล้วก็ชนเข้ากลับคุณหญิงลัลนาจนล้มตึง

    “หนูเล็ก ลูก เจ็บตรงไหนบ้าง” คนเป็นพ่อรีบถลาไปดูลูกทันที

    “นางยักษ์หน้าตาเหมือนคุณย่าใจร้าย รังแกหนูเล็กอีกแล้ว” เด็กหญิงว่าพร้อมกับร้องไห้โฮเสียงดังจนพนักงานคนอื่นในบริษัทมามุงดู

    “นี่ยัยเด็กหนูเล็ก ฉันไม่ได้รังแกเธอนะ เธอเดินมาชนฉันเอง” คุณหญิงลัลนาแย้ง ใจหนึ่งไม่ชอบรติภัทรและรัมภาภัสร์ก็จริงแต่เธอก็เอ็นดูเด็กหญิงคนนี้ไม่ใช่น้อย เธอไม่มีทางทำร้ายเด็กคนนี้หรอก แต่อาจจะทำปั่นปึ่งใส่เพราะไม่อยากยอมรับถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกขของลูกชายจริงตามข่าวลือ

    “แต่นางยักษ์ก็รังแกแม่รุ้ง พ่อรัก นางยักษ์ใจร้ายหน้าเหมือนคุณย่ารังแกแม่รุ้งกับหนูเล็ก” หนูน้อยบอก ในที่สุดราชนาวีก็เข้าใจแล้วว่าน้ำตาทั้งหมดทั้งมวลของลูกสาวนั้นไม่ใช่ของจริงแต่เป็นแผนการที่จะแก้ข่าวลือกู้ชื่อเสียงให้คนเป็นแม่ที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี

    “คุณน้าทำแบบนี้กับลูกเมียผมได้ยังไงกัน นี่ถ้าผมออกเรือนานกว่านี้คุณน้าคงจะเล่นกันถึงตายเลยใช่ไหม ผมผิดหวังในตัวคุณน้ามาก ไม่คิดเลยว่าคุณน้าจะทำร้ายหลานได้ลงคอ” เมื่อลูกสาวส่งบทคุณพ่อผู้ปกป้องลูกเมียมาให้มีหรือคนเป็นพ่อจะไม่รับ ชายหนุ่มเอ่ยขึงขังตัดพ้อคนเป็นน้าจนอีกฝ่ายใบ้กิน

    “น้า? หลาน?”

    “ก็น้าไง ผมราชนาวีไงครับ ลูกชายแม่รินพี่สาวฝาแฝดของคุณน้าน่ะ หนูเล็กก็ลูกผม จะไม่ใช่หลานคุณน้าได้ไง หรือคุณน้าตัดขาดแม่รินและพวกผมออกจากสารบบแล้ว”

    “ตายแล้ว ไม่ใช่แบบนั้นนะตารัก น้าไม่รู้จริง ๆ ว่าหนูเล็กเป็นลูกเรา” คุณหญิงลัลนาปฏิเสธเมื่อปะติดปะต่อเรื่องได้แล้วว่าทำไมเด็กหญิงรัมภาวีร์ถึงมาหน้าตาเหมือนตนได้ ที่แท้ก็หลานของพี่สาวฝาแฝดคลานตากันมานี่เอง แล้วที่ผ่านมาเธอทำอะไรลงไปกับสะใภ้และหลานของพี่สาวล่ะเนี่ย ฝ่ายนั้นรู้เข้าคงโกรธเธอมากแน่ ๆ

    “งั้นก็รู้ไว้เลยครับว่าหนูเล็กเป็นลูกผม รัมภาภัสร์ก็เมียผมใครทำร้ายหรือปล่อยข่าวเล่นงานลูกเมียผมผมจะไม่ปล่อยให้อยู่สบาย” ชายหนุ่มบอกเสียงดังพาเอาปาริตาที่แอบยืนมองอยู่สะดุ้ง เธอเองก็ทราบมาว่านอกจากคุณหญิงลัลนาแล้วเธอยังมีป้าอีกคนที่ยังมีชีวิตอยู่คือคุณหญิงลัลลารินเป็นภรรยาของนายพลทหารเรือผู้กว้างขวางอยู่ที่สัตหีบและมีลูกชายคนโตชื่อราชนาวี หรือพี่รัก และคุณหญิงลัลลารินนี่เองที่เป็นคนส่งเสียค่าเล่าเรียนให้กับเธอที่กลายเป็นกำพร้าตั้งแต่ยังเด็ก นี่เธอไปเล่นงานลูกเมียลูกพี่ลูกน้องที่มีพระคุณเข้าแล้วหรือนี่ แล้วแบบนี้จะไปกล้าสู้หน้าอีกฝ่ายได้อย่างไรกัน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×