คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่6 แม่ว่าหนักแล้วลูกงอนหนักกว่าอีก
บทที่6 แม่ว่าหนักแล้วลูกงอนหนักกว่าอีก
“รุ้ง ได้เวลาเข้าประชุมแล้วพร้อมไหม” พี่สาวถามขึ้นท่ามกลางภวังค์ความหลัง พาให้คนมัวแต่นึกถึงความหลังจนยังไม่ได้ทานข้าวถึงกับกลืนน้ำลายเอือก
“รุ้งยังไม่อิ่มเลยอะพี่ครีม”
“โอ๊ย
แล้วทำไมไม่รีบกินเอาแต่แยกเขี้ยวใส่กันทำไม” คนเป็นพี่บ่นให้ก่อนที่จะหยิบแคกเกอร์จากลิ้นชักยื่นให้น้องสาว
“รองท้องไปก่อน ประชุมเสร็จค่อยมากินต่อ คราวนี้คุณหญิงลัลนาเข้าประชุมด้วย
คนพวกนั้นจ้องเล่นงานเราพี่น้องอยู่ อีกอย่างท่านประธานใหญ่เข้าประชุมด้วย
เราพลาดไม่ได้”
“ค่ะ”
น้องสาวตอบรับแล้วก็คว้าของว่างรองท้องมาทานก่อนจะหยิบงานเดินตามพี่สาวออกจากห้องไปโดยไม่สนใจชายหนุ่มแม้แต่น้อย
1ชั่วโมงต่อมา
เพราะรัมภาภัสร์มีพรสวรรค์ด้านนี้พร้อมทั้งพยายามศึกษาสิ่งใหม่
ๆ
อยู่เสมอการพรีเซนต์งานในครั้งนี้จึงถูกใจทั้งลูกค้าและได้รับความพึงพอใจจากท่านประธานใหญ่ผู้เป็นบิดาเลี้ยงของปฐวีด้วย
การประชุมครั้งนี้จึงผ่านพ้นไปด้วยดี
“ปรัชตาถึงจริง
ๆ ที่รับคนเก่งแบบนี้เข้ามาทำงาน พวกคุณสองพี่น้องเก่งมาก
ลูกค้าประทับใจกับชิ้นงานนี้มาก”
คุณประภพบอกก่อนที่จะยิ้มให้และออกจากห้องประชุมไป
ปฐวียกนิ้วให้น้องสาวของคู่ปรับก่อนจะตามพ่อเลี้ยงไป
รัมภาภัสร์รีบพุ่งตรงกลับห้องทำงานทันทีก่อนที่จะมองหาข้าวกล่องที่ทานค้างไว้
“อะ”
เสียงสั้น ๆ ดังขึ้นข้าง ๆ พร้อมกับข้าวกล่องกล่องใหม่ที่ถูกยื่นมาให้
“ก็เห็นมันเย็นแล้ว
เลยไปซื้อมาให้ใหม่” เขาบอก “หรือไม่เอา”
หญิงสาวคว้าไว้ทันทีก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ
ทำเหมือนราชนาวีเป็นอากาศอีกครั้ง ไม่นานรติภัทรและคนอื่น ๆ
ก็กลับเข้ามาในห้องโดยมีชายหนุ่มหน้าคุ้นตาเดินตามมาหลังสุด
“เฮ้ย
รัก” ปฐวีเป็นฝ่ายทักก่อนที่จะเดินเข้ามาตบไหล่คนเป็นทั้งเพื่อนทั้งญาติผู้พี่
“โอ้โห กล้ามเป็นมัดเลยว่ะ อิจฉาชะมัด”
“แกก็มี”
“มันก็ไม่เท่าแกนี่หว่า”
“ไม่เจอกันหลายปีมาอิจฉากันเรื่องกล้ามเนี่ยนะ”
ราชนาวีถามก่อนที่มองสำรวจคนไม่ได้เจอกันนาน “สบายดี?”
“สบายตัว
แต่ไม่สบายใจเว้ย แม่บังคับให้หมั้นกับผู้หญิงที่ไม่ชอบว่ะ แล้วแกอะ”
“คิดว่าต้องมาตามลูกตามเมียทันทีที่เคลียร์งานเสร็จแบบนี้สบายดีไหมล่ะ?”
เขาถามแล้วก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ “เออ แล้วแกมาเป็นประธานบริษัทนี้ได้ไงวะ
ไหนสัญญากับน้าวีไว้ว่าจะกลับไปดูกิจการไง”
“ยังไม่ถึงเวลา
แม่ขอให้อยู่ด้วยจนไอ้ปราณมันเอาตัวเองรอดก่อนถึงจะปล่อยฉันกลับ” ปฐวีตอบก่อนที่จะชักชวน
“เออ ไปดื่มกันไหมคืนนี้”
“ไม่ดื่มเว้ย
ยังไม่ได้เจอหนูเล็กเลย เออ นี่หนูเล็กไปไหน ไม่ใช่ว่าแม่จะหนีบติดตัวไว้เหรอ?”
ไม่วายจิกคนเป็นเมียที่ไม่ว่าจะอะไรก็ต้องหนีบลูกไปด้วยตลอด
“วันนี้โรงเรียนเปิดเทอมวันแรก
หนูเล็กอยู่โรงเรียน” รติภัทรเป็นคนตอบเพราะรัมภาภัสร์ยังคงวุ่นอยู่กับการกิน
ดูเหมือนว่าน้องสาวเธอจะกินเก่งกว่าแต่ก่อนมากตั้งแต่มาอยู่กับเธอหญิงสาวก็กินนั่นกินนี่เยอะแบบไม่กลัวอ้วน
โดยเฉพาะของหวานที่รัมภาภัสร์โปรดปรานเป็นพิเศษในช่วงนี้
“รุ้ง
ฉันซื้อมาให้กล่องเดียวนะ อีกกล่องนั่นของฉัน”
ราชนาวีส่งเสียงเมื่อหันไปเห็นหญิงสาวทานข้าวหมดไปแล้วกล่องหนึ่งและกล่องที่สองก็กำลังจะหมด
นี่คุณเธอไปหิวมาจากไหนกัน
“ก็ยื่นมาสอง
ก็คือให้สองดิ”
เธอบอกก่อนที่จะรีบทานต่อจนหมดราวกับกลัวชายหนุ่มจะมาแย่งก่อนจะดื่มน้ำอย่างสบายใจ
“เดี๋ยว
ๆ แกบอกว่าอีกกล่องของแก หมายความว่าแกยังไม่ได้กินมา?” รติภัทรถาม
“กับข้าวมื้อล่าสุดคือบนเรือเมื่อเช้านี้”
“แกนี่มันจริงเล้ย”
รติภัทรและปฐวีเอ่ยพร้อมกันโดยไม่มีการนัดหมายก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดออกด้วยฝีมือของโสภิตา
“พี่ปรัชคะ
คุณป้าให้พี่ปรัชไปส่งน้องโซ่”
“รอเดี๋ยวนะ”
ปฐวีตอบก่อนจะตบไหล่เพื่อนสนิท “จะต้องไปแล้วว่ะ แลกเบอร์ติดต่อกันไว้แล้วกันไว้ค่อยนัดเจอกัน”
“โอเค”
ราชนาวีตอบก่อนที่จะแลกเบอร์กัน
“ใครเหรอคะพี่ปรัช
ลูกค้าเหรอหล่อจัง?” โสภิตาถามไม่ได้สนใจคนอื่นภายในห้อง
เพราะรูปร่างที่ดูดีกว่าปฐวีและใบหน้าที่รูปงามกว่าดาราบางคนของราชนาวีทำให้หญิงสาวรู้สึกสนใจชายหนุ่มขึ้นมาไม่น้อย
และคำถามนั้นของโสภิตาก็ทำให้รัมภาภัสร์เงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่ชอบใจ
ไม่รอฟังว่าปฐวีจะตอบว่าอย่างไร หญิงสาวก้าวไปควงแขนชายหนุ่มผู้ถูกถามถึงทันที
“สามีคุณพี่เองค่ะคุณน้องโส
เอ้ย น้องโซ่ เก็บกิริยาบ้างนะคะเดี๋ยวใครเขาจะหาว่าหน้าไม่อายมายิ้มยั่วผัวชายบ้าน”
เมื่อเช้าหล่อนว่าเธอหน้าไม่อายแต่งตัวมายั่วแฟนชาวบ้าน
บ่ายนี้เธอขอตอกคืนด้วยคำที่แรงกว่าคงจะไม่ผิดอะไรหรอกมั้ง เธอแค่จะตอกกลับโสภิตานะ ไม่ได้หวงอีตาผีทะเลนี่เลย
“นี่แก”
“ไปกันได้แล้วโซ่”
ปฐวีรีบห้ามศึกเมื่อรู้สึกว่าศึกนี้จะทำให้เขาปวดหัวได้ “ไว้เจอกันรัก”
“เหอะ
เมื่อเช้ามาหาว่าเราแต่วตัวมายั่วแฟนชาวบ้าน
ทีตัวเองโดนหาว่าอ่อยสามีชาวบ้านหน่อยล่ะทำเป็นรับไม่ได้”
รัมภาภัสร์บ่นก่อนจะกลับไปที่โต๊ะ ราชนาวีมึนงงกับท่าทีของภรรยาสาวจึงเรียกเพื่อนสาวมาหา
รติภัทรทิ้งงานมากระซิบกระซากอย่างว่าง่าย
กว่าที่ราชนาวีจะรับรู้เรื่องราวทั้งหมดก็ใกล้เวลาเลิกเรียนของหนูน้อยรัมภาวีร์พอดี
“พี่ครีมไปรับหนูเล็กคนเดียวได้ไหมอะ
รุ้งมีอะไรต้องแก้นิดหน่อย” รัมภาภัสร์บอก
“พี่เองก็นึกได้ว่ายังมีงานค้างน่ะสิ
เอ่อ รัก แกไปรับหนูเล็กมาที่นี่หน่อยนะ นี่แผนที่โรงเรียน พอจะไปถูกไหม”
คนเป็นพี่สาวหันไปถามเพื่อนสนิท
“น่าจะถูกนะ
เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ราชนาวีรับคำก่อนจะลุกออกจากห้องไป
เขาพอจะรู้จากรติภัทรมาบ้างว่าบริษัทแห่งนี้เลิกงาน17.00น.และสามารถพาลูกพาหลานมารอได้และเด็กหญิงรัมภาวีร์ก็มาขลุกอยู่ที่นี่ตลอด1เดือนที่ผ่านมา
แม้จะไม่ชินเส้นทางแต่ราชนาวีก็สามารถมาถึงโรงเรียนได้ในเวลาเลิกเรียนพอดีเป๊ะ ชายหนุ่มหยิบของขวัญวันเกิดที่เตรียมไว้เดินเข้าไปภายในโรงเรียนด้วยก่อนที่จะมองหาลูกสาวตัวน้อยที่ไม่ได้พบหน้ากันแรมเดือน
“อะ
เราให้ เธอรับแล้วต้องเป็นแฟนกับเรานะหนูเล็ก”
เสียงพูดติดจะแก่แดดดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลจากร่างสูงมากนักทำเอาคุณพ่อที่กำลังมองหาลูกสาวชะงักเมื่อได้ยินชื่อที่คล้ายกับลูกสาวของตนถูกเอ่ยออกมาจากปากของหนูน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นนำนม
“ตกลง
เราเป็นแฟนกัน ให้แล้วอย่าเอาคืนล่ะ” เสียงตอบกลับดังขึ้นยิ่งพาให้ใจราชนาวีรู้สึกหนักอึ้ง
เสียงนั้นเป็นเสียงของหนูน้อยรัมภาวีร์แน่นอน แต่เด็กน้อยแก่แดดของเขาทำไมไปตอบรับไอ้เด็กแก่แดดที่ไหนไม่รู้นั่นง่ายจัง
“อือ
ๆ ไม่เอาคืนหรอก ต่อไปเราเป็นแฟนกันเนอะ แล้วจะเป็นแฟนกันไปจนโตเลย
โตแล้วก็แต่งงานกัน”
“ให้ได้โตถึงขั้นแต่งงานได้ก่อนเถอะค่อยมาพูดเรื่องแต่งงานกับลูกสาวฉัน”
ราชนาวีปรากฏตัวขึ้นแทรกกลางในทันที
ชายหนุ่มเป็นคนที่ปล่อยลูกสาวมีอิสระในทุกเรื่อง
แต่เรื่องเดียวที่ไม่ได้คือเรื่องที่มีไอ้เด็กผู้ชายหน้าด้านเฉียดมาใกล้ลูกสาวเขานี่ล่ะที่เขายอมไม่ได้
แม้จะยังเด็กแต่เขาก็หวงลูกสาวเป็นอย่างมาก
“พ่อตะเองเหรอ?”
“เปล่า”
สองหนูน้อยถามตอบกันก่อนที่เด็กชายอภิวัฒน์ หรือ ไอซ์
จะเอ่ยกับชายหนุ่ม “แฟนผมบอกว่าคุณลุงไม่ใช่พ่อเขา
เพราะงั้นอย่ามายุ่งเรื่องคนรักกัน”
“ไอ้เด็ก...”
“ผู้ใหญ่จะรังแกเด็กเหรอ?”
“ไม่ใช่สักหน่อย
แล้วฉันก็เป็นพ่อหนูเล็กด้วย”
“ก็หนูเล็กบอกไม่ใช่”
หนุ่มน้อยค้านพร้อมกับกางปีกปกป้องแฟนสาววัยละอ่อน “อย่ามาทำร้ายหนูเล็กนะ”
“โธ่
หนูเล็ก หนูบอกไอ้เด็กนี่ไปสิว่าพ่อรักเป็นพ่อของหนู”
“เชอะ”
เด็กหญิงรัมภาวีร์ทำงอนก่อนจะมองไปมองมา “แม่รุ้งกับครีมจ๋ายังไม่มาเลย
ไอซ์ไปส่งเค้านะ”
“ได้สิ
เดี๋ยวไอซ์จะบอกคุณพ่อให้ไปส่งหนูเล็ก”
เอากับเด็กสองคนนี้สิ
ราชนาวีจนด้วยคำพูดไม่รู้ว่าระหว่างลูกสาวเขากับแฟนหนุ่มน้อยของคุณเธอนี่ใครแก่แดดกว่ากัน
“หนูเล็กครับ
แม่รุ้งกับครีมจ๋าให้พ่อรักมารับ กลับกับพ่อรักดีกว่านะ”
“ไม่ต้อง
เดี๋ยวผมไปส่งแฟนผมเอง” เด็กชายอภิวัฒน์บอกก่อนที่จะจูงมือเด็กหญิงไปหาบิดาเมื่อเห็นว่าคนเป็นพ่อมารับแล้ว
เด็กน้อยทั้งสองไปหยุดหน้าบิดาของเด็กชายก่อนที่จะฟ้องอะไรสักอย่างที่ราชนาวีไม่ได้ยิน
“โอเค
แต่เดี๋ยวปะป๊าขอไปคุยกับคุณอาคนนั้นก่อนนะ” พ่อของอภิวัฒน์เป็นนายตำรวจหนุ่ม
เขารู้ว่าลูกเขาค่อนข้างจะแก่แดด
แต่ไอ้ที่ลูกชายแจ้นมาฟ้องว่าชายคนนั้นคิดจะจับตัวแฟนตัวน้อยของตัวเองไปนี่มันก็เชื่อยาก
คงต้องไปคุยกันสักหน่อย
“เอ่อ
ผมร้อยตำรวจเอกอาทิตย์ครับ เป็นพ่อของไอซ์ เขาบอกว่าคุณจะไปทำร้ายแฟนเขา”
“ผมนาวาตรีราชนาวีครับ
เป็นพ่อของหนูเล็ก แต่พอดีลูกสาวงอนผมอยู่ แกค่อนข้างจะโตเกินวัยน่ะครับ” ราชนาวีแนะนำตัวเองพร้อมกับแสดงหลังฐานด้วยกลัวว่านายตำรวจหนุ่มจะไม่เชื่อ
ทั้งหลักฐานการเป็นทหารเรือ และรูปถ่ายกับหนูน้อยรัมภาวีร์
“โอ้
ลูกชายผมก็ค่อนข้างจะโตเกินวัยเหมือนกัน แกคงไม่ได้ทำให้คุณโกรธหรอกนะ?”
“ผมไม่ชอบที่ลูกชายคุณมาแตะเนื้อต้องตัวลูกสาวผม”
ราชนาวีบอกก่อนจะถอนใจพรืด “แต่ก็เอาเถอะ หนูเล็กคงไม่ยอมหายงอนกลับกับผมง่าย ๆ หรอก
คุณช่วยไปส่งแกที่บริษัทสิรากรทีได้ไหม ผมจะขับตามไป”
“อ่า
ไม่มีปัญหาครับผู้การ วางใจเถอะ”
ร้อยตำรวจเอกอาทิตย์บอกก่อนที่จะแลกเบอร์ติดต่อกันแล้วกลับไปหาสองหนูน้อย
นายตำรวจหนุ่มขับรถไปส่งหนูน้อยรัมภาวีร์ที่บริษัทก่อนที่จะแยกตัวไปเมื่อคนเป็นพ่อของหนูน้อยจอดรถและลงมาหาลูกสาว
“ดูสิ
นี่อะไร” ชายหนุ่มเอ่ยกับลูกสาวพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญให้
“พ่อรักขอโทษนะ
ที่ต้องออกเรือด่วนไม่ได้อยู่ร่วมวันเกิดหนูเล็ก แต่พ่อไม่เคยลืมวันเกิดลูกนะ
ของขวัญนี่พ่อก็ซื้อก่อนจะออกเรือด้วย”
“หึ”
คนเป็นแม่ว่าหนักแล้วคนเป็นลูกนั้นงอนหนักยิ่งกว่า
หนูน้อยทำเชิดไม่สนใจใส่โดยไม่เหลือบมองของขวัญแม้แต่น้อย
“หนูเล็ก
พ่อรักขอโทษนะครับ หายโกรธนะคนดี”
“ไม่หาย
หนูเล็กจะโกรธ จะงอนนาน ๆ ไม่หายง่าย ๆ หรอก” เด็กหญิงรัมภาวีร์บอกก่อนจะเดินเข้าไปด้านในบริษัทอย่างคุ้นเคย
แต่แล้วก็ชนเข้ากลับคุณหญิงลัลนาจนล้มตึง
“หนูเล็ก
ลูก เจ็บตรงไหนบ้าง” คนเป็นพ่อรีบถลาไปดูลูกทันที
“นางยักษ์หน้าตาเหมือนคุณย่าใจร้าย
รังแกหนูเล็กอีกแล้ว”
เด็กหญิงว่าพร้อมกับร้องไห้โฮเสียงดังจนพนักงานคนอื่นในบริษัทมามุงดู
“นี่ยัยเด็กหนูเล็ก
ฉันไม่ได้รังแกเธอนะ เธอเดินมาชนฉันเอง” คุณหญิงลัลนาแย้ง
ใจหนึ่งไม่ชอบรติภัทรและรัมภาภัสร์ก็จริงแต่เธอก็เอ็นดูเด็กหญิงคนนี้ไม่ใช่น้อย
เธอไม่มีทางทำร้ายเด็กคนนี้หรอก
แต่อาจจะทำปั่นปึ่งใส่เพราะไม่อยากยอมรับถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกขของลูกชายจริงตามข่าวลือ
“แต่นางยักษ์ก็รังแกแม่รุ้ง
พ่อรัก นางยักษ์ใจร้ายหน้าเหมือนคุณย่ารังแกแม่รุ้งกับหนูเล็ก” หนูน้อยบอก ในที่สุดราชนาวีก็เข้าใจแล้วว่าน้ำตาทั้งหมดทั้งมวลของลูกสาวนั้นไม่ใช่ของจริงแต่เป็นแผนการที่จะแก้ข่าวลือกู้ชื่อเสียงให้คนเป็นแม่ที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี
“คุณน้าทำแบบนี้กับลูกเมียผมได้ยังไงกัน
นี่ถ้าผมออกเรือนานกว่านี้คุณน้าคงจะเล่นกันถึงตายเลยใช่ไหม ผมผิดหวังในตัวคุณน้ามาก
ไม่คิดเลยว่าคุณน้าจะทำร้ายหลานได้ลงคอ”
เมื่อลูกสาวส่งบทคุณพ่อผู้ปกป้องลูกเมียมาให้มีหรือคนเป็นพ่อจะไม่รับ
ชายหนุ่มเอ่ยขึงขังตัดพ้อคนเป็นน้าจนอีกฝ่ายใบ้กิน
“น้า?
หลาน?”
“ก็น้าไง
ผมราชนาวีไงครับ ลูกชายแม่รินพี่สาวฝาแฝดของคุณน้าน่ะ หนูเล็กก็ลูกผม
จะไม่ใช่หลานคุณน้าได้ไง หรือคุณน้าตัดขาดแม่รินและพวกผมออกจากสารบบแล้ว”
“ตายแล้ว
ไม่ใช่แบบนั้นนะตารัก น้าไม่รู้จริง ๆ ว่าหนูเล็กเป็นลูกเรา”
คุณหญิงลัลนาปฏิเสธเมื่อปะติดปะต่อเรื่องได้แล้วว่าทำไมเด็กหญิงรัมภาวีร์ถึงมาหน้าตาเหมือนตนได้
ที่แท้ก็หลานของพี่สาวฝาแฝดคลานตากันมานี่เอง
แล้วที่ผ่านมาเธอทำอะไรลงไปกับสะใภ้และหลานของพี่สาวล่ะเนี่ย
ฝ่ายนั้นรู้เข้าคงโกรธเธอมากแน่ ๆ
“งั้นก็รู้ไว้เลยครับว่าหนูเล็กเป็นลูกผม
รัมภาภัสร์ก็เมียผมใครทำร้ายหรือปล่อยข่าวเล่นงานลูกเมียผมผมจะไม่ปล่อยให้อยู่สบาย”
ชายหนุ่มบอกเสียงดังพาเอาปาริตาที่แอบยืนมองอยู่สะดุ้ง
เธอเองก็ทราบมาว่านอกจากคุณหญิงลัลนาแล้วเธอยังมีป้าอีกคนที่ยังมีชีวิตอยู่คือคุณหญิงลัลลารินเป็นภรรยาของนายพลทหารเรือผู้กว้างขวางอยู่ที่สัตหีบและมีลูกชายคนโตชื่อราชนาวี
หรือพี่รัก และคุณหญิงลัลลารินนี่เองที่เป็นคนส่งเสียค่าเล่าเรียนให้กับเธอที่กลายเป็นกำพร้าตั้งแต่ยังเด็ก
นี่เธอไปเล่นงานลูกเมียลูกพี่ลูกน้องที่มีพระคุณเข้าแล้วหรือนี่
แล้วแบบนี้จะไปกล้าสู้หน้าอีกฝ่ายได้อย่างไรกัน
ความคิดเห็น