คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่5 เจ็บปวด
บทที่5 เจ็บปวด
แพทย์หญิงอินทุอรมองใบหน้าของผู้การวัย38ต้นๆอย่างเขินอาย สายตาที่เขาเมียงมองมาที่เธอมันช่างมีเสน่ห์น่าค้นหาแต่ก็ซ่อนความเจ็บปวดไว้ในนั้นไม่ใช่น้อย เธออยากจะเป็นคนลบความเจ็บปวดนั้นจังเลย 'จะมีโอกาสรึเปล่าน่ะ'
"ทานอะไรดีครับคุณหมอ" พายัพเมฆเอ่ยถามด้วยเสียงนุ่ม พยายามพิจารณาใบหน้าของคนกำลังศึกษาดูใจกันอยู่ คนตรงหน้าทั้งสวยและจิตใจดี ความจริงเขาไม่ได้มีสเปคขอแค่เป็นคนที่จิตใจดีทำเพื่อคนอื่นมากกว่าประโยชน์ส่วนตนและที่สำคัญต้องเป็นหมอหรือไม่ก็พยาบาล อกหักจากหมอพยาบาลมาหลายรอบจนลองเปลี่ยนไปคนอาชีพอื่นแต่ก็แห้วแบบเดิมพ่ายแพ้คนขัดขวางตลอด
อินทุอรตรงตามมาตรฐานที่ค่อยข้างเยอะไปนิดของเขาทุกอย่าง เขาก็ได้แต่หวังว่าเธอคนนี้จะไม่ถูกอำนาจมืดจัดการไปอีกคนเหมือนกับลดาภัตร
"รับอะไรดีคะ" เสียงซึมๆจ๋อยๆดังมาก่อนที่ร่างทะมัดทะแมงในชุดพนักงานจะเดินมายืนตรงหน้าของอินทุอร พายัพเมฆเงยหน้ามองเจ้าของเสียงใสนั้นอย่างตกใจ ไม่ใช่เพราะแปลกใจแต่ตกใจที่เธอคนนี้เปลี่ยนชุดเป็นพนักงานเสิร์ฟ
"ว่ายังไงค่ะ รับอะไรกันดี" เธอถามย้ำ และเธอก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พิมพ์ชนกนั่นเอง พายัพเมฆพาเธอด้วยเพราะเขามีเดตแต่ติดคำสั่งให้ดูแลความปลอดภัยของเธอ โชคดีที่ร้านนี้เป็นของพี่สาวเพื่อนเธอเลยเปลี่ยนชุดเป็นพนักงานไปซะเลย
"งั้นเอา..." หมอสาวเอ่ยสั่งอาหารก่อนที่เด็กสาวจะพยักหน้าแล้วเดินกลับไปที่เคาทเตอร์ ยื่นเมนูให้เพื่อนที่มาช่วยพี่สาวทำงานก่อนเปิดเทอม แล้วนั่งทำหน้าจ๋อยสนิท
มองไปที่พายัพเมฆกับหมอสาวแล้วเจ็บจี๊ดในใจอย่างบอกไม่ถูกแล้วก็พูดกับเพื่อนขึ้น "เขาดูรักกันจังเลยเนาะ แบบนี้เราคงไม่เหมาะที่จะไปป่วนในชีวิตเขาแล้ว"
พูดแล้วก็หันหน้าหนีรอให้อาหารที่จะนำไปเสิร์ฟ เพื่อนของเธอถอนหายใจแล้วเอ่ยบอก "ก็ไม่แน่หรอกน๊า แต่ก็ถอยออกมาก็ดีนะ"
"อือ เราจะถอย" พิมพ์ชนกเอ่ยบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปในครัวแล้วก็พูดกับตัวเอง "ถอย...ซะเมื่อไหรล่ะ เสียหน้ากันพอดี ใครก็รู้กันไปหมดว่าน้าพลายเป็นคู่หมั้นคู่หมายเรานะ เราจะอาละวาดให้เละเลย"
[ต่อ]
พิมพ์ชนกมองดูขนมเค้กที่ถูกตัดแบ่งแล้ววางลงบนจานด้วยฝีมือของพนักงานแล้วยิ้มออกมา "พี่จิบ นั่นใช่เค้กของโต๊ะสามเปล่า เดี๋ยวพริกไทยไปเสิร์ฟเอง"
พนักงานสาวไม่ห้ามปามได้แต่วางจานเค้กลงบนจานและวางแก้วน้ำผลไม้ปั่นสองแก้วไว้ข้างๆ ถ้าหากเธอรู้อนาคตเธอคงจะไม่มีทางส่งถาดเมนูนี้ให้แก่พิมพ์ชนก แต่กว่าจะรู้ซึ้งมันก็สายเกินไปแล้ว
พิมพ์ชนกรับถาดมาถือไว้ด้วยสีหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ เธอไม่อาละวาดใส่ผู้หญิงคนสวยคนนั้นให้โดนพายัพเมฆไม่ชอบใจไปมากกว่านี้หรอก
"เค้กและน้ำผลไม้หวานๆฉ่ำๆพวกนี้น่ะเหมาะสำหรับคนใจร้าย ใจดำอย่างน้าพลาย" ว่าแล้วเธอก็เดินดุ่มๆเข้าไปหาสองหนุ่มสาวทันที ถาดขนมถูกวางลงอย่างแรงก่อนที่พิมพ์ชนกจะหยิบจานขนมขึ้นมา
เธอยิ้มหวานมองหมอสาวที ทหารเรือหนุ่มใหญ่ที อาชีพของสองคนนี้ช่างเข้ากันจริงๆ หนุ่มก็หล่อ หล้อ หล่อ ผู้หญิงก็ส้วย สวย แต่ก็นะ ปล่อยให้รักกันไปชื่อเสียงเธอล่ะ ลูกสาวผบ.หมั้นหมายกันมาตั้งแต่เธอยังเป็นแค่เด็กน้อย ถ้าอยู่ๆเขาไปรักไปแต่งกันคนอื่นมีแต่เสียกับเสีย ก็ไม่รู้หรอกนะว่าที่ทำเนี่ยเพราะศักดิ์ศรี ชื่อเสียงหรือว่าเพราะอะไรที่มันก่อเกิดอยู่ลึกๆในใจ
พายัพเมฆมองด้วยสายตากังวล เขาอ่านไม่ออกว่าเด็กสาวจะทำอะไร ในขณะที่อินทุอรนั่นไม่ได้เห็นปฏิกิริยาผิดแปลกอะไรจึงไม่ได้สนใจก่อนที่เธอจะต้องตกใจเมื่อสาวน้อยพนักงานเสิร์ฟละเลงเค้กลงบนหน้าของพายัพเมฆ
"เค้กนี่สำหรับคนหลายใจ แฟนหลายคน มีคู่หมั้นแล้วยังชวนผู้หญิงคนอื่นมาเดต แล้วน้ำนี่ด้วย" พิมพ์ชนกพูดก่อนที่จะสาดน้ำสองแก้วใส่พายัพเมฆด้วยใบหน้าระรื่น อดไม่ได้ที่คิดในใจเกี่ยวกับตัวเอง 'ยัยปีศาจชัดๆพริกไทยเอ๊ย'
"นี่มันอะไรกันค่ะ น้องทำแบบนี้ได้ยังไง" แพทย์หญิงอินทุอรถามอย่างตกใจ ผู้คนในร้านเองก็ค่อนข้างแตกตื่น แต่พายัพเมฆผู้ถูกกระทำนั้นตกใจยิ่งกว่าใคร เขาคิดไว้แล้วว่าพิมพ์ชนกจะต้องเอาเค้กนั่นไปละเลงบนหน้าแน่ แต่ที่ผิดคลาดคือเขาคิดว่าคนที่จะถูกละเลงหน้านั้นคืออินทุอรแต่ผลสุดท้ายกลับเป็นเขาเอง
"หนูหมั้นไส้คะพี่ ไม่อยากให้พี่หลงเชื่อหลงรักผู้ชายคนนี้ น้าคนนี้มากรักหลายใจ เปลี่ยนผู้หญิงมากกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้า คู่หมั้นคู่หมายก็มีแล้วแค่ยังแรดมาหลอกพี่" พิมพ์ชนกบอก ไอ้คำเหล่านี้เธอเอามาจากไหน แน่นอนมาจากนิยายของมารดาทั้งนั้น ไม่รู้ว่าพี่คนสวยจะเชื่อเธอรึเปล่า
และแล้วความกังวลของพิมพ์ชนกก็เป็นจริงเมื่ออินทุอรเอ่ยบอก "นี่มันเรื่องของพี่จ้ะ พี่จะเชื่อไม่เชื่อน้องไม่ต้องยุ่ง ขอบคุณในความหวังแต่พี่ว่าน้องไร้มารยาทมากเกินไปนะ ผู้การพลายเขาอายุมากกว่าน้องสิ่งที่น้องทำนี่มันไม่งามเลย ถ้าไปทำกับคนอื่นระวังเขาจะว่าไร้กาลเทศะ ไม่มีสัมมาคารวะ พ่อแม่ไม่สั่งสอน อย่าไปทำกับใครอีกนะ"
คำพูดของแพทย์หญิงอินทุอรทำให้เด็กสาวหน้าชาขึ้นมาทันที มันไม่ใช่แบบที่เธอคิดไว้เลยนิ "แต่หนูพูดความจริงนะคะพี่"
"พี่ไม่เชื่อจ๊ะ เท่าที่พี่คุยและได้รู้จักเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้แน่นอน ส่วนเรื่องคู่หมั้นอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้พี่จะคิดและถามเขาอีกที ขอบคุณในความหวังดีแต่พี่ไม่เชื่อจ้ะ" อินทุอรสวนกลับมาทำเอาพิมพ์ชนกนิ่งอึ้งก่อนที่จะเดินหนีออกมา
พายัพเมฆมองตามไปอย่างตกใจไม่น้อย อินทุอรสู้คนในขณะเดียวกันวันนี้พิมพ์ชนกกลับยอมเลิกลาง่ายๆ ง่าย ง่ายเกินไป ทำไมถึงง่าย ยิ่งนับวันเด็กคนนี้ยิ่งเดาใจยากว่าจะทำอะไร
"ขอบคุณนะครับที่ไม่หลงเชื่ออะไรง่ายๆ ผมขอตัวไปล้างหน้าล้างตาก่อนนะ" เขาบอกแล้วก็เดินไปที่ห้องน้ำของร้านทันทีแต่ยังไม่ทันได้เข้าไปล้างหน้าล้างตาก็เห็นร่างของพิมพ์ชนกนั่งกอดเข่าอยู่หน้าห้องน้ำนั้นเอง
"คนอะไรใส่ร้ายคนอื่นแล้วไม่ขอโทษ" เขาพูดขึ้นลอยๆทำให้ร่างบางนั้นขยับหันมามอง ดวงตาคู่งามที่ถอดแบบมาจากผู้เป็นพ่อของพิมพ์ชนกแดงกร้ำ มีน้ำตาคลอล้นอยู่แค่ไม่ไหลออกมา มันเป็นสิ่งที่พายัพเมฆไม่คิดว่าจะมีปรากฏบนใบหน้าของเด็กสาวคนนี้
"คงจะมาต่อว่าสิ เอาเลยเค๊าพร้อมแล้ว จะว่าอะไรก็ว่า เค๊ามันบ้าไปเองไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมถึงทำแบบนั้น" เสียงที่ข่มความเสียใจอย่างยากลำบากเอ่ยบอก เธอเจ็บปวด เธอกำลังเจ็บปวด เจ็บแรกคงเพราะกลัวพายัพเมฆจะเกลียด หรือเกลียดไปแล้ว เจ็บที่สองเพราะคำต่อว่าของอินทุอร และเจ็บที่สามเพราะมองตัวเองแล้วมองอินทุอรมันช่างแตกต่างกัน มันเป็นความเจ็บปวดที่ไม่เข้าใจ แค่เห็นอินทุอรเชื่อมั่นในพายัพเมฆเธอก็เจ็บอย่างบอกไม่ถูก ไม่เข้าใจตัวเองสักนิดเดียว
"วัยแบบตัว ควรสนใจแค่การเรียนนะไม่ควรวอกแวก ไม่ควรว้าวุ่นแบบนี้ เค๊าจะไม่ได้ ไม่ว่า แต่ขอให้นั่งสงบๆอยู่ตรงนี้ด้วย ไม่ต้องออกไปวุ่นวายกับเขาและคุณหมอข้างนอกอีก ขอร้องเถอะอย่าทำลายการเดตครั้งนี้ของเค๊าเลย ตัวอาจถูกผู้ใหญ่ของเค๊าเป่าหูพูดกรอกหูทุกวันเรื่องหมั้น เรื่องแต่ง แต่ขอให้รู้ยังไงเค๊าก็ไม่แต่งกับเด็กแบบตัว อย่าว้าวุ่นใจไม่เข้าใจตัวเองแบบนี้เพราะเรื่องของเขาเลย"
ว่าแล้วพายัพเมฆก็เดินเข้าห้องน้ำไปไม่ได้สนใจเด็กสาวอีก มองเด็กไร้เดียงสานั่นมองง่าย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าพิมพ์ชนกมีอาการกำลังตกหลุมรักเขาแต่เขาไม่ เมื่อปณิธานกับตัวเองไว้แล้วยังไงเขาก็จะไม่ พิมพ์ชนกจะเป็นแค่ยัยเด็กร้ายกาจ และจะเป็นแบบนั้นไปตลอด
หลังจากที่หนุ่มใหญ่เดินเข้าห้องน้ำไปแล้วน้ำตาที่พยายามห้ามไว้ก็ไหลทะลักออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ พอแล้วพอกันที ทำไมเธอต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย เธอนะไม่ยุ่งวุ่นวายกับพายัพเมฆอีกแล้ว
"เป็นอะไรไปพริกไทย ตัวเป็นคนเข้มแข็งนิ เอาความเป็นตัวเองทั้งหมดกลับมาพริกไทยอย่าไปยึดติด อย่าไปสนใจคนคนนั้นให้มากนัก เขาก็แค่ลูกชายเพื่อนพ่อ ตัวไม่ได้คิดอะไรกับเขาซะหน่อย" พิมพ์ชนกบอกตัวเองก่อนที่จะเช็ดน้ำตา "พิมพ์ชนกต้องไม่ร้องไห้ ลูกสาวพ่อธามกับแม่พริกหวานเป็นคนเก่ง ไม่ร้องไห้"
เธอไม่รู้หรอกว่าทำไมเรื่องแค่นี้ถึงทำเธอร้องไห้ได้ ไม่รู้หรอกว่าทำไมช่วงหลังๆถึงได้อยากอยู่ใกล้พายัพเมฆ ยิ้มกริ่มแค่เขาบอกฝันดี ใจแอบเต้นแปลกๆเมื่อเข้าใกล้ ชอบเอาตัวไปใกล้ๆเขาไปก่อกวนเขาอยู่เรื่อยๆ
และหลัวจากนี้เธอก็จะไม่อยากรู้อีกแล้ว ไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว จบกันทีกับอาการแปลกๆของตัวเอง จบกันทีกับการเอาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆพายัพเมฆ จบกันที่กับการเป็นคู่หมั้น อีกไม่นานผู้หญิงคนนั้นคงจะเป็นคนที่ได้ก้าวเดินเคียงข้างพายัพเมฆ ผู้หญิงที่เพรียบพร้อมคนนั้น ยัยเด็กกะโปโลนิสัยไม่ดีคนนี้จะไม่เข้าไปก่อกวนอะไรอีกแล้ว พอแล้ว มันเจ็บปวดสุดๆแล้ว
ความเจ็บปวดมันไม่ได้เกิดขึ้นกับแค่พิมพ์ชนกในอีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงต่อมาความเจ็บปวดมันก็มาเยือนพายัพเมฆเข้าอย่างจัง เจ็บปวดกว่าครั้งไหนๆที่ผ่านมา
"ผมชอบคุณหมอนะครับ วันนี้มันทำให้ใจผมชอบคุณหมอมากขึ้นอีก คุณหมอหนักแน่นมาก คุณหมอจะให้โอกาสคบหากับผมได้มั้ยครับ" พายัพเมฆเอ่ยขึ้นหลังจากที่ล้างหน้าล้างตาแล้วกลับมานั่งคุยกับหมอสาวต่อ
อินทุอรยิ้มแต่ในดวงตากระอักกระอวนแล้วบอกว่า "ค่ะ ออยเองก็ชื่นชอบคุณนะคะ คุณควบคุมสติเก่งมากถ้าเป็นคนอื่นคงตะคอกใส่น้องคนนั้นไปแล้ว"
เธอไม่ได้ให้โอกาสเขา เธอให้โอกาสตัวเองให้ลืมความรักเก่าๆของตัวเองต่างหาก เมื่อคนที่เธอรัก เขาผลักไสเธอมาให้พายัพเมฆ เธอก็จะคบหาและเปิดใจให้ผู้ชายคนนี้ดู
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของพายัพเมฆแต่มันปรากฏขึ้นไม่นานด้วยการมาของคนบางคน
"ยัยออยจะคบกับใครไม่ได้ทั้งนั้น" เสียงแหบเหี่ยวตา อายุของหญิงชราคนหนึ่งเอ่ยขึ้นกลางร้านทำให้พายัพเมฆและอินทุอรต้องหันไปมอง พิมพ์ชนกเองก็ยังต้องมอง
"คุณย่า พี่แอม หมอปรัช" อินทุอรเรียกบุคคลทั้งสามที่ยืนอยู่ด้านหลังของพายัพเมฆอย่างตกตะลึง พายัพเมฆเองก็ตกใจไม่น้อยที่เห็นเพื่อนรักมองเขาด้วยสายตากึ่งรู้สึกผิดกึ่งไม่ชอบใจ
"ยัยออยคงคบกันคุณไม่ได้หรอก เพราะยัยออยกำลังจะแต่งงานกับนายปรัชในเดือนหน้า" อินทรพี่ชายแท้ๆของอินทุอรเอ่ยบอก เขาไม่รู้จักไอ้คนที่ขอน้องเขาเป็นแฟนแต่ก็อาละวาดใส่ไม่ได้เพราะนักปราชญ์ขอร้องไว้
"ไม่ค่ะ ออยจะไม่แต่งงานกับเขา ออยจะเป็นกับคุณพลายอย่างที่เขาต้องการ" แพทย์หญิงอินทุอรเอ่ยบอกแต่แล้วก็ต้องหน้าซีดลง
อินทรมองหน้าน้องสาวแล้วเอ่ยบอก "ทั้งที่แกเป็นของเขาแล้วแถมยังท้องลูกเขางั้นเหรอออย พี่ไม่ยอมหรอก"
"แล้วไง ก็เขาไม่ใช่เหรอที่แนะนำให้ออยได้รู้จักกับคุณพลาย เขานิที่ยัดเยียดเมียตัวเองให้คนอื่น เมื่อเขาต้องการออยก็จะทำ" คำพูดกึ่งเสียใจกึ่งประชดของอินทุอรทำให้พายัพเมฆเข้าใจได้ทันที
เขามองไปยังเพื่อนรักหนุ่มใหญ่ที่ครองความโสดคู่กันมายาวนาน
"พลาย ฉันขอโทษว่ะ จริงที่ฉันแนะนำเขาให้แก เพราะฉันคิดว่าคงไม่รักเขา แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ว่ะ ฉันรักเขา ฉันขอโทษเพื่อน" นายแพทย์นักปราชญ์เอ่ยกับเพื่อนรักก่อนทันที เขาแคร์ความรู้สึกของพายัพเมฆ เขาผิดเองที่ทำแบบนี้
พายัพเมฆไม่พูดอะไรหันมองใบหน้าที่ฉ่ำน้ำตาของอินทุอรแล้วหันมองมาที่นักปราชญ์อย่างเจ็บปวด
"เพื่อน เขาไม่ทำกับเพื่อนแบบนี้หรอก ครั้งนี้แกไม่ได้ปลอบว่าแกเหยียบซ้ำ ไม่เจ็บนะที่คุณหมอมีแฟนหรือท้องมันเจ็บที่แก และเขาที่ใช้ความรู้สึกของฉันมาเป็นเครื่องมือประชดไปประชดกันมา ฉันกับแกคงไม่ต้องคุยกันอีกนาน" พายัพเมฆพูดแล้วก็ต่อยเพื่อนรักเสียหนึ่งหมดก่อนจะเดินออกไปแต่อินทรขวางไว้
อินทรต่อยด้วยความยัวะ นักปราชญ์เป็นเพื่อนเขา นายคนนี้เป็นใครถึงมาต่อยเพื่อนเขา สติของพายัพเมฆนั่นไม่เข้าที่เสียแล้วเขาควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้จนล้มทรุดลงกับพื้น ปกติเขาจะระวังตัวแต่ตอนนี้ไม่ได้ระวังตัวสักนิดว่าจะโดนหมัดหนักๆซัดเข้าหน้าจึงไม่ทันหลบทำให้โดนเต็มๆจนถึงกับมึน
อินทรคิดจะเข้าซ้ำแต่ก็มีร่างของเด็กสาวคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จักเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำผลไม้ที่ถูกสาดมาใส่เต็มหน้า
"ลูกผู้ชายไม่ควรจะซ้ำหรือรังแกคนไม่มีทางสู้ ถ้าอยากจะต่อยเขา ต้องผ่านหนูไปก่อน" พิมพ์ชนกเอ่ยบอกอย่างกล้าหาญ น้ำเสียงจริงจังที่ดังผ่านเข้ามาในหูของคนมึนๆหัวมันช่างเพราะจับจิตอย่างบอกไม่ถูก
"ตายแล้ว ตัวแค่นี้นักเลงจังนะเราคิดว่าตัวเองเป็นใครห๊ะ" หญิงชราที่เงียบอยู่นานเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
"ก็คิดว่าเป็นลูกผบ.หน่วยสงครามพิเศษทางเรือไง ถ้าอยากไฝว้ก็เข้ามา แถวนี้นะถิ่นหนู พุ่งมาเมื่อไหรพวกคุณเละแน่" เด็กสาวเอ่ยบอกก่อนที่จะหันไปมองอินทุอรและหมอนักปราชญ์
"หนูไม่รู้นะว่าคุณสองคนเป็นอะไรกันแต่หนูไม่ชอบที่มาใช้หัวใจคนอื่นเป็นเครื่องมือประชดกันแบบนี้ อย่าใช้ใครเป็นเครื่องมือประชดกันแบบนี้อีก โดยเฉพาะผู้ชายคนนี้ ถ้าหนูไม่อนุญาตไอ้หน้าไหนก็อย่าคิดมาทำร้ายจิตใจหรือหลอกใช้เขาอีก" พิมพ์ชนกบอกแล้วนั่งยองๆลงตรงหน้าพายัพเมฆ แล้วค่อยๆพยุงร่างนั้นลุกขึ้น และเดินออกไป
พายัพเมฆเดินไปตามที่เด็กสาวหิ้วไปในใจเจ็บ เจ็บที่ไม่ชินเหมือนครั้งก่อนๆ เพราะเขาเทิดทูนในคำว่าเพื่อนมากเกินไป หลงคิดว่ามิตรภาพระหว่างเขากับนักปราชญ์จะเป็นเหมือนมิตรภาพของพ่อเขาและธนกฤต
ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้ และมากไปกว่านั้นคนที่อยู่ข้างๆกลับเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆคนนี้
ยังไม่จบอย่าเพิ่งขบคิดไรมาก ตอนต่อไปยังมีต่อ บอกแค่นี้แหละจ้า ตอนหน้าอาจมีความทำร้ายจิตใจมนุษย์โลกสวยนิดนุงด้วยแหละ แต่รับรอบความฟินจิกหมอนต้องมีหลังจากเวลาเหล่านี้ผ่านไป
ความคิดเห็น