ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คล้องใจรักราชนาวี

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่4 การปรากฏตัวของสามี

    • อัปเดตล่าสุด 23 เม.ย. 62




     

    บทที่4 การปรากฏตัวของสามี

     

    เป็นเวลา1เดือนเต็ม ๆ ที่รัมภาภัสร์และเด็กหญิงรัมภาวีร์มาพักอยู่กับรติภัทรและทำงานในบริษัทสิรากร เช้าวันนี้เป็นวันแรกที่หนูน้อยจะได้ไปโรงเรียน เด็กหญิงรัมภาวีร์ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษส่วนคนเป็นแม่นั้นกังวลเป็นพิเศษเช่นกัน

    เพราะที่นี่ไม่ใช่สัตหีบ ไม่ใช่โรงเรียนที่หนูน้อยเคยเรียน ไม่ใช่และจะเรียกได้ว่าที่นี่ไม่ใช่ถิ่นที่หนูน้อยไม่ต้องกลัวอะไรด้วยก็ได้

    ที่โรงเรียนเดิมเป็นโรงเรียนที่อยู่ใกล้ฐานทัพ ทุกคนรู้จักลูกสาวผู้การราชนาวี เด็ก ๆ ในรุ่นเดียวกันที่พ่อมียศน้อยกว่าก็ไม่มีใครกล้ารังแกแต่ที่นี่ไม่ใช่ ไม่มีใครรู้จักหนูน้อยทำให้คนเป็นแม่อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงกลัวลูกสาวจะถูกรังแก

    “แม่รุ้งไม่ต้องห่วง หนูเล็กเอาอยู่ รีบไปทำงานเถอะค่ะ เข้างานสายเดี๋ยวป้าคนนั้นจะมาหาเรื่องอีก บายค่ะแม่รุ้ง ครีมจ๋า” อย่างหนึ่งในตัวเด็กหญิงรัมภาวีร์ที่ทำให้ทุกคนเบาใจได้ก็คือความฉลาดและโตเกินวัยที่ทำให้หนูน้อยไม่งอแงไม่อยากไปโรงเรียนหรือทำตัวติดคุณแม่ หนูน้อยบอกลาคุณแม่และคุณป้าแล้วก็วิ่งไปหาคุณครูโดยไม่แสดงอาการอะไรให้น่าเป็นห่วง เป็นรัมภาภัสร์เสียเองที่ติดลูกสาวจนไม่อยากให้ห่างกาย

    “ไป ไปทำงานกัน” รติภัทรชวนน้องสาวก่อนที่สองพี่น้องจะมุ่งตรงไปยังบริษัท

    หนึ่งเดือนมานี้รัมภาภัสร์ได้พบเจออะไรหลาย ๆ อย่าง ทั้งฝาแฝดของแม่สามีที่ในตอนแรกเข้ามาระรานรติภัทรแต่พอหนูน้อยเผลอเรียกคุณย่าและปาริตาปล่อยข่าวลือโคมลอยว่าหนูน้อยหน้าตาเหมือนคุณหญิงลัลนาอาจจะเป็นลูกสาวที่ปฐวีไข่ทิ้งไว้ก็เบนเข็มมาเล่นงานหญิงสาวแทน ทั้งคู่หมั้นสาวของปฐวีที่มักจะตามติดคุณหญิงลัลนามาหาเรื่องรัมภาภัสร์จนหญิงสาวหัวเสีย ทั้งปาริตาและพวกที่คอยปั่นข่าวลือทำให้หลายคนเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันเรื่องปฐวีและเด็กหญิงรัมภาวีร์ ทั้งปราณภพที่เข้ามาทำตัวสนิทสนมขายขนมจีบแบบเรียบ ๆ

    รัมภาภัสร์ไม่คิดเลยว่าในระยะเวลา1เดือนเธอจะพบเจออะไรมากขนาดนี้ แต่นอกเหนือจากเรื่องของตัวเองแล้วหญิงสาวก็ต้องถอนหายใจพรืดด้วยเรื่องของลูกสาว แม้จะดูปกติแต่ในยามหลับหนูน้อยก็มักจะละเมอถึงคนเป็นพ่ออยู่บ่อยครั้งทำให้เธออดคิดไม่ได้ ว่านี่ล่ะนะสายสัมพันธ์พ่อลูก มันตัดกันไม่ขาดจริง ๆ แม้หนูน้อยจะทำตัวเก่งกล้าแต่สุดท้ายก็ตัดพ่อรักออกไปไม่ได้

    แล้วเมื่อไหร่อีตาคนนั้นจะกลับขึ้นฝั่งสักทีเนี่ย คนเป็นแม่อย่างเธอไม่ชอบนักหรอกนะที่ลูกสาวละเมอสะอื้นหาพ่อแบบนี้น่ะ แค่เห็นลูกทุกข์ใจหัวอกคนเป็นแม่ก็ทุกข์กว่าร้อยเท่าแล้ว

    “ผู้หญิงสมัยนี้นี่นะ แต่งตัวมาทำงานก็ช่างล่อเสือล่อตะเข้ หน้าไม่อาย” เสียงตำหนิลอย ๆ ดังขึ้นในขณะที่สองพี่น้องกำลังจะเดินเข้าไปยังห้องทำงานของตัวเองทำให้รัมภาภัสร์ชะงักไม่น้อย ด้วยว่าวันนี้เธอถูกลูกสาวคะยั้นคะยอให้ใส่ทำงานที่ส่งให้ลุคของเธอดูเปรี้ยวและเซ็กซี่

    “นั่นน่ะสิคะ เป็นสาวเป็นนางพอว่าแต่นี่มีลูกมีเต้าแล้วยังทำตัวหน้าไม่อายแต่งตัวมายั่วแฟนชาวบ้าน” โสภิตา คู่หมั้นสาววัย27ของปฐวีเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงตำหนิและเหยียดหยาม

    “แหม่ น้องโสก็พูดเกินไป อิจฉาน้องสาวพี่ก็บอกเถอะค่ะ ไม่ต้องอารัมภบทให้ยืดยาว หุ่นไม่ให้ หน้าไม่เป๊ะเหมือนเขาแล้วมาแขวะเขาแบบนี้ไม่ไหวเลยอะ” รติภัทรตอบกลับก่อนที่จะดึงน้องสาวเข้าไปในห้องก่อนที่รัมภาภัสร์จะทนไม่ไหว ช่วงนี้น้องสาวเธอยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย ขืนรัมภาภัสร์ทนไม่ไหวไม่อยากจะคิดภาพเลยว่าแม่โสเภณี เอ้ย โสภิตานั่นจะเลือดกบปากขนาดไหน

    “กรี๊ด นังเจ้ครีม”

    “ไม่ต้องไปสนใจคำพูดสองคนนั้นหรอกรุ้ง ชุดนี้ก็ไม่ได้โป๊อะไร เราใส่แล้วดูมีเสน่ห์ขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย มั่นใจเข้าไว้ อย่าไปแคร์ปากคนขี้อิจฉาเลย” รติภัทรบอกกับน้องสาวก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนมาเปิดดูเมื่อมีเสียงแจ้งเตือนจากไลน์เข้ามา

    ไลน์

    ส่งโลเคชั่นที่ทำงานมาหน่อยสิครีม : รัก26

    ฉันเพิ่งขึ้นฝั่ง : รัก26

    นี่คือขอร้อง? : สีครีม

    คือต้องให้อ้อนวอนก่อน? : รัก26

    ก็ต้องสิยะ ทำไมจะต้องแชร์ไปให้เสียเวลาทำงานด้วยล่ะ : สีครีม

    เอาให้พอดีสีครีม อย่าเยอะ : รัก26

    ตลอด ขอร้องใครไม่เป็นตลอด แล้วแบบนี้จะง้อลูกเมียรอดไหมเนี่ย : สีครีม

    ได้โปรด : รัก26

    “แค่เนี่ย เฮ้อ” คนอยากได้ยินคำขอร้องของเพื่อนถอนใจพรืดก่อนจะยอมส่งโลเคชั่นไปให้

    เพราะฉันรักหนูเล็กหรอกนะ ไม่ใช่เพราะคำขอร้องสั้น ๆ ห้วน ๆ ห่วย ๆ ของแก : สีครีม

    ขอบใจ : รัก26

    “อะไรเหรอคะเจ้” ลูกปลา เด็กฝึกงานสาวถามขึ้นเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของหัวหน้าทีมก่อนที่น้องสาวอย่างรัมภาภัสร์จะถามพี่สาวขึ้นด้วย

    “นั่นสิคะพี่ครีม อะไรเหรอ?”

    “เปล่าหรอก ทำงานกันดีกว่า” หญิงสาวบอกปัดก่อนจะตั้งใจทำงานของตนไม่แสดงพิรุจให้ใครได้เห็นแต่เมื่อไม่มีใครสนใจเธอก็ลอบยิ้ม ในที่สุดราชนาวีก็กลับฝั่งสักที คราวนี้ล่ะคุณหญิงลัลนามีเงิบ เธอมั่นใจ

    เวลาพักเที่ยงมัณฑนากรสาวน้องใหม่ของทีมยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพรีเซนต์งานในช่วงบ่ายวันนี้โดยมีพี่สาวคอยเฝ้ามองไม่ได้ออกไปหาอาหารรับประทานเหมือนกับลูกทีมคนอื่น ๆ

    หญิงสาวลอบส่งข้อความไปหาใครคนหนึ่งโดยที่น้องสาวไม่รู้ตัว

    รัก แกมาถึงยัง ซื้อข้าวร้านนี้มาให้ฉันกับรุ้งหน่อย ยัยเด็กดื้อมัวแต่สนใจงานยังไม่กินข้าวเลย : สีครีม

    (โลเคชั่นร้าน) : สีครีม

    อยู่แถว ๆ หน้าร้านพอดี เอาไร : รัก26

    ทางฝั่งราชนาวีที่ได้รับข้อความตอบรับข้อความก่อนที่จะดับเครื่องยนต์และเข้าไปภายในร้านที่เพื่อนสาวแชร์โลเคชั่นมาให้ ชายหนุ่มสั่งอาหารก่อนที่จะนั่งรอโดยไม่สนใจสายตาของกลุ่มคนที่มองมายังตน

    ทิวาและเพื่อนที่ออกมาทานอาหารเที่ยงมองชายหนุ่มแล้วก็ได้แต่ยิ้มเขินเพราะชายหนุ่มนั้นหล่อเหลาเสียยิ่งกว่าปฐวีและปราณภพที่คนกว่าค่อนบริษัทยกให้เป็นขวัญใจเสียอีก

    “แกว่าเขาทำงานอะไรอะ พ่อหล่อล้ำบึกคนนั้น” ทิวาถามเพื่อน

    “ฉันว่าเป็นเทนเนอร์”

    “แต่ฉันว่ารับราชการ ไม่ตำรวจก็ทหาร”  ทิวาและเพื่อนผู้เป็นลูกทีมของรติภัทรทั้งหมดกระซิบกระซากกันเบา ๆ ด้วยความสนใจ

    ในขณะที่ราชนาวีนั่งรออย่างสงบหูก็แว่วได้ยินเสียงคนกลุ่มอื่นพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงดูถูก

    “แกได้ยินเรื่องยัยคุณรุ้งน้องสาวเจ้ครีมปะ เขาว่านางแรดมาก ก่อนนี้เคยทำแท้งแล้วก็ท้องไม่มีพ่อด้วยนะ”

    “อ้าวไหนเขาว่ายัยเด็กหนูเล็กนั่นหน้าเหมือนคุณหญิงลัลนา น่าจะเป็นลูกบอสไง”

    “โอ๊ย มีข่าวใหม่แล้วจ้า เขาว่าไปขุดประวัตินางมา เคยทำแท้งมาแล้วสองหน ส่วนยัยหนูเล็กนั่นน่ะปล่อยท้องจับบอส”

    “ร้ายอะ ก็อย่างว่าแหละ หน้าตานางก็ดูเหมือนดาวยั่วอยู่แล้ว”

    “รอดูเถอะ เดี๋ยวคุณหญิงลัลนาก็ไล่ตะเพิดออกไป หรือไม่บอสใหญ่อาจจะมาจัดการเองก็ได้”

    ถ้อยคำสนทนาของกลุ่มคนไม่ได้ทำให้ราชนาวีหลงเชื่อแต่กลับทำให้ชายหนุ่มถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย เขามั่นใจว่าคนที่คนกลุ่มนี้พูดถึงคือรัมภาภัสร์อย่างแน่นอน  นี่แม่ของลูกเขาไปทำอะไรให้คนเหล่านี้กันถึงได้มาจับกลุ่มว่าร้ายคุณเธอเสีย ๆ หาย ๆ ไม่มีมูลขนาดนี้ 1เดือนมานี้คุณเธอคงจะต้องเจอแต่เรื่องแบบนี้สินะ

    “พวกแกนี่มันสกปรกจริง ๆ วัน ๆ ดีแต่นินทาคนอื่น” ทิวาเอ่ยขึ้นหลังจากที่ได้ยินบทสนทนาระคายหู

    “ก็มันเป็นความจริงนี่ หรือพวกแกจะเถียงว่าหน้าของนังเด็กหนูเล็กหนูลมอะไรนั้นไม่เหมือนคุณหญิงลัลนา”

    “เหมือนแล้วไง ไม่เหมือนแล้วไงไม่เกี่ยวกับพวกแกสักนิด อย่าสาระแนนักนังชะนี”

    “อ้าว พูดอย่างนี้ตบกันไหมนังกระเทยควาย”

    “ตบก็ตบสิยะ  มาเลย” หลังจากท้าทายกันทิวาก็พุ่งเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามทันทีจนเกิดการชุลมุน หลายคนรวมถึงราชนาวีพยายามยุติเหตุชุลมุน จนกลายเป็นว่ากว่าชายหนุ่มจะได้ออกจากร้านก็เลยเวลาพักเที่ยงไปแล้ว

    ชายหนุ่มมุ่งตรงมาที่บริษัทสิรากรในทันทีซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่กลุ่มของทิวากลับมาเช่นกัน

    “อ้าว คุณคนที่ร้าน มาทำอะไรที่นี่ฮะเนี่ย”

    “มาธุระน่ะครับ เอ่อ พวกคุณรู้จักห้องทำงานของคุณรติภัทรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับถามต่อ และเหมือนกับคำถามนั้นจะสร้างความถูกใจให้ทิวาและเพื่อน หนุ่มใจสาวจึงยิ้มร่าและอาสานำไป

    “เจ้ครีมขา มีผู้มาหา” ทิวาบอกหัวหน้าทีมทันทีที่พามาถึงห้อง โดยหารู้ไม่ว่าเจ้ของพวกเขากำลังอยู่ในอาการโมโหหิว

    “ไหนบอกอีก15นาทีไงไอ้บ้ารัก ปาเข้าไปเป็นชั่วโมงเพิ่งจะโผล่หัวมา แกรู้ไหมว่าฉันหิว” คนโมโหหิวโวยวายทันทีเมื่อเห็น “ผู้” ที่ทิวาบอกคือคนที่เธอเฝ้ารออยู่

    “ใจเย็น ๆ มันมีเหตุสุดวิสัยนิดหน่อยแกอย่าเพิ่งโมโหสิ” คนทำให้เพื่อนโมโหหิวอธิบายพร้อมกับเหลือบสายตาไปมองอีกคนที่อยู่ภายในห้องก่อนจะเกิดอาการชะงัก

    ให้ตายเถอะ เขาอ่อนใจกับชุดของแม่เจ้าพระคุณอย่างบอกไม่ถูก ใครมันเอาชุดแบบนี้มาไว้บนตัวแม่ของลูกเขากัน

    “มาล่อเสือล่อตะเข้หรือไงแม่คุณ จัดเต็มขนาดนั้นน่ะ” ปากมันอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงถามไปด้วยความไม่ชอบใจแต่รัมภาภัสร์กลับไม่ได้มีท่าทีสนใจ ไม่พอใจ หรือแม้แต่ได้ยิน

    มีเพียงความเงียบสงบเท่านั้นที่ตอบกลับมา...

    “รุ้ง กินอะไรรองท้องก่อน อีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลา ยังมีเวลา” รติภัทรบอกก่อนจะหยิบกล่องข้าวไปให้น้องสาวคลี่คลายสถานการณ์อึมครึม

    “พี่ครีมฝากใครซื้อมาอะ ไว้ใจได้หรือเปล่า” ทั้งที่รู้ว่าพี่สาวรับมาจากมือของราชนาวีแต่หญิงสาวกลับทำพาซื่อถามอย่างไม่ไว้ใจ

    “โอเค เข้าใจแล้ว” ราชนาวีพึมพำขึ้นก่อนจะเลี่ยงไปนั่งให้พ้นหูพ้นตาแม่ของลูก เอากับคุณเธอสิ คุณเธอทำเป็นไม่เห็น ไม่รับรู้การมาของเขาได้หน้าตาเฉย มันน่าจับฟาดก้นอย่างที่รัชชานนท์ว่านัก

    รติภัทรมองแล้วก็ได้แต่ถอนใจพรืด “โอ๊ย เบื่อสองคนนี้จริง ๆ เลย ว่าแต่หน้าไปโดนอะไรกันมาทิวา ลูกปลา”

    ทิวาแม้จะสงสัยใคร่รู้ว่าราชนาวีเป็นใครแต่ก็ไม่ถาม เมื่อหัวหน้าถามถึงที่มาของรอยช้ำบนหน้าหนุ่มใจสาวและเพื่อนจึงบอกเล่าด้วยใบหน้าคับแค้น

    “อ้อ แกอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเลยเข้าไปห้ามทำให้มาช้าอย่างนั้นใช่ไหมรัก”

    “อือ” เพื่อนหนุ่มตอบกลับแล้วก็ถามไปอย่างสงสัย “คุณหญิงลัลนานี่ใช่แม่ไอ้ปรัชหรือเปล่า บริษัทนี้ของไอ้ปรัชเหรอ?”

    “อือ” เพื่อนอือมารติภัทรก็อือกลับไม่โกงพาเอาลูกทีมอ้าปากค้างในการพูดคุยของสองหนุ่มสาวจนต้องไปกระซิบถามรัมภาภัสร์ว่าราชนาวีเป็นใครและเป็นอะไรกับรติภัทร

    “คนนั้นเป็นใครน่ะเหรอคะ รุ้งไม่รู้นะว่าเขาเป็นอะไรกับพี่ครีม แต่สำหรับรุ้งคนนั้นเป็นอากาศค่ะ” รัมภาภัสร์ตอบเสียงดังฟังชัดก่อนจะไม่สนใจอะไรอีก

    “เจ้ฮะ” ทิวาสุดสงสัยต้องหันไปถามรติภัทรอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ กลัว

    “โอ๊ย ไอ้นั่นน่ะเป็นผัวยัยนั่น  เป็นพ่อหนูเล็ก เป็นเพื่อนฉัน ชัดไหม ปวดหัวกับผัวเมียคู่นี้ไม่พอยังมาปวดหัวกับคนขี้สงสัยอีก” รติภัทรผู้ยังไม่คลายความโมโหหิวบอกแล้วก็กลับไปนั่งทานอาหารที่โต๊ะเงียบ ๆ ไม่พูดไม่จา

    “ไม่ใช่ผัวรุ้งสักหน่อย” หญิงสาวบอกเสียงดัง ส่วนคนได้ยินอย่างราชนาวีกลับเดาะลิ้นกรอกตามองบน เขาอยากจะตีก้นรัมภาภัสร์สักสองสามทีที่กล้าปฏิเสธเสียงแข็งขนาดนั้น ครั้งเดียวไม่นับเป็นสามีก็แล้วไปเถอะ แต่จะไม่นับเขาเป็นสามีคุณเธอไม่ได้ เพราะเขาไม่ใช่สามีคืนเดียวของเธอสักหน่อย!!!

    ชายหนุ่มหันไปมองสบตากับหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง สื่อความหมายว่าท้วงติงที่เธอบอกว่าเขาไม่ใช่สามี เป็นจังหวะที่หญิงสาวมองมาพอดี ตาทั้งสองคู่สบประสาน พาให้คนทั้งคู่หวนคิดกลับไปถึงคืนวันที่ติดอยู่ในความทรงจำย้ำชัดว่ามีสถานะเป็นอะไรกัน



    เมื่อวานบ้านไรท์ลมแรงมากกกก ฝนตกทั้งคืน เลยไม่ได้มาอัป   ช่วงนี้อากาศโหดร้ายดูแลสุพภาพและสวัสดิภาพนะคะ 


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×