ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โคแก่แพ้รัก

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 เมียหรือลูกสาว

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 61


                   

          


    บทที่1

    เมียหรือลูกสาว

     

    มือบางยกสมาร์ทโฟนหรูขึ้นมากดโทรศัพท์หาตัวการใหญ่อย่างโมโหเกือบทั้งวันที่ผ่านมาเธอต้องแกล้งฉีกยิ้มหวานจนเมื่อยปากกว่าที่งานจะจบ และที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเจ้าบ้าชัชรินทร์เพื่อนรักทรยศนั่นเอง     

    "หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่ในภายหลัง" เสียงหวานๆที่ดังแว่วมาจากสมาร์ทโฟนเกือบทำให้เธอปาของในมือทิ้ง  ก่อเรื่องไว้แล้วปิดเครื่องหนีกันแบบนี้ได้ยังไงกัน    

    ตืด ตืดดดด

    เสียงสั่นของสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงทำให้กรรณณาราเอี้ยวตัวไปมองอย่างสงสัยก่อนที่เจ้าของมันจะเดินมารับ    

    "ได้เรื่องมั้ยเมฆ...ไม่เป็นไรหาไปเรื่อย ๆ ไปดูที่ไร่ไพรพนาด้วยนายชัชอาจไปที่นั่น เพิ่มคนอีกก็ได้ฉันอนุญาต  วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ไม่ต้องเครียด"  พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยบอกปลายสายทั้งคู่สนทนากันสักพักก่อนที่ชายหนุ่มจะตัดสายก่อนจะเอ่ยคาดโทษคนก่อเรื่องอย่างโมโหกับความไม่รู้จักโตของหลานชาย กลับมาล่ะน่าดูไอ้เด็กนิสัยเสีย     

    "ไม่ใช่ตรงนี้นะ!"  

    เสียงหวานตวาดขึ้นเมื่อเห็นหนุ่มเกือบใหญ่ทำท่าจะทรุดตัวลงนอนบนเตียง พ่อเลี้ยงชนะชลมองภรรยาหมาดๆก่อนจะเอ่ยขึ้น    "รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่บ้างกรรณณารา อาจะนอนตรงนี้ก็ไม่มีใครห้ามอาได้ "

    "แต่เค้าเป็นเจ้าของห้อง ตัวเป็นแค่คนอาศัย เค้าว่าไม่ก็คือไม่ "  เด็กไม่รู้จักสัมมาคารวะในสายตาพ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ ที่ผ่านมาเธอกับเขาไม่ค่อยจะลงรอยกันในหลายๆเรื่องและตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม      

    "ยัยกระแตป่า อย่าหวงนักเลยน๊ากะอีแค่เตียงเนี่ยเก็บความเอาแต่ใจไว้หวงอย่างอื่นดีกว่า อาเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนอนซะ  พรุ่งนี้เราต้องกลับเชียงใหม่กัน"  พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยบอกก่อนล้มตัวลงนอนเพราะเขาวิ่งวุ่นตั้งแต่เช้าทั้งเรื่องความเรียบร้อยของขบวนขันหมากพานขันหมาก ตามหาหลานชายจนกระทั้งต้องเข้าพิธีแทนพ่อหลานชายตัวดีทำให้เหน็ดเหนื่อยจนไม่อยากต่อปากต่อคำกับเด็กที่ไม่รู้จักโต   ไว้กลับถึงไร่ของเขาเมื่อไหร่รับรองเขาจะเคี่ยวเข็ญจนเป็นผู้ใหญ่ที่มีสัมมาคารวะและเรียบร้อยไม่ซนเป็นลิงเอาแต่ใจแบบนี้แน่     

    "ชิ กลับไปคนเดียวสินี่บ้านเค้า  ใครจะไปกับตัว แบร่" หญิงสาววัยใสเอ่ยก่อนจะแลบลิ้นใส่คนที่นอนหันหลังอยู่ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะหลับไปในเวลาไม่นาน       

    เช้าวันรุ่งขึ้น

    พ่อเลี้ยงชนะชลพยายามนับ1-10ในขณะที่ยืนเท้าสะเอวก้มลงมองคนที่ยืนเท้าสะเอวทำท่าเอาเรื่องตรงหน้า เขากำลังจะเข้าไปอาบน้ำแต่แม่ตัวเล็กที่นอนข้างๆกันมาทั้งคืนก็กำลังจะเข้าไปเช่นกันศึกแย่งชิงห้องน้ำจึงเกิดขึ้น   

    "นี่ห้องเค้า เค้าต้องเข้าก่อน" เด็กเอาแต่ใจเอ่ยขึ้นหลังจากเล่นสงครามจ้องหน้ากันมานานจนเธอเริ่มเมื่อยคอที่ต้องเงยหน้าขึ้นมอง ถ้าผู้ชายตรงหน้าจะสูงน้อยกว่านี้สักนิดหรือเธอจะสูงกว่านี้สักหน่อยก็คงดีทำไมเธอรู้สึกเหมือนยืนคุยกับยักษ์อยู่ล่ะเนี่ย   

    "เธอมาทีหลังอาตื่นก่อน เธอไม่มีสิทธิ์มาทำตัวเอาแต่ใจแบบนี้กระแต" พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยบอกชักเริ่มเข้าใจแล้วว่าคบหาเป็นเพื่อนกับหลานชายเขาได้ยังไง ก็เอาแต่ใจและไม่รู้จักโตด้วยกันทั้งคู่

    "ไม่! ยังไงเค้าก็ต้องได้เข้าก่อน เลดี้เฟิร์ส เข้าใจมั้ย" สาวน้อยที่มักพูดถึงความเท่าเทียมระหว่างเพศเอ่ยออกมาอย่างเอาแต่ใจ   

    "ไหนเคยบอกเท่าเทียมไง อันนี้มันเรียกร้องสิทธิสตรีในโลกแห่งความเท่าเทียมชัดๆ" พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยเยาะ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูแต่ด้วยความตัวเล็กของสาวน้อยทำให้เธอแทรกตัวเข้าไปในห้องน้ำได้ก่อน   

    "เร็วไปสิบชาติลุง แบร่" กรรณาราเอ่ยเยาะเย้ยก่อนจะแลบลิ้นใส่พร้อมถึงคำพูดอันแสนเจ็บปวดไว้ ก่อนปิดประตูอย่างสบายใจเฉิบ    

    "ยัยลูกหมากระเป๋าเอ๋ย ลุงเลยเหรอฝากไว้ก่อนเถอะยัยแคระ "  พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยคาดโทษก่อนจะนั่งรอยัยตัวแสบไปพางสายตาหันมองไปรอบ ๆ ห้อง ห้องของหญิงสาวถูกตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าอ่อน มีรูปถ่ายตั้งแต่เป็นทารกจนถึงรับปริญญาถูกแขวนไว้อย่างสวยงานเกือบทุกรูปจะมีเจ้าหลานชายตัวดีอยู่ในเฟรมตลอด ดวงตาคมจับจ้องรูปถ่ายต่าง ๆอย่างเพลิดเพลินก่อนสาวตาจะเลื่อนไปเห็นถ้วยรางวัลต่าง ๆพร้อมทั้งรูปคู่กับหลานชายเขาเรียงรายอยู่ในตู้โชว์กระจกทั้งสองสนิทกันมากแต่ความสัมพันธ์กลับไม่มีวันพัฒนาแล้วนับประสาอะไรกับเขาที่มาแม่ฮ่องสอนสัปดาห์ละครั้งแถมไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยอย่างเขาล่ะ ชีวิตคู่ที่มารดาและพี่ชายและคนอื่น ๆปรารถนาอยากให้เป็นมันจะเกิดขึ้นได้แน่เหรอ    

    "เฮ้อ! "  พ่อเลี้ยงชนะชลถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจก่อนจะนอนลงเพื่อพักสายตา      

    กรรณณาราที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเปิดประตูห้องน้ำออกมาก่อนจะเหลือบไปเห็นคนร่วมห้องอย่างคิดไม่ตก เธอกับเขาต่างกัน ทั้งความคิด และวัยที่ต่างกันชีวิตครอบครัวมันจะไปรอดจริง ๆ เหรอ เป็นไปได้เธอไม่อยากจะแต่งงานกับใครด้วยซ้ำเพราะคิดเสมอว่าจะแต่งแค่ครั้งเดียวเท่านั้นดังนั้นจะต้องคิดให้ดีก่อนที่จะเลือก

    'คงต้องแล้วแต่ดวงละนะ เฮ้อ!' หญิงสาวคิดในใจก่อนจะเดินออกจากห้องไป

    "อ้าวกระแตลงมาแล้วเหรอ ชลล่ะ"  แม่เลี้ยงกานดาเอ่ยถามบุตรสาวที่เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร แต่ไร้แววบุตรเขยรุ่นน้อง กรรณณาราหน้ามุ้ยเมื่อมารดาถามถึงคนอื่นแทนที่ที่จะชวนเธอกินข้าวเช่นทุก ๆ วัน

    "นอนอยู่มั้งคะ สงสัยรอเข้าห้องน้ำจนเผลอหลับไป"  กรรณณาราเอ่ยบอกอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะตักข้าวต้มกุ้งเข้าปากและเคี้ยวมันอย่างเอร็ดอร่อย พ่อเลี้ยงกรณ์และภรรยามองลูกสาวคนสวยที่ไม่ยอมโตสักทีแล้วลอบถอนหายใจ เมื่อไหร่กระแตน้อยของพวกเขาจะโตสักที

    "แล้วนี่เตรียมตัวพร้อมรึยังลูก"  พ่อเลี้ยงไร่ส้มเอ่ยถามบุตรสาว กรรณณาราหันมองเจ้าของคำถามอย่างงุนงง เตรียมตัวอะไรกัน? 

    "ก็ชลจะกลับเชียงใหม่วันนี้ ลูกก็ต้องไปด้วย" เจ้าชองไร่ส้มเอ่ยอธิบายเมื่อลูกสาวทำหน้างง

    "ไม่ไปค่ะ แตจะอยู่กับพ่อกับแม่  "  หญิงสาวเอ่ยอย่างออดอ้อนก่อนจะลุกขึ้นไปกอดบิดาอย่างออดอ้อน "ให้แตอยู่นี่นะคะ"

    "แต่งงานแล้วก็ต้องอยู่กับสามีจะอยู่กับพ่อแม่ได้ยังไง ฟังนะกระแตหนูโตแล้วและก็มีสามีแล้วต่อไปคนที่จะเป็นที่พึ่งพิงให้หนูคือชลไม่ใช่พ่อแม่อีกแล้ว อย่าดื้อกับพี่เขามากนัก" แม่เลี้ยงกานดาเอ่ยบอกพร้อมใช้มือเรียวที่มีร่องรอยเหี่ยวย่นตามวัยลูบไล้ไปตามผมยาวสลวยของบุตรสาวก่อนจะเอ่ยต่อไป "แม่อยากให้แตแต่งงานแค่ครั้งเดียวมีสามีแค่คนเดียว แม่อยากให้แตประคับประคองชีวิตคู่ไปให้ตลอดรอดฝั่ง "

    กรรณณาราฟังมารดาพูดอย่างไม่โต้แย้งแต่ในใจนึกหวั่น เธอกับชนะชลจะประคับประคองชีวิตคู่ไปได้ยังไงในเมื่อพูดกันยังจะเถียงกันเลย

    "อรุณสวัสดิ์ครับพี่กรณ์ พี่กานต์" เสียงของพ่อเลี้ยงชนะชลทำให้สามคนพ่อแม่ลูกผละออกจากกัน พ่อเลี้ยงหนุ่มไม่พูดอะไรแค่มองก่อนจะนั่งลงข้างๆกรรณณาราเขาลงมาตั้งแต่ที่แม่เลี้ยงกานดาเอ่ยกับหญิงสาวแล้วแต่ไม่อยากขัดจังหวะครอบครัวจึงหยุดอยู่จนบทสนทนาเงียบลงจึงส่งเสียงขึ้น

    "ทานข้าวต้มก่อนสิชล แล้วนี่จะกลับไร่ตอนไหนล่ะ ให้ยัยแตเตรียมตัวอีกสักวันดีมั้ย"  พ่อเลี้ยงกรณ์เอ่ยถามลูกเขยหมาดๆ พ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่ยิ้มขอบคุณแม่บ้านที่ยกชามข้าวต้มมาให้ก่อนจะเอ่ยตอบ "ทานข้าวเสร็จก็จะกลับเลยครับ ส่วนกระแตไปแต่ตัวก็ได้ครับแล้วค่อยให้ส่งข้าวของไปทีหลังเรื่องเสื้อผ้าผมว่าคงต้องเปลี่ยน แต่งตัวอย่างกับเด็กม.ปลายแบบนี้ล่อตาล่อใจพวกคนงานกลัดมันเสียเปล่าๆ "

    "นี่อาชล เค้าไม่ใช่เด็กแล้วนะแล้วแต่งตัวแบบเนี่ยก็สมวัยด้วยอย่าทำตัวเป็นคนแก่หัวโบราณนัก เหมือนเด็กม.ปลายตรงไหน ชิ"  กรรณณาราเอ่ยอย่างหมั่นไส้คนแก่หัวโบราณเธอไม่ได้แต่งตัวเหมือนเด็กซะหน่อยแค่หน้าเด็กเท่านั้น คนถูกหาว่าแก่ถึงกับสะอึก ให้ตายเถอะไม่เคยถูกหาว่าแก่เลยสักครั้งสาวๆที่มาชอบเขายังคิดว่าเขาเพิ่ง27-28เลย ยัยกระแตป่านี่ยังไงชอบหาว่าแก่อยู่เรื่อย เจ็บจี๊ดที่หัวใจเลยแฮะ

    "กรรณณาราพ่อแม่สอนแล้วไม่จำรึไงถึงได้ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่แบบนี้ระวังจะถูกดัดนิสัย แบบไอ้ชัชยังน้อยไปอย่างเธออาว่าต้องโดนหนักกว่านั้น"  พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยบอกเขาเลือกใช้สั่งสอนแล้วไม่จำเพราะทราบดีว่าพ่อแม่ของหญิงสาวสั่งสอนเสมอแต่เธอไม่ค่อยจะฟังเสียมากกว่าก่อนที่จะขู่ขวัญหญิงสาวด้วยบทลงโทษที่หนักกว่าที่ชัชรินทร์เคยเจอ ด้านคนฟังถึงกับฉุนกึกเจ็บจี๊ดที่ถูกว่าถูกสั่งสอนแล้วไม่จำแต่ก็เกรงกลัวบทลงโทษที่ว่าอยู่บ้างเพราะเพื่อนทรยศมักจะมาเล่าให้ฟังบ่อย ๆ

    "ชิ กลัวตายแหละ" กรรณณาราแกล้งเอ่ยทั้งที่ใจหวาดหวั่น 

    "เอาเถอะๆ ตกลงว่าของอื่น ๆแม่จะให้คนส่งไปให้แล้วกัน กลับพร้อมพี่เขาก่อน พี่เขามีงานต้องทำอย่าเรื่องมากนะกระแตน้อยของแม่" แม่เลี้ยงกานดาเอ่ยบอกห้ามศึกที่ใกล้จะเกิดขึ้นทำไมถึงได้ทะเลาะกันนักนะสองคนนี้แต่ก็ดีโบราณว่าทะเลาะกันมาก ๆจะมีลูกดก 

    "เข้าใจตามนั้นนะกระแตน้อย" หนุ่มใหญ่เอ่ยด้วยเสียงล้อเลียนคำว่ากระแตน้อยซึ่งเขารู้มาว่ากรรณณาราไม่ชอบให้ใครเรียกนอกจากมารดาด้วยเหตุผลที่ว่าเธอโตแล้วไม่ใช่เด็กน้อย

    "อย่ามาเรียกเขาแบบนั้นนะ" กระแตน้อยค้อนใส่ก่อนที่จะงุดหน้าลงทานข้าวเช้าเงียบ ๆ ในใจนั้นมีแต่คำบริภาษที่ส่งไปให้คนบังอาจมาเรียกชื่อต้องห้ามของเธอถูกพ้นออกมา ถ้าไม่ติดว่าพ่อกับแม่อยู่ตรงนี้เธอจะว่าคืนให้หน้าหงายเลยที่บังอาจมาเรียกชื่อนั้นของเธอ

    " พี่ฝากยัยแตด้วยนะ มาคราวหน้าพาหลานมาฝากพี่สักคนจะดีมาก"  พ่อเลี้ยงเจ้าของไร่ส้มเอ่ยบอกเมื่อเดินออกมาส่งลูกสาวและลูกเขยที่รถในเวลาครึ่งชั่วโมงต่อจากนั้น แม่เลี้ยงกานดาและกรรณณาราเดินนำไปถึงรถแล้วส่วนตนเดินคุยกับพ่อเลี้ยงชนะชลในเชิงฝากฝังแถมประโยคหลังนั้นเขาหวังอย่างนั้นจริง ๆ

    "กระแตยังเด็กเกินไปพี่กรณ์" พ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่แต่หน้าตายังคงหล่อเหลาและเด้กกว่าอายุจริงเอ่ยบอก การแต่งงานหรือการเป็นแม่ยังเร็วไปสำหรับเด็กสาวที่อายุเพิ่งจะ20ไม่ถึงสามเดือนอย่างกรรณณารา ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยัดเยียดความเป็นเมียและเป็นแม่ให้เด็กแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่มีความแสบเอามาก ๆ อย่างกรรณณารา

    "ยัยแตอาจมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ และผู้หญิงทุกคนมีสัญชาติญาณในการเป็นแม่ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็ตาม ปีนี้40แล้วนะชลระวังนะรอให้เด็กโตตัวเองจะตายก่อนเห็นหน้าหลาน" พ่อเลี้ยงกรณ์เอ่ยบอกก่อนพ่อเลี้ยงชนะชลจะยิ้มขำออกมาก่อนทั้งสองจะเดินไปที่รถ

    "อาชลแวะซื้อกาแฟเย็นก่อนได้มั้ย" กรรณณาราเอ่ยขอเมื่อทั้งสองเดินทางมาใกล้ร้านกาแฟร้านโปรดของหญิงสาว พ่อเลี้ยงหนุ่มได้แต่ถอนใจพรืดก่อนจะจอดในจุดจอดรถ

    "ลงไปดื่มด้วยกันมั้ย" หญิงสาววัยใสเอ่ยชวนและเขาก็ไม่ปฏิเสธคำชวนไม่ เขากับเธอก็แบบนี้แหละบางครั้งก็ทะเลาะกันแต่บางครั้งก็ยังมีน้ำใจให้กัน

    "อ้าวพ่อเลี้ยงพาลูกสาวมาทานขนมเหรอครับ" เสียงสินชัยสามีเจ้าของร้านเอ่ยทักพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่ผู้พ่วงตำแหน่งเพื่อนอย่างหยอกเย้า แต่กลับทำให้คุณถูกว่าพาลูกสาวมากินขนมถึงกับจุกนี่เขาดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ

    "อยากโดนตีนผมมั้ย ไอ้คุณสิน คาปูชิโน่แก้ว เธอจะเอาอะไรกระแต" พ่อเลี้ยงยังหนุ่มเอ่ยก่อนจะหันมาถามภรรยาสาวทางนิตินัยที่อย่าหวังเลยว่าจะเป็นภรรยาทางพฤตินัยของเขา

    "เอาเค้กส้มกับเอสเปรสโซ่ค่ะคุณพ่อออออ" กรรณณาราเอ่ยบอกลากเสียงยาวเน้นคำว่าพ่อเสียงดังฟังชัดก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะที่ยังว่างอยู่

    "พ่อเหรอยัยกระแตป่า เดี๋ยวจะได้พ่อแน่แต่เป็นพ่อของลูก ฮึย" พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยก่อนจะเดินตามไปทิ้งให้สินชัยยืนหัวเราะกับอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงของเพื่อน มีแต่กรรณณารานี่ล่ะที่ทำให้เจ้าคนนี้เป็นแบบนี้ได้หลังจากที่เยือกเย็นมาหลายปี

    "อุ๊ยตาย พ่อเลี้ยงชลพาลูกมาทานกาแฟหรือค่ะ ไม่ยักรู้มาก่อนว่าพ่อเลี้ยงชลมีลูกสาวแล้ว สวยจริง ๆม.ไหนแล้วลูก" เสียงดัดให้เล็กและหวานดังขึ้นพร้อมกับร่างของพิชชี่พี่เลี้ยงนางงามหนุ่มหัวใจสาวเอ่ยทักพ่อเลี้ยงคนดังของเชียงใหม่ที่เด็ก ๆในสังกัดของเธอมักเอาตัวเข้าไปใกล้เพื่อสานสัมพันธ์แต่ก็ไม่เคยมีคนไหนได้เป็นตัวจริงแถมอายุต่ำกว่า30ยิ่งไม่ต้องหวังเมื่อชายหนุ่มบอกชัดเจนว่าไม่ควงเด็ก  ด้านกรรณณาราที่ถูกหาว่าเป็นเด็กมัธยมถึงกับทำหน้าหงอ เธอพอจะรู้จักพิชชี่อยู่บ้างและทราบดีว่าหนุ่มหัวใจสาวคนนี้คอยเสนอเด็ก ๆให้คนข้างๆจากการบอกเล่าของชัชรินทร์

    "ไม่ใช่ลูกค่ะ แต่เป็นเมียแล้วฉันก็20แล้วไม่ใช่เด็กม.ปลาย แล้วต่อไปไม่ต้องเอาเด็ก ๆมาเสนอพ่อเลี้ยงแล้วนะคะไม่งั้นหน้าเละส่งเข้าประกวดไม่ได้นะ ชัดนะลุง"  กรรณณาราเอ่ยกระแทกเสียงก่อนจะทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำแสนเจ็บแสบ

    "เมีย นี่พ่อเลี้ยงไปมีเมียตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะเนี่ยไหนบอกไม่ชอบเด็กไงแล้งไง๊ล่อเด็ก20ได้ละคะ"  พิชชี่เอ่ยโวยวาย ไอ้เรานำเสนอเด็กเออะๆให้ไม่สนปากบอกไม่กินเด็กแล้วทำไมมาทำตัวเป็นโคแก่เคี้ยวหญ้าอ่อนซะงั้น

    "เมื่อวานนี้ครับ ผมขอตัวก่อนแล้วกัน ไปกินบนรถกระแต" พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยบอกก่อนจะลากภรรยาสาวที่ทำหน้าบึ้งตึงด้วยความโมโหที่ถูกเรียกเป็นเด็กไปเอาของที่ส่ง พ่อเลี้ยงหนุ่มจ่ายเงินก่อนจะลากหญิงสาวออกไปจากร้าน

    "ยัยกระเทยแม่เล้าเอ๋ย ถามมาได้ไงว่าม.ไหน " สาวหน้าหงอเอ่ยเมื่อขึ้นมานั่งบนรถ พ่อเลี้ยงชนะชลได้แต่ยิ้มขำ

    "เพราะอย่างนี้ไงอาถึงบอกว่าต้องเปลี่ยนการแต่งตัวใหม่  เราอาจจะคิดว่าสมวัยแต่หน้าเรามันทำให้ดูเหมือนเด็กม.ปลาย หรือเผลอๆคนอาจมองเป็นเด็กม.ต้นด้วยยิ่งเตี้ยๆอยู่ด้วย" พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยบอกในเชิงซ้ำเติม 

    "ยังมาซ้ำเติมกันอีก ก่อนถึงไร่แวะห้างด้วย"  หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนจะหันมาจัดการเค้กส้มตรงหน้าอย่างโมโห พ่อเลี้ยงยังหนุ่มหันมองอย่างเอ็นดูก่อนจะสตาร์ตเครื่องรถเพื่อเดินทางต่อ

    "เด็กไป  ไปลองใหม่" เสียงพ่อเลี้ยงชนะชลดังขึ้นหลังจากกรรณาราออกมาจากห้องลองชุดในห้างสรรพสินค้าดัง กรรณณาราหยุดยืนเท้าสะเอวอย่างสุดทน นี่เป็นรอบที่9แล้วที่ชายหนุ่มเอ่ยแบบนี้ 

    เด็กไป ไม่ผ่าน แก่เกิน  เด็ก เด็ก และเด็ก เธอล่ะอยากจะบีบคอคนเรื่องมากแต่ยังพอรู้กาลเทศะ กรรณณาราเดินกลับเข้าไปในห้องลองชุดด้วยใบหน้าหงิกงอก่อนจะออกมาในชุดเดรสคุมเข่าสีฟ้าทำให้ดูเหมือนสาววัย25-26อยู่มาก

    "โอเคผ่าน เอาชุดประมาณนี้อีกสัก4ชุดแล้วก็ชุดที่ลอง5ชุดแรกด้วยนะครับคุณรัมภา" พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยบอกพนักงานขายที่รู้จักกัน

     "นี่ค่ะพ่อเลี้ยง ไม่รู้มาก่อนเลยนะคะว่าพ่อเลี้ยงมีลูกสาวโตขนาดนี้แล้ว จบม.ต้นรึยังจ๊ะเนี่ย" รัมภาพรรณเอ่ยขึ้นหลังจากจัดการชุดต่าง ๆให้พ่อเลี้ยงหนุ่มเสร็จ ด้านกรรณณาราได้แต่ฉุน ลูกสาวอีกแล้ว ทำไมใคร ๆ ชอบพูดแบบนี้จริง

    "ขอโทษค่ะภรรยาไม่ใช่ลูก และก็ไม่ใช่เด็กด้วย20แล้ว อย่าทึกทักไปเองสิป้า"  หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนจะเดินออกไปจากร้านอย่างหงุดหงิดไม่ผิดกับคนจ่ายเงินที่เริ่มจะสูญเสียความมั่นใจในตัวเองตลอดทั้งวันมีคนเข้าใจว่าเขากับเธอเป็นพ่อลูกกันหลายคนแล้ว นี่แค่วันแรกนะชักอยากจะย้อนเวลากลับไปเมื่อคืนก่อนแล้วเปลี่ยนใจนอนเฝ้าไอ้หลานไม่รู้จักโตไว้ไม่ให้มันหนีไปเขาจะได้ไม่ต้องเป็นแบบนี้ พ่อเลี้ยงยังหนุ่มคิดในใจก่อนจะเดินตามไปไม่สนใจพนักงานสาวที่ยังอึ้งกับคำพูดของหญิงสาว 

    เมียเด็กพ่อเลี้ยงเนี่ยปากร้ายจริง ถ้าพวกสาวๆรู้หล่อนแย่แน่ยัยหนูเอ๋ย พนักงานสาวได้แต่บ่นพึมพำก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาและโพสต์รูปหญิงสาวที่ทีแรกกะจะโพสต์ถึงลูกสาวพ่อเลี้ยงคนดังแต่คราวนี้กลับเป็นภรรยาเด็กรับรองว่าเรื่องถึงหูสาวๆที่ติดพันพ่อเลี้ยงคนดังเมื่อไหร่คนที่เรียกเธอว่าป้าซวยแน่ ๆก็แต่ละคนแรงๆทั้งนั้นเด็กหัดเดินหรือจะสู้คนที่ผ่านโลกมามากอย่างสาวๆพวกนั้น " โดนดีแน่ยัยเด็กปากมอม หึหึหึ"



    กระแตน้อยไม่ธรรมดาบอกเลย555+





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×